Fiction Rewrite
7) ในรอยรัก 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในรอยรัก
สำลีชุบแอลกอฮอลล์ทำแผลแตะลงบนมุมปากช้ำเลือดช้ำหนองที่เพิ่งผ่านการปะทะอย่างแรงกับหมัดหนักๆของเคนตะ คนหล่อลอบซี้ดปากด้วยความแสบ ดวงตาสีดำเพ่งมองคนตรงหน้าอย่างไม่กระพริบ เพราะเกรงว่าเธอจะหลบหนีเขาไปแม้หากเขากระพริบตาเพียงเสี้ยววินาที
“ทำแบบนี้ไปทำไม?”
“....”
“....”
ไร้ซึ่งคำตอบจากเจ้าของดวงหน้าสวย เธอยังคงทำแผลให้เขา ไม่ได้สนใจในสิ่งที่โทโมะเอ่ยถาม นั่นทำให้คนตรงข้ามเข้าใจว่า เธอไม่แคร์! ดวงตาอ่อนโยนเมื่อครู่วาวโรจน์ขึ้นอีกครั้งด้วยความโกรธสุดแสน ไม่ได้อยากจะโกรธเธอเลยแม้แต่นิด แต่ทำไมกัน? ถึงชอบทำตัวให้เขาโมโหนัก ไม่เข้าใจ!!
“พี่ถามว่าทำแบบนี้ทำไม? ทำไมไม่กลับไปหาคนรักของเธอ”
“....”
“อย่ามาเล่นสงครามประสาทกับพี่นะ!”
“แล้วคุณลากฉันมาทำไม?”
“ก็เธอไม่ใช่เหรอ? ที่ดึงดันอยากจะอยู่กับฉันจนตัวสั่น ทำไม? ไอ้บ้านั่นมันไม่ถึงใจหรือยังไง? สู้ผัวเก่าแบบฉันไม่ได้เหรอ? ฮึ!” เอ่ยประชดด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนที่มือเรียวของแก้วจะฟาดลงบนแก้วนิ่มของเขาเต็มแรง
พอกันทีกับความอดทน ที่มีขีดจำกัดของเธอ!
“ชาตินี้เราคงพูดกันดีๆอีกไม่ได้แล้วละคุณวิศว เราจบกันตรงนี้ อย่ามายุ่ง ฮึก..กับฉันอีก!” ตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงสั่นไหวเนื่องจากความเสียใจที่ทะลักอก น้ำตาเม็ดโตพรั่งพรูไม่ขาดสายจากดวงตาเรียวคู่สวยที่บัดนี้บวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน
ก่อนจะวิ่งออกไปไม่คิดชีวิต ส่วนโทโมะก็ไม่คิดจะตาม เพราะยังถือโทสะที่กำลงครอบงำจิตใจที่ดูเหมือนแข็งกร้าวของเขา แต่ความจริงแล้ว...มันอ่อนแอ และไร้ซึ่งเข้มแข็งดังกิริยาที่เขากำลังแสดงออก!
เขากำลังพยายามที่จะทำให้ตัวเองเข้มแข็งเพื่อปกปิดความอ่อนแอภายใต้จิตใจที่กำลังโรยแรงเต็มทน...ไม่มีใครทนได้หรอกที่เห็น คนที่รักมากที่สุด เดินจากไป...
.
.
.
.
.
เมื่อสภาพดินฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อแก้ว ร่างบางวิ่งโซซัดโซเซฝ่าสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว ด้วยความยากลำบาก มือบางยกกอดตัวเองด้วยความหนาวเหน็บจากเม็ดฝนที่ตกกระทบสู่ผิวกายนวลเนียนบอบบางนั่น.... น้ำฝนไหลอาบแก้วนวลปะปนกำหยาดน้ำตาที่กำลังรินรดไปพร้อมๆกัน ให้น้ำฝนชะล้าง น้ำจากดวงตา...
“ฮึก...พี่ไม่เคยเข้าใจแก้วเลย ทั้งที่พี่เป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้” แก้วสะอึกสะอื้นกับตัวเอง ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ และยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆๆ ก่อนจะกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อ...
แสงไฟตัดหมอกจารถยนต์ตรงหน้าสาดเข้าดวงตาพร้อมๆกับที่กำลังจะชนร่างอรชนของเธอ..
และสติก็ดับวูบไป
.
.
.
.
.
“แก้ว ๆๆ” เสียงเรียกพร้อมกับการเขย่าแขนเธอเบาๆ ทำให้คนสิ้นสติไปชั่ววูบเริ่มรู้สึกตัว ร่างบางขยี้ตาน้อยๆเพื่อปรับจุดโฟกัสให้กับสายตา ที่พร่าเบลอก่อนจะเริ่มเห็นภาพเลือนลาง
“เคนตะ”
ออกอาการงุนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนข้างกายคือเคนตะ ... เขามาได้อย่างไรกัน? ชายหนุ่มคลี่ยิ้มๆบางๆก่อนจะแตะหลังมือลงบนหน้าผากเนียนของแก้วเบาๆด้วยความห่วงใย อดจะสะดุ้งไม่ได้เมื่อเขาโดนตัว จนลืมนึกไป...ว่าเขามีสิทธิ์
“แก้วเป็นอะไรไปเคนตะ?”
“แก้วเป็นลม...ตากฝนทำไม?”
“แล้วเคนตะ...เอ่อ..แก้ว...ยังไงดีละ แก้วมาอยู่ที่บ้านของเคนตะได้ยังไง?”
“......”
เห็นคนรักเงียบไป แก้วก็ยิ่งสงสัยหนัก...คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแน่นจนเป็นปม เผยให้เห็นความไม่สบายใจอย่างยิ่งกับท่าทีที่ดูแปลกตาไปของเคนตะ...เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เธอสลบไปอย่างนั้นหรือ?
.................................................................................................................
อ๊ากกกกก 50% ก่อนนะค้าบบบ ลืมทำการ์ดวันพอ่ แง้งT^T เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อยาวๆๆๆๆเกิน 100 เลยนะๆๆๆ
“เคนตะ!” น้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็นของแก้วเอ่ยถามเขา ด้วยความที่เธออยากจะรู้เหลือเกินว่าเธอมาอยู่กับเขาได้อย่างไรกัน? ทั้งที่เธอเพิ่งออกมาจากคอนโดคนใจร้ายคนนั้น!!
“ไม่มีอะไรหรอก แค่แก้วไม่สบายเดินตากฝนจนเกือบโดนรถชน แล้วพลเมืองดีแถวนั้นโทรเข้าเบอร์ผม ผมก็เลยไปรับแก้วมา ไม่อยากจะพาแก้วเข้าบ้านเพราะไม่รู้จะตอบคำถามกับครอบครัวของแก้วยังไงดีก็เท่านั้น เอาละ พักผ่อนซะนะ เดี๋ยวเคนตะ ไปเอายามาให้”
ตัดบทสนทนาระหว่างตนเองกับหญิงสาวก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบยาแก้ปวดให้ แก้วมองตามแผ่นหลังที่ขยับเขยื้อนเมื่อยามที่เขาเยื้องย่างกายด้วยแววตาสับสนไม่เข้าใจ ดูเหมือนเคนตะคงมีอะไรปิดบังเธอ แล้วเธอยังไม่รู้เป็นแน่!
.
.
.
.
.
.
หลังจากที่แก้วเพลียจากพิษไข้ หลับไปสักพัก เคนตะก็เดินออกมานั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียวที่โต๊ะรับประทานอาหาร 2 มือแกร่งบีบแก้วน้ำตรงหน้าจนน้ำในแก้วสั่นกระเพื่อม บีบมันแน่นเสียจนแทบแหลกละเอียดคาน้ำมือของเขา
เมื่อหลายชั่วโมงก่อน...
“ครับแก้ว”
“มารับคนรักของนาย!” เมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาได้รับสายจากหญิงคนรักอย่างแก้ว ชายหนุ่มตาวาวด้วยความดีใจที่เธอโทรหาเขา เพราะปกติแล้วถ้าไม่จำเป็นหรือไม่มีธุระอะไร เขาไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากเธอนักหรอก...เลยยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบางที ควรโทรเข้าไปไหม?
เอ่ยรับด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ แต่พอปลายสายตอบกลับมา...จึงทำให้เขาได้รู้ว่า แก้วไม่ได้เป็นคนโทร
“คุณเป็นใคร?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยถามสายตรงข้าม มือหนาเกร็งแน่นอย่างไม่เข้าใจ ผู้ชายคนนี้เสียงคุ้นเสียเหลือเกิน...เคยเจอกับเขามาก่อนหรือเปล่า?
“โทโมะ!! ถ้าจำฉันได้แล้ว...มารับคนรักของนายไปด้วย ที่คอนโดฉัน!!”
อีกฝ่ายแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดก่อนจะกระแทกหูวางโทรศัพท์ไปเสียดื้อๆ จะให้มัวแต่ครุ่นคิดถึงการที่แก้วไปอยู่คนโดเขาได้อย่างไรนั่นก็คงจะไม่ใช่เรื่อง...เวลานี้เขาต้องไปรับเธอ
.
.
.
.
.
“คุณทำอะไรแก้ว ผมถามว่าคุณทำอะไร?” ถึงคอนโดเขา เคนตะก็ปรี่เข้าไปกระชากคอเสท้อศัตรูหัวใจทันที อีกฝ่ายแค่นยิ้มน้อยๆก่อนจะสะบัดมือเคนตะออกจากปกเสื้อตัวหรูของเขาด้วยท่าทีเดียดฉันท์ พร้อมกับปรายตามองร่างบางที่นอนขดหนาวเนื่องจากตากฝนมาเมื่อครู่...
“คนรักของนายเรียกร้องความสนใจจากฉันละมั้ง ถึงได้เดินตากฝนจนไข้ขึ้นแบบนี้ ฮึ...”
“ทำไมแก้วต้องเรียกร้องความสนใจจากคุณด้วย คุณกับแก้วเป็นอะไรกัน? เฮอะ เธอเป็นคนรักของผม ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกร้องความสนใจจากคุณหรอก คุณโทโมะ!!”
“งั้นเหรอ? ฉันจะบอกอะไรไว้ให้เอาบุญนะ ฉันเนี่ยแหละผู้ชายคนแรกของแก้ว แล้วอีกอย่างนะแก้วไม่ได้รักคนอย่างนายหรอก ฮึ....เห็นกับผู้หญิงที่ฉันรัก ในเมื่อเขาเลือกนาย ก็เอาของๆนายคืนไป!”
เอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับคนที่ถือเหนือกว่า เคนตะมองตามด้วยสีหน้านิ่งงันเมื่อเขาพูดแบบนั้น ผู้ชายคนแรกของแก้ว...คนที่แก้วไม่เคยลืม
เขายอมที่จะให้พาเธอกลับโดยไม่คิดจะเหนี่ยวรั้ง... เพียงเพราะประโยคที่ว่า ‘ผู้หญิงที่ฉันรัก’
เคนตะค่อยๆช้อนร่างบางที่ยังสลบเพราะพิษไข้บนโซฟาขึ้นอย่างถนอม เหลือเห็นชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เธอสวมใส่ เดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนเปลี่ยนชุดให้... ก่อนจะเดินออกไปจากห้องของโทโมะโดยไม่เหลียวกลับมามอง
.
.
.
.
.
ทางด้านโทโมะ...หลังจากที่เขายอมคืนของของคนอื่นให้กับเจ้าของเขาไปแล้ว ตัวเองกลับต้องมานั่งอมทุกข์โศกา จนไม่เป็นอันกินอันนอน การงานก็ปล่อยปะละเลยไม่ได้สนใจโลกภายนอกเลยสักนิด ..วันๆเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องรำพึงรำพันถึงหญิงคนรักจนแทบสิ้นสติ...
เพล้ง!!!~
“โว้ยยยยย” มือหนาปัดป่ายขวดเหล้าชั้นดีราคาหรูที่ถูกเขากรอกเข้าปากจนหมดขวดแล้วขวดเหล้าแตกระจาย
ไม่เหลือสภาพคนหล่อเลยสักนิด ผมเพ้าที่เคยถูกจัดทรงเนี้ยบเป็นประจำทุกวัน ยุ่งเหยิงแทบดูไม่ได้ ...
“แก้ว...กลับมาหาพี่เดี๋ยว...นี้ ฮึก...กลับมา” กอฮอลล์รสร้อนถูกกรอกเข้าปากหนาจนหมดหยดสุดท้าย ไหลลงผ่านลำคอจนเขารู้สึกร้อนวูบ รู้ซึ้งถึงฤทธ์สุราที่ทำให้เขามีสภาพไม่ต่างจากคนจรจัดตามท้องถนน....เวลาได้อยุ่กับตัวเองในขณะที่มีสติไม่สมประกอบแบบนี้ มันทำให้เขาหวนนึกถึงอดีตที่ยากจะหลายคนจะจดจำได้ดี ในเมื่อเวลาก็ผ่านมาเกือบๆ 5 ปีแล้วก็ตาม
“พี่ขอโทษ” หยดน้ำตาร้อนรินไหลอาบแก้วเนียนของเขาช้าๆ เหมือนน้ำกรดที่กำลังกัดกินเนื้อหนังของเขา จนรู้สึกแสบใบหน้าไปหมด รอยรักครั้งก่อนยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา...
รู้ตัวเองดีว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร หรืออาจจัดว่าเลวเลยก็ได้ในสายตาของใครหลายๆคน อาจจะดุเหมือนนิยายน้ำเน่าตามท้องตลาดหากเขาจะบอกว่า รักผู้หญิงคนนั้น และพร้อมจะหยุดที่เธอ...แม้ว่าเขาไม่เคยทำได้เลยก็ตาม เขายังคงมีผุ้หญิงอื่นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักเธอ...หากเขาไม่รัก เขาคงรับผิดชอบเด็กในท้องของคู่นอนคนล่าสุดไปแล้ว ใช่..เขามันเลวเกินกว่าที่เธอจะให้อภัย
การกลับมาของเขาครั้งนี้ จุดประสงค์ของเขาก็คือ กลับมาหญิงผู้เป็นที่รัก ในใจก็เฝ้าแต่ภาวนาให้เธอไม่มีใคร ยอมเป็นฝ่ายที่จะเข้ามาขอโทษ เข้ามายอมรับผิด เพราะรัก...เพราะรักคำเดียว
แต่ในเมื่อเธอมีคนรักแล้ว การที่จะไปยื้อแย่งแม้รู้ดีว่าเธอเองก็ยังรักตัวเขาอยู่ มันก็ดูจะไม่ใช่ลูกผู้ชายเอาเสียเลย ทางที่ดี เขาควรยอมแพ้แล้วเดินออกมา...แก้วควรมีอนาคตที่ดีกว่านั้น บางทีเขาอาจต้องพิจารณาตัวเองใหม่อีกครั้ง ประเทศไทยคงไม่มีที่ให้เขายืนอีกแล้วก็เป็นได้...
...............................................................................................................................................................
มาจนครบละค้าบบ(กว่าจะมาTT)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ