Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
33)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๓๓
ธนันต์ธรญ์มองดวงตาคู่คมของชายหนุ่มด้วยหัวใจเต้นแรง ยามที่ร่างของเธออยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง ยามที่ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาปะทะแก้มของเธอ และยามที่เขากำลังโน้มใบหน้าลงมาเพื่อเรียกร้องจุมพิตจากเธอ เธอก็ยังคงมองดวงตาคมคู่นั้นไม่วางตา และเต็มใจจะมอบจุมพิตให้เขา แม้จะรู้ว่ามันไม่สมควร... แต่หัวใจของเธอมันไม่ฟัง...
เนิ่นนานที่จุมพิตหวานละมุนดำเนินไป ริมฝีปากหยักลึกเฝ้าจูบคลอเคลียเรียวปากอิ่มไม่ห่าง สอดลิ้นลึกเพื่อควานหาความหวานหอมที่ตนปรารถนา แม้ร่างแน่งงน้อยในอ้อมกอดจะสั่นสะท้าน เพราะจุมพิตร้อนแรง และกำลังขาดอากาศหายใจ แต่คนปรารถนาก็ไม่ยอมผละห่าง เพียงแต่ถอนริมฝีปากออกมาเพื่อจูบไปทั่วดวงหน้าหวาน
“พะ พอแล้วค่ะ”มือเล็กนิ่มผลักไสคนตัวโตออกห่าง เมื่อไม่อาจทานทนต่อจุมพิตของเขาได้อีกต่อไป
“ผมคงต้องคิดถึงฟางมากแน่ๆเลย”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ย ขณะนิ้วแกร่งยังเขี่ยปลายจมูกโด่งรั้นอย่างเอ็นดูคนตัวเล็กที่ใบหน้าแดงก่ำ แถมยังหอบหายใจฮักฮัก
“คิดถึงแล้วต้องทำแบบนี้หรอคะ”
“ใครว่าล่ะ...ต้องทำมากกว่านี้ต่างหาก”ชายหนุ่มว่าเสียงกระเส่า หัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กใบหน้าแดงจัดขึ้นทันตา เขาจัดการฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนวลแดงก่ำทั้งสองข้าง ก่อนจะยอมปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด
“บ้าย บาย เดินทางปลอดภัยนะคะ”
ภาณุมองคนรักสาวที่ยืนโบกมือพร้อมกับอวยพรให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ หลังจากได้จูบหวานๆก่อนออกเดินทางเขาก็รู้สึกว่าไม่อยากจะกลับไปมากขึ้นทุกที แต่กระนั้นการเป็นนักบินขับไล่ก็เป็นสิ่งที่เขารักเช่นกัน...
“ง่วงก็อย่าฝืนขับรถนะ จอดรถนอนทุกๆหกชั่วโมง”
“ครับ ถึงแล้วผมโทร.หานะ”
“ค่ะ”เธอส่งรอยยิ้มหวานให้เขาเขาตัดใจสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่ก็ยังไม่อยากออกรถอยู่ดี และดูเหมือนธนันต์ธรญ์จะรู้ทัน
“ออกรถได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะถึงช้า”
“เฮ้อ...ไปก็ได้”เขาว่าอย่างลำบากใจ แต่ก็ตัดใจเคลื่อนพวงมาลัยออกรถ ตลอดทางเขาได้แต่มองกระจกหลังที่สะท้อนภาพคนตัวเล็กที่ยืนยิ้มให้อยู่ ภาพนั้นห่างไกลไปมากทุกที...แต่เขาเชื่อว่าการห่างกันครั้งนี้ มันจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพราะเขาจะหาทางกลับมาอีก แล้วก็กลับมาอีก เพื่อรอสักวันที่ธนันต์ธรญ์จะกลับไปด้วยกัน กลับไปในฐานะภรรยาของเขา...
คุณพรพิมลมองรถยนต์คันโปรดของลูกชายที่เคลื่อนตัวเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้ม ร่างท้วมรีบเร่งเดินไปรอท่าลูกชาย แม้จะแอบเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีร่างเล็กของธนันต์ธรญ์กลับมาด้วย แต่นั่นก็ไม่เกินความคาดหมายสักเท่าไหร่ เพราะจากที่หล่อนคาดเดาทั้งสองน่าจะรู้จักกันไม่เกินสองอาทิตย์ด้วยซ้ำไป แต่ดูเหมือนทั้งสองกำลังไปกันได้สวยทีเดียว... และหล่อนก็รู้ดีว่าตอนนี้ภาณุพร้อมรายงานความคืบหน้าของลูกชายหล่อนกับธนันต์ธรญ์แล้วล่ะ
“สวัสดีครับแม่”หล่อนยกมือขึ้นรับไหว้ลูกชาย ก่อนจะโผเข้ากอด ก่อนจะเอ่ยแกล้งพ่อตัวดีที่บังอาจคิดจะมาหลอกหล่อน
“ลูกสะใภ้แม่ล่ะ”
“เอ่อ...คือว่า”หล่อนผละจากอ้อมกอดของลูกชาย ก่อนจะตีหน้ายักษ์
“แม่ถามว่าหนูฟางอยู่ไหน!”
“แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะบอก”หล่อนลอบยิ้ม ก่อนจะหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าของภาณุพะอืดพะอมเต็มที
“แม่รู้แล้วล่ะ ไม่มีเมีย ไม่มีลูก แกโสด”ภาณุมีสีหน้าตกใจไม่น้อย หล่อนหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินเข้าบ้านโดยมีลูกชายเดินตามมาไม่ห่าง
“แกดูถูกแม่เกินไปนะตาป๊อป แม่ได้ยินหมดทุกอย่างตั้งแต่วันที่แกร้อนใจไปปรึกษาคุณยาย”
“แม่รู้...”
“ใช่ แต่แม่ก็อยากเห็นว่าแกจะทำยังไงต่อไป แล้วไง อุตส่าห์ถ่อสังขารไปถึงเชียงราย มีความคืบหน้าอะไรบ้างล่ะ”หล่อนแอบถามไปในตัว เพราะตอนนี้อยากรู้เหลือเกินว่าหล่อนพอจะมีโอกาสได้ลูกสะใภ้ดีๆกับเขาบ้างหรือเปล่า กลัวเหลือเกินแบบที่เห็นเอายาพิษกรอกปากตอนแก่ใกล้ตายแบบในละคร
“ก็มีนิดหน่อยครับ”
“นิดหน่อย? แกนี่มันไร้น้ำยาจริงๆ แล้วอย่างนี้แม่จะได้อุ้มไหมหลานน่ะ”
“โธ่ แม่ครับ ผมจริงจังนะครับ จะให้ตีหัวเขาแล้วลากเข้าห้องมันก็ไม่ใช่เรื่อง ตอนนี้ได้แค่แฟน แต่วันข้างหน้าได้เป็นแม่ของลูกแน่นอนครับ”
“ให้มันจริงเถอะ อย่าให้แม่ต้องนั่งรถเข็นไปขอเมียให้แกแล้วกัน”
“ไม่ต้องรอให้ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมขับรถมาเหนื่อยมาก ขอนอนก่อนนะครับ”หล่อนมองตามหลังลูกชายที่ขึ้นบันไดไปอย่างนึกหมั่นไส้ ทีไม่มีคนรักนี่แทบไม่เห็นหัว กลัวหล่อนจับให้แต่งกับคนโน้นคนนี้ เอาแต่มุดหัวอยู่แต่ในกรม พอมีคนรักเข้าหน่อยกลับมานอนเตียงบ้านสบายๆซะอย่างนั้น
แต่ก็ดีเหมือนกัน หล่อนอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว เหงาเหลือเกิน ชีวิตก็เกือบจะย่างเข้าบั้นปลายอยู่รอมร่อ หล่อนก็อยากเห็นลูกชายคนเดียวได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ยิ่งผู้หญิงที่ลูกชายเลือกนั้นถูกใจอีก หล่อนยิ่งต้องคอยอุ้มสมให้ได้แต่งงานแต่งการกันในเร็ววัน จะได้อุ้มหลานเสียทีก่อนที่จะตาย นึกแล้วก็อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆเสียซะวันนี้พรุ่งนี้!
“คุณผู้หญิงคะ คุณทิพย์ธารามาหาค่ะ”หล่อนยักคิ้วอย่างนึกแปลกใจ ไม่คิดว่าระหว่างจิระคุณและตั้งประภาพรต้องมีอะไรต่อกันอีก
“เดี๋ยวฉันไป”หล่อนบอก แต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม อดคิดไม่ได้ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีก...
“บัตรเชิญไปงานแฟชั่นโชว์การกุศลน่ะค่ะ”
คุณทิพย์ธาราเอ่ยกับคุณพรพิมล ขณะยื่นบัตรเชิญไปงานให้ คุณพรพิมลรับไปเปิดดู ขณะที่อีกฝ่ายก็พูดในสิ่งที่ต้องการ
“พอดีน้องพิมช่วยออกแบบเสื้อผ้าเซตนี้ด้วย น้องเลยอยากให้คุณพี่ไปดูด้วย แล้วก็เอ่อ...อยากให้ตาป๊อปไปเป็นนายแบบให้ด้วยน่ะค่ะ”คุณพรพิมลเงยหน้าจากการ์ดเชิญ
“ตาป๊อปคงไม่รับหรอกค่ะ เขาไม่ค่อยชอบงานแบบนี้ แต่ถ้าจะให้ไปดูพี่ว่าเขาน่าจะไป”
“โอ้ย ไม่ต้องกลัวเขินค่ะ เดินคู่กับน้องพิม เหมาะสมกันจะตาย”
คุณพรพิมลมองผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเจ้าหล่อนต้องการสิ่งใด นึกอยากจะสร้างกระแสสังคมมาบีบบังคับให้ภาณุแต่งงานกับพิมประภาจนได้สินะ เมื่อก่อนอาจจะใช้ได้ผล แต่ตอนนี้ไม่!...ที่ผ่านมาหล่อนได้เรียนรู้แล้วว่าสำหรับคนเป็นแม่ ความสุขของลูกสำคัญที่สุด สำคัญมากกว่าหน้าตาทางสังคม หรืออะไรทั้งปวง นึกอยากจะเล่นแบบนี้หล่อนก็จะเล่นด้วย แต่จะดูซิว่าสุดท้ายแล้วระหว่างนักธุรกิจเขี้ยวลากดิน มีโปรแกรมอ่านเกมคนและอีกร้อยอีกพันเกมโกงในหัวแบบหล่อน กับคุณทิพย์ธาราใครมันจะแน่กว่ากัน
ดีเหมือนกัน มีตัวเร่งปฏิกิริยามาให้แบบนี้มันค่อยน่าสนุกและตื่นเต้นขึ้นมาอีกหน่อย!
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวพี่จะช่วยพูดให้”
“ผมไม่ทำ!”
คุณพรพิมลมองลูกชายด้วยใบหน้านิ่งเฉย รู้อยู่แล้วว่าคำตอบต้องออกมาเป็นแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ...หล่อนมีวิธีรับมือเจ้าลูกชายตัวแสบอยู่แล้ว
“ไม่ทำได้ยังไง แม่รับปากฝ่ายโน้นไปแล้ว อย่าให้แม่ต้องเสียหน้าไปมากกว่านี้เลย”
“แต่ผม...”
“นะ มันไม่มีอะไรมากหรอก แกก็แค่ไปเดินไปเดินมา เท่านั้นจบ”
“โธ่ แม่ครับ ผมไม่...”
“ตกลง! เท่านั้นแหละ วันมะรืนที่โรงแรมแกรนด์ ริเวอร์ไซด์ ไปตั้งแต่บ่ายสาม งานจะเริ่มสองทุ่ม”หล่อนตัดบท ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนของลูกชาย...
...สายลมแห่งตะวันฃ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ