i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

48) 33 - Happy Time

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

33 - Happy Time

 

พรุ่งนี้เปิดเรียนเทอม2แล้วครับ

 

ว่าแต่...กูลงเรียนอะไรไปบ้างวะเนี่ย? ช่างเถอะ ยังไงเมฆก็จัดการให้เรียบร้อยละ แต่คุณๆอย่าทำแบบผมนะครับ มันไม่ดี ตัวเราเองจะลงเรียนอะไรก็ลงเองเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน ฮ่าๆๆๆๆ

 

ผมอยู่ก่อนแต่ง เอ๊ย ไม่ใช่! ผมมาอยู่คอนโดไอ้เหี้ยพอสตามพระบัญชาของเสด็จแม่เสด็จพ่อทั้ง2ฝ่าย ดูดีนะครับ พ่อแม่ก็รู้เห็นเป็นใจ ทำเอาไอ้เจ้าของคอนโดยิ้มหน้าบาน

 

แต่มันก็ต้องหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินผมบอกว่า

 

“ถ้ามึงทำไรกู กูจะย้ายออก” ผมพูดขณะที่กำลังจัดเสื้อเข้าตู้ทำเอามันหยุดชะงัก ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นมันทำหน้างง ผมก็งง

“มึงคิดว่ากูจะทำไรมึง?” มันถามพร้อมกับเอียงหัวน้อยๆ

 

เวร อย่าเพิ่งมาทำเป็นใสซื่อตอนนี้ได้มั้ยวะ?

 

“กูรู้ว่ามึงรู้” ผมทำเป็นไม่สนใจมัน หันมาจัดเสื้อเข้าตู้ต่อ

“แล้วมึงรู้ว่ากูรู้อะไร?”

“สัด อย่ามาแบ๊ว” ด่าเข้าให้แต่มันเสือกยิ้มมุมปาก ไอ้รอยยิ้มแบบนี้แหละที่ผมเกลียดที่สุดเวลาอยู่บนใบหน้าหล่อๆของมัน

 

ยิ้มเจ้าเล่ห์ อย่างกับจิ้งจอกแสยะยิ้มรอกินเหยื่อแบบผม

 

“หึหึ มึงนี่หื่นนะเนี่ย”

“ไม่เท่ามึงหรอก”

“หืม? รู้ได้ไงว่ากูหื่นหรือไม่หื่น?”

“ก็มึง....เอ๊ยยย...ปล่อยกู มากอดกูทำไมเนี่ยยยยยย” ผมโวยวายเลยครับ จู่ๆมันก็เข้ามากอดด้านหลัง

 

ฟอดดดดดด!!

 

หอมแก้มกูทำม๊ายยยยยยยย

 

“ปล่อยยยยยยย” ผมดิ้นพอเป็นพิธี(?)แล้วมันก็ปล่อยง่ายๆ นั่งลงข้างๆแล้วหัวเราะเบาๆ “เป็นไรของมึงเนี่ย?”

“ไม่รู้วะ...กูรู้แต่กูมีความสุข ได้อยู่กับมึง พ่อแม่ก็เข้าใจ”

“สาดดด ก็มึงเล่นมัดมือชกแบบนั้น”

“อะไรๆ อย่ามาใส่ความกู” มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

เชี่ยนี่ ทำได้ไม่เนียนเลยนะมึง

 

ผมขี้เกียจเถียงกับมัน ตั้งหน้าตั้งหน้าจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ต่อไป ส่วนมันก็เดินออกจากห้องนอนไปยังส่วนของห้องรับแขกที่อยู่ติดกันแต่เพียงขวางดั้นด้วยบานประตู

 

เรื่องห้องนอนก็เหมือนกัน คอนโดหรูอลังการแบบนี้มันไม่ได้มีห้องนอนห้องเดียวแน่ๆ ผมมั่นใจ ไอ้ห้องที่อยู่ตรงข้ามแต่ประตูกลับล๊อคปิดตายนั่น...ผมว่ามันคือห้องนอนอีกห้องแน่ๆ

 

ผมพับตัวสุดท้ายเข้าตู้เสร็จก็ลุกแล้วเดินออกมายังห้องรับแขก เจ้าของห้องนอนเอกขเนกบนโซฟาตัวยาว ตามองฟุตบอลที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่

 

จะว่าไปมันก็รู้สึกแปลกๆนะครับ ถึงแม้ผมจะเคยมานอนที่คอนโดไอ้เหี้ยพอสบ้าง แต่ก็ไม่ได้มาอยู่ยาวแบบนี้ อะไรๆก็ดูเข้าทางมันไปหมด รู้ทั้งรู้ว่าหากปฏิเสธตรงๆผมคงได้อยู่หอเหมือนเดิม แต่ในใจลึกๆผมก็ดีใจนะ ที่ได้มาอยู่กับมันอีกครั้ง ให้โอกาสมันได้พิสูจน์ตัวเองอย่างที่มันขอไว้

 

คนรักมักจะให้อภัยกันได้ใช่มั้ยล่ะ?

 

นั่นแหละ เหตุผลง่ายๆ...

 

เพราะผมรักมัน รักทุกอย่างที่เป็นตัวมัน แม้มันจะเคยทำผมเสียใจก็ตาม ผมยอมให้มันได้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง แต่มันต่างจากตอนแรกมาก ต่างมากจริงๆ

 

อย่างน้อยๆตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้ว ทั้งครอบครัวและความรู้สึกที่มีต่อกัน

 

“เฮ้ย กูหิววะ ลงไปหาไรกินกัน” ผมบอกมัน เหลือบไปมองนาฬิกา ตอนนี้ราวๆ1ทุ่มกว่าแล้วครับ

“ขี้เกียจ”

 

ดูมัน -*-

 

ตั้งแต่เรื่องที่ยอมให้พี่แซคจับกูโยนลงน้ำที่ค่ายแล้วนะสาดดดดดดดดด เดี๋ยวเถอะมึงๆๆๆ

 

“เออ กูลงไปคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องฝากซื้อไรนะ เพราะกูไม่รับฝาก!” กระแทกเสียงเล็กน้อยเพื่อให้มันรู้ว่าผมไม่พอใจ

“อย่าเพิ่งดิ” มันห้ามผมไว้ขณะที่ผมกำลังเดินไปเปิดประตู

“อะไร?”

“หมูหมักอยู่ในตู้เย็น ขอไข่เจียว2ฟอง”

“...”

“ยืนอึ้งไร ไปทำดิวะ”

 

ทำไมเมนูอาหารมันคุ้นๆวะ?

 

“ถ้าทำไม่เหมือนวันที่กูข้อมือซ้นกูไม่แดก”

 

เอ้าเชี่ย! กูกำลังจะเคลิ้ม นึกว่ามึงมีอารมณ์โรแมนติก อยากนึกย้อนความหลัง แต่แม่งเสือกพูดซะขัดความคิดกูหมดเลยห่า

 

“เออ! ถ้าไม่เหมือนก็อย่าแดกนะมึง!” ผมหันหลังกลับไปยังห้องครัว เดินผ่านมันก็เห็นมันมองผมแบบเยาะเย้ย มึงนี่มันเหมาะกับการเป็นผู้นำที่ชอบบังคับให้คนทำตามจริงๆ ไม่มีใครเหมาะไปกว่ามึงอีกแล้ว

 

เออ แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มันสั่งด้วยวะเนี่ย?

 

คำตอบง่ายๆ ก็สายตาที่มันจ้องผมมันบอกว่า

 

‘ถ้ามึงไม่ทำ กูจะกินมึงแทน’

 

สาดดดดดดด!! คอยดู พรุ่งนี้กูจะหนีไปฟ้องพ่อมัน!

 

เอ่อ แต่ พ่อมันไปดูงานที่ต่างประเทศไม่ใช่เร๊อะ?

 

งั้น...กูหนีไปอยู่กับไอ้ทัชก็ได้เอ้า!

 

เอ่อ แต่ เดี๋ยวไอ้ทัชก็จับกูมาส่งไอ้เหี้ยพอสเหมือนเดิมนั่นแหละ

 

โว๊ยยยย มีทางไหนที่ไม่เข้ามือมันบ้างมั้ยเนี่ย????

 

 

 

 

เข้ามือมันครับจริงๆครับ เข้ามือมันเต็มๆเลย!!!

 

ตัวผมที่นอนตะแคงหันหลังให้มันนี่ไงครับเข้ามือมันเต็มๆ มันกอดผมไว้แน่น ถึงแม้แอร์ในห้องจะยังคงทำงานได้ดีแต่ผมก็รู้สึกร้อน ไออุ่นจากคนข้างกายทำเอาผมนอนไม่หลับ

 

พยายามข่มตาก็แล้ว นับแกะก็แล้ว แต่ยังไงก็ไม่กลับซะที ใจมันเต้นตึกตักจนผมกลัวว่ามันจะทะลุออกมา

 

“หลับยัง?”

 

มันกระซิบถามเบาๆที่ข้างแก้ม เฉียดไปมาเบาๆจนขนลุก

 

แบบนี้ต้องแกล้งหลับครับ มันจะได้ทำไรผมไม่ได้ หึหึ

 

“ถ้าหลับแล้วก็ดี กูจะได้ลักหลับง่ายๆ”

 

นิ่ง เราต้องนิ่ง

 

ตะ แต่ .. ไอ้5นิ้วที่กำลังคืบคลานเข้ามาในเสื้อนี่มันไม่ยอมอยู่นิ่งเนี่ยสิ ฝ่ามือร้อนแนบเนื้อไล่สูงขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงยอดอ่อนๆ สะกิดเบาๆไล้วนรอบๆอย่างสนุกมือ

 

อากรเสียวที่ท้องน้อยวูบเข้ามา แต่ผมต้องนิ่ง ต้องแกล้งหลับ

 

เอาสิ ถ้ากูไม่ตื่นมึงจะทำอะไรกูได้?

 

“เฮ้ยยยย!!”

 

ผมร้องเสียงหลงเลยครับเพราะไอ้เหี้ยพอสมันจับตัวผมพลิกมาอยู่ใต้ร่างมันอย่างสบายๆ 2แขนแกร่งจับข้อมือผมไว้ ผมลืมตาตื่นเต็มที่แล้วครับ ถึงแม้จะมืด แต่ก็รู้ว่ามันมองผมอยู่เช่นกัน

 

“อ้าว กูนึกว่ามึงหลับอยู่ หลับต่อไปก็ได้นะ กูไม่ว่า หึหึ”

“พ่องสิ ปล่อย”

 

ผมบอกแบบนิ่งๆครับ ไม่อยากดีดดิ้นเป็นผู้หญิงที่กำลังจะเสียตัว แต่มันไม่ฟัง ก้มหน้าลงมาฉกไซร้ที่ซอกคอ ผมหันหน้าหนี พยายามขืนแรงมัน แต่ก็ล้มเหลวเพราะการกระทำที่ชวนอ่อนระทวยจนไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน

 

ริมฝีปากนิ่มเล็มผิวหนังผมแบบเบาๆและอ่อนโยน ไล่ขึ้นมาสูงเรื่อยๆจนถึงใบหน้า มันจูบผมไปทั่วทุกบริเวณ ตั้งแต่คาง แก้ว จมูก เปลือกตา หน้าผาก และจุดสุดท้ายเน้นย้ำที่ตำแหน่งเดียวกัน

 

ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามา ถึงตอนนี้ผมไม่ต่อต้านแล้วครับ รู้เลยว่าเราทั้งคู่โหยหาสิ่งนี้กันมากแค่ไหน กี่วันกี่ชั่วโมงกี่วินาทีที่เราไม่ได้สัมผัสกัน จากที่อ่อนหวานและแผ่วเบากลับกลายเป็นดุดันและเร่งเร้า เราทั้งคู่ต่างไม่มีใครยอมใคร เสียงหอบหายใจผสมผสานกับเสียงจูบที่ดังออกมาคลอกัน

 

ริมฝีปากประกบกันอยู่นานจนเมื่อผมประท้วงในลำคอเบาๆนั่นแหละ มันถึงยอมปล่อยแต่ไม่ยอมถอยห่าง มันยังคงเอาริมฝีปากที่ได้รูปและเปียกชุ่มคลอเคลียไปตามข้างแก้มกับกกหู

 

“พอแล้ว พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรกนะเว้ย กูมีเรียนฟิ2ตอน8โมง” ผมบอกมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่รับรู้

“อืมมมม”

 

ครางตอบรับ แต่ช่วยหยุดมือหน่อยเถอะ

 

“ไม่เอา จะนอน”

“ไม่นอน จะเอา”

 

!!!!

 

สัด! ไปต่อไม่ถูกเลยกู!

 

มันไม่ยอมให้ผมได้พูดอะไรอีกเพราะปากมันมาปิดปากผมเรียบร้อยแล้ว มือผมถูกปล่อยเป็นอิสระก็จริง แต่แค่2มือก็คงต่อต้านอะไรมันไม่ได้ ในเมื่อมันเล่นล้อมไว้ทุกทางแบบนี้

 

มันเหมือนคนอดอยาก หิวกระหาย ไม่ปล่อยให้ส่วนไหนหลุดรอดไปได้ เสื้อนอนบางๆถูกเลิกขึ้นสูง ผมพยายามเขยิบหนี แต่มันก็เหมือนเป็นการให้มันทำอะไรๆผมได้ง่ายมากขึ้น กลุ่มผมสีดำบริเวณหน้าท้องทำเอาผมไม่อยากจินตนาการว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ รู้แต่ว่าผมสามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกของตัวเอง อาการปวดหนึบบริเวณแก่นกลางลำตัวเริ่มสำแดงฤทธิ์เดช

 

“อื้อออ อา...”

“หึหึ”

 

เชี่ย! กูหลุดครางอะไรออกไปเนี่ย?

 

มันเงยหน้ามามองผมเพียงครู่เดียวก่อนจะใช้ฝ่ามือหนากอบกุมท่อนเนื้อที่ยังไม่ถึงเวลาเคารพธงชาติแต่กลับตั้งตรงตระหง่าน

 

“หืม? น้องชายมึงตื่นเร็วดีนะ”

 

โธ่ไอ้สาดด ว่าแต่กู มึงก็เหมือนกันนั่นแหละไอ้เหี้ยพอส อวัยวะกลางลำตัวมึงที่กำลังดุนๆหน้าขากูอยู่เนี่ยมันตื่นตัวยิ่งกว่าของกูซะอีก

 

ตะ แต่ ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับมันแล้วครับ อารมณ์บางอย่างพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดด้วยน้ำมือของคนที่กำลังปรนเปรอให้ผม

 

ผมจิกขาลงกับเตียงนอนราวกับคนทรมาน หอบหายใจถี่รัว หัวใจเต้นแรงเพราะมือที่สลับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักลูกชายนับล้านของผมก็พุ่งออกมาเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขา

 

แล้วมันก็เข้าอีหรอบเดิมๆ เมื่อผมเสร็จ มันก็ต้องเสร็จ แต่ไม่ใช่เสร็จด้วยน้ำมือผม แต่ด้วยช่องทางข้างหลังต่างหาก ผมจะไม่ยอมอีกแล้ว เมื่อตอนเย็นผมประกาศลั่นแล้วว่าห้ามทำอะไรผม!

 

ผมรีบถีบตัวไอ้เหี้ยพอสออกไปทันทีก่อนที่มันจะจับผมยกขา แล้วรีบคลุกคลานลงจากเตียงอย่างยากลำบากก่อนที่มันจะตั้งตัวได้ทัน

 

แต่ผมลืมไปว่ามันคือไอ้เหี้ยพอส ไม่ใช่คนทั่วๆไปแบบผม

 

“ถีบกูเหรอ?”

 

กูจูบมึงมั้งไอ้ห่า ถามมาได้

 

สายตามันตอนนี้ดูน่ากลัว บวกกับน้ำเสียงนิ่งๆของมันอีก...เอาแล้ว...หรือกูจะถีบมันแรงไปวะ?

 

“กะ ก็มึง เอ่อ....กูบอกแล้วไงว่าถ้ามึงทำอะไรกู กูจะย้ายออก!” ผมรีบพูดทันที มันหน้าสลดลงไปนิดนึง ย้ำว่านิดนึง

“จริงเหรอ?”

 

เวร อย่ามาใช้น้ำเสียงแบบนั้นกับกู ไม่ได้ผลหรอก

 

ผมกาวถอยหลังทีละนิดๆ ส่วนมันก็ก้าวตรงมาทีละหน่อยๆเช่นกัน

 

“เอ่อ...”

“งั้นแค่ข้างนอก โอเคมั้ย?”

 

‘ข้างนอก’ ที่มันหมายถึง...คือไม่ได้เอาอะไรมาใส่ตัวผมสินะ

 

“นะครับแกรนด์”

 

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่เว้าวอนทำเอาผมเริ่มลังเล มันค่อยๆเข้ามาใกล้จนในที่สุดก็ประชิดตัวผม หลับตาลงอย่างว่าง่ายสมาธิที่ตั้งใจว่าจะปฏิเสธพลันกระเจิงหายไปหมด จดจ่ออยู่แต่ที่ริมฝีปากลึกล้ำ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ

 

มันใช้ลิ้นเก่ง จูบเก่งเหมือนเดิม

 

ตอนนี้ผมพิงหลังเข้ากับกำแพง ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ ในเมื่อมันบอกว่าแค่ภายนอก ผมก็ไม่ได้เสียหายอะไร บางครั้งเรื่องแบบนี้ยอมได้ก็ยอมๆไปเถอะ

 

ผมถอนริมฝีปากออกมา ไล่ขบเม้มไปตามผิวขาวๆอันประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อที่สวยงามได้รูปของมัน นิ้วมือไล่ไปตามไล่ ลำคอ ไหล่ ไหปลาร้า กล้ามเนื้ออกแกร่งที่ไม่นุ่มนิ่มเหมือนของผู้หญิงแต่มันก็ทำเอาผมหน้ามืดตามัวได้เช่นกัน

 

คนคนนี้สมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว

 

ทั้งจูบ ดูด เม้ม มือก็ลูบไล้ปลุกอารมณ์ดิบส่วนต่างๆไปเรื่อย เสียงครางในลำคอต่ำทำเอาผมยิ่งได้ใจ อย่างน้อยๆ ฝีมือกูก็ไม่ตกละวะ อาศัยจังหวะที่มันกำลังเคลิ้มพลิกตัวให้มันไปอยู่ติดกับผนังแทน

 

เมื่อลดความสูงลงมาเรื่อยๆก็จะพบกับบ๊อกเซอร์ที่ไว้ใช้ปกปิดของสำคัญ ตอนนี้ของสำคัญส่วนนั้นมันกำลังดันนูนขึ้นมาชี้หน้าผม

 

เอ่อ...มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมรึเปล่าวะ?

 

ผมไม่กล้าถอดบ๊อกเซอร์มันเพราะกลัวว่าเมื่อถอดออกมาแล้วผมจะไม่กล้าทำต่อ

 

“มีอะไรรึเปล่า?” คนที่กำลังได้อารมณ์ถามขึ้นเมื่อผมหยุดชะงักไปนาน มันคงเห็นผมจดจ้องๆไม่กล้าถอดซะทีมันเลยจับรูดบ๊อกเซอร์ตัวเองลงซะเลย

 

“เฮ้ยยยยย” ร้องจ๊ากสิครับ แม่งงงงงง น้องชายมันห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบ!

“อะไร ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้ หรือว่าอายที่น้องชายมึงเล็กกว่า?” มันยิ้มเยาะ

 

สาดดดดดดดดดดดดดด จี้ใจดำกูอีก แม่มมมมมม

 

“โอ๊ยย ไอ้เหี้ยยยยยยแกนนนนนนนน!!!” มันร้องด่าผมลั่นเลยครับ แต่แหม ‘ไอ้เหี้ยแกน’ คำๆนี้ไม่ได้หลุดจากปากมันมานานเหมือนกันนะ ฟังแล้วสะใจดีพิลึก นึกถึงตอนแรกๆที่ผมกับมันยังกัดกัน ไม่ใช่เรียก แกรนด์ครับ รักนะครับ พี่พอสอย่างนู้นอย่างนี้ กูฟังแล้วจะอ้วกวะ ขอเป็นไอ้เหี้ยแกรนด์ฮาร์ดคอแบบนี้แหละ หึหึ

 

แล้วที่มันร้องลั่นอย่างกับควายออกลูกไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็มันเสือกมาจี้ใจดำผมทำไมละ ผมเลยจัดการบีบน้องชายมันเล็กน้อยถึงปานกลาง นี่ขนาดใช้แรงไปไม่ถึง50%เลยนะเนี่ย

 

อีกอย่าง มันจะได้หมดอารมณ์ ไม่อยากกินตับผมแล้วไง หุหุ

 

ผมรีบปล่อยมือแล้วรีบชิ่งหนีออกมาจากห้องนอนในขณะที่มันกุมกลางแก่นกายจนตัวงอ ต้องรีบใช้เวลาให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุดครับ จัดการใส่เสื้อและกางเกงนอนให้เรียบร้อย

 

ตอนนี้ผมขอหาทางหนีทีไล่ก่อนละครับ ยังไงๆคืนนี้ผมก็ไม่ยอมให้มันทำประตูอีกแน่

 

แต่ว่า...กูจะหนีไปทางไหนได้ละเนี่ย? หันไปทางไหนๆก็เจอแต่กำแพงและข้าวของเครื่องใช้ของมัน แล้วถ้าออกจากห้องไปก็หมายความว่ากูต้องหาที่ซุกหัวนอนใหม่สินะ

 

เอาไงดีวะ? ช่วยกูคิดหน่อย

 

...

 

กูบอกให้ช่วยคิด สัด! ไม่ใช่ช่วยสนับสนุนให้กูเสียตัว แม่มมมม พวกมึงนี่พึ่งไม่ได้จริงๆ กูพึ่งตัวเองก็ได้วะ

 

แต่ไม่ทันแล้วครับ มันเดินตัวตรงใส่บ๊อกเซอเรียบร้อยออกมาจากห้องนอนในขณะที่ผมกำลังหันรีหันขวางอยู่

 

“จะไปไหน?”

“เอ่อ...กูจะไปนอนที่บ้าน” เท่านั้นแหละครับ หน้ามันนิ่งสนิท ไม่มีแสดงอาการใดๆออกมาให้เห็นนอกจากนัยน์ตาที่กำลังสับสน

 

ผมเดินไปที่ประตู ต่างคนต่างเงียบ

 

เอ่อ ห้ามกูหน่อยสิวะ กูพูดเล่น มึงยังไม่ได้ทำอะไรกูนี่หว่า

 

แต่...ไม่มีเสียงเรียกหรือห้ามอะไรทั้งนั้นเมื่อผมเดินมาถึงประตู ผมใส่รองเท้าแล้วเปิดประตู มันเดินตามมา

 

ณ ตอนนี้ ผมยอมรับว่าใจมันแกว่งๆ จะปล่อยให้กูไปจริงเหรอ? ปกติมันต้องไม่ยอมนี่ ถึงแม้ผมจะขัดขืนยังไงแต่สุดท้ายผมก็ยอมมันตลอด ข้อนี้มันเองก็รู้ดี ไอ้ที่ผมขู่ไปว่าถ้ามันทำอะไรผมจะย้ายออก...นั่นก็แค่อยากรู้ว่ามันจะยอมทำตามที่ผมขอมั้ย? มันรักผมหรือรักตัวผม?

 

ผมหันตัวกลับมาโบกมือบ๊ายบายมัน มันโบกมือบ๊ายบายกลับ

 

ตุ๊บ!

 

ผมเบิกตากว้าง ตกตะลึง เมื่อนึกไม่ถึงว่ามือที่โบกมือบ๊ายบายผมจะเปลี่ยนอิริยาบถเป็นดึงมือผม สอดประสานนิ้วเข้ามาแล้วตัวผมไปอยู่ในอ้อมกอดมัน

 

“จะไปนอนบ้านจริงๆเหรอ?”

 

ได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นดังอยู่ข้างหูเลยครับ

 

“มึงไม่อยากอยู่กับกูเหรอ?”

 

มันกอดผมแน่น

 

“อย่าหายไปอีกเลยนะ”

 

จูบเบาๆที่ข้างขมับ

 

“กูไม่ทำอะไรมึงแล้ว ถ้ามึงไม่อยากทำจริงๆ แค่มึงกลับมาอยู่กับกู ยอมให้อภัยกู เท่านี้กูก็มีความสุขมากแล้ว”

 

มันบอกผมเสียงสั่น

 

“กูรักมึงมาก”

 

“ไม่จริง” คนที่กอดผมตัวแข็ง ผมผลักมันออกเบาๆก่อนจะยิ้มให้มัน

 

“เพราะกูรักมึงมากกว่า”

 

เท่านั้นแหละครับ ปากผมกับมันก็ไม่ว่างที่จะบอกความรู้สึกกันอีกเลย มีเพียงการกระทำเท่านั้นที่เป็นตัวบ่งบอกและส่งความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน

 

 

 

 

“คอมึงโดนยุงพอสกัดเหรอ?” เชี่ยแทนทักได้อัปมงคลตั้งแต่เช้า

“หืม? ยุงสายพันธุ์ไหนวะ?” อะนะ ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยครับว่าใครที่รับกันเป็นลูกคู่ได้เหมาะเหม็งมาก

“ก็ยุงพอสนี่นะ มันจะเลือกกัดเฉพาะคนที่เตี้ยๆ ปากหมา หลงตัวเอง แถมพอกัดแล้วจะเป็นรอยจ้ำๆเต็มคอและลำตัว นอกจากนั้นยังสามารถเป็นโรคนั่งไม่ติดพื้น เนื่องจากมีอาการข้างเคียงคือเจ็บตูด”

“โหยย ร้ายแรงขนาดนั้น? แล้วรักษายังไงละครับหมอแทน”

“รักษาไม่ได้ ไม่หายขาด แต่เราสามารถบรรเทาอาการได้โดยอย่าฝืน ปล่อยให้ยุงพอสกัดไปเพราะยุงตัวนี้สามารถสร้างความเสียว เอ๊ย! ความสุขให้กับคนที่โดนกัดได้”

“เอ๊ะ งั้นยุงสายพันธุ์นี้ก็ดีสิครับ”

“ใช่ครับ แถมยังหายากมาก มีตัวเดียว พบได้ในเขตวิศวะและแหล่งเพาะเชื้อเช่นที่คอนโด เป็นต้น เรามาถามความรู้สึกของคนที่โดนยุงพอสกัดกันดีกว่า...ว่าไงครับคุณกรวิชญ์”

“อยากรู้ก็ลองให้ยุงทัชกัดมั่งสิครับหมอแทน” อยากเล่นกูดีนัก เป็นไง เจอกูตอกกลับ ทำหน้าปุเลี่ยนเลยมึง ฮ่าๆๆๆ ตลกวะไอ้คู่นี้

“สาดดดดดดด ปากหมาและมึง ต้องเป็นยุงแทนกัดสิวะ”

“เฮ้ยๆ พอๆจบๆ ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัวเอง ฮ่าๆๆ” ไอ้ทัชเบรกไว้ก่อนที่มันทั้ง2จะเล่นตัวเองไปมากกว่านี้

 

หากถามถึงเรื่องเมื่อคืน...อื้มมม ก็ตามนั้นแหละครับ อย่าให้ต้องพูดได้มั้ยเล่า แต่มันก็ดีครับอ่อนโยนกับผมมากจนไม่มีอาการข้างเคียงอยากที่ไอ้แทนว่า

 

ผม ไอ้ทัช ไอ้แทน หรือ T2G กำลังนั่งรอเรียนแมท (Math) ในช่วงบ่ายครับ เทอม2นี้ พวกผมรวมไปถึงนังส้มโอ กิ๊ง เมฆต่างก็ลงตัวเดียวกันหมด และยังโชคดีที่ได้เรียนในเซคชั่นเดียวกัน คนอื่นๆในเจอร์ก็มีลงกับพวกผมบ้าง ไม่ก็แยกกันไปบ้างตามเวลาที่ลงตัวของแต่ละคน

 

“ไปหาของแดกถึงคณะบริหารเหรอไงวะ? นานสาดดดด” ไอ้แทนบ่นครับ เนื่องจากทั้ง3คนยังไม่มา

“อ้าว นั่น มาแล้วไง” ผมหันไปมอง นังส้มโอนี่ระริกระรี้มาเชียว สงสัยไปเจอหนุ่มหล่อๆเข้าละมั้ง ส่วนกิ๊งเปิดเทอมมาผมแทบจำไม่ได้เพราะเธอเล่นไปย้อมผมดำสนิทแล้วคงไปต่อผมมาด้วย ผมถึงได้ยาวเร็วขนาดนั้น แต่ผมว่าก็เหมาะดีนะครับ ดูน่ารักๆแบบเกาหลีดี ส่วนนายเมฆ รายนั้นก็ยังคงแอบชอบกิ๊งเพียงแต่ตัดใจไปแล้วเนื่องจากทั้งคู่เป็นได้แค่เพื่อนจริงๆ

 

“นานนน พวกกูนั่งรอจนรากงอกละ”

“เหรอ? งั้นก็ไม่ต้องขึ้นไปเรียนนะ” จะใครละครับ ก็คู่กัดกันประจำอย่างส้มโอกับไอ้แทนอะดิ

“โทษทีๆ พอดีพวกเราเดินเพลินไปจนถึงคณะเสดสาดน่ะ อิอิ” กำแล้ว ส้มโอ นี่มึงลากกิ๊งให้เข้าร่วมลัทธินิยมชายหล่อเหมือนมึงเหรอไงวะ?

 

แต่ผม ไอ้แทน ไอ้ทัชไม่ได้สนกันแล้วครับว่าพวกเธอจะเดินไปส่องหนุ่มๆถึงคณะอะไรเพราะตอนนี้ของกินมากมายมาวางกองรวมกันอยู่ตรงหน้า จ้วงได้ก็จ้วงสิคร๊าบบบบ

 

“ไอ้แกน นั่นของกู”

 

งกวะ

 

พวกเรานั่งกินไปคุยไป พูดถึงเรื่องค่ายบ้าง ชีวิตปิดเทอมที่ไม่ถึง1สัปดาห์บ้าง แน่นอนว่าพวกมันวกมาถึงเรื่องผมกับไอ้เหี้ยพอส

 

“กูบอกแล้วไอ้ทัชว่ามันต้องอยู่ก่อนแต่ง”

“สาดดแกรนด์ ทำไมมึงใจง่ายงี้วะ”

“เอามาเลย200”

“ดูดิ กูต้องเสียเงินให้มันเลย ห่า”

“พวกเชี่ย นี่พนันเหี้ยไรกันเนี่ยยยยยยยย?”

“ฮ่าๆๆๆๆ” ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก -*-

 

พอกินกันเสร็จก็ได้เวลาขึ้นเรียนครับ ตึกที่ผมไปเรียนเป็นตึกเรียนรวม เป็นโอกาสอันดีที่ได้ส่องสาวต่างคณะบ้าง ไม่ใช่จมปลักอยู่กับพวกถึกทึนอย่างนังส้มโอ

 

ผมเดินนำคู่กับเมฆ ส้มโอกับกิ๊งเดินตามมาไม่ห่าง จะมีห่างก็ไอ้ทัชกับไอ้แทนเนี่ยแหละครับ มันเอาแต่มองคนโน้นคนนี้ ผมเดินมาที่ลิฟท์เนื่องจากผมต้องขึ้นไปเรียนชั้น6 และทุกคนก็ลงความเห็นว่าขี้เกียจขึ้นบันได

 

ติ๊ง!

 

“ไอ้ทัชไอ้แทน ลิฟท์มาแล้ว” ผมตะโกนบอกมัน2ตัว พวกเราเข้าไปกันหมด เหลือแต่ไอ้ทัชไอ้แทนที่กำลังวิ่งตรงมา แต่ระยะทางมันช่างไกลยิ่งนัก

 

“ไอ้แกนน้อย มึงกดปิดเลย ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องรอไอ้2ตัวนั่นหรอก” เออความคิดดีวะส้มโอ ฮ่าๆๆๆ

 

ผมยินอยู่ตรงปุ่มแผงที่กดเปิดปิดและกดชั้นที่ต้องการ ผม กดปุ่ม CLOSE แทนที่จะกดปุ่ม OPEN ค้างไว้ ผลก็คือประตูลิฟท์กำลังบีบเข้าหากันเรื่อยๆ จนสุดท้ายระยะห่างของประตูเหลือไม่ถึงคืบผมก็เห็นไอ้แทนไอ้ทัชวิ่งกระหืดกระหอบมา

 

แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพื่อนเอ๋ย...

 

“เชี่ยยยยย รอกูก่อนนนนนนน” นั่นคือเสียงโหยหวยสุดท้ายที่ได้ยิน

 

เรา4คนยืนกันอยู่ในลิฟท์โดยที่มองกันแบบขำๆ

 

แต่แล้วก็ไม่ขำเมื่อลิฟท์หยุดจอดชั้นที่2...

 

ใครวะ? ชั้น2ก็ยังจะกด

 

แต่มันไม่ใช่แค่ชั้น2น่ะสิ ชั้น3 ชั้น4 ชั้น5 แม่งงงงงงงงง หยุดเปิดประตูรับผู้โดยสารทุกชั้น แต่ทุกครั้งที่เปิดก็ไม่เห็นมีใครยืนรอเลยสักคน ยกเว้นแผ่นหลังไวๆของคน2คนที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดไป

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ เชี่ยทัชสัดแทน มัน2ตัวนั่นแหละ!

 

เมื่อมาถึงห้องเรียน ก็พบว่าไอ้ทัชไอ้แทนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว จับจองที่ไว้เรียบร้อย

 

“มาไวดีเนอะ ขนาดไม่ได้ขึ้นลิฟท์” ส้มโอวางกระเป๋าแล้วก็พูดไปด้วย

“เหรอ ก็ไม่นิ”

“ขึ้นบันไดมาเหนื่อยเลยเนอะ” กิ๊งบอกยิ้มๆ

“นั่นสิครับ พวกผมนะขึ้นลิฟท์มาก็จริงแต่ยังช้ากว่าทัชแทนอีก”

“ก็เพราะแม่งหยุดจอดทุกชั้นไง เลยช้า มีหมาที่ไหนไม่รู้2ตัวบังอาจมากดลิฟท์เล่น” ผมพูดบ้างขณะที่นั่งลงข้างๆไอ้ทัช

“เหรอวะ แย่เนอะ คงเป็นกรรมที่พวกมึงไม่ยอมกดลิฟท์รอละม้างงงงงง”

“หึหึ ว่าแต่พวกมึง2ตัวนี่ก็ลงทุนเนอะ วิ่งขึ้นมาเพื่อดักลิฟท์ ไม่ฉลาด+บ้าพลังทำไม่ได้นะเนี่ย” ส้มโอแขวะ

“อะร๊ายยยย ใส่ร้ายกูแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่มีหลักฐาน”

“แล้วทำไมทัชกับแทนเหงื่อออกมากขนาดนั้นล่ะครับ?”

“กะ ก็ แหม กูเดินขึ้นบันไดมาตั้ง6ชั้น ไม่เหนื่อยได้ไง”

 

หรา สีข้างถลอกแล้วมึง

 

แต่ก่อนที่ไอ้ทัชกับไอ้แทนมันจะแถไปมากกว่านี้ อาจารย์ก็เข้ามาสอนแล้วครับ พวกผมเลยต้องหยุดคุยกันไป และมันก็ได้เวลานอนจริงๆของผมสักที

 

 

 

ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวาแต่ทว่ามีความสุขอยู่แบบนี้มาได้เกือบเดือนแล้ว ถามว่าเบื่อมั้ย? อืมมม ก็มีบ้างบางเวลานะ เพราะเรื่องที่ทำในชีวิตกิจประจำวันส่วนใหญ่คือตื่นมา ไปเรียน คุยเฮฮาไร้สาระบ้าบอ กวนตีนกับเพื่อน วันไหนวันดีก็จะนัดชวนกันไปแดกเหล้า(วันนั้นผมจะเปรมปรีดิ์มาก) กลับมาก็...อะนะ 18+ ไพรเวท ห้ามเข้า ห้ามแอบมาดู แต่ก็ไม่ได้ทุกคืนหรอก ผมกับไอ้เหี้ยพอสยังไม่ติดเซ็กส์ขนาดนั้น แถมต่างคนต่างเหนื่อย มันเองก็เรียนหนัก แถมยังต้องแบ่งเวลาทำงานมาสอนผมอีก

 

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ผมทำแล้วมีความสุข วนเวียนไปมาอยู่ทุกวัน

 

ผมอยากอยู่แบบนี้ต่อไปนานๆ ผมรู้ว่าในอนาคตข้างหน้ามันไม่แน่นอน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด มันมีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเราเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นั้นได้มากแค่ไหน

 

เมื่อคืนก่อนที่ผมจะหลับไป ผมนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้เลยถามมันออกไปว่า

‘มึงเบื่อปะวะที่อยู่กับกู?’

‘เบื่อ...เบื่อตัวเองที่รักมึงมากขึ้นทุกวัน’

‘รักมากแค่ไหน?’

‘ไม่รู้’

‘...’

‘รู้แต่ว่าถ้าเอาปรอทมาวัด มันคงแตกไปแล้ว’

 

.

.

 

.

 

 

.

 

ขอบคุณวะที่รักกูมากขนาดนี้

 

ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะรักมันได้เท่าที่มันรักผมรึเปล่า แต่ผมจะตอบรับและแบ่งปันความรู้สึกดีๆที่มันให้และให้มันกลับไปเช่นกัน

 

การกระทำของมันในแต่ละวันคือแต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำวันนี้ให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ทำเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้ให้แก้ตัว…

 

บางสิ่งบางอย่างไม่ต้องพูดจนหวานเลี่ยน เพียงแค่การกระทำ...เท่านั้นก็พอแล้ว

 

 

.

.

 

.

 

 

.

 

“จะกินอะไร?”

“ตับมึง”

“สัด!”

 

บอกแล้วว่าไม่หวานเลี่ยน...

 

“ไปกินคนเดีย...อุ๊บส์”

 

แถมยังบอกแล้วว่าเพียงแค่การกระทำ...ก็พอแล้ว...

 

 

 

 

โครมมมมม!!

 

“ถีบกูอีกแล้วนะแกรนด์!”

“ก็มึงมากัดหูกูทำไมล่ะ สาดดดดดดดด!!”

 

 

 

 

 

 

The End.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Talk

จบแล้วค่ะ จบจริงๆ ไม่ได้หลอก ^^

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่มาต่อช้า แบบว่าหัวมันไม่แล่นเลยงะ T^T ต้องนั่งบิ้วอารมณ์นานมาก 5555+

 

ที่บอกว่าไม่เกิน3ตอน ตอนแรกแพรอยากให้มันยืดไปกว่านี้อีกนิด แต่แพรยืดไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ มันจบแล้วจริงๆ (อยากบอกว่าน้ำตาไหลเลย)

 

หากใครไม่พอใจกับการจบแบบนี้แพรก็ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แต่แพรอยากให้มันจบ“แบบแกรนด์”มากที่สุด

 

ขอบคุณที่อ่านเรื่องนี้จนมาถึงจุดสุดท้าย

ขอบคุณที่คอยให้กำลังใจกันมาอย่างยาวนาน

ขอบคุณทุกๆคลิกที่กดเข้ามาอ่าน

ขอบคุณน้องๆเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่ทำแฟนอาร์ตและโปสเตอร์มาให้

 

 

เรื่องนี้เริ่มต้นวันที่ 21 เดือนกรกฎาคม 2555

เรื่องนี้จบเมื่อวันที่ 28 เดือนธันวาคม 2555

สิริรวม 161 วัน

 

ถึงหลายๆคนบอกว่าไม่อยากให้จบ แต่ยังไงๆมันก็ต้องจบคะ ปล่อยให้พอสแกรนด์และตัวละครอื่นๆโลดแล่นกันในใจของคนอ่านต่อไปแล้วกันเน๊อะ

 

ตอนพิเศษที่จะลง(แน่นอน)

The Extra Side :: Thank you a Million Times

The Extra Side :: T_T

The Special Side ในพาร์ทของพี่วอร์มต่อ

 

ตอนพิเศษอื่นๆ ยังคิดไม่ออกค่ะ แหะๆ ขอปั่น3คู่นี้ให้เสร็จก่อน

 

ส่วนเรื่องหนังสือ...ทำแน่นอนค่ะ แพรขอคุยกับโรงพิมพ์ก่อนนะคะ ใครมีข้อเสนออะไรแนะนำมาได้เลยเน้ออออออ

 

 

 

รักคนอ่านทุกคนค่ะ

 

Pierre

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา