Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
29) ยิ่งรัก ยิ่งทรมาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ยิ่งรัก ยิ่งทรมาน
ปึก!
กำปั้นเล็กๆระดมทุบรัวๆลงบนหน้าอกแข็งแกร่งก่อนจะผลักร่างของเขาให้ออกห่าง แก้วยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากอย่างแรงเพื่อแสดงให้รู้ว่าเธอไม่ได้เต็มใจรับสัมผัสของเขาเลยสักนิด! เขาทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิง ‘ง่าย’ อย่างนั้นแหละ อยากกอดก็กอดอยากจูบก็จูบ เรื่องพวกนี้น่ะเขาก็แค่เคยมีสิทธิ์เท่านั้นล่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นกับเธอ
“นี่! เราเลิกกันแล้ว”
“หืม...” คิ้วเรียวเลิกสูงขึ้นพร้อมกับริมฝีปากบางกรีดยิ้มเยาะๆ “บอกแล้วว่าอยากเลิกก็เลิกไปคนเดียว แล้วอย่าหวังว่าจะได้ไปมีความสุขกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้นนะ จำเอาไว้”
“นายมีสิทธิ์อะไรมากะเกณฑ์ชีวิตฉัน เราเลิกกันก็คือจบ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก...”
“พูดไม่รู้เรื่อง” เขาทำเหมือนเรื่องที่แก้วพยายามจะอธิบายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ โทโมะเอาแต่ใจแบบนี้เสมอ บทเขาจะดีก็ดีใจหายบทจะร้ายจะดื้อดึงก็เล่นเอาแก้วแทบเข่าอ่อน เธอรู้ดีว่าโทโมะไม่ได้พูดขู่เธอหากแต่เขาคิดจะทำจริงๆต่างหาก
“ใครกันแน่พูดไม่รู้เรื่อง กลับไปหาผู้หญิงของตัวเองไป!”
“เด็กปากดี”
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เลิกพูดแบบนี้ซะที!”
“คนบ้าก็ว่าตัวเองไม่บ้านั่นแหละ”
“โทโมะ!”
“ว่าไงครับ ที่รัก...”
เขาครางเรียกสรรพนามหวานหูนั่นอย่างอ้อยอิ่ง โทโมะยอมรับว่าเขาเองเสียใจไม่น้อยกับการที่แก้วมาบอกเลิกหากแต่ความรักที่อัดแน่นเป็นตัวบงการทุกอย่างให้เขาต้องทำแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายและดูจะตลกเกินไปเสียหน่อยหากเขายอมปล่อยมือเธอ
ไม่มีทาง! ไม่ว่าใครหน้าไหนก็แย่งแก้วไปไม่ได้โว้ย!
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...”
“แบบไหนล่ะ?”
เขายียวนเหลือเกินในความคิดของแก้ว ผู้ชายตรงหน้าดื้อแพ่งเป็นที่หนึ่งสงสัยชีวิตของเธอคงไม่ได้มีความสุขอีกเป็นแน่หากเขายังตามป่วนเธออยู่แบบนี้ แล้วกันสิ...สายตาแบบนั้นที่เขามองมาราวกับจะแผดเผาร่างของเธออย่างนั้นแหละ แต่ความจริงแล้วแก้วรู้ดี นั่นไม่ใช่สายตาที่เขาต้องการจะยั่ว...
มันคือสายตาเวลาที่เขาต้องการปราบพยศเธอต่างหาก!
“ก็...” แก้วเม้มริมฝีปากแน่นบังคับตัวเองไม่ให้ไปบ้าจี้พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา จะให้เธอบอกว่าสายตาของเขาเหมือนกับเวลาที่เราสองคน....นั่นแหละ จะให้พูดทำไมรู้อยู่แก่ใจดี!
ต้องให้บอกมั้ยว่ามันเหมือนเธอถูกล่วงเกินจนเสียหายทางสายตาเขาน่ะ!
“อึกอักอะไรเล่าพูดออกมาสิ หึ...” ก็ใช่สิ เขาเป็นต่อนี่คนหน้าไม่อาย!
“ไม่รู้!” แก้วตวัดเสียงใส่เขาด้วยความไม่พอใจ
“เหอะ...ถามจริงเถอะถ้าโทโมะไปมองผู้หญิงคนอื่นด้วยสายตาแบบนี้...แล้วก็....ทำแบบนี้...”
อ้อมแขนของเขาตวัดรัดเธอแน่นจากทางด้านหลังเข้าสู่อ้อมกอดอันคุ้นเคย เขาถาม...ไม่ถามเปล่าริมฝีปากร้อนผ่าวนั่นยังจงใจคลอเคลียอยู่แถวแก้มใสของเธอพร้อมกับกดจุมพิตลงมาเต็มแรง เขากอดเธอแน่น...ราวกับกลัวร่างของแก้วสลายหายไปในวินาทีนั้น
“นี่...” น้ำเสียงนุ่มๆแผ่วเบาลงอย่างอ่อนใจ โทโมะกำลังทำให้แก้วตัดใจจากเขาไม่ได้เสียทีทั้งที่เรื่องก็ควรจะจบไปตั้งนานแล้ว
“ทำใจได้เหรอถ้าโทโมะไปทำแบบนี้กับคนอื่น...” เสียงห้าวอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้ หากแต่คนฟังก็ยังต้องการเอาชนะถึงแม้ในใจจะร่ำร้องห้ามปรามและขัดขวางสุดฤทธิ์หากเจ้าตัวคิดจะไปทำแบบนี้กับคนอื่น
ก็รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่จะหวงใครจะทำไม?!
“มันก็เรื่องของนายเราเลิกกันแล้ว” แต่ก็ยังคงปากแข็งไม่เลิกรา ถึงในใจจะหวั่นไหวไปกับคำพูดนั่นก็ตามที เรื่องอะไรเธอจะต้องแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นกัน ไม่มีทาง!
“แล้วถ้ามันมากกว่านั้น...แบบที่เรา...” เขาค้างประโยคไว้แค่นั้นนั่นก็ทำให้คนฟังเดือดจัดได้มากพอจนต้องเผลอตวาดออกไปด้วยเสียงอันดัง
“ไม่...ไม่มีทาง!”
“ทำไม...”
“..!!!”
“เราเลิกกันแล้วนี่ แก้วพูดเอง”
โทโมะแค่นยิ้มน้อยๆจู่ๆอ้อมแขนอันร้อนผ่าวแต่อบอวลไปด้วยไออุ่นของความรักก็คลายตัวเอง ร่างสูงถอนหายใจลึกยาวอย่างเหนื่อยอ่อน เขาดีใจมากเหลือเกินที่เธอตอบว่าไม่นั่นแปลว่าเธอยังรักยังหวงเขา แต่อีกใจมันก็ฟ้องว่าถ้าเธอรักเขาอยู่แล้วทำไมถึงเอาเรื่องไร้สาระมาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราด้วย
เธอไม่รักเขาจริงหรอกหรือ ไม่เหมือนที่เขารักเธอเลยสักนิด?
“ผู้หญิงใจร้าย...” เขาตัดพ้อ ดวงตาคู่คมฉายแววอ่อนแสง น้อยใจระคนเสียใจไปหมด
“อะ...อะไร”
“ไม่รักเขาแล้วนี่มาหวงก้างเขาทำไม ทีตัวเองยังมีได้แต่ห้ามคนอื่นมี..”
“บอกว่าไม่ก็ไม่ไง!...เอ่อ ก็...ก็แล้วแต่ ฉันไปล่ะ ต่อจากนี้อย่าลืมว่าเราคือเพื่อนกัน โอเค้?” แก้วตัดบทแค่นั้นก่อนจะแทรกหายเดินผ่านเขาไปโดยเร็วและไม่หันกลับมามองร่างสูงที่ทอดทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างคนหมดแรงอีก
เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่ใช่เพราะไม่รัก ไม่ใช่เลยจนตอนนี้ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะสามารถเขามาแทนที่เขาได้ ที่ไม่อยากพบไม่อยากเจอก็เพราะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ กลัวเหลือเกินว่าการที่เราทำงานที่เดียวกัน เจอกันแทบทุกวันมันจะเป็นอุปสรรคของการตัดใจ ยิ่งเจอกันบ่อยก็ยิ่งคิดถึง ยิ่งอยู่ใกล้ก็เหมือนยิ่งห่างไกลกันออกไป ภาพสะท้อนของเขาในแววตาของเธอเลือนรางยิ่งนักในเวลานี้
หากวันนึงต้องทนเห็นเธออยู่กับผู้หญิงคนอื่น แก้วยังนึกภาพตัวเองไม่ออกว่าเธอจะทำหน้ายังไงจะเข้าไปตีเขาทำร้ายเขาหรือผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวลกลัวว่าเขาจะทำแบบที่พูดจริงๆ แล้วถ้าเกิดวันนึงเธอทนเห็นหน้าทนคิดถึงเขาไม่ไหว เธอจะวิ่งเข้าไปกอดเขาเต็มรักแล้วกระโดดจูบเขาอย่างอ่อนหวานเหมือนที่เคยทำเหมือนก่อนล่ะ โอ๊ย! อยากจะบ้าตายหากต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ
“ห๊า! อะไรนะ...บอกเลิกกับโทโมะ โอ๊ย! แก้วนี่มันเรื่องอะไรกัน”
สุดท้ายก็ต้องหนีร้อนมาพึ่งเย็น บ้านของเพื่อนซี้อย่าเฟย์ฟางดูจะเป็นหนทางสุดท้าย แก้วอยากระบายให้ใครสักคนฟังเผื่อความอึดอัดคับข้องใจมันจะบรรเทาเบาบางลงบ้าง แต่นอกจากจะไม่เป็นแบบนั้นแล้วเธอยังรู้สึกแย่กว่าเดิมเสียอีก ฟางว่าเธองี่เง่า ใช่...แก้วรู้สึกแย่จนบอกไม่ถูกเลยล่ะ
“ใช่...”
“แก้ว เพราะเรื่องคลิปเสียงนั่นนะเหรอ ไอ้ผีดิบมันก็บอกแล้วนี่ว่าเขาเมาแล้วก็พูดไปเพื่อความสบายใจของพี่ชายเขาน่ะ แกจะไปเก็บมาคิดมาทำไม”
“แต่ฉันเหนื่อยนี่ฟาง ถ้าไม่มีใครสักคนยอมเรื่องก็ไม่จบเสียที ฉันแค่ต้องการให้โทโมะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ที่สำคัญฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมาวุ่นวายในชีวิตฉัน ฉันเบื่อ...”
แก้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง และฟางเองก็พอเข้าใจมือเรียวตบลงบนบ่าเพื่อนรักอย่างให้กำลังใจ แต่คนที่ดูท่าจะไม่เข้าใจเห็นจะเป็นเฟย์มากกว่า รายนั้นนะเป็นคนหัวดื้อไม่ชอบการเอาเปรียบแล้วเรื่องอะไรที่จะต้องไปยอมให้เพื่อนที่เสียเปรียบด้วยล่ะ
“แกแคร์ทำไมแก้ว ถ้ายัยนั่นตามมารังควานเราก็ต้องสู้สิ จะไปยอมถอยทำไมนั่นแฟนแกนะ”
“ฉันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือเฟย์ เขาคบกันมาก่อนฉัน ฉันมือที่สามนะ”
“โอ๊ย! ก็ไม่เห็นจะต้องซีเรียสแกก็รู้แล้วนี่ว่าโทโมะคบกับยัยนั่นพเราะอะไร แล้วก็แกก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวด้วย โทโมะเป็นคนเดินมาหาแกไม่ใช่ว่าแกวิ่งไปกระชากแขนเขามาเสียเมื่อไหร่..” ยิ่งพูดก็ดูเหมือนเฟย์จะยิ่งเป็นเดือดเป็นร้อน จนคนเป็นพี่ต้องหันมาปรามน้องสาวตัวเอง
“นี่ เลิกพูดเสียทีเถอะเราน่ะ ไม่มาเจอกับตัวเองมันไม่รู้หรอก”
“ไม่รู้แหละ ยังไงฉันก็เข้าข้างผีดิบฉันไม่เข้าข้างแก นี่อย่าบอกนะ...ว่าแกคิดจะไปคบพระเอกคนนั้นอย่างที่โทโมะว่าแกจริงๆอ่ะ แก้ว...” ดวงตากลมใสวาววับขึ้นอย่างอึ้งๆ ก่อนที่เฟย์จะพูดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้นแก้วต้องรีบโบกมือห้ามความคิดเพ้อเจ้อของเพื่อนเสียก่อน
“จะบ้าเหรอ เขาใส่ร้ายฉันต่างหาก คิดได้ยังไงก็ไม่รู้บ้าชะมัด!” แก้วบ่นงึมงำเมื่อนึกไปถึงตอนที่โดนเขาหาว่าเธอคิดจะคบคนอื่น
“มันก็น่าคิดอยู่หรอก จากที่ฟังแกเล่าตอนที่ทะเลาะกับโทโมะอยู่อีตานั่นก็โทรเข้ามาพอดี เป็นฉัน ฉันก็คิด”
“คิดเหรอ?”
“ใช่ คิดหนักด้วย”
เฟย์ยืนยันคำตอบของตัวเองหนักแน่นทำให้แก้วเริ่มวาดความคิดอะไรบางอย่าง หากเธอลองเปิดใจคบกับป้อง โทโมะจะรู้สึกยังไงเขาจะหวงจะหึงเธอหรือเปล่า รู้ดีว่ามันเป็นความคิดที่ไร้สาระแต่ก็อยากจะลองเชิงดูเหมือนกัน ที่เขาว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอน่ะมันจะเป็นยังไง เป็นเพราะเขารักเธอมากหรือต้องการแก้แค้นเธอกันแน่ถึงแกล้งป่วนให้เธอไม่มีความสุข แต่อย่างไรแก้วก็เชื่อว่ามันน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า..
แก้วรู้ดีว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และโทโมะก็พิสูจน์ให้เห็นในหลายๆอย่าง เขารักแรง หึงแรง และก็เกลียดแรงเหมือนกัน!
“แล้วถ้าฉันจะลองคบกับพี่เขาดูล่ะ แกว่าไง?”
“ห๊า! จะบ้าเหรอนี่...” เฟย์แว้ดเสียงสูงอย่างตกใจหากแต่แววตาของแก้วไม่ได้ฉายแววล้อเล่นเลยสักนิด
“แก้วอย่าทำ อย่าประชดโทโมะแบบนี้” ฟางเอ่ยห้ามแต่ใบหน้าสวยส่ายน้อยๆเป็นเชิงบอกว่าเธอไม่ได้ประชด
“เปล่าฟาง...แก้วไม่ได้ประชด แก้วพอรู้ว่าพี่เขาคิดยังไงกับแก้ว และในตอนนี้แก้วเป็นอิสระมีสิทธิ์จะให้โอกาสใครก็ได้ถูกมั้ย...”
“แล้วทำไมคนที่แก้วเลือกที่จะให้โอกาสไม่เป็นโทโมะล่ะ?”
“แก้ว...” แก้วไม่อาจตอบคำถามฟางได้ สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อเหตุผลเธอต้องการประชดเขาจริงๆนั่นแหละ
“คิดดีๆนะแก้ว อย่าทำอะไรที่มันไม่ส่งผลดีต่อหัวใจตัวเองจะดีกว่า”
“พี่ฟางพูดถูก แกจะใจร้อนคบคนใหม่ไวปานนี้ไม่ได้ของแบบนี้มันต้องดูๆกันไป แกเชื่อเหรอว่าเขาเป็นคนดีได้มากกว่าโทโมะ ข่าวก็ออกคึกโครมถ้าไม่กลัวใจตัวเองก็นึกถึงโทโมะบ้างนะ หมอนั่นน่ะรักแกมากกกกกฉันดูยังรู้เลย แกอยู่ด้วยกันทุกวันแกไม่รู้ตัวหรือไงว่าเขาทุ่มเทเพื่อแกแค่ไหน บุญมากมายแล้วที่เขาไม่ต่อยพี่ชายตัวเองจนคว่ำน่ะ!”
“ฉันถามจริงนะแก้ว ความรักน่ะมันพังลงได้ง่ายๆเลยเหรอ ทั้งที่กว่าจะรักกันได้น่ะแทบตายเลยนะ” เฟย์ยังคงถามต่อ
“ก็ไม่....” แก้วก้มหน้าลงซ่อนรอยน้ำตาที่คลอเอ่อ เสียงผะผ่าวตอบเพื่อนรักไม่เต็มปากนัก
“นั่นไง! แกไม่หนักแน่นเองต่างหาก” เฟย์ตบเข่าดังฉาดใหญ่ บอกแล้วว่าเธอน่ะเดาอาการของแก้วออกรักเขาแล้วยังมาพูดว่าเลิกกันแล้ว จบกันแล้วอีก ทำไมจะต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โตด้วยในเมื่อตัวเองรักเขาแท้ๆ
“ฉันยอมรับ แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไม่พร้อมกลับไปหาเขาตอนนี้ ฉันอยากให้โทโมะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยแบบจริงๆจังๆเสียที ที่ผ่านมาเขาก็ไม่หนักแน่นเหมือนกัน ถ้าเขากล้า...กล้าที่จะปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นไปตรงๆไม่มัวแต่พะว้าหน้าพะวงหลังเรื่องทุกอย่างคงไม่วุ่นวาย”
“ก็แล้วแต่แก แต่จะทำอะไรคิดถึงหัวใจตัวเองแล้วก็คนที่แกรักมากๆแล้วกัน”
“อืม...” แก้วทำเพียงแค่พยักหน้าเบาๆก่อนจะล้มตัวลงนอน
ดึกแล้วขณะที่เฟย์ฟางหลับสนิทอยู่ข้างเธอไปแล้ว แต่แก้วยังคงนอนลืมตาโพรงในความมืด เจ็บปวด อึดอัด อยากตะโกนอยากกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง ตอนนี้เธอคิดถึงเขาเหลือเกิน น่าแปลก...ทั้งที่เพิ่งห่างกันมาไม่ถึงวันแต่กลับเหมือนห่างกันนานแรมปี ภาพที่เขากอด จูบ ยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมเลือน
แล้วอย่างนี้จะห้ำใจได้หรือไงหากสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นของคนอื่น แก้วรู้ดีว่าเธอเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะยอมให้เขาไปทำแบบนั้นกับใคร อาการหึงยังตามรบกวนจิตใจจนทำให้นอนไม่หลับภาพซ้อนของผู้หญิงคนนั้นแทรกขึ้นมาให้ห้วงความคิด ภาพที่โทโมะกำลังกอดจูบผู้หญิงคนนั้นก็แล่นแปร๊บขึ้นตามมาด้วย หญิงสาวกำมือแน่นเมื่ออาการหึงทำให้เลือดขึ้นหน้า โกรธขึ้นมาดื้อๆอย่างบอกไม่ถูก
...ก็ยอมรับว่าหึงแต่จะไม่ยอมกลับไปหาเขาแน่ เรื่องอะไรจะต้องกลับไปให้เขาถากถางเล่นๆกัน!
เช้านี้แก้วมีถ่ายละครแต่เช้าพอมาถึงกองก็เจอเข้ากับคุณพระเอกสุดฮอตเข้าทันทีไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือบังเอิญกันแน่ ถึงกระนั้นรอยยิ้มหวานๆก็จำต้องวาดขึ้นบนใบหน้าสวยเพื่อกันเสียมารยาท ร่างสูงโปร่งเอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างเป็นกันเอง หากแต่สายตาคมกลับกวาดมองไปรอบบริเวณจนแก้วสงสัยจนต้องเอ่ยถาม
“มองหาใครเหรอค่ะพี่ป้อง”
“อ้อ...วันนี้ไม่เห็นเขามาส่งเลยนะ ติดธุระหรือคะ?”
น้ำเสียงนุ่มๆพยายามตะล่อมถามหากเขาเห็นดวงหน้าสวยหวานนั่นหม่นเศร้าลงจึงเดาได้ไม่อยากว่าสองคนคงกำลังมีปัญหากันแน่ เมื่อเห็นว่าแก้วเงียบไปเขาเลยขอโทษที่ละลาบละล่วงถามเรื่องส่วนตัว ใบหน้าคมเศร้าลงเล็กน้อยจนแก้วรู้สึกเกรงใจที่เผลอทำกิริยาแบบนั้นใส่เขา
“พี่ขอโทษนะครับ พี่นี่วุ่นวายจริงเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ต่อไปนี้เขาคงไม่มาส่งแก้วแล้ว...” แก้วไม่อยากจะพูดเลย ยิ่งพูดยิ่งใจเสียมากขึ้นเท่านั้นหากแต่อีกฝ่ายนี่สิกลับทำตาโตลุกวาวอย่างมีเล่ห์
“ทำไมครับ?”
“เราเลิกกันแล้ว...เห้อ แก้วนี่แย่จริงเลยเอาเรื่องอะไรมาพูดก็ไม่รู้ ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวครับ...” เขาตามมาดึงมือแก้วเอาไว้ หญิงสาวปรายตามองมือใหญ่ที่กอบกุมมือเธอไว้อย่างชอบใจเท่าไหร่นักแต่ยังคงรักษามารยาทค่อยๆดึงมือตัวเองออกอย่างนุ่มนวล
“พี่ขอโทษครับ แต่พี่อยากจะบอกว่าอย่าเศร้านะคะเดี๋ยวไม่สวย ถึงไม่มีเขาแก้วก็มีพี่อยู่นะ” เขาทอดรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนจนแก้วเผลอยิ้มใจ ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ชายที่แย่อย่างที่หลายคนบอก แก้วทำเพียงแค่ตอบเขาเบาๆว่า ‘ค่ะ’ ก่อนจะเดินเข้ากองไป
หนุ่มใหญ่ยืนยิ้มอย่างพึงพอใจ สายตาหมาป่าฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างเด่ดชัดยามที่เขามองตามแผ่นหลังบางที่เลือนรางออกไป
อ๊ายยยอารมณ์ดีไม่รู้อะไรทำให้อารมณ์ดี55555555
มีความสุขเลยจัดสักตอน55555555อารมณ์ดีมีความสุข
เลยอยากเผื่อเเผ่หาทุกคน ใครอ่านอยู่จงฟัง *ชี้หน้า*
ยิ้มเดี๋ยวนี้นะ! 5555555555อารมณ์ดีเพราะข่าวดีกริกริ :D
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ