FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  41.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16) chapter 51 คุณพ่อลูก(สาว)สอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                  สองร่างนอนกอดนัวเนียกันอยู่บนเตียงกว้างหลังเสร็จกิจปั๊มน้องให้ลูกชาย แต่เหมือนจะไม่ได้ทำให้คนกระทำหยุดเพียงเท่านั้น จนเมื่อคนโดนกระทำเริ่มเบะปาก

 

          “คังอิน...พอแล้ว พี่ง่วงแล้วนะ” เสียงหวานๆ เอ่ยบอกร่างหนาที่นอนคร่อมทับอยู่ด้านบน

          “นานๆ ทีนะครับ เดี๋ยวไม่ทันพี่เยซองนะ เห็นว่าได้ลูกสาวอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องมีลูกชายอีกสักคน เผื่อพลาดอึนจอง จะได้เอาคนเล็ก” คังอินว่ากลั้วหัวเราะ อีทึกยิ้มขำ

          “บ้า คิดได้นะ คิดว่าจะได้ลูกชายรึไงคังอิน คืนนี้พอก่อนนะ พี่เหนื่อยจริงๆ นะ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้งานเยอะ ยังไม่ได้พักเลย” อีทึกบอกหน้าตาละห้อยจนคังอินต้องขยับลงไปนอนข้างๆ

          “โอเค ก็ได้ครับ” บอกอย่างว่าง่าย อีทึกยิ้มหวานใส่แล้วขยับตะแคงเมียงมองสามีตัวอ้วนที่หันมามองไม่ต่างกัน “มองอะไรเล่า!!”

          “แล้วพี่มองผมทำไมล่ะครับ” คังอินว่ายิ้มๆ อีทึกยิ้มเขินจนโดนคังอินรวบเข้ากอดซบอก

          “คังอิน.....”

          “ครับ?” ขานรับคนตัวบางที่เอามือลูบอกเขาเล่น

          “ย้วยแล้ว เข้าฟิตเนสออกกำลังกายซะบ้าง” เท่านั้นคังอินก็หัวเราะออกมาทันทีกับคำพูดของอีทึก ร่างบางผงกหัวขึ้นมองคนที่ขำคำพูดเขาอยู่ มือเรียวบิดยอดอกจนคังอินร้องออกมา

          “โอ๊ยๆๆ”

          “พี่พูดจริงนะ”

          “ก็นี่ไงครับ ผมก็เข้าฟิตเนสกับพี่นี่ไง”

          “บ้า >.<” อีทึกว่าแล้วพลิกตัวนอนหงาย ดึงผ้าห่มคลุมจนถึงคอ ริมฝีปากบางๆ เบ้ออกจากกันกลั้นความเขิน คังอินโน้มเข้ามาใกล้ๆ จนอีทึกตกใจ สายตาสบกันพอดีก็หลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่ ร่างหนาฉกจูบไปเบาๆ และทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม...

 

 

                   เช้ามาก็รีบเร่งพาลูกไปส่งโรงเรียนก่อนเข้าไปจัดการสะสางงานต่ออย่างทุกวัน อีทึกเดินหน้าตาผ่องใสเข้าบริษัทอย่างเคย

 

          “เมื่อคืนสามีทำการบ้านรึไง หน้าตาเบ่งบานเชียวนะ” เปิดประตูเข้ามาก็ได้รับคำทักทายอย่างเป็นกันเองจากเพื่อนสนิทอย่างฮีชอล ทันที

          “ฮีชอล!! มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย จะมาทำไมไม่โทร.บอก” อีทึกทักขึ้นด้วยความแปลกใจ

          “มาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก จะมาชวนออกไปข้างนอกด้วยกันซะหน่อย ว่างมั้ยล่ะ” อีทึกส่ายหน้าไม่รู้แล้วเดินออกไปหาเลขายองอาที่หน้าห้อง สอบถามงานทั้งหมด แต่พอได้รับคำตอบก็ยิ้ม

          “ว่างช่วงเช้านี่แหละ พอมั้ย?” ฮีชอลพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาไปลากอีทึกออกจากห้องทำงานทันที “ออกมานี่ใครเลี้ยงลูกเนี่ยฮีชอล” อีทึกถามขณะเดินออกมาด้วยกัน

          “อยู่กับคุณแม่น่ะ คุณแม่เพิ่งมาเมื่อวาน” อีทึกพยักหน้ารับเข้าใจ

          “แล้วนี่จะไปไหน?”

          “จะทำเซอร์ไพรส์มินนี่ซะหน่อย พาไปช่วยเลือกของหน่อย”

          “ฉันจะเลือกถูกเหรอ ฉันไม่ได้รู้ใจซองมินนะ”

          “เอาน่า ฉันดูเอาไว้แล้ว แต่ว่ามันเลือกไม่ได้ จะเอาทั้งสองอย่างก็ไม่ได้” ฮีชอลบอก เพราะจะเลือกทั้งสองอย่างในคราเดียวกัน ก็เหมือนว่าความสำคัญจะเท่ากัน เขาอยากได้ของที่คิดว่ามันคือที่หนึ่งเท่านั้น อีทึกที่รู้นิสัยเพื่อนดีก็เดินตามต้อยๆ ไปที่รถ

          “ไปเอารถใครมาขับเนี่ย?” อีทึกเดินมาที่รถก็แปลกใจเพราะไม่ใช่รถที่ฮีชอลขับอยู่ทุกวัน

          “รถมินนี่ เพิ่งถอยมาก่อนไปอเมริกานั่นแหละ เป็นไง ฉันเลือกเอง สวยม๊ะ?” อีทึกส่ายหน้าขำ เปิดประตูเข้าไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอย่างเคยทำเหมือนก่อนที่อยู่ฝรั่งเศษ ด้วยกัน....ไม่อยากจะนั่งเท่าไรนะ รถสีชมพูเนี่ย - -“

          “รู้ใจเมียดีขนาดนี้ จะให้ฉันช่วยทำไมเนี่ย” อีทึกว่าติดตลก

          “เอาน่า อันนี้เลือกไม่ได้จริงๆ” อีทึกพยักหน้ารับขำๆ

 

 

 

                   ฮีชอลให้อีทึกพาไปดูของและเช็คความมั่นใจ กลับมาก็เกือบจะเที่ยววัน และได้เข้าไปจองคิวจัดดอกไม้ที่ร้านของคยูฮยอนในสัปดาห์หน้าเพราะกลัวที่ ร้านมีคิวงานข้างนอก อีทึกเห็นความตั้งใจของเพื่อนก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ดีใจที่เพื่อนมีคนที่รักและดูแลได้ดีไม่น้อยกว่าตอนที่ดูแลเขาเลยแม้แต่น้อย

 

          “อีทึก....ซองมินจะชอบมั้ยเนี่ย ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วสิ่” ฮีชอลเอ่ยขึ้นขณะนั่งอยู่ในร้านพักเหนื่อย

          “คนรักกันอ่ะนะ ต่อให้ไม่เซอร์ไพรส์เลย แต่ให้ความรักกันตลอดไป ยังไงก็รักก็ชอบอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ อีกอย่างนะ นานครั้งไม่ใช่เหรอที่ฮีชอลจะเซอร์ไพรส์ซองมินอ่ะ ถ้าฉันเป็นซองมิน ฉันก็ดีใจมากเลยหล่ะ” ได้ยินอย่างนั้นฮีชอลก็ยิ้มออกมาได้อีก

          “ได้ยินอย่างนี้ค่อยมีกำลังใจ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนอีทึกทำงานดีกว่า ป่านนี้คุณแม่ปวดหัวตายแล้วมั้ง ยองมินยิ่งซนอยู่ด้วย” อีทึกยิ้มขำ แล้วเดินออกมาส่งฮีชอล

          “ขับรถดีๆ ล่ะ” ฮีชอลพยักหน้ารับ ขึ้นรถไป อีทึกโบกมือให้จนลับตาแล้วถึงได้กลับเข้าไปนั่งเล่นในร้านดอกไม้ของน้อง สะใภ้ขั้นเวลางาน

 

 

 

 

                                                 ..........................

 

 

 

 

                   คยูฮยอนนั่งปั่นงานอยู่บนเตียงช่วงค่ำของวันหลังจากกินข้าวเรียบร้อย ซีวอนที่คอยเล่นกับเด็กๆ จนเหนื่อยและหลับไปก็พาเข้าไปนอนกันให้เรียบร้อยถึงได้เข้ามากวนร่างบางที่ นั่งทำงานอยู่

 

          “ซีวอน ตรงนั้นมันละ.....” ว่ายังไม่ทันจบ ร่างสูงก็...

          “อ๊ะ เฮ๊ย...ตุ้บ!!! อู้ ยยย ยย” ซีวอนอุทานออกมาเมื่อลื่นพรืดไปกับพื้นหน้าห้องน้ำ มือใหญ่ลูบก้นปอยๆ คยูฮยอนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแล้วรีบลุกจากเตียงไปหา

          “เป็นไงบ้าง เจ็บมากมั้ย ลุกขึ้นสิ่” ว่าทั้งมือก็ช่วยประคองให้ลุกขึ้นยืน

          “โอยยย...ร้าวเลยอ่ะ” ร่างบางกลั้นขำเล็กน้อย พาซีวอนขึ้นไปนั่งบนเตียง

          “เจ็บก้นอย่างเดียวใช่มั้ย เจ็บขารึเปล่า” ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าจะเจ็บขาข้างที่เคยประสบอุบัติเหตุ ซีวอนอมยิ้มแก้มบุ๋มเมื่อเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยนั่น

          “เจ็บสิ่....เจ็บตรงนี้อ่ะ” ว่าแล้วจับมือเล็กไปทาบที่อกพร้อมขโมยจุ๊บที่มุมปากจนร่างบางร้องเสียงหลง แล้วยู่ปากใส่

          “หัวใจนายมันคว่ำไถลไปกับพื้นรึไงเล่า นั่งดีๆ เลย” ว่าจบก็เดินไปเช็ดพื้นให้ดี ซีวอนหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นว่าคยูฮยอนบู้หน้าใส่ก็ต้องกลั้นยิ้มเท่านั้น “ชอบกวนนัก กรรมตามสนองเลย เห็นมั้ยล่ะ” ร่างบางว่าติดตลกและเดินกลับมาหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง

          “นอนได้แล้วนะ” ร่างสูงบอกแล้วยกขาขึ้นมาพาดบนเตียงกว้าง ไอ้กางเกงขาสั้นสีขาวนั่นก็อ้าออกจนร่างบางส่ายหน้า

          “นั่งหุบหน่อยก็ได้ จะโชว์ของสงวนรึไง ทำอะไรให้มันเป็นกุลสตรีหน่อยสิ่” ร่างบางว่า ซีวอนมองตาปริบๆ

          “- -“ อ่า....โอเค ของสงวนของฉันเนี่ย ฉันไม่สงวนนะ ปล่อยให้นายออกบ่อย”

          “ชเว ซีวอน!!!” ร่างบางถลึงตาใส่เมื่อซีวอนเริ่มทะลึ่งใส่อีกแล้ว ร่างสูงหัวเราะเสียงดังแล้วดึงร่างบางเข้ามานั่งตัก คยูฮยอนเบี่ยงหน้ามองก็โดนจูบแก้มไปอีกหนึ่งที

          “นอนได้รึยัง เริ่มจะดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยทำใหม่ก็ได้” ร่างบางพยักหน้ารับ ขยับลงจากตักเอื้อมไปปิดแม็กบุ้ค ไม่ทันได้ปิดดีก็โดนร่างสูงดึงลงไปนอนราบกับเตียง ร่างบางหลุดอุทานออกมาเบาๆ

          “ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าอ้วนๆ ไงก็ไม่รู้” ร่างบางว่าแล้วเงยหน้าขึ้นเพราะซีวอนพลิกตัวเขามานอนทับเจ้าตัวเกือบทั้งตัว

          “หือ? ไม่อ้วนหรอก กำลังดี”

          “อ้วนดิ่ โคตรอ้วนเลยอ่ะ กางเกงตึงไปหมดเลย เสื้อก็เริ่มแน่นอีกแล้ว” ร่างบางว่า ซีวอนหลุดขำออกมาเบาๆ ขยับจูบริมปีปากบางอีกครั้งอย่างที่ชอบทำ คยูฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร

          “โอเคๆ แต่ฉันว่ามันกำลังดีนะ ไม่อ้วนแล้วก็ไม่ผอมเกินไป” คยูฮยอนยู่ปากเล็กน้อยให้ตัวเอง แต่มันดันน่ารักสำหรับคนมองจนโอบกอดรัดไปทั้งตัว มือบางวางทาบกับอกแกร่งส่งสายตาปริบๆ ไปให้

          “อ้วนอ่ะ บางทีก็ออกหน้าอย่างเดียว ออกนมด้วยอ่ะ” ร่างบางว่าและเบะปากออกจากกัน คำพูดเรียกเสียงหัวเราะนั่นทำให้ซีวอนกลั้นเอาไว้ไม่อยู่

          “นมมันออกอยู่แล้วนิ่ เอาชั้นในเจ๊ไปใส่ม๊ะ” ร่างสูงว่ากลั้วหัวเราะ เอามือบีบนมร่างบางเบาๆ คยูฮยอนตบเพี๊ยะเข้าที่หลังมือใหญ่ จับดึงออกหน้ายู่

          “เอ๊ะ อย่าบีบเด้” ว่าหน้าตาขึงขังแต่กลับเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้เป็นอย่างดี

          “นมใหญ่ เมียใครว้า” ล้อออกมาเบาๆ แล้วพลิกตัวร่างบางนอนหงายลงกับเตียง ตรึงแขนเอาไว้จนขยับไม่ได้ “จับดูดนมสักทีดีมั้ย?” ว่าสีหน้าทะเล้น คยูฮยอนคิ้วขมวดใส่

          “พอเลยนะ จะให้นอนไม่ใช่เหรอ เริ่มดึกแล้ว นอนได้แล้ว ห้ามเด็ดขาดนะคืนนี้ ฉันหวงตัว ปล่อยเลย” ซีวอนหยุดขำไม่ได้เสียทีกับอารมณ์ของคยูฮยอนในตอนนี้

          “อยากกินไก่”

          “ชอบลากไปกินในน้ำเหรอ?”

          “แรงอ่ะคยู”

          “ฉันไม่ให้กิน หน้าตานายมันหื่นกระหาย น่ากลัว” ร่างบางว่า ซีวอนยิ้มและยักคิ้วให้ คยูฮยอนยู่ปากใส่อีกครั้ง “ไม่ให้กิน อย่ามาสะกิดน่องฉันนะ” งุ๊งงิ้งเมื่อร่างสูงเอาขาสะกิดเกี่ยวไปมา

          “สะกิดเฉยๆ ไม่ได้จะกินน่อง”

          “งั้นกินตีนมั้ยล่ะ”

          “นายเก็บตีนไว้กินเถอะ”

          “0[]0” คยูฮยอนหน้าเหวอเมื่อซีวอนสวนกลับพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจนั่น มือบางดึงจากการเกาะกุมออกด้วยแรงมหาศาล(?) แล้วผลักร่างสูงออกจนหงายท้องและขึ้นไปนั่งทับ

          “พูดกับเมียแบบนี้เหรอ”

          “ก็นายเล่นก่อนนิ่” ว่าอย่างไม่ยอมกัน สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่

          “ใจร้าย จะฟ้องพี่ทึก”

          “ใจร้าย ใครกันแน่ที่ใจร้าย” ร่างสูงว่าหน้าบู้ เบะปาก มือบางไล้ไปที่คอของร่างสูงแล้วบีบด้วยสองมือเล่นๆ จนซีวอนหัวสั่นคลอนพร้อมเสียงหัวเราะ

          “ตายๆๆๆๆ ฉันจะฆ่าม้า” เสียงหวานเอ่ยพร้อมทั้งมือยังรัวแกล้งจนร่างสูงตาลาย

          “อ๊ากก คยูอ่า ปล๊อยยย” ร้องเสียงหลงเพราะโดนนั่งทับ สุดท้ายพอเหนื่อยร่างบางก็เอนตัวนอนซบหน้ากับอกแกร่งของร่างสูง มือบางวางพาดไหล่หนาๆ หลับตาลงนอนคลายเด็กๆ ตอนอยู่ในท้องแม่ไม่มีผิด

          “ง่วงรึยังซีวอน”

          “อื้อ....คยู...เงยหน้าหน่อยซิ” ร่างบางเงยหน้าตามคำขอ ทำให้สบตากันในระยะใกล้ห่างกันไม่กี่เซนฯเท่านั้น

          “ซีวอน...ยิ้มซิ” เอ่ยสั่งบ้าง ร่างสูงยิ้มบางๆ เท่านั้นก็สะกดตาร่างบางได้ทันที “รู้ตัวมั้ยว่านายน่ะ....หล่อมากเลยนะ” ร่างสูงพยักหน้ารับ

          “รู้สิ่ รู้ตั้งนานแล้ว”

          “หลงตัวเองอ่ะ” คยูฮยอนว่าแล้วหัวเราะชอบใจกับอาการหลงตัวเองของซีวอน “ยิ้มอีกซิ กว้างอีกนิด” คนบอกก็บอกเรื่อยๆ คนทำก็ทำตามอย่างว่าง่าย ร่างบางยิ้มตาม มือเล็กประคองแก้มกร้านทั้งสองข้างของคนตัวโตกว่าแล้วจูบทาบริมฝีปากลงไป “ปากนายกว้างจะงับหัวฉันได้ทั้งหัวแล้วเนี่ย” ว่าแล้วยิ้มน่ารักใส่ ความโมเอ้กระแทกตาจนซีวอนอดไม่ได้รั้งคอร่างบางโน้มลงมาอีก และดีฟคิส

 

 

                   สุดท้ายไฟร้อนในกายก็หยุดไม่อยู่ ทั้งยังถูกก่อตัวขึ้นโหมจนไม่สามารถดับลงได้จนกว่ามันจะมอดไปเอง ทั้งน้ำเสียงและถ้วงทำนองรักยังคงต่อเนื่องหนักหน่วง ทุกอย่างดูเร่าร้อน บรรยากาศรอบกายคล้ายจะสร้างแรงดึงดูดและจูงใจให้เกิดขึ้น หนึ่งรับหนึ่งรุกสลับกัน ผ้าผืนขาวสะอาดยับยู่ยี่ไปตามแรงรักบ่งบอกถึงอารมณ์ร้อนแรงของทั้งคู่เป็น อย่างดีจนจบบทหฤหรรษ์ที่ทั้งคู่สร้างขึ้นในช่วงค่ำคืน....

 

 

 

 

 

 

 

 

                   รุ่งเช้าของวันต่อมา คยูฮยอนผงกหัวขึ้นมาจากแผงอกแกร่งก็เห็นว่าซีวอนลืมตามองอยู่พร้อมรอยยิ้ม มือใหญ่ลูบไหล่เล็กไปมาอย่างอุ่นใจ

 

          “นอนต่อมั้ย?”

          “........” ร่างบางส่ายหน้าไปมา ร่างสูงขยับเล็กน้อยแล้วป้อนจูบอรุณสวัสดิ์อย่างที่ทำทุกเช้า คยูฮยอนตอบรับเบาๆ พอผละออกจากกันก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข “อยากกลับบ้าน...” อยู่ๆ คยูฮยอนก็พูดขึ้น ซีวอนอดแปลกใจไม่ได้ เมื่อก่อนเขาคะยั้นคะยอจะให้กลับก็ไม่ยอมกลับ

          “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรีบทำงานให้เสร็จ โอเค๊?” คยูฮยอนยิ้มขำ มือเล็กยันอกแกร่งขยับลุกขึ้นนั่ง ซีวอนขยับลุกตามเอนหลังพิงหัวเตียง

          “โซอึนจะเข้าโรงเรียนแล้วนะ เอาไง?”

          “เรียนที่เดียวกับแจวอนนั่นแหละ ลูกจะได้มีเพื่อน” คยูฮยอนมีสีหน้ากังวลไม่น้อยเพราะไม่เคยได้พาโซอึนไปเที่ยวเล่นที่โรงเรียน ไม่มีเพื่อนที่เกาหลี และเหมือนจะเข้ากับคนอื่นยากกว่าคนพี่ที่เฟรนลี่เสียเหลือเกิน

          “ฉันกลัวโซอึนจะงอแงจัง”

          “งอแงยังไงก็ต้องไปโรงเรียน ทำยังไงได้ล่ะ หืม เพราะฉะนั้นตอนนี้เราสองคนไปอาบน้ำ แล้วช่วยกันทำงานให้เสร็จมั้ย จะได้พาโซอึนกลับบ้าน ไปเที่ยวเล่นที่โน่นบ้าง จะได้ชิน” ร่างบางพยักหน้ารับตามนั้นก่อนจะพากันไปอาบน้ำไปทำงานต่อในช่วงสายของวัน

 

 

 

 

 

 

                   คยูฮยอนกลับมากินข้าวกลางวันที่โรงแรมกับครอบครัวหลังจากไปนั่งปั่นงานอยู่ ที่หอสมุดอยู่นานสองนานกับตินา ร่างบางนั่งรอซีวอนอยู่ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนของโรงแรม จนเมื่อเห็นว่าซีวอนเดินมาคนเดียวก็แปลกใจ

 

          “ขอโทษครับ ชื่ออะไรเหรอครับ” คำทักทายพร้อมรอยยิ้มทำให้คยูฮยอนงงกับท่าทางแปลกๆ ของซีวอน

          “เล่นอะไรของนายเนี่ย? แล้วเด็กๆ ไปไหน??” ถามด้วยความสงสัย

          “โถ่ ตอบคำถามก่อนสิ่” ร่างบางเอ๋อเออเร่อไปชั่วคราว

          “ห๊ะ?”

          “ชื่ออะไรเหรอครับ” ว่าแล้วยื่นดอกกุหลาบดอกใหญ่ที่แอบอยู่ข้างหลังเมื่อครู่ให้ ร่างบางยิ้มขำและรับมาจูบลงไปที่กลางดอกกุหลาบขาวนั่น

          “ชื่อคยูฮยอนครับ”

          “ดีจังครับ ชื่อคล้องกันกับผมเลย ผมชื่อซีวอนครับ” ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัย พลางยิ้มตลกกับท่าทางของซีวอนที่นั่งลงตรงข้าม แล้วหัวเราะออกมาเบา

          “นั่นสิ่นะ ชื่อคล้องกันเลย......คล้องกันตรงไหนเนี่ย? - -“” ร่างบางงึมงำออกมาจนซีวอนหลุดขำ

          “คล้องสิ่ คล้องกันตรงนี้น่ะ...” ว่าแล้วจิ้มไปที่หัวใจ ร่างบางร้องแหวะออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางตลกของสามีที่นั่งอยู่ตรงข้าม กำลังเหมือนจะเขินอายกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา

          “เล่นอะไรก็ไม่รู้ แล้วนี่เด็กๆ ไปไหนล่ะ” ว่าแล้วส่งสายตาต้องการคำตอบ ปากก็ยังอมยิ้มกับดอกกุหลาบดอกใหญ่ในมือ ร่างสูงอมยิ้มแก้มบุ๋ม

          “เดี๋ยวก็มา แทคพาออกไปซื้อของเล่นน่ะ” คยูฮยอนพยักหน้ารับรู้ มือบางเลื่อนแก้วน้ำให้ร่างสูงพร้อมกับยื่นส้อมส่งไปจ่อที่ปากหยัก ซีวอนอ้าปากรับเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาพสวีทหวานของสองสามีภรรยาทำให้แทคที่พาหลานสองคนเดินเข้ามาในร้านต้องถอย ออกไปหน้าร้านทันที

 

          “ซองอึน โซอึน...ดูปาป๊ากับแม่เราสิ่ หวานกันใหญ่แล้ว เราสามคนคงต้องออกไปกินข้าวร้านอื่นกันซะแล้วหล่ะ” แทคบอก แล้วอุ้มโซอึนขึ้น ซองอึนชะเง้อมอง

          “ถ้าอย่างนั้น น้าแทคพาซองอึนกับน้องไปกินไอติมหน่อยนะ น้า....ซองอึนคิดถึงน้าเจส” ซองอึนบอกทั้งเขย่าเสื้อ

          “เอ่อ....” ด้วยเพราะตัวเองไม่กล้าบอกรักเพื่อนเสียทีทำให้รู้สึกขัดเขินเมื่อจะต้องไป เจอหน้า ถึงจะได้พ่อสื่อดีอย่างซองอึน และเจสซี่เองก็เปิดทางให้จีบเสียขนาดนั้น แต่เหมือนว่าแทคจะขี้อายเกินจะบอกรัก

          “นะครับน้า....” บอกเสียงอ้อน ทำให้แทคจำเป็นต้องพยักหน้ารับตกลง

          “โอเค!!! น้องโซอึนไปทานไอติมกันดีกว่าเนาะ” แทคบอกหลานสาวตัวเล็ก โซอึนจ้องตาและยิ้มกว้างออกมา

          “ติมๆ โซอึนจะทานติมกับน้าฉุดโหล่ว”

          “????? หือ?...สุดหล่อรึเปล่าคะลูก” แทคทวนคำถามนั้น โซอึนยิ้มชอบใจ กอดคอหอมแก้มน้าสุดหล่อไปเบาๆ  แทคยิ้มขำแล้วดึงมือซองอึนที่แอบยืนมองพ่อแม่ตัวสวีทกันอยู่ในร้านอาหารให้ ออกไปข้างนอกด้วยกัน....

 

 

 

                                          ..............................

 

 

 

 

                   ซองมินที่กลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันได้เข้าบ้านก็ต้องหันไปมองรอบๆ เมื่อเห็นไฟประดับตกแต่งอยู่ที่ซุ้มชิงช้าข้างบ้าน มืออวบวางกระเป๋าเดินทางไว้หน้าบ้าน ยังไม่ทันไรแม่บ้านก็ยกไปเก็บให้

 

          “เดี๋ยวครับ พี่ฮีชอลทำอะไรเหรอ?” เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ แม่บ้านอมยิ้มเล็กน้อย

          “คุณซองมินเดินไปดูได้เลยค่ะ” เมื่อแม่บ้านไม่ตอบ ซองมินก็เบ้ปากออกจากกันหน้าตาน่ารัก แล้วรีบเดินออกไปดู

 

          “พี่ฮีชอล....พี่อยู่ไหนครับ?” เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นมีใคร มีเพียงโต๊ะตัวไม่ใหญ่มากนัก เทียนเล่มสูงถูกจุด บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อยสำหรับคนมาเห็น ซองมินมองไปรอบๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ฮีชอลก็มาอยู่ด้านหลัง “เฮ้ย!!!!” ซองมินกระโดดถอยหลังไปทันที

          “ฮ่าฮ่า ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ พี่ขอโทษครับ” ว่าพร้อมกับยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ส่งให้ ซองมินมองเล็กน้อยแล้วยิ้มเขินจนหน้าแดง

          “พี่อ่ะ....”

          “ครบรอบแต่งงานของเราทั้งที ไหนๆ มินนี่ก็กลับมาทัน พี่ก็อยากจะเซอร์ไพรส์บ้าง โอเคมั้ย?” เอ่ยขึ้นเพราะกลัวไม่ถูกใจ ซองมินหลุดขำออกมาและพยักหน้ารับน้ำตาคลอ

          “คิดว่าพี่จะทำงานจนลืมวันนี้แล้วซะอีกนะครับ ผมกะว่ากลับมาทัน ผมก็มีนี่มาให้ด้วย...” ว่าแล้วหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ชตัวไม่ใหญ่มากนัก ฮีชอลเลิกคิ้วขึ้นสูง “นี่ไง...” บอกแล้วยื่นหยกแท้ที่บินไปซื้อมาจากจีนเพื่อมอบให้ฮีชอลโดยเฉพาะ “ผมเห็นช่วงนี้พี่ทำงานหนักแล้วก็เหนื่อยมาก หยกนี่อาจจะช่วยให้พี่หายเหนื่อยได้บ้าง พี่รักษาให้ดีนะครับ แล้วเขาก็จะรักษาพี่เช่นกัน” ฮีชอลพยักหน้ารับอย่างปลื้มใจ

          “ขอบใจนะซองมิน” ร่างอวบพยักหน้ารับ ก่อนจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอมดอกไม้ช่อใหญ่ในอ้อมแขน “พี่ก็มีอะไรให้มินนี่เหมือนกันนะ” ฮีชอลว่าแล้วดึงซองมินไปนั่งที่เก้าอี้แล้วย่อตัวลงนั่งตรงหน้า “พี่เลือกอยู่นานเลยนะเนี่ย” ว่าพร้อมกับค้นหาบางอย่างในกระเป๋าเสื้อ

          “เห?....หาอะไรน่ะ” ซองมินว่าแล้วชะเง้อมอง ฮีชอลยิ้มขำแล้วดึงออกมาจากกระเป๋า

          “นี่ไง!!!” ว่าแล้วชูตั๋วบินทัวร์ฝรั่งเศส อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีให้ซองมินดู ร่างอวบอ้าปากค้างกับสิ่งตรงหน้า “เดือนหน้าทั้งเดือนครับ” เท่านั้นหน้าเหวอก็ฉีกยิ้มกว้างหุบไม่ลงทันที

          “ขอบคุณครับพี่ฮีชอล” ว่าแล้วโผเข้ากอดจนฮีชอลเกือบหงายหลังด้วยความดีใจ เห็นแบบนั้นคนให้ก็พลอยมีความสุขไปด้วยไม่ยาก ฮีชอลกอดซองมินให้หายคิดถึง

          “แต่ว่าคืนนี้ พี่คิดถึง ขอกอดหน่อยนะ” ฮีชอลว่าเพราะซองมินไปไปอเมริกาเกือบสองสัปดาห์ ไม่ได้เจอไม่ได้นอนกอดมันก็เลยคิดถึงเป็นธรรมดา

          “ครับ ผมยอมให้พี่กอดทั้งคืนเลย” บอกด้วยความดีใจไม่ได้นึกสักนิดว่าตัวเองเพิ่งกลับมาจากสนามบินด้วยความเหนื่อย

 

 

                   สองสามีภรรยานั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียนอยู่ในสวนข้างบ้าน บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย นานครั้งจะได้อยู่ด้วยกันสองคน ถ้าวันนี้คุณคิมกับคุณนายคิมไม่อยู่ เด็กๆ คงได้ซนจนไม่ได้สวีทกันแบบนี้

 

 

 

                                       ...........................................

 

 

 

 

 

                   เยซองนั่งอมยิ้มมองภรรยาตัวเล็กนั่งอ่านนิทานให้ลูกสาวฟังอยู่หน้าโทรทัศน์จอใหญ่ เรียวอุคหันไปมองก็ส่งยิ้มให้ จนเมื่อเห็นว่าถึงเวลานอนแล้วจึงให้เยซองอุ้มอึนจองขึ้นห้องนอนเมื่ออึนจอง หลับไปแล้ว

 

          “หนูเรียว มาพี่ช่วย” เยซองบอกแล้วช่วยดึงเรียวอุคให้ลุกขึ้นยืนไปนอนบ้าง

          “อุ๊!!” เรียวอุคอุทานออกมาเบาๆ มือเล็กลูบท้องไปมา

          “เป็นอะไรครับ เจ็บท้องเหรอ” เรียวอุคพยักหน้ารับน้อยๆ

          “สงสัยตัวเล็กเตะแรงไปหน่อย ไปนอนเถอะครับ” เรียวอุคบอกพร้อมรอยยิ้มเพราะอีกสามวันก็ครบกำหนดคลอดแล้ว เยซองพยักหน้ารับยิ้มๆ

          “ลูกคนนี้สงสัยว่าจะซนนะเนี่ย” เยซองเอ่ยเสียงเบาแล้วฉวยหอมแก้มนวลไปฟอดใหญ่ เรียวอุคยิ้มเขิน หยิกต้นแขนเยซองเบาๆ

          “พี่อ่ะ พอแล้ว ไม่เล่นแล้ว” เรียวอุคท้วงเมื่อเยซองแกล้งหอมรัวอยู่ที่แก้ม ร่างเล็กเบี่ยงหนีด้วยความจั๊กจี้ เยซองหัวเราะชอบใจแล้วรั้งเอวหนาของเรียวอุคพาขึ้นบันไดไปชั้นสอง

 

 

 

                   ขึ้นบันไดก็ไม่วายที่เยซองจะต้องแกล้งเรียวอุคอยู่ร่ำไป ไม่มีใครคาดคิดว่าเยซองจะมีมุมหวานๆ แบบนี้ ทั้งที่ปกติทำงาน ไม่ทำหน้านิ่งก็ไม่ค่อยพูดจาถ้าไม่ใช่เรื่องงานและพูดคุยกับคนที่สนิท ผิดกับเรียวอุคที่ยิ้มง่าย ดูอ่อนหวาน

 

          “พี่เยซอง....” เรียวอุคหยุดเดินเมื่อกำลังจะเปิดประตูเข้าห้อง เยซองเลิกคิ้วขึ้น

          “ครับ?”

          “ผมเจ็บท้องจังเลยอ่ะ นี่ยังไม่ถึงกำหนดเลย” เรียวอุคบอก มือเล็กลูบท้องไปมาพยายามจะให้หายเจ็บ

          “เตือนรึเปล่า?” เรียวอุคส่ายหน้า

          “ผมว่าไม่แล้วหล่ะ” สีหน้าเจ็บปวดบ่งบอกได้อย่างดีจนเยซองต้องประคองเอาไว้ไม่ให้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น ร่างเล็กกัดริมฝีปากกลั้นอดทนความเจ็บ ตอนเจ็บเตือนมันไม่เจ็บขนาดนี้ แต่ตอนนี้มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

          “ถ้าอย่างนั้นไปโรงพยาบาลนะครับ” เรียวอุคหายใจสะดุดไปเล็กน้อยและพยักหน้ารับ เยซองเห็นอย่างนั้นก็รีบอุ้มเรียวอุคลงบันไดทันที และสั่งแม่บ้านที่กำลังจะเข้านอนให้ดูแลอึนจองก่อน

          “โอ้ย!!” เรียวอุคหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อตัวเล็กในท้องเตะแรงขึ้นจนรู้สึกร้าวไปหมด

          “อดทนนิดนะหนูเรียว” เรียวอุคพยักหน้ารับ มือเล็กประคองท้องตัวเอง หายใจหนักขึ้น เยซองรีบสตาร์ทรถออกจากบ้านทันที

 

 

 

                   ยังไม่ทันถึงโรงพยาบาล ซีวอนก็โทร.เข้ามาพอดี เยซองรับสายเพราะคิดว่าต้องเป็นเรื่องานแต่ด้วยเพราะความรีบทำให้ต้องตั้ง สติอยู่เกือบครึ่งนาที เสียงทุ้มของเจ้านายพูดถามเรื่องงานรัวทันทีแต่เพราะได้ยินเสียงรถจึงเอ่ย ถามเรื่องส่วนตัว เยซองจึงต้องบอกว่ารีบไปโรงพยาบาลถึงได้รู้เรื่องกันและรอดูผล

 

          “ที่รัก!!!!” เสียงทุ้มของซีวอนเอ่ยเรียกร่างบางที่นั่งกล่อมโซอึนอยู่ในขณะที่ตาก็จ้อง มองการ์ตูนที่ลูกนั่งดูอยู่ตรงหน้า คยูฮยอนหันไปมองทำให้แก้มชนปากคนที่แกล้งยื่นหน้าเข้ามา ร่างบางถลึงตาใส่เล็กน้อย

          “จุ๊ๆ อะไร?” เอ่ยถามเสียงเบาเพราะโซอึนหลับไปแล้ว

          “เรียวอุคจะคลอดแล้ว” ว่าพร้อมรอยยิ้มกว้าง เท่านั้นคยูฮยอนก็แทบจะลุกพรวดด้วยความดีใจ แต่ตั้งสติได้ถึงได้นึกว่าได้ว่าโซอึนนอนอยู่บนตัก

          “จริงเหรอ?” ถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น ซีวอนพยักหน้ารับว่าจริง

          “รอดูรูป อีกสักสองชั่วโมงนะน่าจะได้เห็น” ซีวอนบอกแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ดึงซองอึนขึ้นมานั่งตักและกอดเอาไว้คล้ายตุ๊กตาหมีตัวโต

 

 

 

 

                   เยซองเข้าห้องคลอดตามหลังเรียวอุคไปไม่นานหลังจากโทร.ไปบอกที่บ้านเรียบร้อย แล้ว สีหน้าของเรียวอุคดีขึ้นจากเมื่อครู่ที่เจ็บท้องจนหน้าซีดเหงื่อพราว

 

          “โอเคขึ้นมั้ยครับ?” เรียวอุคพยักหน้ารับ ยื่นมือออกมากุมกับมือของเยซองที่จับมือของเขาอยู่

          “เมื่อกี้คุณซีวอนว่ายังไงเหรอครับ” เยซองส่ายหน้า

          “เรื่องงานน่ะ ไม่มีอะไรหรอก แต่ว่าคุณซีวอนรอเห็นหน้าตัวเล็กอยู่นะ” เรียวอุคยิ้มรับอย่างดีใจ

 

 

 

                   ทั้งสองยังคงให้กำลังใจกันอยู่ตลอดเวลา เรียวอุคยิ้ม เยซองก็ยิ้มตาม หมอและพยายาลก็ทำงานกันด้วยความสบายใจ ไม่ซีเรียสให้คนเฝ้ารอต้องเครียดตาม เยซองคอยส่งยิ้มให้เรียวอุคอยู่ตลอดเวลา มือหนาเกลี่ยแก้มนวลเบาๆ อย่างมีความสุข

 

          “เจ็บมั้ยครับ” เรียวอุคส่ายหน้าไปมา เท่านั้นเยซองก็ยิ้มได้

 

 

 

                   รอไม่ถึงชั่วโมงเสียงเด็กน้อยก็ร้องดังออกมา เยซองกับเรียวอุคหันไปมองหน้ากันทันทีพร้อมกับน้ำตาของเรียวอุคที่รื้นขึ้น ขอบตาออกมาด้วยความดีใจ จนเมื่อพยาบาลส่งตัวเล็กมาให้ เยซองก็รับมาอุ้มให้เรียวอุคได้เห็นหน้าทันที

 

          “แก้มป่องเหมือนพี่เย่เลยนะครับ” เรียวอุคพูดติดตลกเมื่อเห็นหน้าตัวเล็กที่ยังหลับตาสนิทอยู่ในอ้อมแขน เยซองยิ้มขำและให้พยาบาลถ่ายรูปให้ จนเมื่อต้องพาไปวัดส่วนสูงและชั่งน้ำหนัก เยซองจึงออกไปรอข้างนอก ให้เรียวอุคพักฟื้นอยู่ด้านใน

          “พี่ออกไปรอข้างนอกนะครับ แล้วเราค่อยเจอกันนะ” เรียวอุคพยักหน้ารับก่อนที่เยซองจะออกไปหลังจากจูบเบาๆ ที่ขมับอย่างอ่อนโยน

 

 

 

                   เยซองถ่ายรูปตัวเล็กที่อยู่ในห้องเด็กอ่อนส่งให้ซีวอนดู ร่างสูงที่เห็นก็รีบส่งต่อให้คยูฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทันที ภาพเด็กน้อยนอนหลับสนิท ผิวขาว แก้มอูมทำให้คยูฮยอนหลุดยิ้มออกมาไม่ต่างจากซีวอนแม้แต่น้อย

 

          “ตอนที่โซอึนเพิ่งเกิด แก้มเยอะแบบนี้มั้ยซีวอน” ร่างบางเอ่ยถามขึ้น ซีวอนพยักหน้ารับ

          “แก้มเยอะมั้ยไม่รู้ รู้แต่ว่าน่ารักเหมือนแม่เลย” ร่างสูงว่าแล้วจูบแก้มนิ่มของคยูฮยอนไปหนึ่งทีเพราะอยากฉวยโอกาสเล็กๆ น้อยๆ ร่างบางยู่ปากใส่

          “ปากหวานนะ....พาโซอึนไปนอนในห้องเลย ฉันจะทำงานต่อแล้ว” ร่างบางว่าแล้วอุ้มโซอึนส่งให้ซีวอนพาไปนอนกลางวันในห้องหลังจากนั่งเมื่อย มานานสองนาน

          “ทำน้องให้ซองอึนกับโซอึนอีกซักคนดีมั้ยนะ....” คำพูดลอยๆ ของซีวอนทำให้ร่างบางคว้าหมอนอิงปาใส่เสียกลางหลัง ร่างสูงหลุดขำออกไปเบาๆ แล้วรีบเดินเข้าห้องนอนไป

 

 

 

 

.................................................................................................................

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา