CHANGMINHO AGORA
เขียนโดย AGORAROMIA
วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.33 น.
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 14.26 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) [SF] Do You Love Me?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[SF] Do You Love Me?
Title : Do You Love Me?
Status: Short Fiction
Pairing: Changmin x Minho
Author: winx
Rating: PG-13 to NC-15
“โอ้ย...ไอ้บ้าเอ้ย นี่ คุณปล่อยผมนะ”เสียงคนตัวเล็ก(?)ตะโกนสั่งคนที่หลับหูหลับตาลากเค้าออกมาจากผับ ไม่สนใจว่าเค้าจะดิ้นรนหรือจะขัดขืนขนาดไหน
“เฮ้ย พูดไม่รู้เรื่องรึไงวะ บอกให้ปล่อยๆ ปะ..”ยังไม่ได้พูดจบคนตัวใหญ่ที่เคยก้มหน้าก้มตาลาก ก็หยุดและกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นจนคนฟังสะท้าน
“ถ้าเธอยังไม่หยุดโวยวายและตามฉันมาดีๆละก็..”คนตัวสูงเว้นหยุดพูด แต่มองไปที่อีกคน ด้วยสายตาโลมเลีย
“ทะ..ทำไม คุณจะทำไมผม”คนตัวเล็ก(?)ถามเสียงสั่น ถึงในใจจะรู้สึกกลัวคนตรงหน้า แต่ก็ยังทำเป็นกล้าเชิดหน้าท้าทาย ตามนิสัยไม่ยอมคน
“ก็ไม่ทำไมหรอก ฉัน..อาจจะกดเธอลงตรงนี้ แล้ว...”คนพูดไม่พูดเปล่า ค่อยๆดันอีกคนไปจนติดผนัง ใช้จมูกไล้ไปตามแก้มนุ่มและซอกคอของอีกฝ่าย แล้วกดจูบลงไปเบาๆให้ร่างเล็กได้สะดุ้ง ก่อนจะใช้ลิ้นลากเลียติ่งหูนิ่ม
“อ๊ะ..ยะ หยุดนะ อ๊า”แล้ววกกลับมาไล้เลียที่ซอกคอหอมอีกครั้งพูดกับจูบหนักๆจนเกิดรอยแดงขึ้นมา แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านี้คนตัวเล็กก็ดิ้นสุดแรง และผลักคนที่กำลังรุกรานตนให้ออกห่างไป
“แฮ่ก..แฮ่ก”เสียงคนตัวเล็กหายใจเอาอากาศเข้าปอด หลังจากกลั้นหายใจดังไปทั่วซอกตึกที่ร้างผู้คน
“ว่าไง จะยอมว่าง่ายๆตามฉันไปดีๆหรือจะทำแบบเมื่อกี้อีก ..หื้ม”คนตัวสูงยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้เสียจนอีกฝ่ายต้องเบี่ยงหน้าหลบ
“ก็ได้ๆๆ แต่คุณช่วยเอาหน้าออกไปห่างๆ ผมหน่อยได้มั้ยเล่า”ถึงคำพูดจะบ่งบอกว่าอีกคนยอมแพ้แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความขัดใจเป็นที่สุด
“หึ ฉันขอถามเธออีกครั้ง..เธอไปทำอะไรที่นั่น”เอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มๆ พร้อมกับไล้นิ้วยาวไปตามใบหน้าของอีกฝ่ายเหมือนจะแกล้ง เจ้าของใบหน้าน่ารักสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สู้พอใจเท่าใดนัก ลืมความกลัวเมื่อครู่ไปชั่วขณะ
“ไม่บอก! จะรู้ไปทำไม สนใจด้วยรึไง เห๊อะ”ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี ด้วยความเผลอ
“เฮ้ย !! คุณ..ออกไปนะ...โอ้ย”ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่ออีก ก็ถูกอีกคนกระชากแขนเข้าชนกับอกกว้างอย่างแรง
“ฉันบอกแล้วว่าให้ทำตัวดีๆ! อยากลองดีกับชั้นใช่มั้ย..ได้”เพราะถูกคนตัวเล็กดื้อใส่ และอยากจะสอนเด็กดื้อสักครั้งให้ได้จำ
“หนะ..อุ๊บ ..อื้อ”ริมฝีปากหนาประกบกับปากสีเชอร์รี่อย่างแรง ลิ้นหนาพยายามดุนดันเข้าไปในช่องปาก แต่คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดกลับเม้มปากแน่น ลิ้นหนาดุนดันปากเล็กๆนั้นอย่างแรง จนมันเผยอออก ก้อนเนื้อหยุ่นหลุดเข้าไปควานหาความหอมหวานทันที
ร่างสูงดันร่างเล็กไปติดผนังตึกแล้วลูบไล้แผ่นหลัง ก่อนจะย้ายมือข้างหนึ่งมาลูบไล้ที่หน้าอกบาง ส่วนมืออีกข้างค่อยๆสอดเข้าไปในตัวเสื้อแล้วสะกิดยอดอก
“อ๊ะ อื้อออ”เสียงครางประทวงดังขึ้น สองมือพยายามดันร่างหนาออก แต่เมื่อรู้ตัวว่าไม่อาจต่อต้าน จึงได้แต่ปล่อยให้ร่างสูงทำตามใจ
เมื่อรู้สึกพอใจและเห็นว่าร่างเล็กๆนั่นสิ้นฤทธิ์จึงค่อยๆละปากออกถึงจะรู้สึกเสียดายรสหวานๆของริมฝีปากสีสวยอยู่ก็เถอะ
“แฮ่ก...แฮ่ก...”ร่างบางรีบสูดอากาศเข้าปอดแทนที่อากาศที่ถูกช่วงชิงไปทันทีที่ร่างสูงถอนริมฝีปากออก
“ทีนี้จะทำตัวดีๆได้รึยัง”ร่างบางไม่ตอบแต่เงยหน้ามองร่างสูงด้วยใบหน้าแดงก่ำที่บอกไม่ได้ว่าเพราะความอายหรือเพราะโกรธมากกันแน่ แต่ตาสวยคู่นั้นกลับมีน้ำปริ่มอยู่ขอบตาพร้อมที่จะไหลลงมาได้ทุกเมื่อ อีกคนเห็นก็ใจอ่อนอดสงสารไม่ได้ยกมือขึ้นโอบประคองใบหน้าน่ารักขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงมาอย่างเบามือ
“อะไรกัน เมื้อกี้ยังเป็นเด็กดื้ออยู่ไม่ใช่หรอ ตอนนี้กลายเป็นเด็กขี้แยไปซะแล้ว”ร่างสูงเอ่ยเย้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้ปล่อยโฮออกมา ปากหยักยกยิ้มน้อยๆตาคมฉายแววเอ็นดูอยู่เต็มเปี่ยม พร้อมกับดึงร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง
“ฮึกๆ ..ฮือ ไอ้บ้า ซิมชางมิน ผม..ฮึก..จะฟ้อง.อึก..พี่ซีวอน”กว่าร่างบางจะพูดจนจบประโยคสั้นๆเล่นเอาคนฟังอดเหนื่อยแทนไม่ได้
“หืม..เธอจะฟ้องพี่ชายเรื่องอะไรล่ะ ชเวมินโฮ เรื่องที่เธอหนีเที่ยวหรือว่า..เรื่องที่ฉัน...จูบเธอ”ชางมินย้อนถามร่างเล็ก ปลายเสียงทุ้มกระซิบอยู่ริมหูร่างบาง อย่างล้อเลียนมากกว่าจะอยากรู้คำตอบ
“อ้ะ..คุณไม่ต้องมาแกล้งผมเลยนะ”มินโฮเงยหน้าพูดเสียงดุแต่คนมองกลับคิดว่ามันน่ารักเสียมากกว่า
“เรื่องหนีเที่ยว คุณนั่นแหละที่ผิด”โยนความผิดให้อีกคนอย่างหน้าตาเฉยจนคนถูกกล่าวหายังงงๆกับความผิดที่ไม่รู้ตัวของตัวเอง
“เอ๋ เพราะฉันอย่างนั้นหรอ ??”
“ก็เพราะคุณน่ะ....ผม”มินโฮซุกหน้าแดงๆของตัวเองลงไปที่อกกว้างแถมพูดเสียงเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน แต่คนที่ตั้งใจฟังอยู่แล้วกลับได้ยินทุกคำพูดอย่างชัดเจน จนอดจะถามย้ำให้ได้ชื่นใจอีกครั้งไม่ได้
“หื้ม อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย”ชางมินถามย้ำ แม้จะได้ยินแล้วแต่ก็ยังอยากฟัง
“ก็...คุณน่ะไม่สนใจผม”แม้จะพูดอีกครั้งแต่มันก็ยังเบาอยู่ดี
“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย รีบๆบอกชั้นมาสิ ไม่พูดแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าฉันผิดเรื่องอะไร”เมื่อถูกถามซ้ำหลายรอบคล้ายถูกแกล้งจนถูกถามโมโห หรือเพราะความอัดอั้นตันใจที่มีอยู่เป็นทุนเดิม จึงได้หลุดปากพูดออกไปไม่ทันคิด
“ฮึ่ย! ผมบอกว่าคุณน่ะไม่เคยสนใจผมเลย วันๆก็ทำแต่งานๆๆๆ แล้วก็งาน พอเสร็จจากงานคุณก็อ่านแต่หนังสือบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ปล่อยให้ผมเหงาอยู่บ้านคนเดียว พี่ซีวอนฝากให้คุณดูแลผมนะ ไม่ใช่ฝากให้คนใช้ดูแล!! คุณมัน...บ้าที่สุดเลย ฮึก..ฮือ”พูดจบก็ปล่อยโฮอีกรอบ เดือดร้อนให้คนที่กอดอยู่ต้องรีบปลอบ แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่คนตัวเล็กอยากให้เขาเอาใจใส่ดูแล
“หึหึ อย่างนี้เองที่หนีเที่ยวเพราะอยากให้ฉันสนใจสินะ ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย เด็กโง่ ถ้าฉันไม่สนใจไม่ห่วง ฉันจะตามเธอมาที่นี่ทำไม”ชางมินกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้นอีกคล้ายจะปลอบใจ
“กลับเถอะ ดึกแล้ว อ่อ..แล้วก็อีกอย่างฉันจะลงโทษที่เธอหนีเที่ยวและเธอยังพูดไม่เพราะกับฉันด้วย”ชางมินยกยิ้มเจ้าเล่ห์โดยที่อีกคนไม่ทันได้เห็นแล้วเอ่ยคาดโทษเด็กดื้อ คนทำผิดได้แต่ทำหน้าเหวอ ทั้งๆที่ได้อธิบายเหตุผลไปแล้วว่าทำไมถึงได้ทำเช่นนี้
“แต่วะ..”
“ไม่มีแต่ ฉันลงโทษเธอให้เข็ด ให้เธอไม่กล้าทำอย่างนี้อีกเลย”พูดจบร่างสูงก็จูงมือร่างบางไปที่รถที่จอดรอไว้
ลงโทษงั้นหรอ?? เค้าก็ไม่ได้กลัวการลงโทษนะ แต่สายตาที่อีกฝ่ายมองมานี่สิ มัน...ไว้ใจไม่ได้เลย
เมื่อเมอร์ซิเดสเบนซ์คันหรูจอดเทียบประตูคฤหาสต์หลังใหญ่ มินโฮก็รีบลงจากรถตรงขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันที ไม่ใช่เพราะง่วง แต่เพราะกำลังหนีต่างหาก แต่ไม่ทันจะได้ก้าวขึ้นบันได เสียงทุ้มที่คุ้นหูดีกลับเรียกให้ต้องหยุด
“มินโฮ อาบน้ำแล้วไปหาฉันที่ห้องด้วย”ชางมินเอ่ยเสียงดังตามหลังคนตัวเล็ก
“หึ อย่าคิดหนีเชียวเด็กน้อย ยังไงเธอก็หนีไม่พ้นอยู่ดี”ร่างสูงพูดกับตัวเองเบาๆราวกับรู้ว่าคนที่หนีขึ้นห้องไปนั้นจะได้ยิน
Do You Love Me?
“บ้าเอ้ย จะให้ไปหาทำไม ดึกป่านนี้ ทุกทีไม่เคยจะสนใจ”หลังจากหนีขึ้นมาบนห้องได้ มินโฮก็จัดการปิดประตูล็อกกลอนอย่างแน่นหนา
“เชอะ..เข้ามาได้ก็เข้าลองดู แบร่! ฮ่าๆ” ส่งเสียงท้าทายพร้อมทั้งแลบลิ้นใส่ประตูเหมือนกับว่ามันเป็นคนที่ตัวเองกำลังโมโหอยู่ แถมยังหัวเราะใส่เสียงดังก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำอย่างสบายใจ
ผ่านไปร่วมชั่วโมงคนที่ถูกสั่งให้มาหากลับยังไร้วี่แวว “คิดไว้แล้วเชียว บอกแล้วหนียังไงก็ไม่พ้น หึ”ป่านนี้คงปิดประตูล็อกห้องแล้วคิดว่าเค้าคงทำอะไรไม่ได้ แต่...คิดผิดแล้วเด็กน้อย ชางมินยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงก่อนจะหยิบกุญแจดอกหนึ่งขึ้นมา เธอคิดน้อยไป...มินโฮ
เพียงไม่นานชางมินก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของมินโฮ ชางมินเคาะประตูห้องไปหลายครั้ง แต่ไร้แววเจ้าของห้องมาเปิด จึงตัดสินใจใช้กุญแจที่ถือมาไขเข้าไปด้วยความเบามือ
แกร๊ก
เพียงนิดเดียวประตูห้องก็เปิดออกอย่างง่ายดาย ตาคมกวาดสายตามองไปรอบห้องเพื่อหาคนที่ตัวเองต้องการเจอแต่กลับไม่มีวีแววว่าจะมีคนอยู่ในห้อง ..... มินโฮไปไหน
ร่างสูงคงจะลงไปตามหาข้างล่างหากไม่ได้ยินเสียงน้ำที่ดังออกมา อ่อ...อาบน้ำอยู่นี่เอง อาบนานๆก็ได้นะมินโฮ ....ตัวจะได้หอมๆ หึหึ ชางมินนั่งลงบนเตียงแล้วหันหลังพิงหัวเตียงเอาไว้ ตาคมค่อยๆหลับลงนึกไปถึงตอนที่คนรับใช้โทรศัพท์ไปบอกเขาที่ยังทำงานอยู่ที่บริษัทว่าคุณหนูคนดีออกจากบ้านไปตั้งแต่สองทุ่ม โดยมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีมารับ ตัวเขานั้นโมโหมากแค่ไหนนั้นตัวเขาเองยังตกใจ แล้วนับประสาอะไรกับคนรับใช้ที่เขาเผลอตะหวาดใส่ผ่านไปทางโทรศัพท์เพราะไม่ยอมดูแลคุณหนูคนเก่งให้ดี แต่สิ่งที่ทำให้เขาทั้งโมโหและหงุดหงิดใจได้มากที่สุดก็เป็นเพราะถ้อยคำที่เอ่ย ถึง “ชายหนุ่มหน้าตาดี” มารับมินโฮออกไปต่างหากเล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดพาลจะอารมณ์เสียอีกรอบ...ไอ้เด็กนั่น
Rrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจให้คนที่กำลังคร่ำเคร่งกับงานที่กองอยู่ตรงหน้าให้หันมาสนใจ ชางมินเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่โทรเข้ามา เบอร์ของบ้านเขาเอง ปกติไม่เคยโทรมาในเวลาที่เขากำลังทำงานอยู่แบบนี้ ยกเว้นมีเรื่องสำคัญ หรือว่า...จะมีเรื่องสำคัญจริงๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นชางมินจึงรีบกดรับทันที
“ว่าไง” ไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไร ชางมินกลับชิงถามขึ้นมาก่อน
“เอ่อ...คือ คุณมินโฮ ..”
“มินโฮทำไม” ยังไม่ทันได้ฟังจบก็ชิงถามขึ้นมาทันที เพราะแค่ได้ยินชื่อใครอีกคนที่อยู่ร่วมบ้านกับเขามาได้ร่วมปีแล้ว
“คือคุณมินโฮออกไปข้างนอกตั้งแต่สองทุ่ม ป่านนี้ยังไม่กลับเลยค่ะ”กลั้นใจพูดออกไปให้หมดครั้งเดียว เพราะรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องของคุณหนูของบ้านคุณชายไม่เคยจะใจเย็นได้สักที
“อะไรนะ!” ชางมินตวาดผ่านไปทางโทรศัพท์เสียงดังจนคนที่อยู่ปลายสายสะดุ้ง แม้จะคาดการณ์ไว้แล้วแต่ก็ยังอดกลัวไม่ได้ ....ก็คุณชายน่ะเวลาโมโหน่ากลัวน้อยเสียเมื่อไหร่กัน
“ออกไปนานขนาดนี้แล้วทำไมเพิ่งโทรมาบอก” ชางมินยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดูก่อนจะตวาดออกไปอีกครั้ง เพราะเวลาบ่งบอกไว้ว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว
“ขะ ขอโทษค่ะ แต่เพราะคุณหนูบอกว่าจะไปไม่เกินสองชั่วโมงก็จะกลับ เราก็เลยยังไม่ได้โทรมารายงานคุณชายค่ะ”
แม้จะดูเป็นการแก้ตัวอาจจะทำให้ผู้นายโกรธมากขึ้นไปอีกแต่สิ่งที่พูดคือความจริง
“แล้วมินโฮไปไหน ไปกับใคร” ชางมินสูดลมหายใจเลึกๆเข้าปอดเพื่อระงับอารมณ์โมโหที่กำลังอัดแน่นอยู่ในอก ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเรียบๆ
“คุณหนูไม่ได้บอกไว้ค่ะว่าจะไปไหน แต่มีผู้ชายคนมารับ คุณหนูบอกแค่ว่าเป็นเพื่อนค่ะ”คนรับใช่รีบละล่ำละลักบอก
“ฉันสั่งไว้แล้วใช่มั้ยว่าไม่ว่ามินโฮจะไปไหนให้โทรมารายงานฉันตลอด แล้วนี่อะไรไปไหนกับใครก็ไม่รู้แต่ป่านนี้เพิ่งโทรมาบอก!”หลังจากระงับอารมณ์ได้ไม่ถึงนาที การโมโหระลอกสองก็ตามมาติดๆเพราะข้อความที่ออกมาจากปากของคนรับใช้ เร่งให้อารมณ์ยิ่งขุ่นมัวมากขึ้นกว่าเดิม ชางมินกดปิดโทรศัพท์ก่อนจะกดเบอร์ของใครอีกคนที่กำลังทำตัวเป็นเด็กไม่ดีแอบหนีเที่ยว มือหนายกโทรศัพท์ไว้ที่หูฟังสัญญาณที่ดังขึ้นแต่กลับไร้การตอบรับของเจ้าของของมัน ทำอย่างนั้นซ้ำๆหลายรอบจนรอไม่ไหว พาร่างสูงๆของตัวเองออกจากห้องมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเลขาคนสนิท
“คยูฮยอน”ชางมินเรียกเลขาของตัวเองให้เงยหน้าขึ้นมาจากงานที่กำลังทำอยู่เพื่อรอรับคำสั่งจากเขา
“อ่ะ ครับ คุณชางมินมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” คยูฮยอนที่เห็นว่าใครเรียกรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเอ่ยถามคำถามตามหน้าที่
“ช่วยโทรไปหามินโฮให้ฉันทีสิ” เอ่ยบอกเรียบๆ แต่เรียกสีหน้าสงสัยให้กับอีกคนเป็นอย่างดี ว่าเหตุใดเจ้านายของตนถึงไม่โทรเอง เพราะทุกครั้งถ้ามีชื่อของคุณมินโฮอยู่คุณชางมินจะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แต่ต่อให้สงสัยอะไรมากแค่ไหนก็ต้องหยุดความคิดไว้แค่นั้น ก่อนจะยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเบอร์ของคนที่เขามีเบอร์ไว้นานแล้วแต่ไม่เคยจะได้ใช้ซักที
ตื๊ดดด ตื๊ดดด ตื๊ดดด
“ฮัลโหล”เสียงโทรศัพท์ดังอยู่ไม่นานก็มีคนรับ
“อ่า สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านั่นใช่คุณมินโฮหรือเปล่าครับ”คยูฮยอนรีบเอ่ยถามทันทีที่มีคนรับสาย แต่เสียงเพลงดังๆที่ลอดผ่านมาตามสายก็สร้างความงุนงงให้ไม่น้อย
“ฮัลโหล ช่วยพูดดังๆหน่อยได้มั้ยครับ ไม่ค่อยได้ยินเลย”เสียงอีกฝ่ายตะโกนตามมา ทำให้คยูฮยอนต้องตะโกนกลับเช่นกัน
“ผมถามว่านั่นใช่เบอร์คุณมินโอหรือเปล่าครับ” ชางมินที่ยืนมองเลขาของตัวเองคุยเสียงดังก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าทำไมถึงต้องพูดเสียงอย่างนั้น
“ใช่ครับ ไม่ทราบว่านั่นใครครับ”มินโฮตอบคำถามพร้อมกับถาม เพราะเบอร์ที่โชว์หลาอยู่หน้าโทรศัพท์ไม่ใช่เบอร์ที่คุ้นเคยเลย
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย คุณมิ...” ยังถามไม่ทันจบโทรศัพท์ในมือก็โดนแย่งไปถือไว้ในมือของเจ้านายตัวเอง ที่ยืนฟังเขาคุยโทรศัพท์มาซักพักแล้ว แต่ทั้งที่เป็นคนแย่งโทรศัพท์ไปกลับไม่เอ่ยปากพูดอะไรเลยซักคำ ยืนฟังเสียงเพลงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
“ฮัลโหลๆๆ นี่คุณ ยังอยู่หรือเปล่าเนี่ย ฮัลโหล”เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบมินโฮจึงตะโกนเรียกซ้ำๆ ก่อนจะยู่ด้วยความขัดใจเมื่อคนโทรมาตัดสายทิ้งไปแล้ว
“อ่ะ ขอบใจนะ คยูฮยอน”ชางมินยื่นโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ แล้วบอกขอบใจลูกน้องคนสนิท
“เอาล่ะ นายก็กลับบ้านได้แล้ว ฉันเองก็จะไปตามเด็กดื้อกลับบ้านเหมือนกัน เจอกันพรุ่งนี้นะ”พูดจบก็เดินออกไปไม่ทันให้อีกคนได้ล่ำลา
“อะไรวะ บ้าชะมัด ตัดสายเฉยเลย” มินโฮบ่นหงุงหงิงใส่โทรศัพท์อยู่คนเดียวอย่างไม่สู้จะพอใจคนที่โทรมา
“ใครโทรมาอ่ะ มินโฮ หน้ามุ่ยเชียว” ผู้ชายหน้าตาน่ารักที่นั่งอยู่ข้างสะกิดถามคนที่ทำหน้าบึ้งให้กับโทรศัพท์เครื่องหรูอย่างกับว่ามันมีความผิดอย่างนั้น
“ไม่รู้เหมือนกัน คุยยังไม่ทันจะรู้เรื่องก็วางเฉยเลยอ่ะ”
“อ้าว ซะงั้นอ่า” คนถามเองทำหน้าเซ็งแทนเพื่อนที่กำลังสนุกแต่ดันมีคนโทรมาขัดจังหวะ
“เออ ..นี่คีย์ ฉันว่าจะกลับอ่ะ ป่านนี้ชางมินกลับบ้านแล้วมั้ง ”
“หรอ งั้นเดี๋ยวรอให้จงฮยอนกับแทมินกลับมาก่อนละกัน จะได้กลับพร้อมกันเลย” คนน่ารักบอกเพื่อนสนิท มินโฮพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปทางที่เพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่นี่มันก็นานแล้วทำไมยังไม่มาเสียที
“น้องมินโฮอยากกลับแล้วหรือครับ นี่ยังไม่ดึกเท่าไหร่เลย อยู่ต่ออีกนิดเถอะนะครับ”เด็กหนุ่มหน้าตาดีร้องถามแกมรั้งมาจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับมินโฮ พร้อมทำหน้ากับน้ำเสียงเศร้าๆ ที่เผื่อคนที่ตัวเองหมายตาไว้จะเห็นใจอยู่ต่อ
“เอ่อ ครับ ขอโทษรุ่นพี่ด้วยนะครับ ผมต้องกลับแล้วจริงๆ” ตัวมินโฮอยากกลับตั้งนานแล้วแต่รุ่นพี่คนนี้ก็คอยรั้งไว้ตลอด เขาก็เลยจำใจต้องอยู่ต่อ แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเพราะชางมินโทรมาหลายครั้งแต่เขาไม่ยอมรับสาย
“ว้า น่าเสียดายจัง เอาไว้โอกาสหน้าเรามาด้วยกันอีกนะครับ” รุ่นพี่คนเดิมยังคงส่งสายตาอ้อนวอนแกมเลี่ยนมาให้ไม่เลิก มินโฮได้แต่ยิ้มเจื่อนกลับไป
บทสนทนาเงียบลงมินโฮรอเจ้าเพื่อนตัวดีที่หายตัวไปกับรุ่นน้องของเขานานสองนาน ไม่ได้มีทีท่าว่าจะกลับมาทำเอาคนรอกระวนกระวายใจเพราะตอนนี้เวลามันจวนเจียนจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อก็มีแรงกระชากที่แขนอย่างแรงจนต้องร้องออกมาเพราะเจ็บ
“โอ้ย!! คะ ” เพราะแรงกระชากทำให้มินโฮกระแทกเข้าอย่างจังกับอกของคนกระชาก คนตัวเล็กเงยขึ้นเพื่อเตรียมที่ด่าคนที่ทำรุนแรงกับเขาอย่างนี้เต็มที่ แต่กลับต้องทำหน้าตื่นแทนเพราะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองของเขากำลังยืนจ้องหน้าเขาอยู่
“ชะ ชาง มิน”
“ใช่ ฉันเอง ดึกดื่นมาทำอะไรแถวนี้ชเวมินโฮ” ชางมินตอบคนที่กำลังหน้าซีดทั้งยังมองเขาเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขัดขึ้นซะก่อน
“เฮ้ย ปล่อยน้องมินโฮเดี๋ยวนี้นะ” รุ่นพี่ตัวดีตะโกนออกมาทั้งยังดึงตัวมินโฮให้มาหลบอยู่ด้านหลังของตัวเอง
“อะ เอ่อ รุ่นพี่ครับ”
“ไม่เป็นไรน้องมินโฮ ไม่ต้องกลัวนะครับ” คนที่ทำเก่งออกมาปกป้องคนอื่นคงยังไม่รู้ชะตาตัวเองกลับจ้องหน้าคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตัวเองกวนๆ แต่วินาทีนี้ชางมินไม่สนใครทั้งนั้นนอกคนตัวเล็กที่ยังก้มหน้าหลบตาเขาเท่านั้น
“มินโฮกลับบ้าน” คำเดียวสั้นๆที่ออกมาจากปากของร่างสูง ชวนให้คนฟังขนลุกใม่น้อย
“ครับ” ตอบรับแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เมื่อยสมองเพราะตอนนี้คนมาตามถึงจะไม่ได้ทำหน้าโหด แต่แววตาแบบนั้นการันต์ตีได้ว่ากำลังโมโหมากๆอยู่แน่นอน
“เฮ้ย นี่นายเป็นใคร จะพาน้องมินโฮไปไหน”เจ้ารุ่นพี่คนเดิมยังคงไม่เลิก เดินออกมาขวางหน้าชางมินไว้
“รุ่นพี่ไม่เป็นไรหรอกครับ ปล่อยมินโฮเขากลับไปเถอะ”คีย์ที่ยืนดูอยู่นานรีบดึงแขนคนทำเก่งเอาไว้ เพราะขืนปล่อยไว้ได้มีเรื่องกันแน่ๆมือหนาจับแขนเล็กๆของมินโฮแล้วลากออกมาจากผับหรู แต่กว่าจะมาถึงบ้านก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้ว
Do You Love Me?
มินโฮถอดเสื้อผ้าออกไปจากตัวจนร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะเปิดฝักบัวให้น้ำอุ่นราดรดลงบนตัวไล่ความเมื่อยล้าออกไปจากกาย รู้สึกดีจนลืมเรื่องที่กำลังขัดเคืองใจอยู่ไปชั่วขณะ น้ำอุ่นๆที่พร่างพรมลงบนตัวทำให้ผิวขาวๆขึ้นสีชมพูระเรื่อชวนมอง มือเรียวลูบไล้ไปตามร่างกายเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคลและกลิ่นที่ติดมาจากผับให้ออกไปจากตัว สบายเสียจนลืมว่าเวลานั้นผ่านมานานแค่ไหนกว่าจะรู้ว่าควรจะหยุดอาบเสียทีเวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว มินโฮปิดน้ำแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม พลางกระหวัดคิดไปถึงคนตัวโตที่ตัวเองกำลังโมโหอยู่
“ป่านนี้ คงหลับไปแล้วมั้ง ก็ดี มาบอกว่าจะทำโทษเรา ตัวเองไม่เคยจะใส่ใจเค้าแท้ๆ คนบ้า” มินโฮบ่นให้คนตัวเองนึกหมั่นไส้พร้อมกับผูกสายเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องน้ำไป เพราะมัวแต่บ่นทั้งยังคงมีความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยจึงทำให้ไม่ได้สังเกตว่ามีใครอีกคนอยู่ในห้องกว้างๆนี้กับตน ส่วนคนที่ถือวิสาสะเข้าห้องคนอื่นก็นั่งอมยิ้มมองตามเจ้าของห้องที่ยังบ่นให้ตนเองไม่หยุดอย่างเอ็นดู นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันทั้งที่เขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ แต่อีกฝ่ายกลับทำเหมือนไม่เห็นเขาเสียอย่างนั้น ทำเป็นมองไม่เห็นหรือมองไม่เห็นจริงๆกันแน่อย่างนี้....มันต้องพิสูจน์
ร่างบางเดินมาหยุดที่หน้ากระจกมองหน้าตัวเองผ่านกระจกใสพลางครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมาระหว่างเขากับเจ้าบ้านที่คนเป็นพี่ฝากฝังให้ดูแลเขาแทนตัวเองที่ต้องไปดูแลบริษัทที่อยู่ฝรั่งเศส มินโฮยืนเหม่อลอยอยู่หน้ากระจกอย่างนั้นจนไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีใครเดินมาซ้อนอยู่ข้างหลังนานแล้ว
หมับ
“เฮ้ยย” ร่างบางสะดุ้งสุดตัวที่จู่ๆก็ถูกกอดจากทางด้านหลัง ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่กอดตัวเองเสียแน่น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่กอดอยู่เป็นคนที่เขาบอกกับตัวเองว่าไม่มีทางจะเข้ามาห้องนี้ได้อย่างแน่นอน
“ชางมิน!!”
“ทำไมอาบน้ำนานจัง ฉันมารอตั้งนานแล้วนะ แต่ว่า...อาบนานแล้วตัวหอมอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร” พูดพลางกดจมูกลงไปตรงซอกคอขาวที่มันดูยั่วตามาแต่แรก
“คุณเข้ามาได้ยังไง ก็ผม..”
“ล็อกประตูแล้วใช่มั้ยล่ะ” ชางมินช่วยต่อประโยคให้จบ ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ให้คนที่ถูกกอดทันได้เห็น แล้วยื่นกุญแจดอกเล็กไปตรงหน้าร่างบางให้ได้รู้คำตอบ
“คุณ! ขี้โกงนี่นา แอบเก็บกุญแจห้องผมไว้”มินโฮเพิ่งรู้ตัวว่าคิดไม่ทันคนเจ้าเล่ห์เลยซักนิด แล้วยังพลาดขั้นรุนแรงปล่อยให้ตัวอันตรายบุกเข้ามานอนรอถึงในห้องอย่างสบายใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนถูกเอาเปรียบ ตัวเล็กแจกค้อนให้ร่างสูงทั้งยังหันหน้าหนี ปากบางเม้มแน่นเหมือนพยายามอดกลั้น แรงสั่นน้อยๆที่ได้รับจากคนที่ตัวเองกอดอยู่ทำให้ชางมินนึกสงสัย จับตัวร่างบางให้หันหน้ากลับมา แต่ร่างบางกลับเอาแต่ก้มหน้า สองมือหนาจึงประคองใบหน้าน่ารักขึ้นเพื่อมองว่าคนตัวเล็กนี้เป็นอะไร แล้วก็ต้องตกใจเพราะน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสและแรงสะอื้นที่ยังมีอยู่ ชางมินทำอะไรไม่ถูกที่จู่ๆร่างบางก็ร้องไห้ขึ้นเสียเฉยๆ
“โกรธหรือ ฉันขอโทษ” แค่คิดว่าจะแกล้งเล่นเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้อีกคนถึงกับเสียน้ำตา ร่างสูงดึงร่างบางเข้ากอดเหมือนจะขอโทษและปลอบโยน ยิ่งกอดขึ้นเมื่อเสียงสะอื้นดังเรื่อยๆเหมือนจะไม่หยุดลงง่ายๆ
“ ฮึก...คะ คุณ มัน ฮึก บ้า ฮือๆ” ร่างสูงยกยิ้ม ทั้งที่ร้องไห้อยู่แต่ยังอุตส่าห์ด่าเขาได้
“นี่ ถ้าเธอยังไม่หยุดร้อง ฉันจะจูบเธอแล้วนะ” ก้มลงกระซิบที่ข้างหูให้คนตัวเล็กรู้สึก และก็ได้ผลเพราะคนที่กำลังร้องไห้ไม่หยุด ก็หยุดร้องเอาดื้อๆ
“อย่านะ” พูดทั้งๆที่มือปิดปากเอาไว้ ชางมินปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากเอวบาง แล้วดึงมือของร่างบางออกจากริมปากสีสวยที่เขาอยากจะลิ้มรสหวานๆของมันอีกครั้งใจจะขาด
“อย่าห้ามเลย เพราะต่อให้เธอหยุดร้อง ยังไงซะ ฉันก็ยังจะจูบเธออยู่ดี”
Do You Love Me?
“อย่าห้ามเลย เพราะต่อให้เธฮหยุดร้องยังไงซะ ฉันก็ยังจะจูบเธออยู่ดี”
นั่นเป็นประโยคที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของมินโฮ แต่ตอนนี้ประโยคเหล่านั้นกลับหายไปเพราะยังไม่ทันจะได้คิดอะไรให้มากมายร่างสูงก็กดจูบลงมาทั้งดูดดื่มทั้งเรียกร้อง แต่มันก็ทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวาน เนิ่นนานกว่าที่ริมฝีปากหนาจะถอนออกแต่ก็เพียงชั่วครู่ก่อนจะบดเบียดลงมาอีกครั้งเหมือนไม่รู้จักพอ ลิ้นหนาที่กำลังสำรวจโพรงปากหวานกวาดต้อนลิ้นเล็กให้จนมุมและยอมตอบรับลิ้นของตนให้ได้ชื่นใจ
มือเล็กบีบหัวไหล่หนาเมื่อรู้สึกว่าอากาศที่ใช้หายใจกำลังหมดไปเพราะถูกช่วงชิงไปเป็นเวลานาน ชางมินค่อยๆผละออกแล้วมองริมฝีปากบางที่บวมเจ่อ แม้จะรู้เสียดายแต่ค่ำคืนนี้ก็ยังมีอะไรอีกมากให้ได้ทำ
“มะ มองอะไร” ร่างบางที่รู้สึกว่าตัวเองจะโดนสายตาคมคู่นั้นจ้องจนตัวเขาจะกร่อนไปหมดแล้วร้องถามขึ้น เขาคงไม่รู้สึกอะไรมากมายเท่าไหร่ถ้าสายตาคู่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกร้อนไปหมดแบบนี้
“มองคนน่ารัก ทำไม มองไม่ได้หรอ” ร่างสูงยกยิ้ม สายตาก็ยังไม่ละออกจากดวงหน้าน่ารักที่ขึ้นสีชมพูเรื่อ ทำไมน่ารักอย่างนี้นะ...มินโฮ
“ไม่ได้”
“งก แค่มองไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทำหวงไปได้” พูดตัดพ้อน้อยๆ นิ้วยาวเชยคางมนขึ้นให้ตาเรียวสวยคู่นั้นหันมาสบตากับเขา แต่อีกฝ่ายดูจะเขินเอามากๆเพราะนอกจากหน้าจะแดงขึ้นอีก ยังเสตาหลบ
“มะ ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน ผมออกจะตัวโตแล้วก็สูง ไม่มีตรงไหนที่น่ารักซักนิด” ปลายเสียงที่แผ่วลงเรียกให้คนที่กอดอยู่กระชับกอดให้แน่นขึ้นไปอีกเพื่อปลอบโยนเพราะรับรู้ได้จากน้ำเสียงที่เหมือนจะน้อยใจตัวเอง
“แต่เธอตัวเล็กกว่าฉัน รอยยิ้มของเธอก็น่ารัก แก้มขาวๆนี่ก็น่ารักแล้วยังหอมมากๆอีกด้วย แล้วยังมีตรงไหนอีกน้า อ๋อ..ตรงนี้ไง ตาของเธอก็สวยมากๆ แล้วยังมาบอกอีกว่าตัวเองไม่น่ารัก” ชางมินไล้นิ้วยาวไปตามส่วนที่ตัวเองพูดถึง จบลงตรงตาสวยก่อนจะกดจูบลงไปเบาที่เปลือกที่หลับพริ้มเหมือนจะรอจูบนี้อยู่ ร่างบางลืมตาขึ้นหลังจากร่างสูงถอนจูบออก มองเข้าไปในตาคู่คมเพื่อจะค้นหาความจริงว่าคำพูดที่ออกมาจากปากคู่นี้มันมีความจริงอยู่แค่ไหนกัน
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ร่วมบ้านกันมาน้อยครั้งนักที่ร่างสูงจะมีเวลาให้เขาจริงๆจังๆ เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับงานที่เหมือนมันจะมากมายเสียจนไม่มีวันหยุด เขาเคยนึกแปลกใจที่พี่ชายฝากให้ชางมินเป็นคนดูแลเขาแทนตัวเองที่งานยุ่งจนหาเวลาไม่ได้ และกับชางมินเองก็ไม่ได้ต่างจากพี่ชายนักที่เป็นพวกบ้างานขนาดหนัก แล้วข้อข้องใจทั้งหลายก็ถูกเฉลยออกมาหลังจากที่เขาเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้เดือนเศษ
ชางมิน...ไม่ได้ยอมตามใจเขาไปหมดเสียทุกอย่างแล้วยังดูจะเข้มงวดมากเสียด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าเป็นพี่ชายที่จะยอมตามใจเขาไปทุกเรื่อง
ชางมิน...ต่อให้ไม่มีเวลาแค่ไหนแต่ถ้าเป็นเรื่องของเขาร่างสูงจะเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง
แต่ถ้าเป็นพี่ชายไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะเป็นเลขาที่จัดการให้
อาจเป็นเพราะแบบนี้พี่ชายถึงได้ไว้ใจให้เพื่อนรุ่นน้องคนนี้ดูแลเขาแทนตัวเอง
แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเริ่มเอาแต่ใจกับอีกคนมากขึ้นเรียกร้องมากขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ทำตัวเหมือนเดิมจนสุดท้ายเรื่องก็ไปจบอยู่ที่ผับ แล้วก็เป็นร่างสูงคนเดิมที่เป็นไปตามเขากลับ ชางมินบอกว่าห่วง เป็นเพราะหน้าที่ถึงห่วงหรือเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ แล้วยังจูบอีก
ที่จูบเพราะต้องการปราบพยศเด็กดื้ออย่างเขาหรือว่า....รักเขากันแน่
เขาไม่เคยแน่ใจอะไรเลย คุณรักผมหรือเปล่าชางมิน .....รักผมบ้างหรือเปล่า
แล้วที่จูบเขาล่ะมันคืออะไร....
และนั่นก็เป็นแค่สิ่งที่ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ แม้จะอยากถามกับเจ้าตัวมากแค่ไหนแต่ความกล้าก็ดูจะไม่มากพอให้ได้เอ่ยปากถามออกไป
แต่ว่ามันอาจจะถึงจุดที่ความอดทนหมดไปถึงได้พลั้งเผลอ....
“คุณ...รักผมบ้างหรือเปล่า อุ๊บบ..” ปากตัวดีก็เร็วเท่าความคิด เอ่ยถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้ตัวก็พลั้งปากถามอะไรน่าอายออกไปแล้ว
“มินโฮ” ร่างสูงเรียกคนตัวเล็กเหมือนจะเพ้อ
“ปะ เปล่านะครับ ผม ผมไม่ได้คิดอะไรนะ จริงๆ อ๊ะ...อื้ม ” คนตัวเล็กเอ่ยแก้ตัวพัลวันเหมือนคนมีความผิด คำพูดแก้ตัวหายลงคอไปเมื่อริมฝีปากสีสวยก็ถูกครอบครอง ริมฝีปากหยักค่อยจูบไล้ไปบนเรียวปากบดคลึงเบาๆให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้มแล้วดูดดึงริมฝีปากก่อนจะแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปภายใน เรียวลิ้นกวาดต้อนความหวานในโพรงปากแล้วกระหวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็ก ไม่เร่งรีบและเร่งเร้าให้อีกฝ่ายจูบตอบ เพราะเขาต้องการให้ร่างบางได้รับคำตอบที่อยากรู้ จูบอย่างอ่อนโยนและอ่อนหวานรสหวานแผ่ซ่านไปทั่วปากทั้งที่ยังเสียดายที่จะละจากแต่ก็ทำใจ เมื่อคนถูกจูบเริ่มหายใจติดขัด
ผิวหน้าแดงระเรื่อลามไปถึงใบหู สันจมูกคมคลอเคลียแนบชิดกับเรียวจมูกโด่งงาม ลมหายใจอุ่นรินอาบเนื้อบางใสจนสีเลือดอ่อนถูกขับขึ้นมาระบายแต้มผิวขาว อกบางสะท้อนขึ้นลงด้วยแรงหอบหายใจ
“รู้แล้วหรือยัง”
“.....................”
“ที่ถามน่ะ รู้คำตอบแล้วใช่มั้ย” ชางมินถามย้ำเมื่อคนตัวเล็กยังเอาแต่เงียบ มินโฮช้อนตาขึ้นมองสบตากับคนถาม จ้องลึกลงไปในดวงตาคู่นั้นเหมือนจะหาคำตอบ ก่อนจะตอบออกมา
“ก็คุณเอาแต่จูบ แล้วจะให้ผมรู้อะไรล่ะ” คำตอบที่คนถามไม่คิดว่าได้ทำเอาคนฟังแทบล้มทั้งยืน กับคำตอบที่แสนจะใส่ซื่อยิ่งตอนนี้ตากลมโตมองมาที่เขาเหมือนไม่เข้าใจ เขามั่นใจว่ามินโฮรู้คำตอบแน่นอน แต่ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ....
ไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่
นี่เขากำลังจะโดนเด็กเอาคืนหรืออย่างไรกัน
“ว่าไงล่ะครับ ทำไมไม่ตอบผมล่ะ” รบเร้าจะเอาคำตอบ ร่างบางเองก็ดูเหมือนจะได้ใจที่ซักครั้งจะแกล้งคนตัวโตได้สำเร็จ ถึงแม้มันจะแค่เล็กน้อยแต่ก็ยังดีที่ได้ทำบ้าง เขาอยากให้ร่างสูงตอบออกมาให้ได้ยินไม่ใช่บอกทางอ้อมแบบนี้
ยิ่งเห็นการรบเร้าจะเอาคำตอบด้วยท่าทางน่ารักๆ โดยการเอียงคอเล็กน้อยแล้วยังทำตาปริบๆ เหมือนจะเป็นการย้ำว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับรู้ในสิ่งเขาบอกผ่านจูบหวานๆนั่นเลยซักนิด
ชางมินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่มองหน้าคนน่ารัก แล้วก้มลงข้างใบหูเล็กแล้วกระซิบเบาๆ ลมหายใจปะทะกับแก้มนิ่ม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนตัวเล็กรับรู้ เพราะนอกจากสิ่งที่ได้ยินจากร่างสูงแล้วก็ไม่มีอะไรอยู่ในห้วงของความรู้สึกนึกคิดของเขาแม้แต่น้อย
“ฉันจะถามอีกครั้ง”
“..........................”
“รู้แล้วหรือยัง”
“...................”ไม่มีการตอบรับออกจากริมฝีปากบาง จะมีก็แค่การพยักหน้าเบา ๆให้อีกคนถามได้รับรู้เท่านั้น
มาถึงตรงนี้ร่างสูงแน่ใจได้ทันทีว่าโดนร่างบางนี้แกล้งแน่นอน แล้วถ้าเขาจะเอาคืนบ้าง....คงเตรียมใจไว้แล้วใช่มั้ย...ชเวมินโฮ
“ชางมิน คุณออกไปได้แล้ว ผมจะได้แต่งตัวซักที มันดึกแล้วนะ ผมง่วง” เมื่อเห็นร่างสูงเงียบไปร่างบางจึงเงยหน้าที่ก้มอยู่เพราะความเขินขึ้นมามอง แล้วสิ่งที่เห็นคือสีหน้าและแววตาที่ไม่น่าไว้ใจมันได้กลับมาอีกแล้ว !!!
และเมื่อสำนึกได้ว่าคงไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง เลยจัดการไล่คนตัวสูงกลายๆ บอกว่าตัวเองนั่นง่วงงุนเต็มที เพื่อขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนว่าคำไล่นั้นไม่ได้ผ่านโสตประสาทการรับรู้ใดๆของร่างสูงเลย อีกคนถึงได้เอาแต่จ้องมองเขาเหมือนกินเขาเข้าไปทั้งตัวไม่เลิก
“ชะ ชางมิน” ร่างบางเขย่าแขนร่างสูงเบาๆเรียก เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบรับคำขอ และก็ได้ผลแต่สิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากนั้นทำให้มินโฮสำนึกได้ว่า....ผู้ชายคนนี้มันหมาป่าชัดๆ !!!
“ไม่ต้องแต่งหรอก ยังไงซะเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”
“ !! “ ไม่ทันให้ร่างบางต้องหาคำตอบเจอ ร่างสูงก็ช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“ แว้กกกกกกก คุณทำอะไรเนี่ย ปล่อยผม ปล่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ” ร่างบางดิ้นแรงๆ สะบัดแขนสะบัดขา เพื่อที่จะให้คนอุ้มปล่อยเขาลงมา แต่ร่างบางคงจะลืมไปว่าตัวเองนั้นยังใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำ เมื่อสะบัดแรงๆ ชายเสื้อที่เปิดออกทำให้ขาขาวๆโผล่ออกมายั่วสายตาให้คนมองต้องเร่งฝีเท้ามากขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อยๆๆ บอกให้ปล่อยไง”
“อยากให้ปล่อยหรือ?” ร่างบางรีบตอบโดยการพยักหน้าแรงๆ ร่างสูงส่งยิ้มกลับ ทั้งๆที่เป็นแค่ยิ้มแต่ร่างบางกลับคิดว่า...มันช่างน่ากลัว
“ได้สิ” คนเจ้าเล่ห์ค่อยๆวางร่างบางลงบนเตียง ก่อนจะตามลงมาคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้
“เฮ้ย คุณออกไปนะ” มินโฮใช้สองมือดันอกหนาให้ออกห่าง ทั้งยังเบี่ยงหน้าหลบก็เพราะตอนนี้หน้าหล่อๆนั่นอยู่ห่างจากหน้าของเขาไม่ถึงนิ้ว
“อะไร? ไล่กันอีกแล้ว ใจร้ายชะมัด” ร่างสูงพูดตัดพ้อแล้วทำหน้าเศร้า แต่แววตากลับมีประกายสนุกอยู่ข้างใน
“แต่ว่าคุณ...”
“ไม่เอา เลิกเรียกคุณซักทีเถอะ” พูดยังไม่ทันจบร่างสูงก็พูดขัดขึ้นมา เรียกความสงสัยให้กับร่างบางที่อยู่ๆชางมินก็ให้เขาเลิกเรียกว่า..คุณ..ทั้งๆที่ก็เรียกอย่างนี้มาตลอด จะให้มาเปลี่ยนเอาอะไรตอนนี้
“แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ”
“ก็เรียกพี่ชางมินสิ ลื่นหูกว่ากันเยอะ อ่อ...แล้วก็แทนตัวเองว่ามินโฮด้วย”
“โหยย ไม่เอาอ่ะ น่าอายจะตาย” ร่างบางปฏิเสธทันทีไม่ต้องคิดให้มากความ ใครจะยอมทำเรื่องน่าอายแบบนั้นกันเล่า
“น่านะ นะๆมินโฮ เรียกให้พี่ฟังหน่อยสิ” ร่างสูงอ้อนขอพร้อมกับทำตาปริบๆ ....เอาว่ะ ลงทุนทำขนาดนี้แล้วไม่พูดให้มันรู้ไป !!
“..................”
“นะคนดีพูดให้พี่ฟังหน่อย”
“งื้ออ แต่วะ...” พอถูกรบเร้ามากๆเข้าร่างบางก็ทำท่าจะใจอ่อน คนตัวสูงเห็นก็รีบอ้อนเข้าไปอีก
“นะคนดี”
“กะ ก็ได้” ในที่สุดก็ต้องยอมตามใจ
“...............”
“พะ พี่ชางมิน”
“เก่งมากเด็กดี เป็นเด็กดีก็ต้องมี...รางวัล..สินะ” ปากหยักยิ้มกว้างทันทีที่อีกคนยอมพูดน่ารักๆให้เขาได้ชื่นใจ แล้วหน้าที่ขึ้นสีระเรื่ออยู่แล้วก็เพิ่มดีกรีกลายเป็นแดงขึ้นมา ตอนนี้มินโฮเลยดูน่ารักมากๆแล้วหน้าอกขาวๆที่โผล่พ้นชายเสื้อคลุมอาบน้ำออกมาล่อตาล่อใจอยู่นานแล้วนั่นอีก เขาทนมาได้นานขนาดนี้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
ร่างสูงกดจูบลงบนริมฝีปากเรียวที่ไม่ว่าจะได้ครอบครองกี่ครั้งก็ไม่เคยเพียงพอ และยังรู้สึกอยากจะลิ้มรสหวานๆของมันอยู่ตลอดเวลา ปากหยักค่อยๆไล้ชิมความหวานช้าๆดูดดุนให้ริมฝีปากอิ่มเปิดออกแล้วแทรกลิ้นอุ่นเข้าชิมความหวานภายใน เรียวลิ้นที่รุกเร้านั้นค่อยๆเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กเร่งเร้าให้ลิ้นเล็กตอบสนอง แล้วในที่สุดลิ้นเล็กก็ตอบรับสัมผัสที่เขามองให้อย่างเงอะงะ มือเรียวที่ทาบทับอยู่บนอกแผงหนาค่อยๆเลื่อนขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง
“อื้มม” เสียงครางที่หลุดออกมาลำคอสวยเรียกรอยยิ้มพอใจให้ร่างสูงได้เป็นอย่างดี มือเลื่อนลงมาลูบไล้ที่เอวคอดที่เขาชอบกอดอยู่บ่อยๆ มืออีกข้างก็ใช้ดึงสายผูกเสื้อคลุมพร้อมทั้งปลดเสื้อให้หลุดออกตัวของร่างบาง
“อื้อ...” เสียงหวานท้วงขึ้นเมื่อเริ่มจะขาดอากาศ อกบางหอบสะท้อนขึ้นลงตาคู่โตที่ตอนนี้หรี่ปรือ หยาดน้ำใสที่คลออยู่สะกดให้คนมองยิ่งหลุ่มหลงมากขึ้น ภาพที่เห็นช่างตรึงตาไม่คิดว่าเด็กดื้อที่เขาชอบเรียกขานอยู่บ่อยครั้งพอถึงเวลาแบบนี้...กลับต่างออกไปแทบเป็นคนละคน
“อ๊ะ..อื้มม” ชางมินจูบลงที่ซอกคอขาว ลิ้นร้อนลากเลียลำคอขาวเนียนขบเม้มให้เกิดรอยสีกุหลาบขึ้นซึ่งก็เรียกเสียงครางหวานให้ออกมาจากร่างบางได้ไม่ยาก ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นอย่างเสียวซ่านเมื่อมือหนาลูบไล้ขึ้นไปตามขาเรียวจนถึงสะโพกมนมือหนาบีบคลึงผิวเนียนนุ่มมืออย่างหลงใหล
ริมฝีปากร้อนจูบผะแผ่วลงบนผิวเนียนของมินโฮจูบไล้ลงเรื่อยๆจนถึงยอดอกสีหวานทั้งสองข้าง อกบางแอ่นขึ้นรับสัมผัสลิ้นร้อนดุนดันตุ่มไตสีชมพูจนแข็งเป็นไตสู้ลิ้น เสียงดูดผิวกายขาวเนียนดังขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีเพียงใดแต่มันก็ยังน่าอายอยู่ดี มือเล็กจิกทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความรู้สึก
“อ๊า” เสียงหวานครางออกมาเสียงดังเมื่อร่างสูงลากลิ้นร้อนตามผิวเนียนไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ กายบางบิดเร่า ปากหนาเลื่อนขึ้นมาหยอกเย้ากับยอดอกสีชมพูอีกครั้ง
“อะ อื้มม ชะ ชาง มิน อา” นิ้วเรียวแทรกลงบนกลุ่มผมสีเข้ม ร่างสูงผละออกจากอกสีหวานแล้วเคลื่อนกายขึ้นมองใบหน้าสวยที่หายใจหอบอยู่ใต้ร่างของเขา มือหนาลูบไล้แก้มขาวอมชมพูปัดผมที่ปรกหน้าเนียนออกแล้วกดจูบลงไปก่อนจะจูบที่เปลือกตาทั้งสองข้าง จมูกโด่งรั้น และจบลงที่ริมฝีปากอิ่มจูบเบาๆแล้วผละออก
“อ๊ะ....อื้อออ” เสียงหวานหลุดครางออกมาเมื่อปากหยักและเรียวลิ้นร้อนของร่างสูงสัมผัสกับผิวขาวเนียนด้านในขาอ่อน ดูดและขบผิวขาวเนียนนั้นสลับกันจนเกิดรอยสีกุหลาบทั่วผิวขาว
“อ๊า...ชาง มิน”
มินโฮร้องลั่นเมื่อชางมินรับแท่งเนื้อร้อนเข้าโพรงปากก่อนจะขยับขึ้นลง มือบางจิกลงกับไหล่หนาเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับก่อนจะต้องจิกเกร็งมากกว่าเดิมเมื่อริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายจูบลงบริเวณส่วนปลายและละเลงเรียวลิ้นจนเสียงหวานต้องครางระงม
“อ๊า..อื้มมม ชางมิน อึก ไม่ไหวแล้ว อ๊า”
ร่างสูงดูดดุนส่วนปลายแรงและเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกถึงน้ำขาวขุ่นที่เริ่มไหลออกมา
“อ๊า” เมื่ออารมณ์มาถึงที่สุดร่างบางก็ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นภายในปากของร่างสูง และร่างสูงก็กลืนมันลงคอเหมือนเป็นน้ำหวาน
“มินโฮ เป็นของพี่นะคนดี” แทนคำตอบร่างบางยกมือเรียวขึ้นมาแล้วโน้มใบหน้าคมลงมารับจูบที่เขามอบให้ ชางมินยิ้มกว้างพอใจกับคำตอบที่ได้รับ ร่างสูงจูบปากอิ่มอีกครั้งก่อนเลื่อนตัวลงกดจูบที่เรียวขาขาว
“อ๊ะ....” มินโฮร้องขึ้นเมื่อลิ้นอุ่นสอดเข้าโลมเลียในช่องทางที่อ่อนนุ่มของเขา ช่องทางสีสวยที่ไม่เคยมีใครได้รุกล้ำ สะโพกมนร่อนตอบรับสัมผัสที่พาให้เขาเคลิ้มไปอย่างง่ายดาย
“อ๊ะ จะ เจ็บ” เมื่อเปลี่ยนจากเรียวลิ้นมาเป็นนิ้วยาวสิ่งได้รับจึงเป็นอาการเจ็บแปลบตรงช่องทางที่กำลังถูกรุกรานอยู่ ร่างสูงยกตัวขึ้นจูบที่ขมับบางครั้งหนึ่งราวกับปลอบโยนก่อนจะค่อยๆกดนิ้วยาวเข้าไปจนมิด แล้วค่อยๆเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ
“อ๊า....อื้อ...ชางมิน... ตรงนั้น อื้อ....” ร่างสูงยิ้มขึ้นเมื่อนิ้วยาวของเขากดลงบนจุดที่วาบหวามที่เรียกเสียงครางหวานหูออกมาจากร่างบาง นิ้วยาวขยับเข้าออกและเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นเป็นสามนิ้ว ร่างสูงส่งนิ้วขยับเข้าออกเร็วขึ้นจนร่างบางขยับสะโพกตอบรับนิ้วทั้งสามของเขา
“มินโฮ อย่าเกร็งนะ” เอ่ยปลอบก่อนจะหยัดกายขึ้นถอดชุดนอนที่สวมอยู่จากตัว ส่วนแข็งขืนที่ตื่นตัวเต็มที่พร้อมที่จะเข้าช่องทางอ่อนภายใน
ร่างสูงค่อยๆกดส่วนหน้าที่คับแน่นของตนเข้ามาในช่องทางสีสวยที่พร้อมแล้วสำหรับการรุกราน
“อ๊า เจ็บ เจ็บ ชางมิน” แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอจิกเล็บลงบนหลังแกร่งเพื่อระบายความเจ็บที่เกิดขึ้น
“ทนอีกนิดนะคนดี” ชางมินจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมา เขาเองก็เห็นใจร่างบางอยู่แต่ถ้าจะหยุดตอนนี้คงไม่ทันแล้วพราะอารมณ์ที่มันมีมากจนไม่อาจทนต่อไป
“อึก..มิน โฮ อา” ร่างสูงครางขึ้นเพราะช่องทางของร่างบางทั้งร้อนและรัดส่วนหน้าของเขาแน่นไปหมดจนเขาแทบจะรอไม่ไหว เมื่อเข้าไปจนสุดร่างสูงจึงเริ่มขยับเข้าออกเนิบนาบแล้วค่อยเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น
ชางมินขยับกายเข้าหาร่างบางอย่างไม่หยุดหย่อนจนร่างบางๆของมินโฮต้องโยกคลอนไปตามแรงของคนด้านบน ภายในช่องทางร้อนยังคงตอดรัดแกนกายของเขาอย่างร้อนรุ่มทำเอาเขาแทบคลั่ง เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอ
“อา..มินโฮ”
“อึก อ๊ะ อ๊า อื้มม” ร่างสูงกดจูบที่ริมฝีปากที่อ้าหอบร่างบางจูบตอบตอนนี้เขานึกอะไรไม่ออกแล้วนอกจากร่างสูงตรงหน้านี้เท่านั้น มือหนาเลื่อนไปสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวที่ตั้งชันด้วยอารมณ์ ชางมินรูดมือขึ้นลงเพื่อให้ร่างบางไปถึงสวรรค์พร้อมๆกันเมื่อรู้สึกถึงแรงตอดรัดจากช่องทางร้อน วงแขนแกร่งสอดเข้าตรงเอวบางกอดรั้งคนตัวเล็กให้แนบชิดยิ่งขึ้น
ส่วนนั้นของร่างสูงเริ่มมีน้ำไหลออกมาจนเฉอะแฉะช่องทางรักไปหมด ดวงหน้าหวานเริดขึ้นอย่างมีอารมณ์จนจนชางมินทนไม่ไหวต้องฝังใบหน้าคมลงบนลำคอขาวเนียนอย่างอดไม่ได้ที่จะฝากรอยรักเอาไว้
“อ๊ะ..อ๊ะ...ชาง มิน..อา..” มินโฮครางระงมเมื่อส่วนปลายของแกนากยสัมผัสเข้ากับจุดไวสัมผัสของเขา ร่างสูงเพิ่มจังหวะขยับกายให้มากขึ้นและรูดมือขึ้นลงถี่กระชั้นจนมินโฮหายใจติดขัดก่อนที่ร่างบางๆทั้งร่างจะกระตุกเบาๆแล้วปลดปล่อยน้ำรักออกมาเลอะมือและหน้าท้องแกร่ง
“อ๊ะ...ชะ ชางมิน...จะไป อ๊ะ แล้ว......อ๊า!!”
“อึก...มินโฮ....อาาา”
ร่างสูงกระแทกแกนกายเข้าหาอีกสองสามครั้งและปลดปล่อยอารมณ์วาบหวามออกมาเต็มช่องทางจนน้ำรักนั้นไหลย้อนลงมาเมื่อเขาถอนกายออกมา ร่างบางนอนหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนอยู่บนเตียงนุ่มชางมินก้มลงจุมพิตหน้าผากเนียนอย่างแสนรัก
“มะ มินโฮรักพี่ชางมินนะฮะ” ร่างบางที่กึ่งหลับกึ่งตื่นพูดขึ้นราวกับละเมอ แต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างจากคนฟังได้เป็นอย่างดี
“พี่ก็รักมินโฮเหมือนกัน” อยากจะบอกแม้คนที่อยากให้ฟังจะหลับไปแล้วก็ตาม ร่างสูงก้มลงจุมพิตหน้ผากมนอีกครั้งก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดแน่น แล้วหลับไปด้วยกัน
Do You Love Me?
เช้านี้อาจจะเป็นเช้าที่สดใสของใครหลายๆคน รวมถึงสองร่างที่ยังนอนกอดกันอยู่บนเตียงอุ่น ไม่รับรู้และไม่สนใจถึงภายนอกที่กำลังดำเนินไป
“มินโฮฮฮฮฮฮฮ พี่ชายมาแล้ว” เสียงทุ้มๆของชายหนุ่มร่างสูงหน้าหล่อเหลานามว่า ...ชเวซีวอน มาถึงคฤหาสน์ตระกุลชิมแต่เช้า เพื่อจะได้เจอน้องชายสุดที่รักที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบปี
“อ้าว อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณซีวอน กลับมาจากฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” แม่บ้านเอ่ยทักร่างสูงตามประสาคนคุ้นเคย
“ อรุณสวัสดิ์ครับป้า มาถึงก็ตรงมาที่นี้เลย แล้วมินโฮไปไหนครับ” ร่างสูงรีบถามหาน้องชายทันที เพราะเขามองจนทั่งแล้วไม่มีแววของมินโฮที่นี่เลย
“อ๋อ คุณหนูยังไม่ลงมาเลยค่ะ สงสัยจะยังไม่ตื่น จะให้ป้าตามเธอให้หรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปเอง จะได้เซอร์ไพร์เขาด้วย” พูดจบก็วิ่งหอบของพะรุงพะรังขึ้นชั้นบนไปอย่างอารมณ์ดี
ขอให้อารมณ์ดีให้ตลอดนะ...ซีวอน
ปังงง
“มินโฮ !! พี่ชายกลับมาละ..” สิ่งที่ร่างสูงเห็นคือร่างกายเปลือยเปล่าของน้องชายสุดที่รักและเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทที่มีสภาพไม่ต่างกัน นอนกอดกันกลมหลับอยู่บนเตียง
“ไอ้ชางมินแกทำอะไรน้องช้านนนนนนนนนนนนนน”
....จบเหอะ....
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ