Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  116.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

42) My Tomio

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                                             My Tomio

 

 

 

 

ผมก้มมองนาฬิกาบนข้อมือเป็นครั้งที่สามหลังจากปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์มานานถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม จนแล้วจนรอดคนที่ผมนัดไว้ก็ยังไม่มาเสียที จะงานยุ่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ขนาดผมที่ยุ่งแทบตายยังมาถึงก่อนทุกครั้งเลย ให้ตายเถอะ...นี่ไม่ได้เห็นความสำคัญกับการนัดของผมเลยหรือไงฮะ!

 

 

“อยากตายนักใช่มั้ยเราน่ะ...” ผมกรอกเสียงไปตามสายหลังจากคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหายัยเด็กบ้านั่นให้รู้แล้วรู้รอด

 

 

โทโมะอ่า จะถึงแล้วจริงๆ

 

 

“จะถึงไหน...ถึงหน้าบ้านแก้วหรือเปล่า นี่แก้ว...หัดมาเร็วๆบ้างได้มั้ย โทโมะจะบ้าแล้วนะ”

 

 

โทโมะคิดถึงแก้วมากเลยล่ะสิ คิคิ...

 

 

“เหอะ!....ชิ” เกลียดจริงๆพวกเด็กรู้ทัน ถึงจะโมโหที่เธอปล่อยให้ผมนั่งรอนานๆแบบนี้ก็เถอะ แต่ดูพูดเข้า...ผมคงโกรธลงอยู่หรอกนะ บ้าเอ๊ย! ทำไมต้องแพ้มุขนี้อยู่เรื่อยเลย

 

 

ไม่ต้องทำเสียงประชดแก้วแบบนั้นหรอก แก้วรู้ว่าโทโมะกำลังยิ้ม...

 

 

“รู้ดี...ชิ” ผมว่าปลายสายเบาๆอย่างไม่จริงจังมากนัก เห็นมั้ยล่ะ! ผมแพ้จริงๆ เด็กบ้านั่นเป็นแม่มดหรือไงถึงรู้ไปซะทุกเรื่อง แม้กระทั่งตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันต่อหน้าเพียงแค่คุยโทรศัพท์เธอก็ยังรู้ว่าผมยิ้มให้เธอ...

 

 

แค่นี้ก่อนนะโทโมะ แก้วกำลังจะถึงแล้ว

 

 

“อืม...ก็วางสิ”

 

 

งอนเหรอ?

 

 

ตึ้ด!

 

 

            ผมตัดสายลงอย่างนึกสนุก ให้เธอนึกว่าผมงอนเธอบ้างก็ดี ผมจะได้ถูกง้อบ้าง ถูกเป็นฝ่ายที่ทำให้เธอรอบ้าง แก้วอ่าจะได้เข้าใจผมสักทีว่าผมไม่ชอบรออะไรนานๆ นัดทีไรโทโมะคนนี้ก็ต้องเป็นคนนัด ไม่เคยหรอกที่อีกฝ่ายจะมานัดไปเที่ยวกันน่ะ ไม่เคยเลย...น่าน้อยใจชะมัด เหอะ!

 

 

“ผีดิบ ฉันมาแล้ว ^^”

 

 

“โทโมะควรได้ยินประโยคนี้ตั้งนานแล้วนะ”

 

 

“ตกลงงอนจริงๆเหรอ?”

 

 

“แก้วคิดว่าไงล่ะ โทโมะควรจะบอกว่า...อาแก้ว โทโมะโอเค แก้วให้รอแค่ชั่วโมงเดียวเอง ไม่เป็นไรๆ แบบนี้น่ะเหรอ? ไม่โกหกได้มั้ยล่ะ”

 

 

“งอนก็พูดว่างอน พูดแค่นี้ไม่ได้เหรอ ผู้ชายสมัยนี้เด็กจริงๆเลยนะ”

 

 

“แก้วสิเด็ก ให้โทโมะรอมากี่ครั้งแล้ว แล้วนั้นถือถุงอะไรมา?” เจ้าตัวพองแก้มเล็กๆเหมือนเด็กถูกขัดใจก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับส่งสายตาผิดปกติสุดๆมาทางผม

 

 

“อ่าโทโมะ...คือ”

 

 

“รองเท้าผ้าใบนี่...เอามาทำไม”

 

 

“อะ...อ๋อ เอามาซ่อม”

 

 

“นี่ซักบ้างหรือเปล่าเนี่ย โทโมะซื้อให้แล้วเธอยังไม่ยอมดูแลอีกเหรอ ชิ...เอ้ะ นี่อย่าบอกนะว่า...”

 

 

“ก็...แก้วไม่มีเวลานี่นา”

 

 

“อ๊า!” ให้ตายเถอะครับจูเลียตของผม รองเท้าผ้าใบคู่นี้ผมอุตส่าห์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว แก้วชอบมันมากจนถึงกับใส่ตลอดจนถึงปีนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะทำความสะอาดมัน อันที่จริงมันก็ไม่เลอะมากหรอกแต่ก็ดูหมองไปเยอะพอสมควร

 

 

“โทโมะ...”

 

 

“แก้วจะให้โทโมะซักให้งั้นสิ?”

 

 

“อ่า... (. .)” ผมเดาผิดที่ไหนล่ะ ไม่มีทางหรอกที่แก้วจะเอารองเท้ามาซ่อมด้วยตัวเอง เธอทำแบบนั้นไม่เป็นหรอก สรุปผมต้องซักให้? ให้ตาย...อยากจะฆ่ายัยเด็กบ้านี่จริงๆ

 

 

“เหอะ!...มีใครเขาทำกันบ้างฮะ บอกมาสิ” ผมเอื้อมมือไปบีบจมูกเรียวๆนั่นอย่างหมั่นไส้ เจ้าตัวได้แต่ทำหน้าค้อนตั้งท่าจะโวยวายแต่ก็ต้องเงียบไปเพราะถูกผมสวนขึ้นมาก่อน

 

 

“...”

 

 

“โทโมะซื้อให้แล้วยังจะให้ซักให้อีกเหรอ ร้ายกาจเกินไปแล้วนะ สุดยอดไปเลย”

 

 

“เพราะโทโมะเป็นโรมิโอของฉันไง ทำให้ฉันแค่นี้ไม่ได้เหรอ”

 

 

“นี่เด็กหญิงจริญญาครับ คนอื่นเขาจะมองโทโมะยังไงเนี่ย อ่า...”

 

 

“โทโมะไม่ต้องก็ได้ ลำบากเปล่าๆ”

 

 

“เอามานี่ ไปขึ้นรถไป”

 

 

 

            เจ้าตัวทำท่างอนๆเหมือนจะคว้าถุงรองเท้ากลับแต่ผมนี่สิดันเอื้อมมือไปกระชากมาเสียก่อน แต่อย่าฝันเลยว่าที่ผมยอมทำให้เนี่ยเป็นเพราะรักหรืออะไรแค่ไม่อยากตามง้อต่างหาก ไม่ได้รักหรอก แก้วรักผมตายล่ะให้ผมกลายไปเป็นคนซักรองเท้าเนี่ย เธอรักผมมากเลยนะหึ!

 

 

ผมก็ไม่รักเธอหรอก แค่ไม่อยากให้เธองอน..

 

 

“มองอะไร ไม่ต้องมองโทโมะแบบนั้นเลยนะที่ทำให้เนี่ยไม่ได้แปลว่าแคร์หรอกนะ” ผมตามไปขึ้นรถฝั่งคนขับโดยมียัยตัวดีนั่งยิ้มอยู่เบาะข้างๆ เหอะ คิดว่าทำแบบนั้นแล้วมันน่าภูมิใจมากมั้ยนะ

 

 

“พูดว่ารักนี่พูดยากนักเหรอ”

 

 

“อะไร! ใครรัก...คิดไปเองหรือเปล่า”

 

 

“พี่ฟิล์มอ่า ทำงานอยู่หรือเปล่านะ แม่แก้วเป็นแฟนคลับเขาเลยว่าจะชวนมาทานข้าวที่บ้านซะหน่อย โทรไปถามดีกว่า...”

 

 

“เฮ้ย! เอามานี่” เด็กบ้านี่จะแอบโทรหากิ๊กเหรอ ทั้งที่ผมนั่งอยู่ต่อหน้าแท้ๆเนี่ยนะ คิดว่าผมจะยอมหรือไง ผมตัดสินใจแย่งโทรศัพท์มาจากมือเจ้าของ ไม่สนแล้วว่ามันจะเป็นของใคร ถ้าผมเขวี้ยงมันออกไปนอกรถได้คงทำไปแล้ว แต่คิดว่ามันน่าจะมีอะไรสนุกกว่าทำแบบนั้นนะ

 

 

“พวกผู้ร้ายปากแข็งเป็นแบบนี้ทุกคนเลยสินะ แล้วนั่น...โทโมะจะทำอะไรโทรศัพท์แก้ว เอาคืนมานะ”

 

 

“อยากได้เหรอ?”  ผมพองแก้มออกข้างนึงเป็นสัญญาณว่าถ้าเธออยากได้คืนมันต้องแลกกับริมฝีปากบางๆนั่นก่อน ไม่งั้นก็อย่าหวังเลยเถอะแก้วใจ

 

 

“เอามาโทโมะอ่า...”เจ้าตัวทำหน้าแดงใส่ผมก่อนจะก้มหน้าลงอย่างเขินๆ และผมคิดอยู่แล้วว่าแก้วคงไม่กล้าทำหรอกเธอไม่ใช่เด็กบ้าจี้แล้วแก้วก็เขินง่ายมากๆด้วย ผมคิดว่าพอแกล้งเสร็จก็กะจะคืนพอดี แต่...

 

 

 

ริมฝีปากบางๆนั่นเลื่อนขึ้นมาจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากของผมก่อนที่เธอจะรีบถอนมันออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับฉวยคว้าโทรศัพท์คืนจากมือผมไป สีหน้าเจ้าเล่ห์ของยัยตัวแสบบ่งบอกว่าเธอสะใจมากแค่ไหนที่เอาชนะผมได้ ในขณะที่ผมได้แต่นั่งมองนิ่งๆ เหมือนร่างกายถูกสตาฟไว้ชั่วขณะ ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนอาการคนมีไข้ จนต้องรีบหลบสายตาเจ้าเล่ห์ซุกซนนั่นที่กำลังมองมาที่ผม เสียงหัวเราะสดใสดังก้องในความคิดเพียงแค่ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในตอนนี้ก็เท่านั้น...

 

 

“เขินเหรอ ทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้นคิคิ...”

 

 

“อะ! ทะ...ทำอะไรเนี่ย แก้วอ่า....แก่แดด!”

 

 

“โทโมะสอนให้แก้วแก่แดดต่างหาก โอ๊ะ...นี่อะไร ทำไมเครื่องแก้วถึงมีแต่เบอร์โทโมะคนเดียว นี่ลบเบอร์คนอื่นหมดเลยเหรอ ทำงี้ได้ไงเนี่ย”

 

 

“ก็...ก็อะไร ทำไม มีอะไรก็โทรมาสิ เบอร์คนอื่นมะ...ไม่จำเป็นหรอก” น่าโมโหตัวเองจริงๆ แค่โดนเด็กขโมยจูบแค่นิดเดียวทำเป็นประหม่าไปได้ หงุดหงิดชะมัดเลย!

 

 

“นี่ยังไม่เลิกเขินอีกเหรอเนี่ยคิคิ...”

 

 

“บอกว่าไม่ได้เขินไง!”

 

 

“แก้วว่าแก้วจำเบอร์พี่ฟิล์มได้นะ มัน 08.....”

 

 

“อ่า! ใช่! โทโมะเขิน พอใจหรือยัง...นั่งเงียบๆได้แล้วแก้วอ่ะ โทโมะหึงเนี่ยเข้าใจมั้ย แล้วก็รักแก้วด้วยพอใจหรือยัง เงียบได้แล้ว!”

 

 

 

ผมโวยวายไปแล้ว...

ผมบอกทุกอย่างออกไปหมดเลย...

อ๊า! หงุดหงิดๆๆๆๆๆๆๆ!

 

 

 

 

 

 

 

“แหม ยังไม่ทันได้แต่งก็ออกแนวคุณพ่อบ้านกลัวคุณภรรยาเลยนะ”

 

“เงียบเหอะน่า!”  เวรกรรมจริงๆ แทนที่ผมจะได้พักผ่อนอยู่คอนโดสบายๆกลับต้องมานั่งซักรองเท้าผ้าใบให้ยัยเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ แถมมีไอ้เพื่อนตัวดีที่เสร่อมาเมาแอ๋ที่ห้องผมเมื่อคืนล้อเลียนแต่เช้า เหอะ!

 

 

“ถามจริงเถอะ มีใครที่ไหนเขาทำกันบ้างว่ะ อีลิงนี่ใช่ผู้หญิงแน่เหรอ กับข้าวก็ทำไม่เป็น รองเท้าก็ไม่ซัก สงสัยจะมีดีอยู่แค่...”

 

 

“ไอ้เขื่อน!”ผมรู้ว่ามันต้องวกเข้าเรื่องทะลึ่งตึงตังแน่ๆ ดูจากสายตาจอมเจ้าเล่ห์ของมันก็รู้แล้วครับ ผมเลยต้องรีบเบรกไว้ก่อน

 

 

“โหยยยยยยย! แตะต้องไม่ได้เลยดิ ได้แฟนแล้วลืมเพื่อนนี่หว่า”

 

 

“ปากแบบนี้ไง เฟย์ถึงไม่ยอมรับแกซะที”

 

 

“อ้าวๆๆ อย่ามาพาดพิงสิครับ เฟเย่ของฉันไม่ได้ง่ายเหมือนไอ้แก้วนี่ แค่เอาขนมมาล่อ เอาใจหน่อยๆ อ่อยนิดๆก็เสร็จล่ะ”

 

 

“ไอ้...”

 

 

“แกองคิดดูนะเว้ย เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ มีผู้หญิงมากมายที่อยากได้แก ดีไม่ดีทำทุกอย่างให้แกโดยที่แกไม่ต้องออกแรงเลยนะเว้ย อ่ะๆๆ...ฉันหมายถึงอย่างอื่นไม่ได้หมายถึงอย่างที่แกคิด คือฉันหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าว ซักร้องเท้า ทำความสะอาดห้องทำนองนี้ แกรู้หรือเปล่าว่าทุกวันนี้แกเหมือนเป็นคนใช้ยัยแก้วไปแล้ว”

 

 

“หืม?”

 

 

“ฉันพาไปหาสาวๆพวกนั้นเอาม่ะ?”

 

 

“จะดีเหรอว่ะ ถ้าแก้วรู้เข้านี่ตายกับตายเลยนะ”

 

 

“ถ้าอยากขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายกลัวแฟนก็ตามใจ”

 

 

“ไม่ได้กลัวโว้ย!”

 

 

“มันต้องอย่างนี้สิครับ :)”

 

 

 


 

Tomio ถูกแล้วเค้าไม่ได้พิมพ์ผิดนะ55555555555

 

Tomo + Romio = Tomio กิกิกิกิกิกิกิกิ

 

ช่วงนี้ยุ่งๆไม่ได้เข้ามาเยยย อ้อลืมบอกว่าตอนนี้ รีไรท์จากฟิคอีกเรื่องของนุกนะ

 

แล้วมาเพิ่มเอาช่วงท้ายๆ แบบว่าแต่งไม่ทัน5555555 

 

ตอนน้าจบแล้วจริงๆน้า อำลาข่าวลือได้แล้ว มัน สองปีแล้วไม่จบซะทีอิอิ

 

ระนะ บ้ายบายจ้วบบบบบบบบบเดี๋ยวเข้ามาใหม่กิกิกิกิ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา