Sorry Sorry , i need you
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“แน้...จะน่าเบื่อหรือน่าสนุก ฮันนี่ก็ต้องตั้งใจเรียน อย่าทำให้ผมเป็นห่วง...อ้อ... เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวเรื่อยาเสพติดในมหาลัยอีก เราอย่าได้ไปยุ่งกับมันเชียว”
............................................................................................................................
ร่างเล็กยิ้มกริ่มหลังจากฟังคำสอนของเขา เห็นมั้ยล่ะ...เขาไม่ใช่พ่อก็ดุเหมือนพ่อเข้าไปทุกวัน บางครั้งที่เธอดื้อมากๆเข้าก็ถูกเขาเรียกไปอบรมเทศนาเป็นค่อนๆวัน จนเธอถึงขึ้นสวนกลับให้เขาไปบวชพระกันเลยทีเดียว...แต่ก็น่าแปลก ที่เธอมักจะงอนเขาอยู่บ่อยๆก็จริงแต่กลับไม่เคยเบื่อหรือรำคาเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ตั้งใจจะงอนเขาแท้ๆแต่กลายเป็นว่าเธอเองนั้นแหละที่เป็นฝ่ายง้อเขา...งอนไม่ได้เกินวันจริงๆ
“ยานะไม่ติดหรอก...แก้วติดพ่อคนเดียว จริงๆน้า” แก้วคล้องคอเขาไว้แน่นพลางซบใบหน้าลงบนไหล่กว้างของเขาอย่างออดอ้อน ประโยคสุดท้ายที่พูด เธอจงใจทำเสียงหวานอิดเอื้อนใส่เขา ซึ่งก็ได้ผล...เขาเชยคางเธอขึ้นพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่
“เดี๋ยวกลับมา ผมมีเซอร์ไพร์ทให้ฮันนี่ด้วย...โทษฐานที่ทำตัวน่ารักเกินเหตุ”
“จริงหรือค่ะ ? พ่อน่ารักที่สุดเลย..ฮื้ม” หอมแก้มเขาทั้งซ้ายขวาอย่างดีอกดีใจเหมือนเด็กเจอของเล่นชิ้นโปรด เขาพยักหน้าเปื้อนยิ้มเพื่อยืนยันจุดประสงค์เดิมให้เธอมั่นใจ
“วันนี้ผมเลิกกองเร็ว คงกลับมาหาฮันนี่ไวกว่าเดิม..ไปนะครับ” เขาแยกตัวออกมาจากเธอ..ขับรถมากองถ่ายก็จวนจะแปดโมง นางเอกคู่ขวัญอย่าง ‘จินนี่’ เดินเข้ามาทักทายด้วยความสนใจ แววตากลมโตมองเขาพราวระยิบ
“สวัสดีค่ะโทโมะ มาเช้าจังนะคะ”
“ครับ แต่ผมว่าไม่เท่าคุณ” สองพระนางคุยกันอย่างถูกคอเสียจนขาเม้าท์ในกองซุบซิบนินทาถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ดูท่าจะมีเค้าความจริงตามกระแสข่าวเสียแล้ว...ทั้งสองใช้เวลาถ่ายละครด้วยกันทั้งโดยไม่รู้เลยว่าคนทั้งคู่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งกอง เพียงแต่จินนี่เท่านั้นที่รู้ตัวและดูท่าเธอจะพึงพอใจเขาอยู่เช่นกัน วันนี้ทั้งวันเธอพยายามหว่านเสน่ห์ให้เขาเต็มที่
แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะดูไม่ออก โทโมะพยายามปฏิเสธความรู้สึกของจินนี่อย่างนิ่มนวลที่สุดจนเธอนึกขัดใจแต่ก็ไม่ละความพยายาม...”
“ดื่มน้ำคลายร้อนให้ชื่นใจก่อนค่ะ..เห็นคุณเหนื่อยมาทั้งวัน หรือจะให้จินนี่ช่วยนวดให้ก็ได้นะคะ”
“เอ่อ...อย่าดีกว่าครับ ผมไม่เมื่อย” เธอทำท่าจะเข้ามานวดให้เขาจนโทโมะต้องรีบปฏิเสธทันที เขารับน้ำจากเธอมาดื่มเพียงเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจแล้วเดินจากมาอีกที่หนึ่ง สร้างความฮึดฮัดขัดใจให้กับจินนี่เป็นอย่างมาก เธอเป็นถึงลูกคุณหนูลูกสาวเสี่ยใหญ่ไม่เคยถูกขัดใจย่อมโมโหง่ายเป็นธรรมดา
“คนบ้าอะไร ทื่อยิ่งกว่าหุ่นยนต์ อ่อยขนาดนี้ยังไม่รู้จักคว้าไว้อีก !”
โทโมะหามุมสงบนั่งพักก่อนจะนึกเปรียบเทียบผู้หญิงสองคนอย่าง ‘แก้ว’ กับ ‘จินนี่’ แน่นอนว่าถ้าให้เลือก..ยังไงเสียเขาก็เลือกแก้วอยู่แล้ว เธอเป็นถึงยอดดวงใจของเขานี่นา ยามงอนหน้ามุ่ยแต่เขากลับมองว่าเธอน่ารักอยู่ดี ยิ่งยามอ้อนล่ะไม่ต้องพูดถึง พ่อค่ะอย่างงั้น พ่อขาอย่างงี้ โทโมะนึกไปยิ้มไปกับนางมารร้ายที่แสนไร้เดียงสาของเขา แบบแก้วน่ะเขาเรียกว่ามีเสน่ห์ แค่คำพูดช่างฉอเลาะของเธอก็ทำจิตใจเขาปั่นป่วนเสียจนไม่มีเวลาคิดนอกใจ...
ส่วน ‘จินนี่’ เขายอมรับว่าเธอสวย คำพูดคำจาปราดเปรียวตามสมัย หากทว่าเขากลับมองว่าเธอปรุงแต่งมันขึ้นจนเกินงาม บางทีเธอก็ดูหวานจนเกินไป บางทีก็ดูเปรี้ยวจนเกินไป เชื่อสิ...มันไม่มีอะไรพอดีกับเขาหรอก คำว่ามีเสน่ห์ที่เขาใช้กับแก้ว ใช้กับจินนี่ไม่ได้หรอก เพราะคำว่า ‘มีเสน่ห์’ กับ ‘หว่านเสน่ห์’ มันแตกต่างกัน !
โทโมะยืนคิดอะไรเพลินๆก่อนจะสะดุดเข้ากับเสียงโหวกเหวกของคนทั้งกองจับใจความได้ว่า ‘ช่วยด้วย ! คุณจินนี่ตกน้ำ เร็วเข้า !” ...ไม่รอช้าเขารีบมุ่งหน้าไปดูทันที ก่อนจะเห็นร่างของเธอโบกมือไหวๆขอความช่วยเหลืออยู่กลางสระ เขารีบดำดิ่งไปช่วยพาเธอขึ้นไปส่งโรงพยาบาลทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นแผนเรียกร้องความสนใจจากเขา !
“ทำไมพ่อไม่รับโทรศัพท์นะ !” ร่างบางในชุดน่ารักสีหวานกดโทรศัพท์ทิ้งอย่างขัดใจ ก่อนจะเปิดทีวีดูไปพลางๆ
เธอขว้างรีโมตทิ้งจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆด้วยความโมโหเมื่อเห็นภาพคนรักของตัวเองบนหน้าจอทีวีกำลังโอบอุ้มร่างไร้สติของนางเอกคู่ขวัญส่งโรงพยาบาลด้วยความห่วงใย เนี่ยนะหรือ ! เซอร์ไพร์ทของเขา แสดงความห่วงใยผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาเธอแบบนี้ ต้องการจะสื่อถึงอะไร !
“หึ ! ยัยนางเอกร้อยเล่มเกวียน ได้ข่าวว่าเป็นนักว่ายน้ำเหรียญทองประจำมหาลัยไม่ใช่เหรอ เนี่ยนะจะจมน้ำ...มารยาชัดๆ !”
สี่ทุ่มกว่าๆแล้ว โทโมะจึงพาร่างอันอ่อนเพลียของเขากลับมาหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการพาจินนี่ส่งโรงพยาบาลมาทั้งวัน...แถมเขายังลืมเรื่องเซอร์ไพร์ทแก้วไปเสียสนิท นึกขึ้นได้ก็รีบเข้ามาหาเลยทันที...เขามองร่างแน่งน้อยในชุดสีชมพูน่ารักๆที่นอนหลับบนเตียงด้วยความสงสาร ในขณะที่เขากำลังจะก้มจุมพิตเธอนั้น แก้วกลับรู้สึกตัวและเบี่ยงหน้าหนีทันที...
“ไม่ต้องมาแตะต้องตัวเค้านะ..พ่อออกไปเลย”
“ฮันนี่...ฟังผมก่อนสิ”
“ไม่ฟัง ! พ่อเอาเวลาไปดูแลนางเอกของพ่อดีกว่า..ไม่ต้องมาสนใจแก้วหรอก” เธอพูดเสียงประชด จนโทโมะอ่อนใจรวบตัวเธอเข้ามากอดอย่างเถียงไม่ออก มือบางปัดป่ายเปะปะไปตามไหล่หนาอกกว้างของเขาด้วยความโกรธ
“ฮันนี่ เขาตกน้ำ...ผมแค่ช่วย”
“โทรบอกสักนิดก็ไม่มี..พ่อลืมก็บอกมา !”
“...ฮันนี่” เขาเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่มีอะไรจะเถียง ท่าทางของเขายิ่งทำให้แก้วน้อยใจมากขึ้น ทำท่าจะผละออกจากเขาเสียดื้อๆ
“ผู้หญิงเขามารยาใส่ พ่อยังไม่รู้ตัว...ลูกไม้ตื้นๆแบบนั้นพ่อก็ดูไม่ออก !”
“นี่...ว่าเขาทำไม หัดมีเหตุผลบ้างสิฮันนี่ คนจะจมน้ำก็ว่ามารยา แล้วถ้าเขาเป็นจริงๆ ผมไม่ลงไปช่วยล่ะ เขาไม่ตายหรอกหรือ ?”
“พ่อไม่ทันผู้หญิง !”
“เหมือนที่ไม่ทันฮันนี่นะเหรอ ?” คราวนี้เขาชักฉุนขึ้นมาบ้างเสียแล้วกับความไม่มีเหตุผลของแก้ว
“ถ้าแก้วเป็นคนไม่ดีนักก็ไม่ต้องมายุ่ง !”
“ดี ! ผมก็ไม่อยากยุ่งกับเด็กนิสัยไม่ดีตอนนี้เหมือนกัน..ใจเย็นเมื่อไหร่เราค่อยมาคุย !”
เขาตัดบทอย่างฉุนๆก่อนจะเดินหนีเข้าห้องน้ำไป แก้วมองตามอย่างขัดใจ ถึงจะเคยทะเลาะกับเขาบ่อยครั้ง แต่โทโมะก็ไม่เคยโกรธมากขนาดนี้มาก่อน...เป็นเพราะแม่นางเอกนั่นนะเหรอที่ทำให้เขาโกรธมากขนาดนี้...ยิ่งคิดยิ่งน่าน้อยใจนัก แก้วคิดว่าเขาใจดำเหลือเกินที่ทำท่าทีเย็นชาใส่เธอแบบนี้...หลายวันมานี้โทโมะเอาแต่หมกมุ่นกับการทำงานไม่สนใจแก้วเลยแม้แต่น้อย เขาโหมงานหนักกลับมาเกือบรุ่งสางทุกวัน บางวันก็ไม่กลับปล่อยให้เธอนอนน้ำตารินด้วยความน้อยใจอยู่คนเดียว
และวันนี้ก็คงเป็นเช่นทุกวัน เขาคงไม่กลับมาหรอก ถึงกลับมาเขาก็ไม่ยอมพูดกับเธอซ้ำยังมองแก้วด้วยแววตาว่างเปล่าเฉยชาเสียจนแก้วน้ำตารื้นเขาก็หาได้สนใจ วันนี้หลังเลิกเรียนแก้วเลยนัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆจนเมากลับมาแทบไม่ได้สติ หญิงสาวยิ้มสมเพชตัวเองก่อนจะก้าวเท้าเข้าห้องไปด้วยคิดว่าเขาคงไม่กลับมา...ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องมาเธอก็แทบพยุงร่างตัวเองไม่อยู่ ดีที่ยังไม่ล้มเพราะมีท่อนแขนแขนใหญ่ของใครบางคนพยุงร่างไว้
“กินเหล้าด้วย ! เดี๋ยวนี้ริอ่านติดเหล้าแล้วหรือ ?” หญิงสาวโซเซพยายามปรือตามองหาต้นเสียงก่อนจะพบใบหน้าถมึงทึงของโทโมะที่กำลังโอบประคองเธออยู่ เขามองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ดูเอาเถิด...เธอไม่เคยเกเรแบบนี้มาก่อน ดูวันนี้ทำเข้า !
“พ่อ...พ่อกลับมาหาแก้วแล้ว” ร่างเล็กกระโดดกอดเขาทั้งที่ยังไม่รู้สติมากนัก
“เหลวไหลใหญ่แล้ว...ใครสั่งใครสอนให้กินเหล้า !” เขาว่าเสียงดุ
“พ่อไม่รักเค้าแล้ว พ่อก็ไม่ต้องมาห่วง”
“ไปกันใหญ่แล้ว”
“พ่อ...” เธอครางเรียกเขาอย่างคนละเมอ
“ทำไมทำตัวเป็นเด็กนิสัยไม่ดีแบบนี้..ฮันนี่ ! ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงนักเด็กบ้า ! สองยามสามยามแล้วไม่ยอมกลับ..รู้มั้ยผมเป็นห่วง”
“ก็พ่อทิ้งแก้วก่อน บางวันพ่อก็ไม่กลับ ฮึก...ใช่สิ พ่อไปหลงนางเอกใหม่ของพ่อแล้วนี่” แก้วสวนกลับเขาทันควัน น้ำตาแห่งความน้อยใจรื้นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
“ก็ได้ ผมขอโทษ แต่ตอนนั้นผมไม่อยากให้เราทะเลาะกันเลยเลี่ยง...อีกอย่างผมโกรธที่แก้วไม่ไว้ใจหาว่าผมมีคนอื่น ทั้งที่จริงไม่ใช่ !”
เขาพูดออกมาตามตรง แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ...เขาไม่คิดจะมาดูดำดูดีเธอบ้างเลยหรือไง ? ปล่อยให้เธอนอนอยู่คนเดียวในห้อง เขาโกรธเธอ เธอก็โกรธเขา..เขาหาว่าเธอไม่ไว้ใจ แล้วเขาละ...ลืมสัญญาที่เขาเป็นคนพูดไปเสียสนิท เพียงเขาโทรมาบอกเธอสักนิด แก้วก็พร้อมจะเข้าใจโดยไร้ข้อกังขา
“ก็แก้วไม่ดีไง..พ่อก็ไปหาเขาสิ”
“จะไล่ไปไหน” เขาถามเสียงห้วนพลางแบกร่างอรชนขึ้นบ่าแล้ววางพาดลงกับเตียง เขาทุ่มตัวตามลงมา ใช้เข่าทั้งสองคร่อมร่างเธอเอาไว้ แก้วพยายามผลักอกเขาออกแต่กลับไม่ทำให้ร่างนั่นขยับออกไปได้เลย..แก้วถลึงตาขวางๆใส่เขาแต่พอสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มที่จับจ้องอยู่นั้น...แก้วก็ต้องรีบปิดม่านตาลงไม่ให้เธอตกเป็นทาสสายตาวาบหวามของเขา
“ไปหานางเอกของพ่อไง !”
“ก็นอนอยู่ต่อหน้าผมนี่ !” หญิงสาวแก้มแดงซ่านกับคำพูดของเขา
“ให้ตายสิ..ทำไมฮันนี่ต้องไล่ผมด้วย ทำไมเราต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องของคนอื่น !” โทโมะพูดเสียงอ่อยพลางก้มหน้าลงมาจนชิดสันจมูกรั้นๆของอีกฝ่าย
“ไม่รู้ล่ะ”
“อยากให้ไปหาจินนี่นักเหรอ..ก็ได้ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เขาทำท่าจะลุกออกไปหาแม่นางเอกนั่นจริงๆ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแก้วก็รีบผุดลุกมากอดรั้งเขาไว้
“ก็ลองพ่อไปสิ..แก้วจะตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย..ไม่ได้ขู่ !” เขาอดที่จะขันกับท่าทีแบบนั้นของแก้วแต่ต้องแสร้งตีหน้าขรึมไม่ให้เด็กเอาแต่ใจได้ใจเป็นอันขาด
“ก็เห็นไล่นัก ทีงี้จะมาห้าม ฮันนี่จะเอาไง ?”
“พ่ออ่ะ...แก้วไม่ให้พ่อไปไหนทั้งนั้นแหละ ..ทำไมพ่อไม่ง้อ” แก้วตัดพ้อเขาเสียงอ่อย
“กลิ่นละมุดหึ่งเชียว..ไปอาบน้ำไป ออกมาแล้วจะง้อ” เขาทำท่าย่นจมูกใส่ก่อนจะไล่เธอไปอาบน้ำ หญิงสาวทำท่าอิดเอื้อนเซถลาไปกอดเขาพลางซุกซบดวงหน้างามลงบนแผ่นอกของเขา ใบหน้าสวยถูไถอย่างออดอ้อน ทำท่าจะไม่ยอมปล่อยจากเขาง่ายๆ
“เมาจัง”
“แน้...ถ้าไม่ไปอาบ ผมจะไปหาจินนี่จริงๆด้วย” คำขู่ของเขาทำให้แก้วต้องรีบไปอาบน้ำทันที แต่ก็ยังไม่วายจะค่อนคอดเขา
“พ่ออ่ะ ! ถ้าแก้วออกมาไม่เจอพ่อแก้วจะตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย..อ้อ แล้วก็จะตามไปแหกอกนางเอกของพ่อด้วย !”
โทโมะหัวเราะร่วนกับคำขู่ฟ่อของแมวน้อย สักพักเธอก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเดียว หญิงสาวหยุดยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ก่อนจะปลดผ้าขนหนูออกจากเรือนกายจนมันไปกองอยู่ที่ข้อเท้า เรือนร่างงามปรากฏต่อสายตาของเขาอย่างท้าทาย เธอไม่ได้ขวยอายต่อสายตาเขาเลยแม้แต่น้อย โทโมะมองร่างขมองอิ่มแล้วส่ายหน้าอย่างเอ็นดู..ยามที่เธอไล้ครีมบำรุงผิวไปตามร่างกาย มันดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
เขามองแผ่นหลังเนียนขาวลงมายังสะโพกกลมกลึง เอวคอดกิ่ว และบั้นท้ายงามงอนด้วยรอยยิ้มพราว สักพักแก้วก็แต่งตัวเสร็จก่อนจะตรงมาหาเขาที่นั่งอยู่บนเตียง เธอทิ้งตัวลงนั่งบนตักเขาถือเอาอกแกร่งเป็นแหล่งพักพิงอิงหลังอย่างสบาย...
“นึกว่าพ่อจะทิ้งแก้วไปแล้วซะอีก”
“น่ารักขนาดนี้ จะทิ้งลงหรือ ?” เขาจูบแก้มนวลเบาๆ
“ผู้หญิงทุกคนก็สวยไปหมดสำหรับพ่อแหละน่า”
“ใครบอก” เขาบีบจมูกรั้นๆของเธออย่างหมั่นเขี้ยว “คิดไปเอง”
“ก็พ่ออ่ะ...” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น แก้มนวลขึ้นสีแดงเรื่ออย่างห้ามไม่ได้จนเขาต้องเอี้ยวใบหน้าคมคายมาจ้องมองเธอเพื่อเค้นคำพูดจากแก้ว
“ทำไม...ผมทำไม”
“ไม่มีอะไร”
“บอกหน่อย” เขาทำเสียงอ้อน กระซิบเสียงแหบพร่าชิดริมหูสวยพลางกอดกระชับร่างแน่งน้อยในอ้อมแขนไว้แน่น ล่นเอาแก้วขวยอายด้วยความเขิน ราวกับมีเปลวไฟลวกลามไปตามกระแสเลือดจนเธอร้อนผ่าวไปหมด ก่อนจะทนกับแรงกดดันไม่ไหวจนต้องพูดออกมา...
“ก็พ่ออยากเกิดมาหล่อทำไมเล่า !”
“ฮะๆ หล่ออย่างเดียวเหรอ?” เขาแกล้งถามเหย้าหยอด
“ใจดีด้วย”
“แล้ว..?” เขาเลิ่กคิ้วเป็นเชิงถาม รอยยิ้มพราวปรากฏบนใบหน้ายิ่งทำให้แก้วทั้งร้อนรน ทั้งเขิน ทั้งอาย..ให้ตายเถอะ...เขามีอิทธิพลต่อหัวใจและร่างกายของเธอมากขนาดนี้เชียวหรือ ? แก้วรู้สึกควบคุมปฏิกิริยาในร่างกายไม่ได้เลย
“แล้วก็มีเสน่ห์”
“แค่เนี้ย”
“แล้วก็...เก่งด้วย” หญิงสาวแหวขึ้นเสียงดังเมื่อเขาไม่เลิกแกล้งเสียที
“เก่งหรือ...เก่งเรื่องอะไร ?” ใบหน้านวลแดงซ่านขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อสบเข้ากับสายตาดำสนิทที่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ไว้เต็มเปี่ยม หญิงสาวจำต้องเบี่ยงประเด็นหนีเขาเพื่อเอาตัวรอด
“ก็เรียนเก่ง..เล่นละครเก่ง”
“หรือ ? แค่นี้เอง..โถ่ นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นเสียอีก ไม่เป็นไรไว้ผมไปถามจินนี่ก็ได้..” แก้วเริ่มหมั่นไส้กับผู้ชายหน้าหล่อ ปากหวานตรงหน้านี้เสียแล้ว หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรั้งใบหน้าเขามาประทับจูบ เขาตอบรับเธออย่างอบอุ่นอ้อยอิ่ง เนินนานจนแทบหมดลมหายใจกว่าที่แก้วจะถอนริมฝีปากออก โทโมะใช้นิ้วโป้งของเขาปาดน้ำใสๆที่ไหลเลอะมุมปากออกให้แก้วอย่างอ่อนโยน...
“เรื่องแบบนี้พ่อก็เก่ง..ฮึ่ย พอใจยังเล่า !” โทโมะหัวเราะร่วนก่อนจะคว้าร่างงามเข้าหาอีกครั้ง...
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ร่างบางค่อยๆปรือตาขึ้นต้อนรับการมาเยือนของแสงแดดยามเช้า ถ้าว่าเธอไม่สายตาฝ้าฝางจนเกินไป แก้วเห็นเงาลางๆของกล่องกำมะหยี่สีแดงใบเล็กสำหรับบรรจุแหวน (?) เธอลุกผึงขึ้นจากเตียงพลางกวาดสายตามองหาใครอีกคนทันที ก่อนจะพบเข้ากับดวงหน้าหวานล้ำและหล่อเหลาเกินมนุษย์ของใครอีกคนที่กำลังโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง เขาเกยคางไว้บนไหล่ของเธอพลางเอื้อมมือมาหยิบเจ้ากล่องกำมะหยี่นั้น...
“เซอร์ไพร์ทครับ..ผมรักฮันนี่นะ” เขาเปิดกล่องกำมะหยี่พบเข้ากับแหวนเพชรเม็ดงามขนาดพอดีกับนิ้วเรียวสวยและเหมาะกับสาววัยแรกรุ่นอย่างแก้ว ตัวเรือนของแหวนเกลี้ยงเกลาเงางาม พร้อมกับเพชรเม็ดเล็กสำหรับใส่เล่น แต่หารู้ไม่ว่าราคามันเหยียบสองแสน แก้วกระพริบตาปริบๆอย่างตื้นตันจนน้ำตาไหล ก็ถูกเขาแซวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ
“เอ้า...ดีใจก็ร้อง เสียใจก็ร้อง ผมอยากเห็นรอยยิ้มของฮันนี่มากกว่า” เขาเอี้ยวตัวมาจุ๊บแก้มเธอเบาๆ
“ก็แก้วดีใจนี่นา..พ่ออ่ะ” เธอเบ้หน้าอีกครั้งเตรียมจะร้องไห้ออกมาทำให้เขาต้องรีบโอ๋
“โถ่...อย่าร้องน้า โอ๋ๆ มาเดี๋ยวผมสวมให้” แก้วปาดน้ำตาทิ้งตามคำบอกของเขา...โทโมะค่อยๆบรรจงสวมแหวนเข้าที่นิ้วเรียวสวยข้างขวาให้แก้วก่อนจะโค้งใบหน้ามาจุมพิตที่มือนุ่มอย่างหลงรัก
“ผมจองไว้ก่อนนะ ถ้าใครถามว่ามีแฟนหรือยังก็บอกเขาไปว่าหมั้นแล้ว” ดูพูดเข้า...แก้วอดที่จะปิติซ่านไม่ได้ หญิงสาวเอื้อมมือไปบีบจมูกของเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“แก้วเป็นของพ่อคนเดียว ทั้งตัว ทั้งใจ ต่อให้พ่อไม่รักแก้วแล้ว หรือจะทิ้งแก้วไปวันไหน แก้วอยากให้พ่อรู้..ว่าแก้วรักพ่อคนเดียว”
เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นพร้อมก้มจูบขมับน้อยๆนั่นอย่างหนักหน่วง
การที่ได้ยินเธอพร่ำคำรักและคำสัตย์นั้นมันน่าชื่นใจเป็นบ้าสำหรับเขา...
“ ‘พ่อ’ ก็เป็นของฮันนี่คนเดียว”
การที่แก้วน่ารักแบบนี้..เขารู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจเหลือคณา ผู้หญิงตรงหน้ามีอิทธิพลต่อเขาทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไร้ข้อกังขาใดๆ
.
.
.
.
“ฮันนี่...เราไป มัลดีฟท์กัน”
THE END
...........................................................................................................
แว้กกกกกกกกกก จบแล้วจ๊ะ ^^; พออ่านได๋ป้ะ (?)
เดี๋ยวเรื่องอื่นๆมันก็จะตามมาครับ - - ;
เบื่อยางงงงง (^o^)/ #ไปทำการบ้านแล้วคร้าบ ฝันดีทุกคน :')
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ