FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  41.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) chapter 42 พี่เลี้ยง พี่ชาย VS น้องเขย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                     กว่าแขกของบ้านจะมากันครบก็เกือบหนึ่งทุ่ม อาหารมากมายวางเรียงบนโต๊ะสวยงาม ทุกคนทยอยพากันไปนั่งที่ห้องอาหาร เพราะจะนั่งข้างนอกก็กลัวเจ้าตัวเล็กของฮยอกแจจะไม่สบาย

 

          “ชื่อน้องอะไรครับตัวเล็ก”ร่างบางถามเจ้าตัวเล็กแจอินที่ฮันคยองอุ้มอยู่

          “ชื่อน้องแจอินครับ”ฮันคยองตอบ ดัดเสียงให้เล็กลง ร่างบางยิ้มกว้างก่อนจะขอมาอุ้มบ้าง

          “ร้องไห้เก่งรึปล่าวครับฮัน”เสียงหวานเอ่ยถาม ฮันคยองยิ้มออกมา

          “แทบไม่ร้องเลยครับ เป็นเด็กดีนอนเงียบเลย แต่ถ้าหิวก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ”ฮันคยองว่า ร่างบางหัวเราะคิก มือเล็กลูบหลังแจอินเบาๆ เพราะเหมือนจะหลับ

          “ทานนมรึยังลูก จะหลับแล้ว”ร่างบางถามเจ้าตัวเล็กงุ๊งงิ๊งเมื่อเห็นว่าหาวหวอดใหญ่ จึงเดินไปมาเดินมาโยกตัวน้อยๆ กล่อมให้หลับจะได้พาไปนอน

          “คยูไปรอข้างในก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวน้องหลับแล้วผมตามเข้าไป”ฮันคยองบอก ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วส่งเจ้าตัวเล็กคืนให้ พร้อมรอยยิ้ม

          “เด็กๆ ไปข้างในก่อนก่อนลูก ไปทานข้าวได้แล้วครับ เยจินหนูพาน้องเข้าไปนะคะ”ร่างบางร้องเรียกเด็กๆ ที่วิ่งเล่นซนอยู่ในห้องนั่งเล่น ถ้าซองอึนกับโซอึนอยู่ด้วยเขาคงปวดหัวตายแน่ๆ แค่ห้าหกคนตรงนี้ก็แทบจะดูแลไม่ไหว เด็กๆ หยุดเล่นแล้วพากันเดินเข้าห้องอาหารไป ร่างบางจึงเดินตามเข้าไปด้วยอีกคน

 

 

          “เด็กเต็มบ้านแบบนี้ สงสัยพวกเราคงต้องรวมเงินกันสร้างคฤหาสน์ให้อยู่ด้วยกันแล้วล่ะมั้ง”ฮีชอล เอ่ยขึ้นติดตลก เพราะแค่อยู่ตรงนี้ก็ห้าคนแล้วแถมเจ้าตัวเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอีกหนึ่งก็หกคน และที่ไม่ได้มาอีกห้า ถ้ามาอยู่รวมกันบ้านจะแตกรึปล่าวก็ไม่รู้

          “นั่นสิ่ งั้นยังไงพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ไปดูที่กันมั้ยล่ะว่าจะสร้างตรงไหน”อีทึกเสริมก่อนจะหันไปหัวเราะให้ฮีชอล

          “ความคิดดีมากครับพี่ แต่ผมว่าอาจจะแย่นิดนึงตรงที่...ถ้าให้ซองอึนไปอยู่ด้วยลูกสาวผมจะโดนสอย มั้ยครับ”ฮันคยองว่าขึ้นหลังจากเดินเข้ามาได้ยินบทสนทนาพอดี เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

          “ไอ้ฮัน มึงก็พูดเกินไป รึว่ากลัววะ ไม่แน่จริงนิ่หว่า”ร่างสูงว่า

          “งั้นมึงเอาน้องโซอึนมาอยู่บ้านเดียวกับผู้ชายมั้ยล่ะ โดนเฉพาะผู้ชายที่พ่อมันให้มางาบเขาน่ะ”คำพูดของฮันคยองเรียกเสียงหัวเราะ ขึ้นได้อีกครั้ง อีทึกส่ายหน้าระอาน้องชายตัวเอง

          “ไม่ต้องกังวลหรอกครับคุณฮัน เพราะอึนจองก็ต้องอยู่กับน้องยองซูเหมือนกัน น่ากลัวพอกันครับ”เยซองเสริมทับ ซีวอนหัวเราะก๊ากออกมาอย่างชอบใจ อีทึกส่งค้อนขวับให้

          “นี่ ยองซูไม่ได้เหมือนซองอึนนะ ยองซูน่ะรักเดียวใจเดียว แต่ซองอึนน่ะ เจ้าชู้เหมือนพ่อมัน”อีทึกว่า ร่างสูงสะอึกเมื่อโดนว่า ร่างบางอมยิ้มขัน

          “พี่จะรู้ได้ไง ยองซูอาจจะเจ้าชู้ก็ได้ ลูกพ่อแม่นิสัยอาจจะไม่เหมือนพ่อแม่เสมอไปนะพี่ อาจจะเหมือนผมก็ได้”ร่างสูงเถียง อีทึกบู้ปากส่งไปให้

           “พอดีลูกฉันหน้าตาก็ได้พ่อแม่ นิสัยคงไม่เหมือนน้าหรอกมั้งซีวอน ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่กับอึนจองทุกวันจนแทบจะไม่ยอมรู้จักเพื่อนในห้องหรอก หึหึ”คังอินเห็นอีทึกทำหน้าแบบนั้นก็ช่วย เพราะถ้าไม่ช่วยอาจมีลูกหลง อีทึกยักคิ้วไปให้

          “เข้าข้างกันเข้าไปไอ้หมี ฉันจะคอยดู”ร่างสูงว่า

          “เถียงกันอีกแล้ว ไอ้พวกนี้ กินข้าว!!”เสียงคิมฮีดังขึ้นกลางวง หลังจากช่วยซองมินและดงเฮยกจานข้าวไปให้เด็กๆ ที่โต๊ะตัวเล็ก

          “เสียงดังน่าเจ๊...”

          “เรื่องของฉัน”ร่างสูงเบ้ปากใส่ ก็โดนฮีชอลดีดปากห้อยๆ ร่างบางขำคิกคัก

 

 

 

          “ฮเยจินคะ ป้อนน้องด้วยนะคะลูก”ดงเฮบอกลูกสาวคนสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ยองมิน จะให้เจ้าตัวอวบกินเองคงได้อาบน้ำหลังกินข้าวเสร็จทันทีแน่ๆ ซนเสียเหลือเกิน นั่งเฉยๆ ไม่ค่อยจะเป็น

          “ค่ะ คุณแม่ขา”ฮเยจินรับคำ ดงเฮจึงเดินไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ

          “ด๊อง แล้วคิบอมไม่มาด้วยล่ะ”ซองมินถามเพราะเห็นน้องฮเยฮเยหายไป ดงเฮส่ายหน้า

           “พาเด็กๆ ไปบ้านคุณปู่ยังไม่กลับ ฉันก็เลยพาฮเยจินมาคนเดียว”ดงเฮบอก พรางหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามร่างอวบเจ้าของคำถามเมื่อครู่ ฮีชอลที่เห็นดงเฮไม่อยากพูดถึงคิบอมก็เปลี่ยนเรื่องให้

           “กินข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวจะเย็นชืดซะก่อน หลานในท้องหิวแล้ว”ฮีชอลว่า เรียวอุคยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น

 

 

 

                       ทุกคนนั่งกินข้าวด้วยกันในรอบเกือบหนึ่งปี เสียงพูดคุยแทบจะดังลั่นบ้านเหมือนจะแย้งกันพูด เสียงหัวเราะสนุกสนาน เรื่องเล่าต่างๆ ที่เล่าให้กันฟังก็มากมาย หนุ่มๆ ก็คอยดูแลเทคแคร์ศรีภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ จะมีก็แต่งดงเฮที่มาคนเดียวจึงได้แต่ฝืนยิ้มออกมาบ้างในบางครั้งเมื่อเห็น ว่าเพื่อนมีความสุขกันดี คนที่รู้เรื่องดีอย่างฮีชอลก็คอยเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อยเพื่อให้น้อง หัวเราะบ้าง

 

          “แล้วนี่กลับมากันกี่วัน”ฮยอกแจถามร่างบางที่นั่งกินกิมจิเล่น พรางจ้องร่างสูงไปด้วย เห็นแบบนั้นฮยอกแจก็อมยิ้มขำ

          “ก็ประมาณสองอาทิตย์น่ะครับฮยอกแจ คิดถึงบ้านไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้มาอีก”ร่างบางบอก แล้วตักกิมจิส่งเข้าปากของร่างสูง

          “อีกปีเดียวเอง ก็เรียนจบแล้ว...”ฮีชอลว่า ร่างบางส่งยิ้มสวยไปให้

          “ครับอีกปีเดียว แต่ว่าเป็นปีเดียวที่สาหัสพอสมควร”

           “เอาน่าคยู เหนื่อยก็ต้องทน ดูอย่างซีวอนสิ่ ในหัวมีแต่ขี้เรื่อยยังจบมาได้”อีทึกว่า เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

          “หัวขี้เรื่อยอะไรพี่ หัวขี้เรื่อยเขาไม่ได้เกียรตินิยมหรอก”

          “อ้อเหรอ”ฮีชอลว่าทำหน้าไม่เชื่อ ร่างสูงจิ๊ปากส่งไปให้

          “ไอ้ฉ่อย แล้วนี่แกไปอยู่นู่นทำตัวเจ้าชู้รึปล่าวเนี่ย ฝรั่งยิ่งสวยๆ อยู่”ฮีชอลว่า เพราะรู้นิสัยน้องดีว่าเจ้าชู้

           “สวยตรงไหนเจ๊ สู้คยูฮยอนไม่ได้ซักคน”

          “แหวะ ทำมาพูดนะแก”ทุกคนที่ฟังอยู่ก็ได้แต่หัวเราะ

          “สู้ผมไม่ได้ซักคนเลยครับพี่ แต่พอผมไปเรียน ม้าที่ไหนก็ไม่รู้เดินควงสาวหน้าโรงแรม ไปเดินชายหาดมาตัวดำบ้างหล่ะ แถมเมื่อวันก่อน ก่อนที่จะกลับเกาหลีนะ เมียเก่ามาหาถึงที่”ร่างบางเบ้ปากใส่คนข้างๆ ร่างสูงได้แต่ยิ้มแหย เมื่อเพื่อนมองตาขวางกันทุกคน

           “อิฉ่อย แกกล้าควงสาวเหรอวะ”เสียงฮีชอลดังขึ้นกว่าเดิม แต่นึกว่าจะห่วงน้อง....”ควงไม่เรียกเดี๊ยะๆ”เท่านั้นก็โดนมืออวบฟาดไม่ยั้ง ซองมินทำหน้าถมึงตึง

          “ไปควงเลยนะ ไปแล้วไม่ต้องกลับมาด้วย”ซองมินว่า ฮีชอลได้แต่ยิ้มแหยตามร่างสูง

          “ใครจะไปล่ะจ๊ะ เมียสวยขนาดนี้”ฮีชอลประจบ

          “ก็ไปสิ่...เอาลูกปืนของพ่อไปกินแทนข้าวด้วยล่ะ”ซองมินเอาพ่อมาขู่เพราะรู้ ว่าร่างโปร่งกลัวจนหัวหด กว่าจะคุยกันดีๆ ได้ก็นานอยู่

          “แจกฟรีรึปล่าวซองมิน”ฮยอกแจถามขึ้น ดงเฮที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็งงสะกิดเพื่อถาม ฮยอกแจหันไปยิ้มให้

           “ฟรี...”ซองมินว่า ฮยอกแจยิ้มกว้าง

          “ฮยอกจะเอาไปทำอะไรครับ”ฮันคยองถาม ไม่เข้าใจว่าฮยอกแจจะเอาไปทำอะไร

          “ก็เผื่อว่าฮันอยากควงสาวบ้างอะไรงี้ ฮยอกก็เลยจะเอาเผื่อให้ฮันไง”เท่านั้นทุกคนก็หัวเราะรื่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

 

 

          “เอ่อนี่ซีวอน เยจินมาหาเหรอ”อีทึกนึกขึ้นได้เรื่องที่ร่างบางพูดว่าเมียเก่าซีวอนมาหา ร่างสูงถอนหายใจออกมาแล้วพยักหน้ารับ

          “ครับพี่”

          “อย่ากลับไปนะอิฉ่อย รู้สันดารคนมาแล้วมันก็ไว้ใจต่อไม่ได้”ร่างสูงพยักหน้ารับ

          “กลับไปได้ไงเจ๊ โดนคนแถวนี้บอกว่าถ้ากลับไปก็ไม่ต้องกลับมาอีกจะไม่สงเคราะห์แล้วด้วย แถมยังจิกเยจินจนหนีเตลิดกลับบ้านไปไหนไม่เป็นแบบนั้น”ร่างสูงว่า พรางมองหน้าหวานของภรรเมียที่หัวเราะหึออกมา ทุกคนถึงกับอึ้งที่ร่างสูงพูดไม่คิดว่าร่างบางจะทำแบบนั้นได้จริงๆ

          “คยูเนี่ยนะ...”ฮยอกแจทำหน้าไม่เชื่อ

           “ทำไม ไม่เชื่ออ่ะดิ่ จะพูดให้ฟังเอามั้ยล่ะ จำได้ทุกคำพูดเลย”ร่างสูงว่า ทุกคนต่างก็ลุ้นว่าเรียบร้อยแบบคยูฮยอนด่าคนเป็นด้วยหรือ?

          “มาเยียมเยียนตาประสาเพื่อนหรือว่ามาหาเผื่อว่าจะได้เพื่อนกลับไปเป็นผัว ผมคงยกให้ไม่ได้หรอกนะครับ คุณทิ้งเข้าแล้วผมก็เลยต้องพาเขามาดูและต่อ แต่อาจจะดูแลดีไปหน่อย ก็เลยทำให้มีแมลงวันหัวเขียวมาตอมเยอะ”ร่างสูงนึกอะไรออกที่ร่างบางพูดวัน นั้นก็พูดออกมาหมดจนร่างบางเริ่มเขินที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป

           “(0.0),(-0-),(*0*),(-[]-).....”สีหน้าอึ้งปนตกใจและสีหน้าชอบใจของคนได้ฟัง

          “ถ้าคิดจะกลับไปก็คิดให้ดีนะ โดนทิ้งมาอีก ฉันจะไม่สงเคราะห์เหมือนที่ผ่านมาแล้วนะ...วันนี้คุณไม่อยู่บ้านเหรอเลี้ยง ลูกเหรอครับ ระวังลูกจะคิดว่าแม่ไม่อยู่ด้วยเพราะออกมาเที่ยวตามหาพ่อให้ลูกนะครับ”ร่าง สูงล้อเลียนท่าทางของร่างบาง จนเจ้าตัวหน้าแดงเพราะความอาย....สายตาทุกคนยังคงอึ้งอยู่ ณ จุดนั้น

          “มีอีกนะ...”

           “ซีวอน พอแล้ว อายเขา”ร่างบางว่า แต่ก็โดนคังอินคว้ามือมาจับเอาไว้ไม่ให้ขวางการพูดของซีวอน เพราะอยากฟัง

           “ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะ ถ้าเมียเก่าของผัวไม่ตามมาตอแย ยอมอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่เมียหลวงน่ะสิ่ ฉันไม่ใช่นางเอกในละครน้ำเน่าจะได้มัวแต่นั่งร้องไห้ เพราะเมียเก่าของผัวจะมายึดผัวคืน พอดีฉันเป็นเมียหลวง จำเอาไว้นะ...เมียหลวงอย่างฉันจิกได้จิก ตบได้ตบ ระวังให้ดีก็แล้วกัน”ท่าทางของร่างสูงเริ่มสดีดสะดิ้งมากขึ้น

           “0[]0”หน้าเดียวกันทั้งโต๊ะ

           “ฉันไม่ทำใครก่อน อย่ามายุ่งกับฉันก็แล้วกัน ฉันจับนั่งยางเผาไม่เหลือซากแน่ นายทำให้ฉันเป็นแบบนี้เองนะ ถ้าฉันนิ่งก็เท่ากับเสียผัวให้คนอื่นสิ่”ร่างสูงเก็บทุกรายละเอียด ทุกเม็ดจนร่างบางหน้าร้อนผ่าวไปหมด

           “แม่เจ้า...”เสียงเรียวอุคอุทานออกมา ทำให้ทุกคนเริ่มได้สติ

            “แร๊งงงงงงงงงงงงค์”เสียงทุกคนประสานกันจนร่างบางแทบจะเอามือปิดหู สีหน้าของแต่ละคนทำให้ร่างบางที่เขินอยู่แล้วยิ่งเขินเข้าไปอีก แต่ร่างสูงกลับนั่งหัวเราะชอบใจ

 

 

                   ที่เขินเพราะวันนั้นเขาหึงซีวอนจริงๆ เขายอมรับ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือเยจิน ถ้าไม่ใช่เยจินเขาจะไม่แสดงออกแบบนั้นเด็ดขาดเพราะรู้ว่าซีวอนไม่ได้รัก ไม่ได้คิดอะไรด้วย แต่เพราะเป็นเยจิน เป็นคนที่ซีวอนเคยรักมากถึงกับเคยฆ่าตัวตายเพราะเธอมาแล้ว เขาก็ไม่อยากให้เธอมายุ่มย่ามกับซีวอนอีก

 

           “โห นี่คยู....เจ๋งมาก ฮ่าๆๆๆ”เสียงฮยอกแจหัวเราะสะใจ ไม่ต่างจากฮีชอลกับอีทึกเพราะทั้งสามคนไม่ชอบเยจินเป็นทุนอยู่แล้ว และอยากให้ร่างบางสู้คนบ้าง ไม่ใช่ยอมคนอื่นตลอดเหมือนที่ผ่านมา

           “ดีมากน้องรัก ให้เป็นแบบนี้ได้ตลอดก็ดีนะ”คังอินช่วยเสริม เพราะเห็นน้องอ่อนแอก็อดห่วงไม่ได้ คยูฮยอนมองโลกในแง่ดีจนเกินไปจากที่เขารู้จักในวันแรก

            “ไม่ดีมั้งไอ้หมี มึงลองโดนจิกบ้างดิ่วะ มันคันนะเว้ยเฮ้ย”ร่างสูงเริ่มโวยวาย

            “แล้วน้องจะโวยวายทำไม ทำตัวเองนะ”อีทึกว่า ร่างสูงเบ้ปากใส่ อีทึกเลยจัดการดีดแบบที่ร่างบางชอบทำจนเจ้าตัวเอามือปิดปากแทบไม่ทัน

 

 

 

 

                   กว่ามื้อเย็นจะจบลงก็เกือบสองทุ่ม แล้วยังไปนั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นจนดึกดื่น ถ้าลูกไม่หลับก็ไม่ยอมกลับบ้านกัน ยกเว้นแต่เรียวอุคและเยซองที่กลับบ้านไปก่อหน้านั้นเพราะเรียวอุคต้องพักผ่อน

 

            “ไอ้ฮัน รืนนี้จะไปหาที่บ้าน อยู่บ้านด้วยล่ะ”ร่างสูงบอกเพื่อนรักอย่างฮันคยอง เจ้าตัวพยักหน้ารับก่อนจะอุ้มแจอินส่งให้ฮยอกแจ ส่วนตัวเองก็ถือตะกร้าตามหลังไป

           “พี่ทึก...นอนที่นี่สิ่ อย่ากลับบ้านเลยนะ คิดถึง”เสียงทุ้มอ้อนพี่ชายที่กำลังจะเดินออกจากบ้าน อีทึกหันมาเลิกคิ้วใส่

            “ทำเป็นเด็กไปได้”ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง พร้อมให้คังอินนอนที่นี่ไปเลย ไม่อยากให้ขับรถกลับบ้านอยู่เหมือนกันเพราะดึกมากแล้ว

            “ให้พี่นอนที่นี่แล้ว จะให้นอนด้วยมั้ย”อีทึกถาม ร่างสูงพยักหน้ารับหงึกหงักจนโดนมะเหงก

            “โอ๊ย...พี่อ่า”

            “ไม่ต้องมาสำออย พี่นอนด้วยแล้วคยูล่ะ”ร่างสูงหน้ายู่

            “คยูเขาไม่นอนกับผม เข้าห้องโน้นไปแล้ว”ร่างสูงว่า อีทึกมองตามก็เข้าใจ

            “ยังไม่เคลียร์กันอีกรึไง”

            “เคลียร์แล้ว แต่ก็ไม่ยอมนอนห้องเดียวกัน”ร่างสูงเบ้ปาก...

           “อ้าว....หื่นเกินรึปล่าวน่ะเรา เป็นพี่ก็ไม่อยากนอนด้วย”อีทึกว่ากลั้วหัวเราะ เลยโดนลากเข้าห้องนอนไปทั้งอย่างนั้น

           “พี่ทึก แล้วผมล่ะ”คังอินยืนรออยู่ถึงกับงงไปไม่ถูก...

            “นี่ซีวอนปล่อยพี่ก่อน คังอินไปรอที่ห้องก่อนนะ”ร่างบางของอีทึกว่าเมื่อน้องชายไม่ยอมปล่อย คังอินพยักหน้ารับหงึกหงักงงงวย แล้วเดินตามขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับอุ้มยองซูที่หลับอุตุไปด้วย

 

 

 

                   สรุปคังอินต้องนอนสองคนกับลูกชายในห้องของอีทึก ส่วนเจ้าของห้องย้ายสัมมโนครัวไปตั้งรากฐานในห้องน้องชายเพราะโดนยึดตัว ร่างบางเองก็นอนสบายคนเดียวในอีกห้องถัดจากห้องของอีทึกโดยไม่มีใครมาสะกิด ยามดึกดื่นเหมือนเคยเป็น

 

 

 

                                               .............................

 

 

 

 

                      เช้าวันรุ่งขึ้นสองสามีภรรยาจึงเดินทางไปที่โบสถ์อย่างที่เคยไปอยู่เป็น ประจำ ใช้เวลาอยู่ที่นั่นเกือบสองชั่วโมงให้ร่างบางสบายใจขึ้นและพาร่างบางกลับไป ที่บ้านคิมเพื่อไปหาพี่เลี้ยงสุดหล่อที่ชเว ซีวอนการันตีกับคุณภรรยาว่ายังไงๆ เขาก็ยังหล่อกว่า

 

           “พี่ท็อปปปปปป”เสียงหวานเอ่ยเรียกดังลั่นบ้าน จนแม่บ้านแทบจะวิ่งขาขวิดออกมา

            “คุณหนู...”คุณป้าคิมเรียกร่างบางก่อนที่ทั้งสองจะกอดกันด้วยความคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนานมาก

            “ผมคิดถึงคุณป้าจังเลยครับ แล้วนี่พี่ท็อปไปไหน”ร่างบางถามเพราะปกติถ้าเรียกเสียงดังแบบนี้ท็อปจะออกมา หาคนแรก คุณป้ายิ้มรับก่อนจะรับคำทักทายของร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังร่างบาง

            “พี่ท็อปออกไปทำงานกับพี่มินโฮน่ะค่ะ”ร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็ไหล่ตก คุณป้าเองก็สงสาร เพราะรู้ว่าอุส่าถ่อสังขารมาจากอเมริกา แล้วยังมาหาถึงที่บ้านอีก

            “เดี๋ยวป้าโทรตามให้นะคะ”ร่างบางส่ายหน้า

           “อย่ารบกวนดีกว่าครับ ผมไม่อยากให้พี่ท็อปต้องลำบากใจที่ต้องโดดงานออกมา”ร่างบางบอกเหตุผล คุณป้าส่ายหน้า

           “ไม่หรอกค่ะ พี่ท็อปห่วงคุณหนูมากนะคะ โทรหาพี่เขาสิ่คะ”ร่างบางยิ้มรับ ก่อนจะคว้ามือถือในมือร่างสูงมากดโทรออกมทันที คุณป้าจึงเดินไปหาน้ำเย็นมารับแขก

           “พี่ท็อป....กลับบ้านด่วน!!!”คำ สั่งพร้อมกับน้ำเสียงกลั้วหัวเราะส่งออกไปให้คนปลายสายรับรู้ ก่อนจะชิ่งวางสายไปก่อน ส่งคืนให้ร่างสูงแล้วพากันไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน

 

 

                    ไม่ถึงยี่สิบนาทีเสียงรถคันสวยก็แล่นมาจอดหน้าบ้านหลังโต ร่างบางลุกขึ้นวิ่งออกไปหน้าบ้านก่อนจะกระโดดกอดคนที่เปิดประตูรถออกมา

 

           “พี่ท็อป”เรียกเสียงหวาน

            “เอ่อ...น้องคยู...พี่ท็อปอยู่โน่นครับ”คนโดนกอดบอกน้ำเสียงตกใจ ร่างบางผงะ ผละออกมองคนที่กอดอยู่ก็ตกใจ หัวเราะแก้เก้อ

            “พี่มินโฮ...โถ่...คิดถึงเหมือนกัน กอดได้”มินโฮหัวเราะชอบใจ รั้งร่างบางเข้ามากอดด้วยความคิดถึงเช่นกัน ท็อปที่เปิดประตูรถออกมาเห็นก็อดยิ้มไม่ได้

            “กลับมานานแล้วเหรอครับ”ท็อปถามเสียงนุ่ม ร่างบางผละออกจากมินโอแล้วโผเข้ากอดพี่เลี้ยงด้วยความคิดถึง

            “มานานแล้ว พี่ท็อปทิ้งให้ผมรอตั้งนาน”

            “อ้าวเหรอ ก็คุณหนูมาไม่โทรบอกก่อนนิ่ครับ พี่ไปทำงานมาเนี่ยหืม...”ร่างบางยู่หน้าใส่

            “โทรบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ่ครับ”ร่างบางบอกจบก็หอมแก้มพี่เลี้ยงสุดหล่อเสียฟอดใหญ่ ร่างสูงที่ยืนมองอยู่ก็กระแอมเบาๆ

            “อ่ะ..แอ่ม”มินโฮหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะลากน้องเขยเข้าบ้าน ปล่อยให้ร่างบางยืนถมึงตาใส่อยู่อย่างนั้น ท็อปส่ายหน้ายิ้มๆ

            “ซนเหมือนเดิมนะครับ โตแล้วนะเราน่ะ”ท็อปว่า ก่อนจะพากันเข้าไปในบ้าน ร่างบางคล้องแขนท็อปไม่ปล่อย

           “พี่ฮโยริไปไหนล่ะครับ”ร่างบางถามหาพี่สะใภ้

            “พาซึงริไปหาคุณยายน่ะครับ ช่วงนี้พี่ทำงานเยอะพี่เลยต้องให้พี่ฮโยริไปเที่ยวบ้านคุณยายบ่อยๆ น่ะ กลัวว่าจะเหงา”ร่างบางพยักหน้ารับ มาถึงก็เห็นพี่ชายนั่งเม้าท์กับน้องเขยอย่างออกรส

 

 

 

             “ผมต้องขอโทษด้วยที่เคยเข้าใจผิดเมื่อก่อน”ร่างสูงบอกมินโฮที่นั่งหัวเราะอยู่ตรงหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว

             “ช่างมันเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมาปีนึงแล้ว เก็บมาคิดก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ขำๆ นะ”ร่างสูงยิ้มออกมาได้ “ผมแค่หวังว่าคุณจะเชื่อใจน้องผมบ้าง คยูฮยอนน่ะเป็นเด็กดี บางครั้งอาจจะดื้อไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ถึงแม้ทีแรกที่ผมได้ยินจากปากน้องว่ากำลังท้อง...ทั้งที่ตอนนั้นอายุแค่สิบ แปด ผมอดตกใจไม่ได้ ดุน้องไปหลายวันเลยหล่ะ ไม่คิดว่าจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนั้น ถ้าคุณแม่รู้ท่านคงหัวใจวาย”ร่างสูงยิ้มแหยทันทีที่โดนมองด้วยสายตาดุตอนที่ พูดเรื่องเก่าขึ้นมา โดนจิกกัดจากพี่ชายของร่างบางเล็กน้อย

            “เรื่องนั้น...ผมเป็นคนผิดเอง คยูฮยอนไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยหรอกครับ”มินโฮยิ้มรับ อย่างน้อยน้องเขยก็ยังยอมเล่าเรื่องเก่าให้ฟังบ้าง เพราะคยูฮยอนไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเลยเพราะกลัวเขาจะผิดหวัง

            “ผมหวังแค่ว่า คุณจะดูแลน้องผมให้ดีอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้ไปตลอดก็แล้วกันนะครับ ผมเคยคาดหวังก็น้องเอาไว้มาก ว่าจะต้องเรียนสูงๆ ได้งานทำดีๆ ให้เขาทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้น้องมีชีวิต มีครอบครัวไปแล้วผมก็คงไม่หวังอะไรมากมายเหมือนเมื่อก่อน แค่อยากให้น้องมีความสุข”มินโฮพูดออกมาแบบนั้น ร่างสูงก็รับปากด้วยสัญญาลูกผู้ชาย

            “ผมจะทำให้คยูฮยอนยิ้ม หัวเราะได้แบบนี้ไปตลอด จะไม่ทำให้พี่ผิดหวังอย่างที่ตั้งใจเลยครับ”มินโฮยิ้มรับ พอเห็นน้องเดินเข้ามาก็เรียกให้มานั่งใกล้ๆ

            “มานี่ ไอ้เด็กดื้อ...”ร่างบางหน้าบู้เมื่อโดนเรียกแบบนั้น ท็อปหัวเราะเบาๆ ไม่ต่างจากร่างสูง

            “ใจร้ายอีกแล้วนะ”ร่างบางว่าแล้วหย่อนก้นลงนั่งข้างๆ พี่ชาย ซีวอนที่เห็นท็อปก็ก้มศีรษะให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย

            “ญาติดีกันแล้วเหรอ”ร่างบางถามมินโฮกับร่างสูงที่นั่งคุยกันเมื่อครู่

            “อ้าว ไม่ให้ดีกันจะให้ตีกันตายรึไง เรานิ่”มินโฮว่า ร่างบางเบ้ปากใส่อย่างน่ารัก จนมินโฮอดที่จะคว้าคอมาหอมแก้มไม่ได้

             “ไปหาคุณท่านมารึยังครับคุณหนู”ท็อปเอ่ยถาม ร่างบางส่ายหน้า

            “ว่าจะมาชวนพี่ท็อปไปด้วย แต่ไหนๆ พี่มินโฮก็อยู่แล้ว ก็ไปด้วยกันนะ นะ”มือเล็กเขย่าแขนพี่ชายจนแทบหลุดจนมินโฮต้องพยักหน้ารับ

            “ไปสิ่ๆ”คยูฮยอนยิ้มกว้าง

             “ว่าแต่พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทิ้งน้องไปนานขนาดนี้นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีน้องนั่งรออยู่บ้านด้วย”ร่างบาง ว่าด้วยน้ำเสียงงอนเล็กน้อย เพราะมินโฮไม่ยอมกลับบ้าน เอาแต่ทำงานที่ต่างประเทศชอบทิ้งให้เขานั่งรออยู่แต่ที่บ้าน

             “โอ๋ๆๆๆ งอนเหรอ....ไม่งอนน้า”มินโฮว่ากลั้วหัวเราะ มือใหญ่ลูบศีรษะร่างบางไปด้วย ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นก้ยิ้ม อดที่จะอิจฉาร่างบางไม่ได้ ถึงแม้ร่างบางจะมีแค่พี่ชายกับพี่เลี้ยงแต่พวกเขากลับรักกันมากจนแทบจะแยก กันไม่ได้ แทบจะไม่มีที่ให้เขาเข้าไปแทรกเลยแม้แต่น้อย

            “คุณซีวอน ทานอะไรมารึยังครับ เราไปทำอาหารกันมั้ยครับ”ท็อปชวนร่างสูงที่เห็นว่าเอาแต่นั่งยิ้ม ซีวอนหันไปหาท็อปก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วพากันเข้าครัวไป ทิ้งให้พี่น้องเขานั่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงคิดถึงกันเสียให้พอก่อนจะเริ่มมื้อกลางวัน

 

 

           “คุณมินโฮดูรักคยูฮยอนมากเลยนะครับ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพี่เลี้ยงของร่างบางที่เดินนำเขาเข้าไปในครัว

           “ครับ ถึงแม้จะดูเหมือนไม่สนิทกัน แต่ที่จริงแล้วเนี่ยรักกันมากเลยล่ะครับ คุณมินโฮตามใจคุณหนูทุกอย่าง เพราะเหลือกันอยู่แค่สองคน”ร่างสูงพยักหน้ารับ

           “น่าอิจฉาจังนะครับ...อ่า..วันนี้จะทำอะไรดี”ท็อปยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดูของสดในตู้เย็น

           “ทำอะไรดีล่ะครับ คุณป้าซื้อของสดมาไว้เต็มตู้เย็นเลย”ทั้งสองยืนคิดกันอยู่ซักพักร่างสูงก็ ปิ๊งขึ้นมา ก่อนจะช่วยกันลงมือทำโดยไม่ต้องมีลูกมือเลยแม้แต่น้อย โชว์ฝีมือกันสองคนพี่เลี้ยงกับน้องเขย        

 

 

 

                   ไม่ถึงชั่วโมงอาหารหน้าตาน่าทานก็วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับกลิ่นหอมยั่วยวนน้ำย่อยในกระเพาะคนที่นั่งเม้าท์กันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

 

           “หอมจังเลยอ่า”เสียงหวานเอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเดินตามกลิ่นเข้าห้องอาหารไป มินโฮส่ายหน้ายิ้มก่อนจะลุกขึ้นเดินตามน้องไป

 

            “ทำอะไรกันน่ะ”เสียงมินโฮเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นน้องทำหน้าตาเหมือนอยากจะเขมือบเต็มทน ตางี้ปิ๊งๆ ยิ้มหวานเยิ้มแบบนั้น

            “ทานข้าวกันได้แล้วครับ อาหารเสร็จหมดแล้ว”ท็อปบอกก่อนจะเดินไปหยิบโถข้าวมาตักข้าวให้ทุกคน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มินโฮ ให้พี่ชายกับน้องเขยนั่งสบตากันเอง

           “นี่มากันกี่วัน”มินโฮเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องไม่รอช้า เขมือบก่อนใครเพื่อน

           “ประมาณสองอาทิตย์ครับ”ร่างสูงเป็นคนตอบ พรางมองร่างบางที่กำลังตั้งใจกินไปด้วย

            “มากันสองคนเหรอ”ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมเสียงอือออ เลยโดนมินโฮตีไปเบาๆ ที่แขนเพราะไม่สุภาพ กินอยู่ยังจะตอบ

            “พอดีไม่มีตังค์จ่ายค่าเทอมก็เลยเอาลูกไปขายหมดแล้วครับ”ร่างบางกลืนลงไปได้หมดก็บอก เรียกเสียงหัวเราะจากท็อปได้มากโข

            “ขายได้เยอะถึงกับจ่ายค่าเทอมได้เลยเหรอ”ร่างบางส่ายหน้ากับคำถามของพี่ชาย

            “ปล่าวหรอกครับ ให้ซีวอนไปขายตัวด้วยก็เลยได้มาเยอะ”มินโฮหัวเราะก๊ากออกมา ร่างสูงส่ายหน้ายิ้มๆ ร่างบางหันมายักคิ้วให้

            “ครับก็ขายตัวได้วันนึงก็หลายเหรียญอยู่...เอ๊ย....นายทำฉันเบลอนะคยู”ร่าง บางหัวเราะคิก “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมทำงานแล้วคยูก็เรียนหนักก็เลยให้ไปอยู่แคนาดากับคุณแม่ชั่วคราวน่ะครับ พอปิดเทอมก็ไม่ได้ไปรับกลับก็เลยอยู่ที่นั่นไม่ได้มาด้วย”ร่างสูงบอก ถึงแม้จะเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียวก็ตาม มินโฮพยักหน้ารับแต่ก็อดขำไม่ได้อยู่ดี

            “แล้วไปเที่ยวไหนกันบ้างรึยัง”ร่างบางส่ายหน้า

            “ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยครับ พึ่งกลับมาถึงเมื่อวานก็ไปโบสถ์เมื่อเช้าแล้วก็มาที่นี่ที่แรก”ท็อปส่งยิ้ม ให้เมื่อร่างบางตักกับข้าวใส่จานให้

            “พรุ่งนี้ไปไหนรึปล่าว”ร่างบางพยักหน้ารับ

            “ไปครับ แต่ว่าวันนี้พี่ๆ ไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ อยู่กับผมนะ”ร่างบางเริ่มอ้อน เพราะพรุ่งนี้เขาสองคนจะไปมกโพกันคงจะไม่ได้มาที่นี่หลายวัน

            “ก็ได้ๆ เด็กดื้อนิ่ งั้นเดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วไปหาคุณแม่กัน”

            “ครับ”ร่างบางรับคำยิ้มหวาน แล้วหันไปตักกับข้าวให้คนข้างตัวบ้าง พร้อมรอยยิ้มหวานเยิ้ม ร่างสูงก้มหน้าเข้าข้างหูร่างบางก่อนจะกระซิบเบาๆ

            “ยิ้มแบบนี้ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้นอนหรอก”ร่างบางยิ้มยั่วอีกครั้ง มินโฮเห็นแบบนั้นก็เกิดอาการหวงน้อง

            “แฮ่ม...เพลาๆ หน่อย นี่โต๊ะอาหาร”ร่างสูงตกใจนั่งยืดตัวตรง ร่างบางเองก็เขินแล้วตักข้าวใส่ปากทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            “คืนนี้นอนที่นี่นะครับคุณหนู คุณป้าให้เด็กทำความสะอาดห้องให้ทุกอาทิตย์”ร่างบางรีบพยักหน้ารับ

            “โอเคครับ แต่ว่าคืนนี้ต้องนอนห้องเดียวกันนะ”ร่างบางบอกเพราะไม่ได้นอนห้องเดียวกับ พี่ตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านชเว พอกลับมาก็ทำให้คิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ

            “ห้องเดียวกันสี่คนเนี่ยนะครับ”ท็อปถาม พรางหันไปยิ้มแหยให้ร่างสูงที่มองเอ๋อๆ

            “ครับ”

            “นอนได้ยังไง สองคนก็เต็มเตียงแล้ว”มินโฮว่า เพราะน้องชอบทำอะไรประหลาดๆ ให้เขาแปลกใจอยู่เรื่อย

            “ทำไมจะนอนไม่ได้ นอนเบียดๆ กันอบอุ่นดีนะครับ”มินโฮเริ่มส่งสีหน้าแหยๆ ให้น้องเขยที่เริ่มอยากจะร้องไห้

            “เอ่อ...งั้นคยูนอนกับพี่ๆ เถอะนะ จะได้ไม่เบียดกัน เดี๋ยวฉันไปนอนห้องนายก็ได้”ร่างสูงว่า เพราะดูท่าแล้วคงเบียดกันอย่างที่มินโฮว่าอย่างแน่นอน เขาไม่อยากไปเบียดด้วย เดี๋ยวจะลวนลามเมียได้ไม่ถนัด ค่อยไปลวนลามตอนไปมกโพยังไม่สาย

            “ก็ได้ แต่ว่านอนคนเดียวได้นะ”ร่างสูงพยักหน้ารับ นอนคนเดียวมาเป็นเดือนแล้วนอนอีกวันนึงจะเป็นอะไรไป...อดเปรี้ยวไว้กินของ หวานๆ ทีเดียว รวบหัวรวบหางคิดบัญชีให้ครบ ทบต้นทบดอก

 

 

 

 

 

                       กว่าจะกินข้าวเสร็จก็มัวแต่นั่งโม้กับเกือบสองชั่วโมงถึงได้ย้ายก้นตัว เองออกมาจากห้องอาหารและออกไปข้างนอกได้ มาถึงที่หมายร่างบางก็เดินนำหน้าไปก่อนหน้านั้น ให้หนุ่มที่เริ่มแก่เดินตามหลัง

 

            “คุณแม่ครับ ผมคิดถึงคุณแม่จัง”ร่างบางว่าเสียงสั่น มินโฮที่เดินมาเห็นน้องจะร้องไห้ก็ย่อตัวนั่งลงกอดปลอบ

            “อย่าร้องไห้สิ่ โตแล้วนะ”มินโฮว่า ร่างบางพยักหน้ารับ ท็อปกับร่างสูงที่เดินตามาก็ถอยห่างออกไปอีกนิดเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันสองคน

 

 

 

            “พี่น้องคู่นี้น่ารักดีนะครับ”ร่างสูงว่า ท็อปยิ้มออกมาพยักหน้ารับ

            “ครับน่ารัก แต่อย่าให้ทะเลาะกันนะครับ เรื่องใหญ่ทุกที”ท็อปว่ากลั้วหัวเราะ เพราะถ้าทะเลาะกันทีไรบ้านแทบแตก ดื้อด้วยกันทั้งคู่

            “ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

            “ถ้าคุณเห็นเขาทะเลาะกันคุณอาจจะไม่เชื่อก็ได้ครับว่าพี่น้องคู่นี้เขารัก กันจริงๆ”ร่างสูงยิ้มรับ เพราะเขาพอจะรู้แล้วว่าร่างบางดื้อเหมือนใคร มินโฮเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนยอมคน เจอกันครั้งแรกเขาก็ทำให้มินโฮด่าเขาได้แล้วว่าโง่ ปัญญาอ่อน

            “ผมสงสัยมานานแล้วครับ คยูฮยอนไม่เคยบอก พี่มินโฮเขาใช้นามสกุลคุณพ่อเหรอครับ”ท็อปพยักหน้ารับ

            “ครับ คุณนายท่านไม่ได้จดทะเบียนสมรสน่ะ ก็เลยใช้สกุลคิมสกุลเดิม”ร่างสูงร้องอ๋อเข้าใจ “ไปเถอะครับ”ท็อปบอกร่างสูงที่ยืนมองสองพี่น้องอยู่ให้เข้าไปหาใกล้ๆ ไปเคารพคุณนายบ้างเพราะน้อยครั้งที่ร่างบางจะพาซีวอนมาที่นี่ ส่วนมากจะมาเองคนเดียวหรือไม่ก็มากับท็อป

 

 

 

 

                     เคารพหลุมศพคุณลีและคุณนายคิมเสร็จก็พากันไปเดินเที่ยวรับลมเรื่อยๆ สองพี่น้องกอดคอคุยจุ๊กจิ๊ก สองหนุ่มหล่อเดินตามหลังไม่ห่าง รอยยิ้มไม่เคยจางหายเมื่อเห็นรอยยิ้มของร่างบาง เดินเที่ยวกันจนตะวันจะตกดินถึงได้พากันกลับบ้าน

 

 

 

                      ตกดึกพี่ใหญ่ของบ้านก็โดนลากเข้าห้องนอนไม่ต่างจากพี่เลี้ยงโดนคล้องแขนคนละ ข้าง ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ ร่างบางส่งยิ้มให้พร้อมโบกมือบ๊ายบายร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง ซีวอนยิ้มตอบก่อนจะเข้าห้องไป

 

 

 

                         เช้ามากว่าจะยอมออกจากบ้านก็ร่ำลากันเสียนาน และไปต่อที่มกโพ ท็อปและมินโฮจะตามไปส่งก็ไม่ยอมบอกว่าจะกลับมาหาก่อนกลับอเมริกา

 

            “ง่วงจังเลยอ่ะซีวอน”เสียงหวานเอ่ยบอกขณะนั่งรถไปมกโพ ร่างสูงจอดรถก่อนจะประเบาะให้เอนลง ร่างบางจุ๊บแก้มกร้านเบาๆ ขอบคุณก่อนจะหลับไป ร่างสูงอมยิ้มไปตลอดทาง

 

 

 

 

 

 

                        ถึงมกโพร่างสูงก็ปลุกคนที่นอนหลับมาตลอดทางให้ตื่นขึ้น ร่างบางลืมตาขึ้นมองคนข้างกายก็ยิ้มให้ตาหยี

 

            “เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ”ร่างบางส่ายหน้า

            “คุยกับพี่ทั้งคืนเลย”ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นโยกศีรษะร่างบางเล็กน้อย แล้วพากันลงจากรถ

 

            “คุณคยู...”เสียงชินจีเรียกร่างบางที่ยืนอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับก้มศีรษะทักทายร่างสูงเล็กน้อย ก่อนจะพาเจ้าของบ้านเข้าบ้าน คุณป้าคิมที่ออกมาเห็นร่างบางก็เข้ามากอดด้วยความคิดถึง ร่างบางเองก็กอดตอบ

            “สวัสดีครับ ผมคิดถึงคุณป้ามากเลยครับ”ร่างบางส่งเสียงอ้อนผู้ใหญ่ คุณป้ายิ้มเอ็นดูแล้วพากันไปที่ห้องนั่งเล่น

            “กลับมานานแล้วเหรอค่ะ”

            “เมื่อวานซืนครับ”ร่างบางบอก ก่อนจะรับน้ำมาจากชินจีที่ยกมาให้

            “แล้วน้องโซอึนล่ะคะ”

            “อยู่แคนาดาน่ะครับ”ร่างสูงตอบแทนร่างบางที่ดื่มน้ำอยู่ คุณป้าทำหน้าเสียดายไม่ต่างจากชินจีที่เป็นคนเลี้ยงยัยตัวเล็กมา พอไม่เจอก็คิดถึง

            “คุณหนูมาเที่ยวหรือว่ามาค้างคะ ป้าจะให้เด็กไปทำความสะอาดให้ก่อนค่ะ ทิ้งไว้อาทิตย์นึงแล้ว”ร่างบางยิ้มกว้าง

            “ค้างสองคืนครับ แต่ไม่ต้องให้ใครไปทำความสะอาดหรอกครับ ผมจะทำเอง”ร่างบางบอก ก่อนจะลากร่างสูงขึ้นไปบนห้องไม่ปรึกษาใคร...แล้วแบบนี้ งานก็เข้าฉ่อยน่ะสิ่

 

 

            “คยู จะทำเองทำไม”ร่างสูงหน้ายู่มองร่างบางที่กำลังเดินไปหาเครื่องดูดฝุ่นจากแม่บ้านมาทำความสะอาด ห้อง

            “ห้องของฉัน ถ้าฉันทำเองไม่ได้ ใครจะมาทำให้ฉันได้ตลอดชีวิตล่ะ”ร่างบางว่าแล้วก็เริ่มทำการดูดฝุ่น เสียงเครื่องดูดฝุ่นดังขึ้น ร่างสูงยืนมองอยู่โต๊ะคอมพิวเตอร์

            “นี่ ชำนาญขนาดนี้เลยเหรอ”ร่างสูงถามเพราะปกติจะมีแม่บ้านมาทำให้ ที่บ้านเองก็มีแม่บ้าน อยู่คอนโดถ้าไม่ว่างก็จ้างแม่บ้านมาทำ

            “ก็เพราะนายนั่นแหละ ทำให้ฉันต้องทำงานพวกนี้เป็น”ร่างสูงเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นมาเท้าคางมองร่างบางดูดฝุ่น

            “ฉันเนี่ยนะ”คยูฮยอนพยักหน้ารับ

           “ก็ใช่น่ะสิ่ อย่านึกว่าจะลืมนะ นายน่ะทรมานฉันสารพัด บังคับทำงานบ้านสั่งไม่ให้แม่บ้านมาทำ จากที่ทำไม่เป็นซักอย่าง ตอนนี้แม้แต่ขัดส้วมก็ทำได้”ร่างบางว่า ร่างสูงยิ้มแหย เพราะที่ร่างบางพูดมาเขาแทบจะทำอะไรเองไม่เป็น นอกจากทำอาหาร

           “เดี๋ยวให้รางวัลคนเก่ง”ร่างบางหันมาหา พรางย่นปากใส่อย่างตลก แล้วหันกลับไปดูดฝุ่นให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเอาผ้าปูที่นอนผืนใหม่มาปู แต่ก็โดนร่างสูงแย่งไปทำเองจึงไปหาอย่างอื่นทำ

           “ดีนะเนี่ยที่ทิ้งเสื้อผ้าเอาไว้ที่นี่บ้าง ไม่งั้นนายต้องเปลือยแน่ๆ ซีวอน”ร่างบางบอกเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้ามาเจอเสื้อผ้าของร่างสูงแขวนอยู่สี่ ห้าชุด

           “เปลือยก็ได้ เพราะถ้าฉันเปลือยนายก็ต้องเปลือยไปด้วยไง ฉันชอบ”คนหื่นอาการเริ่มปะทุหลังจากอดอยากมานาน

           “ทะลึ่ง หื่นไม่เลือกเวลา”ร่างบางว่า แล้วเดินไปล้างมือให้เรียบร้อย ร่างสูงหัวเราะส่งตามหลังแล้วส่ายหน้าน้อยๆ รีบดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงแล้วนอนแผ่ลงไปกับเตียงนุ่ม คยูฮยอนที่เดินออกมาเห็นทิ้งตัวลงนอนแผ่ข้างๆ

           “ไม่ได้ออกกำลังกายซะนาน เมื่อยเลยนะเนี่ย”บ่นเบาๆ พรางบีบนวดแขนตัวเองไปด้วย ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นก็พลิกตัวหันมาหา แล้วนวดให้

           “อย่ายุกยิกสิ่”เสียงทุ้มว่า

            “ก็มันจั๊กจี้นิ่”หน้าหวานยู่เล็กน้อย แต่ก็หลุดหัวเราะออกมาคิกคัก ผลสุดท้ายก็โดนแกล้งจนดิ้นพราดๆ บนเตียง

 

 

 

                       พลิกกันไปพลิกกันมาร่างบางก็นอนทับคนตัวโตไปครึ่งตัว พรางส่งยิ้มหวานให้แล้วซบหน้ากับอกแกร่ง

 

           “เหนื่อยจังเลย”พูดเสียงเบา แล้วเงียบไป ซีวอนที่เห็นแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพลิกร่างบางให้นอนข้างล่าง

           “คยู...อย่าพึ่งหลับสิ่”ร่างสูงเรียกข้างกกหู ร่างบางลืมตาขึ้นมามองก็ได้รับจูบอ่อนโยน เนื้อนุ่มบดเบียดเชยชิมความหอมหวานแก่กัน ก่อนจะผละออก ตาคมจ้องตาคู่โตของร่างบางจนคนโดนจ้องต้องหลบสายตาไปด้วยความเขิน

            “หลบตาทำไม เขินเหรอ”

           “ก็จ้องทำไมเล่า ก็เขินน่ะสิ่”ร่างบางตอบตรงๆ ร่างสูงหัวเราะเสียงเบาๆ ก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากอีกครั้ง ตาคู่โตหลับลงรับสัมผัส แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอแกร่ง อารมณ์พาไปจนยากจะหยุด....

 

 

                                             ก๊อกๆๆ

 

 

                    ร่างบางสะดุ้งเฮือก ผลักร่างสูงออกด้วยความตกใจที่ได้ยินเสียงเคาะประตู ก่อนจะลุกพรวด หันมองคนตัวโตก็ยิ้มแหย แล้วเดินไปเปิดประตูให้คนเคาะ

 

           “คุณหนูคะ ทานอะไรกันมารึยังค่ะ”

            “เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวผมขอพักแปบนึงนะครับ แล้วตอนเที่ยงจะลงไปทานข้าว”คุณป้ายิ้มให้ก่อนจะเดินลงชั้นล่างไป ร่างบางพรูลมหายใจออกมา งับบานประตูปิดลงเบาๆ แต่พอหันหลังกลับก็ต้องผงะเมื่อร่างสูงเข้ามาชิดลำตัวจนหลังบางแนบประตูไม้ บานสวย

            “ไปนอนสิ่ พักก่อนขับรถมาเหนื่อยๆ”ร่างสูงส่ายหน้า

            “ไม่เหนื่อยหรอก ไปนอนด้วยกันสิ่”

            “ฉันนอนมาแล้วไง ไม่ง่วง”ร่างบางพูดหาทางเลี่ยง ร่างสูงยิ้มรับก่อนจะลากร่างบางไปนอนบนเตียง

           “ก็เมื่อกี้บอกคุณป้าไม่ใช่เหรอว่าจะพัก ก็ต้องพักสิ่”เมื่อเถียงไม่ได้ก็ไม่อยากเถียง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างหลับตาลงอย่างไม่ค่อยสบายใจเพราะกลัวตาฉ่อยลวนลาม

            “ไม่นอนเหรอ”ถามทั้งที่หลับตาเพราะรู้สึกเหมือนมีคนจ้อง

            “นอนสิ่”บอกแล้วนั่งลงขอบเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ร่างบางแล้วกระซิบข้างหู “ขอหน่อย”ร่างบางส่ายหน้า

            “คืนนี้แล้วกันนะ ตอนนี้ฉันขอเติมพลังก่อน”ร่างบางว่า ซีวอนหัวเราะน้อยๆ ยอมพยักหน้ารับตามนั้น.....

 

 

 

 

                                                 .......................

 

 

 

 

                      ร่างบางหมกตัวอยู่บ้านทั้งวันไม่ยอมออกไปเที่ยวไหน ทำให้ร่างสูงต้องนั่งติดแหงกอยู่กับที่ไปด้วย เพราะเจ้าตัวไม่ยอมไปถ้าไม่มีร่างบางติดสอยไปด้วย

 

           “ไม่อยากไปไหนเหรอ”ร่างบางส่ายหน้า หยิบหมอนที่วางอยู่บนโซฟามากอด

           “กลับมาบ้านก็อยากอยู่บ้าน”ร่างบางบอก ซีวอนพยักหน้ารับเข้าใจ แล้วคว้าหมอนอีกใบมากอดนั่งท่าเดียวกับที่ร่างบางนั่ง นั่งได้ซักพักก็เอนตัวนอนทับคนข้างกาย คยูฮยอนก็ไม่ได้ห้ามอะไรให้นอนอยู่อย่างนั้น

            “ไม่อยากกลับบอสตันแล้วสิ่”เสียงทุ้มเอ่ยบอก ร่างบางก้มหน้ามองเลิกคิ้วขึ้นถาม

           “ทำไมล่ะ”

            “กลับไป ฉันก็ต้องทำงาน นายก็ไปเรียน แล้วทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม”ร่างสูงทำหน้าเศร้า เพราะคิดว่ากลับไปร่างบางจะแยกกันอยู่อีกเช่นเคย

            “ไม่เหมือนเดิมหรอก มันจะไม่เหมือนเดิม”ร่างบางว่า ก้มลงแนบริมฝีปากแผ่วเบากับคนที่นอนทับอยู่ ก่อนจะผละออกเพราะกลัวใครมาเห็น ร่างสูงได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาได้

            “พูดจริงๆ นะ”ร่างบางพยักหน้ารับ มือใหญ่จับมือเล็กไม่ปล่อย กอบกุมเอาไว้เหมือนกลัวว่าข้างกายจะหลุดหายไปเสียอย่างนั้น

            “ไปรับโซอึนนะ”ร่างบางว่า ร่างสูงพยักหน้ารับ

            “งั้นก็บินไปแคนาดาก่อน”คยูฮยอนพยักหน้ารับตามนั้น มือเล็กเล่นผมร่างสูงไปด้วย ตาก็สบกับตาคมของคนที่นอนอยู่ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ จนต้องเบนหนีเองเพราะจ้องมากเข้าก็เขิน

 

 

 

 

.............................................................................................................

            

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา