[ChanBeak]-Love you only

10.0

เขียนโดย Metoric_soul

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.58 น.

  15 chapter
  14 วิจารณ์
  25.32K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 12.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14) อาหมินเปา Vs ไดโนเสาร์ - -?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Lay Part’s

 

“แน่ใจหรอว่าจะไม่ไปด้วยกัน”

 

“อย่ามาชวนฉันให้เสียเวลาเลย” ผมตอบสั้นๆระหว่างที่กำลังเก็บของในห้องประชุม ถึงวันนี้จะวันอาทิตย์ก็เถอะผมก็ยังต้องมาทำงานแล้วเจอหน้าคนที่ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร่เหมือนทุกวัน

 

“งั้นหรอ...หึๆๆ” ผมไม่สนใจเสียงหัวเราะที่เอาแต่ใจแบบนั้น ฟังแล้วบาดหูพิลึก

 

“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างนายเย็นชาได้มากกว่าฉัน”

 

“ฉันว่าฉันนิ่งได้มากกว่าที่นายคิดนะ” ผมหันไปมองค้อนร่างสง่าที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ทีนึงก่อนจะหันมาจัดการเอกสารต่อ รู้สึกรำคาญใจจังที่ต้องมาทำงานกับคนแบบนี้

 

“งั้นหรอ...” มือหนาวางทาบลงบนมือผมก่อนจะดึงขึ้นไปจูบเบาๆ

 

“งั้นเย็นนี้ไปกินข้าวกัน”

 

“ขอผ่าน ฉันมีงาน” ผมดึงมือกลับอย่างไม่ใยดีแล้วหอบเอกสารทั้งหมดออกจากห้องที่สุดจะอัดอึดนั้น มุ่งหน้ามายังห้องพักครูทันที แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับเดินสวนกับร่างนึงที่ทำให้ชะงักเล็กน้อย ก็แค่จงแดเอง ตกใจไปได้ แต่หมอนี้มาทำอะไรที่นี้

 

“สวัสดีครับรองประธาน”

 

“อืม” ผมพยักหน้าให้ทีนึงแล้วเดินเข้ามาโดยที่ไม่ได้สนใจอะไร จงแดยิ้มให้ผมทีนึงแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ มาทำอะไรกัน หรือว่าซ้อมกับพวกลู่หานกัน จริงสิ...ช่วงนี้ก็มีแต่งาน ไม่ได้คุยกันเลยทั้งๆที่แต่ก่อนสนิทกันจะตาย วันนี้มามั้ยนะ...

 

เพล้ง!

 

ลูกบอกลอยาโดนกระจกแตกแสดงว่ามาสินะ - -^ ผมเดินไปเก็บบอลลูกเดิมแล้วเดินมาที่หน้าต่างอย่าเหนื่อยใจ นี้บานที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย เฮ้อ...ชมรมนี้ไม่ได้มีความเบามือกันเลย แต่พอมองลงไปกลับไม่ใช่คนที่ผมคิดแต่เป็นมินซอกเพื่อนสนิทลู่หาน รองประธานชมรมกีฬาสินะ

 

“อ้าวอาอี้ ! โทษนะช่วยส่งบอลมาหน่อยสิ” ผมพยักหน้าเบาๆแล้วโยนบอลมินซอกพะหงกขอบคุณแล้ววิ่งกลับไปในสนาม ทำไมวันนี้ลู่หานไม่มานะ ไม่ใช่วันนี้สิ หายไปสองสามวันแล้วด้วยซ้ำ ไปไหนของเขานะ

 

............................................................................................................................

 

“ขอประทานโทษที่ต้องให้รอครับคุณหนู”

 

“ไม่เป็นไรครับ^^” ผมถอดหูฟังแล้วหันไปยิ้มให้คนขับรถของที่บ้าน ผมไม่ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์คุณหนูแสนดีหรอกนะแต่ผมไม่มีเหตุอะไรจะต้องทำหน้าบึ้งตึงแล้วเหวี่ยงวีนอย่างอารมณ์เสียเหมือนคุณหนูคนอื่นซะหน่อย ที่บ้านค่อนข้างเคร่งมากในเรื่องภาพลักษณ์ก็จริงแต่ผมมันใจว่าตัวผมเองก็เข้าอีหรอบนั้นอยู่แล้ว

 

“วันนี้คุณหนูกลับคนเดียวหรอครับ” คนขับรถยังไม่ออกรถแต่หันมาถามผม เพราะปกติผมอาจจะลากคริสมาเครียล์งานที่บ้านแล้วค่อยไปส่งที่หอ แต่วันนี้ไม่ได้มีอะไรให้ทำเพราะเป็นวันอาทิตย์...จริงด้วย

 

“ผมขอเวลาแปปนะครับ”

 

“เชิญเลยครับคุณหนู” ผมลุกพรวดออกมาแล้ววิ่งตรงมายังสนาม มินซอกยังเล่นบอลกับพวกรุ่นน้องอย่างสนุกสนาม จริงสิคนตัวสูงนั้นคงเป็นชานยอลน้องชายคริสสินะ ส่วนคนตัวเล็กนั้นคงเป็นเด็กที่ชานยอลลากเข้ามาทำงานแทนลู่หานเมื่อวานรู้สึกจะชื่อแบคฮยอน ละมั้ง

 

“มินซอก!”

 

“อ้าว อาอี้ยังไม่กลับหรอ” ร่างเล็กเข้าขั้นน่ารักตรงมาหาผมแล้วถามพร้อมรอยยิ้ม

 

“ฉันไม่เห็นลู่หานมาเลยแถมเมื่อวานยังให้แบคฮยอนทำงานแทน ลู่หานไปไหนหรอ”

 

“เอ่อ...มีอะไรกับลู่เกอหรอ”

 

“แค่เป็นห่วงน่ะ” มินซอกทำหน้าเครียดแล้วหันไปมองรุ่นน้องสองคนอย่างหาตัวช่วย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

 

“จะไม่บอกก็ได้ เดี๋ยวฉันไม่ไปถามคริสเอง”

 

“ลู่หานอยู่โรงพยาบาล”

 

“!!!” ทุกสายจ้องมองไปที่ร่างที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ผมลากสายตากลับมามองมินซอกเพราะอยากรู้ว่ามันคือความจริงรึเปล่า แต่ชานยอลกลับเดินมาคว้าบ่าร่างเล็กแล้วพยักหน้าแทน

 

“จริงครับ ลู่ฮยองอยู่โรงพยาบาล”

 

“มันเกิดอะไรขึ้น”

 

“ผมคงเล่าตอนนี้ไม่ได้หรอก” สีหน้าตึงเครียดของทุกคนทำให้ผมเชื่อทันทีว่ามันคือความจริง พอกลับมาที่รถผมก็บอกให้คุณลุงคนขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลอย่างด่วน พอมาถึงผมก็วิ่งไปถามที่เคาว์เตอร์ทันทีและเมื่อได้หมายเลขห้องและชั้นผมก็ไม่รอช้ารีบสายเท้าเดินให้เร็วที่สุดแต่ไม่ถึงขั้นวิ่ง

 

“..........” ตอนนี้ผมมาหยุดอยู่หน้าห้องตามที่พยาบาลบอก ผมควรพูดอะไรดีนะถ้าต้องเจอเพื่อนสนิทที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย หรือเรียกได้ว่าเคยสนิท ผมตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปกลับพบเพียงร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ผมไม่เคยเห็นลู่หานตอนหลับมาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะสวยงามราวกับภาพที่วาดขึ้นโดยจิตกรชั้นเอก บรรยากาศโดยรอบราวกับหยุดเคลื่อนไหวเพียงเพราะร่างที่นอนอยู่นั้นดูสง่างาม อ่อนโยน และสงบจนตัวผมเองยังค้างไปชั่วขณะ

 

“เกิดอะไรขึ้น...” มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?

........................................................................................

 

Baekhyun Part’s

 

พวกเราเลิกเล่นบอลแล้วเลือกที่จะออกมาหาอะไรทานก่อนจะไปเยี่ยมพี่ลู่ต่อ แต่ไมได้มาแค่สามคนนั้น คราวนี้อ้ายมาสี่คนเลย แถมพี่เฉินมาด้วย เพราะพี่เขามาช่วยซ้อมให้รุ่นน้องชมรมประสานเสียงจะกลับเลยก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี ส่วนพวกผมน่ะหรอ มาเล่นให้คลายเครียดเท่านั้นแหละ แต่ดันโชคร้ายที่พี่ซิ่วหมินเตะอัดหน้าต่างห้องพักครูแตกซะนี้ ดีนะที่ไม่มีครูอยู่ แต่วันนี้ดันเจอกับพี่เลย์ซะได้ ก่อนหน้านี้ที่พี่เลย์มาถามหาพี่ลู่เป็นครั้งที่ผมได้อยู่ใกล้พี่เขาขนาดนั้น จะบอกว่ารังสีความเป็นคุณหนูนี้เปล่งปลังมาก ผมเลยไม่กล้าพูดอะไรเลย

 

“จริงๆนายไม่น่าพูดตรงขนาดนั้นเลย -3-” พี่ซิ่วหมินบ่นพลางมองค้อนพี่เฉินทีนึง แต่คนถูกมองค้อนกลับหัวเราะออกมาอย่างสบายอารมณ์นั้นยิ่งกระตุ้นต่อมอารมณ์เสียของคนตัวเล็กข้างผมเข้าไปใหญ่

 

“หัวเราะอะไร คิดว่าฉันมีอารมณ์เล่นด้วยนักหรอ”

 

“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย อีกอย่างฉันจะหัวเราะอะไรมันเรื่องของฉันไม่ใช่หรอ”

 

“อ๋อนี้นายหาเรื่องฉันหรอ!!” พี่ซิ่วหมินทำท่าเหมือนแต่เข้าไปหาเรื่องผมเลยห้ามทัพไว้ก่อน

 

“ดะ....เดี๋ยวดิพี่ มาด้วยกันอย่าทะเลาะกันเลย” ผมยิ้มแห้งพลางลากสายไปตาขอความช่วยจากชานยอลแต่เหมือนร่างสูงจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยเอาแต่มองบรรยากาศย่านการค้ายามบ่ายแก่ๆอย่างเพลิดเพลิน เอิ่ม...สนใจทางนี้บ้างก็ได้นะฮะ - -*

 

“นี้ๆ ร้านนี้ผมไม่เคยไปเลย ลองไปหาไรกินกันมั้ย”

 

“ร้านนี้หรอ พี่มาบ่อยแล้วอ่ะ”

 

“อะ...อาว” ไอ้หยอยทำหน้าจ๋อยทันทีก่อนจะแกล้งทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วขี้ไปข้างหน้า

 

“แล้วร้านนั้นละ คนแน่นเชียวสงสัยของเขาดีไปกันมั้ย”

 

“ร้านนั้นที่ก็เคยแล้ว^^” ผมรู้สึกว่าพี่เฉินนิเคยไปทุกร้ายเลยนะ แล้วไหนบอกว่ามีกลับไปกินข้าวกับครอบครัวทำไมมาหาไรกินแถวนี้บ่อยจนชินแล้วละ จริงด้วย ตอนซ้อมเสร็จพี่เขาชอบแยกออกมาคนเดียวนิ ชอบแนวสันโดษสินะ งั้นก็เข้ากับพี่ซิ่วหมินได้ยากแล้วแหละเพราะคนละสไตล์เลย - -^

 

“งั้นร้านไหนที่พี่ยังไม่เคยละ”

 

“อืม....” พี่เฉินทำหน้าครุกคิดกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะหันมายิ้มแห้งให้ๆทุกคน...อย่าบอกนะว่า - -^

 

“ไม่มี ^^” คราวนี้ผมกับชานยอลตบหน้าผากพร้อมกันเลย ส่วนพี่ซิ่วหมินทำหน้าฉุนสุดๆอยู่ข้างๆผมเนี่ย

 

“จะร้านไหนก็เอาสักร้านเถอะ!” คนตัวเล็กเริ่มอารมณ์เสีย ใจเย็นไว้พี่...ยิ่งทำหน้าบวมพี่ยิ่งดูเด็กกว่าผมหลายเท่าเลยนะ

 

“งั้นเอางี้มั้ย ไปเยี่ยมพี่ลู่กันก่อนแล้วขากลับออกมาซื้อของแล้วไปทำอาหารที่บ้านผมกัน” ผมเสนอความคิดเห็นห้ามการก่อสงครามระหว่างพี่ซิ่วหมินกับพี่เฉิน พี่ซิ่วหมินมองหน้าผมกระพริบตาปริ้บๆก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยส่วนพี่เฉินไหวไหล่แล้วเดินนำไปทันที พอสองคนนั้นเดินไปชานยอลก็เดินมาอยู่ข้างๆผม

 

“แก้ไปได้หนึ่งเปราะ”

 

“นายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

 

“พยายามแล้ว เฮ้อ...” นั้นนายพยายามแล้วหรอ แก้ปัญหาได้สุดยอดมาก - -^

 

@โรงพยาบาล

 

ตอนนี้พวกผมอยู่ในลิฟต์กำลังขึ้นไปหาพี่ลู่กันแต่พอลิฟต์เปิดพวกผมก็ถึงกับชะงักเหมือนคนที่ทำท่าจะเดินสวยเข้ามาคือพี่เลย์ ส่วนพี่เลย์เองก็มีท่าทีตกใจนิดหน่อยแล้วยิ้มให้ก่อนถอยให้พวกผมออกมา มารยาทงามแท้ - -

 

“พี่เลย์สวัสดีครับ” ผมกับชานยอลโค้งให้รุ่นพี่ชนิดหัวแทบติดเข่า นายก็โดนรังสีออโรร่าความเป็นคุณหนูของพี่เลย์ทำให้กลายเป็นแบบนี้เหมือนกันใช่มั้ยชานยอล T^T พี่เลย์โค้งให้เล็กน้อยหลังจากพวกผมเดินออกมาแล้ว เจ้าตัวไม่เดินไปเข้าไปในลิฟต์แต่หันมามองพวกผมแทน นัยน์ตาแบบนี้ ไม่มีคำไหนบรรยายความเป็นพี่เลย์ได้มากเท่าคำว่าคุณหนูแล้วแหละ

 

“มาเยี่ยมลู่หานกันหรอ”

 

“ครับ เลย์จะกลับแล้วหรอครับ คุยกับลู่ฮยองยังครับ?”

 

“อ๋อลู่หานหลับอยู่น่ะ เลยไม่กล้าปลุกไม่รู้ว่าฟื้นรึยังด้วย” พี่เลย์ยิ้มบางๆแล้วลากสายตามามองที่ผม

 

“ขอบใจนะที่เมื่อวานทำงานแทนลู่หาน ช่วงนี้ถ้าลู่หานยังไม่ฟื้นแล้วนายต้องทำหน้าที่แทนมีอะไรก็ปรึกษาฉันได้นะ^^” จะละลายยยย ทำไมพี่เลย์งานไม่แพ้พี่ลู่เลยน้า แบคจะบ้าตาย T^T

 

“ฝะ...ฝากตัวด้วยฮะ > <’” ผมโค้งหัวแทบติดเข่าแต่พี่เลย์กลับหัวเราะออกมาเบาๆ ขนาดหัวเราะยังเอามือป้องปาก เป็นพวกผมนะปล่อยก๊ากกันเลยทีเดียว โอ้ยยยย แพ้สไตล์คุณหนูโว้ยยยยย T///////T

 

“งั้นพี่ขอตัวนะ” แล้วพี่เลย์ก็ลงลิฟต์ปายยยย เฮ้อ...ใจไปลงอยู่ที่พื้น

 

“เฮ้อ...พี่เลย์ดีขนาดนี้ทำไมเฮียถึงไม่เคยมองเลยน่า”

 

“เกี่ยวไรกับพี่คริสอ่ะ” เพราะคำ้บ่นอย่างเหนื่อยใจของชานยอลทำให้ผมสงสัย พี่ซิ่วหมินถึงกระสะดุ้งโหยงไปด้วยแล้วสะกิดหลังชานยอลเบาๆ ทำอะไรกัน - -^

 

“คือ...แบบว่า...พี่เลย์เขาเป็นเพื่อนที่ดีไง แล้วแบบพี่คริสไม่ค่อยสนใจอะไรเทือกนั้น อย่าไปสนเลยไปหาลู่ฮยองกัน” ไอ้หยอยพูดรัวจนฟังแทบไม่ทันแล้วเดินนำไปอย่างรวดเร็ว พี่เฉินยังครองสไตล์นิ่งๆแล้วเดินตามไป ผมเลยหันมามองพี่ซิ่วหมิน เจ้าตัวยิ้มแห้งๆให้แล้วดันหลังให้ผมเดิน เอิ่ม...เกิดอะไรขึ้นฮะ

 

“ลู่ฮยอง~” ชานยอลเปิดประตูเข้าไปส่วนพวกผมที่เดินตามมาทีหลังแทบจะย่องเบากันเลยทีเดียว เพราะกลัวว่าถ้าพี่ลู่หลับอยู่จะเป็นการรบกวน เมื่อเช้าก็มาทีนึงแล้วแต่ว่าพี่ลู่ยังหลับอยู่ ตอนนี้ใบหน้าสวยหันมากวาดยิ้มหวานใส่พวกผมเหมือนเดิมแล้ว

 

“อ้าว มาแล้วหรอ^^” อ่า...คิดถึงรอยยิ้มนี้จัง หลังจากไม่ได้เห็นเกือบสามสี่วัน

 

“เป็นไงบ้างลู่เกอ~~” พี่ซิ่วหมินวิ่งไปกอดคอเพื่อนรักสุดเลิฟแล้วโยกไปมาเหมือนเด็กๆส่วนที่ลู่ยิ้มพลางกอดตอบได้ไม่ถึงสามวิก็ต้องชักมือกลับไปกุมท้องตรงที่โดนฝาด พี่ซิ่วหมินเลยแทบกระโดดกลับมาอยู่หน้าประตูเลยทีเดียว แถมทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ด้วยนะ

 

“ลู่เกอ~~ เค้าขอโทษ T/\T”

 

“มะ...ไม่เป็นไร เจ็บนิดหน่อยเอง ^^” แต่คือถึงกับกัดฝันพูดคงไม่นิดหน่อยหรอกครับ พี่เฉินเดินอ้อมเตียงแล้วส่งกระดาษปึกบ๊ะเอ๊กให้พี่ลู่

 

“ถ้าปอดยังโอเคก็รับนี่ไว้ เผื่ออยากร้องเพลงตอนอยู่คนเดียว”

 

“ขอบใจนะ น้องๆเป็นไงบ้าง”

 

“ก็โอเค เข้าขั้นดีเลยแหละ” เพราะคำพูดที่ดูสนิทสนมทำให้คนตัวเล็กข้างตัวผมแทบจะพ่นควันออกหู ทำแก้มป่องเหมือนซาลาเปาไส้จะทะลักยังไงยังงั้น ก่อนจะเริ่มแผดเสียงอาละวาท

 

“แล้วลู่เกอไปสนใจอะไรเด็กชมรมนั้นด้วยละ ลู่เกออยู่ชมรมกีฬานะ!!” ผมกับชานยอลที่ยืนประกบคู่นี่โดดแยกไปคนละทางเลยครับ เวลาปกติก็น่ารักโครต เวลาโกรธนี่ก็น่ากลัวโครต - -^

 

“ซิ่วหมินเป็นอะไร” พี่ลู่พยายามพูดให้พี่ซิ่วหมินใจเย็นแต่เหมือนยิ่งกระตุ้นต่อมอารมณ์เสียหนักเข้าไปใหญ่

 

“เค้าก็ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน!! แต่ลู่เกอดันไปสนใจนายไดโนเสาร์พันธ์ไหนก็ไม่รู้ที่หน้าเหมือนอูฐแล้วเวลาร้องเพลงก็ใช้โหนกแก้มเหมือนนกแก้วร้องเพลงได้มากกว่าเค้าอ่ะ!!” เอิ่ม... ผมลากสายตามองพี่เฉินที่ตอนนี้ถึงกับช็อคไปเลยทีเดียวส่วนไอ้ชานหยอยเกาะเสาชนิดตุ๊กแกเรียกพี่ แล้วผมจะเหลืออะไรนอกจากถอยจนจะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำอยู่แล้ว เหมือนระเบิดลงกลางห้องเลยอ่ะ ขนาดพี่ลู่ยังอ้าปากค้างแล้วนิ่งอยู่ท่านั้นเลย ใครก็ได้พูดอะไรหน่อยสิฟะ T^T

 

“ซะ...ซิ่วหมิน”

 

“เค้าเกลียดลู่เกอ !! ฮือๆๆๆ!!” แล้วร่างเล็กก็วิ่งออกจากห้องไป เอิ่ม...ระเบิดหายไปแล้ว แต่ทุกคนยังเงียบกริบราวกับขยับอีกนิดระเบิกอีกลูกจะทำงานทันที ก่อนที่หน่วยกล้าตายชานยอลจะอาสาออกไปตามพี่ซิ่วหมินแต่ว่ามีคนแสดงความเป็นฮีโล่มากกว่านั้น...

 

“เดี๋ยวพี่ไปเอง” แล้วพี่เฉินก็วิ่งออกไป พอวิญญาพี่ลู่กลับเข้าก็รีบยกมือกุมท้องทันทีจนผมต้องพุ่งเข้าไปดู(ย้ำเลยนะว่าพุ่ง)

 

“พี่ลู่”

 

“ซิ่วหมินเป็นอะไรไป...” เพราะตอนนี้พี่ลู่ก้มหน้าอยู่ผมเลยไม่รู้ว่าเขามีสีหน้ายังไง แต่เพราะเสียงที่สั่นราวกับควบคุมไม่ได้บวกกันน้ำใสที่หยดลงฝ่ามือซีดทำให้ผมรู้ทันทีว่าพี่คนนี้กำลังร้องไห้ ผมรีบหันขวับไปขอความช่วยเหลือจากชานยอล แต่เผอิญว่าเหลือมันคนเดียวที่ยังช็อคไม่หายค้างเป็นตุ๊กแกในศูนย์อนุรักษ์สัตว์เลื่อยคลานที่ถูกสตาร์ฟไว้ คือนิ่งไปเลยอ่ะ เออปล่อยมัน ปลอบเองก็ได้วะ -*-

 

“พี่ซิ่วหมินเขารักพี่มากนะฮะ ผมว่าเขาคงโกรธแปปเดียว” ผมนั่งลงข้างๆ แล้วกอดปลอบเบาๆ แอบฉวยโอกาสแต้ะอั๋งคนสวยนิดนึง -.,-b

 

“แต่ ฮึก...ซิ่วหมินไม่เคยโกรธจนร้องไห้เลย เขาต้องโกรธพี่มากแน่ๆ” คราวนี้พี่ลู่เงยหน้าขึ้นร้องไห้ให้เห็นตรงๆก่อนจะปล่อยโฮเต็มทีแล้วซบที่ไหล่ผม เหมือนไอ้ตุ๊กแกจะกลับมามีชีวิตแล้วเลยเดินมาปลอบโดยการลูบหลังร่างที่สั่นเทาในอ้อมกอดผมเบาๆ

 

“แล้วพี่เฉินเอาอะไรมาให้ละ”

 

“ฮึก...โน้ตเพลงน่ะ พี่แต่งให้ซิ่วหมิน พอดีพี่แต่งเนื้อไว้แล้วลองให้รุ่นน้องแต่งทำนองด้วยเป็นการฝึกไปในตัวน่ะ” ผมกับชานยอลถึงกับหันขวับมองหน้าซีดๆของกันและก่อนจะแย่งกันวิ่งไปที่ประตู ขอโทษนะพี่ลู่ อยู่คนเดียวแปปนะ!!/T^T/ ใส่เกียร์วิ่งละเว้ยยยย !!

 

Xiumin Part’s

 

“ฮือๆๆๆๆๆ” ทำลู่เกอถึงต้องานแต่หมอนั้นด้วย สมองส่วนไหนกระทบกระเทือนให้ลืมผมไปแล้วกันนะ ตอนนี้ผมกลัวเหลือเกินว่าการที่ตัวผมเองโวยวายและวิ่งออกแบบนี้ทำให้ลู่เกอโกรธมั้ย จะยังกลับไปคุยกันเหมือนเดิมมั้ย ที่พยายามทำทุกอย่างทั้งตั้งใจเล่นตั้งใจซ้อม เพื่อไม่ให้ลู่เกอต้องเหนื่อย ช่วยลู่เกอทุกอย่างเพื่อไม่ลู่เกอย้ายไปอยู่ชมรมอื่น ตั้งใจเรียนไม่ให้เกรดตกเพื่อจะได้เป็นสภากับลู่เกอ  แต่ถ้าลู่เกอเบื่อและอยากหันไปร้องเพลงละ ถ้าลู่เกอจะไม่กลับมารักการเล่นฟุตบอลด้วยกันแล้วละ... ฮือ....ผมจะทำไงดี T^T

 

“โห...วิ่งมาถึงโรงเรียนเลยหรอ นายไม่เหนื่อยบ้างรึไง”

 

“แล้วนายมาสนอะไรใจฉันด้วย ไม่กลับไปอยู่กับลู่เกอละ!!” ผมรีบปาดน้ำตาแล้วหันหนี อายจริงๆที่ต้องให้ผู้ชายคนนี้มาเห็นตัวเองร้องไห้ โอ้ย ตอนนี้ยังซวยไม่พอใช่มั้ย /T^T\

 

“ลู่หานรอนายอยู่นะ”

 

“จะรอฉันทำไม ในเมื่อตอนอยู่ก็ไม่ได้สนใจฉันเลย คนอย่างนายไม่รู้อะไรหรอก ว่าทุกวันนี้ลู่เกอแทบจะไม่เห็นฉันอยู่แล้ว!!” ผมลุกขึ้นผลักคนที่พยายามเดินเข้ามาใกล้แต่กลับถูกรวบมือแล้วดันติดกำแพง

 

“ปล่อยนะ!! จะไปไหนก็ไป ฉันเกลียดนาย!!”

 

“เกลียดอะไรฉันละ ฉันทำอะไรให้นายยัง” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างกวนประสาท อยากคิ้วแตกจริงๆใช่มั้ย!!

 

“เกลียดที่นายเป็นนายนั้นแหละ!!”

 

“แล้วทำไมละ” คนตรงหน้ายังถามด้วยอาการใจเย็นก่อนจะใช้นิ้วชี้แตะที่ปากผมเบาๆทำให้ผมเงียบอย่างไม่ขัดขืน ผมไม่ได้ยอมนะ! แค่งงกับการกระทำแปลกๆของหมอนี้

 

“เงียบซะเด็กดี...โวยไปก็เหนื่อยเปล่า”

 

“............” อ๊ากกกกกกกก ไม่เข้าใจว่าทำเจอประโยคแบบนี้ผมต้องเงียบตามด้วยนะ

 

“เอางี้...ถ้าอยากโวยวายจะพาไปที่ๆนึงที่นายจะแหกปากได้เต็มที่”

 

“?”

 

“ฮ่าๆๆๆ อย่าทำหน้างงแบบนั้นสิ นายก็รู้ว่าหน้านายมันน่ารักขนาดไหน”

 

“ห๊ะ O///////O!!” แล้วทำไมผมต้องร้อนที่หน้าด้วย แค่คำชมที่ได้ยินจนบ่อยทำไมพอเป็นหมอนี้ผมถึงกับร้อนไปทั่วเลย ปกติคนที่ทำให้ผมมีอาการแปลกๆแบบนี้ก็มีแค่ลู่เกอนะ นี้ผมกำลังเขินคนอื่นนอกจากลู่เกองั้นหรอ... ง๊ากกกก ไม่อาวววว หมินไม่ยอมมมม T/////T

 

“ไปมั้ยละ”

 

“ทะ...ที่ไหนอ่ะ? O ^ O”

 

“ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วไงว่าอย่าทำหน้าอย่างนั้นเดียวฉันเปลี่ยนใจพาไปบ้านแทนเลยนิ”

 

“อะ...อะไรของนายเนี่ย !!” คนตรงหน้ายิ้มแล้วจูงมือผมเดินออกจากโรงเรียนมานั่งรอประจำทาง ว้าวววว ครั้งแรกเลยที่เคยได้นั่งรถแบบนี้ >u< ปกติที่บ้านจะส่งคนขับรถส่วนตัวมารับมาส่งตลอดเลยไม่เคยได้กลับเอง แต่เวลาไปไหนมาไหนก็จะไปกะลู่เกอไม่ก็ติดรถอุยางไปด้วย

 

“ทำไมต้องทำหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย - -^”

 

“ก็เค้าเพิ่งเคยขึ้นรถแบบนี้นิ”

 

“เค้า?”

 

“ออ...โทษทีลืมตัวว่าไม่สนิท - -+” ผมจัดการมองค้อนทีนึงก่อนจะหันไปเกาะหน้าต่างมองบรรยากาศรอบๆ เพิ่งได้มาทีนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย หมอนี้จะพาผมไปไหนกันนะ อ๊ากกกก เต้นตื่นจริงๆ!!

 

........................................................

 

สะ...สวนสนุกงั้นหรอ - -^

 

“แล้วมันแหกปากเต็มที่ได้ยังไง”

 

“นายไม่ได้เป็นโรคหัวใจใช่มั้ย”

 

“ฉันเป็นนักกีฬานะ ร่างกายฉันแข็งแรงกว่านายหลายเท่าจะบอก” ผมกอดอกอย่างภูมิแต่คนที่ลากผมมากลับหัวเราะในลำคอประมานว่า ‘เหอะ...’ อย่าดูถูกกันนะ เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้เตะบอลตาข่ายโกลขาดมาแล้ว -*-

 

“งั้นไปเล่นนี้กัน” เฉินชี้ไปทางรถไฟเหาะตีลังกาสามร้อยสี่สิบห้าตลบ แล้วเหวี่ยงพุ่งข้ามลางที่ขาดอย่างน่าหวาดเสียว คือผมไม่ได้เขาส่วนสนุกตั้งนานแล้วนะ แถมครั้งล่าสุดก็มากับเพื่อนๆตอนอนุบาลครูเลยไม่ให้เล่นอะไรแบบนี้นอกจากเดินเล่นไปทั่ว ครั้งนี้แหละจะเล่นให้หนำใจเลย > <’

 

“ท้ามาจัดไป!”

 

..................................................................................................

 

อ่า...มันส์จริงไรจริง ชอบมากๆเลย ยิ่งตอนมันดิ่งลงนี้ผมแทบกรี๊ดออกมาเลยต่อจากนั้นผมก็ไปเล่นเครื่องเล่นอีกหลายอย่างจนนี้ต้องมานั่งลูบหลังคนที่จะอ้วกแหล่ไม่อ้วกแหล่อยู่เนี่ย นายชวนฉันเองนะ - -^

 

อือรือรอง อือรือรอง รับโทรศัพท์หน่อยน้ามินซฮก อือรือรอง อือรือรอง~~

 

“ทำไมเสียงโทรศัพท์นายถึงได้เป็นเสียงลู่หานละเนี่ย”

 

“ไม่น่ารักหรอ ลู่เกอทำไว้ให้น่ะ เค้าชอบมาเลยนะ”

 

“เค้าอีกแล้ว”

 

“คราวนี้จงใจใช้!”

 

“หือ?”

 

“เพราะนายก็ไมได้เลวร้ายอะไร ^+++^” แล้วยิ้มแยกเขี้ยวใส่ทีนึงแล้วหันมารับโทรศัพท์

 

(ซิ่วหมิน อยู่ไหนอ่ะทำไมเสียงดังจัง นี้มันจะมืดแล้วนะกลับหอเถอะ ยังโกรธอยู่รึเปล่า) แหม...สาดรัวเชียวลู่เกอ - -^

 

“เค้าอยู่สวนสนุกกับเฉินเฉิน ลู่เกอไม่ต้องห่วงเค้ากลับแน่นอนพักผ่อนเยอะๆนะ”

 

(ตอนนี้แบคฮยอนกับชานยอลกำลังตามหาอยู่น่ะ ตอนนี้โอเคแล้วใช่มั้ยจะได้โทรบอกเด็กๆ)

 

“เค้าขอเคแล้ว ขอโทษนะที่อยู่ๆก็อารมณ์เสีย แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าไปเยี่ยมใหม่นะ” หลังจากกดวางผมหันมาแยกเขี้ยวในคนข้างๆอีกทีจนเจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมมือมาโยกหัวผมไปมา เหมือนที่ลู่เกอทำเลย รู้สึกดีจัง...

 

“งั้นกลับกันเลยนะ นายอยู่หอเดียวกับลู่หายใช่มั้ย”

 

“อ่า จะไปส่งหรอ”

 

“แน่ละ เพราะฉันพานายมานิ” ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินนำออกมาอย่างสบายอารมณ์ อ่า....วันนี้เค้ามีความสุขจังลู่เกอ ~~~^O^

 

Baekhyun Part’s

 

“ครับ...อยู่ที่นั้นเองหรอ ผมก็หากันตั้งนาน ครับ...ฮยองพักเยอะนะๆ ครับหวัดดีครับ”

 

“พี่ลู่ว่าไงบ้าง” ผมที่เพิ่งวิ่งกลับมาหาก็เห็นชานยอลคุยโทรศัพท์อยู่เลยไม่กล้าทักพอหลังจากวางสายผมเลยถามออกไปทันที เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาในเวลาแบบนี้ต้องเป็นพี่ลู่แน่ๆ

“พี่ซิ่วหมินอยู่สวนสนุกกับพี่เฉิน”

 

“เฮ้อ...โล่ง สองคนนั้นโอเคนะ” ชานยอลพยักหน้าแล้วก้มลงปาดเหงื่อที่ผุดเต็มหน้าผากให้ผม ก่อนจะก้มหน้าซบลงที่บ่าผมอย่างเหนื่อยอ่อน

 

“เหนื่อยเป็นบ้าเลย...”

 

“นั้นสินะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเอื้อมมือไปลูบต้นคอร่างสูงเบาๆแล้วหลับตาลงช้าๆ ถึงจะบอกว่าเหนื่อยก็เถอะแต่พอได้อยู่ใกล้คนๆนี้เหมือนกับเขามีพลังที่รักษาผมได้ทุกครั้ง ดีจริงๆได้เขาสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆผม

__________________________________________________________

มาพักแล้ววว ช่วงนี้เค้าอาจจะอัปช้าหน่อยนะเพราะไม่ค่อยได้ปั่นช่วงกลางคืนแล้วต้องปรับตัวก่อนเปิดเทอมแต่ไม่มีทางเลิกแต่งแน่นอนอย่าลืมเข้ามาอ่านเยอะๆน้าาาา

-Thx.-

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา