i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ
เขียนโดย Pierre
วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.
แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18) 14 - Hon,GGG
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
14 - Hon,GGG
ผมเข้าไปอาบน้ำ ชำระร่างกายแล้วทำจิตใจให้สงบ ครีมอาบน้ำหอมหวานท่าทางจะแพง ต้องใช้ให้คุ้ม ยาสระผม...โอ้ววว ภาษาอะไรเนี้ย ฝรั่งเศส? เยอรมัน? อิตาลี? ช่างมันเถอะ มีภาษาอังกฤษกำกับให้รู้ว่าเป็นแชมพูก็พอ จับเปิดฝาขวดเทใส่มือแล้วชโลมไปทั่วหัว...สร่างขึ้นเยอะ
เมื่อล้างตัวด้วยน้ำสะอาด ก็เป็นเสร็จ สวมผ้าคลุมมัดไว้แล้วไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางพับเป็นระเบียบมาเช็ดหัว เดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่ที่มีขอบเป็นลวดลายสวยงามหวังจะแปรงฟัน
แต่..หืม..ที่คอผม...
นะ นะ นี่มัน ... รอยดูดที่หว่า!! แม่งงงงงงงงงง ดีนะที่พรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปม.
รู้ว่าไอ้หน้าหล่อมันดูด แต่ไม่คิดว่ามันจะชัดขนาดนี้ กี่วันไอ้รอยบ้าๆนี่จะจางวะเนี้ย?
หึ้ยยยย คิดแล้วก็แค้น อยู่ดีๆจะมาจิ้มตูดกูง่ายๆ ฝันไปรึเปล่า? เห็นผมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอไง
ผมสิต้องเป็นฝ่ายจิ้มมัน คอยดูเถอะ หึหึ
ผมแกะแปรงสีฟันใหม่เอี่ยม บีบยาสีฟันใส่ ด้วยความที่คิดเรื่องไอ้พอสอยู่นั้น เลยทำให้บีบออกมาเยอะไปหน่อย
เอ่อ...ไม่หน่อยมั้งแบบนี้ ช่างแม่งงงง บ้านมันรวย ยาสีฟันแค่นี้ขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหรอก
“ตายยังไอ้แกน” เสียงมันถามลอดเข้ามาในห้องน้ำ ทำให้ผมต้องรีบบ้วนปากแล้วเดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้
“ยังไม่ตาย .. แล้วไหนชุดที่จะให้ใส่นอน?”
ผมเห็นมันนั่งดูทีวีจอใหญ่ยักษ์ ความชัดละเอียดถึงขนาดเห็นรูขุมขน บนตัวมันสวมใส่ชุดนอนสีคราม ให้ความรู้สึกผู้ดี๊ผู้ดี คาดว่ามันคงไปอาบน้ำเช่นกัน คอนโดห้องใหญ่โตหรูหราขนาดนี้คงไม่ได้กระจอกมีห้องน้ำห้องเดียวแน่
ห้องนอนก็เช่นกัน...
“ไปหาเอาในห้องนอนตู้ฝั่งซ้าย” มันบอกผมแต่ตายังคงจ้องทีวี ส่วนผมก็ทำตามที่มันบอกอย่างว่าง่าย รื้อๆดูชุดที่คาดว่าผมจะได้ใส่ก็ใส่ ส่วนชุดเก่าก็พับใส่ถุง
แต่บ๊อกเซอร์นั้นผมยังใส่อยู่นะ ไม่ใส่แล้วมันแปลกๆอะ
ผมหันไปมองนาฬิกาดิจิตอล บ่งบอกเวลา 3.07 AM
“มึงจะให้กูนอนไหน?” ผมถามมันเมื่ออกมาจากห้องนอนแล้ว คาดว่าคงไม่พ้นโซฟาตัวยาวหรือไม่ก็อีกห้องนอน แต่มันดันหันกลับมามองผมแล้วพูดนิ่งๆว่า
“ถามใหม่”
เอ่อ..ลืมไป ต้องพูดกะมันดีๆ ไม่งั้นอาจเสียเอกราชโดยไม่รู้ตัว
“คือ...จะให้นอนห้องไหนอะ?”
เนี่ยละ ดีสุดแล้ว
“ห้องที่ไปเอาชุดนอนมาใส่นั่นแหละ”
หืม?? ห้องเมื่อกี้เหรอ? ดูท่าทางแล้วจะเป็นห้องใหญ่สุดและ...มึงเองก็นอนห้องนั้นไม่ใช่เหรอไง?
ช่างมัน ในเมื่อเจ้าของห้องอนุญาตแล้ว จะไปขัดเจตนาทำไมละครับ? ห้องออกใหญ่โต เตียงนุ่ม กว้างขวาง สบายจะตาย ผมเดินกลับเข้าไปในห้องเดิมทันที ห้องนอนมันไม่มีอะไรตกแต่งมาก เฟอร์นิเจอร์ก็มีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน แล้วก็ระเบียงซึ่งสามารถออกไปชมวิวได้ อยากออกไปรับลมเหมือนกันนะ ยิ่งชั้นสูงๆแบบนี้แล้วด้วย แต่ติดที่ว่าคือตอนนี้ผมง่วงมาก
ล้มตัวลงบนเตียง ไม่สนแล้วว่าไอ้เจ้าของห้องมันจะทำอะไรอยู่ข้างนอกถึงได้ไม่ยอมเข้ามานอนสักที
คนอย่างไอ้แกนคำว่าเกรงใจสะกดไม่เป็นหรอกคร้าบ เอิ๊กๆ
แต่ขณะที่กำลังจะหลับ ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาก่อนไฟจะดับลง รู้สึกได้ว่าเตียงยวบลงไป ผ้านวมหนาถูกสอดแทรกเข้ามาโดยใครอีกคน
ผมขยับตัวหนีไปชิดขอบเตียง ปริ่มๆว่าจะตก แต่กลัวไอ้คนข้างๆมันหน้ามืดแล้วทำอะไรผมมากกว่า
“จะเถิบไปไหนวะ เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก” มันเตือนด้วยความหวังดี แต่คือมือมึงอะ ไม่ต้องลากกูให้เข้าไปใกล้ๆมึงได้มั้ย? แบบว่ามัน...แปลกๆยังไงก็ไม่รู้วะ
“ตัวสั่นเชียว กลัวกูทำไรมึงเหรอไง?”
“กลัวเหี้ยไร กูหนาวหรอก...โอ๊ยยยย!!”
มันกัดที่หัวไหล่ผมครับ เจ็บนะโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย
“บอกให้พูดดีๆ” ไอ้คนที่นอนข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“กูเป็นของกูแบบนี้ อยู่ดีๆจะให้กูมาพูด ..แกรนด์อย่างนู้นแกรนด์อย่างนี้ พี่พอสครับ พี่พอสขา .. เหอะ! มันไม่ใช่ตัวกูวะ อย่าฝืนเลย อีกอย่างนะ มึงฟังแล้วไม่จั๊กกะเดียมมั่งเหรอไงวะ? กูพูดเองยังอยากกัดลิ้นขาดให้รู้แล้วรู้รอด” ผมพลิกตัวหันไปมองมัน อธิบายร่ายยาว หวังให้มันเข้าใจ
“ก็พูดให้ชินดิ”
โว๊ยยยยย มึงเข้าใจที่กูพูดบ้างมั้ยเนี่ยยยยยย
ผมมองใบหน้าหล่อๆของมันในความมืด แม้จะเลือนรางแต่ก็พอเดาออกได้ว่ามันกำลังทำหน้าเจ้าเล่ห์อยู่
“ถ้าพูดไม่ดี...ครั้งแรก หอม ครั้งสอง จูบ ครั้งสาม...หึหึ” มันเว้นไว้แค่นั้น ชวนให้อยากรู้ แต่ผมไม่อยากคาดเดาเท่าไหร่
“เออๆแม่งงงงง..”
ฟอด!!
“เห้ยยยยยยยย” อยู่ดีๆมันก็หอมแก้มผมเฉยเลย ไอ้บ้านี่แม่งงงงงงงงงงง
“แม่ง พ่อ มึง กู เหี้ย สัด ห่า .. อะไรที่หยาบทั้งหมด ห้ามกูได้ยินจากปากมึง...ยกเว้น...เย็- พูดได้เพราะกูชอบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ไอ้ลูกหลานฮิตเลอร์ นอกจากมันจะชอบเผด็จการแล้วมันยังหื่นอีกด้วย ผมได้แต่ก่นด่ามันในใจ สงสัยครั้งนี้ต้องยอมไปก่อน อยู่ในอาณาเขตมัน แถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
“ครับๆ บรรทมเถอะครับคุณชายพอส” ว่าเสร็จผมก็หันหลังให้มันทันที
ราตรีสวัสดิ์ครับ
.
.
.
.
“ไอ้แกน ตื่น ตื่น ตื่น เที่ยงแล้วนะมึง”
“ตื่นสิโว๊ยยยยยยยยยยย”
“แม่งง ทำไมมันขี้เซาจังวะ?”
หืม เสียงใครว้า คนจะหลับจะนอน
ผมเอาผ้าห่มมาคลุมโปง จะก่อนหมุนๆตัว แปรสภาพตัวเองเป็นดักแด้ผ้านวมเรียบร้อย อากาศเย็นๆผ้านวมลื่นๆที่สัมผัสกับผิว เตียงนุ่มๆยังทำให้ไม่อยากตื่น
แต่แล้วก็มีคนมาทำลายเกราะดักแด้ผมด้วยการเขย่า ดึง ส่วนผมก็หมุนๆๆ กลิ้งหนี
“ไอ้แกน กูจะนับ1ถึง3 ถ้าไม่ลุกออกมา กูถีบมึงแน่”
อาราย ครายจะถีบกูวะ กูขอนอนต่อหน่อยเดียวเองน้า
“1”
“2”
“3”
ผลั่ก!!! ตึงงงง!!!
โอ๊ยไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แม่งถีบจริง ตื่นเต็มตาเลยกู
คือไม่ได้เจ็บหรอก แต่มันเหมือนเราบังคับตัวเองไม่ได้ กลิ้งตกจากเตียงที่สูงระดับต้นขา แล้วผ้านวมหนาๆก็พันตัว ทำให้ออกยากเข้าไปใหญ่
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
เมื่อโผล่หัวออกมาได้ก็เจอเจ้าของฝ่าเท้าที่ประเคนมาให้ผม แม่งหัวเราะได้สะใจมากอะ -*-
“ฮ่าๆๆ มึง .. มึง ฮ่าๆๆๆ” มันเอามือกุมท้อง พยายามจะพูด แต่พูดไม่ได้เพราะยังติดหัวเราะ .. ขอให้แม่งขำตายไปเลย “มึง...ตลกวะ ฮ่าๆๆๆ”
ไอ้ห่า ยืนหัวเราะ ไม่คิดจะช่วยกูเลยใช่มั้ยสาดดดดด แม่งงง
ผมพยายามตะเกียกตะกายพักใหญ่ ในที่สุดก็หลุดออกมาจากดักแด้ได้
“ความพยายามสูงใช้ได้ ..อะแฮ่ม .. กูไม่ขำละ ลุกๆ” ไอ้สัดกูออกได้แล้วเหอะ ผมลุกขึ้นยืน มันอยู่ในชุดสบายๆ “ไปอาบน้ำไป๊ แล้วเดี๋ยวไปหาไรกินข้างนอก”
ผมเข้าไปอาบน้ำไม่นานก็ออกมา ใส่ชุดเดิม เพราะตั้งใจจะกลับบ้าน ไม่ไปกินข้าวกับมันหรอก แค่อยู่กับมัน1คืนก็เต็มทนแล้ว นี่ถ้าให้ไปกินข้าวกับมัน2ต่อ2อีกมีหวัง...บรึ๋ยยยยย
“อ้าวไมไม่หาชุดใหม่ใส่วะ ในตู้กูเยอะแยะ” มันทักผมเมื่อผมเดินออกมา เอ๊ะนั่น ไอโฟน ผมจำได้เพราะใส่เคสสีน้ำเงินไว้ เลยเดินตรงไปหยิบ ไม่สนใจคนถาม “ตอบสิวะ หูหนวกไง๊?”
ไม่เข้าใจมันวะ คือต้องการให้กูพูดดีๆด้วย แต่ตัวเองก็ยังพูดแบบนี้ใส่ผมเนี้ยนะ?
ผมเสมองนิดนึงก่อนจะตอบ
“เดี๋ยวกูจะกลับหอ”
“ใครอนุญาตให้มึงกลับ?” มันหันมามองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
เอ้าไอ้เหี้ย เป็นพ่อกูรึไงสัด?!
“กูจำได้นะว่าเมื่อกี้กูบอกให้ไปแดกข้าว ไม่ได้ให้มึงกลับ” สงสัยมันเอาแต่ห่วงเรื่องไปกินข้าว จนลืมว่าผมพูด ‘กู’ กับมันเหมือนเดิม แต่ก็ดีแล้วล่ะ...
“แต่กูไม่หิว..”
จ๊อก จ๊อก จ๊อก
“มึงนี่ก็ตลกดีเนอะ ท้องร้องแต่เสือกบอกไม่หิว”
ไอ้กระเพาะบ้า...จะมาร้องหาไรตอนนี้วะ
“กูหาแดกเองได้” พูดจบผมก็หันหลัง เดินตรงไปยังประตูซึ่งเป็นทางออกทันที แต่ก็ยังมีมารมาขัด
“ไปแดกกับกู แล้วจะไปไหนก็เรื่องของมึง”
ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่ง ต้องปฏิบัติตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
มันไม่ได้พาผมไปกินในที่หรูๆหรอกครับ แต่งตัวแบบนี้ขืนเข้าไปกินมีหวังได้ถูกโยนออกจากร้านก่อน มันพาผมมากินร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ
“กะเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ” ผมสั่ง จะว่าสิ้นคิดก็ได้ แต่นี้คืออาหารโปรดผมแหละ สูสีกับน้องผัดไทเลย
“2เลยครับพี่” ไอ้พอสมันชู2นิ้วเป็นการย้ำ
“น้ำอะไรดีครับ” พนักจดถาม
“กระเจี๊ยบ” กินแล้วเย็นชื่นจายยยยย
“เหมือนกัน”
ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตรงหน้ามันไม่คิดจะใช้สมองตัวเองเลยใช่มั้ย?
“มึงด่ากูในใจเหรอสัด”
มึงเป็นไปฝึกวิชาสำนักอะไรที่ไหนบอกกูเดี๋ยวนี้นะ!! แม่งงงงง ความคิดกูก็ยังเสือกอ่านออกอีก
“เวลามึงด่ากูในใจตามึงจะจ้องกูเขม็ง ไม่ต้องไปฝึกวิชาที่ไหนหรอก หึหึ”
ผมหันไปมองยิบโซหรือยิบซีก็ไม่รู้ที่กำลังถือขวดน้ำอัดลมเป็นพรีเซนเตอร์หราอยู่บนไวนิลข้างร้าน ไม่อยากต่อปากต่อคำกับมัน (เถียงสู้ไม่ได้ก็ยอมรับมาเถอะไอ้แกนเอ๊ยยยย)
สักพัก ข้าวราดด้วยกะเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ2จานก็ได้กลิ่นหอมฉุยมาแต่ไกล ก่อนจะมาบรรจบที่ตรงหน้าผมกับไอ้พอส พนักงานเค้าวางจานข้าวฝั่งผมและฝั่งมัน แต่ไอ้คนตรงข้ามดันไม่พอใจ สลับจานข้าวซะงั้น
“ไข่กูต้องใหญ่กว่า” แล้วมันก็หันมามองจานผม ซึ่งไข่ดาวนั้นถูกทอดมาเป็นวงเล็กๆ แต่ทำไมผมรู้สึกว่าไอ้คำพูดนั้นมันกำกวมยังไงชอบกล
ช่างเถอะ ถ้ามันอยากได้ไข่ดาวใหญ่ๆก็ปล่อยมันไป ผมไม่ได้เรื่องมากในการกินขนาดนั้น จึงจ้วงตักข้าวเข้าปากทันที ไม่นานนักน้ำกระเจี๊ยบก็ตามมา ผมรับมาดูด..ฮ้า เย็นชื่นจายเจงงงงงง
“เห้ยๆ กินข้าวให้อิ่มก่อนค่อยกินน้ำ ไม่ใช่กินข้าวไปดูดน้ำไป”
“สัด แดกๆไปเหอะ พูดมากอยู่ได้” ไอ้พอสมันไม่โต้ตอบแต่กลับดึงแก้วผมไปไว้ฝั่งมันทันที
คือมึงเป็นพ่อกูเหรอสาดดดดดดดดดดดดดด แม่งงงงงงงงงงง
เอาวะทนอีกนิดเดียวก็จะได้กลับบ้านแล้ว
ผมคิดได้ดังนั้นก็รีบกินอย่างกับห่าลง
“กินช้าๆก็ได้มั้ง กูไม่รีบ”
แต่กูรีบ
“เดี๋ยวก็ติดคอตาย”
“แค่กๆๆๆๆๆๆๆ”
โอ๊ยยย เม็ดข้าวลงคอ สำลักความเผ็ดอีกกู น้ำๆๆๆ กระเจี๊ยบกูอยู่หนายยยยย
ไอ้พอสมันรีบยื่นน้ำให้ผม
“เห็นมั้ยกูบอกแล้วค่อยๆกินก็ได้”
ผมรีบรับน้ำจากมันแล้วดูดอึกๆๆๆ ฮ้า..ช่วยได้เยอะ
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้ว่านอกจากมันจะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่มีจิตวิญญาณของฮิตเลอร์แล้ว มันยังสามารถอ่านใจคน พร้อมกับมีวาจาสิทธิ์อีกด้วย!! โหยยยยย คนเหี้ยไรเนี่ยยยยยย
RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR
ของผมเอง คราวนี้รู้ได้เพราะผมเปลี่ยนเสียง ไม่ให้ซ้ำกับมัน
MAMA
ผมรีบวางช้อนดูดน้ำเร็วๆ กดรับสายจากคนที่ผมคิดถึงม๊ากกกมากกกกกกกกกก
“ว่าไงครับสุดสวย”
/คิดถึงสุดหล่อเลยโทรมาหา/
“จริงป่าววววว?”
/จริงที่สุดดดด ว่าแต่แกรนด์เถอะ ไม่ยอมโทรหาม๊าเลย งอนแล้วนะ/
“โอ๋ๆๆๆๆ ไม่งอนนะคร้าบบ แกรนด์ขอโทษ พอดีแกรนด์ยุ่งๆอ่า ทั้งเรื่องกิจกรรมเรื่องเรียนอีก”
/จ้า ม๊าเข้าใจ แล้วนี่ทำอะไรอยู่?/
“กำลังกินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวครับ แล้วสุดสวยกินไรยัง?”
/เรียบร้อยแล้วจ้ะ เพิ่งออกไปกินกับป๊ามาเมื่อกี้เอง...อยู่คนเดียวเป็นไงบ้าง ลำบากมั้ย?/
“ม่ายเลยยย สบ๊ายยยย แกรนด์เก่งอยู่แล้ว”
/ม๊ารู้ว่าแกรนด์เก่ง ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็บอกนะ ม๊าจะได้ให้ป๊าเค้าโอนเงินไปให้/
“ครับผม”
/แล้วเมื่อไหร่จะกลับมาบ้านมั่งละแกรนด์/
“เอ่อ...คงหลังสอบมิดเทอมอ่า..”
/จ้า ตั้งใจเรียนนะ สู้ๆ ม๊ารักสุดหล่อนะครับ/
“รักสุดสวยมากกว่าเยอะๆเล้ยยยยยย”
/ฮ่าๆๆ ตอนนี้ก็พูดแบบนี้ ไม่ใช่พอเจอสาวแล้วก็คงลืมม๊า.../
“ไม่มีทาง ยังไงก็ไม่ลืม”
/แล้วม๊าจะจำคำนี้ไว้ ฮ่าๆๆ ต้องออกไปซื้อต้นไม้กับป๊าแล้ว วางก่อนนะแกรนด์ บายจ้ะ/
“บายครับ”
ผมกดวาง เก็บเครื่องมือสื่อสารเข้ากระเป๋ากางเกง นี่เป็นปกติของผมกับม๊าที่สนิทกันมากกกกกกกกก ม๊าเป็นทุกอย่างสำหรับผม ทั้งครู ทั้งเพื่อน ทั้งพี่สาว เป็นยิ่งกว่านิยามคำว่า ‘แม่’ ผมชอบคุยแบบนี้กับม๊า ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับแฟนดี แถมบางครั้งยังมีส่งข้อความกุ๊กกิ๊กน่ารักๆไปมาด้วยนะ อย่างกับแฟนกันจริงๆ จนบางทีป๊ายังหึงเลย ฮ่าๆๆ ทั้งๆที่ม๊าก็อายุใช่ว่าจะน้อยแล้วปาไปสี่สิบกลางๆ แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็ยังดูสาวสวยสดใสวัยแรกแย้มเสมอ (?)
ส่วนปะป๊าหรือที่ผมเรียกอย่างมักง่ายว่า ‘ป๊า’ นั้นก็เป็นคนง่ายๆครับ ไม่เรื่องมาก ไม่ดุ แต่ทำอะไรย่อมมีเหตุผลเสมอ ทุกค่าใช้จ่ายทุกรายละเอียดป๊าเป็นคนจัดการ รูปหล่อขาวตี๋เพราะเกิดที่จีนแล้วอพยบมาอยู่ไทยตอนเด็กๆ ปัจจุบันทำอาชีพช่างไม้ เป็นเจ้าของกิจการเอง ลงไปคุมงานตัดไม้ ไสไม้ วัดขนาด ทำทุกๆอย่าง เพราะมีคนงานแค่ไม่กี่คน แต่ม๊านั้นทำอาชีพขายหนังสือ มีแผงหนังสือวางหน้าบ้านตัวเอง จำพวกนิตยสาร หนังสือพิมพ์ การ์ตูน บอกแล้วว่าบ้านผมไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้จนมาก ขอแค่ไม่เป็นหนี้ก็พอแล้ว
แต่เอ...ทำไมผมรับรู้ได้ถึงรังสีกดดันแถวๆนี้หว่า?...พอเงยหน้ามามองคนตรงข้าม
อ้อ! เก็ททันที
นั่งทำหน้าหล่อดุ จ้องผมเขม็ง ในจานกินเกลี้ยงไม่มีเหลือแม้แต่ข้าวสักเม็ด สะอาดเหมือนจานล้างแล้ว แต่จานข้าวผมดิ...เม็ดข้าวกระจัดกระจายเหมือนคุ้ยๆอะไรสักอย่าง
คือผมเป็นคนชอบคุ้ยข้าวอะครับ จริงๆนะ จะกินเป็นหย่อมๆ (คล้ายหย่อมหญ้า) ตรงไหนมีผัก ผมไม่เขี่ย แต่จะเลี่ยงไม่แตะตรงนั้น ไปคุ้ยข้าวที่อื่นแทน ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้...
อันที่จริงคนเราก็แปลกนะ ผมเห็นหลายคนละ สั่งผัดกระเพราแต่เขี่ยกระเพราไว้ข้างๆจานกินแต่เนื้อ งั้นจะสั่งมาทำไมว้า? เหมือนว่าตัวเองเลยเนอะ ฮ่าๆๆๆ แต่ผมไม่ได้เกลียดผักนะ คือกินได้ แต่มีอยู่2อย่างที่ผมไม่กินไม่แตกเลยนั้นก็คือ
1.ถั่วงอก เหตุผลเพราะ ตอนเด็กๆผมจำคำพูดของใครมาก็ไม่รู้ที่บอกว่า ‘กินถั่วงอกแล้วหัวโต’
2.กระเพรา โหระพา สะระแหน่ เหตุผลเพราะ ผมไม่ชอบอะ
ดังนั้นเวลากินผัดไทผมจะสั่งเลยว่าไม่ใส่ถั่วงอก แต่กระเพราเนี่ยสิ จะสั่งไม่ให้ใส่ใบกระเพราก็กระไรอยู่ บ่นมาซะยาวไอ้คนตรงข้ามมันยังจ้องผมไม่เลิกอีกเหรอเนี่ย?
“กินข้าวให้หมด” น่านไง เริ่มเปิดฉากโจมตีละ
“อิ่มแล้ว”
“งั้นก็รวบช้อนส้อมกับเศษข้าวให้ดีๆ” ตามด้วยการสั่งสอน
สงสัยผมคงต้องพ่วงตำแหน่งปะป๊ากิตติมศักดิ์ให้มันด้วยใช่มั้ยเนี่ย? ยิ่งกว่าป๊าผมอีก เห้อออ
ผมไม่ทำตามที่มันบอก ลอยหน้าลอยตาดูดน้ำอย่างไม่สนใจ คนสั่งส่งสายตาดุๆมาซึ่งผมเริ่มจะชิน เพราะมีภูมิต้านทานแล้วเล็กน้อย
ดูเหมือนมันจะรู้ว่าผมไม่ทำตามแน่ๆเลยเปลี่ยนประเด็น
“เมื่อกี้ใครโทรมา?”
“จำเป็นที่มึงต้องรู้?”
ถามมาก็ถามกลับ กวนตีนดีมั้ยล่ะผม หึหึ
“ตอบ” เสียงนิ่งได้อีก
“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของมึง” ผมตอบมันแล้วกวักมือเรียกพนักงานมาคิดเงินทันที ไอ้พอสไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่ายๆมันเลยยังจ้องผมอย่างคาดคั้น
อะไรนักหนาวะ กะอีแค่กูคุยกับแม่ เห้ออออ
หืม..นั่น ร้านเกม...ผมว่าผมคิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ หึหึ
“ทั้งหมด 124 บาทครับ” พนักงานคิด ไอ้พอสหยิบเงินให้200 ผมรีบจ่ายคืนมันทันที ไม่อยากเป็นหนี้มันอีก
“แค่นี้กูเลี้ยงได้”
“เอาไป กูไม่อยากเป็นหนี้ใคร” แต่มันหยิ่ง ไม่รับครับ เออดี! ไม่ต้องมาตามทวงค่าข้าวทีหลังนะมึง
“แต่มึงต้องตอบกูว่าเมื่อกี้คุยกับใคร”
ยัง ยังไม่เลิก
“มึงอยากรู้มากใช่มะ?” ผมถามมันระหว่างที่รับเงินทอน “ชนะHonกูให้ได้ก่อนดิ หึหึ”
คนที่กำลังงเก็บเงินขมวดคิ้วทันที
ดอทเอมันล้าสมัยไปแล้วไอ้น้อง
ที่ผมกล้าท้าเพราะผมเป็นคนที่ติดเกมมากถึงมากที่สุด เล่นยันตี3ตี4ไม่หลับไม่นอน และอีกอย่างผมมั่นใจว่ามันต้องไม่เคยเล่นมาก่อนแน่ๆ .. ถึงจะเคยเล่นดอทเอ คล้ายกันก็จริง แต่ฮีโร่ สกิล เข้าป่าบางจุดมันก็ไม่เหมือนกันนะคร้าบบบบ
“ก็เอาดิ..แล้วถ้ากูแพ้มึงล่ะ?”
“ถือว่ามึงจ่ายค่าข้าวให้กูแล้วกัน” ผมไม่ชอบเอาเปรียบใคร เป็นคนดีมั้ยละ
ผมกับมันลุกขึ้น เดินออกจากร้าน เป้าหมายอยู่ที่ร้านเกมที่ไม่ห่างจากกันมากนัก พบเข้าไปในร้านก็พบว่าคนแน่นเอาการ ถามเจ้าของร้านดูก็พบว่าเครื่องว่าง2เครื่องพอดี แถมติดกันด้วย กลายเป็นโชคดีไป
อันที่จริงเกมต้องเล่นเป็นทีม 5ต่อ5 แต่กรณีนี้มันพิเศษ แมนทูแมน เลยตั้งห้องขึ้นมาใส่พาสเรียบร้อย
น่าสงสารมันนะที่ต้องมานั่งเล่นเกมทั้งๆที่แค่อยากรู้ว่าผมคุยกับใคร...แถมคำตอบนั้นมันก็ง่ายๆ ซึ่งไม่รู้ว่ามันคิดไปถึงไหน
หน้าจอมันและผมบ่งบอกสถานะว่าเข้าสู่เกมแล้ว จุดเกิดอยู่ที่คนละมุมของแมพ จับเวลา
เอาละผมขอทำสมาธิกับเกมตรงหน้าก่อนนะครับ
เวลาหยุดสิ้นสุดเกมส์ที่ 50:43 วินาที
ผลที่ออกมาคือ...
มันชนะครับ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่อยากเชื่อ แม่งต้องเคยเล่นมาก่อนแน่ๆๆๆ ผมรีบกดดูโปรไฟล์ไอดีมันทันที แต่ปรากฏว่า...มันเพิ่งเริ่มเล่นจริงๆคับ ฮืออ นี่ผมแพ้ไอ้Newbieใช่มั้ยเนี่ยยย อับอายโว๊ยยยยยยยยยยยยยย
“หึหึ”
ขำเหี้ยไรวะ ทับถมคนแพ้เหรอสาดดดดดด
“GGG” มันพิมในเกมมา ช่องข้อความลับ
อะไรวะ มันพิมมาเกินรึไง? ในความหมายปกติของ GG คือ Good Game
และมันก็ไม่ปล่อยให้ผมงงนาน...
“Gag Grean Grand”
สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กากเกรียนแกรนด์!! พ่องงงงงงงงงงงงงง
ผมถอดหูฟังลุกออกจากร้านทันที ไม่สนว่าไอ้คนชนะมันจะตามมารึเปล่า
อยากจะบอกว่าความจริงที่ผมรีบออกมาไม่ใช่อะไรหรอกครับ..คือ..อายอะ บอกตรงๆ อุตส่าห์มั่นใจเป็นมั่นเป็นเหมาะแน่ๆว่ายังไงกูต้องชนะ แต่ไหงผลมันกลับตาลปัดเป็นงี้ได้วะ? แถมยังโดนมันด่าอีก แม่งงงงงง คนเทพเกมอย่างผมรู้สึกเสียหน้ามากๆๆๆๆอะ ดีนะที่ไม่ได้บันทึกรีเพลย์ไว้ให้เจ็บช้ำใจเล่น
“เห้ย หยุด มึงจะผิดสัญญาเรอะ?”
เออตกลงจะรู้ให้ได้ใช่มั้ย?
ผมหันไปเผชิญหน้ากับมัน
“กูคุยกับแม่ สัด! จะอยากรู้ไปทำเหี้ยไรนักหนาวะ” เห็นมั้ย..กูขายหน้าเล่นฮอนแพ้เพราะมึงเลยยยยยย
ไอ้คนสมหวังที่ได้รู้คำตอบทำหน้าระรื่น
“อ้าวเหรอวะ ฮ่าๆๆ....แต่ฮอนแม่งหนุกดีวะ ถึงจะคล้ายดอทแต่กูชักชอบแล้วดิ เล่นอีกเกมมะ?”
“ไม่!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ