Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

9.8

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.

  43 ตอน
  1179 วิจารณ์
  136.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

34)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

ตอนที่34

 

 

               มือเรียวตักอาหารมากมายเพื่อเอาอกเอาใจคนตัวโตที่ตั้งแง่ตั้งงอนกับเธอมาตั้งแต่ห้อง

อาหารของโรงแรมง้อยังไงก็ไม่หายสักทีและเขาตั้งท่าจะเล่นสงครามประสาทกับเธอ เมื่อเธอคุย

ด้วยก็ไม่คุยด้วย ตักอาหารให้ก็ไม่กิน

 

 

“พี่ป๊อปงอนฟางเรื่องอะไรคะ ฟางไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย ทานเถอะนะคะ เดี๋ยวโรคกระเพาะ

จะกำเริบ”

 

               “แสดงว่าเรารักแต่พี่”เธอมองดวงตาคมคู่นั้นนิ่ง เขายังต้องการคำว่ารักจากปากผู้หญิง

อย่างเธอไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่เขาและเธอกำลังจะเลิกกัน...คำว่ารักจะมีความหมายอะไร

 

 

               “ฟางรักแต่พี่ป๊อปค่ะ ไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ”แต่เธอก็ยังไม่เคยเบื่อและเห็นว่ามันไม่มี

ความหมาย ในเมื่อมันเป็นความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา และถึงตอนนี้เธอก็ไม่หวังว่าเขาจะเห็นว่ามัน

มีความหมาย

 

 

 

               ภาณุนิ่งงัน แล้วเขาพบแต่ความจริงใจในน้ำเสียงและแววตาคู่นั้น หัวใจที่ไม่เคยเต้นแรง

กลับเต้นผิดจังหวะ ถ้ามันจะทะลุออกมานอกอกได้ มันคงทำไปแล้ว และเขาไม่แน่ใจว่ากำแพงที่

สร้างไว้มันแน่นหนาพอที่จะกำบังหัวใจตัวเองหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเขาอยากจะสร้างความทรงจำดีๆให้

กับเธอ แต่มันก็ต้องมีขอบเขตสิ ตอนนี้...เขา เขารัก...ใคร

 

 

               “ขอเวลาพี่ ไม่นาน พี่ขอแค่ไม่นาน”

 

 

               “อะไรนะคะ”

 

 

               “เปล่าครับ”เขาปฏิเสธ หัวใจไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเขาลดทิฐิและยอมรับมัน ทุกอย่าง

ก็คงไม่สายเกินไป...

 

 

               “ทานนี่ดีกว่าค่ะ เมนูเด็ดของร้านเลยน้า”

 

 

               “เคยมารึไงฮึ”

 

               “เปล่าค่ะ เห็นว่ามันน่าทาน”

 

 

               “ยัยตัวแสบเอ้ย”เขายีผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะตักต้มยำกุ้งที่คนตัวเล็กตักให้เข้าปากคอย

มองใบหน้าอ่อนหวานที่ยังคงคอยตักนู่นตักนี่เอาใจเขาไม่หยุดหย่อน อันที่จริงเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก

เป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายๆคนเลยก็ได้ หน้าตาน่ารัก รูปร่างก็สะโอดสะอง ช่างเอาใจ ปาก

หวาน...ไร้เดียงสา ข้อสุดท้ายนี้เขาไม่รู้ว่าจะใช้กับเธอดีหรือเปล่านะ

 

 

 

               สายตาหวานมองร่างสูงใหญ่ของภาณุที่นอนอยู่บนเตียงนิ่ง มือเรียวกระชับเสื้อคลุมแน่น

ก่อนจะค่อยๆเดินไปเลื่อนบานกระจกเพื่อเดินไปยังระเบียงที่มีอ่างน้ำจากุชชีขนาดใหญ่ตั้งอยู่

 

ร่างเล็กถอดเสื้อคลุมวางไว้ที่ขอบอ่าง ก่อนจะก้าวเท้าเรียวลงไปแช่ตัวในน้ำอุ่น  มือเรียวลูบผิวกาย

ใต้น้ำไปมาอย่างสบายอารมณ์ ศีรษะสวยหนุนที่ขอบอ่าง ก่อนจะปิดเปลือกตาลงช้าๆ นึกถึงวันพรุ่ง

นี้...พรุ่งนี้ที่ชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิม

 

เธอจะไม่มีเขาอยู่ข้างกายเหมือนอย่างในวันนี้...

 

               “อุ้ย!”เธอสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ๆกระแสน้ำในอย่างก็กระเพื่อม เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็น

ใบหน้าหล่อคมอยู่ห่างเพียงคืบ

 

               “ดื้อ พี่บอกว่ามันดึกแล้ว ลงมาแช่น้ำแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี”

 

               “แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลับแล้วนี่คะ ถ้าไม่แช่คืนนี้ก็อด”

 

 

               ภาณุยิ้ม ก่อนจะมองเด็กดื้อตรงหน้า ทั้งๆที่คิดว่าจะได้นอนแล้วเพราะเหนื่อยกับการ

เดินทาง ไหนจะต้องเตรียมตัวประชุมวันพรุ่งนี้อีก แต่กลับไม่ได้นอนเพราะร่างงามสล้างใต้ผิวน้ำใสๆ

นี่ เธอจะรู้หรือเปล่าว่ากำลังยั่วเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างงามสมส่วนในชุดว่ายน้ำแบบทูพีชสีเข้มขับให้ผิว

ขาวอมชมพู ไหนจะใบหน้าหวานจิ้มลิ้มที่คอยปั่นป่วนเขามาตลอดทั้งวันอีกทำให้เขาทนไม่ไหว

ต้องออกมาสั่งสอนคนตัวเล็กที่ทำให้จิตใจเขาปั่นป่วน

 

 

               “งั้นก็ให้พี่แช่เป็นเพื่อนแล้วกัน ฟางไม่รู้เหรอว่าคนข้างนอกจะมองเห็นเรา”เขาแสร้งพูด

ก่อนจะยกร่างบอบบางขึ้นมานั่งบนตัก สวมกอดร่างเล็กจากข้างหลัง ก่อนจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอม

หวานละมุนจากซอกคอขาวผ่อง

 

 

               “จริงหรอคะ แต่ว่าห้องนี้ติดกระจกแบบที่คนข้างนอกมองไม่เห็นนี่คะ ตอนฟางเดินผ่าน

ก็ไม่เห็นห้องนี้เลย”เขาหัวเราะ หากคิดจะหลอกแม่ตัวเล็กนี่ด้วยเรื่องปัญญาอ่อนก็คงต้องยากสัก

หน่อยล่ะ

 

 

            “อ้าวงั้นหรอ”เขาแกล้งทำไขสือ ก่อนจะโน้มหน้าไปกดจมูกลงบนแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

               “ที่นี่บรรยากาศดีนะคะ”เขาตอบพึมพำ สติแทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อเอาแต่มอง

แทะโลมผิวกายขาวผ่องที่ยังคงมีรอยตีตราของเขาอยู่ประปราย

 

 

               มือหนาดึงเชือกเส้นเล็กที่ผูกตรงต้นคอระหงออก ก่อนใบหน้าหล่อเหลาตะก้มลงไป

คลุกเคล้าซอกคอขาวผ่องที่หอมละมุนอย่างย่ามใจ ไม่สนใจคนตัวเล็กที่ร้องเตือนเสียงหลง มือหนา

โอบประคองอกอิ่มไว้ ก่อนจะเคล้นคลึงอย่างเบามือ และยิ่งได้ใจเมื่อได้ยินเสียงหวานครางผะแผ่ว

แขนแกร่งยกเอวบางของคนตัวเล็กให้กลับหลังหันมาเผชิญหน้ากับเขา

 

 

               สายตาคมสบดวงตาหวานนิ่ง นิ้วแกร่งเกลี่ยริมฝีปากอิ่มอย่างทะนุถนอม ก่อนจะประทับ

จูบลงบนริมฝีปากรูปกระจับอย่างอ่อนหวาน ลิ้นร้อนตักตวงความหวานละมุนอย่างไม่หยุดหย่อน มือ

หนาเคล้นคลึงอกอิ่มอย่างเร้าอารมณ์ นิ้วแกร่งหมุนวนยอดอกสีระเรื่อจนได้ยินเสียงหวานที่ครางขึ้น

อย่างรัญจวน ภาณุถอนริมฝีปากออกเมื่อเห็นว่าเขากำลังเอาเปรียบคนตัวเล็กมากเกินไป เขาสบ

ดวงตาหวานที่ฉ่ำปรือ ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยนและเลื่อนใบหน้าลงดูดดึงยอดอกที่ชูชันท้าทาย

สายตา มือหนาเลื่อนลงสู่ใจกลางความเป็นหญิง นิ้วแกร่งสะกิดเกสรใจกลางดอกไม้งามก่อนจะส่ง

นิ้วเรียวเข้าสู่กายสาวเพื่อเตรียมความพร้อมให้คนอ่อนประสบการณ์

 

“อื้อ พี่ป๊อป ฮึก”เขาเลื่อนใบหน้าขึ้นเพื่อซับน้ำตาที่ไหลรินจากหางตาของหญิงสาวอย่างทะนุถนอม

 

“เจ็บหรอครับ”เขาถามอย่างห่วงใย ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะเจ็บเพราะเธอกับเขาเพิ่งจะร่วมรักกันเมื่อ

สองวันก่อน

 

“ฟาง อื้อ”เขามองร่างเล็กที่สั่นสะท้าน ก่อนจะหัวเราะเบาๆกับความไร้เดียงสาของภรรยาสาว ร่าง

เล็กสะอื้นฮักเพราะความเสียวซ่าน เสียงหวานครางกระเส่า ก่อนความอ่อนนุ่มที่บีบรัดนิ้วมือของเขา

จะบอกว่าเธอได้ก้าวข้ามวิมานฉิมพลีไปแล้ว

 

เขาช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นจากอ่าง ก่อนจะเดินไปหยุดที่เตียงใหญ่ และวางเธอลง ก่อนจะผละไปจัดการ

กับเสื้อผ้าของตัวเอง และตามลงมาทาบทับร่างเล็กที่สั่นระริกไว้

 

“คนฉวยโอกาส อื้ม”เขาจัดการปิดริมฝีปากอิ่มที่กล่าวหาเขาอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะค่อยๆชันขา

เรียวเล็กให้แยกจากกัน และค่อยๆฝากฝังกายแกร่งเข้าไปในความอ่อนนุ่มของหญิงสาว ค่อยๆขยับ

ตัวในความคับแน่น เขาถอนจูบออก ก่อนจะจุมพิตบนหน้าผากมนที่ชื้นเหงื่อ

 

“พี่ป๊อป อ๊ะ อ๊า”เขามองเจ้าของเสียงหวานที่เรียกชื่อเขาปนกับเสียงครางกระเส่าอย่างเอ็นดู มือเล็ก

โอบกอดเขาไว้อย่างน่ารัก เขาตอบแทนความน่ารักของเธอด้วยการเร่งจังหวะเพลงรักให้เร็วขึ้น

 

“ฟางรักพี่ป๊อปนะคะ”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา เมื่อบทเพลงรักจบลง เขาพยักหน้าก่อนจะตอบแทนคำ

บอกรักของเธอด้วยจุมพิตที่หน้าผากมนเบาๆ...อีกไม่นานเขาก็คงจะได้บอกคำเดียวกันกับเธอ

 

แต่ขอเวลาให้เขาได้รู้หัวใจตัวเอง...ไม่ใช่คำบอกรักที่มันโลเลและก้ำกึ่งแบบที่เขาเคยใช้มันกับพิม

ประภา น้ำเสียงหนักแน่น แต่หัวใจกลับโลเล...

 

 

 

 

 


ขอเม้น+โหวตด้วยน้า ถือว่าเป็นกำลังใจให้เรา เหนื่อย...

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา