Coffee In My Heart

9.1

เขียนโดย ออมอนี่cake

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18.56 น.

  38 ตอน
  532 วิจารณ์
  60.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน พ.ศ. 2559 16.38 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

17) Carpuchino II แก้วที่ 4 [Edit]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ
^__^~

 

เรื่องสั้นเรื่อง คาปูชิโน่  ภาค 2 แก้วที่ 4

 

 

"วิชาอะไรนะคะ ออกแบบโมเดล...อืม ฟางจะดูให้ค่ะ 11123 ใช่ไหมคะ?"

 

"อ.ฟาง T_T ขอบคุณที่สุดในโลกเลยค่ะ!!! เดี๋ยวหวายยกเอกสารตามไปนะคะ"

. 

.

"เอ่อ....ป๊อบปี้ ที่ตรงนี้ว่างหรือเปล่า?"

 

"อือ"

 

"งั้น ซินนั่งด้วยนะ ฮิฮิ แกเร็วๆมานั่งตรงนี้ หนุ่มๆเค้าว่าง อิอิ"

 

.

.

.

.

"ป้าหวายมา ' ไมอ่ะ? อ.หนมจีนล่ะ หิว....เอ้ย! คิดถึงจะแย่ อุตส่าห์ลากตัวเองจากที่นอนมาเลยนะเนี่ย!!!" เหลือบตาคมขึ้นมามองตามเสียงเรียกของเพื่อนในคลาสถึงการมาของ อ.ร่างอวบคนสวยที่ทำหน้าที่ดูแล นศ.ทุกชั้นปี เมื่อยังไม่เห็นถึงการมาของ อ.ประจำวิชาจึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะแลกเชอร์ดังเดิม เครื่องปรับอากาศเย็นๆกับห้องโถงกว้างๆที่มีลักษณะสโลบเป็นขั้นบันไดของคณะ ทำให้ทั้ง อ.และ นศ.ประสานสายตากันอย่างง่ายดาย ไม่สามารถหลบหลีกได้ แต่ในเวลาแบบนี้เขาไม่สนว่าใครจะมองอย่างไร แม้กระทั้งคนที่คอยกวนใจอยู่ข้างๆนี่ก็ด้วย

 

 

...... 'นี่ๆ ป๊อบปี้อย่าพึ่งหลับสิ มาคุยกับซินก่อน น้าๆๆๆๆ' ......เฮอะ น่ารำคาญชะมัด

 

 

"อ.หนมจีนเข้าเลท ต้องทำโทษเว้ย วันนี้ ' จารย์ต้องไปทานข้าวกับพวกผมนะคร้าบ ฮ่าๆๆๆๆ"

 

"มาพนันกันดีกว่า ว่าวันนี้  อ.หนมจีนของข้า จะใส่กระโปรงน่ารักหรือกางเกงสุดเซ็กซี่มา"

 

"อ.หนมจีนของเอ็ง พ่องสิ!! อ.หนมจีนของพวกเราเว้ย !! // ข้าว่ากระโปรงว่ะ // ข้าว่ากางเกงนะ" สูดหายใจเข้าลึกๆเมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้าห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ปี1ทั้งชั้นปีที่มีจำนวนมากกว่า นศ.คณะเธอเกือบๆ 5 เท่าแบบนี้ ก่อนจะถูกเชิญให้เข้าไปในสนามรบ ก็ได้ยินเสียงน่ารัก(?) ของ นศ. ที่มีความปรารถนาจะเจอ อ.ประจำวิชาอย่างแรงกล้า 'จะโดนฆ่าตายไหม อยากรู้แค่นี้?' แค่วันนี้ทั้งวันไม่มีเรียน เฉพาะเจาะจง 3 ช.ม.ที่เวลา 2 ทุ่ม - 5 ทุ่ม กับวิชานี้ วิชาของ อ.ขนมจีนวิชาเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ นศ. เฟรชชี่ที่ระบุเพศได้ว่าเป็นเพศชายเกือบ 100 % ถ้าไม่ติดมีสาวแท้ และสาวเทียมอีกไม่ถึง 0.8 %

 

 

'ความตั้งใจสูงกันขนาดนี้ ถ้าไม่อยากตายก็อย่าหาเรื่อง อันไหนยากก็ข้ามแม่ง ทำให้เด็กๆเข้าใจง่ายๆเข้าไว้ ;_______; ตายแน่ๆ'

 

ก่อนที่สมองจะมโน[คิดเอง]ไปไกลมากกว่านี้ อ.ร่างอวบก็จัดการเด็กๆทั้งห้องให้เงียบ แล้วกลับมาสนใจตัวเอง และตัวเธอที่กำลังจะได้เผชิญหน้ากับรุ่นโหดฮาร์ดคอร์แห่งปี ถ้า อ.หวายจะดุขนาดนี้ สอนเองง่ายกว่าไหม ไหนบอกว่ากลัวไงคะ?

 

 

 

"นี่ๆ หยุดความคิดบ้าบอของพวกนายได้แล้วฟังนะ !!  .... เอ่อ วันนี้ อ.ขนมจีนป่วยกะทันหันอ่ะ    แต่!!....หุบปากก่อน อ.มีตัวแทน ทำตัวดีๆล่ะ อ.ท่านมาจากคณะอื่น อย่าสร้างปัญหาเด็ดขาดเข้าใจ๋? แค่นี้นะ บาย" พูดจบแค่นั้น อ.ร่างอวบก็เดินออกมาที่ประตูแล้วส่งยิ้มหวานให้เธอ พร้อมกับชูกำปั้นข้างขวาขึ้นมาแล้วพูดคำว่า 'ไฟท์ติ้ง' เบาๆ พร้อมกับเดินจากไปแบบไม่แม้แต่จะหันมามองอีกเลย......

 

 

"ไม่เข้าใจ จะเรียนกับ อ.หนมจีนเว้ย!!! // เอาคนสวยเราคืนมาๆๆๆๆ // ไม่เรียนเว้ยกลับๆๆๆ"

 

                เด็กๆส่งเสียงโวยวายกันลั่นห้อง โดนไม่สนใจเลยว่า อ.ของตัวเองได้เดินจากไปนานแล้ว ไม่มีทางที่จะได้ยินคำบอกกล่าวของพวกเขาแน่ๆ ก่อนจะก้มจัดกระโปรงให้เข้าที่แล้วยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ และลากตัวเองมายังใจกลางห้องสโลปของตึกวิศวะ 'ในชีวิตไม่เคยต้องข่มขืนใจตัวเองขนาดนี้เลย เวลามาสอน นี่เรากลัวสอนเด็กพวกนี้ไม่ได้ หรือกลัวใจตัวเองจะต้องเจอใครบางคนกันแน่นะ' ในระหว่างที่เดินทางมายังห้องสอน ในใจลึกๆก็ยังตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่ ถ้าเธอเจอหน้าป๊อบตอนนี้ เธอจะทำอย่างไร ในฐานะพี่สาวกับน้องชายข้างบ้าน ที่บังเอิญมาขออยู่ด้วยช่วงปี 1 เท่านั้น .... ความสัมพันธ์ที่เปิดเผยไม่ได้แบบนี้

               

                ซ้ำเจ้าตัวดียังหนีออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้  จะมองหน้ากันอย่างไร .... ตามหาทั้งวันกลับไม่เจอ มาเจอในชั่วโมงที่ตัวเองมาช่วยสอนแบบนี้ ในเวลาแบบนี้ ในสถานที่แบบนี้ คนโกหกจะทำอย่างไร .... คงต้องเก็บความคิดไม่เข้าทีของตัวเองพับไว้ในซอกเล็กๆของใจช้ำๆก่อน [เริ่มเน่าอ่ะ : แก้วใจ]  เพราะตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับนักศึกษาเกือบครึ่งพัน  ที่เตรียมจะปากระดาษ สมุดโน๊ต ปากกา ดินสอ ฯลฯ ลงมาหน้าคลาสเรียนเพื่อประท้วง

 

'ยิ้มไว้ธนัชพร ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก' ปั้นหน้ายิ้มหวานที่สุดในโลกเท่าที่ตัวเองจะทำได้ออกมา [ฉากนี้ลำบากไปไหม เยอะไปนะ : แก้วใจ] แล้วส่งไปให้ นศ.ทั้งคลาส ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่ดูจะทำให้ตัวเองรอดชีวิตในวันนี้ออกมา พร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่นเพื่อย้ำในคำพูดของตัวเอง ว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

 

 

 

"ขอโทษนะคะ อาจารย์เข้าใจว่าทุกคนตั้งใจมาเรียน และอาจารย์จะพยายามเต็มที่ให้เราได้รับความรู้อย่างที่สมควรจะได้รับ ฝากเนื้อฝากตัวสัก 3 ชม.ต่อจากนี้นะคะ อ.ธนัชพร ค่ะ เรียกสั้นๆ อ.ฟางนะคะ"

 

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

                โลกแทบหยุดหมุน ไม่ใช่เพราะ อ.ประจำวิชาโดดสอน แต่เพียงแค่เห็นร่างเล็กๆของคนน่ารักที่กำลังยืนแนะนำตัวเองอยู่หน้าคลาสเรียน แม้เขาจะไม่ได้นั่งหน้า ออกจะเป็นเด็กหลังห้องเพราะไม่ใช่เด็กมาเช้า แต่ในเวลานี้เขากลับเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่สูงเพียงแค่ไหล่ของเขา สวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน มีระบายลูกไม้เล็กๆแบบที่เจ้าตัวชอบ ชุดที่คนน่ารักออกแบบและเย็บเองกับมือที่ห้องทำงานส่วนตัวในคอนโด คอนโดที่มีเขาอยู่ด้วย .... อยู่ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน  ไม่จำเป็นต้องนั่งหน้า แค่เห็นเงาเท่านั้น เขามั่นใจว่าจำได้

 

                เผลอลุกขึ้นนั่ง หลังพิงกับเบาะที่เขายังไม่เคยได้ใช้งานตั้งแต่เข้ามาในห้อง ลอบกลืนน้ำลายจนรู้สึกว่ามันแห้งผาก ตกใจ ? ดีใจ ? เสียใจ หรือน้อยใจ .... เขาไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่ารู้สึกเช่นไร รู้แต่ว่ามันโหยหา รอยยิ้มน่ารักที่มักมีให้เข้าอยู่เสมอตั้งแต่เด็กๆ ความห่วงหาอาทร ความเอาใจใส่และเป็นห่วงเป็นใยจนเกินพอดีของคนน่ารักคนนั้น คิดถึง....คิดถึงที่สุด

 

.

.

"เด็กที่ไหนวะ// แมร่ง...สวยว่ะ // อ.จะมาแทน อ.หนมจีนตลอดไปหรือเปล่าครับ? // อ.เข้าเลทต้องไปทานข้าวกับผมด้วยน้า // อ.อายุเท่าไหร่อ่ะครับ 18 หรือเปล่า เราจะได้รุ่นเดียวกัน ฯลฯ"

 

 

"ชิส์ หน้าตาก็บ้านๆ ไม่รู้จะแซวเว่อร์อะไรนักหนา ใช่ป่ะป๊อบ"

"................"

 

               

                เพียงข้ามคืนที่ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้คุยกัน กับอีกหนึ่งวันที่ชีวิตของเขาขาดความสดใส ไม่เคยเลยสักครั้งที่มาเรียนด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวอย่างวันนี้  คิดถึง คิดถึงกระต่ายน้อยจริงๆ .... เขาไม่เคยยึดติดกับเพื่อนมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ตั้งแต่ตอนที่ปีนรั้วข้ามมาหาคุณยายข้างบ้านเพื่อมาเล่นด้วย ตั้งแต่วันนั้นตอน ม.ต้น วันที่ได้เจอกับยายกระต่ายป่า เขาก็ไม่เคยเอาตัวเองไปยึดติดกับใครอีกเลย นอกจากผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีอิทธิพลกับหัวใจของเขาที่สุด

 

 

 

"นักศึกษาคะ เปิดเอกสารหมายเลข......."

 

.

.

.

"ไม่เห็นเข้าใจเลย พูดใหม่อีกทีดิ้?" ทั้งที่ในใจร่ำร้องอยากเดินเข้าไปหาที่หน้าชั้น แต่ปากกับขัดคำสั่งของหัวใจแล้วทำตามเจ้านายอย่างสมองแทน สมองบอกเพียงว่า เขาเจ็บเพราะใคร และเขาโกรธผู้หญิงคนนี้แค่ไหน ..... จงเลือกทำตามสมองมากกว่าคำเรียกร้องของหัวใจซะ ชีวิตจะได้ดำเนินต่อไปจะได้เลิกเจ็บเลิกโกรธอีก เอามือเท้าคางยันไว้กับโต๊ะแล็กเชอร์ พูดจาไม่รื่นหูคนสวยออกมาอย่างไร้อารมณ์ สายตรงมองตรงไปยังเป้าหมายที่ยืนบรรยายอยู่กลางห้องด้วยท่าทางน่ารัก ท่าทาง คำพูด และสายตาที่เขาไม่ชอบ !! ไม่ชอบให้ทำกับคนอื่น สายตาแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น คำพูดแบบนั้น มันควรจะเป็นของเขา ของเขา ของเขา ฮึ่ย!!!

 

.

.

"ใช่ หนูกับแฟนไม่เข้าใจอ่ะค่ะ อ.ช่วยพูดใหม่อีกทีสิคะ"

.

.

 

"เรื่องไหนคะที่ว่าไม่เข้าใจ? "  เงยหน้าขึ้นไปมอง นศ.ที่นั่งแทบจะหลังห้อง ด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะสั้นบวกกับคอนแท็กเลนส์ที่ผ่านการร้องไห้มาระยะหนึ่ง ทำให้มองไม่ถนัด เห็นเพียงชายหญิงสองคนที่นั่งข้างๆกัน พูดขึ้นมาแทบจะพร้อมๆกัน ในเรื่องที่แสนจะง่ายที่สุดในโลก

 

                แต่สายตาเจ้ากรรมที่มันกับเลือกที่จะชัดตอนสายตาคมของอีกคนทอดมองลงมา สายตานั้นเธอจำได้ดี สายตาที่เธอได้เห็นทุกครั้งตอนตื่นนอน และก่อนหลับตาฝัน สายตาที่มาพร้อมกับการสอนประสานที่เอวคอดทุกๆเช้าหน้าเตาขนมปังปิ้งไหม้ๆ สายตาที่แทบจะหลอมละลายให้ใบหน้าใสร้อนผ่าวและกลายเป็นไอได้ในเวลาเดียวกัน สายตาของคนรัก คนรักที่แสนคิดถึง เพียงข้ามวันที่เจ้าหมีของเธอหายตัวไป ยิ่งหายิ่งหาย พอหยุดหมีก็กลับเดินเข้ามาใกล้  แทบอยากจะวางไมค์แล้วเดินขึ้นไปหา ใจนึงก็อยากถามให้หายข้องใจ ที่หายไปทำไมต้องโกหก ใจนึงก็เพียงแค่อยากซบกับอกกว้างเหมือนทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยล้า คำโกหกมากมายแค่ไหนก็ไม่สนใจทั้งนั้น แค่คนรักเดินกลับมาหาก็พร้อมจะให้อภัยทุกอย่าง แต่ทุกความคิดถูกปิดกั้นไปหมดเพียงเพราะคำเอื้อนเอ่ยของ นศ. หญิงหน้าตาสะสวยที่นั่งเคียงคู่กัน 

 

'ฟะ แฟน....เหรอ แฟน?'

.

.

 

"ตั้งแต่ อ.เริ่มเข้ามาเนี่ยค่ะ ไม่เข้าใจเลยว่ามาทำไม สอนอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แฟนหนูน่ะฉลาดยังไม่เข้าใจ แล้วพวกเพื่อนไอคิวไม่ถึง60 พวกเนี้ยจะรู้เรื่องเหรอคะ ฮิฮิ"

 

 

"อ้าว ยายซินจะกวนบาทาก็กวนคนเดียวสิ ที่ อ.ฟางสุดสวยพูดข้ารู้เรื่องเว้ย// ที่ไม่รู้เรื่องก็คือพวกแก 2 คนไปคบกันตอนไหนมากกว่า แอ๊บเปล่าวะ // เออ ถ้าไม่รู้เรื่องก็ออกไปป่ะ ข้ากำลังฟัง อ.ฟางเพลินๆ"

 

 

                ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างพูดอะไรออกมาสักนิด สายตายังคงจ้องมองไปที่เขา น้องชายข้างบ้านที่เธอรู้ดีว่าเป็นมากกว่านั้น ผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอ กับผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน หน้าตาสะสวย หุ่นดี ยังเด็ก ... คงพูดจาน่าฟังกว่ายายป้าอย่างเธออยู่มากโข ชายหนุ่มยังคงมองตรงมาที่เธอเช่นกัน สายตานั้นดูสับสนปนหวาดระแวง แต่ยังแฝงมาด้วยความเหนือกว่า ตัวเองคิดคำโกหก ควงผู้หญิงคนอื่น การกระทำแบบนี้ ยังทำสีหน้าเหมือนเป็นผู้ชนะแบบนั้นได้อย่างไร ไม่เข้าใจสักนิด

 

'นายหมีดำคนซื่อบื้อ ที่หลงรักแต่เพียงยายกระต่ายป่าคนนั้นอยู่ที่ไหนกันนะ'

 

 

"แหว่ะ สวยตาย ป๊อบไปกันเถอะค่ะ นะคะๆ"

 

"...................."

 

"เห้ย เชี่ยป๊อบ ไปไหนของมันวะ?"

 

.

"นศ.ดูต่อนะคะ............" เจ็บเหลือเกิน เมื่อเห็นเขาเดินออกไปพร้อมกับ นศ.สาวสวยคนนั้น ร่างกายคล้ายจะไร้เรี่ยวแรง สบตาคมที่สั่นไหวของคนด้านบนอีกครั้งก่อนแผ่นหลังกว้างจะพ้นจากประตูหนีไฟทางด้านข้างออกไป แล้วหันกลับมาถือไมค์ ปรับเสียงให้ไม่สั่นไหวไปตามความรู้สึกของหัวใจแล้วเริ่มบรรยายตามเนื้อหา กลืนความเศร้าลงคอแล้วหันกลับไปทำหน้าที่อีก 2 ช.ม.กว่าๆให้เสร็จสิ้น

 

                ไม่รู้ว่าเธอเผชิญอยู่กับความจริงไหม ถ้าเป็นความจริงก็ไม่คิดว่าจะผ่านมันไปได้อย่างดีเช่นไร ดีที่สุดอาจพ้นช่วงเวลานี้ไปนั้นเธอก็แค่หยุดพักผ่อนสักสองสามวันเพื่อระบายความทุกข์ทั้งหลายให้จมไปกับวันเวลา หรือถ้าที่เป็นเพียงความฝันก็ขอให้ตื่นจากฝันที่แสนโหดร้ายนี้เสียที เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน เจ็บตรงหัวใจจนเกินจะทานทนอีกต่อไปแล้วจริงๆ

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

.

.

"คิดจะทำอะไร จะมาเย้ยกันถึงที่นี่เลยเหรอไงฮะ!"

 

                คำพูดแรกหลังจากออกมาสงบสติอารมณ์ด้านนอกห้องเรียนของตัวเองเอ่ยขึ้นเมื่อคนสุดท้ายเดินพ้นออกมาจากประตูบานใหญ่ ใช่ เขาไม่ได้ไปไหน หลังจากโดนเพื่อน นศ. ที่แม้แต่ชื่อเข้ายังไม่เคยคิดจะจำ ลากออกมาจากคลาสเรียนของ อ.ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของเขาเข้ามาสอนแทน บอกปัดว่ามีธุระไม่ได้คิดจะไปต่อที่ไหน และต้องรอเพื่อนร่วมห้องที่ยังเรียนอยู่ข้างใน สาวเจ้าก็กระฟัดกระเฟียดแล้วเดินจากไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก  ไอท่าทางแบบนั้น มันจะน่ารักเฉพาะเมื่อมันอยู่กับยายกระต่ายเน่าเท่านั้นแหล่ะ

 

                สองชั่วโมงที่นั่งฟังการบรรยายหวานๆที่แสนจะเข้าใจง่ายอยู่ข้างนอก ทั้งโกรธทั้งสับสน ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับหัวใจตัวเองเช่นไร ถามว่าโกรธมากไหมที่เห็นคนรักออกไปกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้า ตอบได้ว่าโกรธมาก แต่ถึงกับเกลียดไหม ตอบได้ว่าไม่เคยรู้สึกแบบนั้นสักครั้งในชีวิตนี้ แต่กลับรู้สึกน้อยใจว่าตนเองไร้ค่าพอที่จะให้คนน่ารักพูดความจริง คนน่ารักเปลี่ยนหัวใจจากเขาไปแล้วใช่ไหม? ถึงได้ไปกับคนอื่นแล้วเลือกที่จะโกหกเขา ปกปิดความผิดของตัวเอง หรือเป็นเขาเองที่ปิดหูปิดตาไม่ฟังอะไรให้ดีเสียก่อน

 

'ถ้าเรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเข้าใจล่ะ?'

 

 

แต่ก็กลัว กลัวว่าเรื่องทั้งหมดนั้น เขาเข้าใจถูกต้อง ถึงยังไม่อยากเจอหน้าคนสวยใจดำในตอนนี้ ยังไม่อยากถูกบอกเลิก ยังอยากให้ความสัมพันธ์ของเรายังคงอยู่แบบนี้ จะให้หัวใจเจ็บแค่ไหนเขาก็ทนได้ แค่คนน่ารักจะยังไม่ไปไหน จะยื้อเขาไว้ด้วยถ้อยคำโกหกก็ตามที เขาต้องยอมรับมันได้ในสักวัน แต่ก็ไม่รู้ทำไม ทั้งที่คิดว่ายอมรับได้แบบนั้น แต่ปากมันก็พาลหาเรื่องไปเสียทุกที ...

 

 

.

.

"พูดอะไรของเธอ ออกมาตั้งนานแล้วทำไมไม่กลับบ้านมานั่งอยู่หน้าห้องทำไม... อ้อ ลืมไปเธอออกมากับแฟนนิ่ ไม่ไปต่อกันข้างนอกแต่กลับมานั่งหงอยหน้าห้องแล็กเชอร์แบบนี้ แฟนจะพอใจเร้อ?" พูดออกไปแบบไม่ได้ผ่านทั้งสมองและหัวใจออกมา แค่อยากจะพูดอะไรก็ได้ใส่หน้าคนใจร้าย ที่ทำให้เธอเจ็บแทบบ้าถึงสองวัน ....ไม่ทนแล้ว อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด ถ้าป๊อบปี้จะเลิกรักเธอแล้วก็คงต้องยอมรับ รับไม่ได้ก็ไม่สน จะทนเป็นคนโง่ให้คนใจร้ายทำลายหัวใจด้วยการกระทำและคำพูด โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเธอผิดอะไรแบบนี้ ไม่ทน ไม่สนอีกต่อไปแล้ว  เชิดหน้าเรียวเผชิญหน้ากับคนตัวโตกว่าแล้วตอบกลับไป  แอบหวั่นใจกับสายตาที่ถูกส่งกลับมา มองไม่ออกเลยว่าคนตัวโตกว่าคิดอะไรอยู่ รู้สึกเหมือนมีกำแพงบางๆมากั้นขวางความรู้สึกดีๆที่เราเคยมีต่อกันในวันที่ผ่านมา แล้วดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

.


.

 

"แฟนฉันเข้าใจอะไรง่ายๆน่ะ ไม่ชอบโกหกหลอกลวง"

 

.

.

" ป๊อบ................."

.

.

.

........................................................................................................................................................To be con.

 

...ปิดเทอมแล้ว *O*พี่จะไม่ได้ใช้เน็ตค่ะ ขออนุญาตหายไปสัก1เดือนนะคะ [ปกติก็ทำตัวแบบนี้นี่ยัยป้า!!]
ไม่ได้ทิ้งนะคะ หวังว่ายังจะมีกำลังใจรอพี่อยู่บ้าง สัญญาว่าจะไม่หายไปนานๆเหมือนที่ผ่านมาค่ะ
พอดีเป็นช่วงงานเยอะจริงๆ เดือนนึงที่หายไปนี้คงได้มีเวลาอยู่กับฟิคมากขึ้น  เจอกัน
1 พ.ย. นะคะ ^___^...

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ
^__^~

 

เรื่องสั้นเรื่อง คาปูชิโน่  ภาค 2 แก้วที่ 4

 

 

"วิชาอะไรนะคะ ออกแบบโมเดล...อืม ฟางจะดูให้ค่ะ 11123 ใช่ไหมคะ?"

 

"อ.ฟาง T_T ขอบคุณที่สุดในโลกเลยค่ะ!!! เดี๋ยวหวายยกเอกสารตามไปนะคะ"

.

.

"เอ่อ....ป๊อบปี้ ที่ตรงนี้ว่างหรือเปล่า?"

 

"อือ"

 

"งั้น ซินนั่งด้วยนะ ฮิฮิ แกเร็วๆมานั่งตรงนี้ หนุ่มๆเค้าว่าง อิอิ"

 

.

.

.

.

"ป้าหวายมา ' ไมอ่ะ? อ.หนมจีนล่ะ หิว....เอ้ย! คิดถึงจะแย่ อุตส่าห์ลากตัวเองจากที่นอนมาเลยนะเนี่ย!!!" เหลือบตาคมขึ้นมามองตามเสียงเรียกของเพื่อนในคลาสถึงการมาของ อ.ร่างอวบคนสวยที่ทำหน้าที่ดูแล นศ.ทุกชั้นปี เมื่อยังไม่เห็นถึงการมาของ อ.ประจำวิชาจึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะแลกเชอร์ดังเดิม เครื่องปรับอากาศเย็นๆกับห้องโถงกว้างๆที่มีลักษณะสโลบเป็นขั้นบันไดของคณะ ทำให้ทั้ง อ.และ นศ.ประสานสายตากันอย่างง่ายดาย ไม่สามารถหลบหลีกได้ แต่ในเวลาแบบนี้เขาไม่สนว่าใครจะมองอย่างไร แม้กระทั้งคนที่คอยกวนใจอยู่ข้างๆนี่ก็ด้วย

 

 

...... 'นี่ๆ ป๊อบปี้อย่าพึ่งหลับสิ มาคุยกับซินก่อน น้าๆๆๆๆ' ......เฮอะ น่ารำคาญชะมัด

 

 

"อ.หนมจีนเข้าเลท ต้องทำโทษเว้ย วันนี้ ' จารย์ต้องไปทานข้าวกับพวกผมนะคร้าบ ฮ่าๆๆๆๆ"

 

"มาพนันกันดีกว่า ว่าวันนี้  อ.หนมจีนของข้า จะใส่กระโปรงน่ารักหรือกางเกงสุดเซ็กซี่มา"

 

"อ.หนมจีนของเอ็ง พ่องสิ!! อ.หนมจีนของพวกเราเว้ย !! // ข้าว่ากระโปรงว่ะ // ข้าว่ากางเกงนะ" สูดหายใจเข้าลึกๆเมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้าห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ปี1ทั้งชั้นปีที่มีจำนวนมากกว่า นศ.คณะเธอเกือบๆ 5 เท่าแบบนี้ ก่อนจะถูกเชิญให้เข้าไปในสนามรบ ก็ได้ยินเสียงน่ารัก(?) ของ นศ. ที่มีความปรารถนาจะเจอ อ.ประจำวิชาอย่างแรงกล้า 'จะโดนฆ่าตายไหม อยากรู้แค่นี้?' แค่วันนี้ทั้งวันไม่มีเรียน เฉพาะเจาะจง 3 ช.ม.ที่เวลา 2 ทุ่ม - 5 ทุ่ม กับวิชานี้ วิชาของ อ.ขนมจีนวิชาเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ นศ. เฟรชชี่ที่ระบุเพศได้ว่าเป็นเพศชายเกือบ 100 % ถ้าไม่ติดมีสาวแท้ และสาวเทียมอีกไม่ถึง 0.8 %

 

 

'ความตั้งใจสูงกันขนาดนี้ ถ้าไม่อยากตายก็อย่าหาเรื่อง อันไหนยากก็ข้ามแม่ง ทำให้เด็กๆเข้าใจง่ายๆเข้าไว้ ;_______; ตายแน่ๆ'

 

ก่อนที่สมองจะมโน[คิดเอง]ไปไกลมากกว่านี้ อ.ร่างอวบก็จัดการเด็กๆทั้งห้องให้เงียบ แล้วกลับมาสนใจตัวเอง และตัวเธอที่กำลังจะได้เผชิญหน้ากับรุ่นโหดฮาร์ดคอร์แห่งปี ถ้า อ.หวายจะดุขนาดนี้ สอนเองง่ายกว่าไหม ไหนบอกว่ากลัวไงคะ?

 

 

 

"นี่ๆ หยุดความคิดบ้าบอของพวกนายได้แล้วฟังนะ !!  .... เอ่อ วันนี้ อ.ขนมจีนป่วยกะทันหันอ่ะ    แต่!!....หุบปากก่อน อ.มีตัวแทน ทำตัวดีๆล่ะ อ.ท่านมาจากคณะอื่น อย่าสร้างปัญหาเด็ดขาดเข้าใจ๋? แค่นี้นะ บาย" พูดจบแค่นั้น อ.ร่างอวบก็เดินออกมาที่ประตูแล้วส่งยิ้มหวานให้เธอ พร้อมกับชูกำปั้นข้างขวาขึ้นมาแล้วพูดคำว่า 'ไฟท์ติ้ง' เบาๆ พร้อมกับเดินจากไปแบบไม่แม้แต่จะหันมามองอีกเลย......

 

 

"ไม่เข้าใจ จะเรียนกับ อ.หนมจีนเว้ย!!! // เอาคนสวยเราคืนมาๆๆๆๆ // ไม่เรียนเว้ยกลับๆๆๆ"

 

                เด็กๆส่งเสียงโวยวายกันลั่นห้อง โดนไม่สนใจเลยว่า อ.ของตัวเองได้เดินจากไปนานแล้ว ไม่มีทางที่จะได้ยินคำบอกกล่าวของพวกเขาแน่ๆ ก่อนจะก้มจัดกระโปรงให้เข้าที่แล้วยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ และลากตัวเองมายังใจกลางห้องสโลปของตึกวิศวะ 'ในชีวิตไม่เคยต้องข่มขืนใจตัวเองขนาดนี้เลย เวลามาสอน นี่เรากลัวสอนเด็กพวกนี้ไม่ได้ หรือกลัวใจตัวเองจะต้องเจอใครบางคนกันแน่นะ' ในระหว่างที่เดินทางมายังห้องสอน ในใจลึกๆก็ยังตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่ ถ้าเธอเจอหน้าป๊อบตอนนี้ เธอจะทำอย่างไร ในฐานะพี่สาวกับน้องชายข้างบ้าน ที่บังเอิญมาขออยู่ด้วยช่วงปี 1 เท่านั้น .... ความสัมพันธ์ที่เปิดเผยไม่ได้แบบนี้

               

                ซ้ำเจ้าตัวดียังหนีออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้  จะมองหน้ากันอย่างไร .... ตามหาทั้งวันกลับไม่เจอ มาเจอในชั่วโมงที่ตัวเองมาช่วยสอนแบบนี้ ในเวลาแบบนี้ ในสถานที่แบบนี้ คนโกหกจะทำอย่างไร .... คงต้องเก็บความคิดไม่เข้าทีของตัวเองพับไว้ในซอกเล็กๆของใจช้ำๆก่อน [เริ่มเน่าอ่ะ : แก้วใจ]  เพราะตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับนักศึกษาเกือบครึ่งพัน  ที่เตรียมจะปากระดาษ สมุดโน๊ต ปากกา ดินสอ ฯลฯ ลงมาหน้าคลาสเรียนเพื่อประท้วง

 

'ยิ้มไว้ธนัชพร ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก' ปั้นหน้ายิ้มหวานที่สุดในโลกเท่าที่ตัวเองจะทำได้ออกมา [ฉากนี้ลำบากไปไหม เยอะไปนะ : แก้วใจ] แล้วส่งไปให้ นศ.ทั้งคลาส ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่ดูจะทำให้ตัวเองรอดชีวิตในวันนี้ออกมา พร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่นเพื่อย้ำในคำพูดของตัวเอง ว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

 

 

 

"ขอโทษนะคะ อาจารย์เข้าใจว่าทุกคนตั้งใจมาเรียน และอาจารย์จะพยายามเต็มที่ให้เราได้รับความรู้อย่างที่สมควรจะได้รับ ฝากเนื้อฝากตัวสัก 3 ชม.ต่อจากนี้นะคะ อ.ธนัชพร ค่ะ เรียกสั้นๆ อ.ฟางนะคะ"

 

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

                โลกแทบหยุดหมุน ไม่ใช่เพราะ อ.ประจำวิชาโดดสอน แต่เพียงแค่เห็นร่างเล็กๆของคนน่ารักที่กำลังยืนแนะนำตัวเองอยู่หน้าคลาสเรียน แม้เขาจะไม่ได้นั่งหน้า ออกจะเป็นเด็กหลังห้องเพราะไม่ใช่เด็กมาเช้า แต่ในเวลานี้เขากลับเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่สูงเพียงแค่ไหล่ของเขา สวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน มีระบายลูกไม้เล็กๆแบบที่เจ้าตัวชอบ ชุดที่คนน่ารักออกแบบและเย็บเองกับมือที่ห้องทำงานส่วนตัวในคอนโด คอนโดที่มีเขาอยู่ด้วย .... อยู่ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน  ไม่จำเป็นต้องนั่งหน้า แค่เห็นเงาเท่านั้น เขามั่นใจว่าจำได้

 

                เผลอลุกขึ้นนั่ง หลังพิงกับเบาะที่เขายังไม่เคยได้ใช้งานตั้งแต่เข้ามาในห้อง ลอบกลืนน้ำลายจนรู้สึกว่ามันแห้งผาก ตกใจ ? ดีใจ ? เสียใจ หรือน้อยใจ .... เขาไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่ารู้สึกเช่นไร รู้แต่ว่ามันโหยหา รอยยิ้มน่ารักที่มักมีให้เข้าอยู่เสมอตั้งแต่เด็กๆ ความห่วงหาอาทร ความเอาใจใส่และเป็นห่วงเป็นใยจนเกินพอดีของคนน่ารักคนนั้น คิดถึง....คิดถึงที่สุด

 

.

.

"เด็กที่ไหนวะ// แมร่ง...สวยว่ะ // อ.จะมาแทน อ.หนมจีนตลอดไปหรือเปล่าครับ? // อ.เข้าเลทต้องไปทานข้าวกับผมด้วยน้า // อ.อายุเท่าไหร่อ่ะครับ 18 หรือเปล่า เราจะได้รุ่นเดียวกัน ฯลฯ"

 

 

"ชิส์ หน้าตาก็บ้านๆ ไม่รู้จะแซวเว่อร์อะไรนักหนา ใช่ป่ะป๊อบ"

"................"

 

               

                เพียงข้ามคืนที่ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้คุยกัน กับอีกหนึ่งวันที่ชีวิตของเขาขาดความสดใส ไม่เคยเลยสักครั้งที่มาเรียนด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวอย่างวันนี้  คิดถึง คิดถึงกระต่ายน้อยจริงๆ .... เขาไม่เคยยึดติดกับเพื่อนมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ตั้งแต่ตอนที่ปีนรั้วข้ามมาหาคุณยายข้างบ้านเพื่อมาเล่นด้วย ตั้งแต่วันนั้นตอน ม.ต้น วันที่ได้เจอกับยายกระต่ายป่า เขาก็ไม่เคยเอาตัวเองไปยึดติดกับใครอีกเลย นอกจากผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีอิทธิพลกับหัวใจของเขาที่สุด

 

 

 

"นักศึกษาคะ เปิดเอกสารหมายเลข......."

 

.

.

.

"ไม่เห็นเข้าใจเลย พูดใหม่อีกทีดิ้?" ทั้งที่ในใจร่ำร้องอยากเดินเข้าไปหาที่หน้าชั้น แต่ปากกับขัดคำสั่งของหัวใจแล้วทำตามเจ้านายอย่างสมองแทน สมองบอกเพียงว่า เขาเจ็บเพราะใคร และเขาโกรธผู้หญิงคนนี้แค่ไหน ..... จงเลือกทำตามสมองมากกว่าคำเรียกร้องของหัวใจซะ ชีวิตจะได้ดำเนินต่อไปจะได้เลิกเจ็บเลิกโกรธอีก เอามือเท้าคางยันไว้กับโต๊ะแล็กเชอร์ พูดจาไม่รื่นหูคนสวยออกมาอย่างไร้อารมณ์ สายตรงมองตรงไปยังเป้าหมายที่ยืนบรรยายอยู่กลางห้องด้วยท่าทางน่ารัก ท่าทาง คำพูด และสายตาที่เขาไม่ชอบ !! ไม่ชอบให้ทำกับคนอื่น สายตาแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น คำพูดแบบนั้น มันควรจะเป็นของเขา ของเขา ของเขา ฮึ่ย!!!

 

.

.

"ใช่ หนูกับแฟนไม่เข้าใจอ่ะค่ะ อ.ช่วยพูดใหม่อีกทีสิคะ"

.

.

 

"เรื่องไหนคะที่ว่าไม่เข้าใจ? "  เงยหน้าขึ้นไปมอง นศ.ที่นั่งแทบจะหลังห้อง ด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะสั้นบวกกับคอนแท็กเลนส์ที่ผ่านการร้องไห้มาระยะหนึ่ง ทำให้มองไม่ถนัด เห็นเพียงชายหญิงสองคนที่นั่งข้างๆกัน พูดขึ้นมาแทบจะพร้อมๆกัน ในเรื่องที่แสนจะง่ายที่สุดในโลก

 

                แต่สายตาเจ้ากรรมที่มันกับเลือกที่จะชัดตอนสายตาคมของอีกคนทอดมองลงมา สายตานั้นเธอจำได้ดี สายตาที่เธอได้เห็นทุกครั้งตอนตื่นนอน และก่อนหลับตาฝัน สายตาที่มาพร้อมกับการสอนประสานที่เอวคอดทุกๆเช้าหน้าเตาขนมปังปิ้งไหม้ๆ สายตาที่แทบจะหลอมละลายให้ใบหน้าใสร้อนผ่าวและกลายเป็นไอได้ในเวลาเดียวกัน สายตาของคนรัก คนรักที่แสนคิดถึง เพียงข้ามวันที่เจ้าหมีของเธอหายตัวไป ยิ่งหายิ่งหาย พอหยุดหมีก็กลับเดินเข้ามาใกล้  แทบอยากจะวางไมค์แล้วเดินขึ้นไปหา ใจนึงก็อยากถามให้หายข้องใจ ที่หายไปทำไมต้องโกหก ใจนึงก็เพียงแค่อยากซบกับอกกว้างเหมือนทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยล้า คำโกหกมากมายแค่ไหนก็ไม่สนใจทั้งนั้น แค่คนรักเดินกลับมาหาก็พร้อมจะให้อภัยทุกอย่าง แต่ทุกความคิดถูกปิดกั้นไปหมดเพียงเพราะคำเอื้อนเอ่ยของ นศ. หญิงหน้าตาสะสวยที่นั่งเคียงคู่กัน 

 

'ฟะ แฟน....เหรอ แฟน?'

.

.

 

"ตั้งแต่ อ.เริ่มเข้ามาเนี่ยค่ะ ไม่เข้าใจเลยว่ามาทำไม สอนอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แฟนหนูน่ะฉลาดยังไม่เข้าใจ แล้วพวกเพื่อนไอคิวไม่ถึง60 พวกเนี้ยจะรู้เรื่องเหรอคะ ฮิฮิ"

 

 

"อ้าว ยายซินจะกวนบาทาก็กวนคนเดียวสิ ที่ อ.ฟางสุดสวยพูดข้ารู้เรื่องเว้ย// ที่ไม่รู้เรื่องก็คือพวกแก 2 คนไปคบกันตอนไหนมากกว่า แอ๊บเปล่าวะ // เออ ถ้าไม่รู้เรื่องก็ออกไปป่ะ ข้ากำลังฟัง อ.ฟางเพลินๆ"

 

 

                ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างพูดอะไรออกมาสักนิด สายตายังคงจ้องมองไปที่เขา น้องชายข้างบ้านที่เธอรู้ดีว่าเป็นมากกว่านั้น ผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอ กับผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน หน้าตาสะสวย หุ่นดี ยังเด็ก ... คงพูดจาน่าฟังกว่ายายป้าอย่างเธออยู่มากโข ชายหนุ่มยังคงมองตรงมาที่เธอเช่นกัน สายตานั้นดูสับสนปนหวาดระแวง แต่ยังแฝงมาด้วยความเหนือกว่า ตัวเองคิดคำโกหก ควงผู้หญิงคนอื่น การกระทำแบบนี้ ยังทำสีหน้าเหมือนเป็นผู้ชนะแบบนั้นได้อย่างไร ไม่เข้าใจสักนิด

 

'นายหมีดำคนซื่อบื้อ ที่หลงรักแต่เพียงยายกระต่ายป่าคนนั้นอยู่ที่ไหนกันนะ'

 

 

"แหว่ะ สวยตาย ป๊อบไปกันเถอะค่ะ นะคะๆ"

 

"...................."

 

"เห้ย เชี่ยป๊อบ ไปไหนของมันวะ?"

 

.

"นศ.ดูต่อนะคะ............" เจ็บเหลือเกิน เมื่อเห็นเขาเดินออกไปพร้อมกับ นศ.สาวสวยคนนั้น ร่างกายคล้ายจะไร้เรี่ยวแรง สบตาคมที่สั่นไหวของคนด้านบนอีกครั้งก่อนแผ่นหลังกว้างจะพ้นจากประตูหนีไฟทางด้านข้างออกไป แล้วหันกลับมาถือไมค์ ปรับเสียงให้ไม่สั่นไหวไปตามความรู้สึกของหัวใจแล้วเริ่มบรรยายตามเนื้อหา กลืนความเศร้าลงคอแล้วหันกลับไปทำหน้าที่อีก 2 ช.ม.กว่าๆให้เสร็จสิ้น

 

                ไม่รู้ว่าเธอเผชิญอยู่กับความจริงไหม ถ้าเป็นความจริงก็ไม่คิดว่าจะผ่านมันไปได้อย่างดีเช่นไร ดีที่สุดอาจพ้นช่วงเวลานี้ไปนั้นเธอก็แค่หยุดพักผ่อนสักสองสามวันเพื่อระบายความทุกข์ทั้งหลายให้จมไปกับวันเวลา หรือถ้าที่เป็นเพียงความฝันก็ขอให้ตื่นจากฝันที่แสนโหดร้ายนี้เสียที เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน เจ็บตรงหัวใจจนเกินจะทานทนอีกต่อไปแล้วจริงๆ

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

.

.

"คิดจะทำอะไร จะมาเย้ยกันถึงที่นี่เลยเหรอไงฮะ!"

 

                คำพูดแรกหลังจากออกมาสงบสติอารมณ์ด้านนอกห้องเรียนของตัวเองเอ่ยขึ้นเมื่อคนสุดท้ายเดินพ้นออกมาจากประตูบานใหญ่ ใช่ เขาไม่ได้ไปไหน หลังจากโดนเพื่อน นศ. ที่แม้แต่ชื่อเข้ายังไม่เคยคิดจะจำ ลากออกมาจากคลาสเรียนของ อ.ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของเขาเข้ามาสอนแทน บอกปัดว่ามีธุระไม่ได้คิดจะไปต่อที่ไหน และต้องรอเพื่อนร่วมห้องที่ยังเรียนอยู่ข้างใน สาวเจ้าก็กระฟัดกระเฟียดแล้วเดินจากไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก  ไอท่าทางแบบนั้น มันจะน่ารักเฉพาะเมื่อมันอยู่กับยายกระต่ายเน่าเท่านั้นแหล่ะ

 

                สองชั่วโมงที่นั่งฟังการบรรยายหวานๆที่แสนจะเข้าใจง่ายอยู่ข้างนอก ทั้งโกรธทั้งสับสน ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับหัวใจตัวเองเช่นไร ถามว่าโกรธมากไหมที่เห็นคนรักออกไปกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้า ตอบได้ว่าโกรธมาก แต่ถึงกับเกลียดไหม ตอบได้ว่าไม่เคยรู้สึกแบบนั้นสักครั้งในชีวิตนี้ แต่กลับรู้สึกน้อยใจว่าตนเองไร้ค่าพอที่จะให้คนน่ารักพูดความจริง คนน่ารักเปลี่ยนหัวใจจากเขาไปแล้วใช่ไหม? ถึงได้ไปกับคนอื่นแล้วเลือกที่จะโกหกเขา ปกปิดความผิดของตัวเอง หรือเป็นเขาเองที่ปิดหูปิดตาไม่ฟังอะไรให้ดีเสียก่อน

 

'ถ้าเรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเข้าใจล่ะ?'

 

 

แต่ก็กลัว กลัวว่าเรื่องทั้งหมดนั้น เขาเข้าใจถูกต้อง ถึงยังไม่อยากเจอหน้าคนสวยใจดำในตอนนี้ ยังไม่อยากถูกบอกเลิก ยังอยากให้ความสัมพันธ์ของเรายังคงอยู่แบบนี้ จะให้หัวใจเจ็บแค่ไหนเขาก็ทนได้ แค่คนน่ารักจะยังไม่ไปไหน จะยื้อเขาไว้ด้วยถ้อยคำโกหกก็ตามที เขาต้องยอมรับมันได้ในสักวัน แต่ก็ไม่รู้ทำไม ทั้งที่คิดว่ายอมรับได้แบบนั้น แต่ปากมันก็พาลหาเรื่องไปเสียทุกที ...

 

 

.

.

"พูดอะไรของเธอ ออกมาตั้งนานแล้วทำไมไม่กลับบ้านมานั่งอยู่หน้าห้องทำไม... อ้อ ลืมไปเธอออกมากับแฟนนิ่ ไม่ไปต่อกันข้างนอกแต่กลับมานั่งหงอยหน้าห้องแล็กเชอร์แบบนี้ แฟนจะพอใจเร้อ?" พูดออกไปแบบไม่ได้ผ่านทั้งสมองและหัวใจออกมา แค่อยากจะพูดอะไรก็ได้ใส่หน้าคนใจร้าย ที่ทำให้เธอเจ็บแทบบ้าถึงสองวัน ....ไม่ทนแล้ว อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด ถ้าป๊อบปี้จะเลิกรักเธอแล้วก็คงต้องยอมรับ รับไม่ได้ก็ไม่สน จะทนเป็นคนโง่ให้คนใจร้ายทำลายหัวใจด้วยการกระทำและคำพูด โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเธอผิดอะไรแบบนี้ ไม่ทน ไม่สนอีกต่อไปแล้ว  เชิดหน้าเรียวเผชิญหน้ากับคนตัวโตกว่าแล้วตอบกลับไป  แอบหวั่นใจกับสายตาที่ถูกส่งกลับมา มองไม่ออกเลยว่าคนตัวโตกว่าคิดอะไรอยู่ รู้สึกเหมือนมีกำแพงบางๆมากั้นขวางความรู้สึกดีๆที่เราเคยมีต่อกันในวันที่ผ่านมา แล้วดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

.


.

 

"แฟนฉันเข้าใจอะไรง่ายๆน่ะ ไม่ชอบโกหกหลอกลวง"

 

.

.

" ป๊อบ................."

.

.

.

........................................................................................................................................................To be con.

 

...ปิดเทอมแล้ว *O*พี่จะไม่ได้ใช้เน็ตค่ะ ขออนุญาตหายไปสัก1เดือนนะคะ [ปกติก็ทำตัวแบบนี้นี่ยัยป้า!!]
ไม่ได้ทิ้งนะคะ หวังว่ายังจะมีกำลังใจรอพี่อยู่บ้าง สัญญาว่าจะไม่หายไปนานๆเหมือนที่ผ่านมาค่ะ
พอดีเป็นช่วงงานเยอะจริงๆ เดือนนึงที่หายไปนี้คงได้มีเวลาอยู่กับฟิคมากขึ้น  เจอกัน
1 พ.ย. นะคะ ^___^...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา