ว้าวุ่น [In My Heart]
19)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ ^__^~
♥ นิยายเรื่อง ว้าวุ่น ตอนที่ 19 ♥
“ใกล้กับเธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนยิ่งห่างยิ่งไกลกับเธอเท่านั้น
ทุกๆครั้งคอยบอกตัวเองว่าเป็นแค่ฝัน ทุกครั้งที่ใกล้กัน และฉันต้องกลั้นใจ...”
“กรี๊ด.....................................” เพื่อนสาวคนสนิทกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาหันกลับมาดูเจ้าของภาพหญิงสาวที่ถูกแปะอยู่รอบๆขอบของกระจกเงาด้วยความ รู้สึกสับสนปนประหลาดใจ....
“อย่าดูนะๆๆๆๆๆๆๆ” ร้องห้ามพร้อมกับโผตัวเข้าหากระจกเงาบานใหญ่ มือเรียวสวยคว้าภาพที่แปะอยู่บนขอบกระจกออกอย่างสะเปะสะปะ
“แค่สมมติว่าเรา...รักกัน โลกใบนี้ก็พลันหยุดหมุนไป
เกิดอะไรขึ้นมาล่ะหัวใจ จะเก็บอาการได้อีกนานแค่ไหน...”
“แก้ว หยุด!!” โท โมะสั่งเสียงเฉียบ มือน้อยๆกำลังจับรูปพับเข้าหากันให้มันยู่ยี่ ขอบตาสวยร้อนผ่าว ไม่นานหยดน้ำใสก็ค่อยๆไหลลงมา จบแล้วความสัมพันธ์แบบ“เพื่อนสนิท”ของเธอกับเขาไม่มีอีกแล้ว
“ร้องไห้ทำไม รู้ไหมน้ำตาของแก้วทำให้โทโมะปวดใจมากนะ...คนดีไม่ร้องนะครับ” เห็น แผ่นหลังของหญิงสาวตรงหน้าสั่นไหวเล็กๆก็เดาได้ไม่ยาก คนดีของเขากำลังร้องไห้...คว้าตัวของเพื่อนสนิทเข้ามากอด แผ่นหลังเล็กๆนั่นยังคงสั่นน้อยๆและเพิ่มแรงมากขึ้นจนอกแกร่งของเขาสัมผัส ได้
แก้วใจกำลังสะอื้นจนตัวโยน
“ฮึก ....ฮือ” เธอจะทำอย่างไรต่อไป ...จะทำอย่างไรดี
@@@@@@@@
“ไอป๊อบ เอ็งว่าวันนี้จะออกหัวออกก้อยวะ” เขื่อนเต้นไป ดริ๊งไปและถามเพื่อนไป
“ไม่ รู้” เอ่ยตอบได้แค่นั้น เพราะเขาเดาไม่ออกจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาออกจะมั่นใจกับความรู้สึกของเพื่อนทั้งสองเต็มร้อย แต่ถ้ามันไม่ยอมพูด ... ทุกอย่างก็จบ จะหัวหรือก้อยขึ้นอยู่กับมันซองตัวนั่นแหล่ะ
“จาหัวหรือก้อยขึนอยู่กับมานซองตัวนานแหล่ะ” นั่นไง ไอเบผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย
“เนื่องจากตอนนี้มีคนๆหนึ่งกำลังว้าวุ่นในใจ จะทนเก็บคำๆนั้น
เอาไว้ได้นานแค่ไหนไม่รู้เลย ถ้าฉันบอกความในใจ แล้วจะเปลี่ยนอะไรไปได้ละเธอ...”
“โทโมะรักแก้วนะ” เข้า ไม่ควรลังเลอะไรอีกแล้วในเวลานี้ สิ่งที่เขาต้องทำคืออะไรก็ได้ที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับหญิงสาวตรงหน้า เธอรักเขาและเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ดังนั้น...อย่าลังเลที่จะพูด
“ฮึก ....ฮือ” แก้วหันหน้ากลับมามองโทโมะที่กอดตัวเองเอาไว้จากทางด้านหลังอย่างไม่เชื่อหู ตัวเอง เธอจะมัวมาลังเลที่จะรับฟังสิ่งที่เขาต้องการจะพูดนับจากนี้ไปไม่ได้ เธอต้องตั้งใจฟังเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรไปคนเดียวอีก
....ไม่ลังเลที่จะรับฟัง
“พูดอีกทีนึงนะ พูดอีกที ฮึก..” ดวง ตาคู่สวยถูกกลบไปด้วยม่านน้ำตา สองมือเล็กกำเสื้อคลุมสีแดงของชายตรงหน้าเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยประจันใบหน้าหนุ่มหล่อ เร่งเร้าให้ชายหนุ่มย้ำอีกครั้งในสิ่งที่เธอได้ยินไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ ผ่านมา
ช่วยย้ำว่าเธอไม่ได้หูฝาดหรือแค่หลับฝันไป เขารู้สึกเฉกเช่นเดียวกันกับเธอ....
@@@@@@@@
“โทโมะรักแก้ว”
“โทโมะรักแก้วนะ”
“โทโมะรักแก้วตลอด 4 ปีที่รู้จักกันมา โทโมะรักแก้ว...”
ชาย หนุ่มพูดความในใจเพียงแค่ไม่กี่คำซ้ำไปซ้ำมา ตลอด 4 ปีเขารู้สึกแบบนั้นอยู่เสมอจริงๆและเขามั่นใจว่านับตั้งแต่วินาทีนี้ไป ความรู้สึกเช่นนี้ จะยังเหมือนเดิม เขารักเธอและจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ไปได้
หญิง สาวคว้าเอาใบหน้าหล่อให้โน้มลงมาหา เรียวปากอิ่มสีโอรสเฝ้าแตะย้ำซ้ำๆที่ริมฝีปากหนา...ก่อนจะผละออกมาแล้วโผ เข้ากอด แรงสะอื้นน้อยๆยังคงมีอยู่แต่มันได้เปลี่ยนจังหวะไปแล้ว
...จังหวะของความรัก
@@@@@@@@
“ข้าว่าออกหัวว่ะ // เออ ข้าก็เฮนด้วย” เขื่อนพูดอย่างมั่นใจ ก่อนจะได้รับแรงสนับสนุนจากเคนตะ
“ทำไมวะ อะไรที่ทำให้เองมั่นใจแบบนั้น” ป๊อบปี้ยังคงไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปวาดลวดลาย เพราะใน
หัวใจมันว้าวุ่นเรื่องของเพื่อนสนิทอยู่ สายตาคมเหลือบมองไปที่ไอโฟนตัวเก่งร้องดังนานนับชั่วโมง...ยัง ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับที่รัก
“ข้าโทรไปหามันซองตัว แล้วพบว่า...มันไม่ว่างรับกันทั้งคู่”
ถ้า ใครคนใดคนหนึ่งมันแห้ว มันต้องปิดเครื่องเพราะไม่อยากจะรับฟังอะไร ไม่อยากคุยกับใครนอกจากร้องไห้ให้กับตัวเอง แต่นี่โทรไปเป็นชั่วโมงแล้ว มันก็ยังไม่ยอมรับสาย โทรเข้าบ้านเจอพี่กิ่ง พี่กิ่งก็รายงานกลับมาว่า ไอโมะมันขึ้นไปบนห้องยายแก้วได้ชั่วโมงนึงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงมา จนพี่สาวบอกว่าให้เวลาอีกแค่ 30นาที ถ้าเพื่อนโมะไม่ยอมลงมา คุณพี่กิ่งจะขึ้นไปแบะหัวมันทันทีโดยไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
“เนื่องจากตอนนี้มีคนๆหนึ่งกำลังฟุ้งซ่านเกินไป เก็บความคิดถึง ที่มันไม่ถึงที่เธอไม่ซึ้งสักเท่าไร อธิษฐานให้เป็นได้อย่างใจ ไม่ว่านานสักเท่าไร.... มีคนหนึ่งว้าวุ่นใจแค่ไหน แต่เธอไม่รู้เลย”
“แก้ว...”
โท โมะถูกพา(?)ให้มานั่งที่เตียงนุ่ม ก่อนแก้วใจจะคลายกอดแล้วลงไปนั่งข้างๆ ทั้งสองสบสายตากันเนิ่นนาน ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนรักเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือขวาไปโอบเอวของหญิงสาวเอา ไว้หลวมๆ แก้วใช้สองมือเรียวเล็กของเธอแตะเบาๆไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาหวังจะฉกชิมริมฝีปากอิ่มของเธอ หญิงสาวหยุดใบหน้าหล่อของเขาเอาไว้แล้วกล่าวบอกเบาๆแต่ชัดเจนทุกคำพูด
“พูด-อีก-ที”
“ฮะฮะฮะ”ชายหนุ่มหลุดขำก๊ากออกมา ให้ตายสิคนน่ารักของเขา...จะทำให้หลงไปถึงไหนกันแค่นี้เขาก็หาทางออกไม่เจอแล้วครับ แก้วใจจ๋า...ฮะฮะ
“โทโมะรักแก้วนะ รักแบบเว่อร์ๆเลยอ่ะ” ทำตามที่หญิงสาวต้องการ เรื่องจริงยังไงมันก็คือเรื่องจริง เขาไม่มีทางหนีพ้น ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะปิดบัง ไม่มีเหตุผลที่จะปิดปากไว้ไม่ให้เธอได้รับรู้
แรงดึงดูดระหว่างขั้วเหนือและขั้วใต้(?) ส่งผลให้แก้วใจยื่นใบหน้าสวยเข้าไปหาพร้อมกับโทโมะที่โน้มริมฝีปากหนาลงมา ช่วย...ชายหนุ่มใช้ลิ้นแตะที่เรียวปากอิ่มสีโอรสเบาๆก่อนจะกดจูบให้หนักขึ้น คนสวยดูจะตกใจเล็กน้อยจึงเผลอขยับริมฝีปากอิ่มนิดๆ ชายหนุ่มได้จังหวะจึงแทรกลิ้นหนาเข้าไปควานหาความหวานข้างใน
หวานจนยากจะถอนใจและไม่อยากจะถอนจูบ....
@@@@@@@@
มือ หนาเริ่มซุกซนสอดเข้าไปแตะแผ่นหลังของร่างบอบบางภายใต้ชุดนอน มืออีกข้างเข้าลูบไล้ที่โคนขาอ่อนของหญิงสาวอย่างถือวิสาสะ แก้วใจในหัวเริ่มเบลอและว่างเปล่า รู้สึกสะท้านไปทั้งร่างกายสาว สมองไม่สามารถควบคุมสติและการทำงานของร่างกายได้ หญิงสาวทำเพียงแค่จูบตอบชายหนุ่มกลับไปอย่างไม่ลดละ และ...
“ผีดิบ หมดเวลาของนายแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
----------------ขึ้นไหมคะ??
เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ ^__^~
♥ นิยายเรื่อง ว้าวุ่น ตอนที่ 19 ♥
“ใกล้กับเธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนยิ่งห่างยิ่งไกลกับเธอเท่านั้น
ทุกๆครั้งคอยบอกตัวเองว่าเป็นแค่ฝัน ทุกครั้งที่ใกล้กัน และฉันต้องกลั้นใจ...”
“กรี๊ด.....................................” เพื่อนสาวคนสนิทกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาหันกลับมาดูเจ้าของภาพหญิงสาวที่ถูกแปะอยู่รอบๆขอบของกระจกเงาด้วยความ รู้สึกสับสนปนประหลาดใจ....
“อย่าดูนะๆๆๆๆๆๆๆ” ร้องห้ามพร้อมกับโผตัวเข้าหากระจกเงาบานใหญ่ มือเรียวสวยคว้าภาพที่แปะอยู่บนขอบกระจกออกอย่างสะเปะสะปะ
“แค่สมมติว่าเรา...รักกัน โลกใบนี้ก็พลันหยุดหมุนไป
เกิดอะไรขึ้นมาล่ะหัวใจ จะเก็บอาการได้อีกนานแค่ไหน...”
“แก้ว หยุด!!” โท โมะสั่งเสียงเฉียบ มือน้อยๆกำลังจับรูปพับเข้าหากันให้มันยู่ยี่ ขอบตาสวยร้อนผ่าว ไม่นานหยดน้ำใสก็ค่อยๆไหลลงมา จบแล้วความสัมพันธ์แบบ“เพื่อนสนิท”ของเธอกับเขาไม่มีอีกแล้ว
“ร้องไห้ทำไม รู้ไหมน้ำตาของแก้วทำให้โทโมะปวดใจมากนะ...คนดีไม่ร้องนะครับ” เห็น แผ่นหลังของหญิงสาวตรงหน้าสั่นไหวเล็กๆก็เดาได้ไม่ยาก คนดีของเขากำลังร้องไห้...คว้าตัวของเพื่อนสนิทเข้ามากอด แผ่นหลังเล็กๆนั่นยังคงสั่นน้อยๆและเพิ่มแรงมากขึ้นจนอกแกร่งของเขาสัมผัส ได้
แก้วใจกำลังสะอื้นจนตัวโยน
“ฮึก ....ฮือ” เธอจะทำอย่างไรต่อไป ...จะทำอย่างไรดี
@@@@@@@@
“ไอป๊อบ เอ็งว่าวันนี้จะออกหัวออกก้อยวะ” เขื่อนเต้นไป ดริ๊งไปและถามเพื่อนไป
“ไม่ รู้” เอ่ยตอบได้แค่นั้น เพราะเขาเดาไม่ออกจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาออกจะมั่นใจกับความรู้สึกของเพื่อนทั้งสองเต็มร้อย แต่ถ้ามันไม่ยอมพูด ... ทุกอย่างก็จบ จะหัวหรือก้อยขึ้นอยู่กับมันซองตัวนั่นแหล่ะ
“จาหัวหรือก้อยขึนอยู่กับมานซองตัวนานแหล่ะ” นั่นไง ไอเบผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย
“เนื่องจากตอนนี้มีคนๆหนึ่งกำลังว้าวุ่นในใจ จะทนเก็บคำๆนั้น
เอาไว้ได้นานแค่ไหนไม่รู้เลย ถ้าฉันบอกความในใจ แล้วจะเปลี่ยนอะไรไปได้ละเธอ...”
“โทโมะรักแก้วนะ” เข้า ไม่ควรลังเลอะไรอีกแล้วในเวลานี้ สิ่งที่เขาต้องทำคืออะไรก็ได้ที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับหญิงสาวตรงหน้า เธอรักเขาและเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ดังนั้น...อย่าลังเลที่จะพูด
“ฮึก ....ฮือ” แก้วหันหน้ากลับมามองโทโมะที่กอดตัวเองเอาไว้จากทางด้านหลังอย่างไม่เชื่อหู ตัวเอง เธอจะมัวมาลังเลที่จะรับฟังสิ่งที่เขาต้องการจะพูดนับจากนี้ไปไม่ได้ เธอต้องตั้งใจฟังเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรไปคนเดียวอีก
....ไม่ลังเลที่จะรับฟัง
“พูดอีกทีนึงนะ พูดอีกที ฮึก..” ดวง ตาคู่สวยถูกกลบไปด้วยม่านน้ำตา สองมือเล็กกำเสื้อคลุมสีแดงของชายตรงหน้าเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยประจันใบหน้าหนุ่มหล่อ เร่งเร้าให้ชายหนุ่มย้ำอีกครั้งในสิ่งที่เธอได้ยินไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ ผ่านมา
ช่วยย้ำว่าเธอไม่ได้หูฝาดหรือแค่หลับฝันไป เขารู้สึกเฉกเช่นเดียวกันกับเธอ....
@@@@@@@@
“โทโมะรักแก้ว”
“โทโมะรักแก้วนะ”
“โทโมะรักแก้วตลอด 4 ปีที่รู้จักกันมา โทโมะรักแก้ว...”
ชาย หนุ่มพูดความในใจเพียงแค่ไม่กี่คำซ้ำไปซ้ำมา ตลอด 4 ปีเขารู้สึกแบบนั้นอยู่เสมอจริงๆและเขามั่นใจว่านับตั้งแต่วินาทีนี้ไป ความรู้สึกเช่นนี้ จะยังเหมือนเดิม เขารักเธอและจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ไปได้
หญิง สาวคว้าเอาใบหน้าหล่อให้โน้มลงมาหา เรียวปากอิ่มสีโอรสเฝ้าแตะย้ำซ้ำๆที่ริมฝีปากหนา...ก่อนจะผละออกมาแล้วโผ เข้ากอด แรงสะอื้นน้อยๆยังคงมีอยู่แต่มันได้เปลี่ยนจังหวะไปแล้ว
...จังหวะของความรัก
@@@@@@@@
“ข้าว่าออกหัวว่ะ // เออ ข้าก็เฮนด้วย” เขื่อนพูดอย่างมั่นใจ ก่อนจะได้รับแรงสนับสนุนจากเคนตะ
“ทำไมวะ อะไรที่ทำให้เองมั่นใจแบบนั้น” ป๊อบปี้ยังคงไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปวาดลวดลาย เพราะใน
หัวใจมันว้าวุ่นเรื่องของเพื่อนสนิทอยู่ สายตาคมเหลือบมองไปที่ไอโฟนตัวเก่งร้องดังนานนับชั่วโมง...ยัง ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับที่รัก
“ข้าโทรไปหามันซองตัว แล้วพบว่า...มันไม่ว่างรับกันทั้งคู่”
ถ้า ใครคนใดคนหนึ่งมันแห้ว มันต้องปิดเครื่องเพราะไม่อยากจะรับฟังอะไร ไม่อยากคุยกับใครนอกจากร้องไห้ให้กับตัวเอง แต่นี่โทรไปเป็นชั่วโมงแล้ว มันก็ยังไม่ยอมรับสาย โทรเข้าบ้านเจอพี่กิ่ง พี่กิ่งก็รายงานกลับมาว่า ไอโมะมันขึ้นไปบนห้องยายแก้วได้ชั่วโมงนึงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงมา จนพี่สาวบอกว่าให้เวลาอีกแค่ 30นาที ถ้าเพื่อนโมะไม่ยอมลงมา คุณพี่กิ่งจะขึ้นไปแบะหัวมันทันทีโดยไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
“เนื่องจากตอนนี้มีคนๆหนึ่งกำลังฟุ้งซ่านเกินไป เก็บความคิดถึง ที่มันไม่ถึงที่เธอไม่ซึ้งสักเท่าไร อธิษฐานให้เป็นได้อย่างใจ ไม่ว่านานสักเท่าไร.... มีคนหนึ่งว้าวุ่นใจแค่ไหน แต่เธอไม่รู้เลย”
“แก้ว...”
โท โมะถูกพา(?)ให้มานั่งที่เตียงนุ่ม ก่อนแก้วใจจะคลายกอดแล้วลงไปนั่งข้างๆ ทั้งสองสบสายตากันเนิ่นนาน ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนรักเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือขวาไปโอบเอวของหญิงสาวเอา ไว้หลวมๆ แก้วใช้สองมือเรียวเล็กของเธอแตะเบาๆไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาหวังจะฉกชิมริมฝีปากอิ่มของเธอ หญิงสาวหยุดใบหน้าหล่อของเขาเอาไว้แล้วกล่าวบอกเบาๆแต่ชัดเจนทุกคำพูด
“พูด-อีก-ที”
“ฮะฮะฮะ”ชายหนุ่มหลุดขำก๊ากออกมา ให้ตายสิคนน่ารักของเขา...จะทำให้หลงไปถึงไหนกันแค่นี้เขาก็หาทางออกไม่เจอแล้วครับ แก้วใจจ๋า...ฮะฮะ
“โทโมะรักแก้วนะ รักแบบเว่อร์ๆเลยอ่ะ” ทำตามที่หญิงสาวต้องการ เรื่องจริงยังไงมันก็คือเรื่องจริง เขาไม่มีทางหนีพ้น ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะปิดบัง ไม่มีเหตุผลที่จะปิดปากไว้ไม่ให้เธอได้รับรู้
แรงดึงดูดระหว่างขั้วเหนือและขั้วใต้(?) ส่งผลให้แก้วใจยื่นใบหน้าสวยเข้าไปหาพร้อมกับโทโมะที่โน้มริมฝีปากหนาลงมา ช่วย...ชายหนุ่มใช้ลิ้นแตะที่เรียวปากอิ่มสีโอรสเบาๆก่อนจะกดจูบให้หนักขึ้น คนสวยดูจะตกใจเล็กน้อยจึงเผลอขยับริมฝีปากอิ่มนิดๆ ชายหนุ่มได้จังหวะจึงแทรกลิ้นหนาเข้าไปควานหาความหวานข้างใน
หวานจนยากจะถอนใจและไม่อยากจะถอนจูบ....
@@@@@@@@
มือ หนาเริ่มซุกซนสอดเข้าไปแตะแผ่นหลังของร่างบอบบางภายใต้ชุดนอน มืออีกข้างเข้าลูบไล้ที่โคนขาอ่อนของหญิงสาวอย่างถือวิสาสะ แก้วใจในหัวเริ่มเบลอและว่างเปล่า รู้สึกสะท้านไปทั้งร่างกายสาว สมองไม่สามารถควบคุมสติและการทำงานของร่างกายได้ หญิงสาวทำเพียงแค่จูบตอบชายหนุ่มกลับไปอย่างไม่ลดละ และ...
“ผีดิบ หมดเวลาของนายแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ