Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

9.8

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.

  43 ตอน
  1179 วิจารณ์
  136.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

32)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

ตอนที่32

 

 

 

               เสื้อผ้ามากมายกระจัดกระจายอยู่บนเตียงล้อมรอบตัวธนันต์ธรญ์ที่นังพับอยู่เป็นชุดๆ

เหงื่อเม็ดเล็กผุดตามใบหน้าแสนหวาน จนคนที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำมองอย่างยิ้มๆ

 

 

               “ใกล้เสร็จรึยังฮึ”เขาพูดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆหญิงสาว ก่อนจะสังเกตเห็นว่าเธอ

เตรียมเสื้อผ้าไปเพียงสามชุดเท่านั้น

 

 

               “เอาชุดว่ายน้ำไปด้วยสิ ไปทะเลทั้งที ใจคอเราจะไม่ไปว่ายน้ำเลยหรือไง”

 

 

               “ไปทำงานนะคะ”หญิงสาวเอี้ยวตัวมาตอบ เขายิ้ม ไม่ว่าอะไร ไม่เอาไปก็ไปซื้อเอาข้าง

หน้าก็ได้ ไว้สัมมนาเสร็จเขาก็รวบหัวรวบหางแม่ตัวดีแล้วก็อยู่เที่ยวที่นั่นต่อเสีย...ไม่เห็นจะยาก

 

 

               “เราก็ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมตลอดนี่”เขาว่าพลางเอนตัวนอนข้างๆร่างเล็ก นอนมอง

เสี้ยวใบหน้าแสนหวานที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ผมนุ่มถูกเกล้ารวบขึ้นไปปล่อยไรผมให้ปรกตามใบหน้า

แสนหวาน ยากที่จะปฏิเสธว่าเธอไม่สวย

 

 

               “ร้อนมากเลยหรอ”

 

 

               “คะ?”เขายันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปปรับอุณหภูมิแอร์ให้ลดลงและเดินเลยไปหยิบ

ทิชชู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตามเดิม

 

 

               “ขอบคุณค่ะ”

 

 

               มือเล็กหยิบทิชชู่จากกล่องในมือของภาณุ ธนันต์ธรญ์ก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่จะสบตา

ชายหนุ่มข้างกาย ยิ่งเขาทำตัวใกล้ชิดเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งหลงตัว...และหากนี่จะเป็นโอกาส

สุดท้ายที่เธอจะได้ยืนอยู่เคียงข้างเขา ได้พูดคุยแบบนี้กับเขา ได้รับอ้อมกอดแสนอบอุ่น ได้รับรอย

ยิ้มที่หวานไปถึงดวงตาแล้ว...เธอก็จะไม่ลังเลอีกแล้วที่จะทำตามหัวใจตัวเอง

 

 

               ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วัน ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เธอก็จะคว้ามัน

เอาไว้ อย่างน้อยชีวิตนี้เธอก็ยังจะได้มีความทรงจำดีๆกับเขา

 

 

‘ขออีกสักครั้งนะจ๊ะหัวใจ ฟางรอโอกาสนี้มานานแล้ว และไม่ว่าหลังจากนี้แล้วมันต้องเจ็บแค่

ไหน...ฟางสัญญาว่าจะทนให้ไหว’เธอหันหน้าไปตามมือใหญ่ที่โอบประคองใบหน้าของเธอไว้

ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีรอยยิ้มแต้มอยู่บนริมฝีปากหยักลึก ดวงตาเรียวคมคู่นั้นฉายแววตาขบขัน

 

 

               “เช็ดหน้ายังไงฮึ ทิชชู่ติดเต็มหน้า”นิ้วแกร่งของเขาไล้ไปทั่วใบหน้าของเธอ นิ้วแกร่ง

ของเขาก็เป็นเหมือนไฟเคลื่อนไปทางไหนก็ให้แต่ความรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด

 

 

               ภาณุมองริมฝีปากอิ่มที่เขากำลังเกลี่ยเศษทิชชู่ออก ริมฝีปากรูปกระจับแดงระเรื่อ และ

เขารู้ดีว่ามันหวานละมุนแค่ไหน

 

 

               “เสร็จรึยังคะ”

 

 

               “อ๋อครับ”เขาเบี่ยงหน้า ก่อนจะมองคนตัวเล็กที่ยังพับผ้าลงกระเป๋าเดินทาง เขาเอื้อม

มือขึ้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนจะต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อภาพหน้าจอมันเป็นรูปของเขา...

ตอนหลับ

 

 

               “พี่ป๊อป โทรศัพท์ฟางค่ะ”มือเรียวฉวยมือถือของเธอไปจากมือของเขา เขาลอบยิ้ม ไม่

คิดเลยว่าเธอจะใส่ใจแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ ขนาดเขายังไม่เคยเอารูปของผู้หญิงคนไหนขึ้นเป็น

รูปหน้าจอสักครั้ง...แม้แต่พิมประภา

 

 

               “พี่ป๊อปจะใส่เสื้อตัวไหนคะ”

 

 

               “ตัวไหนก็ได้ครับ”

 

 

               ธนันต์ธรญ์ลองหยิบเสื้อตัวที่เธอเคยซื้อให้เขาขึ้นมา ชั่งใจว่าเธอควรจะพับมันลง

กระเป๋าดีหรือเปล่า ในเมื่อเขาไม่เคยสวมมันเลยสักครั้ง แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เธอทำให้เขา เธอก็อยาก

ให้เขารู้สึกอะไรบ้าง แต่ถึงตอนนี้เขาจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว เธอก็อยากจะเห็นเขาใส่มันสักครั้ง...เสื้อผ้า

ที่เธอเลือกให้กับมือ

 

 

               “ฟาง!”

 

 

               “คะ?”

 

 

               “เป็นอะไร พี่ถามไม่ได้ยินหรอ”

 

 

               “พี่ป๊อปถามว่าอะไรนะคะ”

 

 

               “ช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ใกล้เสร็จรึยัง”

 

 

               “ค่ะ”เธอพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บเสื้อผ้าต่อ เมื่อเก็บเสื้อผ้าเสร็จเธอก็เดินเข้า

ห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว พอกลับมาอีกทีสามีหนุ่มก็หลับไปแล้ว เธอเดินไปปิดไฟ ก่อนจะทรุดตัว

นอนลงข้างๆภาณุ

 

 

               “ฝันดีนะคะ”

 

               เสียงหวานกระซิบแผ่วเบา ร่างเล็กล้มตัวลงนอนเคียงข้างสามีหนุ่ม วงแขนเล็กๆโอบ

รอบเอวสอบของชายหนุ่มเฉกเช่นทุกวัน หากแต่ที่แปลกกว่าทุกวันคือในห้วงนิทราเธอได้ยินเสียง

หัวใจของเขา...

 

 

               ดวงตาเรียวคมยังคงทอดสายตามองใบหน้าอ่อนใสของคนในอ้อมกอด นี่เป็นครั้งแรก

ในรอบสามปีที่เขายอมตามใจตัวเอง หลายครั้งหลายหนที่เขาอยากจะโอบกอดเธอไว้แนบอก แต่

เพราะคำพูดของตัวเองที่ได้พูดไว้กับหญิงสาวในอ้อมกอดว่ารักพิมประภาแค่ไหน มันเป็นเหมือน

กำแพงหนาและสูงใหญ่ และมันก็หนาและสูงพอที่จะทำให้เขาไม่ทำตามหัวใจตัวเองเหมือนอย่าง

วันนี้...

 

 

               ตลอดมาอาจจะเป็นเขาเองต่างหากที่อยากเอาชนะ ไม่ใช่ธนันต์ธรญ์ ไม่ใช่ใคร เขาไม่

ชอบใจที่ตัวเองถูกจับคลุมถุงชน มันเลยเป็นการแต่งงานที่เต็มไปด้วยอคติ และอคตินี้มันก็ยังแผ่

คลุมไปถึงตัวธนันต์ธรญ์ จริงอยู่ที่เขาไม่ได้รู้สึกรักธนันต์ธรญ์ตั้งแต่แรกเห็น แต่เขาก็ลืมนึกไปว่าเขา

เองก็ไม่ได้รักพิมประภาตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน และตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมากับพิมประภา เขาก็ไม่

แน่ใจนักว่ามันเรียกว่ารักหรือเปล่า ที่เขาไม่ยอมแตะต้องพิมประภา เพราะว่าเขาให้เกียรติเธอนั่นเป็น

ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือ...เขาไม่ได้มีใจจะทำเรื่องพรรค์นั้นกับหญิงสาวเลยสักครั้ง ตรงกันข้าม

ธนันต์ธรญ์เป็นเหมือนไฟที่ทำให้เขาร้อนรุ่ม แค่อยู่ด้วย แค่มองดวงตากลมโตคู่นั้นมันก็ทำให้เขา

อยากจะครอบครองร่างกายบอบบางขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่เขาไม่ยอมแตะต้องเธอก็เพราะไม่อยากให้เธอ

ต้องมีราคี และคิดว่าสักวันก็ต้องเลิกกัน หากแต่พอถึงวันนั้นจริงๆ เขากลับไม่อยากปล่อยเธอไป...

 

 

 

               เขาโลเล...และหวังว่าเวลาที่เขาปล่อยหัวใจไปกับธนันต์ธรญ์จะทำให้เขารู้ใจตัวเองได้

บ้าง เธอทำให้เขารู้สึกเหมือนคนเป็นไข้อยู่ตลอดเวลา ทั้งร้อนรุ่ม หัวใจเต้นแรง หายใจติดขัดทุกครั้ง

ที่ได้สบดวงตาหวานซึ้ง ให้เธอได้ทำให้เขารู้ตัวสักทีว่ารักใคร...

 

 

 

 

 

 


มาแล้วววววว พรุ่งนี้เราจะเปิดเรียนแล้ว เลยขอแจ้งเวลาการอัพนะคะ เราคงไม่ได้มาอัพทุกวัน 

เพราะอยู่ม.3ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือแล้ว ก็เลยจะเข้ามาอัพให้ทุกอังคาร ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เนอะ

ไม่ว่ากันนะเพราะนิยายก็ใกล้จะจบแล้วเหลืออีกสิบกว่าตอน 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา