Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
27)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๒๗
“บ้าย บาย”
ธนันต์ธรญ์ยืนโบกมือยิ้มแฉ่งให้กับภาณุที่ยืนมองอยู่ข้างประตูรถ เขามองมาที่เธอยิ้มๆ กว่าเขาจะยอมกลับก็ตอนที่พชรกลับไปแล้ว น่าแปลกที่หากพชรเข้าใจตามที่เขาและเธอต้องการให้ทุกคนเข้าใจ ทำไมเขาไม่คิดสงสัยบ้างว่ามารดาของเธอไม่ได้เรียกภาณุอย่างสนิทสนมอย่างที่ควรจะเป็น แถมรถยนต์ของภาณุก็จอดอยู่หน้าบ้านเธอ เขาก็น่าจะเห็น ถ้าเป็นสามี-ภรรยากันก็ต้องนอนบ้านเดียวกันสิ หรือว่าเรื่องแบบนี้เขาไม่สงสัยกัน อะไรกัน ทำไมต้องเป็นเธอด้วยที่ต้องมานั่งสงสัยอยู่แบบนี้ คนโกหกนี่มันระแวงไปทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ
“ขึ้นบ้านไปอาบน้ำนอนได้แล้วรู้ไหม วันนี้คุณซนมาทั้งวันแล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นหลับให้สบาย”เขาลูบผมเธอราวกับเธอเป็นเด็กน้อย เธอค้อนขวับ จับหมับเข้าที่มือหนาของเขาและดึงออกจากศีรษะทุยของตัวเอง
“ฉันยังไม่ตายย่ะ แล้วก็ไม่ใช่เด็กด้วย”
“อ้าวหรอ เห็นเตี้ยๆ นึกว่าเด็ก”
“เตี้ยอะไร เขาเรียกว่าร่างเล็กย่ะ ส่วนสูงกำลังน่ารักไม่เห็นหรอ”เธอว่าพลางมองใบหน้าหล่อคมที่ยิ้มบางๆ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ ตลกตรงไหนกัน...แค่ตอนเด็กไม่ชอบดื่มนมแค่นั้นเอง ไม่อย่างนั้นป่านนี้สูงไปนานแล้วย่ะ!
“เห็น เตี้ยจนจับหนีบจักแร้ได้แล้วเนี่ย”
“อี๋ พูดจาน่าเกลียด กลับไปเลยนะ”เธอผลักร่างของเขาเข้าไปนั่งในรถ ชายหนุ่มยอมเข้านั่งแต่โดยดี ทว่ายังไม่ละความพยายามที่จะชวนเธอคุย
“พรุ่งนี้...”เขาพูดเบาจนเธอแทบจะไม่ได้ยิน
“อะไรนะ”
“เอาหูมาใกล้ๆสิ”เขามองคนเรื่องมากตาขวาง แต่ก็ยอมยื่นหูเข้าไปฟังเขาใกล้ๆ
“พรุ่งนี้ผมมาหาใหม่นะจ๊ะเมียจ๋า”เขาฉวยโอกาสหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ก่อนที่เธอจะถอยกลับมา ซ้ำดวงตาคมคู่นั้นยังมองเธอแพรวพราว
“หอมชื่นใจ ไปก่อนนะครับ”เขาโบกมือให้อย่างกวนประสาท ก่อนจะออกรถ เธอได้แต่ค้อนขวับให้ท้ายรถที่วิ่งห่างออกไป
‘ขยันหากำไรจังนะ...คนบ้า!’
ภาณุนั่งมองดวงจันทร์ที่ส่องแสงสุกสกาวด้วยหัวใจที่เหม่อลอย มันล่องลอยไปหาผู้หญิงตัวเล็กที่เขาเพิ่งจะขโมยหอมแก้มมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนฉวยโอกาสเสยเมื่อไหร่ แต่เมื่อใกล้ธนันต์ธรญ์เธอทำให้เขาอยากจะทำทุกอย่างที่ได้ใกล้ชิดเธอ แค่กอดนิด แค่หอมหน่อยเขาก็สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองจะอดใจรอให้ถึงวันที่เขาและเธอแต่งงานกันได้หรือเปล่า เพราะแค่อยู่ใกล้ๆเขายังต้องการ และต้องการมากกว่าหอมและกอดเสียด้วย...
ชายหนุ่มเป็นอันต้องหลุดจากภวังค์เมื่อเสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะกดรับสายและเดินกลับมานั่งที่เดิม
“สวัสดีครับคุณยาย”
“เป็นยังไงบ้างลูก”
“หมายถึงเรื่องอะไรครับ”
“ก็หนูฟางน่ะสิ น้องใจอ่อนบ้างหรือเปล่า แล้วที่บ้านน้องว่ายังไงบ้าง”
“ก็คงใจอ่อนบ้างแล้วล่ะครับ ที่บ้านฟางเค้าก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมเข้ากับทุกคนได้ดี แต่ตั้งแต่ผมมาที่นี่ยังไม่เคยเห็นพ่อของฟางเลยสักครั้ง”เขาเอ่ยในสิ่งที่สงสัยกับคุณยาย
“อืม อย่าเพิ่งไปถามเรื่องนี้กับหนูฟางละกัน ไว้เขาไว้ใจเรา เขาก็เล่าให้เราฟังเองนั่นแหละ”
“ครับผม ผมจะเร่งทำคะแนนคุณยายจะได้อุ้มหลานเร็วๆนะครับ”เขาเอ่ยยิ้มๆ
“แหม ขอให้มันจริงเถอะ ถ้านั้นแค่นี้ก่อนนะลูก ยายง่วงแล้ว”
“เดี๋ยวครับ”เขารีบเอ่ยดัก
“หืม?”
“คุณแม่ล่ะครับ คุณแม่สงสัยอะไรหรือเปล่า”
“แม่เราน่ะหรอ ไม่มีอะไรหรอกก็หวังให้แกกล่อมเมียกำมะลอไปอยู่ที่กรุงเทพฯให้ได้น่ะสิ เฮ้อ ยายไม่รู้จะทำยังไงแล้วนะ ป๊อปก็รีบๆหน่อยก็แล้วกัน ยายก็อยากอุ้มหลาน”
“ครับ”เขาเอ่ยราตรีสวัสดิ์คุณยายก่อนจะวางสายท่านไป น่าแปลกที่มารดาของเขาไม่เกิดสงสัยอะไรขึ้นมาเลย ปกติแล้วมารดาของเขาไม่น่าจะปล่อยให้เรื่องมันผ่านเลยมาถึงป่านนี้ได้ หรือว่าเขาคิดมากไป...
พิมประภาได้แต่เฝ้ามองรูปถ่ายของภาณุและธนันต์ธรญ์ใบแล้วใบเล่า ภาพทุกภาพนั้นมีแต่รอยยิ้มของทั้งสอง มีใบหน้าง้ำงอนของฝ่ายหนึ่ง และฝ่ายชายที่มองมาด้วยสายตาอ่อนโยน แค่ภาพถ่ายก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่ใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมเธอถึงไม่มีโอกาสเช่นผู้หญิงคนนี้บ้าง เธอและภาณุเห็นกันมาตั้งแต่เล็กจนโต หากแต่เขาไม่ได้คิดจะสนใจเธอ อยู่ใกล้กันแค่ไหน เขาก็ยิ่งพยายามผลักเธอให้ออกห่างมากขึ้นเท่านั้น และมันตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้นทุกอย่าง...
“น้องพิม”เธอเก็บรูปถ่ายทั้งหมดลงในซองสีน้ำตาล ก่อนจะหันมายิ้มบางๆให้กับพี่ชาย
“พี่พชร มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่อยากถามอะไรพิมหน่อยได้ไหม”
“คะ?”เธอมองสีหน้าลำบากใจของพี่ชายอย่างสงสัยในที
“ที่มาที่นี่พิมต้องการอะไรกันแน่”เธอขมวดคิ้วมุ่น
“พี่หมายถึงอะไรคะ”
“พิมต้องการตัวของภาณุกลับไปแต่งงาน หรือว่าต้องการหัวใจของเขากลับไปด้วย”เธอได้แต่เงียบ ก่อนจะตอบออกมาอย่างที่ใจคิด
“พิมอยากได้ทั้งตัวแล้วก็หัวใจของเขาค่ะ แต่พิมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง...”ว่าจบน้ำตาหยดหนึ่งก็รินไหลลงมาอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกของคนที่มันถูกทิ้ง มันทรมานเกินจะบรรยายให้ใครได้รู้ ยิ่งคนที่ทิ้งไปเขาคือคนที่ทั้งรักทั้งห่วงใยแล้ว...
“พี่บอกได้เลยว่าพิมเลือกได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น หนึ่งคือได้ตัวของเขากลับไปแต่งงานกับพิม แต่หัวใจเขายังรักธนันต์ธรญ์ อยู่ด้วยกันทุกวัน ต้องเห็นหน้ากันทุกวัน แน่ใจหรือว่าพิมจะทนได้ที่เห็นสามีตัวเองรักผู้หญิงคนอื่น”
“แต่เขาไม่ได้รักกันจริงๆนี่คะ มันเป็นแค่แผนของพี่ป๊อปเท่านั้น”เธอแย้ง แต่พี่ชายกลับยิ้มเย็น มือหนาของพชรลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน
“น้องพิมเถียงพี่ได้รึเปล่าว่าดูๆแล้วภาณุไม่ได้มีใจให้ผู้หญิงคนนี้”
“แต่พิมเห็นแค่รูปถ่ายเท่านั้น บางทีทั้งสองคนอาจจะไม่ได้สนิทกันอย่างที่เราเห็นก็ได้”
“ถ้าพิมเห็นแบบที่พี่เห็นวันนี้ พิมจะไม่คิดอย่างนั้นเลย...อ้อ แล้วอีกทางที่น้องพิมจะได้ พี่ไม่บอกหรอกนะว่าน้องพิมจะได้อะไร แต่พี่เชื่อว่าน้องพิมจะได้รู้ว่าน้องพิมจะได้อะไรจากภาณุในไม่ช้านี้แน่”
“ขอตัวนะคะ”
พชรมองร่างบางของน้องสาวที่กำลังเดินจากไป เขาไม่อาจรู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่เขารู้คือสิ่งที่เห็นในวันนี้...แววตาของภาณุ แววตาที่ผู้ชายคนหนึ่งใช้มองผู้หญิงคนเดียว แค่เขามองก็รู้ว่าปรารถนาผู้หญิงคนนั้นเพียงใด ไม่ใช่ความปรารถนาแบบหวือหวา ไปเร็วมาเร็วเช่นเปลวเพลิงโหมกระพือ แต่เป็นความปรารถนาที่ที่ผสมปนเปมากับ...ความรัก และในฐานะที่เขาเป็นผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ดีว่าผู้ชายคนหนึ่งมีสายตาแบบนี้ไว้มองผู้หญิงได้เพียงคนเดียว...
...สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ