(FANFIC) THE HUNGER GAME EVOLUTION
เขียนโดย JOMTUP
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.49 น.
แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2557 08.20 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) นองเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหกสิบวินาที
นั่นคือเวลาที่เราต้องยืนอยู่บนแผ่นเหล็กกลมก่อนเสียงปืนใหญ่จะปล่อยตัว หากก้าวเท้าออกก่อนระเบิดที่ฝังไว้จะเป่าขาของเราให้แหลกเป็นจุณ หกสิบวินาทีในการพาบรรณาการแต่ละคนออกห่างจากคอร์นูโคเปียในระยะทางเท่ากัน คอร์นูโคเปียคือเขาสัตว์สีทองขนาดยักษ์ทรงกรวยมีปลายโค้ง ปากกรวยซึ่งอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อยยี่สิบฟุตจะปล่อยสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่ในลานประลองไม่ว่าอาหาร ภาชนะบรรจุน้ำ ยา เสื้อผ้า อุปกรณ์จุดไฟ อาวุธ และอุปกรณ์อื่นๆกระจัดกระจายอยู่รอบๆแต่ทว่าปีนี้สิ่งของต่างๆกลับถูกรวมกองกันไว้เป็นภูเขาแยกออกเป็นสองกอง เมื่อลองมองดูดีๆแล้วจะเห็นว่ากองที่หนึ่งเป็นอาวุธทุกอย่าง ทั้ง ดาบ หอก ขวาน มีด แส้ ฉมวก เหล็กแหลม ลูกตุ้ม ฉันหันไปมองอีกกองหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยเป้ใบใหญ่ เล็ก เต็นท์ ขวดน้ำ
ฉันได้ยินคำสั่งของเฮย์มิตต์ดังขึ้นในหัว “ทันทีที่สิ้นสุดเสียงฆ้องวิ่งให้เร็วที่สุดคว้าอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้ตัวเราและออกวิ่งอย่าหันหลังกลับมามองเป็นอันขาดซ่อนตัวไว้ทิ้งระยะห่างจากคอร์นูโคเปียให้มากที่สุดหาแหล่งน้ำให้พบนั่นคือจุดที่พวกเรานัดกันไว้แหล่งน้ำแห่งแรกในลานประลอง”
แต่ว่าฉันจะคว้าเอาอะไรไปล่ะ ฉันมองไปที่กองอาวุธกับกระเป๋าสลับกันจากนั้นสายตาก็ไปประทะกับคันธนูสีดำเงินกับกระบอกลูกธนูเต็มกระบอกใหญ่ขึ้นสายให้พร้อมรอให้หยิบยิ่งกว่านั้นระยะทางจากตรงนี้ไม่ได้ไกลเลยแม้แต่นิดทีจริงมันตั้งอยู่หน้าสุดของกองอาวุธโดยไม่ฉันไม่จำเป็นต้องแหวกกองอาวุธเพื่อดึงออกแต่อย่างใด เวลาหนึ่งนาทีจวนจะหมดอยู่รอมร่อฉันตั้งท่าวิ่งเตรียมตัวทันทีที่เสียงห้องดังขึ้นฉันออกวิ่งสุดฝีเท้าโดยไม่หันไปมองว่ามีใครวิ่งตามมาฉันไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มาถ่วงเวลา สายตาฉันจับจ้องไปที่คันธนูคันนั้นเมื่อไปถึงฉันดึงมันขึ้นสะพายกระบอกใส่ลูกธนูและเอาลูกธนูขึ้นสาย ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกถึงอันตรายฉันรีบหันกลับไปพอดีกับตอนที่มีดของหญิงสาวจากเขต1แหวกอากาศตรงมาทางฉันฉันเบี่ยงหลบมีดเฉียดหัวฉันไปนิดเดียวฉันย่อเข่าลงยิงลูกธนูออกเธอเอี่ยวตัวหลบแต่ไม่พ้นลูกธนูไปเสียบเข้ากับแขนของเธอก่อนจะล้มลงฉันรีบหันหลังวิ่งเสียงของอาวุธที่กระทบกันด้านหลังและเสียงกรีดร้องบอกให้รู้ว่าการนองเลือดเริ่มต้นขึ้นฉันจึงต้องรีบออกมาให้เร็วที่สุด ฉันวิ่งเข้าป่าไปเพื่อซ่อนตัวตอนนั้นเองที่บรรณาการคนหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากป่าตรงหน้าฉันจึงชนกับเขาเข้าเต็มๆส่งผลให้เรากลิ้งลงไปตามทางลาดชันเมื่อถึงพื้นความรู้สึกปวดแปลบแทรกเข้ามาแต่ฉันรีบลุกขึ้นเอาลูกธนูขึ้นสายเตรียมยิงตอนที่เขาพุ่งใส่ฉันบรรณาการชายจากเขตหกเขามีมีดยาวหนึ่งเล่มในมือฉันหลบเขาก่อนจะยิงลูกธนูออกไปแต่เขาหลบได้ลูกธนูจึงปักเข้ากับต้นไม้ ฉันยกคันธนูขึ้นป้องกันตอนที่มีดฟันลงมาก่อนจะเตะเขาออกอย่างเต็มแรง ฉันหยิบลูกธนูออกมาเล็งยิงไปที่เขาอีกครั้งเขาเบี่ยงหลบแต่ไม่ทันลูกธนูพุ่งเสียบเข้าตรงกลางหัวใจ แววตาแรกที่ฉายออกมาคือความหยาบกระด้างในดวงตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวังบรรณาการชายคนนั้นล้มลงกับพื้นตายสนิทภาพดวงตาเขาที่มองฉันยังประทับอยู่ในหัวฉันรู้สึกมือสั่นแต่ก็พยายามควบคุมไว้ตอนนั้นเองที่เสียงฝีเท้าหลายคู่วิ่งเข้ามาฉันรีบลุกขึ้นดึงลูกธนูออกจากต้นไม้และตัวบรรณาการคนนั้น จากนั้นจึงออกวิ่งอีกครั้ง
ราวครึ่งชั่วโมงต่อมาฉันวิ่งเหยาะๆไปเรื่อยๆจนมั่นใจว่าป่าซ่อนฉันจากพวกเขา แต่ฉันก็เงี่ยหูฟังทุกอย่างที่ผิดปกติแต่กลับมีเพียงเสียงของสรรพสัตว์และนกร้องฉันเบาใจลงเริ่มเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินไปเรื่อยๆต่ออีกครึ่งชั่วโมงจึงหยุดพักเมื่อเจอลำธารแต่ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นแหล่งน้ำแห่งแรกของลานประลองหรือเปล่าที่เป็นจุดนัดพบของเราฉันวักน้ำขึ้นกำลังจะดื่มแต่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เมื่อเกมหลายปีก่อนมีสนามประลองแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยพิษมากมายแม้กระทั่งน้ำตามลำธารก็ยังมีพิษร้ายฉันจึงออกเดินและซุ่มอยู่แถวนั้นเงียบๆสักพักก็มีกระต่ายตัวหนึ่งกระโดดมาที่ลำธารฉันจ้องดูมัน มันดมนู่นนี่ซักพักก่อนจะก้มลงดื่มน้ำนั่นแปลว่ามันปลอดภัยฉันจัดการยิงกระต่ายตัวนั้นก่อนจะจัดการทำความสะอาดควักเอาเครื่องในของมันออกและซ่อนไว้ที่กองใบไม้เพียงแต่ตอนนี้ฉันคงต้องเก็บมันไว้ก่อนฉันวักน้ำขึ้นดื่มน้ำใสสะอาดไร้สิ่งสกปรกฉันล้างหน้าล้างตาก่อนจะนั่งพักและนับจำนวนลูกธนู ลูกธนูมีทั้งหมดสี่สิบเก้าดอกดอกจากกระบอกขนาดใหญ่ที่ฉันคว้ามาจริงๆแล้วมันคงมีห้าสิบดออกแต่ฉันใช้ยิงบรรณาการหญิงจากเขต1ไป จู่ๆฉันก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาเมื่อนึกถึงลูกธนูดอกต่อมาที่ฉันยิง ฉันฆ่าบรรณาการชายจากเขตหกโดยที่ฉันไม่รู้จักชื่อเขาตอนนี้ครอบครัวเขาคงร่ำร้องหาเลือดฉันต้องการให้ฉันตาย ฉันรีบสลัดความรู้สึกผิดทิ้งเขาพยายามจะฆ่าฉันก่อนฉันคิดทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอย่างน้อยก็ในตอนนี้ ฉันสังเกตเห็นกระบอกลูกธนูมีบางอย่างคล้ายกระเป๋าเล็กติดอยู่จึงดึงออกมาดูมันเป็นกระเป๋าที่ติดอยู่กับกระบอกลูกธนูฉันลองเปิดดูในนั้นมีขวดน้ำพลาสติกขนาดครึ่งแกลลอน ไม้ขีดไฟ ห่อพลาสติกสีดำ กับมีดสั้นหนึ่งเล่ม ฉันยิ้มออกมาอย่างน้อยการเลือกเอาคันธนูกับลูกก็โชคดีไปอีกอย่างฉันเอามีดออกมามันเป็นมีดเนื้อดีมีฟันปลาอีกด้านหนึ่งของใบมีดใช้เลื่อยของได้ฉันสอดมันไว้กับเข็มขัดที่มีกระเป๋าใส่มีด ฉันเอาเนื้อกระต่ายเก็บห่อไว้ในถุงพลาสติกเก็บใส่กระเป๋าใบเล็กเติมน้ำใส่ขวดและออกเดินต่อจนกระทั่งเริ่มตกเย็นมากแล้วความหิวเริ่มมาเยือน ฉันเสี่ยงก่อกองไฟกองเล็กแสงในเวลานี้คงจะพอปกปิดได้ฉันย่างเนื้อกระต่ายอย่างรวดเร็วและมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังก่อนจะเตะดินกลบเอาเนื้อส่วนที่เหลือห่อไว้ในถุงพลาสติกและเอาน่องมันออกมาแทะไปเดินไป
เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าการต่อสู้จบลงแล้วหนึ่งนัดหมายถึงบรรณาการหนึ่งคนฉันนับไปเรื่อยบก่อนจะหยุดลงที่เก้า แค่เก้าคนเองหรือ? ปีที่แล้วมีมากกว่านี้แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะพูดถึงแล้วปีเตอร์จะรอดหรือเปล่าฉับพลันฉันก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นในอกหากเขาตายแล้วล่ะเลือดไหลหมดตัวกำลังถูกบรรจุศพส่งกลับไปเขตสิบสองฉันรีบกระพริบตาถี่ไม่ให้น้ำตาไหลความเหนื่อยล้าเริ่มมาเยือนฉันตัดสินใจปีนขึ้นต้นไม้ต้นหนึ่งเลือกหาทำเลที่พอเหมาะและทำเป็นเพิงบนต้นไม้เล็กๆฉันเอาเถาวัลย์มาสานต่อกันเป็นผืนใหญ่สองผืนผืนแรกฉันเอาปูกับเพิงพักอีกหนึ่งฝืนฉันใช้คลุมแทนผ้าห่มกันลมหนาวที่เริ่มพัดวูบมาเป็นระยะก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยเอาลูกธนูขึ้นสายไว้หนึ่งดอกวางไว้ใกล้มือเผื่อว่าต้องยิงทันทีที่เห็นความมืดเริ่มมาเยือนตอนที่เพลงชาติดังขึ้นก่อนที่ภาพของบรรณาการที่ตายจะฉายคนแรกที่ปรากฏคือบรรณาการหญิงจากเขตสาม แสดงว่าบรรณาการหญิงเขตสองที่ฉันยิงเธอยังมีชีวิตอยู่ บรรณาการหญิงจากเขตห้า เดาว่าเจสันกับเจน่าคงจะรอดเหมือนกัน บรรณาการทั้งสองคนจากเขตหก หนึ่งในนั้นคือคนที่ฉันฆ่าแค่เห็นหน้าเขาอีกครั้งหน้าฉันก็ชาไปทั้งแถบบรรณาการทั้งสองคนจากเขตแปด บรรณาการชายจากเขตเก้า และบรรณาการสองคนจากเขตสิบ หมดแล้ว ตราสัญลักษณ์แคปิตอลฉายขึ้นก่อนเพลงจะจบลงฉันโล่งอกอย่างประหลาด ปีเตอร์ยังไม่ตายฉันยิ้มออกมาก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นปลุกให้ฉันตื่นจากห้วงนิทราฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้วนี่ฟ้ายังมืดสนิทแต่เสียงโห่ร้องแต่ไกลเป็นสัญญาณเตือนว่ามีกลุ่มบรรณาการกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้าผ่านมาทางนี้ตอนนี้พวกเขาคงอยู่ไม่ไกลจากฉันมากนักสิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือสะพายกระบอกลูกธนูแทนที่ฉันจะกระโดดลงจากต้นไม้แล้ววิ่งความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวหากฉันอยู่นิ่งๆและเฉยๆพวกเขาก็จะผ่านไปโดยไม่เห็นฉันกับตอนนี้ที่เพิงพักฉันซึ่งทำจากเถาวัลย์ซึ่งจะช่วยพรางตัวฉันได้ฉันรีบหยิบคันธนูและสะพายกระบอกลูกธนูหากเกิดเหตุฉุกเฉินฉันสามารถหนีได้ทันท่วงทีฉันนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจนอนลงคว่ำหน้าแล้วเอาผ้าห่มเถาวัลย์มาคลุมทับตัวเองไว้อีกทีเสียงฝีเท้าพวกเขาดังเข้ามาใกล้ทั้งเสียงร้องโห่เรียกพวกเขาพูดอะไรบางอย่างสักพักฉันเห็นความเคลื่อนไหวภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างบรรณาการชายคนหนึ่งซึ่งฟังจากเสียงทุ่มต่ำกำลังวิ่งสุดฝีเท้าเดาว่าเขาคงหนีเหล่าบรรณาการมืออาชีพอยู่ความคิดแรกโผล่เข้ามาหากฉันรีบเผยตัวและพาเขามาซ่อนบนนี้เขาก็จะรอดแต่ทว่าฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเพราะถึงแม้ฉันจะมองเห็นแต่แสงสว่างไม่มากพอที่จะเห็นได้ว่าเขาเป็นใครนอกจากร่างกายใหญ่โตที่กำลังวิ่งเขาหยุดซักพักก่อนจะเริ่มปีนต้นไม้ฝั่งตรงข้ามใจฉันหายวาบหากเขาปีนขึ้นมาสูงพอเขาจะต้องเห็นฉันแน่บรรณาการชายคนนั้นเริ่มป่ายปีนขึ้นมาเรื่อยๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ขึ้นเขาหยุดปีนตอนที่บรรณาการมืออาชีพมาถึงแต่พวกเขาไม่เห็นบรรณาการชายเขาอยู่ในระดับความสูงที่ต่ำกว่าฉันเล็กน้อยตอนนั้นเองที่บรรณาการชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นดวงตาเขาประสานกับดวงตาฉัน ฉันตระหนักว่าดวงตานั้นฉันคุ้นเคยอย่างประหลาด ตาสีฟ้าอมเทาคู่นั้นดูเบิกโผล่งเหมือนตกใจที่เห็นฉันแต่แทนที่เขาจะร้องออกมาเขาเอาทำเสียงให้เงียบไว้และชี้ลงไปที่มืออาชีพที่อยู่ใต้ต้นไม้บรรณาการจากเขตหนึ่งกับสองทั้งสองคน บรรณาการชายจากเขตห้า บรรณาการทั้งสองคนจากเขต7ฉันแปลกใจมากที่ปีนี้พวกเขารวมหัวกับเขตอื่นๆเดาว่าเพราะเขตสี่ไม่ได้ร่วมมือกับเขาฉันหันกลับไปมองบรรณาการชายคนนั้นที่อยู่อีกฝั่งเขาหน้าเขากระทบแสงจันทร์แวบหนึ่ง เจสัน! เป็นเขาหรอกหรือฉันหายแปลกใจทันทีว่าทำไมดวงตาสีฟ้าอมเทาคู่นั้นถึงได้คุ้นตาฉันฉันก้มลงมองพวกมืออาชีพอีกทีตอนนี้พวกเขากำลังอารมณ์เสียและคอยแต่โทษกันไปมาเรื่องที่ตามเจสันไม่ทันหากพวกเขามีสมองมากกว่านี้พวกเขาคงเดาได้ไม่ยากว่าเจสันจะซ่อนตัวได้อย่างไร
“มันบาดเจ็บอยู่คงไปไหนได้ไม่ไกล” เด็กหนุ่มจากเขตเจ็ดพูด บาดเจ็บ ฉันเงยหน้ามองเจสันอีกทีถึงพบว่าตรงหัวไหล่ข้างซ้ายกับแขนซ้ายมีแผลเป็นทางยาวแต่เขาดูเหมือนไม่สะทกสะท้านกับบาดแผลนั้นเท่าไหร่นอกจากเอาผ้าพันแผลพันไว้แบบลวกๆ บรรณาการมืออาชีพกำลังจะไปอยู่แล้วตอนที่เด็กหญิงจากเขตสองคนเดิมนั้นสังเกตุเห็นรอยเลือดเป็นหยดที่พวกเขาตามมาแต่ตอนนี้รอยเลือดนั้นกลับหยุดแค่ตรงที่พวกเขายืนฉันรีบเอาธนูขึ้นสายทันทีหากเกิดอะไรขึ้นเจสันเอาหัวโขกกับต้นไม้เบาๆเหมือนจะตำหนิตัวเองเหล่าบรรณาการมืออาชีพเริ่มตามหาตัวเขาทั้งแหวกพุ่มไม้หรือตามซอกในต้นไม้บรรณาการหญิงจากเขตสองมาหยุดตรงต้นไม้ทีเจสันอยู่และมองรอยเลือดที่เป็นทางเธอเงยหน้าขึ้นตอนนั้นเองที่เธอเห็นเจสันแต่เธอไม่ทันที่จะได้ร้องออกไปเพราะลูกธนูของฉันพุ่งเข้าเสียบที่คอเธอก่อนที่เธอจะล้มลงทั้งที่ตายังเบิกโพล่งเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นเหล่าบรรณาการมืออาชีพที่เหลือร้องโวยวายบอกให้รู้ว่าเขาเห็นเธอตายและเห็นฉันที่เป็นคนยิงฉันกำลังจะหยิบลูกธนูดอกที่สองตอนที่มีดพุ่งมาเฉี่ยวหน้าฉันล้มลงรู้สึกปวดแสบปวดร้องกับแผลที่หน้าผากแต่ฉันไม่มีเวลาตรวจดูความเสียหาย เจสันขว้างมีดหนึ่งเล่มใส่บรรณาการหญิงจากเขตหนึ่งที่ขว้างมีดใส่ฉันแต่มีดถูกปัดออกด้วยดาบของบรรณาการชายจากเขตหนึ่งตอนนั้นเองที่เจสันตะโกนออกมา
“วิ่ง!” ฉันไม่รอให้เขาสั่งซ้ำฉันตัดสินใจกระโดดลงจากต้นไม้ในทิศตรงกันข้ามกับบรรณาการมืออาชีพและออกวิ่งสุดแรงเสียงฝีเท้าสองคู่วิ่งตามฉันเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอีกหนึ่งนัดเดาว่าไม่เจสันก็คงเป็นพวกมืออาชีพแน่แต่ฉันไม่มีเวลาคิดนอกจากต้องวิ่งเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นฉันวิ่งไวกว่าพวกเขาบอกได้จากเสียงตะโกนของพวกเขาที่ดังอยู่ไกลๆฉันวิ่งไปเรื่อยจนกระทั่งรู้สึกเหมือนมีบางอย่างดึงฉันขึ้นไปบนต้นไม้ กับดัก ฉันร้องเสียงหลงตอนที่ตาข่ายดึงฉันขึ้นไปฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดก่อนที่จะหยุดตอนที่พวกเขาวิ่งมาถึงเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของบรรณาการชายจากเขตเจ็ดกับหญิงจากเขตห้าบอกให้รู้ว่าพวกเขาต้องฆ่าฉันแน่
“เอาไงดี คาเรน” บรรณาการชายจากเขตเจ็ดถามบรรณาการหญิง คาเรนมองฉันครุ่หนึ่งก่อนจะพูด
“ฉันว่านะให้นายจัดการดีกว่า เคออส” เธอพูด บรรณาการชายจากเขตเจ็ดพยักหน้าเตียมเงื้อหอกขึ้นจะพุ่งแทงใส่ฉันฉันหลับตารอรับความเจ็บปวด
“ฉันว่านะ เราค่อยๆฆ่ามันดีกว่าเพื่อผู้ชมไง” โคนอสหยุดและพูด พวกมันจะทรมานฉัน ฉันอยากกรีดร้องแต่เสียงกลับแหบแห้งฉันจะตายอย่างช้าๆในแบบที่พวกมืออาชีพชอบทำกันในบางครั้งพวกเขากำลังจะดึงฉันลงมาอยู่แล้วตอนที่มีดเล่มหนึ่งพุ่งแหวกกลางอากาศก่อนจะเสียบเข้าที่สีข้างของ เคออส ดูเหมือนคาเรนจะตกใจและคาดไม่ถึงตอนที่เธอหันไปเธอก็ถูกด้ามหอกด้ามใหญ่พาดเข้าที่หน้า เจสัน!! เขายังไม่ตาย เจสันไม่รอกซ้ำเติม เคออสกับคาเรนแต่รีบมาดึงฉันลงไปเคออสลุกขึ้นยืนเจสันหันกลับไปกระชับด้ามหอกให้มั่นและฟาดเข้าที่หน้าเคออสอย่างจังจนล้มลงไปฉันชักมีดออกมากำลังจะแทงแต่เจสันรีบห้ามไว้
“ช่างเถอะ รีบไปก่อนที่พวกที่เหลือจะมา” ฉันรีบก็บมีดและออกวิ่งวิ่งอีกครั้ง
เป็นเวลาเช้าแล้วที่เราหยุดพักเพราะเจสันไปต่อไม่ไหวเราซ่อนตัวอยู่ที่ลำธารเล็กแห่งหนึ่งฉันตรวจดูแผลของเขาแผลที่แขนซ้ายไม่ลึกมากแต่กว้างฉันจึงล้างแผลและใส่ยาจากกล่องปฐมพยาบาลในกระเป๋าของเขาให้แต่แผลที่ไหล่ซ้ายของเขานี่สิ มันเป็นแผลลึกที่ดูแป๊ปเดียวก็รู้ว่าต้องเย็บฉันล้างแผลเขาให้สะอาดและดูอุปกรณ์อื่นในกล่องปฐมพยาบาลมีแค่ยาลดไข้ ยาแก้ปวดท้อง ผ้าพันแผลยาทางแผลแค่นั้นไม่มีอะไรที่พอจะช่วยเย็บแผลให้เขาได้เลย
“ช่างมันเถอะ แวนด้า” เจสันบอกฉันจึงทายาและพันแผลให้เขาเขาขยับแขนเล็กน้อยก่อนจะสวมเสื้อตามเดิม แผลที่หัวฉันไม่ลึกมากฉันจึงทายาและพันมันไว้เท่านั้นแต่อาการปวดหนึบยังอยู่
“นาย เจอพวกเขาได้ยังไง” ฉันถาม
“ฉันกำลังตามหาเธอกับปีเตอร์ฉันเจอลำธารกับเครื่องในกระต่ายที่หมาป่าตัวหนึ่งกำลังกินอยู่ฉันเดาว่านั่นน่าจะเป็นฝีมือเธอกับรอยเท้าที่เหยีบโคลนเข้าไปอีกฝั่งที่สำคัญกองไฟกองเล็กนั่นก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันแต่ฉันเพิ่งรู้ว่ามีคนกำลังสะกดรอยตามเธออยู่เหมือนกัน เธอต้องระวังให้มากกว่านี้ละ”
คำเตือนจากเจสันทำเอาฉันสะดุ้งฉันทิ้งร่อยรอยให้พวกเขาตามหาเจอโชคดีแค่ไหนที่เจสันตามรอยนั่นมาเหมือนกันฉันนึกภาพไม่ออกที่ต้องเผชิญกับพวกมืออาชีพตามลำพังคราวหลังฉันต้องระมัดระวังกว่านี้ฉันนึกถึงที่บ้าน แคตนิสจะบอกว่า ระวังหน่อยสิ เรามาล่านะไม่ใช้มาให้ถูกล่า แค่คิดฉันก็รู้สึกปวดแปลบในอก แคตนิว พริม แม่ ฉันไม่มีวันได้เจอพวกเขาอีก ความคิดนี้ถูกขจัดออกไปตอนที่เสียงปืนใหญ่หนึ่งนัดดังขึ้น
“คิดว่านั่นใคร” ฉันถาม
“ไม่รู้สิคืนนี้ก็รู้” เจสันตอบ
“ว่าแต่เหลือใครบ้างล่ะตอนนี้” ฉันอยการู้
“บรรณาการสองคนจากเขต1 บรรณาการชายจากเขต2 ฉันกับเจน่า บรรณาการสองคนจากเขต7 แล้วก็เธอกับปีเตอร์รวมกันเป็นสิบสองคนพอดี” เจสันตอบ
ฉันหวังอย่างสุดใจว่าเสียงปืนใหญ่ที่ดังจะไม่ใช่ปีเตอร์กับเจน่า เราดูของทั้งหมดทีมี เจสันมีกระเป๋าเป้สองใบ ในนั้นมีเสื้อผ้าแบบเดียวกับที่เราสวมอยู่ใบละหนึ่งชุด ขวดน้ำขนาดสองลิตรมีดสั้นหลายเล่ม ขนมปังกรอบ ไฟฉาย ถ่านและไม้ขีดไฟ ทุกอย่างมีเหมือนกันหมด เจสันยกเป้ให้ฉันสะพายหนึ่งใบฉันเอากระบอกใส่ลูกธนูเก็บใส่กระเป๋าตอนนี้ดูเหมือนมีมีประโยชน์เพียงน้อยนิดเพราะฉันทำคันธนูตกตอนที่ฉันติดกับดัก ฉันเอามีดสั้นหลายเล่มมาเสียบไว้กับเข็มขัดเผื่อว่าต้องขว้างมันในการต่อสู้และเก็บเอามีดยาวไว้ข้างเอวแน่น เรากินอาหารมื้อเช้าด้วยเนื้อกระต่ายส่วนที่เหลือก่อนจะเตะดินกลบถ่านและมุ่งหน้าตามหาปีเตอร์กับเจน่าต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ