Our Destiny เพราะเธอคือรักแท้

9.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 20.51 น.

  6 ตอน
  147 วิจารณ์
  17.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                                                                             หนึ่งนาทีมีผู้คนต้องช้ำใจเพราะรัก

                                                                               ตั้งเท่าไหร่ แต่ทำไมยังต้องการ

 

            โทโมะใช้เวลาท่องโลกอินเตอร์เนตไปเรื่อยๆจนมีเสียงเตือนจากคำวิจารณ์ผลงานของเขาดังขึ้น นิ้วเรียวบังคับปลายลูกศรของเม้าท์ไปตามช่องคอมเม้นท์เพื่อดูก่อนจะพบว่าเป็นสาวน้อยคนเดิมคนนั้น รอยยิ้มที่มุมปากคลี่ออกเล็กน้อยราวกับว่าเขารอคอยที่จะพบเธออีกครั้ง

 

 

หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า

 

“คุณนักเขียนลึกลับคะ วันนี้ฉันอกหักอีกแล้วล่ะค่ะ ฉันเชื่ออย่างสนิทแล้วว่าเราทุกคนออกแบบความรักเองไม่ได้ ฉันไม่สามารถกำหนดรูปแบบความรักได้เลย ฉันรักเขา...แต่เขาไม่เคยรักฉัน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่รักฉัน ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสู้ผู้หญิงที่เขารักไม่ได้ตรงไหน? ฉันแย่มากขนาดนั้นเลยหรือไง? ฉันเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอด...

 

จนวันนึงคนๆนึงก็ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดค่ะ ฉันถามคนๆนั้นว่าฉันไม่ดีตรงไหน...ฉันร้องไห้ฟูมฟายกับเขาและเขาก็ทำเพียงแค่กอดปลอบฉันไว้แล้วพูดกับฉัน...เขาไม่ต้องการให้ฉันมองตัวเองว่าไร้ค่า ไม่ดี ตามคำพูดของใครและสอนให้ฉันได้คิดว่าเราไม่ควรจำแต่เรื่องเลวร้าย ฮะๆ ฉันนี่โง่จริงๆเลยล่ะค่ะฉันทำร้ายตัวเองเพราะความคิดของตัวเองมาตลอด อ้อ..เกือบลืมไปเขายังบอกฉันอีกด้วยว่าถ้าไม่มีใครรักฉัน เขาก็จะรักฉันเอง

 

...มันเลยทำให้ฉันได้รู้ว่าความรักมันไม่ได้มีด้านเดียว หากฉันเปิดใจมองไปรอบๆตัว ฉันก็จะพบความรัก ไม่ว่าจะเป็นจากพ่อ แม่ เพื่อน หรือแม้กระทั่งพี่ชายใจดีคนนั้น ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับงานเขียนน่ารักๆของคุณ มันช่วยฉันได้เยอะเลยล่ะค่ะ และก็ขอบคุณมากที่ช่วยเป็นที่รับฟังของฉันแม้เราจะไม่รู้จักกัน ขอบคุณจริงๆค่ะ” 

 

 

 

            โทโมะขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เรื่องราวของสาวน้อยออนไลน์คนนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับเรื่องของเขาไม่มีผิด เมื่อเช้าเขาก็เพิ่งจะปลอบใจสาวน้อยผู้เป็นลูกสาวเจ้าของร้านที่เขานั่งอยู่แท้ๆ ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะใกล้เคียงกันมากประหนึ่งว่าแก้วเป็นสาวน้อยช้ำรักจากโลกออนไลน์ผู้ที่เขาไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาหรือแม้กระทั่งชื่อเลยสักนิด

 

 

“ชายนิรนาม...กล่าวว่า”

 

“ผมยินดีด้วยนะครับที่คุณปรับมุมมองความคิดเสียใหม่ ก็อย่างที่พี่ชายใจดีของคุณบอก...เราไม่จำเป็นจะต้องมาเปรียบเทียบคุณค่าของตัวเองกับใคร ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจของเราครับ ผมขอให้คุณโชคดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพูดคุยกับคุณ”

 

 

 

หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า

 

“ขอโทษนะคะ...ที่ฉันรบกวนคุณบ่อยขนาดนี้ ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ T_T

 

 

“ชายนิรนาม...กล่าวว่า”

 

“ฮะๆ ไม่เป็นไรครับสาวน้อย ผมยินดี อย่าคิดมากน้า~” 

 

 

            เขาเลือกใช้คำพูดที่ดูจะไม่เป็นทางการมากนักเพราะกลัวว่าสาวน้อยช้ำรักคนนั้นจะหาว่าตัวเองรบกวนเวลาของเขา ตรงกันข้ามโทโมะกลับดีใจเสียอีกที่ได้รู้จักเธอ ได้พูดคุยกันก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกับเขาเคยรู้จักกันอย่างไงอย่างงั้น น่าแปลก...แต่เขาก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ

 

 

หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า

 

“ขอบคุณมากกกกกกกค่ะ รักคุณที่สุดเลย ไว้เจอกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย~

 

 

“ชายนิรนาม...กล่าวว่า”

 

“โอเคครับผม รักเหมือนกันนะครับคุณนักอ่าน โชคดีครับ”

 

 

                                                                       แค่เธอไม่ยอมแพ้ รักแท้ก็จะตามหาเธอ

                                                                                      (รักจะออกตามหาเธอ)                                               

 

 

 

            นิ้วเรียวกดปิดโน้ตบุ๊คก่อนจะขอตัวลากับแม่ของแก้วเมื่อเห็นว่าฝนหยุดลงแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มละไมหลังจากที่ได้ล่ำลากับสาวน้อยคนนั้นเมื่อครู่ ถ้ารู้จักกันหรือเป็นน้องเป็นนุ่งละก็...เขาก็อยากจะหยิกแก้มให้ขาด เรื่องอะไรมาบอกรักผู้ชายแบบนั้นกันถึงเธอจะไม่ได้คิดอะไรก็เถอะ และที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นเขาดันบ้าจี้ตอบเธอไปเสียด้วยสิ!

 

 

“อ้าว! พี่โทโมะเพิ่งกลับไปเมื่อกี๊เองลูก...เห็นเขาถามหาลูกด้วยนะ”   คนเป็นแม่หันมาบอกทันทีที่เห็นลูกสาวเดินลงมาจากชั้นบนของตึกร้าน  แก้วร้องว้าออกมาอย่างเสียดาย...ถ้าไม่มัวแต่คุยเพลินไปหน่อยละก็เธอคงได้ลงมาพบเขา

 

 

“เอ๋...จริงสิ”   เสียงหวานอุทานออกมาอย่างน่ารักเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างบางพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่ตู้ขนมเค้กพลางปรายตามองไปตามชั้นขนมอย่างครุ่นคิด

 

 

“อยากทานเค้กหรือลูก เอาสิ...เลือกเอาเลย”

 

“ไม่ใช่ค่ะคุณแม่..แต่วันนี้หนูจำได้ว่ามันเป็นวันเกิดของพี่โทโมะ หนูขอเอาเค้กไปให้พี่โทโมะนะค่ะ” 

 

“อ้าวเหรอ เอาสิลูก...แล้วเราจะไปหาพี่เขายังไงล่ะ โทรไปบอกพี่เขาก่อนนะรู้มั้ยลูก”  คนเป็นแม่ย้ำอีกครั้งก่อนที่ลูกสาวจะตอบรับเสียงหวาน

 

 

            ดวงตากลมโตมีประกายสดใสยามที่จ้องมองเค้กในตู้ที่วางเรียงรายสีสันสวยหวานน่ากินจนเธอเลือกไม่ถูก แต่เธอก็สนิทและรู้จักกับโทโมะมานานพอสมควรพอจะรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร พี่ชายของเธอชอบเค้กชาเขียว รสชาติหวานละมุนของครีมเค้กกับความหอมกรุ่นของชาเขียวเป็นที่โปรดปราดของโทโมะยิ่งนัก

 

 

“แก้วไปนะคะแม่ เดี๋ยวจะรีบกลับค่ะ” 

 

 

                                                                          ตอนที่เธอเหงาใจ รู้มั้ยเขาก็รอเธอ

                                                                                     (ฉันจะออกตามหาเธอ)            

 

 

 

            ร่างเล็กจัดแจงจัดเค้กใส่กล่องพลางตกแต่งมันอย่างสวยงามก่อนจะออกไปเรียกรถโดยสารเพื่อไปบ้านของเขา บ้านของโทโมะอยู่ไม่ไกลจากร้านเค้กของเธอมากนักนั่งรถสักพักแก้วก็พาตัวเองมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านของเขาซึ่งก็พอดีกับเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาอีกระลอก  นิ้วเรียวจึงเอื้อมไปกดออดอย่างทันถ่วงที ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังเป็นหวัดไม่สบายแน่

 

 

 

 

“อ้าว! ยัยตัวเล็ก..มาได้ยังไงกัน”  โทโมะเอ่ยถามด้วยความงุนงงเมื่อเห็นสาวน้อยมาปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านเขา ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนละอองฝนเล็กน้อย ตามเนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยไปด้วยเม็ดฝนที่โปรยปรายสะท้อนผิวขาวของเจ้าตัวได้อย่างสวยงามราวกับสาววัยแรกรุ่น

 

 

 

            โทโมะเหมือนมีดอกไม้เล็กๆสีขาวบานเต็มหน้าบ้านของเขา รอยยิ้มหวานของเจ้าตัวเล็กตรงหน้าทำให้เขารู้สึกสดชื่นก่อนจะรีบจูงมือน้อยๆนั่นเข้าบ้านเพราะไม่อยากให้ ‘น้องสาว’ ยืนตากฝน  แก้วได้แต่หัวเราะฝืดๆก่อนจะเดินตามร่างสูงเข้าไป

 

 

“ดูสิ...เปียกปอนอย่างกับลูกหมาตกน้ำแน่ะ มา...หันหลัง เดี๋ยวพี่จะเช็ดผมให้”

 

 

“เอ๋...?”   ใบหน้าสวยเอียงมองเขาเล็กน้อย โทโมะหัวเราะเบาๆกับท่าทีน่ารักนั่นก่อนจะดันแผ่นหลังบางให้หันหลังเข้าหาเขาแล้วเริ่มลงมือเช็ดเส้นผมที่เปียกลู่ของแก้วให้อย่างเบามือ

 

 

 

“แล้วนี่จะบอกพี่ได้หรือยังว่ามาหาพี่ทำไม? มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าสาวน้อย”

 

 

 

 

            แก้วหันมายิ้มหวานให้เขา ดวงตากลมใสเป็นประกายน้อยๆน่าเอ็นดู โทโมะมองหยดน้ำพร่างพราวที่เกาะตามไรผมจนลู่ข้างแก้มก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปเช็ดให้อย่างแผ่วเบา พลางเชยคางเรียวของแก้วขึ้นให้สบตากับเขาเพื่อเป็นการยืนยันคำถามเดิมเมื่อครู่นี้

 

 

 

“ว่าไง?”

 

 

 

“มา Happy Birthday ไงค่ะ...พี่ดูสิว่าแก้วเอาอะไรมาฝาก”   แก้วหลบตาเขาวูบก่อนจะกลบเกลื่อนอาการเขินอายด้วยการหันมาเปิดกล่องเค้กที่เตรียมมาให้เขา

 

 

 

“เค้กชาเขียว...นี่....”   โทโมะขำพรืดออกมา เขาดีใจที่อย่างน้อยๆก็มีแก้วที่จำวันเกิดของเขาได้แม้กระทั่งตัวเขาเองยังลืมไปเสียสนิท

 

 

 

 

“ชอบมั้ยค่ะ ขอบอกว่าอร่อยมากกกกกก”

 

 

 

 

“แหงสิ...นี่ร้านเรานี่ ลองแม่ค้าบอกไม่อร่อยเองลูกค้าที่ไหนจะกล้าซื้อ”

 

 

 

 

“พูดแบบนี้ไม่ต้องกินแล้วมั้งค่ะ”   แก้วเบือนหน้าหนีเขา แก้มใสๆพองออกเล็กน้อยอย่างขัดใจ เรื่องอะไรเขามาหัวเราะกันเล่าคนอุตส่าห์มาเซอไพร์ทแท้ๆ

 

 

 

“นี่...ขอบคุณนะเด็กน้อย เลิกงอนเถอะไหนๆก็เอาของโปรดมาให้แล้วพี่จะจัดการให้เรียบเลย..ตกลงมั้ยสาวน้อย”   นิ้วเรียวเอื้อมไปหยิกแก้มพองๆนั่นอย่างงอนง้อ

 

 

 

“ก็ได้ค่ะ”

 

 

 

 

          นั่นแหละ...แก้วถึงได้ยิ้มออก ร่างเล็กหันมาจัดแจงแกะกล่องเค้กออกและปักเทียนจนครบตามจำนวนอายุของเขาอย่างเรียบร้อย ถึงจะเป็นการเซอไพร์ทที่ไม่ค่อยเซอไพร์ทเท่าไหร่แต่แก้วก็ดูจะมีความสุขเมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของพี่ชายยามที่เธอเอาเค้กมาให้

 

 

 

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” 

 

 

 

 

            โทโมะทำเพียงแค่ยิ้มรับก่อนจะก้มลงเป่าเทียนที่ปักเรียงรายบนเค้กสีสวยจนดับหมดทุกเล่ม เขาจัดการตัดแบ่งเค้กให้แก้วและไม่ลืมที่จะเลือกส่วนที่เป็นครีมหวานๆให้คนตัวเล็กเพราะรู้ดีว่าเธอโปรดปรานมันมากแค่ไหน

 

 

 

 

“อร่อยอย่างที่เจ้าของร้านพูดจริงๆแหะ...” 

 

 

 

“อร่อยก็ทานเยอะๆเลยค่ะ อา...ครีมนี่หวานจัง แก้วชอบมากเลย...อื้อ~ แค่กๆ”  แก้วสำลักขึ้นมากระทันหันเมื่อเจ้าตัวหันไปพูดคุยกับเขาอย่าออกรสส่งผลให้เค้กติดคอเสียอย่างนั้น โทโมะรีบส่งแก้วน้ำให้น้องสาวต่างสายเลือดดื่มก่อนจะลูบแผ่นหลังบางเบาๆ

 

 

 

 

“เป็นยังไงบ้างเราค่อยยังชั่วขึ้นหรือยัง?”

 

 

 

“อื้อ~ ดีขึ้นแล้วค่ะ..ขอบคุณนะคะ”     

 

 

 

“มัวแต่เม้าท์อยู่นั้นแหละเห็นมั้ยสำลักเลยเด็กดื้อ..”  นิ้วเรียวเอื้อมมาหยิบยกจมูกเรียวรั้นอย่างหมั้นเขี้ยว แก้วทำได้เพียงยิ้มหวานส่งสายตาแป๋วๆให้เขาก่อนจะหัวเราะครืนกับคำต่อว่าของโทโมะ

 

 

 

 

“แล้วนี่...เราโอเคแล้วนะ เรื่องนั้นน่ะ”

 

 

 

 

            แก้วชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มที่เคยมีกลับหดวูบลงไหอย่างลืมตัว โทโมะหมายถึงเรื่องที่เธอร้องไห้ในวันนั้น แก้วไม่อยากจะคิดไม่อยากจะพูดถึงมันอีก เธอไม่อยากให้เรื่องของ ‘กวิน’ ผู้ชายที่เป็นทั้งเพื่อนและคนที่แอบรักเข้ามารบกวนหัวใจของเธออีกเขาก็เหมาะสมกับดันแล้วกับเกลแฟนของเขา เธอไม่ควรเก็บเอาเรื่องของเขามาให้ปวดหัวใจอีก  แก้วพยักหน้ารับนิดๆก่อนจะคลี่ยิ้มหวานออกมาและโทโมะก็ไม่โง่พอที่จะดูไม่ออกเสียด้วยสิ...

 

 

 

“ทะ...ทำไมอะไรคะ?”

 

 

 

“ไม่ต้องมาฝืนยิ้มหรอก พี่โตแล้วพี่ดูออกว่าแก้วรู้สึกยังไง...อย่าคิดมากนะ พี่ไม่อยากเป็นห่วงแก้วมากเพราะงั้นอย่าทำตัวให้พี่เป็นห่วง  รู้มั้ย” 

 

 

 

 

 

            ร่างสูงดึงแก้วเข้ามากอดไว้เมื่อดูอาการของยัยตัวเล็กคนนี้ออก สีหน้าและแววตาหม่นๆไม่เคยกลบเกลื่อนอะไรเขาได้มิดจริงๆ แม้จะยังงุนงงกับการกระทำของเขาแต่แก้วกลับรู้สึกอุ่นใจไม่น้อย ใบหน้าหวานแนบซบลงกับอกกว้างของเขาพร้อมกับหลับตาพริ้ม มือเรียวยกกอดตอบเขาและไม่ช้านานน้ำตาใสๆที่อยู่คู่กับแก้วราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันก็ไหลลงอย่างห้ามไม่ได้

 

 

 

 

“ค่ะ...แก้วจะพยายาม”

 

 

 

“ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ...พี่รู้สึกเหมือนกับว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน แก้วเหมือนคนๆนึงที่พี่รู้จัก เจอพี่ทีไรเป็นต้องร้องไห้แงๆแล้วก็อกหักมาแทบทุกครั้ง...”

 

 

 

“คะ...”   แก้วถอนตัวออกจากอ้อมกอดของโทโมะพลางเงยหน้ามองเขาทั้งน้ำตาด้วยความสงสัยว่าคนที่โทโมะพูดว่าเหมือนเธอนั้นหมายถึงใคร

 

 

 

“บางทีพี่ก็คิดว่าเธอคนนั้นอาจจะเป็นคนเดียวกันกับแก้วก็ได้..แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงเนอะ คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก จริงมั้ยค่ะสาวน้อยยยยยย”    โทโมะใช้ฝ่ามือของเขาทั้งสองข้างประคองแก้มใสๆแล้วจับโยกไปมาอย่างเอ็นดู

 

 

 

 

            แก้วหัวเราะเสียงใสมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกดีเป็นที่สุด เขาน่ารักและเป็นกันเองเสมอ แก้วรักเขาราวกับว่าโทโมะเป็นส่วนนึงในครอบครัว บางทีก็อยากให้เขามาเป็นพี่ชายแท้ๆให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่บางที...ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย

 

 

“ฮ่าๆๆๆ แต่บางทีก็อาจจะเป็นแก้วก็ได้มั้งคะ”

 

 

 

“อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นยัยตัวเล็ก~”  โทโมะหยิกแก้มนิ่มๆของสาวน้อยตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยวในความน่ารักก่อนที่แก้วจะเงียบไป มือเล็กแตะเบาๆที่มือของแก้ว...สายตาที่แก้วทอดมองด้วยความสงสัยทำให้โทโมะต้องเอ่ยถามออกมา

 

 

 

“หืม...หน้าพี่มีอะไรติดเหรอ?”

 

 

 

“เปล่าค่ะ...แค่สงสัย พี่โทโมะก็ออกจะหล่อแล้วก็แสนดีแบบนี้ ทำไม...ไม่เห็นมีแฟนซะทีค่ะ แก้วอยากเห็นเวลาที่พี่มีแฟนจัง น่าอิจฉาคนที่ได้เป็นแฟนพี่ที่สุดเลย...”  แก้วยิ้มหวานจนตาหยีอย่างไม่คิดอะไรที่พูดแบบนั้นออกไป เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถ้าใครได้เป็นคนรักของเขาคงจะมีความสุขน่าดู แก้วเชื่อว่าโทโมะจะไม่ทำให้คนที่ตัวเองรักผิดหวังแน่นอน

 

 

 

“ทำไมคะ...พี่จะเป็นยังไงเหรอถ้ามีแฟน?”

 

 

 

“ก็พี่โทโมะเป็นคนอบอุ่น ใจดี อยู่ด้วยแล้วปลอดภัย ใครๆก็ต้องรักพี่แน่ๆแล้วพี่ก็เป็นสุภาพบุรุษด้วย...”

 

 

 

“แล้วยังไงที่เรียกว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษกันเด็กน้อย”  โทโมะหัวเราะร่วนกับความคิดเด็กๆของแก้วก่อนจะขยี้ผมเจ้าตัวน้อยๆ

 

 

 

“ทำไมชอบว่าแก้วเป็นเด็กอยู่เรื่อย...แก้วโตพอที่จะรู้จักความรักแล้วนะ!” 

 

 

 

“ไหนล่ะหลักฐาน...แม่คนโตแล้ว”  

 

 

 

 

            โทโมะก้มมองใบหน้าสวยหวานในระยะประชิดอย่างขันๆ ดวงตากลมๆมองค้อนเขาอย่างอาเรื่อง ริมฝีปากบางอมชมพูเม้มแน่นอย่างชั่งใจคล้ายกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรต่อจากนั้นริมฝีปากบางๆนั่นก็ฉกวูบลงมาบนริมฝีปากของเขา หัวใจของโทโมะแทบหยุดเต้นราวกับถูกฟีซเอาไว้

 

 

 

เด็กบ้านี่...ทำอะไรของเขานะ!

 

 

 


 

มาแล้วหลังจากหายไปนานม๊าาากกกกก

คิดถึงนะทุกคนนี่พูดเลยฮิ้ววววววววว 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา