Because of love...เพราะรัก ฉันจึงยอมเธอ
เขียนโดย caken
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.32 น.
แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 18.26 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) ทำความรู้จัก..เราเคยรู้จักกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ...ฟาง เฟย์ รีบแต่งตัวเข้านะลูก พี่ป็อบ พี่เขื่อนมารอแล้วนะ...เสียงหญิงสาววัยกลางคน ผู้เป็นแม่ของสองสาวเร่งให้ลูกทั้งสองแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่อจะออกไปทานอาหาร ช็อปปิ้ง เที่ยวเล่น กับหนุ่มทั้งสองว่าที่ ลูกเขย แบว่าเป็นการสร้างความสนิทสนมให้คนทั้งสองคู่นั่นเอง
ฟางก้าวเท้าลงบันไดมายังห้องรับแขกของบ้าน เธอยู่ในชุดมินิเดรสสีหวาน หน้าตาถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ชั้นดี แต่เพียงแค่เบาบางดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าหวานๆงดงามราวกับนางฟ้าน้อยๆแต่ไฉนเลย แววตาของหน้าฟ้ากลับเศ้ราเสียจนคนมองใจหาย
...สวัสดีครับ น้องฟาง...ป็อบปี๊เอ่ย หลังจากตกตะลึงในความ สวย น่ารัก ของนางฟ้าน้อยของเค้า
ฟางยิ้มพอเป็นพิธีตอบ พร้อมยกมือขึ้นไหว้ มันช่างดูเหินห่างเหลือเกินในสายตาของป็อบปี๊ แต่ช่างเถอะยังไง เขาก็พอจะเดาไว้อยู่แล้วว่าต้องพบเจอปฏิกิริยาแบบนี้จากเธอ
เฟย์วิ่งเอะเสียงดังลงบันไดมา เล่นเอาคุณหญิงแม่ของสองสาวแทบจะวิ่งเข้าไปตีก้น เพราะความแสบ ก๋ากั่นของเธอเสียจริง วันนี้เธอ สวมเดรสสีดำขับผิวขาวๆ แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ขยี้ใจเพราะเดรสเป็นแบบเปิดไหล่กลมมน ยังไม่พอเธอยังแต่งแต้มใบหน้าให้รับกับความสวยเฉียบ ทั้งเขียนตาให้คมกริบ และสีปากแดงจัดนั่น เล่นเอาเขื่อนแทบหยุดหายใจ เพราะความเซ็กซี่ เปรี้ยวจี๊ด
...อ่ะ จะไปกันรึยังล่ะ ไอ้กบ โอ๊ย...เฟย์ ถามเสียงดังใส่เขื่อน แต่ดันใช้คำไม่เพราะถูกหูคุณแม่ตัวเองเท่าไหร่ เลยโดนหยิกไปหนึ่งที เขื่อนได้แต่แอบขำ แต่ถึงกระนั้นก้ไม่รอดตาเฟย์ ที่ส่งสายตาคาดโทษไปให้ แบบว่า ลับตาแม่ นายตาย !! เล่นเอาเขื่อนแอบเสียวสันหลังเหมือนกัน
หลังจากที่ทั้งสองสาวลงมาแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปตามภาระกิจที่ผู้ใหญ่ทั้งสามฝ่ายจัดการ คือป็อบปี๊และเขื่อนต้องพาทั้งสองสาวไป ดินเนอร์ ช็อบปิ้ง ฟังเพลง หรืออะไรก้ได้ที่จะทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น ซึ่งทั้งเขื่อนและป็อบปี๊ เต็มใจมาก แตกต่างจาก ทั้งสองสาวเลยจริงๆ
...เอ่อ เราไม่ได้ไปด้วยกันหรอค่ะ...ฟาง ถามขึ้นหลังจากที่ป็อบปี๊เดินนำมาเปิดประตูรถให้เธอนั่ง แต่เขื่อนกับเฟย์แยกไปอีกคัน ป็อบปี๊ แอบดีใจที่ฟางพูดกับเขาแม้จะเป็นประโยคที่ง่ายๆเช่นนี้ก็เถอะ แต่สำหรับเขามันช่างไพเราะจริงๆ
...อ้อ เราไปกันคนละที่น่ะครับ แล้วค่อยไปเจอกันที่คลับอีกที...ป็อบปี๊ตอบกลับไป เขากับเขื่อนวางแผนกันไว้แล้วว่าจะพาสาวของตัวเองไปทำอะไรบ้างและแน่นอนต้องเป็นกิจกรรมที่ทำกันสองต่อสองเท่านั้น
...ค่ะ...ฟาง รับคำเพียงสั้นๆ แล้วนั่งลงบนเบาะรถหรู เธอ ไม่มีคำโต้แย้ง หรือ ประท้วงอะไร ป็อบปี๊รู้สึกหวูบไหวกับการรับคำเพียงสั้นๆของเธอ ไหนจะท่าทางที่ดูราวกับเธอหมดอาลัยในชีวิต จนสามารถให้ใครต่อใครทำอะไรกับเธอก็ได้ เขารู้สึกเศ้ราจับใจและสงสารเธอมาก ทำไมนะ ผู้ชายคนนั้นทำอะไรให้เธอรักได้ขนาดนี้ เขาทั้งอิจฉาและสงสัย ถึงความรักระหว่างฟางและแฟนหนุ่มเสียจริง
ณ.ห้างสรรพสินค้า
เขื่อนพาเฟย์มาร้านไอติมร้านโปรดของเฟย์ ซึ่งเฟย์ตกใจที่เขื่อนรู็้ว่าเธอชอบอะไรไม่ชอบอะไรมากขนาดนี้ เพราะในระหว่างที่ขับรถมา เขื่อนแสดงให้เธอเห็นว่าเขาใส่ใจเธอมากขนาดไหน รู็ทั้งสิ่งที่เธอชอบและไม่ชอบ แม้จะมีจิกกัดเถียงกันบ้าง แต่สุดท้ายเธอก็เป็นผู้ชนะ เพราะเขื่อนขอยอมแพ้ทุกครั้งไป นี่ทำให้น้ำแข็งในใจของคนฟอมร์จัดอย่างเธอเริ่มละลายลงได้เลย เขื่อนเองก็พอจะรับรู้จากท่าทีที่เปลี่ยนไปของเฟย์ ว่าเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เค้าต้องขอบคุณป็อบปี๊จริงๆที่แนะนำให้เขา ยอมเธอให้มากๆ และ แสดงออกให้เฟย์รู้ว่าเค้ารักเธอมากแค่ไหน แหม ถ้ารู้ว่าทำแล้วดี ทำไปนานและ ตอนนี้ทั้งคู่ดูจะเริ่มมีลำแสงแห่งรักพุ่งเข้าหากันอย่างจังแล้วสิ
ส่วนคู่ของป็อบปี๊และฟาง ป็อบปี๊พาฟางมาที่ร้านขนมแสนน่ารักร้านหนึ่ง ซึ่งจากการที่เขาดูตามฟางบ่อยๆก็พอจะรู้ว่าเธอชอบมาทานขนมที่นี่บ่อยๆ และทุกครั้งที่มาเธอจะสั่งซื้อเค้กไปนั่งกินที่สวนดอกไม้ใกล้ๆทะเลสาบที่มองไปเห็นสุสานของแฟนเธอ แม้มันจะเจ็บปวดใจเมื่อคิดถึงข้อหลังแต่เค้าก็พาเธอมาที่นี่ เพราะทุกครั้งที่เค้าเห็นฟางกินขนมเธอจะยิ้ม และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ แม้ไม่รู้ว่าฟางยิ้มเพราะเหตุผลใดก็ตาม
...น้องฟางครับ อยากทานอะไรครับ...ป็อบปี๊ถามหลังจากที่เข้ามาในร้านได้สักพัก ฟางที่กำลังเหม่อมองออกไปยังที่นั่งประจำของเธอกับแฟนหนุ่ม ในหัวเธอกำลังมองเห็นภาพเธอกับแฟนหยอกล้อกันแล้วยิ้มให้กัน เธอเผลอยิ้มออกมา แต่ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเรียกของป็อบปี๊ ที่ปลุกเธอออกจากภวังค์อันแสนหวานนั้น
...อะไร ก็ได้ค่ะ ตามใจคุณเลย...เธอตอบ แล้วหันกลับไปมองที่เดิม หวังให้ที่นั่งที่ว่างเปล่าตรงนั้นเป็นดั่งภาพในหัวของเธอจริงๆ เธอไม่รู้เลยว่าคำตอบและสรรพนามเรียกป็อบปี๊ว่าคุรของเธอ ทำให้ชายหนุ่มข้างๆ เหมือนหลุดไปอยู่ในอีกโลกที่ไม่ใช่โลกใบเดียวกับเธอ ทำไมกันนะ ทั้งที่เค้าไม่ใช่คนอ่อนไหว ไม่ใช่คนอ่อนแอ คิดมากกับเรื่องเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกน้อยใจกับพูดของผู้หญิงตรงหน้าจนอยากที่จะร้องไห้ ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับเค้าเหลือเกิน
...งั้น ผมขอ ช็อกโกแลตลาวา สตอเบอรี่ชีสเค้ก กาแฟมอคค่าและโกโก้ร้อน ครับ...ป็อบปี๊หันไปสั่งกับพนักงาน จากนั้น เขาก็สกิดหญิงสาวให้เดินตามออกมา เขาตั้งใจที่จะพาเธอไปนั่งตรงที่ประจำของเธอ แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่ปี่ไม่ขลุ่ย ความตั้งใจนั้นจึงต้องมีอันเปลี่ยนแปลง เขาจึงพาเธอไปนั่งบนชั้นสองของร้านอันเป็นที่ประจำของเขาที่ใช้แอบมองเธอเวลาที่ฟางมานั่งร้านนี้ เมื่อทั้งคู๋นั้งลงที่โต๊ะ ทุกอย่างก็เต็มไปด้วยความเงียบ อาจเพราะฝนตก วันนี้ร้านจึงมีลูกค้าบางตาและบนชั้นสองนี้ก็ไม่มีใครเลยนอกจาก ฟางและป็อบปี๊ พนักงานเดินนำรายการของที่สั่งมาเสริฟแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ไม่มีเสียงใดลอดมาจากปากฟาง เธอยังคงนั่งนิ่ง ราวกับรูปปั้น แต่คงเป็นรูปปั้นที่งดงามมากสำหรับป็อบปี๊ ในความเงียบเช่นนี้ป็อบปี๊ทนไม่ได้จึงเป็นคนเปิดการสทนาขึ้นก่อน
...ฟาง ครับ จำพี่ไม่ได้หรอ...ป็อบปี๊เริ่มเปิดการสนทนา แต่เค้าอยากจะตบปากตัวเองเหลือเกินที่ตรงกับใจมากไป คิดอะไร มีอะไรคาใจ ก็ดันถามออกไปซะอย่างนั้น แล้วฟางจะตอบกลับมายังไงล่ะเนี่ย ฮึ่ม
...ค่ะ เราเคยเจอ เคยรู้จักกันหรอค่ะ...ฟางที่นั่งนึกอะไรเรื่อยๆ สะดุ้งแล้วตอบกลับคำถามของป็อบปี๊ ดีนะที่เธอยังพอมีสติได้ฟังคำถามจากเค้าอยู่บ้าง
...เอิ่ม ครับ เราเคยเจอกันตอนเด็กๆไง ที่คุณพ่อของพี่กับคุณลุงพ่อของเขื่อนชอบพาพี่กับไอ้เขื่อนไปเล่นที่บ้านของฟางบ่อยๆน่ะ...ป็อบปี๊ ตอบ ตอนนี้เค้าคิดแค่ว่าเป็นไงเป็นกัน คุยๆไปเลยเผื่อจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี
...หรอค่ะ ฟาง ขอโทษนะค่ะ ฟางจำไม่ค่อยได้ มันคงนานมากแล้ว ที่เราเคยเจอกัน...ฟาง ตอบ ไม่ใช่เธอจำไม่ได้หรอก เพียงแต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยากรื้อฟื้นความจำเรื่องอื่นในชีวิตสักเท่าไหร่ เธออยากจะจำเพียงแค่เรื่องของเธอกับแฟนหนุ่มเท่านั้น เรื่องอื่น อะไรยังไง เธอขอไม่คิดถึง
...ก็คงงั้นแหละครับ มันนานมากแล้ว อีกอย่าง พี่เองก็ไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่นั้นมา พึ่งจะได้กลับมาเมืองไทยไม่กี่ปีเอง กลับมาก็ไม่ได้ไปไหน ทำแต่งานอย่างเดียว คงไม่แปลกที่ ฟาง จะจำพี่ไม่ได้... ป็อบปี๊ ตอบพร้อมยิ้มหวานจนตาหยี เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเสียเซลฟ ของตัวเอง
...เอิ่ม พี่ว่า เราทานขนมกันดีกว่านะครับ...เมื่อไม่รู้จะคุยอะไรต่อ ป็อบปี๊เลยเลือกจะชวนฟางทานขนมตรงหน้าแทน ซึ่งนั้่นก็ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงไปบ้าง เพราะเมื่อฟางเห็นขนมตรงหน้าเธอก็อดที่จะยิ้มเล็กๆออกมาไม่ได้ ก็นี่มันของโปรดเธอทั้งนั้น แต่สักพักเธอก็เริ่มรู้สึกแปลกใจที่ป็อบปี๊รู้ได้อย่างไรว่านี่คือ ขนมที่เธอชอบ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ถามคำถามออกไป ก้มหน้ากินขนมต่อไป แม้จะมีเรื่องเศ้รามากมายแค่ไหน เวลาที่เธออยู่กับขนมเธอก็ลืมเรื่องเหล่านั้นไปได้ชั่วขณะ และนั่นก็สร้างความพึงพอใจอย่างมากให้กับป็อบปี๊ เขาเห็นรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าหวานที่แสนรักตรงหน้า ทำให้เขาเหมือนกับได้ผ่านด่านแห่งความพยายามไปได้ด่านหนึ่งแล้ว เอาล่ะต่อไปนี้ ก็คงต้องพยายามต่อไป ไม่ใช่เพื่อตัวเขาที่จะมีความสุขแต่เพื่ือผู้หญิงที่เขารักจนหมดหัวใจตรงหน้าจะได้มีความสุขไปกับเขาด้วยเช่นกัน
สนุกกันไหม อ่านแล้วคอมเม้อนกันหน่อยน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ