ภารกิจพิชิตใจ
เขียนโดย tuktalovekaewjai
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.13 น.
6) ตอนที่ 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 6
เวลาผ่านล่วงเลยมาอีกวันแต่ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับงานของซูซี่เลยแม้แต้น้อยวันนี้เธอจึงนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง และใช้ความคิดที่สมองเธอมีทั้งหมดคิดหาแผนการใดที่จะเข้าใกล้สนิทสนมกับเขื่อนได้เร็วที่สุด แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกเสียจึงได้แต่หายใจทิ้งทำลายออกซิเจนอยู่ภายในห้อง
“ทำไงดีเนี่ยวันตายของฉันใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วฮือออ ยุโรปของฉันคงต้องสลายไปต่อหน้าต่อตา โอ้วมายก้อด! ฉันต้องทำอะไรสักอย่างสิอือ..........ออด~ ว้ายๆ ฟู่ว์..ใครมากดออดอะไรตอนนี้เนี่ย”
หวังว่าคงไม่ใช่พี่ลูน่าหรอกนะ
“เซอร์ไพรส์!!”
“พี่ลูน่า! เป็นนางจริงๆ -_-! สวัสดีค่ะแหมมาแต่เช้าเลยนะคะแหะๆ หวัดดีจ้ะ” ซูซี่เปิดประตูให้ลูน่าแล้วเชิญเธอเข้าห้อง แต่ทว่าเธอไม่ได้แค่คนเดียวยังตามติดมาด้วยฟางกับซาร่า ซึ่งแน่นอนว่ามากันพร้อมหน้าเช่นนี้ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่
“ฉันว่านาฬิกาเธอน่าจะหมดอายุไขแล้วนะจ๊ะนี่มันไม่เช้าแล้วมั้ง..ฮึ?” ลูน่ายื่นนาฬิกาข้อมือของเธอให้ซูซี่ดูเวลา และเพื่อเป็นการบอกว่าเธอจะชักช้าใจเย็นแบบนี้ไม่ได้
อีกแล้ว มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายขึ้นตามมาอีกมากมายเป็นแน่
“คือว่า..”
“นี่เป็นหมายเตือนจากหน่วย” ลูน่านำเอกสารจากทางหน่วยงานมาให้ซูซี่กับมือด้วยตนเองเพราะเรื่องนี้สำคัญมาก และเพื่อช่วยเธอแก้ไขปัญหางานล่าช้าเธอจึงได้พาสองสาวจากหน่วยงานมาที่นี่ด้วย
“เธอรู้ตัวใช่หรือเปล่าว่าเธอทำงานช้าเกินไปน่ะซูซี่” ฟานี่ลากเสียงยาวในตอนท้ายคล้ายถามหยอกซ้ำเติมเพื่อนสาวอยู่ในที
“ย่ะ! แต่แหมจะจับผู้ชายอย่างนายนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ไอ้หน้ายาวนั่น..เอ่อ..นายเขื่อนนั่นใช่ว่าจะอยู่กับที่ให้ฉันจัดการซะเมื่อไหร่ล่ะ ฉันตื่นมาก็ไม่เห็นหัวนายนั่นแล่วชิ!”
“ก็แหงแหละตื่นสายตะวันส่องก้นแบบเธอจะไปทันใครเค้าจ๊ะ”
“ยัยซาร่า! เธอตื่นเช้ากว่าฉันตายล่ะย่ะ จิ๊!”
“แน่นอนฉันไม่ขี้เซาเหมือนเธอหรอกน่า”
“ไม่จริง!”
“ย่าห์!! ฉันให้เธอมาช่วยกันคิดแผนที่จะทำให้ภารกิจนี้เสร็จโดยเร็วนะไม่ใช่เรียกเธอมาทะเลาะกัน ซาร่าเธอมีแผนอะไรว่ามาได้เลย”
“แผนของฉันคือ.........................................................................................”
ก่อนจะเกิดศึกน้ำลายให้เรื่องยืดเยื้อเสียเวลาไปมากกว่านี้ ลูน่าหญิงสาวที่ทุกคนต้องเกรงกลัวจึงต้องวางอำนาจสักเล็กน้อยกับสองสาวเพื่อห้ามศึก แล้วชักนำทุกคนเข้าสู่แผนการที่ซาร่ากำลังจะนำเสนอให้ได้ฟัง
เนื่องจากเอกสารที่ทางหน่วยงานต้องการมันสำคัญและมีผลต่อประเทศมาก หากซูซี่ยังคิดหาวิธีนำเอกสารสำคัญนั้นออกมาให้กับทางหน่วยงานไม่ได้ในอนาคตอันใกล้ประเทศอาจจะต้องตกอยู่ในอันตรายก็เป็นได้ และเพื่อปกป้องประเทศไว้ภารกิจจึงจำเป็นที่จะต้องสำเร็จให้ได้ในเร็ววัน
~ออด~
“เอ๋? ใครมากัน”
“เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูเองค่ะ.....................อ้าวนายเองเหรอนึกว่าใคร มาทำไม”
ระหว่างที่ทั้งสี่คนกำลังคุยเรื่องแผนการกันอยู่มีใครคนหนึ่งมากดออดเรียกที่ด้านหน้าห้อง ซึ่งใครคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นเป็นเขื่อนคู่กรณีคู่กัดของซูซี่นี่เอง
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะครับผมอุตส่าห์คิดถึงคุณเป็นคนแรกเลยนะ”
“อุตส่าห์ก็ไม่ต้องหรอกย่ะฉันไม่ชอบบังคับใจใคร! มาหาฉันถึงนี่มีธุระอะไรไม่ทราบ?” ซูซี่คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นสักอย่างหรือไม่ก็เป็นเขื่อนเองที่กินอะไรผิดแปลกมาถึงได้มาหาเธอถึงห้องพักได้
“สำหรับคุณ” ดอกไม้ช่อโตที่ซ่อนไว้ด้านหลังของเขาถูกส่งมอบให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ
“00? ห๊ะ! หะ..ให้ฉันเหรอ?”
“ดอกไม้ช่อนี้สำหรับคุณซูซี่ครับ ^_^”
“นาย....กินอะไรผิดมารึเปล่าทำไมถึง..?”
“นี่คุณทำไมลีลานักล่ะผมซื้อมาให้คุณก็รับๆ ไปเถอะน่าคุณนี่เรื่องมากจริงๆ เลย” เขื่อนผู้มีความอดทนต่ำเผลอพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เนื่องจากหญิงสาวทำลีลาอืดอาดที่จะรับของขวัญจากเขาจนทำให้ดูน่ารำคาญ
“นายนี่มันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เร็วจริงๆ เลยนะ! ฉันไม่รับดอกไม้จากนายถ้านายไม่เต็มใจก็ไม่ต้องเอามาให้ฉัน”
“เดี๋ยว!” ก่อนที่หญิงสาวจะปิดประตูมือเขาไวยิ่งกว่าความเร็วแสงยื่นมาขวางและดันประตูเอาไว้ได้ทันเวลา
เขื่อนก้าวเท้าเข้าห้องของซูซี่ทีละก้าวและปิดประตูลงกลอนด้วยมือข้างเดียวอย่างคนชำนาญการ เขาจ้องมองหญิงสาวแล้วเดินเข้าหาเธอทีละก้าวพร้อมกับเธอที่ถอยหนีเขาไปทีละก้าวจนหมดทางหนี
“นะ..นายจะทำอะไรอะ?” ซูซี่รู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากเมื่อต้องอยู่ใกล้กับเขาซึ่งห่างกันเพียงไม่กี่เซนเช่นนี้ ลมหายใจของทั้งคู่ไหลรดรินใส่กันไปมาและมีเสียงของหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ มันเต้นเร็วและแรงเหมือนจะหลุดออกมากองอยู่ด้านนอกเสียอย่างนั้น
“ทำอะไรดีล่ะจ๊ะคนสวย”
“ออกไปนะไม่อย่างนั้นฉันจะเรียก รปภ. จริงๆ ด้วย”
“กลัวจัง หึๆ นี่คุณ..ลืมไปหรือเปล่าครับว่าที่นี่น่ะผมเป็นเจ้าของนะ ฮึ? คุณนี่ตลกจริงๆ แกล้งนิดหยอกหน่อยก็กลัวจนตัวสั่น ฮ่าๆ เฮ้อออ...ว้าวโซฟานี้นุ่มดีจังแหะ”
ท่าจะบ้าก็นี่โรงแรมแกไม่ใช่หรือไง? แล้วจะมานั่งอะไรตรงนี้ว๊า!
โดยที่เขื่อนไม่รู้มาก่อนว่าในห้องของซูซี่ไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้นที่อยู่ แต่ยังมีเพื่อนๆ ร่วมงานของเธออีกที่ตอนนี้ต่างแยกย้ายกันซ้อนตัวอยู่ภายในห้องนี้นั้นแล และคนที่ดูจะถูกจับได้คนแรกเห็นจะเป็นซาร่าเพราะเธอแอบอยู่หลังโซฟาตัวที่เขื่อนนั่งลงเมื่อครู่นี้
“นาย!! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ” ซูซี่เอ่ยไล่เขื่อนเพราะเกรงว่าทุกคนจะเป็นตะคริวกันไปหมดเสียก่อนหากเขายังนั่งกระดิกเท้าสบายใจอยู่ในห้องนี้
“ที่นี่ผมเป็นเจ้าของห้องนี้จะเป็นของคุณได้ไงกันครับ อ่าๆ ผมหิวจังเลยไปทานข้าวกันดีกว่านะครับ” เขื่อนเห็นซูซี่อ้าปากเตรียมจะพูดอะไรบางอย่างเขาจึงตัดบทฉวยโอกาสนี้ชวนเธอไปทานอาหารเช้าตามที่ตั้งใจไว้เสียเลย
“เฮ้ยคุณเดี๋ยวสิฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าฉันจะไปกับคุณ!”
ไปเถอะเร็วๆ เลยรีบๆ ไปกันเลยฉันไม่ไหวแล้ว TT
“หรือคุณไม่อยากร่วมโต๊ะกับคนหล่อเพอร์เฟคอย่างผม..?”
“เผอิญว่าฉันไม่ชอบคนหลงตัวเอง! ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”
“อะแฮ่มๆ”
“เสียงใครน่ะ?”
“เฮ้ยคุณไม่มีอะไรเสียงฉันเอง อะแฮ่มๆ พอดีช่วงนี้หวัดลงคอน่ะไปกันดีกว่าคุณฉันหิวแล้วไปๆ”
“แต่เมื่อกี้คุณบอกว่า..”
“ไปเถอะน่าเร็วเข้า!” ก่อนที่เขื่อนจะสงสัยและรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้อยู่กับเธอตามลำพังจะเป็นเรื่องใหญ่เข้าเธอจึงดึงมือและลากเขาออกจากห้องไปโดยเร็ว
ตอนแรกซูซี่ไม่เห็นด้วยและไม่สนใจคำชวนของเขื่อน แต่ทว่าลูน่าเกิดทำเสียงประหลาดดังขึ้นมาเธอจึงต้องไปทานข้าวกับเขื่อนเข้าจนได้ หากไม่กลัวว่าเขาจะรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ล่ะก็เธอไม่มีวันยอมไปกับเขาเป็นแน่ แล้วหลังจากที่ทั้งคู่ออกไปฟานี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมาปรากฏตัวพร้อมบ่นกระปิดกระปอย
ณ ห้องอาหารอาตาเลี่ยนของโรงแรม
เขื่อนเป็นคนเลือกร้านอาหารนี้เองเพราะอยากจะให้ซูซี่ลองลิ้มชิมรสสปาร์เก็ตตี้กุ้งแม่น้ำที่เลิศรสขึ้นชื่อของร้านนี้ แต่ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันนั้นเขาสังเกตเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักแล้วไม่แตะอาหารเข้าปากสักคำ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงถามเธอออกไปแบบซื่อๆ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าสีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลยหรือว่าไม่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน"
“คะ? อ๋อ..พอดีฉันกำลังไอเอทอยู่น่ะคะเลยไม่ค่อยชอบทาอาหารมันๆ เลี่ยนๆ พวกนี้เท่าไหร่ ขอโทษนะคะ”
เฮ้อ..อึดอัดชะมัดทำตัวยังไงดีนะ นายดีบทจะดีก็ดีซะใจหายแบบนี้เนี่ย
“ไม่เป็นไรครับงั้นเราเปลี่ยนร้านกันดีกว่า คุณชอบทานอาหารประเภทไหนครับ ไทย..จีน..อังกฤษ เกาหลี หรือว่าญี่ปุ่นดีครับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ.....เอ่อ..ฉันขอเปลี่ยนเป็นสลัดแล้วกันนะคะ”
“ได้ครับ น้อง..ช่วยเปลี่ยนจานนี้เป็นสลัดน้ำใสให้คุณผู้หญิงท่านนี้ทีนะ”
“ขอบคุณนะคะ”
“เรื่องเล็กน้อยครับ แต่ผมไม่เห็นว่าคุณจำเป็นจะต้องลดน้ำหนักตรงไหนเลยหนิครับ คุณรู้ตัวไหมครับว่าคุณน่ะดูไม่น่ามองเท่าไหร่เลยนะ”
“เอ๋?”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ