Sorry Sorry , i need you

10.0

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19.20 น.

  4 ตอน
  210 วิจารณ์
  16.24K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“แน้...จะน่าเบื่อหรือน่าสนุก ฮันนี่ก็ต้องตั้งใจเรียน อย่าทำให้ผมเป็นห่วง...อ้อ... เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวเรื่อยาเสพติดในมหาลัยอีก เราอย่าได้ไปยุ่งกับมันเชียว”

 

 

 ............................................................................................................................

 

ร่างเล็กยิ้มกริ่มหลังจากฟังคำสอนของเขา  เห็นมั้ยล่ะ...เขาไม่ใช่พ่อก็ดุเหมือนพ่อเข้าไปทุกวัน  บางครั้งที่เธอดื้อมากๆเข้าก็ถูกเขาเรียกไปอบรมเทศนาเป็นค่อนๆวัน จนเธอถึงขึ้นสวนกลับให้เขาไปบวชพระกันเลยทีเดียว...แต่ก็น่าแปลก ที่เธอมักจะงอนเขาอยู่บ่อยๆก็จริงแต่กลับไม่เคยเบื่อหรือรำคาเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ตั้งใจจะงอนเขาแท้ๆแต่กลายเป็นว่าเธอเองนั้นแหละที่เป็นฝ่ายง้อเขา...งอนไม่ได้เกินวันจริงๆ

 

 

 

“ยานะไม่ติดหรอก...แก้วติดพ่อคนเดียว จริงๆน้า”   แก้วคล้องคอเขาไว้แน่นพลางซบใบหน้าลงบนไหล่กว้างของเขาอย่างออดอ้อน ประโยคสุดท้ายที่พูด เธอจงใจทำเสียงหวานอิดเอื้อนใส่เขา  ซึ่งก็ได้ผล...เขาเชยคางเธอขึ้นพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่

 

 

“เดี๋ยวกลับมา ผมมีเซอร์ไพร์ทให้ฮันนี่ด้วย...โทษฐานที่ทำตัวน่ารักเกินเหตุ”  

 

 

“จริงหรือค่ะ ? พ่อน่ารักที่สุดเลย..ฮื้ม”  หอมแก้มเขาทั้งซ้ายขวาอย่างดีอกดีใจเหมือนเด็กเจอของเล่นชิ้นโปรด  เขาพยักหน้าเปื้อนยิ้มเพื่อยืนยันจุดประสงค์เดิมให้เธอมั่นใจ

 

 

“วันนี้ผมเลิกกองเร็ว คงกลับมาหาฮันนี่ไวกว่าเดิม..ไปนะครับ”    เขาแยกตัวออกมาจากเธอ..ขับรถมากองถ่ายก็จวนจะแปดโมง นางเอกคู่ขวัญอย่าง  ‘จินนี่’  เดินเข้ามาทักทายด้วยความสนใจ แววตากลมโตมองเขาพราวระยิบ

 

 

“สวัสดีค่ะโทโมะ มาเช้าจังนะคะ”

 

 

“ครับ  แต่ผมว่าไม่เท่าคุณ”   สองพระนางคุยกันอย่างถูกคอเสียจนขาเม้าท์ในกองซุบซิบนินทาถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ดูท่าจะมีเค้าความจริงตามกระแสข่าวเสียแล้ว...ทั้งสองใช้เวลาถ่ายละครด้วยกันทั้งโดยไม่รู้เลยว่าคนทั้งคู่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งกอง    เพียงแต่จินนี่เท่านั้นที่รู้ตัวและดูท่าเธอจะพึงพอใจเขาอยู่เช่นกัน  วันนี้ทั้งวันเธอพยายามหว่านเสน่ห์ให้เขาเต็มที่

 

 

แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะดูไม่ออก  โทโมะพยายามปฏิเสธความรู้สึกของจินนี่อย่างนิ่มนวลที่สุดจนเธอนึกขัดใจแต่ก็ไม่ละความพยายาม...”

 

 

“ดื่มน้ำคลายร้อนให้ชื่นใจก่อนค่ะ..เห็นคุณเหนื่อยมาทั้งวัน หรือจะให้จินนี่ช่วยนวดให้ก็ได้นะคะ”

 

 

“เอ่อ...อย่าดีกว่าครับ ผมไม่เมื่อย”  เธอทำท่าจะเข้ามานวดให้เขาจนโทโมะต้องรีบปฏิเสธทันที  เขารับน้ำจากเธอมาดื่มเพียงเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจแล้วเดินจากมาอีกที่หนึ่ง สร้างความฮึดฮัดขัดใจให้กับจินนี่เป็นอย่างมาก เธอเป็นถึงลูกคุณหนูลูกสาวเสี่ยใหญ่ไม่เคยถูกขัดใจย่อมโมโหง่ายเป็นธรรมดา

 

 

“คนบ้าอะไร ทื่อยิ่งกว่าหุ่นยนต์ อ่อยขนาดนี้ยังไม่รู้จักคว้าไว้อีก !”

 

 

 

 

โทโมะหามุมสงบนั่งพักก่อนจะนึกเปรียบเทียบผู้หญิงสองคนอย่าง  ‘แก้ว’ กับ ‘จินนี่’  แน่นอนว่าถ้าให้เลือก..ยังไงเสียเขาก็เลือกแก้วอยู่แล้ว  เธอเป็นถึงยอดดวงใจของเขานี่นา  ยามงอนหน้ามุ่ยแต่เขากลับมองว่าเธอน่ารักอยู่ดี  ยิ่งยามอ้อนล่ะไม่ต้องพูดถึง พ่อค่ะอย่างงั้น พ่อขาอย่างงี้  โทโมะนึกไปยิ้มไปกับนางมารร้ายที่แสนไร้เดียงสาของเขา  แบบแก้วน่ะเขาเรียกว่ามีเสน่ห์  แค่คำพูดช่างฉอเลาะของเธอก็ทำจิตใจเขาปั่นป่วนเสียจนไม่มีเวลาคิดนอกใจ...

 

 

 

             ส่วน ‘จินนี่’ เขายอมรับว่าเธอสวย คำพูดคำจาปราดเปรียวตามสมัย หากทว่าเขากลับมองว่าเธอปรุงแต่งมันขึ้นจนเกินงาม  บางทีเธอก็ดูหวานจนเกินไป บางทีก็ดูเปรี้ยวจนเกินไป  เชื่อสิ...มันไม่มีอะไรพอดีกับเขาหรอก   คำว่ามีเสน่ห์ที่เขาใช้กับแก้ว ใช้กับจินนี่ไม่ได้หรอก เพราะคำว่า ‘มีเสน่ห์’  กับ  ‘หว่านเสน่ห์’  มันแตกต่างกัน !

 

 

 

               

โทโมะยืนคิดอะไรเพลินๆก่อนจะสะดุดเข้ากับเสียงโหวกเหวกของคนทั้งกองจับใจความได้ว่า  ช่วยด้วย ! คุณจินนี่ตกน้ำ เร็วเข้า !”    ...ไม่รอช้าเขารีบมุ่งหน้าไปดูทันที  ก่อนจะเห็นร่างของเธอโบกมือไหวๆขอความช่วยเหลืออยู่กลางสระ เขารีบดำดิ่งไปช่วยพาเธอขึ้นไปส่งโรงพยาบาลทันที  โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นแผนเรียกร้องความสนใจจากเขา !

 

 

 

               

“ทำไมพ่อไม่รับโทรศัพท์นะ !” ร่างบางในชุดน่ารักสีหวานกดโทรศัพท์ทิ้งอย่างขัดใจ ก่อนจะเปิดทีวีดูไปพลางๆ

 

 

 

               

เธอขว้างรีโมตทิ้งจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆด้วยความโมโหเมื่อเห็นภาพคนรักของตัวเองบนหน้าจอทีวีกำลังโอบอุ้มร่างไร้สติของนางเอกคู่ขวัญส่งโรงพยาบาลด้วยความห่วงใย เนี่ยนะหรือ ! เซอร์ไพร์ทของเขา  แสดงความห่วงใยผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาเธอแบบนี้ ต้องการจะสื่อถึงอะไร !

 

 

               

“หึ ! ยัยนางเอกร้อยเล่มเกวียน ได้ข่าวว่าเป็นนักว่ายน้ำเหรียญทองประจำมหาลัยไม่ใช่เหรอ เนี่ยนะจะจมน้ำ...มารยาชัดๆ  !”

 

 

 

               

สี่ทุ่มกว่าๆแล้ว โทโมะจึงพาร่างอันอ่อนเพลียของเขากลับมาหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการพาจินนี่ส่งโรงพยาบาลมาทั้งวัน...แถมเขายังลืมเรื่องเซอร์ไพร์ทแก้วไปเสียสนิท นึกขึ้นได้ก็รีบเข้ามาหาเลยทันที...เขามองร่างแน่งน้อยในชุดสีชมพูน่ารักๆที่นอนหลับบนเตียงด้วยความสงสาร ในขณะที่เขากำลังจะก้มจุมพิตเธอนั้น แก้วกลับรู้สึกตัวและเบี่ยงหน้าหนีทันที...

 

 

               

“ไม่ต้องมาแตะต้องตัวเค้านะ..พ่อออกไปเลย”

 

               

“ฮันนี่...ฟังผมก่อนสิ”

 

 

“ไม่ฟัง ! พ่อเอาเวลาไปดูแลนางเอกของพ่อดีกว่า..ไม่ต้องมาสนใจแก้วหรอก”  เธอพูดเสียงประชด จนโทโมะอ่อนใจรวบตัวเธอเข้ามากอดอย่างเถียงไม่ออก มือบางปัดป่ายเปะปะไปตามไหล่หนาอกกว้างของเขาด้วยความโกรธ

 

 

 

“ฮันนี่ เขาตกน้ำ...ผมแค่ช่วย”

 

 

“โทรบอกสักนิดก็ไม่มี..พ่อลืมก็บอกมา !”

 

 

“...ฮันนี่”   เขาเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่มีอะไรจะเถียง ท่าทางของเขายิ่งทำให้แก้วน้อยใจมากขึ้น ทำท่าจะผละออกจากเขาเสียดื้อๆ

 

 

“ผู้หญิงเขามารยาใส่ พ่อยังไม่รู้ตัว...ลูกไม้ตื้นๆแบบนั้นพ่อก็ดูไม่ออก !” 

 

 

“นี่...ว่าเขาทำไม หัดมีเหตุผลบ้างสิฮันนี่ คนจะจมน้ำก็ว่ามารยา แล้วถ้าเขาเป็นจริงๆ ผมไม่ลงไปช่วยล่ะ เขาไม่ตายหรอกหรือ ?”  

 

 

“พ่อไม่ทันผู้หญิง !”

 

 

 

“เหมือนที่ไม่ทันฮันนี่นะเหรอ ?”  คราวนี้เขาชักฉุนขึ้นมาบ้างเสียแล้วกับความไม่มีเหตุผลของแก้ว

 

 

“ถ้าแก้วเป็นคนไม่ดีนักก็ไม่ต้องมายุ่ง !” 

 

 

“ดี ! ผมก็ไม่อยากยุ่งกับเด็กนิสัยไม่ดีตอนนี้เหมือนกัน..ใจเย็นเมื่อไหร่เราค่อยมาคุย !”

 

 

 

 

เขาตัดบทอย่างฉุนๆก่อนจะเดินหนีเข้าห้องน้ำไป แก้วมองตามอย่างขัดใจ ถึงจะเคยทะเลาะกับเขาบ่อยครั้ง แต่โทโมะก็ไม่เคยโกรธมากขนาดนี้มาก่อน...เป็นเพราะแม่นางเอกนั่นนะเหรอที่ทำให้เขาโกรธมากขนาดนี้...ยิ่งคิดยิ่งน่าน้อยใจนัก  แก้วคิดว่าเขาใจดำเหลือเกินที่ทำท่าทีเย็นชาใส่เธอแบบนี้...หลายวันมานี้โทโมะเอาแต่หมกมุ่นกับการทำงานไม่สนใจแก้วเลยแม้แต่น้อย  เขาโหมงานหนักกลับมาเกือบรุ่งสางทุกวัน บางวันก็ไม่กลับปล่อยให้เธอนอนน้ำตารินด้วยความน้อยใจอยู่คนเดียว

 

 

 

 

และวันนี้ก็คงเป็นเช่นทุกวัน เขาคงไม่กลับมาหรอก ถึงกลับมาเขาก็ไม่ยอมพูดกับเธอซ้ำยังมองแก้วด้วยแววตาว่างเปล่าเฉยชาเสียจนแก้วน้ำตารื้นเขาก็หาได้สนใจ  วันนี้หลังเลิกเรียนแก้วเลยนัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆจนเมากลับมาแทบไม่ได้สติ หญิงสาวยิ้มสมเพชตัวเองก่อนจะก้าวเท้าเข้าห้องไปด้วยคิดว่าเขาคงไม่กลับมา...ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องมาเธอก็แทบพยุงร่างตัวเองไม่อยู่ ดีที่ยังไม่ล้มเพราะมีท่อนแขนแขนใหญ่ของใครบางคนพยุงร่างไว้

 

 

 

“กินเหล้าด้วย ! เดี๋ยวนี้ริอ่านติดเหล้าแล้วหรือ ?”   หญิงสาวโซเซพยายามปรือตามองหาต้นเสียงก่อนจะพบใบหน้าถมึงทึงของโทโมะที่กำลังโอบประคองเธออยู่  เขามองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ดูเอาเถิด...เธอไม่เคยเกเรแบบนี้มาก่อน ดูวันนี้ทำเข้า !

 

 

 

“พ่อ...พ่อกลับมาหาแก้วแล้ว”    ร่างเล็กกระโดดกอดเขาทั้งที่ยังไม่รู้สติมากนัก

 

 

“เหลวไหลใหญ่แล้ว...ใครสั่งใครสอนให้กินเหล้า !”  เขาว่าเสียงดุ

 

 

“พ่อไม่รักเค้าแล้ว พ่อก็ไม่ต้องมาห่วง”

 

 

“ไปกันใหญ่แล้ว”

 

 

“พ่อ...”  เธอครางเรียกเขาอย่างคนละเมอ

 

 

“ทำไมทำตัวเป็นเด็กนิสัยไม่ดีแบบนี้..ฮันนี่ ! ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงนักเด็กบ้า ! สองยามสามยามแล้วไม่ยอมกลับ..รู้มั้ยผมเป็นห่วง”

 

 

“ก็พ่อทิ้งแก้วก่อน บางวันพ่อก็ไม่กลับ ฮึก...ใช่สิ  พ่อไปหลงนางเอกใหม่ของพ่อแล้วนี่”   แก้วสวนกลับเขาทันควัน น้ำตาแห่งความน้อยใจรื้นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

 

 

“ก็ได้ ผมขอโทษ แต่ตอนนั้นผมไม่อยากให้เราทะเลาะกันเลยเลี่ยง...อีกอย่างผมโกรธที่แก้วไม่ไว้ใจหาว่าผมมีคนอื่น ทั้งที่จริงไม่ใช่ !”

 

 

เขาพูดออกมาตามตรง แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ...เขาไม่คิดจะมาดูดำดูดีเธอบ้างเลยหรือไง ? ปล่อยให้เธอนอนอยู่คนเดียวในห้อง เขาโกรธเธอ  เธอก็โกรธเขา..เขาหาว่าเธอไม่ไว้ใจ แล้วเขาละ...ลืมสัญญาที่เขาเป็นคนพูดไปเสียสนิท เพียงเขาโทรมาบอกเธอสักนิด แก้วก็พร้อมจะเข้าใจโดยไร้ข้อกังขา

 

 

 

“ก็แก้วไม่ดีไง..พ่อก็ไปหาเขาสิ”

 

 

 

“จะไล่ไปไหน”   เขาถามเสียงห้วนพลางแบกร่างอรชนขึ้นบ่าแล้ววางพาดลงกับเตียง  เขาทุ่มตัวตามลงมา ใช้เข่าทั้งสองคร่อมร่างเธอเอาไว้ แก้วพยายามผลักอกเขาออกแต่กลับไม่ทำให้ร่างนั่นขยับออกไปได้เลย..แก้วถลึงตาขวางๆใส่เขาแต่พอสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มที่จับจ้องอยู่นั้น...แก้วก็ต้องรีบปิดม่านตาลงไม่ให้เธอตกเป็นทาสสายตาวาบหวามของเขา

 

 

 

“ไปหานางเอกของพ่อไง !”

 

 

“ก็นอนอยู่ต่อหน้าผมนี่ !”  หญิงสาวแก้มแดงซ่านกับคำพูดของเขา

 

“ให้ตายสิ..ทำไมฮันนี่ต้องไล่ผมด้วย ทำไมเราต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องของคนอื่น !”   โทโมะพูดเสียงอ่อยพลางก้มหน้าลงมาจนชิดสันจมูกรั้นๆของอีกฝ่าย

 

 

“ไม่รู้ล่ะ”

 

 

“อยากให้ไปหาจินนี่นักเหรอ..ก็ได้ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”  เขาทำท่าจะลุกออกไปหาแม่นางเอกนั่นจริงๆ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแก้วก็รีบผุดลุกมากอดรั้งเขาไว้

 

 

“ก็ลองพ่อไปสิ..แก้วจะตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย..ไม่ได้ขู่ !”  เขาอดที่จะขันกับท่าทีแบบนั้นของแก้วแต่ต้องแสร้งตีหน้าขรึมไม่ให้เด็กเอาแต่ใจได้ใจเป็นอันขาด

 

 

“ก็เห็นไล่นัก ทีงี้จะมาห้าม ฮันนี่จะเอาไง ?”

 

 

“พ่ออ่ะ...แก้วไม่ให้พ่อไปไหนทั้งนั้นแหละ  ..ทำไมพ่อไม่ง้อ”  แก้วตัดพ้อเขาเสียงอ่อย

 

 

“กลิ่นละมุดหึ่งเชียว..ไปอาบน้ำไป ออกมาแล้วจะง้อ”   เขาทำท่าย่นจมูกใส่ก่อนจะไล่เธอไปอาบน้ำ หญิงสาวทำท่าอิดเอื้อนเซถลาไปกอดเขาพลางซุกซบดวงหน้างามลงบนแผ่นอกของเขา ใบหน้าสวยถูไถอย่างออดอ้อน ทำท่าจะไม่ยอมปล่อยจากเขาง่ายๆ

 

 

“เมาจัง”

 

 

“แน้...ถ้าไม่ไปอาบ ผมจะไปหาจินนี่จริงๆด้วย”   คำขู่ของเขาทำให้แก้วต้องรีบไปอาบน้ำทันที แต่ก็ยังไม่วายจะค่อนคอดเขา

 

 

“พ่ออ่ะ ! ถ้าแก้วออกมาไม่เจอพ่อแก้วจะตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย..อ้อ แล้วก็จะตามไปแหกอกนางเอกของพ่อด้วย !”

 

 

 

โทโมะหัวเราะร่วนกับคำขู่ฟ่อของแมวน้อย สักพักเธอก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเดียว  หญิงสาวหยุดยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ก่อนจะปลดผ้าขนหนูออกจากเรือนกายจนมันไปกองอยู่ที่ข้อเท้า  เรือนร่างงามปรากฏต่อสายตาของเขาอย่างท้าทาย  เธอไม่ได้ขวยอายต่อสายตาเขาเลยแม้แต่น้อย  โทโมะมองร่างขมองอิ่มแล้วส่ายหน้าอย่างเอ็นดู..ยามที่เธอไล้ครีมบำรุงผิวไปตามร่างกาย มันดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

 

 

 

เขามองแผ่นหลังเนียนขาวลงมายังสะโพกกลมกลึง เอวคอดกิ่ว และบั้นท้ายงามงอนด้วยรอยยิ้มพราว  สักพักแก้วก็แต่งตัวเสร็จก่อนจะตรงมาหาเขาที่นั่งอยู่บนเตียง  เธอทิ้งตัวลงนั่งบนตักเขาถือเอาอกแกร่งเป็นแหล่งพักพิงอิงหลังอย่างสบาย...

 

 

 

 

“นึกว่าพ่อจะทิ้งแก้วไปแล้วซะอีก”

 

 

“น่ารักขนาดนี้ จะทิ้งลงหรือ ?”  เขาจูบแก้มนวลเบาๆ

 

 

“ผู้หญิงทุกคนก็สวยไปหมดสำหรับพ่อแหละน่า”

 

 

“ใครบอก”  เขาบีบจมูกรั้นๆของเธออย่างหมั่นเขี้ยว  “คิดไปเอง”

 

 

“ก็พ่ออ่ะ...” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น แก้มนวลขึ้นสีแดงเรื่ออย่างห้ามไม่ได้จนเขาต้องเอี้ยวใบหน้าคมคายมาจ้องมองเธอเพื่อเค้นคำพูดจากแก้ว

 

 

“ทำไม...ผมทำไม”

 

 

“ไม่มีอะไร”

 

 

“บอกหน่อย”   เขาทำเสียงอ้อน กระซิบเสียงแหบพร่าชิดริมหูสวยพลางกอดกระชับร่างแน่งน้อยในอ้อมแขนไว้แน่น ล่นเอาแก้วขวยอายด้วยความเขิน  ราวกับมีเปลวไฟลวกลามไปตามกระแสเลือดจนเธอร้อนผ่าวไปหมด ก่อนจะทนกับแรงกดดันไม่ไหวจนต้องพูดออกมา...

 

 

“ก็พ่ออยากเกิดมาหล่อทำไมเล่า !”

 

 

“ฮะๆ หล่ออย่างเดียวเหรอ?”  เขาแกล้งถามเหย้าหยอด

 

 

“ใจดีด้วย”

 

 

“แล้ว..?” เขาเลิ่กคิ้วเป็นเชิงถาม รอยยิ้มพราวปรากฏบนใบหน้ายิ่งทำให้แก้วทั้งร้อนรน  ทั้งเขิน ทั้งอาย..ให้ตายเถอะ...เขามีอิทธิพลต่อหัวใจและร่างกายของเธอมากขนาดนี้เชียวหรือ ?  แก้วรู้สึกควบคุมปฏิกิริยาในร่างกายไม่ได้เลย

 

 

“แล้วก็มีเสน่ห์”

 

 

“แค่เนี้ย”

 

 

“แล้วก็...เก่งด้วย”  หญิงสาวแหวขึ้นเสียงดังเมื่อเขาไม่เลิกแกล้งเสียที

 

 

“เก่งหรือ...เก่งเรื่องอะไร ?”  ใบหน้านวลแดงซ่านขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ  เมื่อสบเข้ากับสายตาดำสนิทที่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ไว้เต็มเปี่ยม  หญิงสาวจำต้องเบี่ยงประเด็นหนีเขาเพื่อเอาตัวรอด

 

 

“ก็เรียนเก่ง..เล่นละครเก่ง”

 

 

 

“หรือ ? แค่นี้เอง..โถ่ นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นเสียอีก ไม่เป็นไรไว้ผมไปถามจินนี่ก็ได้..”    แก้วเริ่มหมั่นไส้กับผู้ชายหน้าหล่อ ปากหวานตรงหน้านี้เสียแล้ว  หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรั้งใบหน้าเขามาประทับจูบ  เขาตอบรับเธออย่างอบอุ่นอ้อยอิ่ง เนินนานจนแทบหมดลมหายใจกว่าที่แก้วจะถอนริมฝีปากออก  โทโมะใช้นิ้วโป้งของเขาปาดน้ำใสๆที่ไหลเลอะมุมปากออกให้แก้วอย่างอ่อนโยน...

 

 

 

“เรื่องแบบนี้พ่อก็เก่ง..ฮึ่ย พอใจยังเล่า !”  โทโมะหัวเราะร่วนก่อนจะคว้าร่างงามเข้าหาอีกครั้ง...

 

 

 

 

 

                                 @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

 

 

 

               

ร่างบางค่อยๆปรือตาขึ้นต้อนรับการมาเยือนของแสงแดดยามเช้า  ถ้าว่าเธอไม่สายตาฝ้าฝางจนเกินไป  แก้วเห็นเงาลางๆของกล่องกำมะหยี่สีแดงใบเล็กสำหรับบรรจุแหวน (?)  เธอลุกผึงขึ้นจากเตียงพลางกวาดสายตามองหาใครอีกคนทันที  ก่อนจะพบเข้ากับดวงหน้าหวานล้ำและหล่อเหลาเกินมนุษย์ของใครอีกคนที่กำลังโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง  เขาเกยคางไว้บนไหล่ของเธอพลางเอื้อมมือมาหยิบเจ้ากล่องกำมะหยี่นั้น...

 

               

“เซอร์ไพร์ทครับ..ผมรักฮันนี่นะ”     เขาเปิดกล่องกำมะหยี่พบเข้ากับแหวนเพชรเม็ดงามขนาดพอดีกับนิ้วเรียวสวยและเหมาะกับสาววัยแรกรุ่นอย่างแก้ว  ตัวเรือนของแหวนเกลี้ยงเกลาเงางาม พร้อมกับเพชรเม็ดเล็กสำหรับใส่เล่น แต่หารู้ไม่ว่าราคามันเหยียบสองแสน   แก้วกระพริบตาปริบๆอย่างตื้นตันจนน้ำตาไหล ก็ถูกเขาแซวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ

 

 

“เอ้า...ดีใจก็ร้อง เสียใจก็ร้อง  ผมอยากเห็นรอยยิ้มของฮันนี่มากกว่า”  เขาเอี้ยวตัวมาจุ๊บแก้มเธอเบาๆ

 

 

“ก็แก้วดีใจนี่นา..พ่ออ่ะ”   เธอเบ้หน้าอีกครั้งเตรียมจะร้องไห้ออกมาทำให้เขาต้องรีบโอ๋

 

 

“โถ่...อย่าร้องน้า โอ๋ๆ มาเดี๋ยวผมสวมให้”  แก้วปาดน้ำตาทิ้งตามคำบอกของเขา...โทโมะค่อยๆบรรจงสวมแหวนเข้าที่นิ้วเรียวสวยข้างขวาให้แก้วก่อนจะโค้งใบหน้ามาจุมพิตที่มือนุ่มอย่างหลงรัก

 

 

“ผมจองไว้ก่อนนะ  ถ้าใครถามว่ามีแฟนหรือยังก็บอกเขาไปว่าหมั้นแล้ว”  ดูพูดเข้า...แก้วอดที่จะปิติซ่านไม่ได้ หญิงสาวเอื้อมมือไปบีบจมูกของเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว

 

 

“แก้วเป็นของพ่อคนเดียว ทั้งตัว ทั้งใจ ต่อให้พ่อไม่รักแก้วแล้ว หรือจะทิ้งแก้วไปวันไหน แก้วอยากให้พ่อรู้..ว่าแก้วรักพ่อคนเดียว”

 

 

 

เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นพร้อมก้มจูบขมับน้อยๆนั่นอย่างหนักหน่วง 

 

 

การที่ได้ยินเธอพร่ำคำรักและคำสัตย์นั้นมันน่าชื่นใจเป็นบ้าสำหรับเขา... 

 

 

“ ‘พ่อ’  ก็เป็นของฮันนี่คนเดียว”

 

 

 

การที่แก้วน่ารักแบบนี้..เขารู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจเหลือคณา ผู้หญิงตรงหน้ามีอิทธิพลต่อเขาทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไร้ข้อกังขาใดๆ  

 

.

 

.

 

.

 

.

 

 

 

 

“ฮันนี่...เราไป มัลดีฟท์กัน”

 

 

 

 

                                    

THE END

 

...........................................................................................................

 

แว้กกกกกกกกกก จบแล้วจ๊ะ ^^; พออ่านได๋ป้ะ (?)


เดี๋ยวเรื่องอื่นๆมันก็จะตามมาครับ - - ;


เบื่อยางงงงง (^o^)/ #ไปทำการบ้านแล้วคร้าบ ฝันดีทุกคน :')

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา