ป่วนหัวใจกับนายจอมหยิ่ง
เขียนโดย Water_Fall
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.21 น.
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 00.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
13) จิตใจอันเรร่วน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรถบัสสองชั้นแล่นผ่านตัวเมืองสำคัญไปอย่างรวดเร็ว ณ จุดพักรถที่เหมือนจะเป็นปั้มขนาดใหญ่ใกล้ๆเมืองหลวง หญิงสาวหยิบชิ้นขนมที่ตนชอบใส่ปากอย่างเร่งรีบ ถึงขนมนั่นจะมีกรดที่สามารถทำลายกระเพาะของเธอก็ตาม แต่ความหิวมันน่ากลัวกว่าที่หญิงสาวคิด เธอทานขนมอย่างไม่สนใจกระเพาะอาหารของตน จนลืมไปว่า เมื่อวันก่อนเธอยังท้องเสียขี้แตกขี้แตนอยู่เลย ชายหนุ่มมาดขรึมที่นั่งฟังเพลงอยู่ข้างๆ ได้แต่มองวิธีการทานขนมที่แปลกประหลาดของหญิงสาวอย่างสมเพชเวทนา เขาคอยเตือนเธอมาตลอดทาง แต่ก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา หญิงสาวคนดังกล่าวหาได้ฟังคำเตือนนั้นไม่ และแล้วมันก็เกิดขึ้น เมื่ออวัยวะภายในร้องจ๊อกๆ เป็นลางร้ายให้กับตัวของเธอรู้ว่า บัดนี้ กระเพาะอาหารของเธอคงจะแย่
"โอ้ย" หญิงสาวกุมที่ท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวดทรมาน ชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็สอบถามอาการอย่างเป็นห่วง ถึงเขาจะรู้สึกซะใจนิดๆก็ตาม
"บอกแล้วไง ว่าอย่ากิน แล้วเจ็บมากหรือป่าวเนี่ย" ชายหนุ่มถามไถ่อย่างละเอียดเพื่อจะได้จัดยาที่อยู่ในกระเป๋าให้ถูกต้อง จากนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น แต่ด้วยอาการปวดท้องที่ยังไม่หาย เธอจึงยื่นให้ชายหนุ่มข้างๆรับ ชายหนุ่มที่รับมาก็กดดูเบอร์ พลันเห็นชื่อเจ้าของเบอร์ท่าทางคุ้นๆ เขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง
"เจ้านั่นอีกแล้ว จะอะไรกันนักหนานะ" ชายหนุ่มฉายแววตาอิจฉา ถึงใบหน้าของเขาจะดูนิ่งเฉยก็ตาม เพราะเจ้าของเบอร์ที่โทรมาเมื่อสักครู่ ก็คือเจ้ากล้าพี่ชายฝาแฝดของหญิงสาว แต่ชายหนุ่มที่หลงผิดคิดว่ากล้าคนนี้คือคนรักของเธอ เขาจึงกดตัดสายนั่นทิ้งไป
"ใครโทรมาอ่ะ" หญิงสาวที่ยังไม่หายดี ก็เอ่ยถามชายหนุ่มถึงสายเมื่อสักครู่
"ใครก็ไม่รู้ คงจะโทรผิดน่ะ"
"เอามานี่" หญิงสาวที่เกลียดขี้หน้าของเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องโทรผิดนี่เธอคงจะคิดว่าเขาโกหก เพราะเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบเที่ยวแจกเบอร์ชาวบ้านที่ไหน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนสะเออะโทรเข้ามา
"ไอ้กล้านี่นา" หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ก่อนจะต่อสายไปถึงเจ้าของเบอร์เมื่อสักครู่อีกครั้ง ชายหนุ่มเมื่อเห็นเช่นนั้นถึงกับเบื้อนหน้าหนีทันที แต่ก็ยังเอียงหูมาที่เธอ เพื่อฟังว่า หญิงสาวกำลังคุยอะไรกับศัตรูหัวใจ
"ว่าไงไอ้กล้า" หญิงสาวคุยกับผู้เป็นพี่พลางเอามือกุมที่ท้องไปด้วย
"เสียงเธอดูสั่นๆนะ เป็นอะไรหรือป่าว" พี่ชายถามน้องสาวทันที เหมือนจะรู้ว่าเธอคนนั้นต้องมีอะไรแปลกๆ และมันก็จริงอย่างที่เขาคิด เพราะตอนนี้ เสียงของเธอจะเริ่มสั่นเรื่อยๆจนเหมือนหุ่นยนต์ที่ระบบภายในชำรุด
"ก็ปวดท้องน่ะสิถามได้" หญิงสาวสบถใส่แฝดผู้พี่อย่างหัวเสีย ถึงแม้เธอจะตกใจอยู่ไม่น้อยว่าพี่ชายของเธอสังเกตุพิรุจนั่นได้อย่างไร
"ฉันเอายาคลอไรด์ใส่ไว้ที่กระเป๋าใบเล็กน่ะ ยังไงเธอก็เอาไปกินซะล่ะ" หนุ่มหน้าสวยบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ เมื่อได้ยินที่เขาบอก หญิงสาวก็ใช้มืออีกข้างค้นหายาแก้ทันที และไม่ลืมที่จะถามพิกัดของยาให้แน่ชัด
"แล้วโทรมามีเรื่องอะไรล่ะ" หญิงสาวเก็บความรู้สึกเจ็บปวดนั่นไว้ และเอ่ยถามแฝดผู้พี่ถึงจุดประสงค์ของเขา ที่โทรมาในขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับ
"อ๋อ ก็คิดถึงน่ะ" เป็นครั้งแรกที่พี่ชายทำเสียงหวานใส่น้องสาว หญิงสาวร่้างบางถึงกับอมยิ้มอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆถึงกับอารมณ์ไม่ดี เมื่อหญิงสาวกำลังคุยกับคนรักอย่างหวานชื่น
"นายนี่ล่ะก็" หญิงสาวบิดตัวไปมาด้วยท่าทางขวยเขิน ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งฟังการสนทนามาโดยตลอด ถึงกับออกอาการหมั่นไส้
"มดจะขึ้นอยู่แล้วนั่น" ชายหนุ่มบ่นกับลมที่อยู่เบื้องหน้า แต่ใครๆก็รู้ว่าเขากำลังแขวะสาวเจ้าที่นั่งยิ้มหวานอยู่ข้างๆ
"ก็มันเขินนี่นา" หญิงสาวเอามือมาแนบอกเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน ก่อนจะหันไปคุยกับเจ้าคนจอมหยิ่งที่นั่งอมทุกข์อย่างไม่พอใจ จากนั้นก็กลับไปคุยกับพี่ชายอีกครั้ง แต่เหมือนปลายสายจะวางไปแล้ว
"อ้าวไอ้นี่" หญิงสาวสบถกับตัวเองอย่างมึนงงกับทีท่าที่ไม่มีมารยาทของพี่ชาย จะวางก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะไอ้กล้า
พลันคุยกับพี่ชายเสร็จเธอก็หันไปหาตัวยาต่อ ก่อนจะนำมันผ่านเข้าปากไปอย่างไม่ยากเย็น
ขณะนี้รถบัสได้แล่นมาถึงโรงเรียนรัฐเรียบร้อยแล้ว เหล่านักเรียนเพื่อนร่วมห้องของเธอรีบเก็บข้าวของที่อยู่ใต้ท้องรถ และเดินไปรวมพลกันอีกครั้ง ก่อนจะฟังคำชี้แจงครั้งสุดท้ายจากอาจารย์ประจำชั้น และเดินแยกย้ายกันกลับบ้าน
ผ่านไปไม่นานเหล่านักเรียนและอาจารย์ก็ทยอยกลับ เหลือแต่เพียงสาวร่างบางและชายหนุ่มมาดขรึมที่ยังนั่งรอคนมารับ นี่ก็ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้ว หญิงสาวพยายามกดเบอร์หาทั้งพี่ชายและพ่อหลายครั้ง แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล ส่วนชายหนุ่มที่ไม่มีทีท่าว่าจะกังวลอะไร ก็ได้แต่มองหน้าของหญิงสาวและพยายามจะคุยอะไรบางอย่างกับเธอ
"ให้ฉันไปส่งไหม"
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็มีคนมารับฉันแล้ว" หญิงสาวยังคงเชื่อมั่นในความรับผิดชอบของคนในครอบครัว ถึงแม้ส่วนเล็กๆของเธอจะเริ่มไม่เชื่อแล้วก็ตาม
"ฉันว่าคงไม่มีใครมาแล้วล่ะ" ชายหนุ่มตื้ออีกครั้ง จนหญิงสาวร่างบางยอมใจอ่อน ให้เขาไปส่งเธอที่บ้าน ทั้งสองตัดสินใจเดินไปด้วยกัน เพราะบ้านของเธออยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ 20 นาที ส่วนหอของเจ้าจอมหยิ่งก็อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง
"คบกับหมอนั่นมากี่ปีแล้วล่ะ" ในระหว่างที่เดินทางกลับ โทโมะที่ยังคงค้างคาใจกับแฟนหนุ่มสุดลึกลับของหญิงสาว ก็ไม่ลืมที่จะซักประวัติของการคบกันแบบปลอมๆของเธอ
"อ๋อ สะสิบปีแล้ว" ยิ่งมองหน้าของเธอ เขาก็รู้สึกแปลกใจ เพราะคำพูดกับสีหน้ามันไปด้วยกันได้ซะที่ไำหน เธออาจจะเล่นตลกอะไรกับเขาก็ได้ แต่เมื่อนึกถึงตอนคุยโทรศัพท์บนรถบัส และเหตุการณ์ที่เธอเข้าไปสวมกอดหมอนั่น เขากลับเชื่อสนิทว่า เจ้าหมอนั่นคือแฟนหนุ่มที่เธอพร้อมร่วมเดินทางไปกับเขา
"งั้นเรอะ" ความเงียบเริ่มเข้าครอบงำพวกเขาทั้งสอง ตลอดการเดินไปด้วยกัน ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกอยากจะจับมือเธอไปตลอดทาง และความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะแย่งตัวเธอให้ออกห่างจากหมอนั่น ยิ่งเห็นภาพบาดตา ก็ยิ่งทำให้ตัวของเขาอยากจะตั้นหน้าไอ้นั่นซักหนึ่งที แต่มันก็เป็นเพียงความคิด เพราะทีจริงเขาก็ไม่ชอบความรุนแรงเท่าไหร่นัก ประกอบกับตัวของหมอนั่น ก็เหมือนเป็นผู้ชายที่สุภาพคนหนึ่ง เขาอาจจะปล่อยวางจากเรื่องนี้และตั้งใจเรียนซะก็สิ้นเรื่อง
บ้านสองชั้นหลังไม่ใหญ่นัก ตั้งตระง่าอยู่เบื้องหน้า รั้วถูกเปิดด้วยรีโมตไฟฟ้า หญิงสาวเดินเข้าไปและไม่ลืมที่จะลาชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนร่วมทางของเธอ เขายิ้มให้เธอและหันหลังให้ด้วยความรู้สึกเศร้านิดๆ แต่ก็ดีใจที่ได้ไปส่งหญิงสาวผู้ที่เขารู้สึกดีด้วย หญิงสาวเมื่อลาจากชายหนุ่มที่เธอเกลียดขี้หน้า เธอก็ขึ้นไปชั้นสองของบ้าน เพื่อจะเอาเรื่องพี่ชายตัวดี ที่ปล่อยทิ้งให้เธออยู่ที่โรงเรียน
จัดให้อีกตอนนะครับ ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อไปนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ