ก็เพียงแค่เธอน่ะร้าย และเพียงแค่ฉันมารัก

9.4

เขียนโดย primpnp

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 22.34 น.

  5 ตอน
  105 วิจารณ์
  14.43K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บางคน ใช้เวลา ในชีวิต ทั้งชีวิตเพื่อตามหา ความหมาย ของการมีชีวิต

_____________________________________________

 

 

     “ลูกฟาง หายไปไหนมาลูกเมื่อคืนไม่กลับบ้านกลับช่อง”

 

 

 

     “มีเรื่องนิดหน่อยค่ะแม่ แล้วคุณพ่อกับยัยเกลล่ะคะ”

 

มองไปข้างในไม่เห็นน้องสาวตัวดี กับคุณพ่อที่มักตัวติดกับแม่ตลอด ก็เลยอดสงสัยไม่ได้

 

 

 

     “ไปเคลียร์เรื่องยัยเกลนั่นแหละ มีปัญหากับเพื่อนที่มหาลัยน่ะ ป่านนี้ยังไม่กลับเลย”

 

 

 

     “อื้ม แม่อย่าคิดมากนะ เรื่องน้องเดี๋ยวฟางดูแลให้ค่ะ ฟางสัญญาไว้แล้วนิ”

 

 

 

     “จ่ะ แม่ไม่ห่วงหรอกลูก ว่าแต่ฟางล่ะ เหนื่อยไหม กระแสข่าวเราไม่ค่อยดีเลยนะ”

 

สองแม่ลูกมานั่งคุยกันที่โซฟา

 

 

 

     “ก็สนุกดีนิค่ะ”    ยิ้มล้อๆกับคำตอบของลูกสาว ลูกเขาเป็นยังไงเขารู้ดี

 

เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง

 

 

 

     “ฟางไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ มีเลี้ยงปิดกล้องน่ะ”  

 

หันมาหอมแก้มแม่ ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน

 

 

 

     “อ่อฟาง วันนี้เพื่อนลูกมาหาที่บริษัทน่ะ”

 

 

 

     “ใครคะแม่”

 

 

 

      “แก้วกับเฟย์ จำได้ไหมลูก”

 

 

 

     “อ่อค่ะๆ”

 

ผ่านไปไม่นานก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เดินลงมาชั้นล่างก็เห็นพ่อและน้องกลับเข้ามาพอดี

 

 

 

     “ว้าวลูกพ่อสวยเชียว จะออกไปไหนล่ะ”

 

 

 

     “งานเลี้ยงปิดกล้องน่ะพ่อ แล้วน้องล่ะ”

 

 

 

     “คุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกน่ะ...”  พยักหน้ารับและเดินออกไปเอารถออกทันที

 

แปลกไหมที่พ่อชมว่าเธอสวย อิอิ! ไม่อยากจะอวด วันนี้เธอใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีซีด

 

กับเสื้อแขนยาวสีชมพูอ่อนลายกระต่ายด้วย ทรงผมก็ทำเป็นมวย กับปล่อยหน้าม้า

 

ธรรมดามาก แต่มันจะเป็นกระแสข่าวของวันต่อไป ว่าคนอย่างนางร้ายอันดับหนึ่งของประเทศ

 

แต่งตัวบ้าบอเข้าผับ สนุกจังงานนี้ เปล่าหรอก..เธอไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก

 

แต่ความรู้สึกเหมือนวันนี้ต้องมีอะไรสักอย่างเลย เลือกแต่งตัวแบบนี้ดีกว่า

 

 

 

     “เฮ้ย ดูน้องฟางแต่ตัวดิ” นี่คือคำแรกที่เธอได้ยิน  และมันก็มาอีกเรื่อยๆ สารพัดค่ะ ชินค่ะ

 

 

 

     “สบายจังนะเรา แต่งตัวน่ะ” พี่ผู้กำกับเดินเข้ามาทักเธอ

 

 

 

     “พี่ก็น่าจะรู้ว่าฟางเป็นคนยังไง”  พี่ผู้กำกับคนนี้ก็เหมือนคนในครอบครัวฟาง

 

เป็นญาติฝั่งพ่อ เลยรู้จักฟางค่อนข้างดี ส่วนเรื่องในกองถ่าย ฟางไม่อยากให้พี่เขามา

 

เกี่ยวด้วยเลยเป็นคนห้ามไม่ให้มายุ่งตั้งแต่แรก

 

 

 

     “เออนิฟาง พี่ขอโทษนะ ที่ดึงฟางมาเล่นเรื่องนี้ เจ็บตัวเพราะพี่เยอะเลย”

 

 

 

     “โว้ว พี่โทษตัวเองทำไม55555 เรื่องจิ๊บๆ” ที่เธอหัวเราะที่เธอยิ้ม เพรานี่มันหน้าห้องน้ำ

 

เลยไม่มีใครเห็นไง คุยกันสักพักพี่เขาก็ขึ้นไปขอบคุณนักแสดงบนเวทีด้านหน้า  

 

แล้วพูดอะไรอีกนิดหน่อย จากนั้นทุกคนก็สนุกกันเต็มที่ นัทกับพิมก็ดูรักกันดีเกินไปป่ะ

 

เธอไม่สนแล้วแหละ ชีวิตทั้งชีวิต จะต้องมาทิ้งไว้กับคนแบบเขาทำไม อย่างเธอน่ะ

 

ต้องเจออะไรอีกเยอะ ผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ ดีกว่าคนแบบนั้นเป็นร้อยเท่า

 

พันเท่า หรือบางครั้งอีกหนึ่งความคิดที่เธอมีมาตลอดก็คงเป็นการอยู่คนเดียวตลอดไป...

 

หันหลังกลับเข้าไปลาพี่ๆทีมงานทุกคนก่อนจะเรียกแท็กซี่ และจอดรถทิ้งไว้ที่นี้

 

ไว้ค่อยโทรให้คนที่บ้านมาเอา เธอเลือกที่จะมาสถานที่เดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ

 

ยืนอยู่ตรงจุด จุดเดิม หย่อนตัวนั่งลงบนพื้นปูน ห้อยขาลงก่อนจะมองเงาตัวเอง

 

ที่สะท้อนอยู่ในแม่น้ำ นี่สินะสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด...

 

ฝันที่จะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา ไม่ใช่ชีวิตที่วุ่นวายแบบนี้ เธอคิดผิดตั้งแต่ต้น

 

คิดผิดตั้งแต่ยอมรับงาน งานแรก แต่ยังไง มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ หรือเธอควรหยุด.

 

จบทุกสิ่งไว้เพียงเท่านี้ แล้วไปเริ่มต้นชีวิตอย่างคนธรรมดา มันคงดูว่าเธอเห็นแก่ตัวไป

 

หรือ ไม่ก็หนีปัญหา...

 

   ‘นางร้าย..’ เธอจะทนอยู่กับบทบาทนี้ได้อีกนานแค่ไหน สามสี่ปีมานี้ เหนื่อยไม่พอใช่มั้ย...

 

คำถามซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่ในความคิดเธอ ที่ไม่เคยมีคำตอบสักครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้

 

คงต้องตอบตัวเองแล้วสินะ...

 

 

 

     “เหนื่อยสิ... มันเหนื่อยมาก”  หยดน้ำใสๆ ไหลตกลงกระทบผิวน้ำ ถึงตอนนั้นแหละ

 

เธอพึ่งรู้ตัวว่าเธอกำลังร้องไห้ ดูเหมือนยิ่งรู้ตัวก็จะยิ่งร้องหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ

 

แต่จะทำเช่นไร เมื่อตอนนี้ มันก็มีแค่เธอเพียงคนเดียว....

 

 

 

     “บางครั้ง...ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ก็คงแบกรับเรื่องราวต่างๆไว้คนเดียวไม่ไหวหรอกนะ...  

 

     เชื่อป๊อปไหม?”   เสียงเย็นดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง แต่กลับมองไม่เห็น

 

ว่าเขาคนนั้นอยู่ตรงไหน ทั้งที่ใกล้แค่นี้แต่ทำไมนะทำไมเธอถึงมองเขาไม่เห็น

 

 

 

     “และบางครั้ง...คน คนนึงก็ไม่ได้มีทางเลืองมากมายหรอกนะ ป๊อป..”

 

 

 

     “แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลยนิ...”

 

 

 

     “และไหนละ ทางเลือก”

 

ยิ่งพูด ยิ่งคล้ายว่าเธอคุยกับตัวเอง แต่ทำไมนะ... ทำไมเธอถึงเลือกที่จะพูด

 

 

 

     “ฟาง...คุณเคยอ่านหนังสือเล่มนึงมั้ย..."

 

 

 

     “เวลา จะนอนยังไม่มี... นายจะให้ฉันเอาเวลาไหนไปหาอ่านหนังสือ”

 

 

 

     “โอเคครับ งั้นสมมตินะ ว่าฟาง และ ป๊อป ยืนอยู่ตรงข้ามกัน กลางสี่แยก

 

  ที่ทุกทิศทุกทางปกคลุมไปด้วยหมอก มองไม่เห็นหนทางไหนเลย ฟางจะเลือกไปทางไหน”

 

มองไม่เห็นหนทางไหนเลย... นั่นสิแล้วเธอควรจะเลือกไปทางไหน

 

 

 

     “ถ้าเลือกตามความถนัด ก็คงต้องเป็นทางขวา แต่ถ้าเป็นทางที่ไม่ถนัด

 

     ก็คงต้องเป็นทางซ้าย ส่วนทางที่อยู่ด้านหน้ากับทางด้านหลัง ก็คงขึ้นอยู่ที่ว่าต้องการ

 

     ที่จะก้าวไปสู่อนาคต หรือจะย้อนกลับไปสู่อดีตที่อาจไม่เหมือนเดิม แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า

 

     ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหน เพราะฉันกลัว กลัวว่าจะไม่สามารถก้าวผ่านสิ่งที่รออยู่

 

     ในเส้นทางเหล่านั้นได้...”

 

 

 

     “แล้วถ้าฟางลองคิดอีกครั้งละ ถ้าตอนนี้ป๊อปยืนอยู่ตรงข้ามกับฟางกลางทางแยกนั้น 

 

     ทางขวาของฟาง ก็คือทางซ้ายของ  ป๊อป ทางซ้ายของฟาง ก็คือทางขวาของป๊อป

 

     ส่วนทางด้านหน้าของฟาง ก็คือทางด้านหลังของป๊อป และเช่นเดียวกัน

 

     ทางด้านหลังของฟาง ก็คือด้านหน้าของป๊อป เพราะงั้นถ้าฟางลองคิดดูอีกครั้ง

 

      ก็จะรู้ว่า ทางเลือกต่างๆนั้น ก็จะมีความหมายกับแต่ละคน แตกต่างกันไป

 

     การก้าวไปข้างหน้าของใครคนหนึ่ง อาจหมายถึงการก้าวถอยหลัง ของใครอีกคน

 

      เส้นทางที่คน คนหนึ่งไม่ต้องการ อาจเป็นเส้นทางที่ใครอีกคน ต้องการก็ได้”

 

ฟางหยุดนิ่ง กับคำตอบที่ออกมาจากปากของชายหนุ่ม   ป๊อปมองดูท่าทางของฟาง

 

จากมุม มุมหนึ่งนิ่งๆ ก่อนจะพูดต่อ...

 

 

 

     “เพราะงั้น ทางเลือกที่ป๊อปพูดถึง คือการที่ฟางเลือกที่จะตอบหัวใจ ของฟางเอง

 

     เพราะถ้าหากสิ่งที่ฟางเลือกมาจากใจ ของฟางจริงๆ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

 

     ในภายภาคหน้า ฟางก็จะผ่านมันไปได้ เชื่อป๊อปสิ ”

 

ฟางหลุบเปลือกตาลง คิดตามคำพูดของเขา ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างแปลกใจ

 

กับคำตอบที่เธอค้นพบ...

 

 

 

     “ยิ้มแบบนี้รู้ใจตัวเองแล้วหรอฟาง...”   เธอหันกลับมองรอบตัวอีกครั้ง

 

แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่ม เลยหันกลับไปมองแม่น้ำตาเดิม

 

 

 

     “นายมันขี้โกง เห็นฉันอย่างเดียว รู้ทุกอย่างว่าฉันเป็นยังไง

 

     แต่ฉันกลับไม่เห็นตัวนายด้วยซ้ำ ขี้โกงชะมัด! หึ... รบกวนออกมาหน่อยได้ไหมคะ...?”

 

 

 

     “ได้สิครับ”

 

 

 

     “อ๊ะ... ”   หญิงสาวย่นคอหนี กับน้ำเสียงเย็น ลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ตรงต้นคอเธอ

 

โผล่มาจากไหนกันนะ? นี่ตือคำถามแรก แต่มันจะสำคัญอะไร ในเมื่อตอนนี้

 

เขาก็มาอยู่ข้างๆเธอแล้ว

 

 

 

     “ก็บอกแล้วไง ว่าไม่อยากเจออีก ทำไมยังตาม..?”

 

 

 

     “ก็เผื่อวันไหน เธอฟุ้งซ่านโดดน้ำ ขึ้นมาทำไง?”  ฝ่ามือเล็ก ฟาดเข้าให้ที่ไหล่หนา

 

ก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ชายหนุ่ม....

 

 

 

     “จะบ้ารึไง ไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย หึ... มองอะไร?”  เงยหน้าขึ้นมา  เห็นชายหนุ่ม

 

จ้องอยู่ไม่วางตาเลยอดสงสัยกับรอยยิ้มของเขาไม่ไดว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่...

 

 

 

     “เปล่า... แค่จะบอกว่า ยิ้มแบบนี้น่ารักจะตาย ทำไมไม่ค่อยยิ้มเลยล่ะ...?”

 

________________________________________________________________


กราบประทานอภัย กับการสูญหายไป... คือแบบ คิดไม่ออกกกกก 555555


และรู้อะไรมั้ย?!!! แต่งสดอีกแล้วเฟ้ยยยยยยยยย -- ยาวมากนะเฟ้ยยยย --


มีน้องคนนึง ทวงเราในทวิตบ่อยมากเลย ขอบคุณฮับ>< 


ปิดเทอมแล้วเฟ้ยยย จะพยายามคิดให้ออกนะคะ แม้งานปิดเทอมงานจะรัดตัวก็ตาม


แต่ง : 23:28 น.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา