เลวแค่ไหนหัวใจก็ให้เธอ
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเริ่มต้น!!
02.00 น. (ตีสอง)
“มึงป๊อดหรอวะ เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียทั้งทีไม่กล้าขับรถแข่ง โห๊ะ”เสียงชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งแต่ดำสนิทสิวเต็มใบหน้าจนแทบไม่มีที่ว่างให้รูขุมขนหายใจ
“มึงดูถูกผิดคนแล้วไอสิ่ว”(ถ้าลบไม้เอกออกนี่น่าจะเหมาะกับมันมากกว่านะ) เสียงหนุ่มร่างสูงขาวผมดำสนิทถูกจัดให้ปัดไปทางซ้ายพร้อมชุดรถแข่ง
“และอย่าเป็นลมซะก่อนนะไอตุ๊ด”ไอ้สิ่วพูดขึ้นก่อนจะสวมหมวกกันน็อกแล้วขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซต์ที่ถูกแต่งด้วยกรอบสีขาว (ตัดกับสีผิวแกมาก) ทั้งเฟรมและท่อ บรื้น ๆๆ เสียงบิดเร่งเครื่องดังสนั่น สิ่วหันมามองลูกน้องแล้วยิ้ม
“บีสมึงเอาหมวกมาให้กูดิ๊”เสียงร่างสูงพูดขึ้นเมื่อถูกหยาม
“กูว่ามึงอย่าเลยนะไอโมะ แม่งเสี่ยงหวะ ไม่รู้ไอเชี้ยสิ่วแม่งจะเอาส้นทีนอะไรมาขวางถนนหรือปล่าว แม่งอยู่หัวหมอ”ชายร่างสูงตัวขาวจั๊วผมชี้โด่ชี้เด่สีน้ำตาลอมดำเข้ม คิ้วหนาตากลมดูน่ารักพูดเชิงกระซิบ เขาอยู่ในชุดสีดำพร้อมแว่นตาเสียบไว้ที่คอเสื้อ
“มึงจะให้มันหยามกูหรือไง”โทโมะพูดแล้วเดินไปหยิบหมวกมาเอง
“โมะมึงอย่าเลยหวะกูขอ”บีสพูดแล้วรั้งไหล่โทโมะไว้
“กูไม่เป็นอะไรหรอกหนะ”โทโมะหันมาและสวมหมวก ขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซต์สีดำเงาสวยมากๆๆๆ(น่าจะแลกมอไซต์กับไอ้สิวนะ)พร้อมกับบิด บรื้นๆๆๆ เสียงเครื่องดังกลบเสียงเครื่องของไอ้สิ่วไปเยอะ
“ฮี้วๆๆๆ”เสียงวี๊ดว๊าดของกองเชียร์ข้างสนามโห่ร้องกันดังสนั่น ทั้งโคโยตี้ ทั้งพริตตี้ ทั้งสกอยและพวกชาวบ้านรวมกระทั่งลูกน้องของทั้งสองฝ่าย
“เฮ้ย พวกมึงไปดูกันดิ๊ว่าทางมีอะไรกั้นไหม ไอโมะอยู่ขับรถไม่แข็งอยู่”บีสออกปากสั่งลูกน้องของโทโมะซึ่งความจริงบีสก็คือลูกน้องของโทโมะนั่นแหละแต่เค้ามีสิทธิพิเศษคือโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กเลยเป็นเพื่อนกันไปได้
“ครับนาย”ลูกน้อง4-5คนขึ้นรถมอเตอร์ไซต์สวยๆแล้วขับพากันออกไปดูตามทางที่โทโมะกำลังจะแล่นรถไป
เวลาแห่งการรอคอยมาถึง สกอยขาสั้นสายเดี่ยวเสียวหลุดปล่อยผ้าลงสู้ถนน บรื้นนนนนนนนนนน เสียงรถบิดดังลั่นไปสนั่นถนนในยามค่ำคืน ตี๊ดๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของบีสดังขึ้น
“ฮัลโหลบีส อยู่ไหนหรอทำไมป่านนี้ยังไม่นอนอีกหละเค้าเป็นห่วงนะ”เสียงใสๆลอดผ่านออกมาจากโทรศัพท์สีดำของบีส
“อ๋อ ชั้นอยู่สนามแข่งรถ”บีสพูดขึ้น
“ไปทำไม นี่มันดึกแล้วนะ อย่าบอกนะว่าบีสไปแข่งรถหนะ”เสียงใสๆเริ่มดังขึ้น
“บันนี่ อย่ามาทำเสียงดังได้ไหมชั้นรำคาญ ชั้นไม่ได้มาแข่ง ถ้าชั้นมาแข่งแล้วทำไม แข่งไม่ได้งั้นหรอ วางไปเลยป่ะ และอย่าโทรมาอีก”บีสพูดขึ้นสายตามองลงที่พื้น
“เค้าไม่ได้หมายความว่าแข่งไม่ได้นะบีส แต่เค้าเป็นห่วง ถ้าบีสเป็นอะไรไปเค้าคงบ้าแน่ๆ”หญิงสาวที่ชื่อบันนี่พูดขึ้น
“ทุกวันนี้เธอก็บ้าอยู่แล้ว ชอบกวนประสาทอยู่เรื่อย จะไปไหนก็ไปเลยไป ฮุ๊ รำคาญ โทรมาทำซากอะไรเอาป่านนี้”บีสตะคอก
“บีส....เค้าผิดอีกแล้วหรอ เค้าขอโทด เค้าแค่เป็นห่วง”บันนี่พูดขึ้น
“ห่วงบ้าอะไรนักหนา โทรมาอยู่ได้ ว่างไม่ได้เลยหรือไง 5ชม.โทรทียังพอทน นี้โทรมาทุกชม.เลย เธอจำใส่หัวไปเลยนะเธอเป็นแฟนชั้นไม่ใช่แม่อย่าทำตัวก้าวก่ายมากเกินไป ชั้นรำคาญ!!”เสียงตวาดดังขึ้นพร้อมกับที่บีสกดวางสาย และทันใดนั้น
โคร้มมมมมมมมมมมมมมมมม เสียงดังสนั่นที่ทุกคนในวงการนี้รู้ดีว่ามันคือ....เสียงรถคว่ำ ทุกคนในที่นั้นพากันวิ่งไปมุงดูกันใหญ่ บีสเมื่อได้ยินก็วิ่งมุ่งตรงไปอย่างเร็ว
“ไอโทโมะ”บีสแทบทรุดเมื่อฝ่าวงล้อมแล้วเห็นหมวกกันน็อกที่แตกกระจายทั้งๆที่หนาและซื้อมาหลายพัน รถที่สีแตก เฟรมกระจุยและที่สำคัญเลือดอาบจนทั่วร่างของโทโมะเลยก็ว่าได้ ทุกคนมัวแต่ยืนอึ้งมีแต่บีสคนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปหอบตัวโทโมะที่ไร้สติขึ้น
“ไอ้สั* สิ่ว มึงไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไอ้ลูกหมา มึงมันไม่แน่จริง เล่นโปรยถั่วบนถนนแบบนี้มึงมันเชี้ย อย่าให้กูเจอมึงอีกนะ มึงตายคาทีนกูแน่”บีสเอ่ยเสียงดังอย่างไม่รู้ทิศทางเพราะไอหน้าสิวก็หนีกันไปหมดแล้ว
2 เดือนต่อมา
ณ ร้านขายดอกไม้
เวลา 22.35น.
“สวัสดีคะเชิญคะ”เสียงสาวน่าใส่บุคลิกดูเท่ห์ๆห้าวๆแต่สำเนียงการพูดอ่อนหวานน่าฟังเป็นที่สุด หน้าตาก็หวานจนบาดใจ อาจจะเพราะที่ทรงผมที่ซอยขึ้นไปผมเธออยู่ในสีดำสนิท ดวงตากลมโตกำลังมองดูลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน
“รับอะไรดีคะ”สาวน้อยที่ชื่อแก้วเอ่ยถามอีกครั้งและยิ้มให้กับชายหนุ่มที่เดินเข้ามา เค้าก้มหน้าตลอดเวลา
“คุณคะ คุณ”แก้วพยายามเรียกแล้วเดินเข้าไปใกล้
“.....”ชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบ
“คุณคะ ร้านจะปิดแล้วนะคะ”แก้วเดินเข้ามาใกล้แล้วพยายามจะมองหน้าชายหนุ่มผู้นั้น
“เดี๋ยวปิดให้”คำพูดเนือยๆดูน่าวังเวงของเขาถูกผลิออกมาจากปากและทันทีที่เขาพูดจบ แกร่ก ครืด ประตูร้านถูกล็อคทั้งด้านนอกและในพร้อมกับปิดรั้วและล็อคอย่างดี
“คะ....คุณเป็นใคร ต้องการอะไร อย่าทำอะไรชั้นนะ”แก้วพูดขึ้นเสียงดังแล้วถอนกรูดไปติดกับเค้าเตอร์คิดเงิน
“ฮึ...”เสียงหัวเราะในคออย่างน่าพิศวงดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มที่ใส่เสื้อหนังสีดำกางเกงสำดำผ้าร่มค่อยๆเงยหน้าขึ้น
“ฮึกๆๆ กะ กะ กะ กลัวแล้วคะ”แก้วพูดแล้วร้องไห้ไปมา
“ฮึๆๆ...”เสียงนั้นหัวเราะถี่ขึ้น พรึ่บ ทันใดที่เค้าเงยหน้าขึ้นไฟทั้งร้านก็ดับลง
“กรี๊ดดดดดดดดด เหวอออออ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!”แก้วกรี๊ดเพราะไฟดับนิดเดียวแล้วตามสัญชาติทยานแก้วกำลังจะวิ่งไปเกาะชายหนุ่มร่างสูงแต่ดันทะลุตัวไปได้ แก้วเลยกรี๊ดออกมาลั่น
“ผี.........!!!!!! ช่วยด้วยคะ ผีหลอกหนู ช่วยด้วยคะ”แก้ววิ่งไปเอาหลังพิงกำแพงและย่อนั่ง พรึ่บ และแล้วไฟก็ติด แก้วหันมองไปรอบห้อง ทุกอย่างสภาพปกติ ครืด ติ๊งหน่อง รั้วเปิดขึ้นประตูเปิดออกทุกอย่างเป็นสภาพเดิมกับตา แก้วแทบช็อกเมื่อเห็นรั้วเปิดขึ้นเองและประตูถูกดันเข้าให้เปิด
“เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ ฮือๆๆ”แก้วส่ายหัวไปมาแล้วเดินไปปิดร้านช้าๆ ยังไงเราก็ย้ายออกไม่ได้ ที่นี่อยู่ฟรีแล้ว ถ้าไปที่อื่นก็เสียค่าเช่าสูง เฮ้อ........ แก้วนึกในใจแล้วเดินไปปิดประตูล็อกพร้อมปิดรั้ว แล้วขึ้นไปนอนบนห้อง แก้วเอนตัวลงนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ แก้วเปิดโทรทัศน์ดูแต่ดันเกิดสัญญาณล่ม
“เป็นอะไรนะ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะล่ม”แก้วตบโทรทัศน์เบาๆ
“ฮึๆ....”เสียงพิศวงกรอกหูแก้วจนกระเด้งออกจากโทรทัศน์แล้ววิ่งขึ้นที่นอนพร้อมห่มผ้าไว้คลุมหัว
“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะคะ”แก้วพนมมือแนบอกและเขย่าไปมาอยู่ใต้ผ้าห่ม
“ฮึๆๆๆๆ.......”เสียงนั้นดังต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
“ขอร้องนะคะ”แก้วหลับตาปี๋
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากโทรทัศน์ แก้วสะดุ้งเปิดผ้าแล้วมองหน้าจอโทรทัศน์จอแบนเครื่องใหญ่ เฮือกกกกกกกกก แก้วหายใจเต็มปอดตาค้างเมื่อเห็นผู้ชายคนที่เคยเข้ามาในร้านกับชุดหนังสีดำและเอาหมวกติดกับเสื้อคลุมหัวไว้พร้อมก้มหน้าอยู่หน้าโทรทัศน์
“ขอร้องนะคะ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ”แก้วไหว้และเอาหลังชิดกับหัวเตียง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”เสียงกรี๊ดใกล้ๆหูแก้วเหมือนอยู่ข้างๆดังขึ้น
“ว้ายยยยยยย”แก้วกรี๊ดตามและขยับหนีจนตกเตียง แก้วค่อยๆลุกและจับไหล่ตัวเอง แต่....แก้วเห็นขาของผู้ชายชุดดำยืนอยู่ตรงหน้า แก้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองไล่จากเท้า
“หะ.....โห”แก้วอุทานออกมาเพราะชายที่เค้าเห็น สูง ขาว หน้าตาดีมาก ผมด้านหน้าปัดไปทางซ้าย เหนือคาดที่แก้วคิดไว้ว่าหน้าต้องเละ มีหนอนน้อยไชไปมา แต่นี่ใสสะอาดดุจแพรไหม ที่สำคัญ ริมฝีปากเอิบอุ่มชมพูอ่อนเผยรอยยิ้มน้อยๆให้
“ฮึ....”เสียงหัวเราะในลำคอที่แสนจะน่าพิศวงที่สุดในโลกใบนี้ดังขึ้น แก้วสะดุ้งและส่ายหัวไปมา แก้ววิ่งขึ้นที่นอนอีกครั้ง ชายชุดดำหายตัวไปทันตาเห็น
“ชัดเจนเลยทีนี้”ตอนแรกแก้วก็นึกว่าเป็นขโมยที่แอบซุ่มตัวตามจุด แต่เมื่อเห็นเค้าหายตัวไปต่อหน้าก็ถึงบางอ้อทันที
“ฮึ......”เสียงหัวเราะแสนพิศวงดังขึ้นข้างหูในระยะประชิดกับใบหน้าของแก้ว แก้วหันไปมองในทันที ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันมากๆจนมากที่สุด ชายหนุ่มที่แสนจะโคตรหล่อจ้องมองใบหน้าสาวสวยที่ตอนนี้ลมแทบกิน แก้วสบตาตอบอย่างไม่ถนัด
“ฮึ.....”ระหว่างที่แก้วกำลังอึ้งเสียงหัวเราะชวนพิศวงก็ดังขึ้นทำให้แก้วสะดุ้งและสปริงตัวออก
“พอสักทีเถอะ ชั้นชักจะไม่กลัวแล้วนะ”แก้วขยับออกมาแล้วพูดออกไปทั้งที่ในใจยังป๊อดเต็มที่
“ฮึ.....”ผีชุดดำยังคงหัวเราะในคอ
“ชั้นว่านายไป ขากถุย เลยดีกว่าไหม ฮึๆๆๆ อยู่ได้”แก้วหันมองหาชายชุดดำแต่กลับหายไปซะแล้ว
ณ บ้านของโทโมะ
“นายท่านตายไปอย่างงี้พวกเราจะเอาใครเป็นหัวหน้ามาเฟียคนใหม่หละ”เบฟ ผู้มีอำนาจรองจากโทโมะพูดขึ้น
“นั่นหนะสิ โทโมะนะมาตายอะไรตอนนี้”บลิ้น ผู้ช่วยของที่นั่นพูดขึ้น นี่เป็นการประชุมครั้งใหญ่ของที่นี่ ทุกคนที่มีตำแหน่งสูงๆมาร่วมชุมนุมกัน แต่ผู้ที่สูงสุดในนี้ตอนนี้ก็ต้องยกให้ บีส ถึงแม้จะมียศเป็นลูกน้อง แต่โทโมะเคยสั่งไว้ว่า ถ้าเค้าเป็นอะไรไป ให้บีสมีอำนาจสูงสุดในทุกอย่าง
“ชั้นคิดว่าคนที่น่าจะเป็นได้ก็น่าจะเป็น.....”อาร์เก้นเอ่ยแล้วเงยหน้ามองบีส
“บีส....!!”ทุกคนในที่ประชุมพากันแหกปากและมองหน้าบีส
“อย่าเลยดีกว่านะ”แต่เสียงนึงขัดขึ้น
“ทำไมหละบันนี่”เชฟ สาวสวยที่มีตำแหน่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ถามขึ้น
“ชั้นว่า.....เอ่อ”บันนี่สาวน้อยวัยใสผิวขาวหน้าตาน่ารักอ้ำอึ่ง
“ตกลง ชั้นจะรับหน้าที่นี้แทน”บีสพูดขึ้นแล้วลุกขึ้นยืน ทุกคนปรบมือให้กับบีสในทันที
“แต่ชั้นขัดแย้งนะ”บันนี่ยืนขึ้น
“เธอไม่มีสิทธิอะไรกับที่นี่ มีสิทธ์อะไรมายุ่งเกี่ยว ชั้นแค่ให้เธอเข้ามาอยู่ในห้อง ในฐานะเรขาส่วนตัว เธอไม่ใช่ผู้บริหารหรือหุ้นส่วนของที่นี่เลย ชั้นมอบสิทธิ์ให้เธอเข้ามาในนี้ได้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว เธออย่าพูดมาก ถ้าพูดมากแบบนี้ ออกไปเลย ไป๊!!”บีสเดินเข้าไปผลักอกบันนี่ บันนี่เอียงเล็กน้อยและหน้าเสีย
“เค้าขอโทดนะบีส เค้าห่วงบีส ตำแหน่งนี้มันอันตรายเกินไปนะบีส”บันนี่ดึงแขนบีสที่กำลังจะเดินไปนั่งที่
“เธออย่ามาจู้จี้ได้ไหม รำคาญจริงๆ เอ้าพวกเรา เลิกประชุม เอาตามนี้!!”บีสเอ่ยเสียงดังแล้วสลัดแขนออกจากบันนี่
“ใจเย็นๆกันนะว้อยยย”อาร์เก้น และ อาร์กี้ แฝดชายหน้าตาดีเดินกอดคอกันมาพูดแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับคนอื่นๆ
“ขอโทดนะบีพ บันนี่ขอโทดจริงๆ ยกโทดให้บันนี่ด้วยนะ”บันนี่เอ่ยขึ้นแล้วรั้งแขนบีสไว้
“เออ ก็ได้ อย่าจู้จี้อีกก็แล้วกัน”บีสพูดจบก็หันมามองบันนี่ที่ยิ้มออกมาน้อยๆ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
มาแล้วววว เรื่องนี้น่ารักๆกุ๊กกิ๊กดี (รึเปล่า) ฮิฮิ
ฝากด้วยนะจ๊ะ ด้ากลับมาแล้ววว คิดถึงกันบ้างไหม ?? muah!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ