ทางแยกหัวใจ
เขียนโดย ppparepoly
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.44 น.
แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
29) อย่าทำให้รัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ใครจะไปรู้กับพี่สองคนเล่า แต่พี่ฟางร้องไห้หนักมากเสียงดังด้วย จนเฟย์สร่างเมาเลยทีเดียว ต้องไปแบกพี่ฟางกลับมากับกบน้อยเนี่ย”เฟย์พูดให้ฟัง
“อ่าว สงสัยจะเมาเกินไปจริงๆแหละ แต่ทุกทีที่เมาก็แค่ขำนี่นา”ฟางได้แต่นั่งคิด เพราะทุกครั้งที่เธอเมาเธอมักจะหัวเราะจนหลับไปทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ร้องไห้งั้นเหรอ เธอจะร้องไห้ทำไมกัน
“นั่นสิ เฟย์ถึงว่ามีอะไรกันหรือเปล่า พี่ฟางไม่เคยเป็นแบบนี้สักหน่อย”เฟย์มองฟางอย่างจับผิด “มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกเฟย์หรือเปล่า”
ปี๊นๆๆ
“ไม่มีย่ะ เรื่องหัวใจก็เฉยๆ ไปเรียนล่ะจินนี่มารับล่ะ ไปก่อนนะเฟย์ อย่าดื้อกับเขื่อนหล่ะ” ฟางพูดจบก็คว้าก็เป๋าแล้วรีบไปขึ้นรถทันที
“วันนี้มาตรงเวลานะคุณหนูจินนี่ แกกินอะไรหรือยังอ่ะ”ฟางขึ้นรถเสร็จก็ถามจินนี่ขึ้น
“เรียบร้อยแล้ว วันนี้คุณแม่ทำโจ๊กให้ทานแต่เช้าเลยแหละ แกกับไอ้ป๊อปเป็นยังไงบ้างอ่า ดีกันไม่เห็นบอกฉันเลย”จินนี่ถามขึ้น
“อื้ม ป๊อปเค้ามาขอโอกาสจากฉัน แต่นี่คือครั้งสุดท้ายจริงๆแล้วนะที่ฉันจะให้โอกาสอ่า ตอนนี้ป๊อปถึงปารีสแล้วแหละ ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะแต่ฉันเตรียมใจทุกอย่างไว้แล้วเว้ยฉันโอเค ป๊อปไปแค่สามเดือนเองสบายมากเลย”ฟางตอบจินนี่อย่างยิ้มแย้ม เพราะจินนี่เหนื่อยกับเรื่องของเธอมามากพอแล้ว
“ถ้าแกสบายใจฉันก็โอเคเว้ย ดูแลตัวเองดีๆนะแก ฉันเป็นห่วงไม่ไหวก็เลิกเลย โอเคป่ะ ไม่ต้องฝืน” จินนี่ขับรถไปพูดไป
“โอเคเว้ย ขอบใจมากๆนะตลอดเวลาที่มีปัญหาแกดีกับฉันตลอดเลย ขอบใจมากจริงๆนะ”ฟางขอบคุณจากใจ ในความคิดของเธอจินนี่เป็นที่ปรึกษาที่ดีแล้วยังรู้ใจเธออีกต่างหาก คำว่า คุณหนูไม่เอาไหน อย่างที่ใครเค้าว่าไม่เห็นเข้ากับจินนี่สักนิด
“ก็แกเป็นเพื่อนฉันนี่ แกเป็นคนดีมากเลยนะฟาง ดีซะจนฉันเป็นห่วงแก หัดมองโลกสมดุลบ้างนะ มองโลกในแง่ดีเกินไปก็ทำร้ายตัวเองได้เหมือนกัน ถึงล่ะ ดูสิ่พ้อยยืนหน้าหงิกเชียว ตั้งแต่วันแรกของการเปิดเรียนจนคาบสุดท้ายหน้านางก็เหมือนเดิม สงสัยจะเกลียดวิชานี้จริงจังหว่ะ”จินนี่จอดรถแล้วชี้ให้ดูพ้อย ที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ไอ้พลอยยย ยืนทำหน้าเป็นปลาดุกเชียว นี่แค่มาส่งงานนะเว้ย ดูทำหน้าเข้า”ฟางลงจากรถแล้วเดินไปทักพ้อยที่หน้าคณะ
“โอ้ยย คือมาเรียนก็แย่อยู่แล้ว นี่คือระมาแค่ส่งงานให้ถ่อมาตั้งไกล ง่วงก็ง่วงอ่ะแก”พ้อยงอแงใส่ฟาง
“หน่าๆ มาส่งงานแปบเดียวเอง เนอะจินนี่เนอะๆเสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปเที่ยว”ฟางเข้าไปกอดคอพ้อยแล้วดึงแขนจินนี่ให้ขึ้นตึกตาม
“อ้าวโมะ มีเรียนเช้าเหรอ”จินนี่เห็นโทโมะเดินผ่านก็ทักขึ้น ฟางรีบหยุดเดินแล้วหันกลับมาทันที
“อื้ม เพิ่งเลิกเรียนอ่ะ แล้วจินนี่มีเรียนเช้าเหรอ”โทโมะถามกลับ เค้าพยายามโฟกัสเพียงแค่หน้าของจินนี่ โดยไม่สนใจฟางที่ยืนยิ้มให้เค้าเลยสักนิด
“ป่าวอ่ะ มาส่งรายงานเฉยๆจบคลาสหมดแล้วแหละ นี่ก็อีกวิชาส่งเสร็จก็ปิดคลาสสอบพอดีเลย”จินนี่ยิ้มกว้างให้โทโมะ
“โอเค ไว้เจอกันนะ โมะไปล่ะ บายๆจินนี่ บายๆ”โทโมะส่งยิ้มแล้วโบกมือให้จินนี่ ก่อนจะหันกลับมาโบกมือลาให้พ้อยแล้วเดินไป ฟางได้แต่มองตามแผ่นหลังของโทโมะไปจนพ้นตึกคณะ โทโมะไม่ทักไม่มองไม่ยิ้มไม่เล่นกับเธอเลยสักนิด มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“ฟาง! ไปได้แล้วจะได้รีบกลับ”พ้อยกระตุกแขนฟางให้เดินตาม ฟางได้แต่เดินตามไปด้วยความเหม่อลอย ทำไมโทโมะถึงเฉยชากับเธอนักนะมันต้องมีอะไรแน่ๆเลย
“ฟาง แกเป็นอะไรหรือเปล่าอ่า เหม่ออยู่ได้”จินนี่สังเกตว่าฟางเหม่อก็ถามขึ้น
“แกฉันฝากส่งงานหน่อยสิ พอดีมีธุระอ่า กลับกันเลยนะไม่ต้องรอ ฝากด้วยนะ บายๆ” ฟางยัดรายงานใส่มือพ้อยแล้วรีบวิ่งไปทันที
“อ้าว ฟาง ฟาง ไอ้ฟางจะรีบไปไหนวะ”พ้อยตะโกนเรียกฟางที่ดูรีบร้อนวิ่งออกไป
“เคลียร์ปัญหาหัวใจมั้ง ไปส่งงานกันป่ะ”จินนี่มองตามหน้านิ่งๆ สายตาของเธอที่มองฟางกลับยากเกินคาดเดา ไม่ต้องคาดคั้นหรือถามฟาง เธอก็พอจะมองออกว่ามันน่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
“อยู่ไหนของเค้านะ”ฟางที่วิ่งออกมาจากตึกคณะ ก็วิ่งตามหาโทโมะ ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่ เธอวิ่งหาจนทั่วบริเวณสวนรอบคณะก็ยังไม่เจอ หรือว่าจะกลับไปแล้ว เธอจึงควักไอโฟนกดโทรหาโทโมะ แต่เค้าก็ตัดสายทิ้ง
“เอ้า ตัดสายทิ้งทำไมเนี่ย”ฟางกดโทรหาอีกครั้ง พลางกวาดสายตามองหารอบๆ เธอวิ่งตามหาเค้าจนทั่วแต่ก็ไม่พบเลย แม้กระทั่งที่ที่เค้าและเธอชอบติวกัน ฟางกดโทรไปวิ่งไป จนเห็นโทโมะยืนอยู่ที่สะพานข้ามไปเกาะกลางน้ำของมหาลัย เค้ากำลังยืนถือมือถือนิ่งๆและก้มลงตัดสายเธออย่างไม่ไยดี ฟางเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งไปที่สะพานกลางน้ำทันที
“ทำไมไม่รับสายแฮ่กๆ ”ฟางพูดขึ้นด้วยความเหนื่อยหอบจากการที่เที่ยววิ่งตามหาเค้าซะทั่ว สองใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ให้ตายสิ เธอโทรหาเค้าแต่เค้ากลับตัดสายทิ้งซะงั้น เธอยืนรอคำตอบแต่ก็ไร้การตอบรับจากคนตรงหน้า เค้ากลับยืนนิ่งๆสบายๆแบบเดิม
“โทโมะ ไม่ได้ยินหรืองัย ฟางถามว่าทำไมไม่รับสายแฮ่กๆ” ฟางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหงื่อตนเองพลางๆ เพื่อรอคำตอบจากโทโมะ แต่เค้ากลับทำเหมือนคำถามของเธอเป็นแค่ลม แล้วเดินหนีเธออีก
“เฮ้! จะไปไหนกัน ฉันเที่ยวตามหานายซะทั่ว โทรหาก็ไม่รับ เป็นอะไร”ฟางกระชับกระเป๋าสะพายให้แนบลำตัว และก้าวตามโทโมะที่เดินเร็วโดยไม่สนใจขาสั้นๆของเธอเลยสักนิด
“โทโมะโกรธอะไรฟาง” ฟางเดินตามไปพูดไป ความจริงเธอก็ไม่ใช่คนที่ขี้เซ้าซี้อะไร แต่เธอไม่รู้จริงๆว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมโทโมะต้องเดินหนีเธอ
“โมะ!! เป็นอะไรก็พูดสิ่ มาเดินหนีแบบนี้ทำไม”ฟางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นและไปหยุดอยู่ตรงหน้าเค้า โทโมะกลับหันหลังไปอีก
“โทโมะ!!!” ฟางจับโทโมะให้หันมาเผชิญหน้ากับเธอ และล็อคตัวไว้เพื่อไม่ให้เค้าหนี
“เลิกเซ้าซี้สักทีได้มั้ย!!!” โทโมะตะคอกเสียงใส่ฟาง จนฟางตกใจ สายตาโทโมะที่มองฟางเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ฟางใจหายกับแววตาคู่นั้นไม่น้อยเลยทีเดียว
“นายเป็นอะไรของนาย ทำไมต้องตะคอกฉันด้วยล่ะ”ฟางมองด้วยความไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอทำอะไรผิดกัน
“เธอจำไม่ได้เหรอว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น”โทโมะถามฟาง สายตาเค้าคาดคั้นคำตอบจากเธอว่าเธอจะตอบว่าอะไร เมื่อคืนมันคืออะไร ตั้งแต่เมื่อคืนเค้าก็ยังไม่ได้นอน เพราะสิ่งที่ฟางทำมันทำให้เค้าคิดไปไกลว่าฟางหึงเค้า แต่ฟางจะมาสนใจเค้าทำไมในเมื่อฟางก็มีป๊อปอยู่แล้ว ที่จินนี่พูดมันก็จริง
“ฉันจำไม่ได้อ่ะ ฉันเมา ว่าแต่ถ้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจฉันขอโทษนะ อย่าโกรธฉันเลยนะๆ”ฟางเข้าไปเกาะแขนอ้อนโทโมะ เมื่อคืนเธออาจจะเผลอแกล้งเค้าแรงๆก็ได้ แต่โทโมะกลับสะบัดหน้าหนีเธอ
“ฟางฉันว่าเธอกลับไปเหอะ”เค้าพูดขึ้นอย่างหัวเสีย รู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวยังไงยังงั้น ไม่รู้สึกตัวที่ทำ เค้ามันตัวอะไรกันแน่
“ฉันทำอะไรผิดนายก็บอกสิ่ โกรธอะไร” ฟางจับมือโทโมะไว้
“ฟางอาจไม่รู้สึกตัวนะที่ทำ แต่มันทำร้ายจิตใจคนคนนึงมากเลยรู้มั้ย เมื่อคืนเธอทำเหมือนหึงฉันกับจินนี่แล้วเธอก็ดึงฉันเข้าไปจูบ เธอต้องการอะไรเหรอปั่นหัวฉันเล่นหรืออะไรงั้นวันหลังเวลาจะทำอะไรก็ช่วยมีสติตลอด 24 ชั่วโมงด้วยนะ จะได้ไม่ต้องไปทำร้ายจิตใจใครเค้าอีก ”โทโมะแกะมือฟางออก แล้วหันหลังเดินหนี
“เดี๋ยวสิ เดี๋ยวยังพูดไม่รู้เรื่องเลย นายช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ย”ฟางที่ยังไม่หายหอบก็ยังวิ่งตามเค้าอีก เธอพยายามเช็ดเหงื่อแล้วปรับสายตาให้มองโทโมะได้ถนัด เพราะตาเธอตอนนี้พร่ามัวเหลือเกิน
“หลบไปฟาง แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก” โทโมะกัดฟันพูด และผลักไหล่ฟางให้หลบไป เค้าพยายามควบคุมอารมณ์โกรธเสียใจเอาไว้ เค้าจะตัดใจจากฟางและไม่มายุ่งกับเธออีก เธอหลบสายตาที่เอาเรื่องของเค้า แล้วหลบทางให้ โทโมะเดินผ่านหน้าไปอย่างไม่ไยดี
“ไหนนายบอกว่าจะไม่ทิ้งฉันงัย”ฟางพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ศรีษะ สายตาของเธอตอนนี้เริ่มมองภาพข้างหน้าไม่ชัดเลยสักนิด ฟางรีบหันไปหาโทโมะแล้วพยายามเพ่งสายตามากขึ้น โทโมะเดินออกไปไกลแค่ไหนไม่รู้ เธอเอื้อมมือจะไปจับราวสะพานเพื่อเป็นหลักไม่ให้เธอล้ม แต่เธอก็หน้ามืดหมดแรงไป ไม่รู้ว่าจะมีใครมาเห็นหรือเปล่า โทโมะจะหันหลังกลับมาไหม แต่เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
ครืดๆ POPPY Facetime…
ไอโฟนในมือฟางสั่นเรียกสติเธอ เธอพยายามฝืนลืมตามองไอโฟนในมือ ก็เห็นชื่อคนรักของเธอขึ้นมา
“ป๊อป…”เธอตะโกนเรียกชื่อเค้าแต่เสียงกลับไม่ออกมาสักนิด ไอโฟนหล่นจากมือของฟางพร้อมสติของเธอที่ดับวูบไป หรือบางทีการที่เธอพยายามฝืนเพื่อยืนอยู่ต่อนั้นมันจะไม่มีความหมายสำหรับใครสักคนจริงๆ….
อ่านกันด้วยน้า
***จะ 30 ตอนแล้ว ขอบคุณแฟนๆฟิค อย่างพี่ๆ mintmathuros,Natticha, oneto3 พี่ๆสามคนที่คอยมาเม้นฟิคให้ตลอดเลย ไม่มีใครอ่านอย่างน้อยก็มีพี่ๆสามคน ถ้าถามว่ายอดเม้นยอดโหวตมันสำคัญมั้ย สำหรับเรามันก็สำคัญนะ เข้าใจว่าเราควรมีความสุขกับการแต่งฟิค แต่เราก็อยากได้กำลังใจบ้าง ตอนนี้เราเลิกหวังแล้วแหละ ขอบคุณพี่ๆสามคนจากใจนะคะ ทุกครั้งที่อัพก็รอนะถ้าพวกพี่เม้น เราก็จะรีบมาอัพเลย เราจะอัพให้จบนะคะ ขอบคุณที่ติดตามแล้วก็เม้นอยู่เสมอๆ ขอบคุณนักอ่านเงา เรารู้ว่าฟิคไม่ค่อยสนุก ก็พยายามแก้นะแต่มันก็ยังไม่สนุกอ่ะ 555 ยังไงจะรีบตัดตอนอัพให้จบ ฝันดีจ้า ***
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ