Would You Stay With Me
1) สิ่งที่สูญเสีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1 ‘สิ่งที่สูญเสีย’
ความรัก ก็เปรียบได้กับกองไฟที่หลอกล่อเหล่าแมงเม่าให้บินเข้ามาติดกับ แต่กว่าจะรู้ว่าอันตรายรอ
อยู่ข้างหน้าก็เมื่อสายไปแล้ว...
สาวสวยหน้าหวานเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่บัดนี้ไม่มีหมู่ดาวให้เธอมองเห็นซักดวง เพราะต่างก็ถูกแทนที่
ด้วยแสงสีจากแหล่าตึกรางบ้านช่อง
“แม่เขาไม่ได้จากหนูไปไหน แต่แม่เขาจะคอยมองดูลูกจากบนนั้น เป็นดวงดาวอยู่บนท้องฟ้านั้นไงค่ะ”
คนเป็นพ่อลูบหัวลูกสาวอย่างอ่อนโยน ต่างจากเด็กสาวที่ยังคงสะอึกสะอื้นไม่หาย
“ไม่เอา หนูไม่อยากให้คุณแม่ไป ฮือๆ คุณแม่”
“อย่าร้องนะค่ะคนเก่ง ถึงคุณแม่ไม่อยู่ พ่อก็จะอยู่กับหนูตลอดไปนะค่ะ”
“ไหนคุณพ่อบอกจะอยู่กับฟางไปตลอดไงค่ะ แล้วทำไม...”
เสียงหวานพึมพำออกมา ใบหน้าเศร้าหมอง หยาดน้ำตาไหลรินมองภาพปล่องควันไฟที่กำลังพวยพุ่งด้วยใบหน้า
เจ็บปวด ไม่มีแล้ว ไม่มีอีกแล้วคนที่จะมาคอยปลอบยามที่เธอร้องไห้ ไม่มีอีกแล้ว
“ฟาง ป้าเสียใจด้วยจริงๆนะลูก ไม่คิดว่าตานพจะทำแบบนี้”
เบนสายตากลับมามองเจ้าของเสียงด้วยแววตาที่ยากจะเข้าใจว่าคนพูดต้องการสิ่งใดกันแน่
“ค่ะ”
“เรื่องโรงพยาบาล ป้าจะให้ตาโฟมเข้าไปช่วยแล้วกัน หนูคงจะไม่คุ้นชินกับการทำธุรกิจหรอกมั้ง”
นี่ซินะ สิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการจากเธอ ไม่ใช่ความจริงใจที่ต้องการมอบให้กัน แต่เป็นผลประโยชน์เท่านั้น
“ขอบคุณป้าเกศมากค่ะ แต่ฟางดูแลสิ่งที่พ่อสร้างมาได้เองค่ะ” เลือกจะตอบกลับไปเรียบๆ
แต่อีกฝ่ายดูจะไม่พอใจที่เธอปฎิเสธน้ำใจของตน
“ตามใจ ถ้าล้มละลายเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือก็แล้วกัน”
หญิงสาวก้มหน้านิ่ง ซ่อนความรู้สึกไว้ใต้ท่าทีเรียบเฉย จะมีซักกี่คนที่สามารถมองทะลุท่าทีเรียบเฉยเข้าไปมอง
เห็นตัวจริงของเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้อย่างเศร้าโศกได้บ้าง
“ฟาง”
เงยหน้ามองสัมผัสที่บ่าเล็ก อดจะถอนใจออกมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“โมะ” น้ำเสียงแห้งแล้งของหญิงสาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
“พักก่อนเถอะ” แตะข้อศอกของเพื่อนสาวให้เดินตามเข้ามานั่งพักที่ศาลา ยื่นแก้วน้ำเย็นให้หญิงสาว
อย่างหวังว่ามันพอจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ฟางเลือกที่จะรับแก้วน้ำมาถือไว้นิ่งๆ ไม่ยอมยกขึ้นจิบ โทโมะ ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง
“ปล่อยมันออกมาบ้างเถอะฟาง โมะพร้อมจะอยู่เคียงข้างฟางเสมอนะ”
เพียงประโยคเรียบๆของชายหนุ่มก็ทำให้กำแพงหนาที่เธอเพียรสร้างมาตลอดนับแต่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป
พังทลายลงแทบจะในทันที ซบใบหน้าลงกับท่อนแขนแข็งแรงของอีกฝ่ายอย่างอ่อนล้า ปล่อนให้ความเสียใจหลั่ง
ไหลออกมา ตัวโยนไปตามแรงสะอื้น ชายหนุ่มเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้เธอระบายความเสียใจออกมา
“ฮึก ฮือๆ” ทำไมคุณพ่อต้องทำแบบนี้ด้วยนะ ทำไมท่านต้องฆ่าตัวตายแล้วทิ้งฟางไว้แบบนี้ด้วย
ทำไมกันนะ ฮึก
"ฮือๆคุณพ่อ"
ในที่สุดหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนของชายหนุ่ม ส่งยิ้มบางๆให้เป็นการขอบคุณ
โทโมะยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบาๆเป็นการปลอบโยน
“เข้มแข็งนะฟาง มันจะต้องผ่านไป”
“ฟางจะพยายาม”
“ถ้ามีอะไรให้โมะช่วยก็บอก โมะยินดี”
“ขอบคุณนะ” นับตั้งแต่เกิดเรื่อง โทโมะเป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอ ไม่พยายามถามเพื่อให้เธอ
ต้องเจ็บช้ำไปมากกว่านี้ เขาเพียงแค่นั่งข้างคอยเป็นที่พักพิงให้เธอ สำหรับเธอแล้ว แค่นี้มันก็ทำให้เธอรู้สึกดี
มากมายแล้ว
“ไม่เป็นไร เราเพื่อนกันนิ” ถึงแม้คำท้ายมันจะเอ่ยออกมาแสนเบาแต่เธอกลับได้ยินมันชัดเจน
เพื่อนที่จะไม่มีวันทิ้งกัน
“ยัยฟางทนายเขาให้มาตามแก เราจะเปิดพินัยกรรมกันแล้ว”
เสียงป้าสะไภ้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหมั่นไส้ มองหน้าหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นไม่พอใจในกริยาที่ทั้งสองมีต่อกัน
ฟางขมวดคิ้วไม่พอใจ ศพพ่อเธอยังไห้มไม่หมดด้วยซ้ำ แต่เหล่าบรรดาญาติกลับขอเปิดพินัยกรรมกันแล้ว
สุดท้ายก็จำต้องเดินตามป้าสะไภ้ไปจนได้ เดินมาหยุดลงตรงกลางศาลาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้าง
โฟมลูกพี่ลูกน้อง
“เอาหล่ะครับ ถ้ามากันพร้อมแล้ว ผมขอเปิดพินัยกรรมของคุณนพคุณ นีระสิงห์นะครับ”
หญิงสาวไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่ทนายกำลังกล่าวเลยซักนิด สายตาเหม่อมองไปยังหนทางข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย
ก่อนจะไปสะดุดที่ร่างสูงของใครคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้กับศาลา ร่างสูงก้าวขึ้นไปบนเมรุที่ร่างของพ่อเธอกำลังเผา
ไห้มอยู่ มองตาชายหนุ่มไปอย่างสงสัย
ใครกันนะ เพื่อนคุณพ่อก็ไม่น่าใช่ มองกิริยาที่ชายหนุ่มวางดอกไม้จันก่อนจะเดินลงจากเมรุ ขึ้นรถขับออกไปเงียบๆ
“ฟาง ฟาง”
“ค่ะ?” หลุดจากผวงค์ หันกลับมาสบตาของญาติๆที่เข้มนมองมาที่เออย่างไม่พอใจ
“คุณทนายเขาเรียกให้น้องฟางฟัง เรื่องทรัพย์สินที่ต้องได้นะครับ” พี่โฟมเอ่ยเรียบๆ
“ค่ะ”
“สำหรับคุณ ธนันต์ธรณ์ นีระสิงฆืบุตรของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบ บ้านและที่ดินที่เป็นชื่อของ
ข้าพเจ้าทั้งหมดให้ตกเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว”
“ขอจบการเปิดพินัยกรรมแต่เพียงเท่านี้นะครับ”
“เดี๋ยวค่ะ คุณทนาย แล้วโรงพยาบาลล่ะค่ะ ใครจะเป็นคนบริหารต่อ” เสียงหญิงข้างพ่อคนหนึ่ง
เอ่ยขึ้น
“อ้อ เรื่องโรงพยาบาล ก่อนที่คุณนพจะเสีย ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของไปแล้วนะครับ”
“ห๊ะ คุณหมายความว่ายังไงคุณทนาย”
ฟางมองหน้าทนายประจำตัวของพ่อ อย่างตกตะลึง
หมายความว่ายังไง ที่ว่าโรงพยาบาลไม่ได้เป็นของพ่อเธออีกแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เสียงสอบถามจากบรรดาญาติพี่น้องคนอื่นๆดังขึ่นเซ่งแส่ถึงสาเหตุที่โรงพยาบาลโดนแทคโอเว่อร์จากบุคคลนอก
“เสียเวลาจริงๆ ได้แค่เงินเท่าหยิบมือ” เสียงของป้าสะไภ้ดังกระทบหู แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหญิง
สาวจะไม่เหลือการรับรู้ใดๆอีกแล้ว ในหัวเธอมีแต่ทำว่าทำไม? เกิดอะไรขึ้น ดังวิ่งวนอยู่เท่านั้น....
♪♫ ^_________________________^ ♪♫
รับรองได้ว่าเรืองนี้ไม่เศร้าน้ำตาตกเหมือน come back แน่นอนอค่ะ
ฮ่า คิดถึงคนอ่านจัง แต่คิดถึงคนเม้นกับคนโหวดมากกว่านะ อิอิ
เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ