LoVe Or LeAvE ถ้าฉันร้าย แล้วเธอจะรักมั้ย
13) พินัยกรรม ??
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“งั้นผมก็คงต้องทำแบบเมื่อสักครู่อีกล่ะครับ...เพราะลูกสาวของท่านเป็นคนเดียวที่ผมจริงจังด้วย!”
สิ้นเสียงเฟย์ที่แอบฟังอยู่ก็หุบยิ้มไว้ไม่อยู่ จังหวะหัวใจที่เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะบ่งบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เขื่อนและสิ่งที่เธอคิด...มันไม่ได้ต่างกันเลย...
“อย่างนั้นเหรอ?”
“...”
ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบ
“พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ...ว่าไอ้คำว่าจริงจังของนายมันหมายถึงอะไร”
สิ้นประโยค คุณศักดิ์สิทธิ์ก็เดินเข้าไป พลางปรายตามองเงาเตี้ยๆ ของลูกสาวตัวเองและส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน มือที่แห้งเหี่ยวตามวัยลูบกรอบรูปของภรรยาสุดที่รักก่อนที่เขาจะค่อยๆ แกะข้างหลังภาพออกเพื่อจะเอารูปออกมาเช็ดฝุ่น
“...นี่...มัน...”
เสียงทุ้มขาดหายเป็นห้วงๆ ก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษออกมา แล้วคลี่อ่านดวงตาประดุจพญาเหยี่ยวไล่ตัวอักษรลายมือของหญิงสาวที่ตนรัก ก่อนจะเบิกตาโพลงมองใบหน้านวลในแผ่นรูป
“พินัยกรรมฉบับที่สอง...ถูกเปิดแล้ว...”
คุณศักดิ์สิทธิ์โผลงขึ้นแล้วทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้พลางถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน...วันเปิดพินัยกรรมหลังจากเผาศพแม่เฟย์ไปหนึ่งสัปดาห์...ทนายความได้เดินทางมาที่คฤหาสน์ของตระกูลแล้วเปิดพินัยกรรมต่อหน้าญาติสนิทมิตรสหายของแม่เฟย์ทุกคน
เมื่อหลายปีก่อน
“พินัยกรรมระบุไว้ว่า จะไม่แบ่งสมบัติของตัวข้าพเจ้า (ชื่อแม่ของเฟย์) ให้แก่ผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นสามีตามกฎหมาย นั่นคือคุณศักดิ์สิทธิ์ นีระสิงห์ หรือจะเป็นทายาทเพียงคนเดียว นั่นคือนางสาวพรปวีณ์...”
“ฮ่าๆๆ และแน่นอนว่าต้องได้สมบัติอยู่แล้ว” อรชาหัวเราะร่วน
“หรือจะเป็นน้องสาว นั่นคือ นางอรชา สุจินดาเสถียรก็ตาม”
“กรี๊ด! แล้วเงินตั้งมากมาย มัน...เอ๊ย! พี่เค้าจะเอาไปทำอะไรล่ะเนี้ย”
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ” คุณศักดิ์สิทธิ์สั่งเสียงเฉียบ “เชิญพูดต่อครับคุณทนาย”
“เอ่อ...ครับ สมบัติที่เป็นของข้าพเจ้าสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์จะถูกโอนให้กับการกุศลครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่ง...” ทนายความหยุดเอาไว้ “อีกครึ่งหนึ่งเธอไม่ยอมบอกว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ในพินัยกรรมมีข้อตกลงที่สามารถพูดให้คุณรักษ์และลูกสาวได้ยินเพียงแค่สองคน”
“งั้นเหรอ ป้าแจ่มช่วยพาคุณทนายไปที่ห้องทำงานของฉันทีนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
“ค่ะๆ”
“ไอ้โน่นก็ไม่ให้ ไอ้นี่ก็ไม่ให้จะอยากได้บุญอะไรกันนักหันหนาก็ไม่รู้ สมบัติมีเป็นร้อยล้าน แบ่งไปก็จะเหลืออีกไม่กี่ล้าน โอ๊ย! อยากจะบ้าตายยยยย! เสียเวลาคนทำมาหากินจริงๆ กลับกันเถอะตาเขื่อน” อรชาบ่นเป็นชุดแล้วสะบัดก้นเดินออกไป เขื่อนในวัยสิบเก้าปีเศษจ้องคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา
“แล้วเราจะได้พบกันอีก...” เขาพูดเบาๆ ก่อนจะแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป
“ไปเถอะเฟย์” คุณศักดิ์สิทธิ์กระตุกข้อมือบางให้ลุกขึ้น เฟย์ในวัยสิบเก้ามองตามแผ่นหลังของร่างสูงเมื่อสักครู่อย่างไม่เข้าใจ ที่เขาพูดหมายความว่ายังไงกันนะ? แต่คนตัวเล็กก็หยุดความคิดเอาไว้เมื่อทนายเริ่มพูด
“ในพินัยกรรมระบุไว้ว่า ข้าพเจ้าขอใช้สิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์ตัดทายาทหรือก็คือคุณเฟย์ออกจากสมบัติ ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ เป็นเวลา 7 ปี นับตั้งแต่วันเปิดพินัยกรรม...”
...ตัดเฟย์ออกงั้นเหรอ บ้าหรือเปล่า! เธอทำแบบนี้ทำไม ถ้าเธอเกลียดที่ฉันไล่เธอออกจากบ้าน ทำไมไม่มาลงที่ฉัน ทำเฟย์ทำไม!...
คุณศักดิ์สิทธิ์นึกในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปบนใบหน้า
“และเธอก็บอกผมไว้ว่าหากคุณศักดิ์สิทธิ์ไม่ทำตามคำขอของเธอที่เคยขอไว้ก่อนจะถึงแก่กรรมเธอจะยกสมบัติอีกครึ่งหนึ่งให้กับการกุศล...ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าสิ่งที่เค้าขอคืออะไร แต่ผมคิดว่าคุณศักดิ์สิทธิ์น่าจะรู้ดีนะครับ” ทนายความหนุ่มว่า
“เธอขอให้ผม...” แต่งงานกับอรชา น้องสาวของเธอ
คุณศักดิ์สิทธิ์เม้มปากสนิทแล้วมองไปที่เฟย์
...ฉันจะยอมทำตามที่เธอขอเพื่อที่สมบัติอีกครึ่งหนึ่งจะได้เก็บไว้ให้เฟย์...
“ถ้าเธอตัดเฟย์ออกจากกองมรดก แล้วจะให้เฟย์ไปอยู่ไหน ก็ในเมื่อบ้านหลังนี้...ครึ่งหนึ่งก็เป็นของเธอ ถ้าเฟย์ยังอยู่ที่นี่ก็เท่ากับทำผิดข้อตกลงในพินัยกรรม ตามกฎหมาย KF (แต่งมั่ว ไม่มีอยู่จริง -*-) เฟย์อาจถูกจับ หากผิดกฎหมายในข้อนี้” คุณศักดิ์สิทธิ์เอ่ย แววตาของผู้เป็นพ่อฉายแววเป็นห่วงลูกชายอย่างเห็นได้ชัด
“คือ คุณแม่ของเฟย์สั่งให้คุณเฟย์อยู่ในบ้านหลังนี้ ห้ามมีผู้ใดไล่ออกไปหรือจะเป็นความสมัครใจของเจ้าตัวก็ตาม ให้อยู่ดูแลรับใช้ตระกูลนีระสิงห์จนกว่าจะครบระยะเวลาที่ระบุในพินัยกรรมครับ”
“ดูแลรับใช้? จะให้ลูกชายตัวเองเป็นคนใช้ครอบครัวเหรอ..”
. .
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เฟย์เม้มริมฝีปากสนิท มองภาพของบุพการีที่รักและเคารพอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ถ้ามันเป็นความประสงค์ขอแม่ก่อนตาย คนที่รักแม่จนยอมตายแทนได้อย่างเฟย์ ทำไมเรื่องแค่นี้จะไม่ยอม...
“พ่อคะ เฟย์อยากทำตามที่แม่สั่ง” สิ้นประโยคของลูกสาว คนเป็นพ่อก็ไม่ปริปากอะไร เพียงแต่รับพินัยกรรมมาอ่านอย่างละเอียดแต่ก็เหมือนเดิม...เป็นไปตามที่ทนายความบอกทั้งหมด
“ถือเป็นอันว่า พินัยกรรมจะถูกปิดลงนะครับ” ทนายความว่าแล้วยื่นเอกสารให้ทั้งคู่เซ็นรับทราบ
“คิดดีแล้วเหรอที่จะเปลี่ยนจากลูกสาวพ่อไปเป็นคนรับใช้...” เสียงเรียบถามเมื่อบุคคลที่สามออกไปแล้ว เฟย์พยักหน้าน้อยๆ แล้วถอดจี้รูปตราวงศ์ตระกูลออกคืนให้บุพการี
“เฟย์จะไปย้ายของลงไปข้างล่างนะคะ”
“เฟย์...” เสียงของผู้เป็นพ่อว่าเสียงแผ่วก่อนจะหลุบตามองโทรศัพท์มือถือเมื่อลูกสาวออกไปข้างนอก เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วมองไปที่รูปของหญิงสาวที่ตนรักมากที่สุด...แม้ว่า...เธอจะไม่ได้มีเขาเพียงคนเดียว...ก็ตาม
(พี่สิทธิ์ มีอะไรกับอรชาเหรอคะ เอ...? หรือว่าคิดถึง)
“พรุ่งนี้...ไปจดทะเบียนกับฉัน...”
(ได้ค่ะ อ๊ะ! ว่างะ...ตรู๊ดๆๆๆๆ)
“เธอเป็นคนทำทุกอย่างให้มันเป็นแบบนี้นะ...” เขาว่า
. .
เฮือกกก!!! พ่อจะแต่งงานกับน้าอรชา!!
เด็กสาวชะงักค้าง แล้วน้ำตาก็ไหลพรากอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจจะมาบอกเรื่องสาเหตุการตายของแม่...แต่ในเมื่ออรชาคือผู้หญิงที่พ่อเธอเลือกก็ไม่อาจทำลายความรักของท่านทั้งสองได้...
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้เฟย์เป็นทายาทที่มีเพียงนามสกุลเท่านั้น...
ปัจจุบัน
(ครับ คุณศักดิ์สิทธิ์)
“พรุ่งนี้คุณทนายต้องมาบ้านผมด่วนเลยนะครับ”
(เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ!?) ปลายทางถามด้วยความตกใจ
“ผมเจอ...พินัยกรรมอีกฉบับ”
คุณศักดิ์สิทธิ์กรอกเสียงลงในเครื่องมือสื่อสาร ถัดไปอีกฟาก หญิงสาววางหูลงช้าๆ ถ้าเธอไม่รับสายแล้วเงียบฟังทั้งคู่คุยกัน...เธอจะไม่รู้เลยว่าพี่สาวของเธอเตรียมพินัยกรรมบ้าๆ นี่ไว้!
“ฉันทำให้แกมีชู้ได้ ฉันขับรถชนแกตายได้ ฉันเอาผัวแกมาเป็นของฉันได้ กะอีแค่ส่งลูกสาวไปหาแม่ มันก็คงไม่ยากหรอก หึ!!” หล่อนสบถกับตัวเองรอยยิ้มแห่งความริษยาปรากฏบนดวงหน้าของอรชาอย่างร้ายกาจ
-------------------------------------------------------------------------
โครตของความแรงกับประโยคสุดท้าย -*- ยังไงถ้าเม้นเยอะจะมาอัพอีก 555+
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ