Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  116.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

33) ความในใจของแก้ว FFK...End

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                                                     ความในใจของแก้ว FFK…End

 

 

 

            ฉันรู้สึกวูบเหมือนโดนผลักลงเหวก่อนจะต้องรีบปรือตาขึ้นมองสิ่งรอบตัว ร่างของฉันถูกวางลงบนโซฟาสีเข้มภายในห้องพักศิลปินและนี่ก็คงเป็นสาเหตุให้ฉันรู้สึกแบบนั้น คงเพราะสะดุ้งเมื่อถูกมือของใครบางคนวางร่างฉันลงอย่างรวดเร็ว เอ...ฉันจำได้ว่าฉันยังหลับอยู่บนรถเลยนี่นา

 

 

 

 

            และเสียงจุ้นจ้านจอแจภายในห้องที่ดังเป็นระยะนี่เองทำให้ฉันตื่นขึ้นทั้งที่ยังง่วงแสนง่วง ภายในห้องมีเคโอติคอยู่กันครบ ไม่สิ...ขาดไปคนนึง ‘โทโมะ’ ไง เขาหายไปไหนกันนะ หรือว่าจะกลับไปแล้ว? เขาจะไม่รอกลับพร้อมฉันหรอกเหรอ มะ..ไม่สิ ทำไมฉันจะต้องอยากให้เขาอยู่ด้วยล่ะ

 

 

 

“เขื่อน...”  ผู้ชายขี้แกล้งคนนี้เดินมาหาฉันทันทีที่ฉันร้องเรียกเขา เขื่อนเอื้อมมือมายีผมฉันจนมันยุ่งเหยิงอย่างหยอกเหย้าตามประสา น่าแปลกนะ...ถ้าเขื่อนเป็นผู้ชายอีกคนที่เล่นกับฉันเหมือนเมื่อกี๊ ความรู้สึกของฉันกลับต้องเปลี่ยนไป

 

 

 

ฉันรู้สึกว่าเขื่อนคือเพื่อนสนิทคนนึง...ที่ฉันพร้อมจะกอดเขาแล้วก็ยิ้มให้เขาได้อย่างเปิดเผยในความรู้สึกที่ว่าเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ

 

 

 

แต่อีกคน...ทั้งที่ฉันเรียกเขาว่าเพื่อนสนิทที่สุด กลับกลายเป็นว่าฉันรู้สึกว่าฉันกับเขาไม่ได้สนิทกันจริงๆสักนิด ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเหมือนห่างไกลเลือนรางออกไปทุกที

 

 

 

น่าแปลกเนอะ...

 

 

 

 

“จะถามหาโทโมะล่ะดิ”  เขื่อนถามขึ้นอย่างล้อๆในขณะที่ฉันได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะกลัวจะเก็บอาการไม่อยู่

 

 

 

“....”

 

 

 

“มันกลับไปแล้ว เห็นบอกมีธุระ...ไม่เอาน่า อย่างอน”  นิ้วเรียวยาวยื่นมาจิ้มข้างแก้มฉันเล่นอย่างนึกสนุก แต่...แต่เขาบอกว่าฉันงอนเหรอ งอนเรื่องอะไรล่ะ ฉันจะไปงอนโทโมะได้ยังไงกัน เขื่อนบ้านี่!

 

 

 

“งอนอะไร ไม่ได้งอน!”

 

 

 

“แน่ะ มันบอกว่าให้พวกฉันดูแลเธอด้วย ห้ามแกล้งเธออีกแล้วมันก็อุ้มเธอมานอนตรงเนี่ยแหละ...” 

 

 

 

“อุ้มเหรอ...”  ฉันเอ่ยถามเขื่อนเสียงเบาๆ ไม่คิดว่าโทโมะจะเป็นคนอุ้มฉันลงมาจากรถหลังจากที่เสร็จงานแล้วฉันหลับเป็นตาย เป็นเขาหรอกเหรอ?

 

 

 

“เขินเหรอ”

 

 

 

“บะ...บ้า ไม่ใช่ซะหน่อย!”

 

 

 

“แล้วทำไม...แก้มแด๊งแดงวะ”  ฉันรีบปัดมือเขื่อนออกจากแก้มของฉันทันทีพร้อมกับหันหน้าหนีเขาอย่างรวดเร็ว นอกจากจะโดนแฟนคลับจับคู่เชียร์ฉันกับโทโมะอยู่แล้วนะ เพื่อนๆในวงเขาน่ะสุดยอดเลย...ถ้าเขื่อนลากฉันไปหาโทโมะในตอนนี้ได้คงทำไปแล้วมั้ง

 

 

 

“อย่ากวนประสาท”

 

 

 

“เธอมันลำเอียงว่ะแก้ว โหะ!”  เขื่อนผลักหัวฉันเบาๆแล้วตัดพ้อฉันอีก เขาหาว่าฉันลำเอียงเรื่องอะไรกัน ฉันยังไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลยนะ

 

 

 

“อะไร!”

 

 

 

“รักแต่ผีดิบคนเดียวนั่นแหละ ขนาดตอนอยู่บนรถอ่ะเธอยังนอนหนุนตักมันเลย บอกเลยว่าโคตรลำเอียง...”  นอนหนุนตัก? นะ...นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันไปนอนหนุนตักโทโมะตอนไหนกัน ฉันจำได้ว่า...

 

 

 

ฉันยืมไหล่พี่ทีมงานผู้หญิงที่นั่งข้างๆฉันพิงไม่ใช่เหรอ

 

 

 

 

“ฉัน...ฉันนอนตักเขาเหรอ?”

 

 

 

“เออดิ ไม่สนใจพวกฉันเลยอ่ะสาวน้อย โถ่~”  ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยวินาทีนั้น อยากจะเอาหัวตัวองโขลกพื้นตายล้างอายจริงๆ นี่ฉันขี้เซาหลับจนไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลยหรือไง ...อายจังเลย

 

 

 

 

“แล้ว...แล้วนี่เสื้อใครอ่ะ? ของนายเหรอ?”   ฉันปลดเสื้อคลุมสีดำที่หุ้มไหล่ของฉันเอาไว้มาดูก่อนจะสอบถามผู้ชายตรงหน้าว่านี่คือใคร เขื่อนทำหน้าบู้ใส่ฉันทันที…ฉันจำได้ว่าก่อนขึ้นรถฉันไม่ได้สวมเสื้อคลุมนี่นา บางทีฉันก็นึกว่าเขื่อนอาจจะเห็นว่าแอร์รถมันหนาวเขาก็เลยเสียสละเสื้อให้ฉัน...

 

 

 

อันที่จริงฉันไม่กล้าคิดว่าเป็นเขื่อนเลย...ทั้งที่ฉันรู้อยู่เต็มอกว่าเสื้อมันเป็นของใคร

 

 

 

แต่ฉันก็ยังอยากได้ยินจากปากเขื่อนอยู่ดี..

 

 

 

 

 

 

 

“เห้ย! มีใครเห็นกระเป๋าตังค์ฉันบ้างป่ะ?”  อยู่ๆคนที่ฉันคิดว่ากลับไปแล้วก็หวนกลับมาที่นี่อีก โทโมะเปิดประตูพรวดเข้ามาถามหากระเป๋าสตางค์ของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และถ้าเดาไม่ผิดมันคงอยู่ในกระเป๋าเสื้อที่เขาให้สวมทับให้ฉันตนหลับอยู่บนรถแน่

 

 

 

 

“อันนี้เปล่า?”  ฉันยื่นกระเป๋าเงินสีน้ำเงินเข้มออกไปตรงหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะหันกลับมารับอย่างรีบร้อน โทโมะกล่าวเพียงคำว่า..

 

 

 

“ขอบคุณนะ”  คำสั้นๆ แค่นั้น...ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไปโดยไม่สนใจใยดีอะไรฉันอีก อะไรกันล่ะ...ไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันบ้างเลยหรือไง ก็รู้ดีว่าฉันไม่ควรจะมาแง่งอนอะไรเขา โทโมะคงมีธุระจริงๆ ไม่อย่างนั้น...เขาต้องหันมาคุยกับฉันบ้างสิ

 

 

 

 

“เอ้า! ไอ้โทโมะ อะไรวะ มาแล้วก็ไป...ดูดิ ทิ้งเด็กขี้งอนนั่งแก้มป่องอยู่คนเดียวเลย~”  เขื่อนเอื้อมมือมาจิ้มแก้มที่ฉันพองลมเข้าเต็มสูบอย่างรู้สึกหงุดหงิด และหมอนี่ก็ชอบเหย้าแหย่ให้ฉันรู้สึกอารมณ์เสียเข้าไปยกใหญ่

 

 

 

นี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย!

 

 

 

 

“ไม่ต้องมายุ่ง” 

 

 

 

“เห้ยๆๆ เลิกงอนได้แล้วน่า โน่น...คนที่อยากให้เขาสนใจมาโน่นแล้ว”  ฉันยังคงเชิดหน้ากอดอกหนีนายเขื่อนอย่างไม่หายหงุดหงิด และในตอนนี้ก็ไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้วด้วย

 

 

 

 

“นี่..งอนอะไร”  เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ฉันยังคงไม่มองหน้าใครเพราะอารมณ์ที่แปรปรวนจนหน้าหมั่นไส้ของตัวเอง แต่เขื่อนก็ยังเลือกที่จะตอแยฉันไม่เลิก หมอนั่นน่ะ...วางมือบนไหล่ฉันอย่างถือวิสาสะ เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่านะ

 

 

 

“...”

 

 

 

“...กลับบ้านกัน...”

 

 

 

 

            มีมือคู่นึงยื่นมาตรงหน้าฉัน รอให้ฉันวางมือลงบนฝ่ามือนั้นของเขาแล้วฉุดฉันขึ้นยืนเพื่อที่จะกลับบ้านพร้อมกัน น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังดูแล้วมีเสน่ห์เกินใครเสียงนั้นไม่ใช่ของเขื่อน ถ้าฉันไม่มัวแต่ทำงอนไม่เข้าเรื่อง ฉันก็น่าจะรู้สึกได้แล้วว่า ...โทโมะ...ย้อนกลับมายืนข้างหลังฉันอีกครั้ง

 

 

 

“โทโมะ”

 

“กลับด้วยกันมั้ยล่ะ...ถ้ากลับ ก็ยื่นมือมา”   ฉันมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ ถ้าเกิดมาฉันยื่นมือไป แน่นอนว่านอกจากจะได้กลับบ้านแล้วยังจะได้ของแถมนั่นก็คือคำล้อเลียนของพวกเคโอติคกลับไปด้วยนะสิ

 

 

 

ฉันจะยื่นมือไปดีมั้ยนะ?

 

 

 

หรือฉันจะไม่กลับกับเขาดี...ฉันสับสนไปหมดแล้วนะ

 

 

 

 

“โอเค...ไม่กลับสินะ”

 

 

 

“กลับ” 

 

 

 

 

 

            เมื่อรออยู่นานฉันก็ยังไม่ตัดสินใจได้สักที โทโมะเลยจะยื่นมือกลับแต่เป็นฉันเสียอีก...ที่คว้ามือของเขาเอาไว้ ถึงจะหน้าอายแค่ไหนแต่ฉันก็ทำมันลงไปแล้ว อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ทีไรฉันรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกทีเลย บ้าจริง! โทโมะหันมายิ้มให้ฉันน้อยๆก่อนจะออกแรงฉุดร่างของฉันขึ้นยืน และฉันก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆออกมา...

 

 

 

 

“เออ พากันกลับไปเลย ไม่รับดูแลให้แล้วนะโว้ย ขี้งอนจริงๆ จะทำอะไรไม่ต้องเกรงใจไอ้เขื่อนคนนี้นะ ไอ้พวกสามสี่ตัวนี่ก็ไม่ต้องสนใจว่ามันอยู่ในห้องด้วย พากันกลับไปเลยยยยเหอะว่ะ!”

 

 

 

 

“กลับมารับเพื่อนผิดตรงไหนวะ...ไปเหอะแก้ว”

 

 

 

            ฉันยอมรับนะว่าฉันมันบ้าบอมาที่ทำอะไรแบบนี้ลงไป แค่อยากให้โทโมะสนใจ อยากให้เขาคุยกับฉันบ้างก็เท่านั้น และฉันก็ดีใจไม่น้อยที่เขาย้อนกลับมา...กลับมารับฉันกลับบ้านไปด้วยกัน

 

 

 

จะผิดหรือเปล่าที่ฉันจะบอกว่าฉันมีความสุขจังเลย

 

 

 

 

            โทโมะจูงมือฉันเดินนำมาที่รถของเขา แต่ก่อนที่จะถึงรถที่จอดอยู่ในระยะไม่กี่เมตรโทโมะกลับปล่อยมือของฉันออกและเดินห่างออกจากฉันอีกนิด สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยสบายใจมากนัก ฉันรู้สึกได้...มันไม่เหมือนก่อนหน้านี้เลยซักนิด หัวใจของฉันก็เริ่มวูบไหวแปลกๆ มันเมหือนกับว่า...มีบางสิ่งบางอย่างรอฉันอยู่ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้

 

 

 

 

            และทันทีที่โทโมะเปิดประตูรถทางด้านหลังให้ฉันขึ้นไปนั่ง ความสับสน งุนงงก็ถาโถมฉันเข้ามาเป็นระลอก ทำไมเขาถึงไม่ให้ฉันนั่งข้างหน้ากับเขาล่ะ จะว่าไม่อยากให้แฟนคลับเห็นก็ไม่น่าจะใช่เพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว...

 

 

 

“...?” 

 

 

 

 

            ทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปนั่งภายในรถที่เย็นเฉียบจนหนาวยะเยือก ฉันต้องห่อไหล่แล้วกระชับเสื้อคลุมของโทโมะเพื่อคลายความหนาวลงบ้าง ฉัน...ฉันลืมไปหรือเปล่าว่าตอนนี้ฉันไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว สายตาของฉันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับซึ่งก็คือโทโมะ...

 

 

 

ใคร??

 

 

 

“สวัสดีคะ”

 

 

 

 

            ฉันเอยทักทายผู้หญิงคนนั้น...คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าของฉันด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ใคร...เธอคือใครเหรอ ถ้าโทโมะมีเพื่อนกลับบ้านด้วยแล้วก็ไม่น่าจะต้องไปรับฉันมาด้วยนี่ ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้กันด้วย ฉันไม่เข้าใจเลย...ผู้หญิงคนนั้นหันมายิ้มให้ฉันแล้วพยักหน้านิดๆ เธอสวยมากเลยนะ สวยจนฉันที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังแอบอิจฉาเลย

 

 

 

“เอ่อ..แก้ว...นี่เบลล์...เป็น...เป็นแฟนโทโมะเอง” 

 

 

 

‘แฟน’?

 

 

 

 

            นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร เกี่ยวข้องยังไงกับโทโมะ ฉันก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา มีแต่เพียงเสียงคุยกันเบาๆของคนที่เป็นแฟนกันเท่านั้นแหละ นอกนั้น...ฉันก็แทบไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาเลย ฉันไม่อยากจะเอ่ยอะไรออกมาทั้งนั้น มันรู้สึกแปลกเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง...

 

 

 

 

            หัวใจของฉันเต้นตุ้บรวดเร็วเกินไปแล้ว...ทั้งที่โทโมะกับแฟนของเขาพยายามชวนฉันคุยโน่นนี่อยู่เรื่อย แต่เป็นฉันเสียเองที่ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงที่จะพูดออกมาเป็นคำพูดไปเก็บไว้ที่ไหนหมด ครั้งนึง...ที่ฉันเผลอไปสบสายตากับนัยน์คู่เข้มอันทรงเสน่ห์นั่น มันมีแววเจ็บปวดและเศร้าสร้อยแฝงเร้นอยู่กลายๆ คล้ายๆว่าเขาต้องการจะบอกอะไรกับฉันสักอย่าง...

 

 

 

 

ซึ่งฉันไม่เข้าใจ...แล้วก็ไม่อยากจะเข้าใจอะไรด้วย

 

 

 

“ขอบคุณนะที่มาส่ง...สวัสดีอีกครั้งนะคะ แก้วไปนะ บ๊ายบาย~”

 

 

 

 

            ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองฝืนทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง ทันทีที่รถของโทโมะจอดลงที่หน้าบ้านฉัน ฉันก็รีบพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์อันหน้าอึดอัดนั้นทันที ฉันยิ้มให้เขาทั้งสองคน...ฉันบอกลาเขาทั้งที่หัวใจยังไม่พร้อมจะยินยอมรับกับอะไรทั้งนั้น บางทีฉันก็รู้สึกว่าตัวเอง...อ่อนแอเกินไปแต่ก็ยังพยายามทำเข้มแข็งอยู่ได้

 

 

 

โทโมะไม่ได้พูดอะไรกับฉันอีก...เขายิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่เจือไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

 

 

แต่บอกเลยว่า...ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรกับใครทั้งนั้น

 

 

 

 

 

         และนี่ก็เป็นวันแรกที่ฉันได้รู้จักกับแฟนของเขา พอหลังจากที่รถของเขาเคลื่อนตัวออกไป...มันก็เหมือนกับหัวใจของฉันหลุดติดมือของเขาไปด้วย บ้าสิ...ฉันบ้าไปแล้วจริงๆ ฉันไม่ควรรู้สึกแบบนี้เลย ฉันควรหวั่นไหวไปกับข่าวลืออะไรนั่นเลย

 

 

 

...ฉันยอมรับออกมาแล้วเหรอ?

 

 

 

 

 

“แก้ว แก้ว! เป็นอะไร ยัยแก้ว...”

 

 

 

            เสียงของพี่กิ่งตะโกนถามหลังจากที่ฉันพยายามวิ่งขึ้นบันไดบ้านเพื่อที่จะไปให้ถึงห้องนอนให้เร็วที่สุด ฉันไม่ตอบคำถามของพี่สาว...ฉันเลือกที่จะวิ่งหนีความจริงที่เพิ่งได้รู้เมื่อครู่ ใครจะรู้บ้าง...ว่าหลังจากที่ฉันปิดประตูห้องนอนลง

 

 

 

หลังประตูบานนั้น...มีร่างของผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งทรุดร่างพิงบานประตูแล้วปล่อยให้น้ำตาทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่มีบกพร่อง

 

 

 

ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บแบบนี้ล่ะ...

 

โทโมะทำอะไรกับหัวใจของฉันกันแน่...ตอบที

 

 

 

END

 

 

 

 


 

บางที...ถ้าเราได้ลองทำตามใจตัวเองบ้าง

 

เราอาจจะทุกข์น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้นะ

 

ใครยังมีโอกาส ชอบใครก็บอกเขาไปซะ :)

 

อย่าให้เวลาที่ผ่านไปอย่างไร้ค่าทำร้ายหัวใจของคุณอีกเลย...

 

#ถึงนุกจะไม่ค่อยมีสาระแต่ก็รักรีดฯมากนะจิ๊

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา