exo รักอลม่านในโรงเรียนร้าง
เขียนโดย fernatty
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.32 น.
แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"บรื๋อออออ"ขณะที่คยองซูสุดที่รักของผมกำลังเดินถือรูปนั้นเข้ามาใกล้ๆ อยู่ดีๆผมก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา มันรู้สึกหนาวๆเย็นๆยะเยือกๆยังไงก็ไม่รู้
"ไอสัสมึงอย่าทำหน้าแบบนั้น ท่าขนลุกมึงนี่อย่างกับผีเข้า"ผมตะโกนว่าไอจงอินด้วยพลังเสียง80เดซิเบล ก้ไม่รู้จะตะโกนทำไมครับห่างกันไม่ถึงคืบ
"ภาพนี้......"แบคฮยอนพูดขึ้นขัดจังหวะเรื่องไร้สาระก่อนจะจบลงที่ความเงียบ มือที่เอาขึ้นมาเท้าคางกำลังบ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
"ทำไม ภาพนี้มันทำไม"ชานยอลพูดขึ้นพยามยามจะให้แบคฮยอนจำเรื่องราวที่ฝันให้ได้ เขาจะได้รู้สักทีว่าเรื่องบ้าๆที่เกิดตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาเหยียบที่นี่มันคืออะไรกันแน่
จะว่าไป......ผมก็รู้สึกคุ้นหน้าคนในรูปเหมือนกันนะ
"ย่า นี่แกคิดออกหรือยัง นี่มันผ่านมา3ชั่วโมงแล้วนะ"คยองซูพูดตัดความเงียบที่ผ่านมา3ชั่วโมง ทุกคนนั่งใจจดใจจ่ออยู่กับแบคฮยอนเพื่อนรักของผมเพราะต้องการจะรู้ว่าคนในภาพคือใคร นี่ก็ภาพมา3ชั่วโมงละครับยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักนิด
"นี่น้องโด้ที่รักครับ ใจเย็นๆก่อนนะคะ"พี่มืดสุดที่รักของนุ้งโด้พูดขึ้น
"น้องโด้ก็ไม่ได้ใจร้อนอะไรนี่ แค่ถามเฉยๆว่าคิดออกหรือยัง"คยองซูเถียงกับก็มันจริงนี่ นี่ผมยังไม่ได้ใจร้อนอะไรเลยนะ ไอพี่มืด คล-บร้า
"จ...จำได้แล้ว"จู่แบคฮยอนก็สะดุ้งสุดตัวเพราะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สายตาลอกแลกกวาดตามองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว
"แบค..เป็นอะไรไป ถ้าจำอะไรได้เล่ามาเลยไม่ต้องกลัวนะ"ผมเข้าไปกอดปลอบน้องเบาๆเพราะหลังจากที่พูดออกมาไม่กี่ประโยคน้องก็เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง ตอนนี้เหงื่อน้องเหงื่อท่วมตัวและร่างกายก็สั่นไปหมดจนถึงอดห่วงไม่ได้
"ไม่เป็นไรนะ...พี่อยู่นี่แล้วไม่ต้องกลัว"ผมพูดกระซิบที่ข้างหูก่อนจะลูบหัวเบาๆเพื่อให้น้องมั่นใจ ว่าอย่างน้อยต่อให้เรื่องที่แบคกำลังจะเล่ามันจะน่ากลัวแค่ไหนผมก็จะไม่ทิ้งแบคไป
"คนๆนี้"แบคชี้ไปที่รูปภาพ นิ้วเรียวสั่นระริกก่อนจะค่อยๆชักมือตัวเองกับมาที่เดิม
"แบคเห็นเค้า..."
ปัง
ยังพูดไม่ทันจนก็มีปิดประตูดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ทุกคนสะดุ้งโหยงก่อนจะเขยิบเข้ามานั่งให้ชิดกันมากว่าเดิมตอนนี้ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือ
หวาดกลัว
"แบคเล่าต่อเลยอย่าไปสนใจ"เฮียคริสพูดขึ้น
"มัน....ฮึก....น่ากลัว"อยู่ๆแบคฮยอนก็เอามือปิดหน้าเสียงที่สั่นเครือนั่นทำให้รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้
"ไม่เป็นไรนะไม่ต้องร้องไห้ ทุกคนอยู่ตรงนี้กันหมดแบคไม่ต้องกลัวนะ"คยองซูพูดขึ้น ใจหนึ่งก็อยากจะฟังเรื่องที่เพื่อนตัวเองกำลังจะเล่าเต็มทีแต่อีกใจก็สงสารเพราะคนเราทุกคนไม่มีใครที่อยากจะเล่าเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบหรอก
ทุกคนพากันพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงว่าไม่ต้องกลัวนะพวกเราอยู่นี่แล้วนั่นทำให้แบคฮยอนใจชื้นขึ้นมาบ้าง ความกลัวค่อยๆหายไปทีละนิด แบคฮยอนสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสติก่อนที่จะรวบรวมความกล้าแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างออกมา
"ในฝัน..แบคเห็นคนๆนี้เค้ามาบอกว่าให้ช่วยเค้าด้วย เค้าไม่อยากอยู่ที่นี่...
"ช่วยด้วย"เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นมาทางข้างหลังผม
"คุณเป็นใครครับ"ผมหันขวับไปทันที ก่อนจะถามผ่านความมืดออกไป
"ช่วยด้วย"ไม่มีคำตอบใดๆออกมานอกจากคำว่าช่วยด้วย ใจผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะเริ่มคิดว่าเสียงที่พูดกับผมอยู่อาจจะไม่ใช่คน
"ค..คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรครับ"ผมถามออกไปอีกครั้งสายตาโฟกัสไปทางข้างหน้าเพื่อจะมองหาที่มาของเสียง ในใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะว่าเริ่มเห็นเงาดำๆอยู่ตรงพื้น
"ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่"เสียงเยือกเย็นนั้นพูดขึ้นอีกรอบก่อนที่เงาดำๆนั้นกำลัง 'คลาน' เข้ามาหาผมขาทั้งสองข้างกำลังถอยหลังช้าๆเพราะความหวาดกลัว
ค่อยๆถอยไปทีละก้าวๆ
"จะไปไหน!"น้ำเสียงนั้นตะคอกด้วยความโกรธผมสะดุ้งสุดตัวขนแขนลุกไปหมด พยายามที่จะจ้องเข้าไปในความมืดนั้นแต่ก็พบว่าเงาดำๆนั้นได้หายไปแล้ว ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยัง..
มันยังไม่จบ
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย"เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นมาติดๆกัน ก่อนเงาที่หายนั้นจะปรากฎขึ้นมาอีกครั้งมันคลานเข้ามาเรื่อยๆ ผมล้มลงเพราะความตตกใจยกมือสองข้างขึ้นมาปิดหน้าเพราะไม่อยากเห็นสิ่งตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว
"พวกเราไม่อยากอยู่ที่นี่"เสียงนั้นแผ่วลงจนเหมือนกระซิบ ผมค่อยๆลดมือลงและมองไปทางข้างหน้าก็ปรากฎว่าพบเด็กผู้หญิงคนนึงนั่งหันหลังให้ผมอยู่ ที่แปลกใจก็คืออยู่ๆก็มีแสงไฟที่ไหนไม่รู้ส่องมาทางผมเป็นจุดเดียวจึงให้ให้ผมเห็นบริเวณรอบห้องลางๆ และก็เห็นผู้หญิงคนนี้..
"ถ้าจะให้ผมช่วยก็มาดีๆสิ"ผมบอกออกไปไม่ใช่ไม่กลัวนะแต่ผมสงสัยว่าถ้าจะให้ช่วยก็มาบอกกันดีๆก็ได้
"ที่ๆฉันอยู่มันมืด แล้วก็น่ากลัว"เสียงนั้นสั่นไหวจนผมรู้สึกสงสารเธอจับใจ ผมนั่งอยู่ตรงที่เดิมอยู่ๆอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ผมเอื้อมมือผ่านความมืดเพื่อจะเข้าไปจับไหล่ให้กำลังใจเธอ แล้วอยูู่ดีๆเพียงแค่ผมกระพริบตาเธอก็หายไปแล้ว
"จะทำแบบนี้หรอ"เสียงที่เย็นยะเยือกกระซิบดังขึ้นที่ด้านหลังก่อนจะมีมือที่มีคราบเลือกติดและเนื้อหนังถลอกปลอกเปลิกยื่นมาจับไหล่ของผมใจที่เต้นรัวเหมือนจะระเบิดออกมาทำเอาผมเจ็บไปหมด มือไม้กำเข้าหากันแน่นเพราะพยายามข่มความกลัวเอาไว้ มือนั้นค่อยๆเลื่อนลงและเสียงลมหายใจก็หายไปแล้ว ผมหันหน้าไปทางข้างหลังช้าๆเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนั้นไปแล้ว
"ไม่อยากตายก็ต้องช่วยกู"ยังไม่ทันที่จะหันไปเต็มๆก็มีผีพุ่งเข้ามาหาาผมด้วยใบหน้าเน่าเฟะมีหนอนไชยั้วเยี้ยจนน่าอาเจียนดวงตาทั้งสองข้างหายไปจากเบ้าริมฝีปากโดนเย็บติดกันตรงหน้าผากมีรอยทุบตีจากของแข็งจนบริเวณนั้นเละไปหมด
"อ้ากกกกกกกกกก"
"หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลยจนถึงตอนที่พี่ชานเข้ามาช่วยผม"ผมเล่าเรื่องที่ตัวเองฝันทั้งหมดให้ทุกคนฟัง คนที่อยู่รอบๆตัวผมต่างขนลุกเป็นแถวๆผมนั่งก้มหน้าพยายามลืมเรื่องทั้งหมดแต่ทำไมไม่รู้แค่เพียงตานิดเดียวสภาพศพที่ผมเห็นนั่นก็ตามหลอกหลอนตลอด
ผมรู้สึกอึ้งมากหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด เพราะสภาพศพที่น้องเห็นนั้นมันทำให้ผมมั่นใจเลยว่าเป็นคนๆเดียวกัน เพราะที่ผมเห็นครั้งนั้น.....ก็นั่นแหละครับสภาพเหมือนที่น้องเล่าเลย
"ผมว่าที่เค้ามาไม่ได้ต้องการจะมาหลอก..แต่ต้องการจะมาให้เราช่วย"ถึงผมจะไม่รู้ว่าทำไมต้องมาแบบหลอนๆหรืออะไรก็ตามแต่แต่สาเหตุที่เค้ามาคือต้องการให้เราช่วยแน่ๆ
"แล้วทำไมถึงไม่มาดีๆว้ะไม่มีใครเค้าอยากช่วยหรอกนะพวกที่ชอบมาแบบน่ากลัวๆอ่ะ"จงอินพูดขึ้นจึงทำให้ทุกสายตาจ้องมาที่มันกันหมด ปากหนอปาก
ครืนนนนนน
ไม่ทันใดก็มีลมพัดแรงเข้ามาตรงที่พวกเรายืนกันอยู่ ผมมองไปรอบๆก็พบว่าไม่มีหน้าต่างสักบานที่เปิดอยู่เลย แล้วลมพวกนี้มาได้ยังไง?
ผมรู้ละ
ไอจงอิน
ไอปากหมา
-------------------
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจ้า ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ