i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

41) The Extra Side :: Loy Krathong Festival

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The Extra Side :: Loy Krathong Festival

 

 

สาวน้อยตกน้ำมันล้าสมัยไปแล้ว

ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องมาพบกับความภาคภูมิใจของคณะวิศวกรรมศาสตร์

 

‘วิศวะตกน้ำ!’

 

ขาว อึ๋ม(?) วันแพค ซิกแพค ที่เห็นแล้วจะน้ำลายไหล!

เอ็ดเวิร์ดชิดซ้าย ณเดชซิดขวา โดมยังต้องก้มหน้า ถ้าหากได้มาเจอพวกเขาเหล่านี้...

 

ใครดีใครเด่นใครดังใครหล่อใครน่ารักใครน่ากิน เราจับเหมามารวมกันหมด

ให้คุณได้ทดลองท้าปาขวดน้ำให้โดนเป้า(?) งานนี้ไม่มีรางวัลใดๆนอกจากความสะใจและเลือดกำเดาที่อาจไหลไม่รู้ตัว หึหึ

 

 

บอกได้คำเดียวเลยว่าถ้าพลาดแล้วคุณจะเสียใจไปชั่วชีวิต!!

 

.

.

 

.

 

 

.

 

 

“โปสเตอร์แม่งเวอร์วะ”

“เวอร์ไงวะ?” ไอ้แทนหันมาถาม

“ก็กูไม่เห็นโดนคัดเลือกไปเป็นหนุ่มน้อยตกน้ำเลยนี่หว่า”

“โธ่...ไอ้แกน ดูหนังหน้ามึงด้วยครับ”

“ทำไมสัด กูหล่อ กูรู้ตัว แต่ที่พี่เค้าไม่มาเลือกคงเพราะเห็นว่ากูหล่อเกินไป”

 

ป๊าบ!

 

“โอ๊ยยย มึง2ตัวจะตบหัวกูทำไมเนี่ย?” ผมพูดพลางคลำหัวตัวเองป้อยๆ นับวันมัน2ตัวยิ่งชอบรุมประทุษร้ายผม เดี๋ยวเถอะมึง กูจะไปฟ้องไอ้เหี้ยพอส

 

หะ? เมื่อกี้ผมพูดว่าไรนะ?

 

ฟ้องไอเหี้ยพอสงั้นเหรอ?

 

ว๊ากกกกกกกกกกก ไม่ใช่แล้ววววววว ผมหมายถึง ผมจะไปฟ้องลุงรหัสมันต่างหาก...แต่เดี๋ยวนะ...ลุงรหัสไอ้แทน แม่งก็คนเดียวกะไอ้เหี้ยพอสนี่หว่า

 

ช่างเถอะ

 

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังสับสนและมึนงงมากครับ วันพรุ่งนี้จะเป็นวันลอยกระทง ซึ่งมหาวิทยาลัยผมก็มีการจัดงานขึ้นทุกปี และคณะผมก็ได้จัดกิจกรรมตามโปสเตอร์ที่เพิ่งอ่านไปเมื่อกี้นั่นแหละ

 

ผมจะไม่โกรธเลยถ้าผมได้รับคัดเลือกด้วย เพราะงานนี้สาวๆมารุมเพียบแน่นอน ความโด่งดังของ ‘วิศวะตกน้ำ’ เลื่องชื่อลือชาไปทุกมหาวิทยาลัยเลยนะครับ เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้นั่งส่องสาวๆโดยไม่ต้องไปเดินเบียดกับคนในงานให้เมื่อย

 

“หล่อตายละไอ้สัด” ขอด่าหน่อยเหอะ มั่นกระโหลกเกินไปแล้ว

“หน้าตาดีสู้พี่กับไอ้ทัชให้ได้ก่อนนะน้องแกรนด์” ไอ้แทนเยาะเย้ยผม

“หมายความว่าไงวะ?”

“ก็กูกับไอ้แทนได้รับคัดเลือกด้วยไง หึหึ”

“ห๊ะ!!!!”

 

ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ยครับ? บางทีไอ้แทนอาจจะอยากล้อผมเล่น พวกผม T2G ตกลงหมายมั่นกันแน่นอนแล้วว่าวันลอยกระทงจะมาลอยด้วยกันที่มหาลัยเนี่ยแหละ

 

แต่ไหงกลับกลายเป็นว่ามันต้องไปเป็นหนุ่มน้อยตกน้ำวะ?

 

“โกหกไม่เนียนวะ”

“เชี่ยไรมึง กูพูดจริง มึงรอดูวันงานได้เลย” ไอ้ทัชยักคิ้ว ขณะที่ขาก็ก้าวไปเรื่อยๆตามทาง จากที่ผมกับไอ้ทัชสนิทกันมานานก็พอจะดูออกว่าตอนไหนมันพูดจริง ตอนไหนมันพูดเล่น แต่ท่าทางของมัน ณ ขณะนี้คือ..มันพูดจริงครับ

 

เรา3คนกำลังเดินไปหาอะไรกินที่หน้าม. ระหว่างทางก็จะเจอคัทเอ้าต์หรือกระดาษมาแปะตามเสาเชิญชวนให้มาร่วมเทศกาลวันลอยกระทง

 

พูดถึงลอยกระทง...เอ่อ...ถ้ามัน2ตัวต้องไปนั่งให้คนมาปาขวดน้ำจริงๆ...แล้วกูจะไปลอยกระทงกับใครวะครับ?

 

“เอออออออ กูลอยกระทงคนเดียวก็ได้สาดดดดดดดด” ผมประชดมันกลับไป เดินก้าวดุ่มๆนำหน้าอย่างไม่สนใจ

 

พวกคุณกำลังนินทาผมในใจใช่มั้ยว่าแล้วไอ้เหี้ยพอสละ? ทำไมไม่ไปลอยกับมัน? นี่คุณ...ขนาดไอ้แทนกับไอ้ทัชยังโดนดึงตัว มีเหรอที่อดีตเดือนมหาวิทยาลัยอย่างมันจะไม่โดน แถมมันยังต้องช่วยจัดงานเตรียมการอะไรของมันอีกไม่รู้เยอะแยะ ทำกันจนดึกๆดื่นๆ บอกให้ผมรออยู่ที่หน้าห้องสโมทุกวัน

 

คิดแล้วก็เศร้า แม่มมมมมมมมมม กูหาคนอื่นลอยด้วยก็ได้วะ!

 

RRRRRRRRRRRRRRR

 

นั่นไง ตายยากจริงๆ

 

“เออว่าไง”

/เสร็จแล้ว อยู่ไหน ทำไมไม่มารอที่เดิม/

“ก็กำลังจะไปหาไรแดกกับไอ้ทัชไอ้แทนเนี่ย”

/ไม่ต้องไปแล้ว เดี๋ยวพาไปหาไรกินเอง มาที่ใต้ตึกคณะเดี๋ยวนี้/

 

แล้วมันก็วางสายไปหลังจากจบประโยค ที่ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่เป็นประโยคคำสั่ง และผมก็ต้องปฏิบัติตามอย่างช่วยไม่ได้

 

“พี่พอสเสร็จงานแล้วอะดิ”

“เออ กูไปละ” ผมหันหลังกลับสวนทางที่เดินมาและหันไปพูดส่งท้ายกับเพื่อน2ตัวว่า “พรุ่งนี้กูจะพกเงินมาสักหมื่น เอาขวดมาปาพวกมึงโทษฐานที่ทิ้งกูแล้วก็ไม่ยอมบอกกู” ก่อนจะเดินตรงไปยังใต้ตึกซึ่งใครบางคนสั่งไว้

 

เมื่อแกรนด์เดินไปแล้ว ก็เหลือแต่ทัชและแทนที่เดินด้วยกันอยู่2คน

 

“แม่ง..จะให้บอกมันยังไงวะว่ามันก็ได้รับคัดเลือก”

“นั่นดิ แต่ลุงรหัสกูเสือกหวงเมีย เลยใช้อำนาจมืดเข้าครอบงำ ทำเอาไอ้แกรนด์ไม่ต้องมานั่งเป็นหุ่นให้ชาวบ้านขว้างขวดใส่”

“เห้อออ ช่างแม่งเหอะ ทำเพื่อคณะ แถมได้ชั่วโมงกิจกรรม” ทัชพูดอย่างปลงตก

“ว่าแต่ไอ้ ‘วิศวะตกน้ำ’ เนี่ย...ปีก่อนๆเค้าจัดกันยังไงวะ?”

“เอ่อ...กูก็ไม่รู้วะ รุ่นพี่ก็ไม่ยอมบอกไรพวกเราเลย พูดแค่ว่ามาแต่ตัวกับหัวใจก็พอ”

“คงไปนั่งหน้าหล่อเป็นเป้านิ่ง คอยหลบขวดน้ำที่ปาพลาดแค่นั้นล่ะมั้ง” ชายตำแหน่งขวัญใจมหาชนเดา

 

แต่หารู้ไม่ว่าเขาเดาพลาดไปอย่างร้ายแรง...

 

ตรงไอ้ที่ว่า ‘มาแต่ตัวกับหัวใจ’ น่ะ...เอามาแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับหนุ่มๆของ ‘วิศวะตกน้ำ’

 

.

.

 

.

 

 

.

 

สุดท้ายผมก็ต้องพึ่งไอ้บิ๊กเข้าจนได้ มันเป็นรายเดียวที่ว่าง ไอ้แต๊งไปลอยกับพี่มิลเลี่ยน เต็งหนึ่งก็มีกิจกรรมต้องทำที่คณะของตัวเอง พี่รหัสสุดโหดก็โดนให้ไปเป็นหนุ่มน้อยตกน้ำ นายเมฆไปลอยที่อื่น กิ๊งกับส้มโอและกลุ่มสาวๆในเจอร์ก็รวมตัวกัน มันคงแปลกถ้าหากผมเข้าไปร่วมด้วย

 

บรรยากาศครึกครื้นมากครับ ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ยั้วเยี้ยเต็มไปหมดจนทางเดินแน่นขนัด เสียงเรียกเข้าบูธเพื่อที่จะขายของก็ดังระงมไปทั่ว มีไม้เด็ดก้นหีบอะไรก็งัดเอาออกมาใช้ให้หมด

 

“คนแม่งเยอะวะ” ไอ้คนที่โดนผมลากมาอย่างไม่เต็มใจบ่น แต่ถ้าผมเป็นมันผมก็อึดอัดอะนะ ตัวไอ้บิ๊กที่ใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งต้องมาเจอกับสภาพนี้แล้วคงอยากจะออกไปที่อื่น

“เออน่า...ถือซะว่าได้เบียดกับสาวๆไปในตัวไง”

“นี่มึงยังชอบแดกจำพวกเนื้อนมอยู่เหรอวะ? กูนึกว่ามึงแดกแต่ไข่”

“สัดบิ๊ก! พูดงี้เดี๋ยวกูแอบเอาล้อแมงกะไซมึงไปขาย”

“แมงกะไซเหี้ยไร เรียกซะรถกูเสียหมด ดูคาตี้โว๊ยดูคาตี้ รู้จักมั้ย???”

“ไม่วะ กูก็เห็นเป็นแมงกะไซเหมือนคันอื่นๆ” กวนตีนวันละนิดจิตแจ่มใสครับ ฮ่าๆๆๆ

 

ผมกับมันเดินไปเรื่อยๆตามทาง ดูของบ้างแต่ก็ไม่ยอมซื้อ ร้านขายกระทงมีเยอะมาก อีกทั้งยังหลายรูปแบบจนผมเลือกไม่ถูก

 

“เห้ยๆไอ้แกรนด์ ตรงนั้นเค้ามีไรกันวะ คนมุงเยอะเลย” ไอ้บิ๊กใช้แขนยาวๆของมันชี้ออกไปที่จุดๆหนึ่ง ซึ่งจุดๆนั้นเป็นจุดที่ผมรู้จักดี

 

ก็จะไม่ให้รู้จักดีได้ไง...มาเรียนทุกวัน แถมยังจัดใกล้ตึกคณะซะขนาดนั้น

 

“อ่อ...ไม่มีไรหรอก” ผมพยายามเบี่ยงเบนความสนใจโดยการเดินนำไปอีกทาง

“แต่มันเขียนไว้ว่า ‘วิศวะตกน้ำ’ … กูอยากดูอะ” เชี่ยบิ๊กครับ มึงจะอยากดูทำไมครับ?

“อยากดูไมวะ ชื่อแม่งก็บอกอยู่ว่ามีแต่ผู้ชาย ไม่มีผู้หญิงตกน้ำให้มึงเห็นหรอกน่า ไปทางโน้นกะกูดีกว่า”

 

แต่โน้มน้าวเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล มันอ้างว่าที่นี่เป็นถิ่นผม แถมตรงนั้นเป็นกิจกรรมที่คณะผมจัด งั้นแสดงว่าผมต้องรู้ทุกอย่างแล้ว แต่มันเป็นคนนอก ยังไม่รู้ ไม่ผิดที่จะเข้าไปดู

 

เอากะมันสิ เห้อออออ

 

ตั้งใจจะเลี่ยงตรงนั้นแล้วแท้ๆเชียว ไม่อยากได้ยินเสียงกรี๊ดที่หนวกหูจนน่ารำคาญ

 

แต่...ไปหน่อยก็ดีวะ ไปเห็นน้ำหน้าหล่อๆของไอ้ทัชไอ้แทนซะหน่อย หึหึ กูจะเป็นนักปาขวดน้ำที่แม่นที่สุดก็คราวนี้ละวะ

 

คนเยอะมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ต้องพยายามทำตัวให้ลีบที่สุดแล้วแทรกเข้าตัวมาจนถึงบริเวณที่เค้ากั้นรั้วเอาไว้เพื่อให้เป็นระยะห่างสำหรับปาขวด

 

ตรงหน้าผมคือบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างมาโดยเฉพาะเพื่องานนี้ มีฐานต่อขึ้นไปเป็นช่องๆไว้สำหรับชายหนุ่มที่จะต้องตกน้ำเรียงเป็นหน้ากระดาน ด้านหน้าของแต่ละคนเป็นที่นั่งยื่นออกมา เป้าที่ต้องปาให้โดนเพื่อกลไกจะได้ทำงานอยู่ใต้ที่นั่งของแต่ละคน ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ตรงกลางเขียนภาควิชาเอกซึ่งเป็นภาควิชาที่คนถูกคัดเลือกเรียนอยู่

 

มีทั้ง วิศวะเคมี วิศวะการบินและอวกาศ วิศวะไฟฟ้า วิศวะสิ่งแวดล้อม วิศวะโยธา วิศวะคอม เอาเป็นว่ามีทุกภาควิชาเลยดีกว่า แต่ที่เยอะสุดก็คงเป็นภาควิชาของผมเองเนี่ยแหละครับ

 

เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคณะผมคนหน้าตาดีมันเยอะจริงๆ ตั้งแต่เฟรชชี่ยันรุ่นพี่ปี4 ทุกคนที่ถูกเลือกล้วนแต่คัดสรรมาแล้วทั้งนั้น แต่...ผมว่ายังไงผมก็หล่อสุดอยู่ดี ฮ่าๆๆๆๆ

 

ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับที่ไม่โดนดึงตัวไปร่วม...เพราะว่าอะไรน่ะเหรอ...หึหึ

 

ก็ทุกคนใส่เพียงแค่บ๊อกเซอร์!! ตัวเดียวเพียวๆเน้นๆ!!

 

บางคนก็หาอะไรมาปกปิดช่วงบนนิดหน่อยเช่น..เสื้อในคัพD..เป็นต้น เอ่อ...หน้าตาดีไม่พอ ต้องบ้าด้วยนะครับ ถึงจะทำแบบนี้ได้

 

ผมมองไปตรงกลาง ความขาวออร่าโดดเด่นโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟ สาวแท้และไม่แท้ต่างก็แย่งกันจับจองที่ตรงหน้ามัน ถัดมาอีกหน่อยก็เป็นไอ้ทัชที่ยืนตัวสั่นเพราะความหนาว ไอ้แทนยิ้มโปรยสาวสู้ แต่ผมแอบเห็นนะว่ามันกำลังกัดฟันกึกๆ ส่วนพี่วอร์มอยู่ตรงโน้นเลย ริมสุดห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ไปไกล แต่ดูท่าพี่แกก็ได้รับความนิยมไม่แพ้คนที่เหมือนเป็นตัวเด่นของงานเหมือนกัน

 

ผมว่าสาวๆที่มางานนี้โคตรคุ้มอะครับ ทั้งเป็นตัวเป็นๆแถมมีรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ๊ย ระลึก แค่มา ‘วิศวะตกน้ำ’ งานเดียวแต่สิ่งที่ได้กลับไปคือภาพซิกแพคของบรรดาหนุ่มๆทั้งหลาย ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสแบบนี้บ่อยๆนะครับ

 

แต่แบบ...เอิ่ม...บ๊อกเซอร์มึงบางไปไหมไอ้เหี้ยพอส? แล้วคงตกน้ำหลายหนจนผมลู่เรียบติดหัว บ๊อกเซอร์สีอิฐของมันก็แนบไปตามร่องขา มันก็เสือกยังยิ้มทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าอะไรๆของมันนูนขึ้นมา แม้จะไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังจ้องมันคงตีความเป็นนามธรรมในหัวสมองไปแล้ว

 

โว๊ยยยยยยยยย!! แล้วกูจะไปนึกถึงมันตอนที่ เอ่อ..นั่นแหละ ทำไมวะ!!!

 

หยุด พอ ไม่เอา ไม่คิด แม่งงงงงงง

 

แต่ก่อนที่ความคิดผมจะกระเจิงไปกว่านี้ ไอ้บิ๊กมันก็สะกิดไหล่ผมเบาๆซะก่อน

 

“เห้ย นั่นใช่ไอ้ทัชป่าววะ?”

“เออดิ อยากปามั้ยละ?”

“จัดไปอย่าให้เสีย 555555+”

 

ผมกับมันเดินไปซื้อขวดน้ำ มันไม่ใช่ขวดเปล่า แต่ข้างในบรรจุไว้ไว้ประมาณ1/4ของขวด พอมีขวดน้ำไว้ในมือแล้ว ไอ้บิ๊กมันโลภ กลัวเพื่อนไม่เจ็บ เอ๊ย กลัวปาไม่โดนเพราะในอ้อมแขนมันมีขวดน้ำอีก5ขวดที่มันเหมามา

 

“เอาละครับรอบนี้ รอบนี้เป็นทีของภาคเครื่องกับภาควัสดุ...หมายมั่นคนไหน จ้องเป้าแล้วเล็งให้ดีๆนะครับ” รุ่นพี่ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรของงานพูดขึ้น ดังนั้นคนอื่นๆที่ไม่ได้เรียนภาคเครื่องกับภาควัสดุจึงต้องลงมารอด้านล่าง นั่งลงกับพื้นหันหน้าเข้าเวที

 

ดวงดีโคตร มาถึงก็ได้รอบของภาคเครื่องเลย ฮ่าๆๆๆๆ

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”

“อ๊ายยยยยยยยย”

“พี่พอสสสส หนูอยากโดนเช็คห้องเครื่องจังเลยคร๊า!!”

 

อูยยย แรงครับแรง คนที่พูดเป็นสาวเทียมครับ ออกแนวน่ากลัวนิดๆ

 

ผมขยับตัวมาอีกหน่อยเพื่อให้อยู่ตรงกลาง ด้านหน้าผมห่างออกไปราวๆ10เมตรเป็นเป้าวิศวะเครื่องกล ด้านบนมีไอ้เหี้ยพอสนั่งอยู่

 

มันเห็นผมแล้ว ยกคิ้วทักทาย ส่วนผมก็เลยตอบกลับไปโดยการชูขวดน้ำในมือให้มันดู

 

หึหึ มึงไม่รอดหรอก

 

เสียงเพลงเร้าจังหวะอารมณ์มันส์ๆอย่างที่เปิดกันในผับดังตีกับเสียงพูดของพิธีกร แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด พิธีกรยังคงทำหน้าที่แซวได้อย่างดีเยี่ยม

 

“เอ้าๆ ทัชแทนครับ อย่ากินกันเองครับ สาวๆแถวนี้อกหักหมด”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!”

“แทนขา!! แทนนอกใจพี่ยังงายยยยยย”

 

มัน2ตัวก็ไม่ได้ทำไรมากหรอกครับ แค่กอดคอกระซิบอะไรกันก็ไม่รู้ พลางมองมายังผมกับไอ้บิ๊ก มันคงรู้แล้วละว่าผมกับไอ้บิ๊กมีเป้าหมายจะทำอะไร แต่ด้วยความที่มัน2ตัวใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเนี่ยอะสิ ช่วงบนโชว์กล้ามเนื้อเนียนๆที่สัมผัสโดนกัน

 

แม่งงงง นี่ถ้าผมไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทมัน ผมก็คงคิดเหมือนกันแหละว่าไอ้2ตัวนี่มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ หึหึ

 

แต่แค่นั้นยังไม่พอ ไอ้แทนยืนขึ้นหันหลังแล้วส่ายตูดให้

 

“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!”

 

เอากับมันสิ -*- ใจกล้าหน้าด้านได้อีก

 

แล้วมันก็กลับไปนั่งประจำที่เหมือนเดิม

 

สายตาของไอ้แทนมันมองที่ผม ดังนั้นก็รู้ได้เลยว่าไอ้เมื่อกี้ที่มันทำน่ะ...ท้าผมชัดๆ!!

 

แต่ขอโทษวะแทน กูส่งไอ้บิ๊กไปเป็นคนสังหารมึงก็แล้วกันนะ กูมีคนที่ต้องจัดการอยู่ตรงหน้านี้แล้ววะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

“เอาละครับ เมื่อประจำที่กันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมอาวุธกันให้ดี จะเริ่มนับถอยหลัง...”

 

“แม่นๆนะมึง”

“เป้าจริงหรือเป้าคนวะ?” ไอ้บิ๊กถามกวนตีนกลับ

“กูชักอยากมีเพื่อนเป็นหมันวะ กร๊ากกกก”

 

ล้อเล่นไปงั้นแหละครับ ขืนปาไปโดนจริงๆมัน2ตัวต้องลงมาเล่นงานผมกับไอ้บิ๊กแน่

 

“3”

“2”

“1”

 

พายุขวดน้ำถล่มเข้าใส่เป้าหมายทันทีรับ มาจากทั่วทุกสารทิศ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนของตัวเองที่เป็นคนถูกคัดเลือกซึ่งอยู่ด้านล่างก็ปากับเค้าเหมือนกัน

 

ผมเองก็ไม่รอช้า ไม่งั้นได้โดนคนอื่นแย่งปาโดนเป้าแล้วมันจะตกน้ำไปซะก่อน เล็งให้แม่นแล้วขว้างออกไปสุดแรง!

 

แว๊กกกกกกกก!! โดนตัวไอ้พอสครับ!! อ๊ากกกกกกกกก กูขอโทษ กูไม่ด้ายตั้งจายยยยยยย

 

เอาใหม่ๆๆๆ คราวนี้แหละ

 

.

.

.

 

ตูมมมมมมม!!

 

เยส! สำเร็จ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เป็นไง ฝีมือผม

 

ตูมมมมมมม!!

ตูมมมมมมม!!

 

เสียงตกน้ำจากคนอื่นตามมาติดๆ ไอ้ทัชกับไอ้แทนลงไปอยู่ในบ่อแล้ว ผมหันไปมองพี่วอร์มซึ่งเหลือเป็นรายสุดท้ายที่ยังรอดชีวิต

 

แต่ก็ไม่นาน...

 

ตูมมมมมม!!

 

แล้วก็มีภาควัสดุบางคนที่ยังเหลืออยู่ แอบสงสารนิดๆ เพราะยิ่งอยู่นานก็โดนขวดน้ำปาใส่ตัวเรื่อยๆ

 

“เซ็ง มีคนตัดหน้าวะ กูปาไปโดนเป้าไอ้ทัชไม่ทัน แต่ยังดีหน่อย เอาคืนมันได้หลายขวดอยู่ หึหึ”

 

ตูมมมมม!!

 

เมื่อคนสุดท้ายหล่นลงมาในบ่อ พิธีกรก็พูดต่อไปเรื่อย

 

“บรรดาหนุ่มน้อยทั้งหลายครับ ขึ้นมาจากบ่อได้แล้วคร๊าบบบบบบ...ต่อไปเป็นรอบของวิศวะไฟฟ้ากับวิศวะคอมนะครับ ใครที่อยากเอาคืน เอ๊ย ไม่ใช่ ใครที่อยากเห็นหนุ่มๆเหล่านี้ตกน้ำก็เตรียมขวดไว้ให้ดีๆ...อะ..อะไรไอ้พอส?” จู่ๆพิธีกรก็เงียบไป จนหลายๆคนประหลาดใจและอดหันไปมองข้างๆบ่อไม่ได้

 

หืม? ไอ้เหี้ยพอส มันแย่งไมค์มาไว้ในมือครับ ตัวเปียกๆแบบนั้นไม่กลัวไฟดูดรึไงวะ?

 

ขายาวๆของมันก้าวมาด้านหน้าบ่อ ยิ้มโปรยเพื่อการค้า สายตาหันซ้ายหันขวาเรียกเรตติ้งเบาๆก่อนจะหยุดอยู่ที่ผม

 

“เจ็บนะครับ...ทำกันได้ลงคอ” เสียงมันอ่อยๆคล้ายจะอ้อน “แล้วคนที่ทำผมร่วงลงมา...คืนนี้โดนแน่ครับ” แต่ประโยคหลังของมันทำเสียงเข้ม สายตาที่มันจ้องผมบอกว่าเอาจริงแน่

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”

 

เอ่อ...มันคงไม่รู้หรอกว่าผมเป็นคนที่ปาโดนเป้า...มั้ง...

 

ใช่ๆ ไม่เห็นหรอก จะเห็นได้ไงในเมื่อมันนั่งอยู่บนเป้า กูไม่กลัวมึงหรอก

 

....

 

ผมปลอบตัวเองอยู่ครับ ฮืออออออออออ T____T มันพูดแบบนั้นออกไมค์แถมยังมองมาที่ผม เชี่ยแม่งงงง...คืนนี้กูไม่กลับกับมึงโว๊ยยยยย!!

 

แต่ก่อนที่มันจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ผมก็ดึงตัวไอ้บิ๊กออกมาจากบริเวณนั้นเลยครับเพราะรอบต่อไปมันไม่ต้องขึ้นไปนั่งเป็นเป้าแล้ว ใครจะไปอยู่ให้มันจับได้ละ?

 

“ไอ้บิ๊ก คืนนี้กูไปนอนที่บ้านมึงนะ” พอเดินมาได้ซักระยะนึงแล้วผมก็ถามมัน

“ไมวะ?”

“เปล่าๆ ตกลงตามนี้นะ”

 

ไอ้คนที่ถูกผมลากมาลอยกระทงด้วยมันดูงงๆแต่ก็ไม่ได้ค้านอะไร

 

จากนั้นก็เดินซื้อของกินประทังความหิว จุดหมายต่อไปที่ไอ้บิ๊กอยากไปดูก็คือเวทีประกวดนางนพมาศครับ ตอนนี้เหลือ10คนสุดท้ายแล้ว แต่ละคนแต่งจัดเต็ม สวยด้วยชุดไทยประยุกต์

 

อ้าวนั่น เบอร์ 8..เตยนี่หว่า

 

จำเตยได้มั้ยครับ? ที่ผมเคยคุยด้วยอยู่ช่วงนึงน่ะ

 

แล้วเธอก็เห็นผม สบตากับผมตรงๆ ผมยิ้มกลับไปให้ ชู2นิ้วสู้ๆ

 

“แน่ะๆ กูเห็นนะ”

“อะไรของมึง”

“เบอร์8อะ”

“นิดหน่อยวะ คนมันหล่อก็งี้ ฮ่าๆๆๆ”

 

พอสัก4ทุ่มกว่าๆ คนตัวโตก็บ่นปวดขา ผมเองก็เริ่มเมื่อยๆเพราะยืนดูอยู่นาน เลยตัดสินใจไปหาที่นั่งกัน ไอ้บิ๊กมันบอกว่าปวดฉี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ผมจะไปด้วยแต่มันบอกว่าไม่ต้อง บอกทางมันก็พอ

 

แต่...มึงไปฉี่หรือมึงไปขี้วะครับไอ้ห่าบิ๊ก นานสัดๆ

 

นั่งรออยู่นาน ใกล้จะ5ทุ่มแล้ว ผมกะว่าจะเดินไปหามันเพราะโทรศัพท์แม่งก็ไม่ยอมรับ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้น ก็มาคนมานั่งข้างๆซะก่อน ผมนึกว่าไอ้บิ๊ก แต่ที่ไหนได้...

 

“ไม่อยู่รอกูเลยวะ”

 

เห๊ยยยยยย!! ไอ้เหี้ยพอสสสส ตัวเป็นๆเลยครับ

 

“รอ? รอทำเชี่ยไร?”

“ก็รอกูใส่เสื้อผ้าไง..พอกูพูดออกไมค์ก็รีบหนีไปเลยนะมึง” มันใส่เสื้อยืดคอวีกับกางเกงขาสั้นสบายๆ ลากแตะหนีบง่ายๆครับ

“อะไร๊ ใครหนีมึง? กูจะมาดูเค้าประกวดนางนพมาศต่างหาก พอดีว่าเตยเค้าก็ประกวดด้วย กูเลยตามมาให้กำลังใจ”

 

อูยย สีข้างเจ็บจัง T^T

 

“เตยไหน? เบอร์8ปะ?” มันขมวดนิ้วน้อยๆพลางทำท่านึก

“เออ มึงรู้จัก?”

“ผ่านเข้ารอบ10คนสุดท้าย กูรู้จักหมดนั่นแหละ”

 

เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

“มึงเป็นคนปาขวดน้ำจนกูร่วงใช่มะ?”

 

แหงะ คำถามนี้...พอนึกถึงที่มันพูดออกไมค์แล้ว...ก็ต้องขอปฏิเสธไว้ก่อนแหละครับ

 

“เปล่านะเว้ย กูปาไอ้แทนมันร่วงต่างหาก” ผมตอบก่อนจะมองไปยังสระที่เต็มไปด้วยกระทงหลากหลายรูปแบบ

 

อืมมม...น้ำในสระขุ่นๆเนอะว่ามะ?

 

“เหรอ แม่นดีนะ”

“แน่นอน ตอนแรกเสือกพลาดไปโดนตัวมึง..อุ๊บส์!”

 

ผมพูดอารายออกป๊ายยยยยยยยยยยยยย

 

“หึหึ”

“เอ่อ...ไม่ใช่กูนะ”

“แต่ทำไมเพื่อนกูมันบอกว่ามึงตั้งใจเล็งกูตั้งแต่ขวดแรกเลยวะ แถมพอขวดที่2ก็โดนเป้ากูเต็มๆ”

 

แม่งเล่นเส้นสายนี่หว่า สาดดดดด

 

“มั่วแล้ว”

“ไม่มั่วเหอะ กูมันนั่งอยู่ตรงรั้วกั้น มันอยู่การบิน โดนคัดเลือกเหมือนกูไง”

 

อ่อ...ไอ้พวกที่เป็นเป้าเหมือนกัน แต่รอบนั้นไม่ต้องเป็นเป้าเพราะไม่ได้อยู่เครื่องกลกับวัสดุสินะ...

 

“เถียงไม่ออกเลยสิ”

“เออออออ กูทำแล้วจะทำไมวะ?” ในเมื่อเถียงมันไม่ได้ หลักฐานมัดแน่นหนาแบบนี้ก็เลยได้แต่ยอมรับแล้วพาลแม่งซะเลย

“เปล่า กูแค่จะบอกว่าคืนนี้มึงโดนกูปาเป้าบ้างแน่ๆ หึหึ” ไอ้เหี้ยพอสลุกขึ้นครับ “ที่มึงปาโดนง่ายเพราะเป้ากูใหญ่ แต่ท่าทางคืนนี้กูคงปาโดนเป้ามึงยากเพราะเป้ามึงเล็ก”

 

เหรี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!

 

“มึงว่าใครเป้าเล็กวะห๊ะ!?”

“ใครอยากรับก็รับไปดิ”

 

แม่งเอ๊ยยยยย นับวันยิ่งกวนตีนนะสาดดดดดด

 

“ดูทำหน้า ฮ่าๆๆๆ ตลกวะ...ปะๆ ไปลอยกระทงกัน 5ทุ่มครึ่งแล้ว” มันยื่นมือมาให้ผม ผมมองมือใหญ่อย่างลังเล

 

เอาไงดีวะ?

 

แต่สุดท้ายแล้วผมก็เอามือไปวางทับและยืดตัวขึ้น กะว่าเดี๋ยวมันคงปล่อย

 

“เห้ย ปล่อยได้แล้ว”

“ไม่ เดี๋ยวหลง”

 

โว๊ยยยยยยยยยยยยย กูไม่ใช่เด็กอนุบาล3ขวบนะสาดดดดด ไม่ต้องจูงมือก็ได้

 

“หรือมึงอาย?” มันหันหน้ามาถามผมตรงๆ “ถ้าอายกูปล่อยก็ได้นะ กูไม่โกรธจริงๆ” มันพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ คือประมาณว่าถ้าผมบอกว่าอาย ไม่อยากจับมือจริงๆมันก็จะยอม และจะไม่โกรธอย่างที่พูด เพราะมันเข้าใจผม เหมือนกับเรื่องแหวนไง

 

แต่...พอผมมองไปรอบๆ เห็นคู่รักหลายคู่ทั้งหญิงชาย หญิงหญิงและชายชายจับมือกันก็อดอิจฉาไม่ได้...

 

นึกว่าวันนี้จะไม่ได้ลอยกระทงกับมันซะแล้ว...

 

“เปล่า เดินดิ เดี๋ยวกระทงหมดอดลอยนะ”

 

เรา2คนเดินหาซื้อกระทงไปลอยด้วยกันโดยที่มือยังประสานไม่มีปล่อย ตอนแรกผมก็จับมือกับมันแบบเช็คแฮนด์แต่มันกลับสอดนิ้วเข้ามา

 

“จะได้ไม่หลุดง่าย” มันบอกแบบนี้

 

ฝ่ามือประกบฝ่ามือ นิ้วสอดระหว่างกัน มั่นคงยิ่งกว่าสิ่งใด...

 

เมื่อได้กระทงแล้วผมกับมันก็เดินกันไปที่ริมสระน้ำของมหาวิทยาลัย บ่อสระกว้างที่มืดมิดแต่กลับสว่างไสวไปทั่วด้วยแสงเทียนที่ปักอยู่บนกระทง เป็นภาพที่สวยมากครับ

 

กระทงของผมไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนัก ขนาดกลางๆ มีดอกกล้วยไม้ประดับ ใบตองจับกลีบรอบฐานเป็นรูปดอกบัว ตรงกลางเป็นธูปและเทียน ส่วนกระทงของอีกคน...

 

เป็นขนมปังก้อนใหญ่

 

“ปลาจะได้โตไวๆ”

 

เอ่อ...เหี้ยพอสครับ ในบ่อสระมีปลาด้วยเหรอครับ?

 

“ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อดิว่าสระของมหาลัยเรามีปลาเลี้ยงอยู่”

 

อืมมมม เคล็ดวิชาอ่านใจมึงยังไม่เสื่อมวะ

 

“กูบอกว่ามีมันก็ต้องมีดิวะ”

 

แต่ช่างเถอะ ผมขี้เกียจไขข้อสงสัย จะมีปลาหรือไม่มีก็ช่าง

 

ผมกับคนข้างตัวนั่งลงยองๆ มันหยิบไฟแช็คขึ้นมาจุด ก่อนจะเก็บลงกระเป๋า ผมไม่ได้ว่าอะไรมันเรื่องที่พกไฟแช็ค มันเป็นธรรมดา บางวันผมยังพกเลย ฮ่าๆๆ (ไม่ดีนะคะไม่ดี)

 

ยกกระทงขึ้นจรดหน้าผาก หลับตาอธิษฐาน

 

พระแม่คงคา ผมขอขมากับสิ่งที่ทำไม่ดี ทำให้น้ำเน่าเสีย ผมโกรธเลยที่ท่านลงโทษพวกเราไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมหรือแห้งแล้ง ขาดข้าวได้ แต่ขาดน้ำไม่ได้ ผมขอขอบพระคุณพระแม่คงคาที่ทำให้ทุกคนบนโลกนี้มีน้ำกินน้ำดื่มน้ำใช้ สุดท้ายนี้ผมก็ขอให้ตัวผมและครอบครับมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และขอให้อย่ามีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกับพี่พอสอีกเลย ผมอยากมีความสุขแบบนี้ไปนานๆ ขอพระแม่คงคาเห็นใจผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

เมื่ออธิษฐานเสร็จก็ปล่อยกระทงลงสู่ผืนน้ำ พอดีกับที่คนข้างๆอธิษฐานเสร็จเหมือนกัน เรา2คนไม่ได้พูดอะไร แต่กลับมองไปในจุดๆเดียวกัน ช่วยกันวักน้ำให้กระทงของผมและขนมปังของมันลอยเป็นคู่ไปไกลๆ

 

เสียงพลุ เสียงประทัดดังขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้า ก็เห็นโคมลอยเป็นจุดๆพร้อมกับแสงไฟกระจายเป็นรูป ปล่อยเกล็ดไฟห้อยลงมาอย่างสวยงาม

 

“อธิษฐานอะไร นานเชียว” ไอ้เหี้ยพอสมันถามผม

“ก็ทั่วๆไป” ผมตอบอย่างไว้เชิง “แล้วมึงอะ?”

“ก็ขอขมา ขอให้ครอบครัวมีความสุข ขอให้มึงอยู่ข้างๆกูตลอดไป อย่าให้มีเรื่องไหนมาขวางทางเป็นอุปสรรคระหว่างมึงกับกูอีก หรือถ้ามี ก็ขอให้เรา2คนผ่านมันไปได้เหมือนอย่างที่แล้วๆมา” มันพูดเรื่อยๆ แต่ผมฟังแล้วมันปลาบปลื้ม ดีใจยังไงก็ไม่รู้

 

คนข้างตัวผมเงยหน้ามองขึ้นฟ้า ในมุมนี้ มันดูหล่ออย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ แสงไฟสีส้มกระทบใบหน้าได้รูปของมันยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหล

 

“อยากลอยโคม ไปลอยกัน” ผมชวนมัน

“อืม ไปดิ” มันตอบยิ้มๆ

 

แน่นอนว่าจับมือกันเหมือนเดิม ตรงไปยังจุดที่เค้าลอยโคมกัน

 

พอเดินห่างออกมาจากสระ โดยที่คนชวนลืมไปเลยว่าทิ้งใครบางคนไว้ตั้งแต่คนๆนั้นขอไปเข้าห้องน้ำ ด้านหลังของคนทั้งคู่ไม่ไกลมากนักมีชายตัวโตคนหนึ่งกำลังงุ่นง่านอยู่กับกระทงของตัวเอง

 

“แม่ง ไอ้แกนนะไอ้แกน เห็นผัวแล้วลืมเพื่อน...พี่พอสแม่งก็เหมือนกัน บอกให้กูหาสาวแถวนี้ไปลอยกระทงก่อนเพราะจะชิงตัวแกนไปลอยด้วย ไม่อยากได้ก้างขวางคอ... โว๊ยยยย แล้วอะไรวะเนี่ยย ทำไมเทียนกูมันเอนอยู่เรื่อยวะ!?”

“เอ่อ...ให้ช่วยมั้ยค่ะ?” หญิงสาวคนหนึ่งอาสาช่วย เพราะเห็นว่าคนตัวโตจับเทียนตั้งยังไงก็ไม่ยอมตรงซักที

“อะ..เอ่อ..อะ..อ่า...ครับๆๆๆ” แม้จะตะลึงกับความน่ารักของหญิงสาว แต่ยังดีที่คนตัวโตตอบรับได้

 

 

ขอบคุณพี่พอสกับไอ้แกรนด์ที่ทิ้งกูไว้คนเดียววะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

 

End - The Extra Side :: Loy Krathong Festival

 

 

 

 

 

 

Talk

ควันหลงค่า อิอิ ช้าไป3วัน ไม่เป็นไรเนอะ หยวนๆ

 

ถูกใจมั้ยเอ่ย?

 

 

 

 

.

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา