Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
11)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่11
สายตาโศกทอดมองแหวนเพชรน้ำงามบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างเหม่อลอย นึกย้อนไป
ถึงวันที่เธอมีความสุขมากที่สุด แต่คงเป็นวันที่ภาณุและพิมประภามีความทุกข์มากที่สุด ตอนนี้เวร
กรรมที่เธอพรากคนสองคนจากกันคงจะตามสนองเธอแล้ว ทุกวันนี้เธอถึงต้องทนทุกข์ทรมาน เมื่อ
หัวใจรัก แต่ไม่อาจครอบครองได้อย่างที่ใจต้องการ....เธอควรจะทำยังไงต่อไปดีนะ จะจบทุกอย่าง
ลงเพียงเท่านี้ หรือจะยื้อทุกอย่างไว้ และหวังเพียงสักวันว่าเขาจะรักเธออย่างที่หวังมาตลอด
ร่างเล็กล้มตัวลงนอน ก่อนจะปิดเปลือกตาลง เพื่อทบทวนเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา...
เพื่อเลือกสักทางสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่...
มือใหญ่กำปากกาที่อยู่ในมือแน่น ในใจก็เอาแต่ตบตีกันว่าตอนนี้เขาควรจะทำอย่างไรดี
เขาควรจะไปรับธนันต์ธรญ์ออกจากโรงพยาบาลในฐานะของสามี แต่ในเมื่อเขาอยากให้เธอเกลียด
เขาก็ต้องทำทุกอย่างที่คิดว่าจะทำให้เธอเกลียดเขาสิ
ชายหนุ่มเมื่อได้ข้อสรุป เขาก็เลิกขบคิดทันที หันกลับมาจดจ้องสมาธิอยู่ที่เอกสาร
มากมายอย่างเดิม ช่างต่างกับหญิงสาวที่เอาแต่เฝ้ามองผ่านกระจกบานเล็ก หวังว่าสามีของเธอจะ
ไม่ใจร้ายจนไม่ยอมมารับเธอกลับหรอกนะ
เข็มนาฬิกาเดินครบชั่วโมงไปแล้วถึงสามรอบ เวลาจากเก้านาฬิกากลายเป็นสิบสอง
นาฬิกา ทำให้หัวใจดวงน้อยปวดหนึบและไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้อีก มีเพียง
น้ำตาหยดหนึ่งที่หยดลงมาเพื่อประจานความอ่อนแอของเธอ ยิ่งนานวันเขายิ่งมีอิทธิพลต่อเธอ แค่
เขาไม่มารับ มันก็ทำให้เธอถึงกับต้องน้ำตาตก...ความอ่อนแอทั้งหมดนี้คงต้องโทษความรัก
เท้าเล็กก้าวลงจากรถแท็กซี่ ก่อนจะไขกุญแจเพื่อเปิดประตูบ้านและก้าวเดินไปตาม
ทางเข้าบ้านที่ทอดยาวจากตัวบ้าน มือเล็กไขกุญแจก่อนจะเปิดเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่เรียกว่า
เรือนหอ รูปแต่งงานรูปใหญ่ติดอยู่ที่ผนัง เด่นหราจนผู้มาเยือนต้องสะดุดตา รูปนี้คงจะสวยกว่านี้ใน
ความทรงจำของเธอ หากรอยยิ้มบนริมฝีปากหยักลึกของชายหนุ่มนั้นมาจากใจจริง
ธนันต์ธรญ์เดินไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาสีกรมท่าตัวใหญ่ ก่อนจะจ้องมองรูปแห่งความสุข
อย่างเต็มตา ไม่น่าเชื่อว่ามันจะผ่านไปแล้วถึงสองปีและกำลังจะก้าวสู่ปีที่สามในอีกไม่กี่วันนี้ อาจจะ
มีปีที่สามของการแต่งงาน แต่ปีที่สี่ เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะยังสามารถยื้อเขาไว้ได้อีกหรือ
เปล่า...และความรักครั้งนี้จะจบลงแบบไหน ก็ยังเป็นสิ่งที่เธอหาคำตอบไม่ได้ หากที่ผ่านมาเธอยัง
พยายามไม่พอ ต่อไปนี้เธอจะพยายามให้ถึงที่สุด...หากมันเกินความสามารถ เธอก็คงต้องยอมแพ้
แต่ตอนนี้เธอยังไม่ได้พยายามอย่างถึงที่สุด แล้วจะรีบตัดสินมันไปทำไมล่ะ สู้เอาเวลา
ที่คอยซ้ำเติมความเจ็บปวดให้ตัวเองไปเอาใจใส่ดูและเขาไม่ดีกว่าหรือ
อาหารมากมายถูกวางเรียงรายบนโต๊ะยาว หญิงสาวจ้องมองอาหารเหล่านั้นอย่าง
เป็นสุขใจ นานเท่าไหร่แล้วที่เธอและเขาไม่ได้ทานข้าวพร้อมกัน วันนี้อาจจะเป็นอีกวันหนึ่งที่เธอมี
ความสุขก็ได้
เสียงรถคุ้นหูดังเข้ามาปะทะโสตประสาทของเธอ เธอหยิบรีโมทและกดเพื่อเปิดประตู
บ้านให้เขา เท้าเล็กเดินไปที่หน้าบ้านหลังงาม ก่อนจะฉีกยิ้มเป็นทัพหน้าเมื่อภาณุเดินเข้ามา
“ทานข้าวด้วยกันก่อนนะคะ ฟางทำไว้เยอะเลย”
ธนันต์ธรญ์เอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะรับเอาสูทและกระเป๋าเอกสารของเขามาถือไว้ มือ
เล็กคล้องแขนของเขาไว้
“ทำงานเหนื่อยไหมคะ”
ภาณุเพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ อดใจสั่นไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มหวานที่มันมาจากหัวใจ
ของเธอจริงๆ เพราะดวงตาที่เคยประทับไว้แต่แววตาโศกกลับเปลี่ยนเป็นแววตาที่สดใส รอยยิ้ม
แววตา จากผู้หญิงคนนี้สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบได้จริงๆ แก้มนวลแดงปลั่งช่างน่าเก็บเกี่ยวความ
หอมหวานเสียจริง เขาจะเข้าใจผิดหรือเปล่านะว่าตอนนี้ธนันต์ธรญ์กำลังเขินอาย หรืออาจจะเป็น
เพราะเครื่องสำอางที่พวกผู้หญิงใช้กันก็ได้ละมั้ง
มือบางตักอาหารเอาใจสามีหนุ่มอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เสียงหวานยังคงเอาแต่ถาม
เจื้อยแจ้ว ถึงแม้ว่าสามีหนุ่มจะตอบบ้างไม่ตอบบ้าง มันก็ไม่ได้สะกิดแผลใจที่เหวอะหวะของหญิง
สาวเลยแม้แต่น้อย เธอลอบมองใบหน้าของสามีหนุ่มก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ใกล้จะถึงวันครบรอบสามปีของเราแล้ว ฟางว่าเราไปฮันนีมูนกันไหมคะ”
ธนันต์ธรญ์ลอบมองใบหน้าของสามีหนุ่ม ไม่กล้าจะมองหน้าเขาอีกต่อไป กลัวว่าจะโดน
ปฏิเสธเหมือนทุกๆปี ใช่...เธอไม่เคยไปฮันนีมูนกับเขาสองต่อสอง ในคืนครบรอบของทุกปี เธอมัก
จะขอจูบหวานๆจากเขาสักจูบ ก่อนจะนอนกอดร่างแกร่งได้อย่างหน้าไม่อาย ได้แต่นึกถึงคืนวัน
แสนสุขที่หวังว่าคงจะมีสักหน
“ผมไม่ว่าง”
“คุณจำไม่ได้แม้กระทั่งวันแต่งงานของเรา แล้วคุณจะบอกว่าไม่ว่างอีกหรอคะ”
ภาณุมองสายตาตัดพ้อของภรรยาสาวแล้วก็อดใจสั่นไม่ได้ แต่ความสงสารเดิมๆจะ
ทำให้เขาตัดเธอออกจากชีวิตไม่ได้เสียที และความโลเลของเขาจะทำให้เขาต้องเสียความรักไป
“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก งานผมเยอะ”
“งั้นฟางจะช่วยก็ได้ ไปเถอะนะคะ ไม่ต้องไปต่างประเทศก็ได้ ไปแค่จังหวัดใกล้ๆก็ได้
นะ นะคะ”
“เลิกเซ้าซี้เถอะ ผมไม่ว่าง”
ภาณุตัดบทก่อนจะเดินจากไป ทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่ยังคงมองตามแผ่นหลังแกร่งที่ถอย
ห่างไปมากทุกที ซึ่งหากนี่เป็นชีวิตจริง นั่นมันก็เท่ากับที่เขาถอยห่างจากเธอไปหาใครอีกคน และ
สุดท้าย ก็จะเหลือเธอเพียงคนเดียวที่ยังจมปลักอยู่กับความรักเก่าๆที่เขาไม่เคยเหลียวแล
“ที่คุณไม่ว่างเพราะแม่นั่นใช่ไหม คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน ไม่เห็นใจฉันบ้างเลย
หรือไง ผู้หญิงทุกคนมีความฝันเหมือนกัน แต่คุณกลับทำลายความฝันของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สนุกมากรึไง!”
ร่างเล็กก้าวตามบันไดขึ้นมา ก่อนจะวิ่งไปโอบกอดร่างของสามี หญิงสาวซบหน้ากับ
แผ่นหลังแกร่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเจ็บปวด
“อาจจะไม่มีปีที่สี่สำหรับเรา ฉันขอเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้เถอะนะคะ อย่างน้อยฉันจะ
ได้มีเรื่องราวดีๆเก็บไว้ท่ามกลางความเจ็บปวดตลอดสามปีที่ผ่านมา”
มือหนาแตะลงบนมือเรียวของธนันต์ธรญ์ที่กอดอยู่ตรงเอวสอบ หญิงสาวระบายยิ้มอย่าง
เป็นสุขใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ใจร้ายกับเธอจนเกินไป
“ผมไม่ว่างจริงๆ”
“พี่ป๊อป...”
สายตาโศกมองตามแผ่นหลังแกร่งที่หายลับเข้าไปในห้อง ร่างเล็กได้แต่ยืนอยู่ตรงที่
เดิม ตำแหน่งเดิม แต่หัวใจไม่ได้อยู่ที่เดิม เศษหัวใจหล่นกระจายเกลื่อนกราดเต็มพื้น น้ำตาเจ้า
กรรมไหลลงมาช้าๆ วินาทีนี้เธอรู้สึกว่าภาณุนั้นใจร้ายเกินไป เกินกว่าที่พ่อเคยทำกับแม่ เขา
ตอบแทนความรักของเธอได้อย่างเลือดเย็นและโหดร้าย ถ้าเลือกได้ เธออยากให้รักครั้งนี้มันเป็นดั่ง
ความฝัน เมื่อเธอตื่นขึ้นมาความฝันทุกอย่างจะเลือนหาย จะมีสามีหนุ่มที่เธอรักคอยปลอบโยนเธอ
จากฝันร้ายครั้งนี้เสียที
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ