พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+
9.8
เขียนโดย sebbynoi
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.
31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
11 วิจารณ์
57.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) ตอนที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่เซบาสเตียนอีกกี่วันดอกไม้จะผลิดอกอ่ะ"ชิเอลหันมาถามตอนนี้เขารดน้ำเสร็จแล้วและกำลังจะชักชวนกันไปลอนนดอน
"อืม ไม่น่าจะเกินอาทิตย์หน้าล่ะมั้งครับ"เซบาสเตียนลองคาดคะเนดู
"จริงๆเหรอ นานจังเลยเนอะกว่าดอกไม้จะบาน"ชิเอลพูดอย่างใจร้อนเขาอยากเห็นดอกไม้พวกนี้บานเร็วๆจังเลย มันคงจะสวยน่าดู
"ครับ ผมว่ากว่าดอกไม้จะบานพวกเราก็ยุ่งกันเรื่องการแข่งขันจนลืมวันไปเลยล่ะ นายน้อยพร้อมจะออกเดินทางหรือยังขอรับ"เซบาสเตียนพูดปลอบใจ แล้วชักชวนให้ออกเดินทางไปลอนดอนกันได้แล้วเดี่ยวจะเย็นจะค่ำไปซะก่อน เขาไม่อยากเจอพวกแวมไพร์มารังควาญอีกหรอก
"อืม ไปสิ "ชิเอลหันมาตอบรับแล้วดันตัวลุกขึ้นยืน เดินมาสมทบกับเซบาสเตียน โผเข้าหาให้พ่อบ้านหนุ่มอุ้มอย่างว่าง่าย
"จะบินไปหรือนั่งเรือไปขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนถามพรางรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มในอ้อนแขนเตรียมออกเดินทาง
"บินไปก็ได้ ฉันอาการดีขึ้นแล้ว แล้วถ้าเรากลับดึกให้ไปค้างที่บ้านพักตากอากาศก่อน ฉันไม่อยากเสี่ยงเจอแวมไพร์อีก"ชิเอลตัดสินใจที่จะให้เวบาสเตียนพาบินขึ้นฟ้าไป
"ได้ขอรับ "เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆแล้วจากนั้นเขาก็หลับตาลงกางปีกสีดำขึ้นมา เตรียมพาบินขึ้นฟ้าตรงไปยังใจกลางเมืองซาตานเพื่อข้ามหุบเขาออกไปจากเกาะปีศาจ เดินทางไปยังลอนดอน
แล้วจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ออกเดินทางโดยทางอากาศ เซบาเตียนพาทยานขึ้นไปบินฟ้าอย่างรวดเร็ว ชิเอลเอาแขนมาโอบกอดคอพ่อบ้านของเขาเอาไว้ให้มั่นคง เอียงหน้ามาซุกซบที่อกของชายหนุ่มหลับตาลงเพื่อผักผ่อนอย่างสบายตลอดการเดินทางสักหน่อย
"ง่วงนอนหรือขอรับ"เซบาสเตียนก้มลงมาถามผู้เป็นนาย
"อืม รู้สึกยังเพลียๆอยู่ แต่ยังไงก็ยังไหว ดาร์กชิลคงทำงานหนักมากแน่ๆช่วงนี้ ฉันจะนอนพักสักหน่อยถึงแล้วอย่าลืมปลุกล่ะเซบาสเตียน"ชิเอลพูดเสียงงัวเงียพรางค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย แล้วไม่นานก็ผลอยหลับไป
"หึ ขนาดป่วยอยู่แท้ๆยังรบจะกลับไปดูที่แฟนท่อมไฮด์อีก ก็ดี เผื่อผ่านร้านทำศพจะได้ไปขอยาจากสัปเหร่อเพิ่มซะเลย ระหว่างที่นายน้อยหลับเรียกดาร์กชิลออกมาดีกว่า"เซบาสเตียนพึมพำเบาและยิ้มอย่างขบขันเอ้นดูเด็กหนุ่มที่เขากำลงอุ้มอยู่ ขนาดป่วยยังอยากจะเดินทางไปลอนดอนอีกไม่เจียมสังขาลซะบ้างเล้ย
และจากนั้นเซบาสเตียนเรียกดาร์กชิลออกมาด้วยภาษาปีศาจ
"ดาร์กชิล ออกมาหาป๋าหน่อย"เซบาสเตียนเรียกเสียงแผ่วข้างๆหูชิเอล
แล้วฉับพลันนั้นชิเอลที่กำลังหลับซบอกของเซบาสเตียนก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"ดาร์กชิลเหรอ"เซบาสเตียนถามก่อนเพื่อความแน่ใจ
"ขอรับ ป๊ะป๋า"ดาร์กชิลตอบรับยิ้มๆ
"นายน้อยกำลังทำไรอยู่"เซบาสเตียนถามไปพรางพาบินข้ามทุ่งกว้างไปพรางจนเกือบจะเข้าสู่เขตเมืองซาตานแล้วอีกไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นเอง
"นอนขอรับ"ดาร์กชิลตอบ
"อ้อ งั้นปล่อยให้นอนไปเหอะ เรามาคุยกันต่อดีกกว่า"เซบาสเตียนบอก
"ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับ
"วันที่เจ้ากับนายน้อยจะต้องลงแข่งคืออีกสามวันโลกปีศาจ ถ้าเทียบกับโลกมนุษย์น่าจะอีกหลายเดือนทีเดียว เจ้าคิดว่า เวลาแค่นี้จะสามารถพัฒนาพลังของเจ้าได้ทันหรือเปล่าดาร์กชิล"เซบาสเตียนเกิ่นนำพูดถึงการแข่งขันขึ้นมา
"ข้าไม่ค่อยแน่ใจนักเพราะพลังของข้าจะพัฒนาก็ต่อเมื่อร่างกายของชิเอลแข็งแรงขึ้น มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของเด็กคนนั้นด้วยขอรับ ข้าไม่อาจตอบได้ว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า แต่ข้าก็จะพยายามทำให้เต็มที่ขอรับ"ดาร์กชิลในร่างชิเอลพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
"ดีมาก ส่วนเรื่องการฝึกไม่ต้องห่วงนะ ป๋าจะเริ่มฝึกให้นายน้อยพรุ่งนี้แล้วล่ะ ส่วนเจ้าก็พยายามปกปักรักษาร่างให้เด็กคนนี้พอเดินไหวหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้ก็พอ ยังพอมีเวลาอยู่ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า"เซบาสเตียนให้คำยืนยันว่าจะต้องฝึกชิเอลให้แข็งแกร่งขึ้นมาให้ได้
"ขอรับ ข้าจะพยายามถึงแม้ชิเอลแทบจะลุกจากเตียงไม่ไหวก็ตาม ข้าก็จะเข็นเขาขึ้นมาให้ได้ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับอย่างมุ่งมั่น
"อืม ขอบใจมากนะดาร์กชิล "เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเอามือลูบผมเด็กหนุ่มตาแดงเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ไม่เป็นไรมิได้ขอรับ "ดาร์กชิลพูดยิ้มๆอย่างสุภาพ
"จริงสิ เราต้องไปลงทะเบียนผู้เข้าแข่งขันกันที่โรงแรมเดม่อนวิลล่าก่อน"เซบาสเตียนพึ่งนึกขึ้นได้ ว่าจะต้องพาเด็กที่จะลงแข่งไปลงทะเบียนกรอกใบสมัครก่อนตรงสถานที่จัดงาน ซึ่งทุกๆปีต้องไปลงทพเบียนการแข่งที่สำนักงานใหญ่แห่งสมาพันธ์ปีศาจที่โรงแรมเดม่อนวิลล่า ซึ่งอยู่แถวๆใจกลางเมือซาตาน
"ขอรับ จะให้ปลุกชิเอลมัยขอรับ"ดาร์กชิลถามเสียงเรียบ
"ไม่ต้อง การแข่งครั้งนี้ขอใช้ชื่อของเจ้าแทนแล้วกัน เพราะป๋าไม่อยากให้ใครรู้ชื่อของนายน้อย เพราะยิ่งมีคนรู้จักเด็กคนนั้นก็จะยิ่งมีอันตราย"เซบาสเตียนตอบ เขายังกังวลเรื่องปีศาจที่เป็นตัวการใหญ่ของคดีลักพาตัวเด็ก เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าซีโร่เป็นปีศาจและยิ่งตอนนี้พวกลูกน้องของมันถูกปล่อยออกมาแล้ว พวกมันจะต้องบอกเจ้านายใหญ่ของมันแน่ๆว่าถูกจับเพราะใคร และเด็กคนนั้นก็อาจจะถูกเพ่งเล็งก็ได้
"เรื่องของปีศาจที่จับตัวชิเอลไปงั้นหรือขอรับ ที่ทำให้ท่านกังวลใจ"ดาร์กชิลถามเพื่อความแน่ใจ เขาเป็นเด็กฉลาด เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชิเอล เขามองเห็นอดีตและอนาคตของเด็กคนนั้น แต่เขาไม่อยากเปิดเผยความลับของชะตากรรมให้ใครรู้มากนัก
"ใช่แล้ว เพราะตอนนี้พวกลูกน้องที่ป๋าจับมันเข้าคุกถูกช่วยออกมาหมด หากพวกมันส่งข่าวมาบอกตัวหัวหน้า นายน้อยอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้นะ"เซบาสเตียนพยักหน้า พรางหันมามองดาร์กชิลอย่างชื่นชมในความรวบรู้ทันเหตุการณ์ สมกับเป็นปีศาจน้อยของเขาจริงๆ
"ถ้าอย่างงั้นการแข่งขันในครั้งนี้ พวกข้าจะต้องอำพรางตัวงั้นสินะขอรับ"ดาร์กชิลเสนอความเห็นขึ้นมา
"ใช่แล้วล่ะ ดังนั้นเวลาแข่งอย่าให้ใครเห็นหน้าพวกเจ้าเป็นอันขาด เพราะป๋าเชื่อว่า ต้องมีซีโร่อยู่ในงานการแข่งขันแน่ๆ ดังนั้นพวกเจ้าต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี "เซบาสเตียนเตือนอย่างห่วงใย
"ขอรับ ข้าจะคอยเตือนให้ชิเอลคอยระมัดระวังตัวขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับยิ้มๆ
"ดีมากดาร์กชิล เอาหล่ะ เดี่ยวผ่านทุ่งนี่ไปไม่กี่กิโลเราก็จะถึงเมืองซาตานแล้วล่ะ จับให้แน่นๆนะจะเร่งความเร็วแล้ว"เซบาสเตียนบอกก่อนจะทำการเร่งสปีทความเร็วในการบิน เพื่อไปให้ถึงเมืองซาตานอย่างรวดเร็ว
และเพียงไม่นานในที่สุดเซบาสเตียนก็พาดาร์กชิลในร่างชิเอลมาถึงที่หมาย นั่นคือหน้าประตูทางเข้าโรงแรมเดม่อนวิลล่า ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ระดับห้าดาวที่มีแต่พวกมีอันจะกินมาเช่าห้องพักหรือจัดให้เป็นสถานที่การประลองดาบ
เซบาสเตียนปล่อยตัวดาร์กชิลลงแล้วคว้าแขนมาจูงมือพาเดินเข้าไปในโรงแรม เข้าไปยังห้องแกรนบอลลูน ซึ่งด้านหน้ามีโต๊ะยาวสีขาว และมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่สองสามคน เพื่อต้อนรับสำหรับการลงทะเบียนขอเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งหลายปีทีแล้วพวกเขาจัดงานกันที่โลกปีศาจ พึ่งมีไม่นานมานี้ที่เริ่มมาจัดงานกันที่โลกมนุษย์
พอเจ้าหน้าที่เห็นชายหนุ่มเดินจูงมือเด็กหนุ่มวัยรุ่นเข้ามา จึงมาต้อนรับทันที
"พาลูกมาสมัครลงแข่งการประลองดาบใช่มัยขอรับ เชิญทางนี้เลยขอรับ"เจ้าหน้าที่ต้อนรับพูดอย่างสุภาพ พรางผายมือเชื้อเชิญให้เซบาสเตียนกับดาร์กชิลในร่างชิเอล เดินตรงไปยังจุดสำหรับลงทะเบียนสมัครเข้าแข่งขัน
เซบาสเตียนกับดาร์กชิลเดินตรงมายังโต๊ะยาวที่มีเจ้าหน้าที่อีกคนเป็นปีศาจหญิงสาวผมสีดำกำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
"มาลงทะเบียนใช่มัยคะ เชิญลงชื่อตรงนี้เลยค่า ไม่ทราบว่าเด็กอายุเท่าไหร่คะ"เจ้าหน้าที่สาวผมดำถามอย่างสุภาพให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
"สิบสามย่างสิบสี่ครับ"เซบาสเตียนตอบ
"มาเขียนชื่อตรงนี้เลยจ้าหนูจ๋า"เจ้าหน้าที่สาวผมดำพุดพรางยื่นส่งปากกาขนนกจุ่มหมึกเรียบร้อยแล้ว ส่งให้เด็กหนุ่มตาสีแดงถือไว้แล้วชี้นิ้วมาวางบนกระดาษตรงตำแหน่งที่ให้เด็กเซ็นชื่อ ตรงภาษารูนที่เขียนไว้ว่า ชื่อ-สกุล
ดาร์กชิลหันมามองเซบาสเตียนเพื่อถามทางสายตาว่าจะให้เขียนนามสกุลว่าอะไร
"ดาร์กชิล แฟนท่อม"เซบาสเตียนก้มลงมากระซิบข้างๆหูเด็กหนุ่มตาสีแดงบอกนามสกุลปลอมไป
ดาร์กชิลพยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อตนเองและนามสกุลสมมุติลงไปตามที่เซบาสเตียนบอก
"เรียบร้อยแล้วค่า นี่จ้าใบสมัคร หนูอย่าลืมกรอกมาให้เรียบร้อยแล้ว วันแข่งให้เอาใบสมัครของหนูไปยื่นให้กับคณะกรรมการท่านใดท่านหนึ่งนะคะ"เจ้าหน้าที่สาวผมดำบอกยิ้มๆพร้อมกับยื่นใบสมัครมาให้เด้กหนุ่มเอากลับไปกรอกเองที่บ้านวันแข่งเอามายื่นให้คณะกรรมการด้วยตัวเอง
"ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับพรางยื่นมือมารับกระดาษใบสมัครแล้วเอามาอ่านๆดูว่าจะต้องกรอกอะไรลงไปบ้าง และแน่นอนแม้แต่ใบสมัครยังเป็นภาษาปีศาจเลย
นับว่าเซบาสเตียนคิดไม่ผิดจริงๆที่ให้ดาร์กชิลมาสมัครแทนชิเอลเพราะว่าเด็กคนนั้นอ่านภาษารูนไม่ออก เขียนไม่ได้ ถ้าให้มาสมัครเองคงงงเป็นไก่ตาแตกแน่ๆ
"เอาหล่ะไว้ค่อยกลับไปเขียนที่บ้านแล้วกัน เดี่ยวเราต้องไปธุระต่อ ไปกันเถอะ"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบพรางคว้าแขนดาร์กชิลมาจูงพาเดินออกไปจากโรงแรม โดยให้เด็กหนุ่มถือใบสมัครเอาไว้ก่อน
พวกเจ้าหน้าที่ก็มองดูสองพ่อลูกพากันเดินออกไปอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าพวกนั้นมาจากไหนกันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย
และพอเซบาสเตียนพาดาร์กชิลในร่างชิเอลออกมาจากโรงแรมเดม่อนวิลล่าแล้ว ชายหนุ่มก็คว้าตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มช้อนก้นพาเดินตรงไปยังหน้าวุ้มประตู ซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนการแจกใบปลิวเปลี่ยนไปแจกที่อื่นกันแล้ว เพราะผู้คนที่เคยมายืนออกันแถวๆบริเวณหน้าซุ้มต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านหรือไม่ก็ไปซื้อของหรือไปธุระตามอัธยาศัยกันหมด ไม่มีใครอยุ่แถวๆนั้นสักเท่าไหร่ รวมถึงพวกของอัลลอยที่ได้รับราชองค์การจากองค์ราชาแห่งโลกปีศาจให้มาแจกจ่ายตอนนี้ย้ายไปแจกที่อื่นกันแล้วตามแถวๆนอกเมืองเขตชนบท รอบๆเกาะปีศาจ น่าเสียดายหากขายังคงมายืนแจกอยู่ที่หน้าซุ้มก็อาจจะเจอเด็กที่เขาเฝ้าตามหามานานก็เป็นได้ น่าเสียดายจริงๆ
ดาร์กชิลเริ่มอ่อนแรงเพราะเขาพยายามฝืนเดินและใช้พลังในการเยียวยารักษาร่างของชิเอลมามากแล้ว จึงทำให้ตอนนี้เขาเพลียสุดๆเลย
"เหนื่อยเหรอดาร์กชิล สีหน้าของเจ้าไม่สู้ดีเลย"เซบาสเตียนถามอย่างแปลกใจที่เห็นสีหน้าซีดๆมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า พรางหายใจหอบๆ
"แฮ่กๆ เหนื่อยนิดหน่อยขอรับ ข้าคงฝืนใช้พลังมากเกินไป การรักษาร่างที่อ่อนแอสุดๆแบบนี้ของชิเอล ทำข้าเหนื่อยมากเลยขอรับ แฮ่กๆ"ดาร์กชิลพูดอย่างเหนื่อยล้าหายใจหอบๆพรางมุดหน้าลงกับอกของเซบาสเตียน มือที่ถือใบสมัครแทบจะไม่มีแรงจะถือแล้ว
เซบาสเตียนจึงคว้าใบสมัครมาถือเอาไว้เสียเอง พรางจับตัวดาร์กชิลในร่างชิเอลให้อยู่ในท่าอุ้มพาดบ่า เอามือลูบหลัง ลูบหัวเบาๆ ส่วนใบสมัครก็เอามาพับเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแสล็กสีดำ
"ถ้าเพลียก็หลับไปก่อน ทั้งเจ้าและนายน้อยหลับไปทั้งคู่เลยแล้วกัน กลับเข้าไปนอนในจิตของนายน้อยได้แล้วล่ะดาร์กชิล เดี่ยวไว้ถึงที่หมายแล้วป๋าจะปลุกเด็กคนนี้เอง ตอนนี้ยังไม่ต้องรักษาร่างก็ได้กลับไปนอนพักผ่อนซะ เจ้าฝืนกำลังตนเองมามากแล้ว"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบอย่างสงสารเห็นใจ เอามือลูบหัวเด็กหนุ่มเบาๆ
"ขอรับ..ป๊ะป๋า"ดาร์กชิลตอบรับก่อนจะหลับตาลงแล้วไม่นานเขาก็กลับเข้าไปนอนพักผ่อนที่ก้นบึ้งของหัวใจของชิเอล จนตอนนี้จิตของชิเอลและดาร์กชิลกำลังนอนหลับอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เพราะหลังจากที่ดาร์กชิลหลับไป เซบาสเตียนก็เอามือแตะหน้าผากสะกดให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นหลับไหลไปทันที
"หลับไปก่อนนะนายน้อย ดาร์กชิล ไว้ถึงที่หมายจะคลายมนต์สะกดให้นะ"เซบาสเตียนพึมพำเบาๆพรางถอนนิ้วออกจากหน้าผากของชิเอล
แล้วจากนั้นพอสะกดร่างของชิเอลให้หลับไปแล้วเซบาสเตียนก็จับตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มให้กระชับแล้วพากันออกไปจากซุ้มประตูสีแดง พรางกางปีกสีดำขึ้นเตรียมพาบินข้ามหุบเขาสูงเสียดฟ้าด้วยความเร็วพอสมควรไม่เร็วมากเพราะมีเด็กที่กำลังป่วยอยู่บนบ่า
และในะหว่างนั้นทางด้านชิเอลในตอนนี้กำลังนอนหลับอุตุอยู่ในก้นบึ้นของหัวใจตนเอง และมีร่างเด็กหนุ่มฝาแฝดอีกคนตาสีแดงเดินมาสมทบอยู่ใกล้ๆเด็กหนุ่มที่กำลังนอนตะแคงคว่ำหลับอยู่อย่างอ่อนเพลีย
"ขอนอนด้วยคนนะชิเอล "แล้วเด็กหนุ่มฝาแฝดตาสีแดงก็ค่อยๆทรุดตัวลงนอนหลับอยู่ที่พื้นที่ดำมืดนั้นไปอีกคนด้วยความเหนื่อยอ่อน จากการใช้พลังปีศาจเกินกำลังของตนเอง ยิ่งตอนนี้พละกำลังของเขาถดถอยลงไปมากทีเดียวเพราะเจ้าของร่างที่เขามาอาศัยอยู่นี้กำลังอ่อนแอลงมาก จนเขาแทบจะเยียวยาไม่ไหวแล้ว
ส่วนทางด้านเซบาสเตียนตอนนี้เดินทางมาลงมาจากหุบเขาแล้วกำลังจะบินผ่านทะเลสาปตรงไปยังลอนดอน
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็เดินทางมาถึงชายฝั่งท่าเรือลอนดอน ชายหนุ่มก็หาที่ลับตาคนร่อนลง แล้วอุ้มพาชิเอลเดินไปเรื่อยๆจนมาพบกับจุดให้บริการรถม้า ชายหนุ่มร่างสูงจึงยืนคอยรอรถม้ามา เขาไม่อยากจะเสี่ยงกับการพบเห็นของผู้คน จะพากันแตกตื่นนหากบินไปหรือกระโจมขึ้นหลังคาในตอนกลางวันแสกๆ
กุบ กับ กุบ กับ เสียงรถม้าแล่นตรงมาทางที่เซบาสเตียนกำลังอุ้มชิเอลพาดบ่าอยู่ดังขึ้นมาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งชายหนุ่มร่างสูงเห็นรถม้ากำลังตรงมาทางนี้จึงยื่นแขนมาโบกเรียก
กุบ กับ เอี๊ยด แล้วรถม้าก็แล่นมาจอดตรงหน้าพวกเขา ชายคนขัยหันมาถามลูกค้าในทันที
"จะไปไหนครับ"คนขับหันมาถามก่อนจะค่อยกระโดดลงจากที่นั่งคนขับเพื่อมาให้บริการเปิดประตูให้ตามมารยาท
"ไปคฤหาสถ์แฟนท่อมไฮด์ครับ"เซบาสเตียนบอกพรางจับชิเอลมาอุ้มให้กระชับ เขาตัดสินใจไปแฟนท่อมไฮด์เลยไว้ขากลับค่อยแวะร้านทำศพขอยาสีชมพูจากสัปเหร่อเพิ่ม เพราะนายน้อยจะต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าชอปปิ้งในเมืองต่ออยู่ดี
"ครับ เชิญเลยครับ"คนขับตอบรับแล้วทำการเปิดประตูตู้รถม้าให้เซบาสเตียนอุ้มชิเอลเดินขึ้นมาบนรถ แล้วชายหนุ่มร่างสูงค่อยๆวางร่างอ่อนปวกเปียกนั้นลงนอนบนเบาะในตู้รถม้า คนขับจึงค่อยปิดประตูแล้วเดินกลับไปประจำที่นั่งคนขับ แล้วใช้แส้เฆี่ยนม้าบังคับให้รถม้าแล่นไปตามทางในทันที
เซบาสเตียนจับชิเอลมานอนหนุนตักเอามือลูบไล้ที่แก้มซีดเซียวนั้นอย่างสงสารเห็นใจ เมื่อคืนพวกเขาเล่นหนักเกินไปหน่อย นายน้อยของเขาถึงได้มีอาการทรุดหนักลงแบบนี้ ขนาดดาร์กชิลยังรักษาร่างเอาไว้แทบไม่ไหว เลยเพราะตอนนี้เด็กคนนี้อ่อนแอลงมากทั้งจากความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อคืน และจากพิษไข้ที่รุมเร้า ขนาดยาบำรุงร่างกายที่ได้มาจากสัปเหร่อยังแทบจะรักษาไม่อยู่เลยจะให้กินบ่อยๆก็ไม่ดี ต้องรอเวลาสักหน่อยแล้วค่อยให้กินต่อจนกว่าจะหายป่วยนั้นแหละ
"นายน้อย ไว้ถึงแฟนท่อมไฮด์แล้วผมจะปลุกนะขอรับ นอนพักไปก่อนนะ"เซบาสเตียนก้มลงมาพูดเสียงแผ่วเอามือลูบไล้เส้นผสสีอความารีนอย่างอ่อนโยนไปมาเบาๆ แล้วเงยหน้าหันไปมองดูวิวทิวทัศน์ข้างนอก ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆแล้วและดูเหมือนว่าหิมะเริ่มจะตกมาอีกครั้ง อากาศรายรอบจึงทวีความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น
"หือ..อากาสเย็นมากขึ้นแล้วสิ นายน้อยคงจะทนไม่ไหวสินะขอรับ มาเอาเสื้อของผมไปห่มก่อนจะได้อุ่นๆ อีกหลายชั่วโมงเลยกว่าจะไปถึงแฟนท่อมไฮด์ พักผ่อนให้เต็มที่เลยนะขอรับ ไว้ถึงเมื่อไหร่ผมจะปลุกคุณเอง"เซบาสเตียนพึมพำเบาๆพรางปลดเสื้อคลุมพ่อบ้านออกมาคลุมตัวห่มให้เด็กตัวรุมๆที่กำลังนอนหนุนตักอยู่อย่างห่วงใย สำหรับพ่อบ้านอย่างเขาน่ะอากาศหนาวแค่นี้น่ะทนได้อยู่แล้วคนที่น่าห่วงคือนายน้อยที่ยังป่วยของเขาต่างหาก
เซบาสเตียนก็นั่งเอามือลูบหัวลูบหลังชิเอลไป สายตาก็มองดูวิวข้างนอกไปเรื่อยๆ บางทีก็นั่งหลับตา รอจนกว่ารถม้าจะไปถึงที่หมาย
จนกระทั่งหลายชั่วโมงต่อมา
ฮี๊ๆๆๆๆๆๆ เสียงม้าร้องพร้อมทั้งล้อเลื่อนของรถม้าก็ชะลอความเร็วลง ช้าลงเรื่อยๆจนกระทั่งหยุดจอดสนิท บ่งบอกว่าพวกเซบาสเตียนกับชิเอลได้มาถึงหน้าประตูรั้วเข้าสู่คฤหาสถ์หลังใหญ่ที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรกับซากปรักหักพังผนังไหม้เป็นแถบจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
"ถึงแล้วครับ"คนขับรถม้าเดินมาเปิดประตูแล้วเชื้อเชิญให้ผู้โดยสารทั้งสองลงจากรถได้แล้ว
เซบาสเตียนเอามือแตะที่หน้าผากเพื่อปลุกนายน้อยของเขาให้ตื่นขึ้น
"ตื่นได้แล้วขอรับนายน้อยถึงแล้วครับ"เซบาสเตียนพูดพรางถอนนิ้วออกจากหน้าผากที่ยังร้อนๆอยู่ของชิเอลเบาๆและนั่งรอให้เด็กหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นมา
"อืม"ชิเอลร้องครางเบาๆพรางเอามือมาขยี้ตาแล้วค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพตรงหน้าจากที่เรือนลางค่อยเด่นชัดขึ้น ชัดขึ้นจนเห็นใบหน้าของพ่อบ้านหนุ่มตาสีทับทิมสวยจ้องมองมาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"นายน้อย"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ
"เซบาสเตียน.."ชิเอลเรียกเสียงแผ่วอย่างอ่อนเพลียจากพิษไข้
"ขอรับ^^"เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆ
"นายขังฉันทำไมเนี่ย ฉันแค่เผลอหลับไปหน่อยเดียว แค่กๆ แค่กๆ เล่นมาสะกดให้หลับโดยไม่บอกกันสักคำ แค่กๆ!! แล้วดาร์กชิลทำอะไรร่างของฉันหรือเปล่า บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!! แค่ก แค่กๆ"ชิเอลโวยใส่อย่างไม่พอใจ แล้วก็ไอโขลกๆจ้องมองหน้าพ่อบ้านของเขาไม่ลดละด้วยความโมโห
"แหม ใจเย็นๆสินายน้อย ผมก็แค่อยากให้คุณได้พักผ่อนให้เต้มที่จะได้หายป่วยไวๆไง และที่ผมให้ดาร์กชิลออกมาเพราะจะพาเขาไปเอาใบสมัคร ตกลงผมใช้ชื่อดาร์กชิลในการลงแข่งนะครับ"เซบาสเตียนพยายามประนีประนอมให้ชิเอลใจเย็นๆลง
"ทำไม แค่ก แค่ก!!"ชิเอลขึ้นเสียงถลึงตาถามและก็ไอโขลกๆเพราะใช้เสียงมากเกินไปเลยเริ่มเจ็บคอขึ้นมาอีกจนได้
"อย่าใช้เสียงมากสินายน้อย เดี๋ยวคอเจ็บหรอก ดูซิเนี่ยไอโขลกๆเลย ไปหาหมอก่อนดีกว่ามัยขอรับ"เซบาสเตียนไม่ใส่ใจจะตอบคำถามมัวแต่ห่วงเรื่องอาการป่วยของนายน้อยมากกว่า
"ไม่ต้อง !! แค่ก แค่กๆ"ชิเอลตวาดใส่ และก็ไอโขลกไม่หยุด
เซบาสเตียนขมวดคิ้วมุ่นอย่างกลัดกลุ้มใจกับเด็กของเขาเหลือเกิน ชอบฝืนสังขาลทำอะไรเกินกำลังอยู่เรื่อยเลย ทั้งๆที่เจ็บคอจะแย่ยังจะตะโกนอีก น่าจับฉีดยาสักเข็มจริงๆ
"ฉันถามทำไมไม่ตอบ แค่กๆๆ"ชิเอลตะเบงเสียงถามทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แท้ๆ จะตะเบงเสียงทำไมไม่รู้ -*-
"นี่ถ้านายน้อยยังขืนตะเบงเสียงใส่ผมจนคอเจ็บอีกละก็.. ผมจะพาไปโรงพยาบาลไปให้หมอจับฉีดยาให้เข็ดเลย ดีมัยขอรับ"เซบาสเตียนหรี่ตาพูดข่มขู่จะพาชิเอลไปฉีดยาที่โรงพยาบาล
"อุบ อืม อืม"ชิเอลรีบเอามือปิดปากส่ายหน้ารัวๆทันที กลัวโดนจับฉีดยา
"ถ้างั้นก็ควรสงบปากสงบคำ อย่าพยายามใช้เสียงให้มากจะดีกว่านะขอรับ ส่วนเรื่องดาร์กชิลที่ผมเรียกให้ออกมาแทนคุณเพราะว่า... "เซบาสเตียนกำลังจะตอบแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนขับเร่งให้ออกไปจากรถ
"นี่อย่ามัวคุยกันอยุ่สิคุณ ผมกำลังรีบนะ เดี่ยวต้องกลับไปหาผู้โดยสารคนอื่นๆต่อ ไม่ได้ว่างเหมือนพวกคุณนะครับ"คนขับพูดอย่างไม่สบอารมณ์ อุตส่าห์มาเปิดประตูให้และยังไม่รีบออกมากันอีก เขาต้องไปหาลูกค้าคนอื่นๆต่อนะ
"อ้อ...ครับ..ขออภัยที่ทำให้เสียเวลา มานายน้อย..."เซบาสเตียนหันมาบอกคนขับอย่างเกรงใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นแขนตรงมาคว้าตัวชิเอลมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนและพาลงบันไดรถม้า ปล่อยตัวเด็กหนุ่มลงมายืนที่พื้นหน้ารั้วคฤหาสถ์แฟนท่อมไฮด์ แล้วตนก็หันไปจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับที่ดูท่าทางจะร้อนรนอยากจะไปหาลูกค้าคนอื่นๆจนตัวสั่นอยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน คนขับก็เดินไปนั่งประจำที่ด้านหน้าและใช้แส้หวดใส่ม้า ให้แล่นออกไปจากหน้ารั้วแฟนท่อมไฮด์ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากซากปรักหักพัง ชิเอลถึงกลับยืนตลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้าของเขา
"นี่มัน..อะไรกันเนี่ย..ทำไมบ้านของฉันถึงได้...!!! 0_0!!."ชิเอลถึงกลับครางออกมาเสียงแผ่ว เดินไปดูสภาพบ้านของตนเองใกล้ๆด้วยความตกใจแทบช๊อก ทั้งๆที่เขาเคยคิดว่าจะทำใจได้หากมาเห็นสภาพบ้านตนเองเป็นแบบนี้ นี่เขาจากบ้านหลังนี้ไปอยู่ที่บ้านเซบาสเตียนได้แค่ไม่กี่วันเอง ยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ
"นายน้อย..ทำใจดีๆไว้นะครับ..ถึงบ้านจะไหม้ไปแล้วแต่ก็ยังสามารถทำให้เหมือนเดิมได้นะ ผมจะซ่อมแซมให้เองมันจะได้กลับมาเหมือนใหม่เลยดีมัยครับ"เซบาสเตียนพยายามปลอบพรางดึงตัวมาโอบไหล่แล้วเอาหัวซบลงกับสีข้างของตน ลูบหัวเบาๆ
"ไม่ต้อง แค่กๆ ปล่อยมันไปแบบนี้แหละ เซบาสเตียน แค่กๆ เปิดประตูสิ"ชิเอลพูดด้วยเสียงเยือกเย็นสลับกับไอโขลกๆ
"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับก่อนะจเดินตรงไปยังรั้วเหล็กหน้าบ้านแล้วทำการปลดล๊อกกุญแจจากโซ่ที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาคล้องล๊อกเอาไว้จนขาดสะบั้น
ป๊อก แคร๊ง!!!! เสียงสายโซ่ที่คล้องประตูรั้วเอาไว้ถูกตัดจนขาดจนล่วงหล่นลงมาบนพื้น จากนั้นพ่อบ้านหนุ่มจึงใช้มือผลักบานประตูรั้วให้เปิดอ้าออกอย่างรวดเร็ว
"เชิญขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนผายมือเชื้อเชิญพร้อมกับยื่นมือส่งมาให้ชิเอลจับพยุงตัวพาเดินเข้ามาภายในบริเวณหน้าคฤหารถ์ ที่แทบจะไม่เหลือซากมีแต่เศษไม้ เศษหินที่ไหม้ไฟ และขี้เถ้าเต็มไปหมด
เด็กหนุ่มเอาแต่เหม่อมองดูสภาพบ้านนั้นตาค้างนิ่งอึ้งไปอย่างตกตลึงกับภาพที่เห็น บ้านที่เขาเคยอยู่กับพ่อแม่ บ้านที่เขาเคยอยุ่กับเหล่าคนใช้แฟนท่อมไฮด์ บัดนี้มันกลับถุกเพลิงเผาพลาญจนวอดวายไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้เลยนอกจากซากปรักหักพังและไหม้ไฟไปแบบนี้
"นายน้อย..นายน้อยขอรับเป็นอะไรหรือเปล่า"เซบาสเตียนพยายามเรียก แต่เรียกอยู่หลายครั้งชิเอลก็ไม่ตอบรับเลย เอาแต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้นเหม่อมองดูสภาพบ้านตนเองด้วยความตะลึงลาน
"นายน้อยขอรับ "เซบาสเตียนจึงเอามือมาเขย่าๆที่ไหล่เพื่อเรียกสติ
"อ่ะ.อะไร"ชิเอลสะดุ้งแล้วหันมาถามคนเขย่าไหล่เขาอย่างตกใจ
"นายน้อยเป็นอะไรไปหรือเปล่าขอรับ ทำไมท่าทางเหม่อๆ แล้วนี่เดินไหวเหรอให้ผมอุ้มดีกว่ามัยขอรับ"เซบาสเตียนพูดอย่างห่วงใย เอามือมาลูบหัวชิเอลเบาๆ
"ไม่ต้อง ฉันจะเดินไปเอง ฉันไม่เป็นอะไร"ชิเอลพูดเสียงเรียบพรางปัดมือของเซบาสเตียนออกจากหัวของตน แล้วเดินนำพ่อบ้าหนุ่มเข้าไปข้างในคฤหาสถ์ เพื่อดูว่าของสำคัญของเขายังอยู่ดีหรือเปล่า หรือมอดไหม้ไปกับเพลิงเผาผลาญไปสิ้นแล้ว
"นายน้อย..รอก่อนขอรับ ข้างในมันอันตราย ระวังคานไม้หล่นมาทับนะขอรับ"เซบาสเตียนร้องเรียกก่อนจะเดินตามเด็กหนุ่มเข้าไปข้างในซากปรักหักพังนั้น ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆคานไม้ที่ไหม้ไฟจดแห้งกรอบก็หล่นลงมา
"นายน้อยระวัง!!"เซบาสเตียนร้องลั่นอย่างตกใจรีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนชิเอลลากตัวให้ถอยหลังออกมาก่อนที่ คานไม้จะหล่นลงมาทับ!
"เฮือก!! แฮ่กๆ"ชิเอลถึงกลับสะดุ้งสุดตัวหายใจหอบแฮ่กๆตาเบิกโผลง หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ เกือบไปแล้วหากเซบาสเตียนไม่มาคว้าแขนลากตัวกลับออกมาได้ทันมีหวังโดนไม้หนักๆหล่นมาทับแบนแน่ๆ
"เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ บาดเจ็บตรงไหนมัย"เซบาสเตียนถามพรางย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเอามือมาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าให้ชิเอล และจับตัวพลิกไปพลิกมาสำรวจตรวจตราร่างกายดูว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่าอย่างห่วงใย
"มะไม่เป็นอะไร แค่กๆ ปล่อย..ฉันจะเข้าไปข้างใน"ชิเอลพูดปฎิเสธอย่างดื้อดึง ทั้งที่ยังไอโขลกไม่หยุดยังจะเข้าไปในที่ๆที่มีแต่เขม่าควันและฝุ่นจับเขลอะอยู่อีก
"นายน้อยต้องการอะไรบอกผมมาเลยดีกว่า เดี่ยวจะเข้าไปเอามาให้ ในนั้นมีแต่ฝุ่นและเขม่าควันคุณจะเข้าไปทำไมขอรับ"เซบาสเตียนจึงอาสาจะเข้าไปหาของในบ้านแฟนท่อมไฮด์ให้ เพราะหากปล่อยให้เด็กของเขาเข้าไปในบ้านอาจได้รับอันตรายอีกก็ได้
"ไม่ต้อง แค่ก แค่ก ฉันอยากจะเข้าไปเอง ก็แค่สำรวจดูนิดหน่อย"ชิเอลพูดอย่างดื้อดึงปฎิเสธไมตรีของพ่อบ้านหนุ่ม แล้วทำท่าจะเดินไปต่อ
"บ้านของคุณกลายเป็นซากปรักหักพังแบบนี้ ยังจะมีอะไรให้สำรวจงั้นหรือขอรับ "เซบาสเตียนถามเขม่นมองเด็กดื้ออย่างไม่สบอารมณ์คอยเดินตามมาไม่ห่างไปไหน
"นี่มันเรื่องของฉันนายไม่เกี่ยว ปล่อยแขนฉันเดี่ยวนี้ เซบาสเตียน แค่ก แค่ก ฉันจะเข้าไปดูภายในบ้าน"ชิเอลหันมาสั่งเสียงแหบไอโขลกๆ พยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมืออันแข็งแกร่งของเซบาสเตียนให้ปล่อยเขา เขาอยากเดินสำรวจบ้านและจะเข้าไปเอาของสำคัญด้วยตัวเอง
"จะไม่เกี่ยวได้ยังไงขอรับ คุณเป็นนายน้อยของผม ความปลอดภัยของเจ้านายถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นพ่อบ้านซึ่งจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกไม่ใช่หรือขอรับ"เซบาสเตียนโต้แย้งเสียงเรียบ
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า แค่กๆ ปล่อยแขนฉันได้แล้ว"ชิเอลยังคงยืนกรานจะเข้าไปสำรวจภายในบ้านให้ได้
"แล้วถ้าหากเข้าไปเดินดุ่มๆไปชนนั่นนี่ หรือคานไม้หล่นมาทับอีกจะทำยังไงขอรับ ซากพวกนี้มันเปราะมากนะหากเกิดการสั่นสะเทือนหรือมีการขยับเคลื่อนไหวไม่ระมัดระวังจะทำให้หักพังหล่นลงมาได้นะขอรับ"เซบาสเตียนพูดเตือนด้วยความหวังดี
"ชิ รู้แล้วล่ะน่า ฉันจะคอยระวัง นายตามฉันมาก็แล้วกัน นายมีหน้าที่คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ฉัน ตามมาเหอะน่าอย่ามาพูดมาก นี่คือคำสั่ง"ชิเอลหันมาสั่งอย่างเผด็จการ ตอนนี้เขาพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพราะถึงยังไงสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไปแล้วตั้งแต่เขาตัดสินใจตามเซบาสเตียนไปอยู่ที่เมืองซาตาน ที่นี่ก็แค่สถานที่แห่งความทรงจำที่แสนเจ็บปวด และเป็นสถานที่ที่ทำให้เขายืนหยัดขึ้นสู้ต่อชะตากรรมตนเอง ทั้งความโศกเศร้า ความแค้น ความเข็มแข็ง และความหวัง รวมทั้งความสุขที่เคยได้รับจากเหล่าคนรับใช้ทั้งสี่ มันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่เขาไม่อาจลืมไปได้ง่ายๆเท่านั้น
"เฮ้อ...ก็ได้ขอรับ เชิญขอรับ"เซบาสเตียนถอนใจอย่างเหนื่อยใจแต่ก็ยอมตามใจนายน้อยของเขาอยู่ดี ก็เด็กคนนี้มันดื้อห้ามไม่ฟังนี่นา หากเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องคอยช่วยอยู่แล้วล่ะ
และชิเอลก็เดินนำเซบาสเตียนตรงไปยังบันไดทางขึ้นซึ่งมีสภาพผุแทบจะพังแหล่ไม่พังแหล่ แล้วหลับตาเดินขึ้นบันไดไปอย่างไม่แยแสกับสภาพของบันได แต่ทว่า
พอก้าวขาขึ้นบันไดไปแค่สองสามขั้น จู่ๆบันไดที่ก็หัก เปาะลงมา
"เหวอ!!!"ชิเอลถึงกลับตกใจร้องเสียงหลง ขาข้างหนึ่งของตนเกิดตกพรวดลงไปที่ร่องบันไดตรงบริเวณที่หักครึ่ง จนตัวเกือบหล่นลงไปที่ใต้บันได
"นายน้อย!!"เซบาสเตียนร้องเรียกอย่างตกใจรีบคว้าคอเสื้อดึงกระชากยกตัวขึ้นมาจากร่องบันไดก่อนที่เด็กของเขาจะหล่นตามไปพร้อมกับซากบันไดที่หักครึ่งที่แตกกลายเป็นเศษไม้ไปอย่างรวดเร็ว
"ไหนบอกว่าจะระวังไงขอรับ"เซบาสเตียนพูดเสียงดุ พรางจับเปลี่ยนท่าจากหิ้วคอเสื้อมาเป็นอุ้มไว้ในอ้อนแขน พรางกระโดนเหยียบซากบันไดที่ผุพัง เหยียบตรงไหนก็หักพังตรงนั้นราวกับเป็นกับดักก็ไม่ปาน กระโจมขึ้นมายังระเบียงชั้นบนได้อย่างกับนินจาเลยทีเดียว
"กะ ก็ใครจะไปนึกว่าบันไดมันจะผุขนาดนี้ เกือบไปแล้ว..แฮ่กๆ"ชิเอลหลับตาพูดโตแย้งเสียงแผ่วๆ หายใจหอบแฮ่กๆด้วยความตื่นตระหนก พรางหันไปมองดูสภาพบันไดซึ่งในตอนนี้มันพังหมดทลายหมดไม่มีขั้นบันไดเอาไว้สำหรับเวลาลงอีกแล้ว
"ขอรับเกือบไปแล้ว และดูเหมือนว่าเราจะลงบันไดแบบคนปกติไม่ได้แล้วด้วยสิ มันพังไปหมดเลย แล้วถ้านายน้อยเกิดตกลงไปนี่คออาจหักได้นะขอรับ เฮ้อ -*- นี่มันบ้านของคุณหรือกับดักกันแน่ล่ะเนี่ย ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ"เซบาสเตียนพูดอย่างเหนื่อยใจ ที่สภาพบ้านแฟนท่อมไฮด์ในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างไปจากกับดักที่หุบเขาดิวอี้เลยทีเดียว เหยียบตรงไหนก็ล่วงตรงนั้น หากพ่อบ้านหนุ่มทรงตัวกลางอากาศไม่ได้ล่ะก็คงจะแย่ไปเหมือนกัน
"ช่างบันไดมันก่อนเหอะน่า พาฉันไปที่ห้องนอนทีสิ"ชิเอลตัดสินใจยอมให้เซบาสเตียนอุ้มพาไปดีกว่า ขืนเดินเองมีหวังหล่นตุบลงไปใต้บ้านแน่ๆ
"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับพรางพาชิเอลกึ่งเดิน กึ่งกระโดด ไปตามทาง พื้นบ้านผุเกือบหมด เหยียบตรงไหนพังตรงนั้น บางทีคานไม้ก็หล่นลงมาใส่ จนต้องพากันกระโดดหลบซากไม้ที่หล่นลงมาจากเพดานด้านบน บางทีก็เจอกองเศษอิฐ เศษหินขวางทางเข้าประตู ปิดทางเข้าออก จนชายหนุ่มต้องใช้พลังระเบิดเศษหินให้เปิดทางออก สภาพบ้านพังยับเยินจนแทบจะดูไม่ออกเลยว่ามันเคยเป็นคฤหาสถ์ที่สวยงาม ไฟนรกของเจ้าปีศาจร่างใหญ่นั้นรุนแรงกว่าไฟธรรมดามันสามารถเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ พังพินาศไปได้ในเวลาอันรวดเร็วและน้ำธรรมดาไม่อาจดับได้ด้วย พวกนักดับเพลิงหรือชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟคงหมดปัญญาจะดับเลยปล่อยให้ไฟไหม้บ้านหลังนี้จนวอดเกือบหมดทั้งหลังไปตามยะถากรรมโดยที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้อีกแล้วแน่ๆ สภาพบ้านถึงได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแบบนี้
"นี่มันห้องบ้าอะไรเนี่ย แค่ก แค่ก"ชิเอลร้องถามอย่างตกตลึงกับสภาพห้องนอนตนเองที่มันพังจนแทบจำไม่ได้ เตียงนอนหักพังจนเป็นเศษไม้ ฟูกไหม้เป็นตอตะโก พื้นเต้มไปด้วยเขม่าควันและเศษกำแพง โต๊ะเขียนหนังสือที่แตกหัก ถูกหินจากเพดานหล่นมาทับจนแหลกเป็นชิ้นๆ โต๊ะข้างเตียงก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน
"ดูเหมือนเจ้าเบิ่มนั้นจะทำลายบ้านนายน้อยได้สำเร็จสินะขอรับ ดูสิ แม้แต่เพดานก็แทบไม่เหลือ แล้วก็คงจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วล่ะมั้ง......"เซบาสเตียนพูดหยอกเย้า
"หุบปาก ปล่อยฉันลงได้แล้วเซบาสเตียน"ชิเอลพูดอย่างไม่สบอารมณ์
"ขอรับ"เซบาสเตียนจึงสงบปากสงบคำแล้วปล่อยชิเอลลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นเขม่าควันและเศษอิฐเศษหินลงทันที แล้วหันมายิ้มให้เขาก็แค่แซวเล่นเอง
พอชิเอลถูกปล่อยตัวลงเขาก็เดินตรงไปแถวๆซากเตียงแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆก้มตัวลงหยิบเศษหิน เศษอิฐออกไปทีละก้อนสองก้อน เพื่อค้นหาอะไรบางอย่างตามพื้น
"นายน้อย นั่นคุณกำลังทำอะไรน่ะครับ"เซบาสเตียนถามมองชิเอลอย่างสงสัย
"......"ชิเอลไม่ตอบเขายังคงก้มหน้าก้มตาขุดคุ้ยหาอะไรบางอย่างตามเศษอิฐเศษหิน อย่างคลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติ
"นายน้อย ต้องการจะหาอะไรงั้นหรือขอรับ"เซบาสเตียนไม่ยอมแพ้ถามใหม่อีกครั้ง
"....แฮ่ก แฮ่ก.."ชิเอลไม่ตอบแต่การขุดคุ้ยทำให้เด็กที่กำลังป่วยอยู่ถึงกลับเหนื่อยหอบ เหงื่อออกโทรมกาย มือไม้ถลอกปอกเปิก จากการถูกคมหิน คมอิฐบาดมือเอา ยิ่งพยายามขุดคุ้ยหยิบยกเศษหินเศษอิฐออกไปมากขึ้นเท่าไหร่มือของเด็กหนุ่มก็เริ่มมีบาดแผลเลือดไหลซิบๆมากขึ้นเท่านั้น จนชายหนุ่มที่กำลังยืนมองดูการกระทำอันบ้าคลั่งขาดสตินั่นอยู่ใกล้ๆจึงอดสงสารไม่ได้
"นายน้อย!!พอก่อนเถอะ คุณทำอะไรของคุณน่ะ ดูซิมือเป็นแผลถลอกเลือดออกหมดแล้วนะขอรับ หยุด!"เซบาสเตียนร้องห้ามพรางคว้าจับยึดข้อมือที่ถูกหินครูดบาดจนเลือดออกเอาไว้ทั้งสองมือไว้แน่นไม่ยอมให้เด็กคนนี้ฝืนสังขาลตนเองขุดคุ้ยกองอิฐกองหินให้มือเป็นแผลไปมากกว่านี้
"ปล่อยนะ!! แฮ่ก ๆ ปล่อย!! "ชิเอลร้องลั่นหายใจหอบพยายามแข็งขืนดึงมือของตนให้หลุดจากการจับกุมของพ่อบ้านหนุ่มให้ได้
"ไม่ปล่อยขอรับ นายน้อยทำบ้าอะไรของคุณกันน่ะ จะหาอะไรบอกผมสิ !!"เซบาสเตียนพูดเสียงดุจับยึดแขนชิเอลเอาไว้แน่น
"แฮ่ก แฮ่ก"ชิเอลหายใจหอบน้ำตาคลอ ทั้งเจ็บใจและเจ็บกาย พยายามทำใจให้สงบให้ได้
"หาอะไรขอรับ"เซบาสเตียนถามเสียงเรียบอย่างใจเย็นจ้องหน้าชิเอลเขม็งเพื่อคาดคั้นให้ตอบคำถามเขาให้ได้
"ปละเปล่า "ชิเอลตอบปฎิเสธหันหน้าหนี หลับตาลงพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ไม่ได้หาอะไรแล้วทำไมถึงมานั่งขุดคุ้ยกองอิฐพวกนี้อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยล่ะครับ ดูสิ เลือดออกเต็มมือเลย มาผมรักษาให้"เซบาสเตียนถามพรางเอามือชิเอลมาใกล้ๆปากตนเองทำท่าจะเลียเลือดรักษาบาดแผลให้
"อย่า!!มันสกปรก ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละเดี่ยวแผลก็หายไปเอง"ชิเอลสะบัดดึงมือที่เลือดไหลซิบๆหนีเขาไม่อยากให้เซบาสเตียนมาเลียแผลให้เขาเพราะมือเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกจากซากอิฐซากหินและเขม่าควัน
"เฮ้อ..นายน้อยนี่ก็..จริงๆเลยน้า จะหาอะไรทำไมไม่บอกผมล่ะ จะฝืนสังขาลตัวเองไปถึงไหน ยิ่งคุณทำแบบนี้ร่างกายอ่อนแอลง ดาร์กชิลจะยิ่งแย่ไปด้วยนะขอรับ"เซบาสเตียนดุว่าอย่างไม่สบอารมณ์
"ชิ เป็นห่วงเจ้าเด็กปีศาจนั่นมากนักหรือไง"ชิเอลพูดอย่างไม่พอใจเชิดหน้าใส่พรางกระชากดึงมือของตนออกจากมือของพ่อบ้านหนุ่มอย่างแรง
"ผมก็ห่วงทั้งคู่นั่นแหละ ทั้งนายน้อย และดาร์กชิล ต่างก็เป็นคนสำคัญของผมทั้งคู่"เซบาสเตียนบอกอย่างใจเย็นพยายามยื้อยุดมือชิเอลมาทำแผลให้ได้
"ชิ"ชิเอลทำเป็นจิปากหันหน้าหนี แล้วพยายามจะก้มตัวลงขุดคุ้ยหาของบางอย่างใต้กองซากอิฐซากหินต่อ
"นายน้อยผมว่าคุณไปหาน้ำมาล้างแผลก่อนดีกว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณทรุดหนักลง ดาร์กชิลคงเยียวยาบาดแผลให้คุณไม่ไหวแน่ๆแผลอาจจะสมานตัวช้ากว่าปกตินะขอรับ ผมคิดว่าตรงสวนหลังบ้านมีก๊อกน้ำอยู่ไม่น่าจะไหม้ไฟไปด้วยล่ะมั้ง ส่วนของที่คุณจะหาปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเอง
" เซบาสเตียนพูดเหลี่ยกล่อมพยายามดึงตัวชิเอลลากออกมาจากซากอิฐซากหินเพื่อพาไปล้างทำความสะอาดมือ
"ไม่ อย่ามายุ่งได้มัย นี่มันเรื่องของฉัน"ชิเอลพูดอย่างดื้อดึง พยายามจะฝืนตัวลงไปขุดคุ้ยหาของที่พื้นต่อให้ได้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจบาดแผลที่มือตนเองเลยแม้แต่น้อย ในใจตอนนี้กำลังร้อนรนจะค้นหาของสำคัญที่ถูกลืมทิ้งไว้ที่นี่ให้ได้ เขาได้แต่หวังว่ามันจะยังอยู่ดีไม่บุบสลายหรือไหม้ไฟไปเสียก่อนนะ
"หึ "เซบาสเตียนเริ่มเหลืออดกับความดื้อรั้นของชิเอลจึงตัดสินใจคว้าจับรวบเอวเด็กดื้อที่ไม่เจียมสังขาลขึ้นมาอุ้มช้อนก้นพาออกไปจากบ้านโดยกระโดดลงไปทางหน้าต่างที่ชั้นสอง ล่อนลงมาอย่างรวดเร็ว
"เหวอ!!เซบาสเตียน ปล่อยนะ ปล่อยเซ่ แค่กๆๆๆๆ"ชิเอลร้องโวยลั่นจนเสียงแหบคอเจ็บไอโขลกๆไม่หยุดเลย
"จะให้ปล่อยจริงๆน่ะเหรอนี่มันชั้นสอง ตกลงไปขาหักไม่รุ้ด้วยนะขอรับ"เซบาสเตียนเตือนเสียงดุ
"ชิ"ชิเอลจิปากก้มลงไปมองข้างล่างอย่างหวาดเสียว พรางเอาแขนโอบกอดคอคนอุ้มเอาไว้แน่นกลัวถูกปล่อยให้ตกลงไปขาแข้งหักไปจริงๆ
แล้วเซบาสเตียนก็พาชิเอลล้อนลงมาถึงพื้นได้อย่างนุ่มนวล พ่อบ้านหนุ่มพาตรงมายังก๊อกน้ำหลังสวนที่ยังคงใช้การได้อยู่ยังไม่ถูกไฟนรกเผาผลาญไป
"มาล้างแผลก่อนนะขอรับ ดูสิถลอกปอกเปิกหมดแล้ว แถมยังไม่ยอมสมานตัวอีก ท่าทางดาร์กชิลจะแย่แล้วนะขอรับ "เซบาสเตียนพูดพรางคว้ามือชิเอลมาล้างที่ก๊อกน้ำเย็นเชียบ
"อึ่ก สะแสบ!!"ชิเอลร้องโวยน้ำตาคลอ หลับตาปี๋ด้วยความแสบแผลที่ถูกน้ำเย็นๆชะล้างอย่างต่อเนื่องแถมยังไม่วายถูกมือของเซบาสเตียนมาถูๆที่แผลซ้ำไปอีก
"ไม่ต้องมาบ่นเลยนะขอรับ จะค้นหาอะไรทำไมถึงไม่ยอมบอก และดูซิแผลไม่ยอมสมานตัวแบบนี้ หากไม่รีบทำความสะอาดแผลอาจจะเป็นพิษติดเชื้อได้นะขอรับ ทำอะไรไม่รู้จักคิดอีกแล้วคุณนี่"เซบาสเตียนดุไปพรางเอามือมาถูล้างมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของชิเอลไปพราง
"โอ๊ย แสบ แสบ!! อย่าเอามือมาถูล้างแผลของฉันได้มัย มันแสบ!อึ่ก!"ชิเอลกัดฟันพูดด้วยความแสบแผลร้องห้ามไม่ให้เซบาสเตียนมาถูที่แผลของเขาเพราะยิ่งทำมันยิ่งทำให้เขาแสบสุดๆจนน้ำตาล่วงเลยทีเดียว
"ให้ตายสิ ตั้งนานแล้วทำไมบาดแผลของนายน้อยยังไม่ยอมสมานตัวสักทีนะ หรือพลังของดาร์กชิลมีไม่พอจะเยียวยารักษาแผลให้แล้วล่ะเนี่ย"เซบาสเตียนพูดอย่างกังวล มือก็ยังคงถูๆล้างคราบเลือดออกจากบาดแผลของชิเอลไปพรางด้วยน้ำเย็นๆจากก๊อกนั่นแหละ
"อา....จะยังไงก็แล้วแต่อย่ามาถูแผลของฉันได้มัย มันแสบ และที่ฉันจะค้นหาอะไรมันเรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่งเลย"ชิเอลร้องคราง พยายามกัดฟันพูดด้วยความเจ็บแสบและไม่สบอารมณ์ที่พ่อบ้านจอมจุ้นมายุ่งวุ่นวายกับแผลที่มือของเขาจนแสบไปหมดเลย เขาไม่แยแสกับบาดแผลแค่นั้นหรอกถ้าหากว่าจะสามารถค้นหาของที่เขาต้องการเจอล่ะก็
"ถ้าผมไม่ยุ่งป่านนี้คงเป็นลมสลบคาพื้นหรือไม่ก็คงเลือดไหลไปหมดตัวแล้วน่ะสิ ตกลงคุณหาอะไรกันแน่ขอรับ นี่ถ้าไม่ยอมตอบอีก ผมจะพินิจใจคุณแล้วล่ะนะ"เซบาสเตียนพูดอย่างดุๆยิ่งเจ็บยิ่งถูที่แผลแรงๆให้เจ็บแสบซะบ้าง ถือเป็นการสั่งสอนเด็กดื้อที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด ไปในตัว
"โอ๊ย!!แสบ อย่า..พอแล้วเซบาสเตียน!ปล่อยนะ แสบ!"ชิเอลร้องลั่นดิ้นพลาดๆเหมือนปลาโดนน้ำร้อนลวก พยายามชักมือหนีมือแกร่งของพ่อบ้านจอมจุ้นให้ได้
"บอกผมมาว่าต้องการจะค้นหาอะไรที่ห้องนอนของคุณหรือขอรับ แหวนหรือว่า อะไร ถ้าไม่ยอมตอบนี่ผมจะบีบแผลทรมานให้เข็ดเลย"เซบาสเตียนถามคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ นี่ถ้าชิเอลไม่ยอมตอบเขาจะบีบแผลให้ร้องลั่นเลยคอยดู
"รูปถ่ายของครอบครัว ป่านนี้มันคงมอดไหม้ไปหมดแล้วล่ะมั้ง ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะยังอยู่ดี แต่ว่า.."ชิเอลจึงหลับตาลงยอมบอกในสิ่งที่ตนต้องการให้เซบาสเตียนรับรู้ เพราะถึงยังไงก็คงจะปิดเจ้าอีกานี่ไม่ได้อยู่ดี
"แค่รูปถ่ายครอบครัวอย่างเดียวหรือครับ แล้วแหวนประจำตระกูลแฟนท่อมไฮด์ล่ะ ไม่ต้องการอีกแล้วหรือขอรับ"เซบาสเตียนถามเพื่อความแน่ใจพรางเอาผ้าเช็ดหน้าของตนมาห่อพันมือให้ชิเอลไปพรางเพราะตอนนี้บาดแผลไม่มีทีท่าจะสมานตัวเลย
"ฉัน..ไม่รู้..ถ้านายหาเจอก็เอามาด้วยแล้วกัน ฉันจะรออยู่ที่นี่ เร็วๆด้วยล่ะ ข้างนอกอากาศเย็นมาก ฉันอยากจะไปจากที่นี่เร็วๆแล้วล่ะ"ชิเอลส่ายหน้าอย่างไม่แน่ใจว่าจะยังคงเก็บแหวนต้องคำสาปนั้นเอาไว้อีกดีมัย แหวนวงนั้นทำให้เขาได้พบกับเซบาสเตียนและคนใช้แฟนท่อมไฮด์ ได้เจอแต่สิ่งเลวร้ายและการสูญเสีย ได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนตายที่ร้องโหยหวนในยามที่เขานอนหลับ และฝันถึง ได้เห็นภาพที่แสนเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความแค้นชิงชัง ยิ่งเขาได้คิดถึงแหวนวงนั้นความทรงจำที่เลวร้ายต่างๆก็หวนกลับมาอีกครั้ง เหมือนแผ่นฟิมล์ที่เล่นกรอกลับไปกลับมา
"นายน้อย..นายน้อยขอรับ เป็นอะไรไปหรือเปล่า"เซบาสเตียนเรียกเตือนสติเพราะตอนนี้ชิเอลเกิดยืนนิ่งเหม่อลอยหวนกลับไปคิดถึงอดีตของตนเองที่เจ็บปวดนั้นอีก
"ฉันไม่เป็นอะไร รีบไปหามาให้เจอแล้วกัน จากนั้นก็เผาบ้านหลังนี้ทิ้งซะอย่าให้เหลือแม้แต่ซาก เราไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านหลังนี้อีกแล้ว"ชิเอลหันหลังพูดด้วยความเด็ดเดี่ยว
"เห..แต่ว่า.."เซบาสเตียนถึงกลับเบิกตากว้างคาดไม่ถึงว่านายน้อยจะสั่งให้เผาทำลายล้างบ้านตัวเองไม่ให้เหลือแม้แต่ซากเนี่ยนะ
"ทำตามที่สั่ง ฉันตัดสินใจแล้วเซบาสเตียน ฉันจะสร้างแฟนท่อมไฮด์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยมือของฉันเอง ในฐานะที่ฉันเป็นผู้นำแห่งแฟนท่อมไฮด์ ฉันจะทำให้แฟนท่อมไฮด์กลับมารุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่าผู้นำในรุ่นก่อนๆ ให้ได้ ถึงแม้สิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ไม่ได้นี่จริงมัย เซบาสเตียน"ชิเอลพูดด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นเข็มแข็ง ดวงตาสีแดงคมกล้าแน่วแน่มั่นคง
เซบาสเตียนมองชิเอลอย่างตลึง ก่อนจะยิ้มให้อย่างชื่นชมยินดี ดูเหมือนนายน้อยของเขาเริ่มจะเติบโตขึ้นมาบ้างแล้วสินะ
"เยส มายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับด้วยท่าทีจริงจัง ย่อตัวลงคุกเข่าหนึ่งข้างแล้วคว้ามือที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้ของนายน้อยมากุมและจูบที่หลังมือนั่นเบาๆ
"เอาหล่ะไปหาของมาได้แล้ว ฉันจะรออยู่ที่นี่"ชิเอลสั่งเสียงเรียบ ดูเหมือนตอนนี้เขาจะหายไอขึ้นมาบ้างแล้ว ดูท่ายาสีชมพูจะออกฤทธิ์เต็มที่ อาการป่วยค่อยๆทุเลาลงอย่างช้าๆ
"อ่า ก่อนไป ดื่มยานี่ก่อนนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดตัดสินใจให้ชิเอลกินยาชูกำลังขวดสีชมพูก่อนจะได้แข็งแรงเร็วๆ
"ยังไม่ครบหกชั่วโมงเลย กินได้เหรอ เดี่ยวเกิดกินเกินขนาดจะทำยังไง"ชิเอลถามมองดูขวดยาสีชมพูในมือของเซบาสเตียนอย่างไม่มั่นใจ
"แค่จิบนิดหน่อยคงไม่เป็นไรมั้งขอรับ อ่ะเอาไปดื่มก่อน พลังปีศาจของดาร์กชิลจะได้มีกำลังพอจะเยียวยารักษาร่างของคุณต่อได้อีกหน่อย และคุณก็ช่วยยืนรอผมอยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหน หรือ ตามผมเข้าไปข้างในเด็ดขาด นายน้อยจะต้องไม่ฝืนสังขาลตนเองไปมากกว่านี้แล้วนะขอรับ ถ้าไม่เห็นกับร่างกายตนเองก็เห็นแก่ปีศาจน้อยของผมหน่อยเถอะ เขาจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป" เซบาสเตียนพูดย้ำเตือนด้วยความห่วงใย
"ชิ ปีศาจน้อยของผมอย่างงั้น ดาร์กชิลอย่างนี้ ตั้งแต่พอรู้ว่าฉันมีปีศาจสิงอยู่ในตัว ดูเหมือนว่านายจะเห่อเด็กคนนั้นมากมายเหลือเกินนะ ใช่ซี่ ก็เจ้าเด็กนั้นมันเป็นลูกของนายนี่"ชิเอลพูดแขวะใส่อย่างไม่พอใจนิดหน่อย ก็เขาไม่ชอบให้เซบาสเตียนไปสนใจคนอื่นมากกว่าเขานี่นา ถึงแม้จะเป็นปีศาจที่หน้าตาเหมือนตัวเองก็เถอะแต่เจ้าเด็กนั้นก็ไม่ใช่เขาอยู่ดี
"โถ่นายน้อยอย่ามาแขวะกันสิครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้นมากไปกว่าความเป็นพ่อลูกเลยนะ ผมก็ห่วงทั้งสองคนนั่นแหละ อย่าลืมสิขอรับหากไม่ได้เด็กคนนั้นมาคอยรักษาร่างเอาไว้ ป่านนี้คุณคงจะลุกออกจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ และยิ่งมาฝืนร่างกายแบบนี้.."เซบาสเตียนเริ่มจะร่ายยาวต่อว่าชิเอลอีกยก
"พอเลย หยุดพูดมากได้แล้วส่งยามา แล้วนาย ก็รีบไปทำงานที่สั่งได้แล้วไป ฉันรับปากว่าจะไม่ฝืนร่างกายจะยืนรออยู่ตรงนี้เฉยๆไม่ไปไหน พอใจหรือยัง"ชิเอลรีบพูดตัดบทไปก่อนที่จะถูกพ่อบ้านจอมจุ้นอบรมร่ายยาวอีก
"ขอรับ แค่จิบๆนะอย่ากินไปหมดทั้งขวดล่ะ"เซบาสเตียนเตือนก่อนจะยื่นขวดยาส่งให้
"รู้แล้วล่ะน่า พูดมากจริงๆเลยนายนี่ ไปทำงานได้แล้ว"ชิเอลหลับตาพูดพรางรับยามาเปิดฝาแล้วกระดกยาสีชมพูเข้าปากไปอึกสองอึก แล้วเอาฝาปิดไว้ตามเดิมก่อนจะยื่นส่งคืนให้เซบาสเตียน
"ขอรับ ไปก็ได้ขอรับ นายน้อยรออยู่นี่นะ"เซบาสเตียนตอบรับพร้อมกับเอาขวดยาสีชมพูที่ชิเอลยื่นส่งคืนให้เอามาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะคำนับทีหนึ่งแล้วหายตัววับไป.......
"อืม"ชิเอลพยักหน้าให้กับอากาศเพราะเจ้าตัวได้หายวับไปแล้วอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แค่กระพริบตาก็หายไปแล้ว
"ชิ..พอเรื่องจะหายตัวน่ะไวนัก..เจ้าบ้าเอ๊ย"ชิเอลสบทอย่างไม่สบอารมณ์ที่เจ้าอีกาหายไปเร็วมากจนเขาหงุดหงิดเล็กน้อย
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็หายตัวกลับมาปรากฎตรงหน้า เล่นทำเอาเด็กที่กำลังยืนบ่นถึงกลับสะดุ้งตกใจ
พรึบ!!!
"มาแล้วขอรับ"เซบาสเตียนทักยิ้มๆมายืนอยู่ตรงหน้าชิเอลอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"เฮือก!!"ชิเอลสะดุ้งสุดตัวเลย เพราะเขายืนรอไปแค่ไม่กี่วิเท่านั้นเอง เซบาสเตียนก็มาแล้ว อะไรจะไวปานสายฟ้าแบบนี้นะ
จากนั้นเด็กหนุ่มตาสีแดงจึงเอามือมากุมอกหายใจเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อทำใจให้สงบ
"เป็นอะไรไปขอรับ ตกใจมากเลยเหรอ หึหึหึ"เซบาสเตียนแซวยิ้มๆมองชิเอลอย่างขบขันเอ็นดู
"เปล่า..ไม่ได้ตกใจสักหน่อย"ชิเอลรีบปฎิเสธทันที หันหน้าหลบเพราะตอนนี้หน้าเริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความเขินอายที่โดนแซว เขานี่ช่างขวัญอ่อนเสียจริง
"หึหึหึ"เซบาสเตียนจึงอดขำไม่ได้ก็หน้านายน้อยตอนนี้แดงออกขนาดนั้นท่าทางจะอายไม่น้อยเลย
"ชิ..แล้วของที่ฉันให้ไปหา พบแล้วหรือไงถึงได้กลับมายืนหัวเราะเยาะฉันอยู่ได้เนี่ย"ชิเอลจิปากหลับตาถามอย่างอายๆหน้ายังแดงอยู่ไม่หายสักที
"เรียบร้อยแล้วขอรับ ยังดีที่ผมเก็บแหวนเอาไว้ในลิ้นชักมันจึงยังมีสภาพดีอยู่ไม่บุบสลาย ส่วนรูปเท่าที่หาดูมันหล่นไปใต้ซากเตียงกระจกแตกนิดหน่อยแต่รูปยังไม่มอดไหม้ขอรับ โชคดีมากๆเลย อ่ะนี่ขอรับ"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับเอาของสองสิ่งนั้นส่งให้ชิเอลไป
"งั้นเหรอ ดีมากเซบาสเตียน ทีนี้สิ่งที่เราจะทำต่อ คือ เผาซากบ้านพวกนี้ซะ อย่าให้เหลือแม้แต่ซาก"ชิเอลหันมาสั่งด้วยใจที่มุ่งมั่น
"ขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนตอบรับ ก่อนจะเดินตรงไปที่ซากบ้านแฟนท่อมไฮด์แล้วหลับตาลงยื่นแขนออกมา ท่องคาถาเรียกไฟนรกในใจ จนลูกไฟดวงเล็กปรากฏบนฝ่ามือข้างขวา ค่อยเพิ่มปริมาณพลังปีศาจมากขึ้นๆ จนลูกไฟใหญ่เท่ากับล้อเกวียนรถม้า
ชิเอลยืนหันหลังให้บ้านหลับตาลงเพื่อทำใจให้เข็มแข็ง เขาต้องไม่ใจอ่อนเด็ดขาด
"นายน้อยต้องการคำสั่งขอรับ"เซบาสเตียนหันมาร้องขอคำสั่งจากปากของชิเอล เพื่อฟังคำยืนยันในการตัดสินใจก่อนจะลงมืออีกครั้ง
"นี่คือคำสั่ง..เผาบ้านหลังนี้ซะ เซบาสเตียน!อย่าให้เหลือซาก!"ชิเอลหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมาสั่งด้วยพลังพันธะสัญญาที่แรงกล้า มือที่มีผ้าพันแผลไว้กดแหวนประจำประกูลเอาไว้แน่น อีกมือกำแผ่นรุปครอบครัวเอาไว้เช่นกัน การเผาบ้านด้วยตนเองนั้นมันบีบคั้นหัวใจเขาไม่น้อยเลย บ้านที่บรรพบุรุษของเขาร่วมกันสร้างขึ้นมา เขากลับมาทำลายมันทิ้งไปเสียเอง ถ้าวิญญาณพวกนั้นรับรู้จะเสียใจบ้างหรือเปล่านะ
"เยสมายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับดวงตาสีทับทิมเรืองแสงสว่างตอบรับคำสั่งจากพันธะสัญญา แล้วจากนั้นเขาก็ปาลูกไฟที่ใหญ่โตเท่าล้อเกวียนรถม้าใส่ซากบ้านแฟนท่อมไฮด์ไปทันที
ฟู่ ไฟนรกที่มีชีวิตค่อยๆลุกลามไปตามซากผนัง หน้าต่าง ซากประตู หลังคา และเพียงไม่นานก็เกิดเป็นห่าทะเลเพลิงปิดล้อมซากปรักหักพังนั้นมอดไหม้ไปหมดทั้งหลัง
"อืม ไม่น่าจะเกินอาทิตย์หน้าล่ะมั้งครับ"เซบาสเตียนลองคาดคะเนดู
"จริงๆเหรอ นานจังเลยเนอะกว่าดอกไม้จะบาน"ชิเอลพูดอย่างใจร้อนเขาอยากเห็นดอกไม้พวกนี้บานเร็วๆจังเลย มันคงจะสวยน่าดู
"ครับ ผมว่ากว่าดอกไม้จะบานพวกเราก็ยุ่งกันเรื่องการแข่งขันจนลืมวันไปเลยล่ะ นายน้อยพร้อมจะออกเดินทางหรือยังขอรับ"เซบาสเตียนพูดปลอบใจ แล้วชักชวนให้ออกเดินทางไปลอนดอนกันได้แล้วเดี่ยวจะเย็นจะค่ำไปซะก่อน เขาไม่อยากเจอพวกแวมไพร์มารังควาญอีกหรอก
"อืม ไปสิ "ชิเอลหันมาตอบรับแล้วดันตัวลุกขึ้นยืน เดินมาสมทบกับเซบาสเตียน โผเข้าหาให้พ่อบ้านหนุ่มอุ้มอย่างว่าง่าย
"จะบินไปหรือนั่งเรือไปขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนถามพรางรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มในอ้อนแขนเตรียมออกเดินทาง
"บินไปก็ได้ ฉันอาการดีขึ้นแล้ว แล้วถ้าเรากลับดึกให้ไปค้างที่บ้านพักตากอากาศก่อน ฉันไม่อยากเสี่ยงเจอแวมไพร์อีก"ชิเอลตัดสินใจที่จะให้เวบาสเตียนพาบินขึ้นฟ้าไป
"ได้ขอรับ "เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆแล้วจากนั้นเขาก็หลับตาลงกางปีกสีดำขึ้นมา เตรียมพาบินขึ้นฟ้าตรงไปยังใจกลางเมืองซาตานเพื่อข้ามหุบเขาออกไปจากเกาะปีศาจ เดินทางไปยังลอนดอน
แล้วจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ออกเดินทางโดยทางอากาศ เซบาเตียนพาทยานขึ้นไปบินฟ้าอย่างรวดเร็ว ชิเอลเอาแขนมาโอบกอดคอพ่อบ้านของเขาเอาไว้ให้มั่นคง เอียงหน้ามาซุกซบที่อกของชายหนุ่มหลับตาลงเพื่อผักผ่อนอย่างสบายตลอดการเดินทางสักหน่อย
"ง่วงนอนหรือขอรับ"เซบาสเตียนก้มลงมาถามผู้เป็นนาย
"อืม รู้สึกยังเพลียๆอยู่ แต่ยังไงก็ยังไหว ดาร์กชิลคงทำงานหนักมากแน่ๆช่วงนี้ ฉันจะนอนพักสักหน่อยถึงแล้วอย่าลืมปลุกล่ะเซบาสเตียน"ชิเอลพูดเสียงงัวเงียพรางค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย แล้วไม่นานก็ผลอยหลับไป
"หึ ขนาดป่วยอยู่แท้ๆยังรบจะกลับไปดูที่แฟนท่อมไฮด์อีก ก็ดี เผื่อผ่านร้านทำศพจะได้ไปขอยาจากสัปเหร่อเพิ่มซะเลย ระหว่างที่นายน้อยหลับเรียกดาร์กชิลออกมาดีกว่า"เซบาสเตียนพึมพำเบาและยิ้มอย่างขบขันเอ้นดูเด็กหนุ่มที่เขากำลงอุ้มอยู่ ขนาดป่วยยังอยากจะเดินทางไปลอนดอนอีกไม่เจียมสังขาลซะบ้างเล้ย
และจากนั้นเซบาสเตียนเรียกดาร์กชิลออกมาด้วยภาษาปีศาจ
"ดาร์กชิล ออกมาหาป๋าหน่อย"เซบาสเตียนเรียกเสียงแผ่วข้างๆหูชิเอล
แล้วฉับพลันนั้นชิเอลที่กำลังหลับซบอกของเซบาสเตียนก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"ดาร์กชิลเหรอ"เซบาสเตียนถามก่อนเพื่อความแน่ใจ
"ขอรับ ป๊ะป๋า"ดาร์กชิลตอบรับยิ้มๆ
"นายน้อยกำลังทำไรอยู่"เซบาสเตียนถามไปพรางพาบินข้ามทุ่งกว้างไปพรางจนเกือบจะเข้าสู่เขตเมืองซาตานแล้วอีกไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นเอง
"นอนขอรับ"ดาร์กชิลตอบ
"อ้อ งั้นปล่อยให้นอนไปเหอะ เรามาคุยกันต่อดีกกว่า"เซบาสเตียนบอก
"ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับ
"วันที่เจ้ากับนายน้อยจะต้องลงแข่งคืออีกสามวันโลกปีศาจ ถ้าเทียบกับโลกมนุษย์น่าจะอีกหลายเดือนทีเดียว เจ้าคิดว่า เวลาแค่นี้จะสามารถพัฒนาพลังของเจ้าได้ทันหรือเปล่าดาร์กชิล"เซบาสเตียนเกิ่นนำพูดถึงการแข่งขันขึ้นมา
"ข้าไม่ค่อยแน่ใจนักเพราะพลังของข้าจะพัฒนาก็ต่อเมื่อร่างกายของชิเอลแข็งแรงขึ้น มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของเด็กคนนั้นด้วยขอรับ ข้าไม่อาจตอบได้ว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า แต่ข้าก็จะพยายามทำให้เต็มที่ขอรับ"ดาร์กชิลในร่างชิเอลพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
"ดีมาก ส่วนเรื่องการฝึกไม่ต้องห่วงนะ ป๋าจะเริ่มฝึกให้นายน้อยพรุ่งนี้แล้วล่ะ ส่วนเจ้าก็พยายามปกปักรักษาร่างให้เด็กคนนี้พอเดินไหวหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้ก็พอ ยังพอมีเวลาอยู่ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า"เซบาสเตียนให้คำยืนยันว่าจะต้องฝึกชิเอลให้แข็งแกร่งขึ้นมาให้ได้
"ขอรับ ข้าจะพยายามถึงแม้ชิเอลแทบจะลุกจากเตียงไม่ไหวก็ตาม ข้าก็จะเข็นเขาขึ้นมาให้ได้ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับอย่างมุ่งมั่น
"อืม ขอบใจมากนะดาร์กชิล "เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเอามือลูบผมเด็กหนุ่มตาแดงเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ไม่เป็นไรมิได้ขอรับ "ดาร์กชิลพูดยิ้มๆอย่างสุภาพ
"จริงสิ เราต้องไปลงทะเบียนผู้เข้าแข่งขันกันที่โรงแรมเดม่อนวิลล่าก่อน"เซบาสเตียนพึ่งนึกขึ้นได้ ว่าจะต้องพาเด็กที่จะลงแข่งไปลงทะเบียนกรอกใบสมัครก่อนตรงสถานที่จัดงาน ซึ่งทุกๆปีต้องไปลงทพเบียนการแข่งที่สำนักงานใหญ่แห่งสมาพันธ์ปีศาจที่โรงแรมเดม่อนวิลล่า ซึ่งอยู่แถวๆใจกลางเมือซาตาน
"ขอรับ จะให้ปลุกชิเอลมัยขอรับ"ดาร์กชิลถามเสียงเรียบ
"ไม่ต้อง การแข่งครั้งนี้ขอใช้ชื่อของเจ้าแทนแล้วกัน เพราะป๋าไม่อยากให้ใครรู้ชื่อของนายน้อย เพราะยิ่งมีคนรู้จักเด็กคนนั้นก็จะยิ่งมีอันตราย"เซบาสเตียนตอบ เขายังกังวลเรื่องปีศาจที่เป็นตัวการใหญ่ของคดีลักพาตัวเด็ก เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าซีโร่เป็นปีศาจและยิ่งตอนนี้พวกลูกน้องของมันถูกปล่อยออกมาแล้ว พวกมันจะต้องบอกเจ้านายใหญ่ของมันแน่ๆว่าถูกจับเพราะใคร และเด็กคนนั้นก็อาจจะถูกเพ่งเล็งก็ได้
"เรื่องของปีศาจที่จับตัวชิเอลไปงั้นหรือขอรับ ที่ทำให้ท่านกังวลใจ"ดาร์กชิลถามเพื่อความแน่ใจ เขาเป็นเด็กฉลาด เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชิเอล เขามองเห็นอดีตและอนาคตของเด็กคนนั้น แต่เขาไม่อยากเปิดเผยความลับของชะตากรรมให้ใครรู้มากนัก
"ใช่แล้ว เพราะตอนนี้พวกลูกน้องที่ป๋าจับมันเข้าคุกถูกช่วยออกมาหมด หากพวกมันส่งข่าวมาบอกตัวหัวหน้า นายน้อยอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้นะ"เซบาสเตียนพยักหน้า พรางหันมามองดาร์กชิลอย่างชื่นชมในความรวบรู้ทันเหตุการณ์ สมกับเป็นปีศาจน้อยของเขาจริงๆ
"ถ้าอย่างงั้นการแข่งขันในครั้งนี้ พวกข้าจะต้องอำพรางตัวงั้นสินะขอรับ"ดาร์กชิลเสนอความเห็นขึ้นมา
"ใช่แล้วล่ะ ดังนั้นเวลาแข่งอย่าให้ใครเห็นหน้าพวกเจ้าเป็นอันขาด เพราะป๋าเชื่อว่า ต้องมีซีโร่อยู่ในงานการแข่งขันแน่ๆ ดังนั้นพวกเจ้าต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี "เซบาสเตียนเตือนอย่างห่วงใย
"ขอรับ ข้าจะคอยเตือนให้ชิเอลคอยระมัดระวังตัวขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับยิ้มๆ
"ดีมากดาร์กชิล เอาหล่ะ เดี่ยวผ่านทุ่งนี่ไปไม่กี่กิโลเราก็จะถึงเมืองซาตานแล้วล่ะ จับให้แน่นๆนะจะเร่งความเร็วแล้ว"เซบาสเตียนบอกก่อนจะทำการเร่งสปีทความเร็วในการบิน เพื่อไปให้ถึงเมืองซาตานอย่างรวดเร็ว
และเพียงไม่นานในที่สุดเซบาสเตียนก็พาดาร์กชิลในร่างชิเอลมาถึงที่หมาย นั่นคือหน้าประตูทางเข้าโรงแรมเดม่อนวิลล่า ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ระดับห้าดาวที่มีแต่พวกมีอันจะกินมาเช่าห้องพักหรือจัดให้เป็นสถานที่การประลองดาบ
เซบาสเตียนปล่อยตัวดาร์กชิลลงแล้วคว้าแขนมาจูงมือพาเดินเข้าไปในโรงแรม เข้าไปยังห้องแกรนบอลลูน ซึ่งด้านหน้ามีโต๊ะยาวสีขาว และมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่สองสามคน เพื่อต้อนรับสำหรับการลงทะเบียนขอเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งหลายปีทีแล้วพวกเขาจัดงานกันที่โลกปีศาจ พึ่งมีไม่นานมานี้ที่เริ่มมาจัดงานกันที่โลกมนุษย์
พอเจ้าหน้าที่เห็นชายหนุ่มเดินจูงมือเด็กหนุ่มวัยรุ่นเข้ามา จึงมาต้อนรับทันที
"พาลูกมาสมัครลงแข่งการประลองดาบใช่มัยขอรับ เชิญทางนี้เลยขอรับ"เจ้าหน้าที่ต้อนรับพูดอย่างสุภาพ พรางผายมือเชื้อเชิญให้เซบาสเตียนกับดาร์กชิลในร่างชิเอล เดินตรงไปยังจุดสำหรับลงทะเบียนสมัครเข้าแข่งขัน
เซบาสเตียนกับดาร์กชิลเดินตรงมายังโต๊ะยาวที่มีเจ้าหน้าที่อีกคนเป็นปีศาจหญิงสาวผมสีดำกำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
"มาลงทะเบียนใช่มัยคะ เชิญลงชื่อตรงนี้เลยค่า ไม่ทราบว่าเด็กอายุเท่าไหร่คะ"เจ้าหน้าที่สาวผมดำถามอย่างสุภาพให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
"สิบสามย่างสิบสี่ครับ"เซบาสเตียนตอบ
"มาเขียนชื่อตรงนี้เลยจ้าหนูจ๋า"เจ้าหน้าที่สาวผมดำพุดพรางยื่นส่งปากกาขนนกจุ่มหมึกเรียบร้อยแล้ว ส่งให้เด็กหนุ่มตาสีแดงถือไว้แล้วชี้นิ้วมาวางบนกระดาษตรงตำแหน่งที่ให้เด็กเซ็นชื่อ ตรงภาษารูนที่เขียนไว้ว่า ชื่อ-สกุล
ดาร์กชิลหันมามองเซบาสเตียนเพื่อถามทางสายตาว่าจะให้เขียนนามสกุลว่าอะไร
"ดาร์กชิล แฟนท่อม"เซบาสเตียนก้มลงมากระซิบข้างๆหูเด็กหนุ่มตาสีแดงบอกนามสกุลปลอมไป
ดาร์กชิลพยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อตนเองและนามสกุลสมมุติลงไปตามที่เซบาสเตียนบอก
"เรียบร้อยแล้วค่า นี่จ้าใบสมัคร หนูอย่าลืมกรอกมาให้เรียบร้อยแล้ว วันแข่งให้เอาใบสมัครของหนูไปยื่นให้กับคณะกรรมการท่านใดท่านหนึ่งนะคะ"เจ้าหน้าที่สาวผมดำบอกยิ้มๆพร้อมกับยื่นใบสมัครมาให้เด้กหนุ่มเอากลับไปกรอกเองที่บ้านวันแข่งเอามายื่นให้คณะกรรมการด้วยตัวเอง
"ขอรับ"ดาร์กชิลตอบรับพรางยื่นมือมารับกระดาษใบสมัครแล้วเอามาอ่านๆดูว่าจะต้องกรอกอะไรลงไปบ้าง และแน่นอนแม้แต่ใบสมัครยังเป็นภาษาปีศาจเลย
นับว่าเซบาสเตียนคิดไม่ผิดจริงๆที่ให้ดาร์กชิลมาสมัครแทนชิเอลเพราะว่าเด็กคนนั้นอ่านภาษารูนไม่ออก เขียนไม่ได้ ถ้าให้มาสมัครเองคงงงเป็นไก่ตาแตกแน่ๆ
"เอาหล่ะไว้ค่อยกลับไปเขียนที่บ้านแล้วกัน เดี่ยวเราต้องไปธุระต่อ ไปกันเถอะ"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบพรางคว้าแขนดาร์กชิลมาจูงพาเดินออกไปจากโรงแรม โดยให้เด็กหนุ่มถือใบสมัครเอาไว้ก่อน
พวกเจ้าหน้าที่ก็มองดูสองพ่อลูกพากันเดินออกไปอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าพวกนั้นมาจากไหนกันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย
และพอเซบาสเตียนพาดาร์กชิลในร่างชิเอลออกมาจากโรงแรมเดม่อนวิลล่าแล้ว ชายหนุ่มก็คว้าตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มช้อนก้นพาเดินตรงไปยังหน้าวุ้มประตู ซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนการแจกใบปลิวเปลี่ยนไปแจกที่อื่นกันแล้ว เพราะผู้คนที่เคยมายืนออกันแถวๆบริเวณหน้าซุ้มต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านหรือไม่ก็ไปซื้อของหรือไปธุระตามอัธยาศัยกันหมด ไม่มีใครอยุ่แถวๆนั้นสักเท่าไหร่ รวมถึงพวกของอัลลอยที่ได้รับราชองค์การจากองค์ราชาแห่งโลกปีศาจให้มาแจกจ่ายตอนนี้ย้ายไปแจกที่อื่นกันแล้วตามแถวๆนอกเมืองเขตชนบท รอบๆเกาะปีศาจ น่าเสียดายหากขายังคงมายืนแจกอยู่ที่หน้าซุ้มก็อาจจะเจอเด็กที่เขาเฝ้าตามหามานานก็เป็นได้ น่าเสียดายจริงๆ
ดาร์กชิลเริ่มอ่อนแรงเพราะเขาพยายามฝืนเดินและใช้พลังในการเยียวยารักษาร่างของชิเอลมามากแล้ว จึงทำให้ตอนนี้เขาเพลียสุดๆเลย
"เหนื่อยเหรอดาร์กชิล สีหน้าของเจ้าไม่สู้ดีเลย"เซบาสเตียนถามอย่างแปลกใจที่เห็นสีหน้าซีดๆมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า พรางหายใจหอบๆ
"แฮ่กๆ เหนื่อยนิดหน่อยขอรับ ข้าคงฝืนใช้พลังมากเกินไป การรักษาร่างที่อ่อนแอสุดๆแบบนี้ของชิเอล ทำข้าเหนื่อยมากเลยขอรับ แฮ่กๆ"ดาร์กชิลพูดอย่างเหนื่อยล้าหายใจหอบๆพรางมุดหน้าลงกับอกของเซบาสเตียน มือที่ถือใบสมัครแทบจะไม่มีแรงจะถือแล้ว
เซบาสเตียนจึงคว้าใบสมัครมาถือเอาไว้เสียเอง พรางจับตัวดาร์กชิลในร่างชิเอลให้อยู่ในท่าอุ้มพาดบ่า เอามือลูบหลัง ลูบหัวเบาๆ ส่วนใบสมัครก็เอามาพับเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแสล็กสีดำ
"ถ้าเพลียก็หลับไปก่อน ทั้งเจ้าและนายน้อยหลับไปทั้งคู่เลยแล้วกัน กลับเข้าไปนอนในจิตของนายน้อยได้แล้วล่ะดาร์กชิล เดี่ยวไว้ถึงที่หมายแล้วป๋าจะปลุกเด็กคนนี้เอง ตอนนี้ยังไม่ต้องรักษาร่างก็ได้กลับไปนอนพักผ่อนซะ เจ้าฝืนกำลังตนเองมามากแล้ว"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบอย่างสงสารเห็นใจ เอามือลูบหัวเด็กหนุ่มเบาๆ
"ขอรับ..ป๊ะป๋า"ดาร์กชิลตอบรับก่อนจะหลับตาลงแล้วไม่นานเขาก็กลับเข้าไปนอนพักผ่อนที่ก้นบึ้งของหัวใจของชิเอล จนตอนนี้จิตของชิเอลและดาร์กชิลกำลังนอนหลับอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เพราะหลังจากที่ดาร์กชิลหลับไป เซบาสเตียนก็เอามือแตะหน้าผากสะกดให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นหลับไหลไปทันที
"หลับไปก่อนนะนายน้อย ดาร์กชิล ไว้ถึงที่หมายจะคลายมนต์สะกดให้นะ"เซบาสเตียนพึมพำเบาๆพรางถอนนิ้วออกจากหน้าผากของชิเอล
แล้วจากนั้นพอสะกดร่างของชิเอลให้หลับไปแล้วเซบาสเตียนก็จับตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มให้กระชับแล้วพากันออกไปจากซุ้มประตูสีแดง พรางกางปีกสีดำขึ้นเตรียมพาบินข้ามหุบเขาสูงเสียดฟ้าด้วยความเร็วพอสมควรไม่เร็วมากเพราะมีเด็กที่กำลังป่วยอยู่บนบ่า
และในะหว่างนั้นทางด้านชิเอลในตอนนี้กำลังนอนหลับอุตุอยู่ในก้นบึ้นของหัวใจตนเอง และมีร่างเด็กหนุ่มฝาแฝดอีกคนตาสีแดงเดินมาสมทบอยู่ใกล้ๆเด็กหนุ่มที่กำลังนอนตะแคงคว่ำหลับอยู่อย่างอ่อนเพลีย
"ขอนอนด้วยคนนะชิเอล "แล้วเด็กหนุ่มฝาแฝดตาสีแดงก็ค่อยๆทรุดตัวลงนอนหลับอยู่ที่พื้นที่ดำมืดนั้นไปอีกคนด้วยความเหนื่อยอ่อน จากการใช้พลังปีศาจเกินกำลังของตนเอง ยิ่งตอนนี้พละกำลังของเขาถดถอยลงไปมากทีเดียวเพราะเจ้าของร่างที่เขามาอาศัยอยู่นี้กำลังอ่อนแอลงมาก จนเขาแทบจะเยียวยาไม่ไหวแล้ว
ส่วนทางด้านเซบาสเตียนตอนนี้เดินทางมาลงมาจากหุบเขาแล้วกำลังจะบินผ่านทะเลสาปตรงไปยังลอนดอน
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็เดินทางมาถึงชายฝั่งท่าเรือลอนดอน ชายหนุ่มก็หาที่ลับตาคนร่อนลง แล้วอุ้มพาชิเอลเดินไปเรื่อยๆจนมาพบกับจุดให้บริการรถม้า ชายหนุ่มร่างสูงจึงยืนคอยรอรถม้ามา เขาไม่อยากจะเสี่ยงกับการพบเห็นของผู้คน จะพากันแตกตื่นนหากบินไปหรือกระโจมขึ้นหลังคาในตอนกลางวันแสกๆ
กุบ กับ กุบ กับ เสียงรถม้าแล่นตรงมาทางที่เซบาสเตียนกำลังอุ้มชิเอลพาดบ่าอยู่ดังขึ้นมาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งชายหนุ่มร่างสูงเห็นรถม้ากำลังตรงมาทางนี้จึงยื่นแขนมาโบกเรียก
กุบ กับ เอี๊ยด แล้วรถม้าก็แล่นมาจอดตรงหน้าพวกเขา ชายคนขัยหันมาถามลูกค้าในทันที
"จะไปไหนครับ"คนขับหันมาถามก่อนจะค่อยกระโดดลงจากที่นั่งคนขับเพื่อมาให้บริการเปิดประตูให้ตามมารยาท
"ไปคฤหาสถ์แฟนท่อมไฮด์ครับ"เซบาสเตียนบอกพรางจับชิเอลมาอุ้มให้กระชับ เขาตัดสินใจไปแฟนท่อมไฮด์เลยไว้ขากลับค่อยแวะร้านทำศพขอยาสีชมพูจากสัปเหร่อเพิ่ม เพราะนายน้อยจะต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าชอปปิ้งในเมืองต่ออยู่ดี
"ครับ เชิญเลยครับ"คนขับตอบรับแล้วทำการเปิดประตูตู้รถม้าให้เซบาสเตียนอุ้มชิเอลเดินขึ้นมาบนรถ แล้วชายหนุ่มร่างสูงค่อยๆวางร่างอ่อนปวกเปียกนั้นลงนอนบนเบาะในตู้รถม้า คนขับจึงค่อยปิดประตูแล้วเดินกลับไปประจำที่นั่งคนขับ แล้วใช้แส้เฆี่ยนม้าบังคับให้รถม้าแล่นไปตามทางในทันที
เซบาสเตียนจับชิเอลมานอนหนุนตักเอามือลูบไล้ที่แก้มซีดเซียวนั้นอย่างสงสารเห็นใจ เมื่อคืนพวกเขาเล่นหนักเกินไปหน่อย นายน้อยของเขาถึงได้มีอาการทรุดหนักลงแบบนี้ ขนาดดาร์กชิลยังรักษาร่างเอาไว้แทบไม่ไหว เลยเพราะตอนนี้เด็กคนนี้อ่อนแอลงมากทั้งจากความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อคืน และจากพิษไข้ที่รุมเร้า ขนาดยาบำรุงร่างกายที่ได้มาจากสัปเหร่อยังแทบจะรักษาไม่อยู่เลยจะให้กินบ่อยๆก็ไม่ดี ต้องรอเวลาสักหน่อยแล้วค่อยให้กินต่อจนกว่าจะหายป่วยนั้นแหละ
"นายน้อย ไว้ถึงแฟนท่อมไฮด์แล้วผมจะปลุกนะขอรับ นอนพักไปก่อนนะ"เซบาสเตียนก้มลงมาพูดเสียงแผ่วเอามือลูบไล้เส้นผสสีอความารีนอย่างอ่อนโยนไปมาเบาๆ แล้วเงยหน้าหันไปมองดูวิวทิวทัศน์ข้างนอก ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆแล้วและดูเหมือนว่าหิมะเริ่มจะตกมาอีกครั้ง อากาศรายรอบจึงทวีความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น
"หือ..อากาสเย็นมากขึ้นแล้วสิ นายน้อยคงจะทนไม่ไหวสินะขอรับ มาเอาเสื้อของผมไปห่มก่อนจะได้อุ่นๆ อีกหลายชั่วโมงเลยกว่าจะไปถึงแฟนท่อมไฮด์ พักผ่อนให้เต็มที่เลยนะขอรับ ไว้ถึงเมื่อไหร่ผมจะปลุกคุณเอง"เซบาสเตียนพึมพำเบาๆพรางปลดเสื้อคลุมพ่อบ้านออกมาคลุมตัวห่มให้เด็กตัวรุมๆที่กำลังนอนหนุนตักอยู่อย่างห่วงใย สำหรับพ่อบ้านอย่างเขาน่ะอากาศหนาวแค่นี้น่ะทนได้อยู่แล้วคนที่น่าห่วงคือนายน้อยที่ยังป่วยของเขาต่างหาก
เซบาสเตียนก็นั่งเอามือลูบหัวลูบหลังชิเอลไป สายตาก็มองดูวิวข้างนอกไปเรื่อยๆ บางทีก็นั่งหลับตา รอจนกว่ารถม้าจะไปถึงที่หมาย
จนกระทั่งหลายชั่วโมงต่อมา
ฮี๊ๆๆๆๆๆๆ เสียงม้าร้องพร้อมทั้งล้อเลื่อนของรถม้าก็ชะลอความเร็วลง ช้าลงเรื่อยๆจนกระทั่งหยุดจอดสนิท บ่งบอกว่าพวกเซบาสเตียนกับชิเอลได้มาถึงหน้าประตูรั้วเข้าสู่คฤหาสถ์หลังใหญ่ที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรกับซากปรักหักพังผนังไหม้เป็นแถบจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
"ถึงแล้วครับ"คนขับรถม้าเดินมาเปิดประตูแล้วเชื้อเชิญให้ผู้โดยสารทั้งสองลงจากรถได้แล้ว
เซบาสเตียนเอามือแตะที่หน้าผากเพื่อปลุกนายน้อยของเขาให้ตื่นขึ้น
"ตื่นได้แล้วขอรับนายน้อยถึงแล้วครับ"เซบาสเตียนพูดพรางถอนนิ้วออกจากหน้าผากที่ยังร้อนๆอยู่ของชิเอลเบาๆและนั่งรอให้เด็กหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นมา
"อืม"ชิเอลร้องครางเบาๆพรางเอามือมาขยี้ตาแล้วค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพตรงหน้าจากที่เรือนลางค่อยเด่นชัดขึ้น ชัดขึ้นจนเห็นใบหน้าของพ่อบ้านหนุ่มตาสีทับทิมสวยจ้องมองมาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"นายน้อย"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ
"เซบาสเตียน.."ชิเอลเรียกเสียงแผ่วอย่างอ่อนเพลียจากพิษไข้
"ขอรับ^^"เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆ
"นายขังฉันทำไมเนี่ย ฉันแค่เผลอหลับไปหน่อยเดียว แค่กๆ แค่กๆ เล่นมาสะกดให้หลับโดยไม่บอกกันสักคำ แค่กๆ!! แล้วดาร์กชิลทำอะไรร่างของฉันหรือเปล่า บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!! แค่ก แค่กๆ"ชิเอลโวยใส่อย่างไม่พอใจ แล้วก็ไอโขลกๆจ้องมองหน้าพ่อบ้านของเขาไม่ลดละด้วยความโมโห
"แหม ใจเย็นๆสินายน้อย ผมก็แค่อยากให้คุณได้พักผ่อนให้เต้มที่จะได้หายป่วยไวๆไง และที่ผมให้ดาร์กชิลออกมาเพราะจะพาเขาไปเอาใบสมัคร ตกลงผมใช้ชื่อดาร์กชิลในการลงแข่งนะครับ"เซบาสเตียนพยายามประนีประนอมให้ชิเอลใจเย็นๆลง
"ทำไม แค่ก แค่ก!!"ชิเอลขึ้นเสียงถลึงตาถามและก็ไอโขลกๆเพราะใช้เสียงมากเกินไปเลยเริ่มเจ็บคอขึ้นมาอีกจนได้
"อย่าใช้เสียงมากสินายน้อย เดี๋ยวคอเจ็บหรอก ดูซิเนี่ยไอโขลกๆเลย ไปหาหมอก่อนดีกว่ามัยขอรับ"เซบาสเตียนไม่ใส่ใจจะตอบคำถามมัวแต่ห่วงเรื่องอาการป่วยของนายน้อยมากกว่า
"ไม่ต้อง !! แค่ก แค่กๆ"ชิเอลตวาดใส่ และก็ไอโขลกไม่หยุด
เซบาสเตียนขมวดคิ้วมุ่นอย่างกลัดกลุ้มใจกับเด็กของเขาเหลือเกิน ชอบฝืนสังขาลทำอะไรเกินกำลังอยู่เรื่อยเลย ทั้งๆที่เจ็บคอจะแย่ยังจะตะโกนอีก น่าจับฉีดยาสักเข็มจริงๆ
"ฉันถามทำไมไม่ตอบ แค่กๆๆ"ชิเอลตะเบงเสียงถามทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แท้ๆ จะตะเบงเสียงทำไมไม่รู้ -*-
"นี่ถ้านายน้อยยังขืนตะเบงเสียงใส่ผมจนคอเจ็บอีกละก็.. ผมจะพาไปโรงพยาบาลไปให้หมอจับฉีดยาให้เข็ดเลย ดีมัยขอรับ"เซบาสเตียนหรี่ตาพูดข่มขู่จะพาชิเอลไปฉีดยาที่โรงพยาบาล
"อุบ อืม อืม"ชิเอลรีบเอามือปิดปากส่ายหน้ารัวๆทันที กลัวโดนจับฉีดยา
"ถ้างั้นก็ควรสงบปากสงบคำ อย่าพยายามใช้เสียงให้มากจะดีกว่านะขอรับ ส่วนเรื่องดาร์กชิลที่ผมเรียกให้ออกมาแทนคุณเพราะว่า... "เซบาสเตียนกำลังจะตอบแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนขับเร่งให้ออกไปจากรถ
"นี่อย่ามัวคุยกันอยุ่สิคุณ ผมกำลังรีบนะ เดี่ยวต้องกลับไปหาผู้โดยสารคนอื่นๆต่อ ไม่ได้ว่างเหมือนพวกคุณนะครับ"คนขับพูดอย่างไม่สบอารมณ์ อุตส่าห์มาเปิดประตูให้และยังไม่รีบออกมากันอีก เขาต้องไปหาลูกค้าคนอื่นๆต่อนะ
"อ้อ...ครับ..ขออภัยที่ทำให้เสียเวลา มานายน้อย..."เซบาสเตียนหันมาบอกคนขับอย่างเกรงใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นแขนตรงมาคว้าตัวชิเอลมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนและพาลงบันไดรถม้า ปล่อยตัวเด็กหนุ่มลงมายืนที่พื้นหน้ารั้วคฤหาสถ์แฟนท่อมไฮด์ แล้วตนก็หันไปจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับที่ดูท่าทางจะร้อนรนอยากจะไปหาลูกค้าคนอื่นๆจนตัวสั่นอยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน คนขับก็เดินไปนั่งประจำที่ด้านหน้าและใช้แส้หวดใส่ม้า ให้แล่นออกไปจากหน้ารั้วแฟนท่อมไฮด์ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากซากปรักหักพัง ชิเอลถึงกลับยืนตลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้าของเขา
"นี่มัน..อะไรกันเนี่ย..ทำไมบ้านของฉันถึงได้...!!! 0_0!!."ชิเอลถึงกลับครางออกมาเสียงแผ่ว เดินไปดูสภาพบ้านของตนเองใกล้ๆด้วยความตกใจแทบช๊อก ทั้งๆที่เขาเคยคิดว่าจะทำใจได้หากมาเห็นสภาพบ้านตนเองเป็นแบบนี้ นี่เขาจากบ้านหลังนี้ไปอยู่ที่บ้านเซบาสเตียนได้แค่ไม่กี่วันเอง ยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ
"นายน้อย..ทำใจดีๆไว้นะครับ..ถึงบ้านจะไหม้ไปแล้วแต่ก็ยังสามารถทำให้เหมือนเดิมได้นะ ผมจะซ่อมแซมให้เองมันจะได้กลับมาเหมือนใหม่เลยดีมัยครับ"เซบาสเตียนพยายามปลอบพรางดึงตัวมาโอบไหล่แล้วเอาหัวซบลงกับสีข้างของตน ลูบหัวเบาๆ
"ไม่ต้อง แค่กๆ ปล่อยมันไปแบบนี้แหละ เซบาสเตียน แค่กๆ เปิดประตูสิ"ชิเอลพูดด้วยเสียงเยือกเย็นสลับกับไอโขลกๆ
"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับก่อนะจเดินตรงไปยังรั้วเหล็กหน้าบ้านแล้วทำการปลดล๊อกกุญแจจากโซ่ที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาคล้องล๊อกเอาไว้จนขาดสะบั้น
ป๊อก แคร๊ง!!!! เสียงสายโซ่ที่คล้องประตูรั้วเอาไว้ถูกตัดจนขาดจนล่วงหล่นลงมาบนพื้น จากนั้นพ่อบ้านหนุ่มจึงใช้มือผลักบานประตูรั้วให้เปิดอ้าออกอย่างรวดเร็ว
"เชิญขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนผายมือเชื้อเชิญพร้อมกับยื่นมือส่งมาให้ชิเอลจับพยุงตัวพาเดินเข้ามาภายในบริเวณหน้าคฤหารถ์ ที่แทบจะไม่เหลือซากมีแต่เศษไม้ เศษหินที่ไหม้ไฟ และขี้เถ้าเต็มไปหมด
เด็กหนุ่มเอาแต่เหม่อมองดูสภาพบ้านนั้นตาค้างนิ่งอึ้งไปอย่างตกตลึงกับภาพที่เห็น บ้านที่เขาเคยอยู่กับพ่อแม่ บ้านที่เขาเคยอยุ่กับเหล่าคนใช้แฟนท่อมไฮด์ บัดนี้มันกลับถุกเพลิงเผาพลาญจนวอดวายไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้เลยนอกจากซากปรักหักพังและไหม้ไฟไปแบบนี้
"นายน้อย..นายน้อยขอรับเป็นอะไรหรือเปล่า"เซบาสเตียนพยายามเรียก แต่เรียกอยู่หลายครั้งชิเอลก็ไม่ตอบรับเลย เอาแต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้นเหม่อมองดูสภาพบ้านตนเองด้วยความตะลึงลาน
"นายน้อยขอรับ "เซบาสเตียนจึงเอามือมาเขย่าๆที่ไหล่เพื่อเรียกสติ
"อ่ะ.อะไร"ชิเอลสะดุ้งแล้วหันมาถามคนเขย่าไหล่เขาอย่างตกใจ
"นายน้อยเป็นอะไรไปหรือเปล่าขอรับ ทำไมท่าทางเหม่อๆ แล้วนี่เดินไหวเหรอให้ผมอุ้มดีกว่ามัยขอรับ"เซบาสเตียนพูดอย่างห่วงใย เอามือมาลูบหัวชิเอลเบาๆ
"ไม่ต้อง ฉันจะเดินไปเอง ฉันไม่เป็นอะไร"ชิเอลพูดเสียงเรียบพรางปัดมือของเซบาสเตียนออกจากหัวของตน แล้วเดินนำพ่อบ้าหนุ่มเข้าไปข้างในคฤหาสถ์ เพื่อดูว่าของสำคัญของเขายังอยู่ดีหรือเปล่า หรือมอดไหม้ไปกับเพลิงเผาผลาญไปสิ้นแล้ว
"นายน้อย..รอก่อนขอรับ ข้างในมันอันตราย ระวังคานไม้หล่นมาทับนะขอรับ"เซบาสเตียนร้องเรียกก่อนจะเดินตามเด็กหนุ่มเข้าไปข้างในซากปรักหักพังนั้น ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆคานไม้ที่ไหม้ไฟจดแห้งกรอบก็หล่นลงมา
"นายน้อยระวัง!!"เซบาสเตียนร้องลั่นอย่างตกใจรีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนชิเอลลากตัวให้ถอยหลังออกมาก่อนที่ คานไม้จะหล่นลงมาทับ!
"เฮือก!! แฮ่กๆ"ชิเอลถึงกลับสะดุ้งสุดตัวหายใจหอบแฮ่กๆตาเบิกโผลง หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ เกือบไปแล้วหากเซบาสเตียนไม่มาคว้าแขนลากตัวกลับออกมาได้ทันมีหวังโดนไม้หนักๆหล่นมาทับแบนแน่ๆ
"เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ บาดเจ็บตรงไหนมัย"เซบาสเตียนถามพรางย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเอามือมาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าให้ชิเอล และจับตัวพลิกไปพลิกมาสำรวจตรวจตราร่างกายดูว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่าอย่างห่วงใย
"มะไม่เป็นอะไร แค่กๆ ปล่อย..ฉันจะเข้าไปข้างใน"ชิเอลพูดปฎิเสธอย่างดื้อดึง ทั้งที่ยังไอโขลกไม่หยุดยังจะเข้าไปในที่ๆที่มีแต่เขม่าควันและฝุ่นจับเขลอะอยู่อีก
"นายน้อยต้องการอะไรบอกผมมาเลยดีกว่า เดี่ยวจะเข้าไปเอามาให้ ในนั้นมีแต่ฝุ่นและเขม่าควันคุณจะเข้าไปทำไมขอรับ"เซบาสเตียนจึงอาสาจะเข้าไปหาของในบ้านแฟนท่อมไฮด์ให้ เพราะหากปล่อยให้เด็กของเขาเข้าไปในบ้านอาจได้รับอันตรายอีกก็ได้
"ไม่ต้อง แค่ก แค่ก ฉันอยากจะเข้าไปเอง ก็แค่สำรวจดูนิดหน่อย"ชิเอลพูดอย่างดื้อดึงปฎิเสธไมตรีของพ่อบ้านหนุ่ม แล้วทำท่าจะเดินไปต่อ
"บ้านของคุณกลายเป็นซากปรักหักพังแบบนี้ ยังจะมีอะไรให้สำรวจงั้นหรือขอรับ "เซบาสเตียนถามเขม่นมองเด็กดื้ออย่างไม่สบอารมณ์คอยเดินตามมาไม่ห่างไปไหน
"นี่มันเรื่องของฉันนายไม่เกี่ยว ปล่อยแขนฉันเดี่ยวนี้ เซบาสเตียน แค่ก แค่ก ฉันจะเข้าไปดูภายในบ้าน"ชิเอลหันมาสั่งเสียงแหบไอโขลกๆ พยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมืออันแข็งแกร่งของเซบาสเตียนให้ปล่อยเขา เขาอยากเดินสำรวจบ้านและจะเข้าไปเอาของสำคัญด้วยตัวเอง
"จะไม่เกี่ยวได้ยังไงขอรับ คุณเป็นนายน้อยของผม ความปลอดภัยของเจ้านายถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นพ่อบ้านซึ่งจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกไม่ใช่หรือขอรับ"เซบาสเตียนโต้แย้งเสียงเรียบ
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า แค่กๆ ปล่อยแขนฉันได้แล้ว"ชิเอลยังคงยืนกรานจะเข้าไปสำรวจภายในบ้านให้ได้
"แล้วถ้าหากเข้าไปเดินดุ่มๆไปชนนั่นนี่ หรือคานไม้หล่นมาทับอีกจะทำยังไงขอรับ ซากพวกนี้มันเปราะมากนะหากเกิดการสั่นสะเทือนหรือมีการขยับเคลื่อนไหวไม่ระมัดระวังจะทำให้หักพังหล่นลงมาได้นะขอรับ"เซบาสเตียนพูดเตือนด้วยความหวังดี
"ชิ รู้แล้วล่ะน่า ฉันจะคอยระวัง นายตามฉันมาก็แล้วกัน นายมีหน้าที่คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ฉัน ตามมาเหอะน่าอย่ามาพูดมาก นี่คือคำสั่ง"ชิเอลหันมาสั่งอย่างเผด็จการ ตอนนี้เขาพอจะทำใจได้บ้างแล้วเพราะถึงยังไงสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไปแล้วตั้งแต่เขาตัดสินใจตามเซบาสเตียนไปอยู่ที่เมืองซาตาน ที่นี่ก็แค่สถานที่แห่งความทรงจำที่แสนเจ็บปวด และเป็นสถานที่ที่ทำให้เขายืนหยัดขึ้นสู้ต่อชะตากรรมตนเอง ทั้งความโศกเศร้า ความแค้น ความเข็มแข็ง และความหวัง รวมทั้งความสุขที่เคยได้รับจากเหล่าคนรับใช้ทั้งสี่ มันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่เขาไม่อาจลืมไปได้ง่ายๆเท่านั้น
"เฮ้อ...ก็ได้ขอรับ เชิญขอรับ"เซบาสเตียนถอนใจอย่างเหนื่อยใจแต่ก็ยอมตามใจนายน้อยของเขาอยู่ดี ก็เด็กคนนี้มันดื้อห้ามไม่ฟังนี่นา หากเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องคอยช่วยอยู่แล้วล่ะ
และชิเอลก็เดินนำเซบาสเตียนตรงไปยังบันไดทางขึ้นซึ่งมีสภาพผุแทบจะพังแหล่ไม่พังแหล่ แล้วหลับตาเดินขึ้นบันไดไปอย่างไม่แยแสกับสภาพของบันได แต่ทว่า
พอก้าวขาขึ้นบันไดไปแค่สองสามขั้น จู่ๆบันไดที่ก็หัก เปาะลงมา
"เหวอ!!!"ชิเอลถึงกลับตกใจร้องเสียงหลง ขาข้างหนึ่งของตนเกิดตกพรวดลงไปที่ร่องบันไดตรงบริเวณที่หักครึ่ง จนตัวเกือบหล่นลงไปที่ใต้บันได
"นายน้อย!!"เซบาสเตียนร้องเรียกอย่างตกใจรีบคว้าคอเสื้อดึงกระชากยกตัวขึ้นมาจากร่องบันไดก่อนที่เด็กของเขาจะหล่นตามไปพร้อมกับซากบันไดที่หักครึ่งที่แตกกลายเป็นเศษไม้ไปอย่างรวดเร็ว
"ไหนบอกว่าจะระวังไงขอรับ"เซบาสเตียนพูดเสียงดุ พรางจับเปลี่ยนท่าจากหิ้วคอเสื้อมาเป็นอุ้มไว้ในอ้อนแขน พรางกระโดนเหยียบซากบันไดที่ผุพัง เหยียบตรงไหนก็หักพังตรงนั้นราวกับเป็นกับดักก็ไม่ปาน กระโจมขึ้นมายังระเบียงชั้นบนได้อย่างกับนินจาเลยทีเดียว
"กะ ก็ใครจะไปนึกว่าบันไดมันจะผุขนาดนี้ เกือบไปแล้ว..แฮ่กๆ"ชิเอลหลับตาพูดโตแย้งเสียงแผ่วๆ หายใจหอบแฮ่กๆด้วยความตื่นตระหนก พรางหันไปมองดูสภาพบันไดซึ่งในตอนนี้มันพังหมดทลายหมดไม่มีขั้นบันไดเอาไว้สำหรับเวลาลงอีกแล้ว
"ขอรับเกือบไปแล้ว และดูเหมือนว่าเราจะลงบันไดแบบคนปกติไม่ได้แล้วด้วยสิ มันพังไปหมดเลย แล้วถ้านายน้อยเกิดตกลงไปนี่คออาจหักได้นะขอรับ เฮ้อ -*- นี่มันบ้านของคุณหรือกับดักกันแน่ล่ะเนี่ย ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ"เซบาสเตียนพูดอย่างเหนื่อยใจ ที่สภาพบ้านแฟนท่อมไฮด์ในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างไปจากกับดักที่หุบเขาดิวอี้เลยทีเดียว เหยียบตรงไหนก็ล่วงตรงนั้น หากพ่อบ้านหนุ่มทรงตัวกลางอากาศไม่ได้ล่ะก็คงจะแย่ไปเหมือนกัน
"ช่างบันไดมันก่อนเหอะน่า พาฉันไปที่ห้องนอนทีสิ"ชิเอลตัดสินใจยอมให้เซบาสเตียนอุ้มพาไปดีกว่า ขืนเดินเองมีหวังหล่นตุบลงไปใต้บ้านแน่ๆ
"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับพรางพาชิเอลกึ่งเดิน กึ่งกระโดด ไปตามทาง พื้นบ้านผุเกือบหมด เหยียบตรงไหนพังตรงนั้น บางทีคานไม้ก็หล่นลงมาใส่ จนต้องพากันกระโดดหลบซากไม้ที่หล่นลงมาจากเพดานด้านบน บางทีก็เจอกองเศษอิฐ เศษหินขวางทางเข้าประตู ปิดทางเข้าออก จนชายหนุ่มต้องใช้พลังระเบิดเศษหินให้เปิดทางออก สภาพบ้านพังยับเยินจนแทบจะดูไม่ออกเลยว่ามันเคยเป็นคฤหาสถ์ที่สวยงาม ไฟนรกของเจ้าปีศาจร่างใหญ่นั้นรุนแรงกว่าไฟธรรมดามันสามารถเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ พังพินาศไปได้ในเวลาอันรวดเร็วและน้ำธรรมดาไม่อาจดับได้ด้วย พวกนักดับเพลิงหรือชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟคงหมดปัญญาจะดับเลยปล่อยให้ไฟไหม้บ้านหลังนี้จนวอดเกือบหมดทั้งหลังไปตามยะถากรรมโดยที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้อีกแล้วแน่ๆ สภาพบ้านถึงได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแบบนี้
"นี่มันห้องบ้าอะไรเนี่ย แค่ก แค่ก"ชิเอลร้องถามอย่างตกตลึงกับสภาพห้องนอนตนเองที่มันพังจนแทบจำไม่ได้ เตียงนอนหักพังจนเป็นเศษไม้ ฟูกไหม้เป็นตอตะโก พื้นเต้มไปด้วยเขม่าควันและเศษกำแพง โต๊ะเขียนหนังสือที่แตกหัก ถูกหินจากเพดานหล่นมาทับจนแหลกเป็นชิ้นๆ โต๊ะข้างเตียงก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน
"ดูเหมือนเจ้าเบิ่มนั้นจะทำลายบ้านนายน้อยได้สำเร็จสินะขอรับ ดูสิ แม้แต่เพดานก็แทบไม่เหลือ แล้วก็คงจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วล่ะมั้ง......"เซบาสเตียนพูดหยอกเย้า
"หุบปาก ปล่อยฉันลงได้แล้วเซบาสเตียน"ชิเอลพูดอย่างไม่สบอารมณ์
"ขอรับ"เซบาสเตียนจึงสงบปากสงบคำแล้วปล่อยชิเอลลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นเขม่าควันและเศษอิฐเศษหินลงทันที แล้วหันมายิ้มให้เขาก็แค่แซวเล่นเอง
พอชิเอลถูกปล่อยตัวลงเขาก็เดินตรงไปแถวๆซากเตียงแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆก้มตัวลงหยิบเศษหิน เศษอิฐออกไปทีละก้อนสองก้อน เพื่อค้นหาอะไรบางอย่างตามพื้น
"นายน้อย นั่นคุณกำลังทำอะไรน่ะครับ"เซบาสเตียนถามมองชิเอลอย่างสงสัย
"......"ชิเอลไม่ตอบเขายังคงก้มหน้าก้มตาขุดคุ้ยหาอะไรบางอย่างตามเศษอิฐเศษหิน อย่างคลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติ
"นายน้อย ต้องการจะหาอะไรงั้นหรือขอรับ"เซบาสเตียนไม่ยอมแพ้ถามใหม่อีกครั้ง
"....แฮ่ก แฮ่ก.."ชิเอลไม่ตอบแต่การขุดคุ้ยทำให้เด็กที่กำลังป่วยอยู่ถึงกลับเหนื่อยหอบ เหงื่อออกโทรมกาย มือไม้ถลอกปอกเปิก จากการถูกคมหิน คมอิฐบาดมือเอา ยิ่งพยายามขุดคุ้ยหยิบยกเศษหินเศษอิฐออกไปมากขึ้นเท่าไหร่มือของเด็กหนุ่มก็เริ่มมีบาดแผลเลือดไหลซิบๆมากขึ้นเท่านั้น จนชายหนุ่มที่กำลังยืนมองดูการกระทำอันบ้าคลั่งขาดสตินั่นอยู่ใกล้ๆจึงอดสงสารไม่ได้
"นายน้อย!!พอก่อนเถอะ คุณทำอะไรของคุณน่ะ ดูซิมือเป็นแผลถลอกเลือดออกหมดแล้วนะขอรับ หยุด!"เซบาสเตียนร้องห้ามพรางคว้าจับยึดข้อมือที่ถูกหินครูดบาดจนเลือดออกเอาไว้ทั้งสองมือไว้แน่นไม่ยอมให้เด็กคนนี้ฝืนสังขาลตนเองขุดคุ้ยกองอิฐกองหินให้มือเป็นแผลไปมากกว่านี้
"ปล่อยนะ!! แฮ่ก ๆ ปล่อย!! "ชิเอลร้องลั่นหายใจหอบพยายามแข็งขืนดึงมือของตนให้หลุดจากการจับกุมของพ่อบ้านหนุ่มให้ได้
"ไม่ปล่อยขอรับ นายน้อยทำบ้าอะไรของคุณกันน่ะ จะหาอะไรบอกผมสิ !!"เซบาสเตียนพูดเสียงดุจับยึดแขนชิเอลเอาไว้แน่น
"แฮ่ก แฮ่ก"ชิเอลหายใจหอบน้ำตาคลอ ทั้งเจ็บใจและเจ็บกาย พยายามทำใจให้สงบให้ได้
"หาอะไรขอรับ"เซบาสเตียนถามเสียงเรียบอย่างใจเย็นจ้องหน้าชิเอลเขม็งเพื่อคาดคั้นให้ตอบคำถามเขาให้ได้
"ปละเปล่า "ชิเอลตอบปฎิเสธหันหน้าหนี หลับตาลงพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ไม่ได้หาอะไรแล้วทำไมถึงมานั่งขุดคุ้ยกองอิฐพวกนี้อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยล่ะครับ ดูสิ เลือดออกเต็มมือเลย มาผมรักษาให้"เซบาสเตียนถามพรางเอามือชิเอลมาใกล้ๆปากตนเองทำท่าจะเลียเลือดรักษาบาดแผลให้
"อย่า!!มันสกปรก ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละเดี่ยวแผลก็หายไปเอง"ชิเอลสะบัดดึงมือที่เลือดไหลซิบๆหนีเขาไม่อยากให้เซบาสเตียนมาเลียแผลให้เขาเพราะมือเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกจากซากอิฐซากหินและเขม่าควัน
"เฮ้อ..นายน้อยนี่ก็..จริงๆเลยน้า จะหาอะไรทำไมไม่บอกผมล่ะ จะฝืนสังขาลตัวเองไปถึงไหน ยิ่งคุณทำแบบนี้ร่างกายอ่อนแอลง ดาร์กชิลจะยิ่งแย่ไปด้วยนะขอรับ"เซบาสเตียนดุว่าอย่างไม่สบอารมณ์
"ชิ เป็นห่วงเจ้าเด็กปีศาจนั่นมากนักหรือไง"ชิเอลพูดอย่างไม่พอใจเชิดหน้าใส่พรางกระชากดึงมือของตนออกจากมือของพ่อบ้านหนุ่มอย่างแรง
"ผมก็ห่วงทั้งคู่นั่นแหละ ทั้งนายน้อย และดาร์กชิล ต่างก็เป็นคนสำคัญของผมทั้งคู่"เซบาสเตียนบอกอย่างใจเย็นพยายามยื้อยุดมือชิเอลมาทำแผลให้ได้
"ชิ"ชิเอลทำเป็นจิปากหันหน้าหนี แล้วพยายามจะก้มตัวลงขุดคุ้ยหาของบางอย่างใต้กองซากอิฐซากหินต่อ
"นายน้อยผมว่าคุณไปหาน้ำมาล้างแผลก่อนดีกว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณทรุดหนักลง ดาร์กชิลคงเยียวยาบาดแผลให้คุณไม่ไหวแน่ๆแผลอาจจะสมานตัวช้ากว่าปกตินะขอรับ ผมคิดว่าตรงสวนหลังบ้านมีก๊อกน้ำอยู่ไม่น่าจะไหม้ไฟไปด้วยล่ะมั้ง ส่วนของที่คุณจะหาปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเอง
" เซบาสเตียนพูดเหลี่ยกล่อมพยายามดึงตัวชิเอลลากออกมาจากซากอิฐซากหินเพื่อพาไปล้างทำความสะอาดมือ
"ไม่ อย่ามายุ่งได้มัย นี่มันเรื่องของฉัน"ชิเอลพูดอย่างดื้อดึง พยายามจะฝืนตัวลงไปขุดคุ้ยหาของที่พื้นต่อให้ได้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจบาดแผลที่มือตนเองเลยแม้แต่น้อย ในใจตอนนี้กำลังร้อนรนจะค้นหาของสำคัญที่ถูกลืมทิ้งไว้ที่นี่ให้ได้ เขาได้แต่หวังว่ามันจะยังอยู่ดีไม่บุบสลายหรือไหม้ไฟไปเสียก่อนนะ
"หึ "เซบาสเตียนเริ่มเหลืออดกับความดื้อรั้นของชิเอลจึงตัดสินใจคว้าจับรวบเอวเด็กดื้อที่ไม่เจียมสังขาลขึ้นมาอุ้มช้อนก้นพาออกไปจากบ้านโดยกระโดดลงไปทางหน้าต่างที่ชั้นสอง ล่อนลงมาอย่างรวดเร็ว
"เหวอ!!เซบาสเตียน ปล่อยนะ ปล่อยเซ่ แค่กๆๆๆๆ"ชิเอลร้องโวยลั่นจนเสียงแหบคอเจ็บไอโขลกๆไม่หยุดเลย
"จะให้ปล่อยจริงๆน่ะเหรอนี่มันชั้นสอง ตกลงไปขาหักไม่รุ้ด้วยนะขอรับ"เซบาสเตียนเตือนเสียงดุ
"ชิ"ชิเอลจิปากก้มลงไปมองข้างล่างอย่างหวาดเสียว พรางเอาแขนโอบกอดคอคนอุ้มเอาไว้แน่นกลัวถูกปล่อยให้ตกลงไปขาแข้งหักไปจริงๆ
แล้วเซบาสเตียนก็พาชิเอลล้อนลงมาถึงพื้นได้อย่างนุ่มนวล พ่อบ้านหนุ่มพาตรงมายังก๊อกน้ำหลังสวนที่ยังคงใช้การได้อยู่ยังไม่ถูกไฟนรกเผาผลาญไป
"มาล้างแผลก่อนนะขอรับ ดูสิถลอกปอกเปิกหมดแล้ว แถมยังไม่ยอมสมานตัวอีก ท่าทางดาร์กชิลจะแย่แล้วนะขอรับ "เซบาสเตียนพูดพรางคว้ามือชิเอลมาล้างที่ก๊อกน้ำเย็นเชียบ
"อึ่ก สะแสบ!!"ชิเอลร้องโวยน้ำตาคลอ หลับตาปี๋ด้วยความแสบแผลที่ถูกน้ำเย็นๆชะล้างอย่างต่อเนื่องแถมยังไม่วายถูกมือของเซบาสเตียนมาถูๆที่แผลซ้ำไปอีก
"ไม่ต้องมาบ่นเลยนะขอรับ จะค้นหาอะไรทำไมถึงไม่ยอมบอก และดูซิแผลไม่ยอมสมานตัวแบบนี้ หากไม่รีบทำความสะอาดแผลอาจจะเป็นพิษติดเชื้อได้นะขอรับ ทำอะไรไม่รู้จักคิดอีกแล้วคุณนี่"เซบาสเตียนดุไปพรางเอามือมาถูล้างมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของชิเอลไปพราง
"โอ๊ย แสบ แสบ!! อย่าเอามือมาถูล้างแผลของฉันได้มัย มันแสบ!อึ่ก!"ชิเอลกัดฟันพูดด้วยความแสบแผลร้องห้ามไม่ให้เซบาสเตียนมาถูที่แผลของเขาเพราะยิ่งทำมันยิ่งทำให้เขาแสบสุดๆจนน้ำตาล่วงเลยทีเดียว
"ให้ตายสิ ตั้งนานแล้วทำไมบาดแผลของนายน้อยยังไม่ยอมสมานตัวสักทีนะ หรือพลังของดาร์กชิลมีไม่พอจะเยียวยารักษาแผลให้แล้วล่ะเนี่ย"เซบาสเตียนพูดอย่างกังวล มือก็ยังคงถูๆล้างคราบเลือดออกจากบาดแผลของชิเอลไปพรางด้วยน้ำเย็นๆจากก๊อกนั่นแหละ
"อา....จะยังไงก็แล้วแต่อย่ามาถูแผลของฉันได้มัย มันแสบ และที่ฉันจะค้นหาอะไรมันเรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่งเลย"ชิเอลร้องคราง พยายามกัดฟันพูดด้วยความเจ็บแสบและไม่สบอารมณ์ที่พ่อบ้านจอมจุ้นมายุ่งวุ่นวายกับแผลที่มือของเขาจนแสบไปหมดเลย เขาไม่แยแสกับบาดแผลแค่นั้นหรอกถ้าหากว่าจะสามารถค้นหาของที่เขาต้องการเจอล่ะก็
"ถ้าผมไม่ยุ่งป่านนี้คงเป็นลมสลบคาพื้นหรือไม่ก็คงเลือดไหลไปหมดตัวแล้วน่ะสิ ตกลงคุณหาอะไรกันแน่ขอรับ นี่ถ้าไม่ยอมตอบอีก ผมจะพินิจใจคุณแล้วล่ะนะ"เซบาสเตียนพูดอย่างดุๆยิ่งเจ็บยิ่งถูที่แผลแรงๆให้เจ็บแสบซะบ้าง ถือเป็นการสั่งสอนเด็กดื้อที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด ไปในตัว
"โอ๊ย!!แสบ อย่า..พอแล้วเซบาสเตียน!ปล่อยนะ แสบ!"ชิเอลร้องลั่นดิ้นพลาดๆเหมือนปลาโดนน้ำร้อนลวก พยายามชักมือหนีมือแกร่งของพ่อบ้านจอมจุ้นให้ได้
"บอกผมมาว่าต้องการจะค้นหาอะไรที่ห้องนอนของคุณหรือขอรับ แหวนหรือว่า อะไร ถ้าไม่ยอมตอบนี่ผมจะบีบแผลทรมานให้เข็ดเลย"เซบาสเตียนถามคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ นี่ถ้าชิเอลไม่ยอมตอบเขาจะบีบแผลให้ร้องลั่นเลยคอยดู
"รูปถ่ายของครอบครัว ป่านนี้มันคงมอดไหม้ไปหมดแล้วล่ะมั้ง ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะยังอยู่ดี แต่ว่า.."ชิเอลจึงหลับตาลงยอมบอกในสิ่งที่ตนต้องการให้เซบาสเตียนรับรู้ เพราะถึงยังไงก็คงจะปิดเจ้าอีกานี่ไม่ได้อยู่ดี
"แค่รูปถ่ายครอบครัวอย่างเดียวหรือครับ แล้วแหวนประจำตระกูลแฟนท่อมไฮด์ล่ะ ไม่ต้องการอีกแล้วหรือขอรับ"เซบาสเตียนถามเพื่อความแน่ใจพรางเอาผ้าเช็ดหน้าของตนมาห่อพันมือให้ชิเอลไปพรางเพราะตอนนี้บาดแผลไม่มีทีท่าจะสมานตัวเลย
"ฉัน..ไม่รู้..ถ้านายหาเจอก็เอามาด้วยแล้วกัน ฉันจะรออยู่ที่นี่ เร็วๆด้วยล่ะ ข้างนอกอากาศเย็นมาก ฉันอยากจะไปจากที่นี่เร็วๆแล้วล่ะ"ชิเอลส่ายหน้าอย่างไม่แน่ใจว่าจะยังคงเก็บแหวนต้องคำสาปนั้นเอาไว้อีกดีมัย แหวนวงนั้นทำให้เขาได้พบกับเซบาสเตียนและคนใช้แฟนท่อมไฮด์ ได้เจอแต่สิ่งเลวร้ายและการสูญเสีย ได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนตายที่ร้องโหยหวนในยามที่เขานอนหลับ และฝันถึง ได้เห็นภาพที่แสนเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความแค้นชิงชัง ยิ่งเขาได้คิดถึงแหวนวงนั้นความทรงจำที่เลวร้ายต่างๆก็หวนกลับมาอีกครั้ง เหมือนแผ่นฟิมล์ที่เล่นกรอกลับไปกลับมา
"นายน้อย..นายน้อยขอรับ เป็นอะไรไปหรือเปล่า"เซบาสเตียนเรียกเตือนสติเพราะตอนนี้ชิเอลเกิดยืนนิ่งเหม่อลอยหวนกลับไปคิดถึงอดีตของตนเองที่เจ็บปวดนั้นอีก
"ฉันไม่เป็นอะไร รีบไปหามาให้เจอแล้วกัน จากนั้นก็เผาบ้านหลังนี้ทิ้งซะอย่าให้เหลือแม้แต่ซาก เราไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านหลังนี้อีกแล้ว"ชิเอลหันหลังพูดด้วยความเด็ดเดี่ยว
"เห..แต่ว่า.."เซบาสเตียนถึงกลับเบิกตากว้างคาดไม่ถึงว่านายน้อยจะสั่งให้เผาทำลายล้างบ้านตัวเองไม่ให้เหลือแม้แต่ซากเนี่ยนะ
"ทำตามที่สั่ง ฉันตัดสินใจแล้วเซบาสเตียน ฉันจะสร้างแฟนท่อมไฮด์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยมือของฉันเอง ในฐานะที่ฉันเป็นผู้นำแห่งแฟนท่อมไฮด์ ฉันจะทำให้แฟนท่อมไฮด์กลับมารุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่าผู้นำในรุ่นก่อนๆ ให้ได้ ถึงแม้สิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ไม่ได้นี่จริงมัย เซบาสเตียน"ชิเอลพูดด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นเข็มแข็ง ดวงตาสีแดงคมกล้าแน่วแน่มั่นคง
เซบาสเตียนมองชิเอลอย่างตลึง ก่อนจะยิ้มให้อย่างชื่นชมยินดี ดูเหมือนนายน้อยของเขาเริ่มจะเติบโตขึ้นมาบ้างแล้วสินะ
"เยส มายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับด้วยท่าทีจริงจัง ย่อตัวลงคุกเข่าหนึ่งข้างแล้วคว้ามือที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้ของนายน้อยมากุมและจูบที่หลังมือนั่นเบาๆ
"เอาหล่ะไปหาของมาได้แล้ว ฉันจะรออยู่ที่นี่"ชิเอลสั่งเสียงเรียบ ดูเหมือนตอนนี้เขาจะหายไอขึ้นมาบ้างแล้ว ดูท่ายาสีชมพูจะออกฤทธิ์เต็มที่ อาการป่วยค่อยๆทุเลาลงอย่างช้าๆ
"อ่า ก่อนไป ดื่มยานี่ก่อนนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดตัดสินใจให้ชิเอลกินยาชูกำลังขวดสีชมพูก่อนจะได้แข็งแรงเร็วๆ
"ยังไม่ครบหกชั่วโมงเลย กินได้เหรอ เดี่ยวเกิดกินเกินขนาดจะทำยังไง"ชิเอลถามมองดูขวดยาสีชมพูในมือของเซบาสเตียนอย่างไม่มั่นใจ
"แค่จิบนิดหน่อยคงไม่เป็นไรมั้งขอรับ อ่ะเอาไปดื่มก่อน พลังปีศาจของดาร์กชิลจะได้มีกำลังพอจะเยียวยารักษาร่างของคุณต่อได้อีกหน่อย และคุณก็ช่วยยืนรอผมอยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหน หรือ ตามผมเข้าไปข้างในเด็ดขาด นายน้อยจะต้องไม่ฝืนสังขาลตนเองไปมากกว่านี้แล้วนะขอรับ ถ้าไม่เห็นกับร่างกายตนเองก็เห็นแก่ปีศาจน้อยของผมหน่อยเถอะ เขาจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป" เซบาสเตียนพูดย้ำเตือนด้วยความห่วงใย
"ชิ ปีศาจน้อยของผมอย่างงั้น ดาร์กชิลอย่างนี้ ตั้งแต่พอรู้ว่าฉันมีปีศาจสิงอยู่ในตัว ดูเหมือนว่านายจะเห่อเด็กคนนั้นมากมายเหลือเกินนะ ใช่ซี่ ก็เจ้าเด็กนั้นมันเป็นลูกของนายนี่"ชิเอลพูดแขวะใส่อย่างไม่พอใจนิดหน่อย ก็เขาไม่ชอบให้เซบาสเตียนไปสนใจคนอื่นมากกว่าเขานี่นา ถึงแม้จะเป็นปีศาจที่หน้าตาเหมือนตัวเองก็เถอะแต่เจ้าเด็กนั้นก็ไม่ใช่เขาอยู่ดี
"โถ่นายน้อยอย่ามาแขวะกันสิครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้นมากไปกว่าความเป็นพ่อลูกเลยนะ ผมก็ห่วงทั้งสองคนนั่นแหละ อย่าลืมสิขอรับหากไม่ได้เด็กคนนั้นมาคอยรักษาร่างเอาไว้ ป่านนี้คุณคงจะลุกออกจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ และยิ่งมาฝืนร่างกายแบบนี้.."เซบาสเตียนเริ่มจะร่ายยาวต่อว่าชิเอลอีกยก
"พอเลย หยุดพูดมากได้แล้วส่งยามา แล้วนาย ก็รีบไปทำงานที่สั่งได้แล้วไป ฉันรับปากว่าจะไม่ฝืนร่างกายจะยืนรออยู่ตรงนี้เฉยๆไม่ไปไหน พอใจหรือยัง"ชิเอลรีบพูดตัดบทไปก่อนที่จะถูกพ่อบ้านจอมจุ้นอบรมร่ายยาวอีก
"ขอรับ แค่จิบๆนะอย่ากินไปหมดทั้งขวดล่ะ"เซบาสเตียนเตือนก่อนจะยื่นขวดยาส่งให้
"รู้แล้วล่ะน่า พูดมากจริงๆเลยนายนี่ ไปทำงานได้แล้ว"ชิเอลหลับตาพูดพรางรับยามาเปิดฝาแล้วกระดกยาสีชมพูเข้าปากไปอึกสองอึก แล้วเอาฝาปิดไว้ตามเดิมก่อนจะยื่นส่งคืนให้เซบาสเตียน
"ขอรับ ไปก็ได้ขอรับ นายน้อยรออยู่นี่นะ"เซบาสเตียนตอบรับพร้อมกับเอาขวดยาสีชมพูที่ชิเอลยื่นส่งคืนให้เอามาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะคำนับทีหนึ่งแล้วหายตัววับไป.......
"อืม"ชิเอลพยักหน้าให้กับอากาศเพราะเจ้าตัวได้หายวับไปแล้วอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แค่กระพริบตาก็หายไปแล้ว
"ชิ..พอเรื่องจะหายตัวน่ะไวนัก..เจ้าบ้าเอ๊ย"ชิเอลสบทอย่างไม่สบอารมณ์ที่เจ้าอีกาหายไปเร็วมากจนเขาหงุดหงิดเล็กน้อย
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็หายตัวกลับมาปรากฎตรงหน้า เล่นทำเอาเด็กที่กำลังยืนบ่นถึงกลับสะดุ้งตกใจ
พรึบ!!!
"มาแล้วขอรับ"เซบาสเตียนทักยิ้มๆมายืนอยู่ตรงหน้าชิเอลอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"เฮือก!!"ชิเอลสะดุ้งสุดตัวเลย เพราะเขายืนรอไปแค่ไม่กี่วิเท่านั้นเอง เซบาสเตียนก็มาแล้ว อะไรจะไวปานสายฟ้าแบบนี้นะ
จากนั้นเด็กหนุ่มตาสีแดงจึงเอามือมากุมอกหายใจเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อทำใจให้สงบ
"เป็นอะไรไปขอรับ ตกใจมากเลยเหรอ หึหึหึ"เซบาสเตียนแซวยิ้มๆมองชิเอลอย่างขบขันเอ็นดู
"เปล่า..ไม่ได้ตกใจสักหน่อย"ชิเอลรีบปฎิเสธทันที หันหน้าหลบเพราะตอนนี้หน้าเริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความเขินอายที่โดนแซว เขานี่ช่างขวัญอ่อนเสียจริง
"หึหึหึ"เซบาสเตียนจึงอดขำไม่ได้ก็หน้านายน้อยตอนนี้แดงออกขนาดนั้นท่าทางจะอายไม่น้อยเลย
"ชิ..แล้วของที่ฉันให้ไปหา พบแล้วหรือไงถึงได้กลับมายืนหัวเราะเยาะฉันอยู่ได้เนี่ย"ชิเอลจิปากหลับตาถามอย่างอายๆหน้ายังแดงอยู่ไม่หายสักที
"เรียบร้อยแล้วขอรับ ยังดีที่ผมเก็บแหวนเอาไว้ในลิ้นชักมันจึงยังมีสภาพดีอยู่ไม่บุบสลาย ส่วนรูปเท่าที่หาดูมันหล่นไปใต้ซากเตียงกระจกแตกนิดหน่อยแต่รูปยังไม่มอดไหม้ขอรับ โชคดีมากๆเลย อ่ะนี่ขอรับ"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับเอาของสองสิ่งนั้นส่งให้ชิเอลไป
"งั้นเหรอ ดีมากเซบาสเตียน ทีนี้สิ่งที่เราจะทำต่อ คือ เผาซากบ้านพวกนี้ซะ อย่าให้เหลือแม้แต่ซาก"ชิเอลหันมาสั่งด้วยใจที่มุ่งมั่น
"ขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนตอบรับ ก่อนจะเดินตรงไปที่ซากบ้านแฟนท่อมไฮด์แล้วหลับตาลงยื่นแขนออกมา ท่องคาถาเรียกไฟนรกในใจ จนลูกไฟดวงเล็กปรากฏบนฝ่ามือข้างขวา ค่อยเพิ่มปริมาณพลังปีศาจมากขึ้นๆ จนลูกไฟใหญ่เท่ากับล้อเกวียนรถม้า
ชิเอลยืนหันหลังให้บ้านหลับตาลงเพื่อทำใจให้เข็มแข็ง เขาต้องไม่ใจอ่อนเด็ดขาด
"นายน้อยต้องการคำสั่งขอรับ"เซบาสเตียนหันมาร้องขอคำสั่งจากปากของชิเอล เพื่อฟังคำยืนยันในการตัดสินใจก่อนจะลงมืออีกครั้ง
"นี่คือคำสั่ง..เผาบ้านหลังนี้ซะ เซบาสเตียน!อย่าให้เหลือซาก!"ชิเอลหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมาสั่งด้วยพลังพันธะสัญญาที่แรงกล้า มือที่มีผ้าพันแผลไว้กดแหวนประจำประกูลเอาไว้แน่น อีกมือกำแผ่นรุปครอบครัวเอาไว้เช่นกัน การเผาบ้านด้วยตนเองนั้นมันบีบคั้นหัวใจเขาไม่น้อยเลย บ้านที่บรรพบุรุษของเขาร่วมกันสร้างขึ้นมา เขากลับมาทำลายมันทิ้งไปเสียเอง ถ้าวิญญาณพวกนั้นรับรู้จะเสียใจบ้างหรือเปล่านะ
"เยสมายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับดวงตาสีทับทิมเรืองแสงสว่างตอบรับคำสั่งจากพันธะสัญญา แล้วจากนั้นเขาก็ปาลูกไฟที่ใหญ่โตเท่าล้อเกวียนรถม้าใส่ซากบ้านแฟนท่อมไฮด์ไปทันที
ฟู่ ไฟนรกที่มีชีวิตค่อยๆลุกลามไปตามซากผนัง หน้าต่าง ซากประตู หลังคา และเพียงไม่นานก็เกิดเป็นห่าทะเลเพลิงปิดล้อมซากปรักหักพังนั้นมอดไหม้ไปหมดทั้งหลัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ