Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๖
ธนันต์ธรญ์ล้มตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มก่อนเปลือกตาบางจะปิดลงอย่างเหนื่อยล้า มือบางควานหาโทรศัพท์ที่วางไว้ใกล้ๆโต๊ะเตี้ยข้างเตียง เธอเลื่อนหน้าจอกดเลือกรายชื่อก่อนจะกดต่อสาย ไม่นานเสียงหวานแสนคุ้นคอยก็ส่งมาตามสาย
“น้องกึ้ดเติงหาแม่ขนาดเจ้า(คิดถึงแม่ม้ากมากค่ะ)”เธอเอ่ยอ้อนทันทีเมื่อมารดารับสาย
“ฮับ(รับ)ปุ๊บก่ออ้อนปั้บเลยลูกคนนี้ ถึงเมิน(นาน)แล้วก่าลูก”
“ถึงตั้งแต่หกโมงแล้วเจ้า แต่มีเรื่องนิดหน่อย น้องก่อเลยเพิ่งจะได้นอน”เธอเอ่ยฟ้องมารดาทันที
“เรื่องอะหยังลูก”เธอดีดตัวลุกขึ้น นึกถึงเหตุการณ์เมื่อพลบค่ำ ก่อนจะเอ่ยเล่าให้มารดาฟัง
“ตี้จริงน้องบ่ได้ผิดเลยหนาเจ้าแม่ แต่หลานเจ้าของบ้านเปิ้นไปปีนฮั้ว(รั้ว)เล่น น้องหัน(เห็น)ค่ำมืดแล้วก่อนึกว่าเป๋นขโมย น้องก่อเลย...”
“น้องยะหยังเปิ้นลูก(น้องทำอะไรเขาลูก)”
“น้องแค่เอาก้อนหินขว้างใส่เขา แต่น้องบ่ได้ตั้งใจ๋หื้อ(ไม่ได้ตั้งใจให้)มันไปโดน...น้องชายเปิ้นเน้อแม่”เธอแอบบิดเบือนความจริงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกมารดาตำหนิ ความจริงแล้วเธอตั้งใจอย่างมากถึงมากที่สุดที่จะให้ก้อนหินก้อนน้อยนั่นตรงไปที่น้องชายของภาณุ
“แล้วคุณพิมพ์มาลาเปิ้นบ่โขด(ไม่โกรธ)น้องก๊ะลูก”เธอยู่หน้าลง อดคิดถึงประเด็นที่มารดากำลังกล่าวไม่ได้
“น้องก่อบ่ฮู้เจ้า(น้องก็ไม่รู้ค่ะ)”เธอได้ยินเสียงถอนหายใจของมารดา
“น้องก็ไปขอโทษเปิ้นเหียเน้อ(น้องก็ไปขอโทษท่านเสียนะ) เปิ้นจะว่าจะใดก็เป๋นแหมเรื่อง(เขาจะว่ายังไงก็อีกเรื่องอีก)”
“เจ้า...แม่ขา น้องง่วงแล้ว น้องไปนอนก่อนเน้อเจ้า แม่ก่อนอนได้แล้วหนา น้องฮักแม่หนา”เธอบอกน้ำเสียงงัวเงียเพราะเริ่มจะง่วงนอนขึ้นมาแล้วจริงๆ มารดาบอกฝันดีก่อนจะวางสายไป เธอล้มตัวลงนอน เอื้อมมือปิดโคมไฟหัวเตียง ก่อนจะตลบผ้าห่มขึ้นคลุมร่าง เตรียมตัวเข้าสู่ห้วงนิทรา...
อีกฟากฝั่งหนึ่งของผู้โชคร้ายที่ต้องรับชะตาที่ตัวเองไม่ได้ก่อกลับนอนไม่หลับเสียที หัวสมองกลับวนเวียนคิดถึงถวิลหาแต่เจ้าของดวงหน้าหวานที่ลอยเข้ามาอยู่เนืองๆ เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าเหตุใดจึงต้องคิดถึงผู้หญิงคนนั้น เขาไม่ปฏิเสธว่าผู้หญิงคนนั้นน่ารัก แต่เธอก็คงไม่ได้น่ารักเกินกว่าผู้หญิงมากมายที่มารดาหามาให้ แต่เหตุผลที่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างเวลาที่เขาคิดจะรักใครสักคนนั้นย่อมไม่ใช่รูปร่างหน้าตา หากแต่เป็นนิสัยใจคอต่างหาก
จะผิดไหมหากเขาจะกลืนน้ำลายตัวเอง ลองกินเด็กดูสักครั้งก็ไม่น่าจะเสียหาย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องหาแม่ของลูกให้ได้ภายในหกวันนี้ จะลองเสี่ยงกับสาวหน้าหวานคนนั้นหน่อยก็คงจะไม่เสียหายหรอกกระมัง
เสียงโทรศัพท์ที่ดังข้างหูทำให้เขาต้องเอื้อมมือไปกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นสายจากภัทรดนัย
“ว่าไง”
“ไอ้ป๊อป มึงเป็นไงบ้างวะ มึงโอเคไหม”เขายิ้ม ก่อนจะเอ่ย
“โอเคว่ะ มีที่คุ้มกะลาหัวแล้ว แล้วมึงโทรมามีเรื่องอะไรวะ”
“คือถ้ามึงโอเค พวกกูก็เลยอยากจะบอกข่าวร้ายกับมึงแบบว่า เอ่อ...นิดหนึ่งว่ะ”
“อะไรวะ”
“คือว่า เอ่อ...คือแบบ เห้ย ไอ้โมะจะบอกมึงว่ะ”ว่าแล้วเขาก็ได้ยินเสียงกุกกึก สักพักตามมาด้วยเสียงสบถของวิศวะ
“ไอ้เชื่ยเขื่อน เดี๋ยวเหอะมึง”
“อะไร เร็วๆโว้ย”
“คือว่าพวกกูไม่รู้จะทำไงแม่มึงคาดคั้น กูก็เลยหลุดปากว่ามึงมีเมียมีลูกไปแล้ว มึงไปต้องบ่นเลย”เขาแทบจะลงไปดิ้นเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากปากเพื่อน
“ลำพังเมียก็ก็แทบจะไม่มีปัญญาหา นี่มึงยังบอกว่ากูมีลูกอีกหรอวะ”เขามิวายบ่น
“เอาน่า ถ้ากูไม่ทำนี้มึงก็ไม่รอดนะเว้ย”
“ตอนนี้ก็ไม่รอดเว้ย ถ้ากูไม่ไหวจริงๆพวกมึงต้องลงมาช่วยกู”เขายื่นคำขาดเพราะในเมื่อภัทรดนัยและวิศวะเพิ่มเรื่องปวดหัวมาให้เขา พวกมันทั้งสองคนต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย!
ร่างบอบบางตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ธนันต์ธรญ์กำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้านที่รอบกายเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่กำลังจะล้มตายเนื่องจากการไม่ได้รับการดูแลมาเนิ่นนาน ทว่าสระบัวที่อยู่ไม่ไกลกลับงดงามบานสะพรั่งราวกับอยู่คนละบริเวณ หญิงสาวเผยรอยยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้สระน้ำที่มีไอน้ำลอยขึ้นเหนือสระหนานแน่นกว่าบริเวณโดยรอบตัวเธอที่มีสายหมอกบางๆลงอยู่
“สวย...”
น้ำเสียงหวานพึมพำแผ่วเบา ดวงตากลมโตยังจ้องมองดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า แสงสีทองสาดส่องผืนน้ำใสให้กลายเป็นสีทองสวยงามราวกับภาพวาด
“มาทำอะไรตรงนี้”
ร่างบอบบางหันไปตามเสียงเข้มที่ได้ยินจากด้านหลัง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาณุเดินมายืนเคียงข้าง
“ฉันมาสำรวจดูน่ะค่ะ ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แล้วคุณล่ะคะมาทำอะไรตรงนี้”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเพียงเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“บ้านผม ผมจะเดินไปตรงไหนก็ไม่เห็นจะแปลก”
“งั้นฉันขอตัวค่ะ”
ธนันต์ธรญ์เอ่ยปากขอตัวเพราะสัมผัสได้ถึงความกวนประสาทของชายหนุ่ม จะอะไรนักหนา เมื่อคืนก็ยังคุยกับเธออยู่ดีๆ เกิดตื่นเช้ามาสมองกลับหรือยังไงกันถึงได้หาเรื่องกวนประสาทเธอตั้งแต่เช้า
“ผมไม่อนุญาต นี่คุณ ผมรู้แล้วนะว่าผมต้องการอะไรจากคุณเพื่อเป็นการไถ่โทษ”
“คะ?”เธอเลิกคิ้ว เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม
“คุณต้องดูแลผม...อย่างใกล้ชิด”เธออ้าปากจะเถียงกับคำว่า‘อย่างใกล้ชิด’ของเขาเพราะมันไม่เหมาะสมนักที่ผู้หญิงจะดูแลผู้ชายแบบนั้น มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกันเพียงผิวเผินอีก
“ไม่ว่าผมจะขอร้องอะไรคุณก็ต้องยอมในทุกกรณี”
“จะบ้าหรือไงคุณ ถ้าคุณขอนอนกับฉัน ฉันก็ต้องยอมคุณอย่างนั้นสิ บ้าบอที่สุด ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ”เธอว่าอย่างมีอารมณ์เมื่อชายหนุ่มยื่นข้อเสนอที่เธอมีแต่เสียกับเสีย
“คุณนั่นแหละที่บ้า คิดอกุศลไปรึเปล่าฮะ ผมแค่อยากได้คนดูแลก็เท่านั้น”เธอมองเขา ก่อนจะเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันมาที่นี่เพื่อทำงานของฉัน ไม่ได้มาเพื่อดูแลใคร ถ้าคุณอยากได้คนดูแลฉันจะจ้างพยาบาลพิเศษมาให้ก็ได้ อ้อ ฉันลืมบอกอะไรบางอย่างกับคุณน่ะค่ะ...”
“อะไร”เธอเดินเข้าไปใกล้เขา ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเมื่อเห็นว่าความสูงของเธอแพ้เขาเห็นๆ เธอชี้หน้าเขา ก่อนจะเอ่ย
“คุณมันเป็นผู้ชายที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเคยเจอมาเลย ฉันผิดฉันก็ขอโทษไปแล้ว แล้วอีกอย่างคุณเองก็ไม่ได้เจ็บจนกลายเป็นหมันไปแล้วซะหน่อย แล้วเรื่องที่คุณขอร้องฉันมันก็ปัญญาอ่อนมาก ฉันมาจัดสวนให้คุณท่านนะคะไม่ใช่ทาสที่จะมารับใช้ดูแลคุณ ถ้าอยากได้อย่างที่คุณต้องการก็หาเมียเถอะค่ะ!”เธอหอบหายใจ ก่อนจะลดปลายเท้าลงและหันหลังกลับเตรียมจะเดินออกไป หากแต่วงแขนแกร่งของภาณุกลับรั้งเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดหน้าตาเฉย
“แล้วถ้าผมอยากได้เมียอย่างคุณล่ะ”
“กรี๊ด!ไอ้บ้ากาม”
...สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ