Would You Stay With Me
9) อ่อนหวาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอน 9 ‘อ่อนหวาน’ (18+)
“เธอมีเรื่องจะคุยกับฉันซินะ”
ป็อปปี้ทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าง สังเกตุได้ถึงอาการอึดอัดของหญิงสาว
“เรื่องยัยแก้ว หรือเรื่องที่โรงพยาบาลล่ะ”
“เอ่อ...” ฟางกัดปากอย่างลำบากใจ เธอไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นทั้งหมดยังไง แต่คงไม่มีวิธีไหน
มากกว่าพูดออกไปตรงๆซินะ
“แก้ว ฉันว่าเธอมีอาการทางจิต ไม่ใช่ว่าน้องเขาเป็นบ้านะ!!” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน กลัว
ว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจไปอีกแบบ
“คือฉันหมายความว่า เธอเหมือนเป็นคนที่ยึดติดกับอะไรซักอย่างแล้วไม่มีทางปล่อยมือจากของ
สิ่งนั้นไปง่ายๆ ทำให้บางครั้งเธอดูเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ เวลาที่มีใครมายุ่งกับของ ของเธอนะค่ะ เอ่อ
คุณพอจะเข้าใจใช่มั้ย”
ป็อปปี้พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ฟางเอ่ยออกมา
แก้วเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาซินะ ถ้าเขาทำทุกอย่างให้มันดีกว่านี้ ไม่ยอมให้พ่อกับแม่เอาเขากับแก้วไปทิ้งไว้ที่นั้น
บางทีแก้วอาจไม่ต้องหวาดกลัวการถูกทิ้งจนต้องเป็นแบบนี้ก็ได้ และก็เป็นเขาที่มั่วแต่ทำงานจนทิ้งให้แก้วต้องอยู่
คนเดียวบ่อยๆ ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะเขา ถ้าเลือกได้ เขาขอเป็นคนที่เจ็บเองทั้งหมดดีกว่าต้องให้น้องสาวที่แสน
เปาะบางแบบแก้วต้องมาเจ็บแบบนี้
ฟางมองอาการเหม่อลอยของชายหนุ่มอย่างพิจราณ เขาคงมีเรื่องบางอย่างในอดีตที่ทำให้ทั้งเขาและน้องสาวต้อง
เป็นแบบนี้แน่
ฟางลุกจากโซฟาที่ตัวเองนั่งอยู่ ไปทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างชายหนุ่ม ก่อนจะดึงชายหนุ่มเข้ามาโอบกอด
ป็อปปี้ยอมเอนกายเข้ามาในอ้อมกอดของหญิงสาวแต่โดยดี อะไรบางอย่างที่เธอสื่อมามันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
อย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่า ถ้าอยู่กับเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
“การที่คุณโทษตัวเอง มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะค่ะ ตอนนี้เรายังพอจะช่วยให้เธอกลับมา
เป็นปกติได้”
“ยัยแก้วจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย แกจะกลับมาเป็นแบบเดิมได้จริงๆรึเปล่า”
ป็อปปี้ซุกหน้าลงกับบ่าบอบบางของหญิงสาว ฟางโอบกอดป็อปปี้แน่นกว่าเดิม ถ่ายถอดความอ่อนโยนที่เธอมีให้
เขา เพื่อปลอบประโลมจิตใจที่แสนเย็นชาของเขา
“ค่ะ ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”
ป็อปปี้ผละออกจากอ้อมกอดของหญิงวสาว ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ราวกับมีแรงดึงดูดประหลาดดึงให้เขาและเธอขยับเข้า
มาใก้ลกันราวกับมีมนต์สะกด
ป็อปปี้ยกมือขึ้นกอบกุมใบหน้าของหญิงสาวย่างแผ่วเบา ก่อนจะประทับจูบอ่อนหวานลงมา ฟางหลับตารอรับสัมผัส
ที่ชายหนุ่มมอบให้อย่างเต็มใจ
สัมผัสบางเบาราวผีเสื้อ ค่อยแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงจนเธอแทบขาดใจกับจุมพิศที่ป็อปปี้มอบให้
“แฮ่กๆ” หอบหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
ป็อปปี้ละจากปากบางมาซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับซอกคอขาวของหญิงสาว พรมจูบที่แหล่งชีพจรที่เต้นแรงขึ้นสนอง
ตอบจูบของชายหนุ่มแทบจะในทันที มือหนาโอบกอดให้ร่างบางแนบชิดเข้ามาใก้ล ลูบไล้ไปตามแนวกระดูกสัน
หลังของเธอเล่นอย่างหลงไหล
มืออีกข้างก็ลูบไล้ขาอ่อนของหญิงสาวที่ยังอยู่ภายใต้กระโปรงตัวยาว
“อือ...”
ฟางกัดปากแน่นกับความรู้สึกวาบหวามจากสัมผัสของป็อปปี้ที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ขยับร่างไปตามแรง
ชักจูงของอีกคนอย่างว่าง่าย
ทุกสัมผัสจากชายหนุ่มเป็นไปอย่างอ่อนหวานค่อยเป็นค่อยไป
“เธอแน่ใจกับสิ่งนี้รึเปล่า ฟาง” เอ่ยถามออกมา เขาไม่อยากใช้ความเผลอไผลของเธอมาทำร้าย
เธอเองในภายหลัง
“ฉัน...ฉันบอกไม่ถูก แต่...คุณอย่าทิ้งฉันไปได้มั้ย”
“ฉันจะไม่ทิ้งเธอ” ป็อปปี้พูดก่อนจะรั้งเสื้อผ้าออกจากอีกฝ่าย พรมจูบไปทั้งร่างบาง ไม่มีตรง
ไหนที่เขาไม่ได้สัมผัสเธอ ทุกๆสัมผัสเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แม้แต่เขายังตกใจ ความรู้สึกของคำว่า รัก
“อือ...ป็อป...อ๊ะ”
ฟางครางออกมากับการหยอกเย้าที่จุดอ่อนไหวที่เขาปรนเปรอให้เธอ
“อืม...ฉันชอบนะที่เธอเรียกชื่อฉัน เรียกชื่อฉันอีกซิฟาง”
ขยับกายขึ้นมาทาบทับ ก่อนจะค่อยๆสอดแก่นกายเข้าไปในร่างบางอย่างอ่อนหวาน เพราะเขารู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรก
ของเธอ
“อึก...เจ็บ...” ใบหน้าหวานเหยเกไปกับความเจ็บแปลบที่กลางลำตัว
“ทนหน่อยนะคนดี ไม่นานมันจะหาย”
ปลุกปลอบหญิงสาวที่เขาเองก็ต้องกันฟันทนกับอาการแข็งขึงของร่างกายที่ต้องการปลอดปล่อย แต่จำต้องกัดฟัน
ทนให้ทุกอย่างค่อยๆดำเนินไป เพราะไม่งั้นเธอคงเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่นานหญิงสาวก็คุ้นเคยกับบทรักที่ชายหนุ่มมอบให้
“อือ...อึก...”
“อ่า”
“แฮ่กๆ” ฟางหอบหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนกับบทรักอ่อนหวานที่ชายหนุ่นมอบให้เธอ
“เจ็บมากรึเปล่า” ป็อปปี้นอนตะแคงก่อนจะเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากมนให้
“ไม่เท่าที่คิดค่ะ” หลบสายตาคมที่มองลงมา
“ฉันจะโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์รึเปล่า”
แก้มแดงไปกับประโยคล้อเลียนของป็อปปี้ เอนกายเข้าหาร่างของชายหนุ่มตามแรงดึง
“ฉันไม่รู้ว่ามันจะเร็วไปรึเปล่าที่จะเอ่ยคำนี้กับเธอนะ ฟาง” เงยหน้าจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่งฟังอย่างรอ
คอยในคำที่เขากำลังจะเอ่ยออกมา
“ฉันรักเธอนะ”
“ค่ะ”
ตอบรับความรู้สึกของชายหนุ่มอย่างอ่อนหวาน เพราะเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเขาเลยซักนิด
ถึงทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับหนักแน่น ตอกย้ำเข้าไปในความรู้สึกเธออย่างหมั่นคง
“ฉันมีเรื่องอยากถามคุณเรื่องหนึ่งคะ” ป็อปปี้จ้องตาเธอเป็นการเปิดโอกาศให้ถาม
“คุณ...ได้ไปงานศพพ่อฉันรึเปล่าค่ะ”
ฟางเอ่ยถามเรื่องที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจเธอออกมา ยังมีอีกเรื่อง ...ทำไมต้องเป็นเขาที่เข้ามาซื้อกิจการของพ่อ
เธอไป เพราะอะไร
“เธอคงไม่ได้อยากรู้แค่นั้นซินะ” ฟางพยักหน้าเบาๆกับสายตาของชายหนุ่มที่ดูจะอ่านใจเธอได้
อย่างทะลุปุโปร่ง
“ใช่ ฉันไปวันเผาศพพ่อเธอ “ เป็นเขาจริงๆซินะ พ่อคะ พ่ออยากให้ฟางเจอกันผู้ชายคนนี้เพราะ
อะไรกันแน่คะ
“ฉันรู้จักกับคุณนพ พ่อของเธอมาก่อนที่ฉันจะเข้ามาเทคโอเว่อร์กิจการนี้”
“หมายความว่า...”
“ใช่ ท่านเป็นคนขอร้องให้ฉันเข้ามาช่วยโครงการนี้เพราะท่านไม่อยากเห็นสิ่งที่ท่านสร้างมากับ
มือถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของญาติตัวเอง”
“หึ แม้แต่เรื่องนี้ท่านก้รู้ซินะ ไม่เคยมีใครจริงใจกับเราสองคนพ่อลูกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่
แม่ฉันเสียไป ก็มีแต่คนเข้ามาวุ่นวาย แต่นั้นเป็นเพราะทุกคนต้องการโรงพยาบาลของพวกเราต่างหาก”
ฟางเอ่ยบอกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงข่มขื่น
“ขอบคุณนะค่ะ อย่างน้อยคุณก็ไม่คิดจะขายมันทิ้งเหมือนคนอื่น”
ป็อปปี้ตอบรับคำขอบคุณของร่างบางด้วยการโอบกอดร่างเล็กเป็นการปลอบโยน
“คุณเล่าเรื่องของคุณให้ฉันฟังบ้างได้มั้ย”
“หืม...ได้ซิ”
เพราะยังไงเธอก็ต้องรู้เข้าซักวัน อดีตที่ทำให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้...
^________________________________________________________________^
Happy Birth Day พี่ฟางคร้า
ฮ่าๆเรามาอัพฉลองวันเกินเจ้เขาหล่ะ (เกี่ยวมั้ย?)
เจอกันตอนหน้าค่ะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ