รอยรัก รอยบาป
เขียนโดย TKRLov€lวoร์
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.36 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2556 10.05 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
17)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“หนูแก้วทำหนูถึงทำอย่างนี้กับคุณพ่อ! หนูก็รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้ คุณพ่อท่านจะเสียใจ” คุณหญิงที่เดินไปส่งเจ้าพระยาก็ขึ้นมาคุยกับลูกสาว
“ก็หนูแก้วเคยเรียนให้คุณแม่ฟังแล้วนิค่ะ ว่าหนูแก้วเองก็เสียใจ แต่หนูแก้วไม่อาจทำใจให้เข้าใกล้ท่านได้อ่ะ!” หนูแก้วอธิบายให้คุณหญิงฟังอีกรอบเพราะเธอเองก็เคยเล่าให้แม่ฟังแล้ว
“เป็นความผิดของแม่เอง”
“ไม่ใช่นะค่ะ ไม่เกี่ยวกับคุณแม่เลยนะค่ะ”
“เกี่ยวสิ!เป็นความผิดของแม่ ที่แม่ไปเล่าเรื่องราวสมัยก่อนให้ลูกฟังเรื่องพ่อกับผู้หญิงเหล่านั้น ทำให้ลูกต้องเกลียดคุณพ่อ”
“ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ ไม่เกี่ยวกับคุณแม่เลยค่ะมันเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวหนูแก้วเอง แล้วเมื่อคืนหนูก็ฝันถึงฟางด้วย”
“ห๊ะ” คุณหญิงพิมตกใจที่หนูแก้วพูดชื่อฟางออกมา
“แล้วในความฝันหนูก็ยังรู้สึกได้ด้วยนะค่ะว่าหนูเป็นคนเดียวกับฟาง ฟางเป็นคู่รักของเควินพ่อของนายโทโมะ”
“ไม่! ไม่จริง”
“ค่ะคุณแม่หนูรู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้ แต่หนูก็ยังสงสัยว่าเพราะอะไรหนูถึงต้องฝันเช่นนั้นนะค่ะ”
“เพราะนังมด นังมดมันพูดกรอกหูหนูว่าหนูคือฟางหนูก็เลยคิดว่าตัวเองคือฟาง มันเป็นเรื่องเหลวไหลรู้ไหมหนูแก้ว! มันเป็นเรื่องเหลวไหลนะลูก มันเป็นเรื่องเหลวไหลจริงๆนะลูก” คุณหญิงพิมจับแขนหนูแก้วแล้วเขย่าพร้อมพร่ำบอกว่าเป็นเรื่องเหลวไหล
“ไม่ใช่ค่ะแม่!! มันไม่ใช่เรื่อเหลวไหล” หนูแก้วสะบัดมือคุณหญิงออกแล้วตะโกนว่าไม่ใช่เรื่องเหลวไหล
“หนูแก้ว!”
“คะ คือ ค่ะ คือมันเป็นแค่เรื่องเหลวไหล นิแต่หลายวันมานี้หนูแก้วไม่ยักเห็นป้ามดเลย คุณแม่ห้ามไม่ให้ป้ามดมาเพล้นพล่านแถวนี้เหรอค่ะ” หนูแก้วเอ่ยปากถามหามดเพราะช่วงนี้เธอไม่เห็นมดแถวนี้เลย
“ไม่นิ! แม่จะไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับมัน”
“เอ้า! แล้วป้ามดหายหน้าหายตาไปไหนอ่ะค่ะ”
“หนูแก้ว! มันเป็นคนบ้านะ อย่าไปยุ่งกับมันเลย”
“หนูแก้วก็แค่แปลกใจอ่ะคะ เพราะถ้าปกติเดินลงไปที่สวนก็จะต้องเห็นป้ามดแต่นี้หายหน้าหายตาไปไหน ยิ่งอยากคุยกับป้าอยู่ด้วย” หนูแก้วพูดจบก็เดินลงจากเรือนเพื่อจะไปตามหามด
“นี้หนูแก้ว! หนูแก้ว หนูแก้ว หนูแก้วลูกหยุดเดี๋ยวนี้นะ” คุณหญิงเดินตามหนูแก้วลงมาเพื่อจะห้ามไม่ให้ลูกตามหามด
“ป้ามด! ป้ามดค่ะ!!”
“หนูแก้ว หนูแก้ว!” คุณหญิงวิ่งมาดักหน้าลูกสาว “แม่บอกลูกแล้วไงอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านะลูก”
“แต่หนูแก้วอยากคุยกับป้ามดค่ะ”
“หนูแก้ว ไปยุ่งเกี่ยวกับคนบ้าเดี๋ยววจะบ้าตามไปด้วยนะลูก” หนูแก้วได้ยินดังนั้นก็สะบัดมือคุณหญิงออกแล้วก็สถบเสียงขึ้นว่า
“ตอนนี้ลูกก็ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าหรอกค่ะ ในสมองหนูมันมีแต่เรื่องราวอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ฝันแปลกๆ เดี๋ยวก็รู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าในตัวหนูมีใครอีกคนหนึ่งอ่ะ! คือหนูแก้ว หนูแก้วอยากคุยกับป้ามด หนูแก้วอยากรู้ว่าทำไมป้ามดถึงมั่นใจหนักว่าหนูคือฟาง เหมือนอย่างที่หนูกำลังรู้สึก!”
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้วหนูแก้ว มันไม่เป็นความจริงเลยนะลูก” หวายที่ผ่านมาก็ยื่นแอบฟังในสิ่งที่คุณหญิงกับหนูแก้วคุยกัน
“ไม่ใช่ค่ะคุณแม่! เมื่อก่อนหนูก็เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหลแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วค่ะ ในสมองหนูมันมีแต่ความระหวัดหวั่นพึง ว้าวุ่นนี้หนูไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไรกันแน่!”
“หนูแก้วหยุดเอะนะลูก แม่ขอร้องหยุดนะลูกนะ” คุณหญิงเอื้อมมือมาจับแขนของลูกสาวและอ้อนวอนให้ลูกสาวหยุด
“ไม่ค่ะถึงหนูจะหยุดแต่ในใจหนูมันไม่ยอมหยุดมันมีแต่คำถามว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับหนูเนี่ยะมันคืออะไร คุณแม่เข้าใจไหมค่ะ หนูแก้วอยากคุยกับป้ามด หนูยิ้มอยากคุยกับป้ามด” หนูแก้วจับแขนของคุณหญิงแล้วเขย่าอย่างแรงแล้วผละออก แล้ววิ่งหนีออกไปเพื่อตามหามดทันที
“หนูแก้ว หนูแก้ว!!” คุณหญิงที่กำลังเดินไปแต่สายตาก็เหลือบไปเห็นหวายที่ยืนแอบฟังอยู่ “นังหวาย!! มานี่”
“ตายแน่นังหวาย! ตายแน่ๆเลย เออะ คุณหญิงมีอะไรให้หวายรับใช้เหรอเจ้าค่ะ” คุณหญิงก็จับผมของหวายและดึงขึ้นให้มองหน้า “โอ้ย!”
“เอ็งอวดดีมากนะ ที่มาแอบฟังข้า”
“ป่าวนะเจ้าค่ะ หวายป่าวนะเจ้าค่ะ” หวายยกมือไหว้คุณหญิงเพื่อขอความเมตตา
“ป่าวอะไร ข้าเห็นอยู่กับตาสารแนหนักถ้าทางเอ็งคงไม่อยากตายดี!!” คุณหญิงพิมพลักหวายแล้วก็ตบหน้าหวาย เพี๊ยะ!
“โอ้ย! หวายกลัวแล้วเจ้าค่ะคุณหญิงอย่าทำหวายเลยนะเจ้าค่ะ ให้อภัยหวายด้วยเถอะนะเจ้าค่ะ หวายสัญญาว่าต่อไปนี้หวายจะดูแลคุณหนูแก้วไม่ให้ไปยุ่งกับนังมดเด็ดขาดเลยเจ้าค่ะ”
“ห๊ะ! นี้เอ็งเห็นนังมดอย่างนั้นรึ!”
“ป่าวเจ้าค่ะ หลายวันมานี้มันหายหน้าไปไหนก็ไม่รู้คุณหญิงเห็นมันรึเจ้าค่ะ”
“หึ! จะไปเห็นมันได้ยังไงในเมื่อมัน…..”
“มันทำไมหรือเจ้าค่ะ!”
“ยุ่ง!! ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง! ถ้าเห็นนังมดเมื่อไหร่ให้รีบมาบอกข้า!!เข้าใจมั้ย”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะถ้าเช่นนั้นวันๆหวายคงต้องวิ่งไปบอกคุณหญิงหลายทีเพราะปกตินังมดมันก็เดินบ้าไปบ้ามาอยู่แถวนี้ละเจ้าค่ะ”
“หึ คงไม่ได้มาหลายทีหรอก เพราะว่านังมด…”
“มันทำไมหรือเจ้าค่ะ?”
“ข้าบอกแล้วใช่ไหม! ว่าอย่ามาสารแนจำเอาไว้นะเจอนังมดเมื่อไหร่ มาบอกข้า!”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ” คุณหญิงก็เดินสะบัดหน้าเข้าเรือนใหญ่ไปทันทีทิ้งให้หวายนั่งอยู่อย่างนั้น “ทำไมคุณหญิงพูดเหมือนรู้ว่านังมดไปไหนอย่างนั้นละ” หวายเมื่อได้ความดังนั้นก็วิ่งกับเรือนและไปเล้าให้พุดซ้อนผู้เป็นแม่ฟัง!
“นี่จะบ้าหรือนังหวาย! คุณหญิงท่านจะรู้ได้อย่างไรว่ามดไปไหน”
“นั้นสิ! ยิ่งท่าทางของทันยิ่งแปลกเหมือนจะหลุดพูดออกมาก็ไม่พูด”
“สูรู้!!” พุดซ้อนพูดเหน็บลูกสาวอย่างหวาย
“เอ่อ! ฉันยอมรับว่าฉันสูรู้สอดรู้สอดเห็น แต่มันน่าสงสัยจริงๆนิแม่ทั้งคุณหญิงทั้งคุณหนูแก้วมีท่าทางแปลกๆ โดยเฉพาะคุณหนูแก้วเธอหลุดปากออกมาว่าในตัวเธอเหมือนมีใครอีกคน”
“เห้ย! เอ็งหมายความว่าผีสิงคุณหนูแก้วหรือนังหวาย!”
“หือ!ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่คุณหนูแก้วเธอว่าอย่างนั้น อ่อคุณหนูแก้วเธอบอกอีกว่าเธอฝันถึงนังฟาง! นังฟางนี้มันใครกันนะแม่”
“เฮ้ยย!! เฮ้อ! แต่ว่าเท่าที่ข้าเคยรู้มาเนี่ยนะรู้สึกว่าฟางเนี่ยจะเป็นเมียน้อยอีกคนหนึ่งของท่านเจ้าคุณเนี่ยละ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณหนูแก้วละแม่”
“หึ้ยยย!! ข้าจะไปรู้รึ”
“ถ้าเช่นนั้นมันต้องมีอะไรซ้อนอยู่แน่ๆคุณหญิงถึงสั่งห้ามไม่ให้คุณหนูแก้วไม่ให้ไปคุยกับป้ามดเรื่องนังฟางและก็สั่งฉันให้ตามไปดูถ้าเห็นป้ามดเมื่อไหร่ให้รีบไปเรียนท่านทันที แม่! แม่ว่ามันจะมีเรื่องอะไรอ่ะ”
“เอ้ยยย ข้าไม่รู้ อย่าสอดเรื่องเจ้านายหนักนะเอ็งนะ ท่านสั่งให้เอ็งไปทำอะไรเอ็งก็ไปทำเถอะไป!!!”
“ฉันทำแน่! และฉันก็ต้องรู้ด้วยว่าพวกเจ้านายท่านมีเรื่องอะไรกัน!” หวายพูดจบก็เดินออกไปทันที
“นั่งลูกคนนี้นะ จิ๊!”
ตกค่ำหวายก็เดินย่องๆแอบมาที่เรือนของเควินและแบมเพื่อสืบเรื่องราวต่างๆ ในเรือนแบมและเฟยก็กำลังดูอาการของมดโทโมะที่นั่งคิดเรื่องที่เกิดขึ้นก้นั่งจ้องหน้าพ่อกับแม่อย่างเควินและแบมไม่ละสายตาจนทั้งคู่สงสัย
“โทโมะเลิกทำมึนตึงกับพ่อแม่สักที” เควินตำหนิลูกชายเล็กน้อย
“เฮ้ออ ผมขอโทษครับ”
“ลูกอาจจะโกรธแต่ลูกต้องเชื่อนะว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ปิดบังอะไร เรื่องบางเรื่องให้มันตายไปกับตัวเองจะดีที่สุด”แบมเอ่ยขึ้น
“ใช่ครับ ถ้าเรื่องนั้นไม่มีใครรู้ แต่นี้มันมีบางอย่างแย้มพลายออกมาแล้วจะให้ผมวางเฉยผมทำไม่ได้หรอกครับ”
“โทโมะ พี่รู้ว่าโทโมะนะหวังดีแล้วก็เป็นห่วงพ่อกับแม่แต่การที่โทโมะจะมาคลาดคันเอาแบบนี้พี่เห็นว่ามันไม่สมควร”
“โทโมะเมื่อถึงเวลาพ่อจะบอกลูกเอง”
“แต่ผม!” จู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากข้างนอกทำให้ทุกคนในบ้านหันไปมอง
“มีคนมา” จากนั้นแควินและแบมก็ลุกออกจากบ้านมาดูทิ้งให้โทโมะกับเฟย์นำตัวมดไปซ้อนหวายที่เห็นว่าสองคนนั้นออกมาแล้วก็รีบวิ่งขึ้นเรือนเพื่อแอบขึ้นไปดูข้างในทันทีทีเปิดประตูหวายก็มองไปรอบ!
“เห้ย! หวาย” โทโมะตกใจ”
“พี่โทโมะ” หวายที่กำลังจะวิ่งเข้าใส่แต่โทโมะก็หลบทันที “ว๊ายยยย!! โอ้ย พี่โทโมะแกล้งหวายอ่ะ”
“แกล้งอะไรจู่ๆหวายก็ทะเล้อทะล่าเข้ามาในบ้านพี่เองอ่ะ”
“เฮ้อ! ลุกขึ้นเร็ว” เฟย์เอื้อมมือไปให้หวายจับเพื่อลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรหวายลุกเองได้!!” พร้อมกับปัดมือเฟย์ออก
“ก็ดีพี่จะได้ไม่ต้องไปล้างมือ”
“นี่พี่เฟย์ว่าหวายสกปรกรึ”
“ก็ดูมือเราสิ” จากนั้นหวายก็มองที่มือของตัวเอง จนกระทั่งแบมกะเควินเดินขึ้นมา
“นี่มันอะไรกันอ่ะหวาย ท่าทางลับๆลอๆแอบเข้ามาในบ้านป้าทำไม?” แบมเอ่ยปากถามหวาย
“ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วเข้ามาทำไม?” เควินเอ่ยถาม
“นั้นนะสิทำราวยังกับอยากรู้อยากเห็นอะไรอย่างนั้นละ”
“ป่าวนะป้าแบมหวายเพียงแต่…คิดถึงอยากเห็นหน้าพี่โทโมะ”
“ตายแล้วหวาย เป็นสาวเป็นแส่พูดจาแบบนี้ได้อย่างไร” เฟย์เอ่ยตำหนิหวาย
“ก็ท่าไม่ให้หวายคิดถึงพี่โทโมะหวายคิดถึงคุณเขื่อนก็ได้!!”
“โอ้ย! พูดจาเพ้อเจ้อเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้วกลับบ้านไปได้แล้วไป ไป!!” โทโมะเดินเข้าไปลากหวายและดันหวายลงจากเรือน
“โอ้ยพี่โทโมะ”
“กลับบ้านไปได้แล้วไป”
“พี่โทโมะปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“กลับบ้านไปได้แล้ว” แต่หวายก็ยังดิ้นอยู่ “บอกให้กลับบ้านไง!”
“โอ้ย! โอ้ยมันจะเป็นลมอ่ะขออยู่กับพี่โทโมะนะ” แต่โทโมะก็หลบไปอีกทางนึงจนทำให้หวายล้มไปกองกับพื้น “พี่โทโมะแกล้งหวายอีกแล้วนะ!!”
“ก็ใครบอกให้หวายแกล้งพี่ก่อนละ ไปกลับบ้านไปได้แล้ว หรือจะให้พี่ไปตามป้าพุดซ้อนมา”
“ไม่เห็นจะกลัวเลย!”
“เด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันเนี่ย เห็นผู้ใหญ่เป็นหัวหลักหัวตอ” แบมเอ่ย
“กลับบ้านไปได้แล้วไป!!” เควินเอ่ยไล่หวาย
“แต่หวาย!! หวายอยากอยู่ที่นี้ก่อนอ่ะ หวายอยากอยู่กับพี่โทโมะอีกสักพักหนึ่งอ่ะ”
“โทโมะเกลียดหนักละคนพูดยากเนี่ย!” เฟย์เอ่ย
“เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้า” โทโมะพูดใส่หน้าหวาย
“ถ้าอยากจะอยู่ให้พี่โทโมะเกลียดก็ตามใจนะ”
“พี่โทโมะ”
“กลับบ้านไปได้แล้ว”
“อ๊ายยยย! กลับก็ได้!!” จากนั้นหวายก็เดินสะบัดหน้ากลับไปทันที
“เข้าบ้านกันเถอะจ๊ะโทโมะ!” เฟย์เอ่ยชวนน้องชายเข้าบ้านโทโมะก็พยักหน้าเดินตามพี่สาวเข้าบ้านไป
“หวายมาที่บ้านเรามัน้องมีอะไรแน่ๆเลยจ๊ะพี่เควิน! ฉันว่าเราพาพี่มดหลบไปอยู่ที่อื่นก่อนดีกว่านะพี่”
“อื้ม” แต่ระหว่างที่ทั้ง2คุยกันโทโมะก็ได้ยืนแอบฟังอยู่
เช้าวันใหม่เควินแบมโทโมะและเฟย์พามดที่นอนป่วยไม่ได้สติมาบ้านของต่วน
“เฟย์ โทโมะ ออกไปรอแม่ข้างนอกนะลูกแม่มีเรื่องจะคุยกับป้าต่วนนะ” ทั้ง 2 จึงเดินออกไปแต่โดยไม่มีเถียงสักคำ
“พี่ต่วนฉันฝากที่มดด้วยนะจ๊ะพี่คิดซะว่าเอาบุญ”
“นี่คุณหญิงพิมยังไม่เลิกจองเวรจองกรรมมันอีกหรือ!”
“จ๊ะพี่ ที่มันเจ็บปางตายคราวเนี้ย! ฉันกับแม่แบมก็คิดว่าเป็นฝีมือคุณหญิงพิมตามเคย”
“อะไร! ได้เป็นถึงคุณหญิงยังไม่เปลี่ยนแปลงนิสัยอาฆาตพยาบาทมันอีกแย่จริงๆ”
“คนแบบไหนก็แบบนั้นและพี่มันเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ง่ายๆหรอก ที่โบราณเขาว่าไว้สันดรนะขุดง่าย แต่สันดารขุดยาก” เควินอธิบาย
“เฮ้อ! เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้วจะผูกใจเจ็บไปทำไม ตอนนี้ท่านเจ้าคุณก็ไม่ได้ยุ่งกับนังมดมันแล้วไม่ใช่หรือ”
“แต่คราวนี้ไม่ใช่เรื่องหึงหวงนะสิพี่”
“เออ ว่าแต่ว่าคุณหญิงท่านโกรธนังมดมันเรื่องอะไร”
“พี่มดไปเรียกคุณหนูแก้วว่าฟางจ๊ะพี่” แบมเอ่ยบอกต่วนและนั้นทำให้ต่วนตกใจมาก
“อะไรนะ!! นังมดเรียกคุณหนูแก้วว่าฟาง!!” และนั้นทำให้โทโมะกับเฟย์ที่ยืนรออยู่แอบสงสัยเรียกน้อย
“พี่ต่วน! พี่ต่วนรับปากฉันก็เบาใจ ฉันกลับก่อนนะจ๊ะพี่”
“เออ”
“เฟย์ โทโมะ มาลาป้าก่อนลูก” เควินตะโกนเรียกลูกให้เข้ามาเพื่อลากลับบ้านทั้งสองก็เดินเข้ามาลาต่วนกลับบ้าน
หน้าบ้านเควินแบม
โทโมะจึงเปิดประเด็นคุยเรื่องที่เควินและแบมคุยเรื่องคุณหนูแก้วให้ต่วนฟัง และยังเล่าเรื่องที่ตนได้ยินคุณหนูแก้วละเมอเรียกพ่อของตัวเองให้ฟัง แต่แบมกับเควินก็ปฎิเสธว่ามันไม่มีอะไร แต่นั้นก็ไม่ทำให้โทโมะเชื่อ เขาจงก็หาหลักฐานโดยจากขึ้นไปบนเรือนใหญ่! โดยมีเฟย์ตามไปด้วย ก่อนที่จะขึ้นไปเฟย์ขอให้โทโมะสัญญากับตนเองว่าเรื่องนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะทำแบบนี้ และนั้นโทโมะก็รับปากกับพี่สาว แต่แล้วเฟย์ก็โดยจับได้เพราะว่าเข้าไปในห้องหนูแก้วและถือดอกปีปเอาไว้
“นังเฟย์!! แกกล้าดียังไงมาขโมยดอกปีปของฉันห๊ะ!!”
“ป่าวนะค่ะเฟย์ไม่ได้ขโมย”
“แล้วแกถือดอกปีปของฉันอยู่ทำไม!! ห๊ะ!” หนูแก้วไม่ว่าป่าวซ้ำยังตบเฟย์จนล้มลง
“เฟย์ขอโทษค่ะ นี้ค่ะดอกปีปของคุณหนู!” เฟย์ยื่นดอกปีปคืนให้แต่หนูแก้วด้วยแรงอาฆาตที่มีต่อแบมนั้นเลยทำให้หนูแก้วเหวี่ยงใส่เฟย์จนดอกปีปหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น
“แกคิดว่าแกคืนดอกปีปให้ฉันแล้วเรื่องมันจะจบอย่างนั้นนะเหรอห๊ะ!! แกคิดผิดแล้วนังเฟย์ใครที่กล้ามาขโมยของของฉันมันจะต้องเจอแบบนี้โดยเฉพาะแกที่เป็นลูกของนังแบม!!” ว่าแล้วหนูแก้วก็ตบที่ใบหน้าของเฟย์อีกครั้ง เสียงเอ๊ะอะโวยวายทำให้บ่างในบ้านขึ้นมาดูพร้อมกับคุณหญิงพิม
“นังเฟย์เอ็งเข้ามาทำอะไรในบ้านของข้า!! อ่อนังแบมแม่ของแกมันสั่งให้แกมาใช่ม๊ะ!!”
“ป่าวนะเจ้าค่ะ”
“หึ้ย! แล้วแกจะเข้ามาที่นี้ทำไมห๊ะนังเฟย์!! ตอบฉันมาสิแกเข้ามาที่นี้ทำไม!! ” แต่เฟย์ไม่มีทีท่าว่าจะตอบจนหนูแก้วเริ่มโมโห
“ท่าทางแกนี้จะไม่มีปากไว้กินน้ำพริกนะ เอ่หรือว่าจะให้กินน้ำพริกทาจมูกดีค่ะคุณแม่!” หนูแก้วหันมาทางคุณหญิงพิม และคำพูดนั้นทำให้คุณหญิงตกใจมากเพราะมันเหมือนกับฟางที่เคยทำแบบนั้น แต่หนูแก้วเองก็ไม่สนใจสั่งให้หวายไปเอาน้ำพริกมา หวายไปเอาน้ำพริกอย่างว่าง่าย แต่พุดซ้อนที่อยากจะห้ามเรื่องจึงรีบวิ่งไปหาเจ้าพระยาและเล่าเรื่องราวทั้งหมด เจ้าพระยาจึงรีบขึ้นไปที่เรือนใหญ่ทันทีเป็นจังหวะเดียวกับที่โทโมะกำลังนั่งดูว่าเจ้าพระยาทำอะไรจึงรีบวิ่งตามไปทันที
“หยุดเดียวนี้หนูแก้ว!!” นั้นทำให้หนูแก้วนั้นไปมองโดยที่ถือถ่วยน้ำพริกไว้อีกมือ
“พี่เฟย์”
“โทโมะ!” เฟย์รีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายของตัวเองทันที
“นี้พวกแกกล้าขึ้นมาบนนี้ทั้ง 2 คนเลยเหรอ? หึ ไอ้พวกขี้ขโมย” หนูแก้วโวยใส่ทั้งคู่
“พวกมันขโมยอะไร” เจ้าพระยาเลยหันมาถามหนูแก้ว
“ก็..” หนูแก้วที่กำลังจะบอกแต่ถูกขัดโดยคุณหญิง
“สร้อยทองของลูกคะคุณพี่”
“คุณแม่!!” คุณหญิงจึงหันมามองหน้าหนูแก้ว นั้นทำให้หนูแก้วสลดหน้าลงไปทันที
“ป่าวนะเจ้าค่ะ/ขอรับ!” เฟย์และโทโมะปฎิเสธ
“ป่าวอะไร? อย่ามาทำปากแข็งอีกบ่าวไพร่ในบ้านเป็นพยานได้นะ ใช่ไหมนังหวาย พุดซ้อน ไอ้มั่น!!” แต่อาการของหนูแก้วที่แปลกไปเพราะว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย
“เจ้าค่ะ พี่เฟย์ขึ้นมาขโมยของ” หวายเสริมขึ้น
“ป่าวนะ”
“ว่าไงพุดซ้อน ไอ้มั่น!” เจ้าพระยาจึงหันไปถามพุดซ้อนและมั่นอีกครั้ง
“อิฉันไม่เห็นเจ้าค่ะ/กระผมก็ไม่เห็นขอรับ!”
“กระผมขอยืนยันได้ว่าพี่เฟย์ไม่เคยขโมยของของใคร”
“แต่มันเข้ามาขโมยดอกปีบของฉัน!!” หนูแก้วชี้หน้าเฟย์แลนั้นทำให้คุณหยิงหันมามองหน้าหนูแก้วรวมถึงท่านเจ้าคุณด้วย
“ป่าวนะเจ้าค่ะ อิฉันไม่ได้ขโมย” เฟย์ปฎิเสธจำเธอนั้นร้องไห้ออกมาเพราะเธอไม่ได้คิดจะขโมยดอกปีบนั้นจริงๆ
“ก็ฉันเห็นอยู่กับตายังจะมาเถียงอีก ปากแข็งหนักนะแกอะออกไปเลย!” หนูแก้วโมโหจนไล่ทั้งคู่ให้ออกจากเรือนไปทันที
เรือนเควินแบม
เฟย์และโทโมะที่กลับมาจากเรือนใหญ่ก็พูดคุยกันเฟย์คิดว่าท่านเจ้าคุณกับหนูแก้วทำไมชังใจร้ายและทำไมถึงคิดว่าตัวเองถึงจ้องที่จะขโมยของทั้งๆที่มันไม่จริงซะหน่อย โทโมะก็อธิบายให้เฟย์เข้าใจว่าหนูแก้วจริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้นและเรื่องที่เกิดขึ้นมันต้องมีส่วนเกี่ยวข้างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน แต่เควินและแบมที่ผ่านมาก็ปฎิเสธว่ามันไม่มีอะไรจริงๆแต่โทโมะก็ไม่เชื่อเหมือนเดิมและยังคงยืนยันว่าจะสืบเรื่องราวนี้ต่อไปนั้นเองทำให้แบมยิ่งเคลียดหนักและกลัวความจริงที่เฟย์เป็นลูกของท่านเจ้าคุณจะเปิดเผยขึ้น!
เรือนใหญ่เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหญิงพิมเรียกหวายมาคุยและถามเรื่องของมดหวายจึงตอบไปตามความจริงที่ตัวเองเห็นว่ามดไม่อยู่และหายไปแล้วนั้นหนูแก้วยืนแอบฟังอยู่ซึ่งเธอไม่เคยรำคาญมดเลยแต่เธอกลับอยากคุยกับมดมากที่สุด
เช้าวันใหม่หนูแก้วซึ่งตื่นมาทำบุญในตอนแล้วและตัวเองก็ไปนั่งเล่นที่ต้นปีปเหมือนทุกวันคุณหญิงพิมจึงเดินไปดูและคิดเข้าข้างตัวเองว่าหนูแก้วกับฟางไม่มีวันที่จะเป็นคนคนเดียวกันได้ อีกด้านหนึ่งในรั่วบ้านของท่านเจ้าคุณเฟย์ที่กำลังตัดใบตองไปทำขนมโดยมีเขื่อนไปช่วยด้วย ซึ่งหวายที่เดินผ่านมาเห็นเข้าก็รู้สึกอิจฉาตาร้อนจึงรีบวิ่งไปพร้อมจินนี่ที่อยู่เรือนเล็กนั้นทำให้จินนี่โกรธมากจึงรีบไปที่ดงกล้วยทันทีและดุด่าว่าเฟย์ที่ทำตัวอ่อยเขื่อนและลากเขื่อนกลับมาที่บ้านทันที นั้นเองทำให้หวายซะใจที่ตัวเองทำให้เฟย์ถูกดุด่าจากจินนี่
ตกค่ำเรือนเควินแบมเฟย์นั่งเมอลอยอยู่คนเดียวหน้าบ้าน
“พี่เฟย์ยังคิดมากเรื่องคุณเขื่อนอยู่ใช่ไหมครับ”
“อื้ม พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณจินนี่จะต้องดูถูกพี่ด้วยอ่ะ”
“อย่าคิดมากเลยครัยพี่เฟย์ คนห่วงลูกชายก็แบบนี้ละครับ”
“แต่พี่กับคุณเขื่อนไม่เคยมีอะไรกันนะ และพี่ก็ไม่เคยคิดอย่างนั้นกับคุณเขื่อนด้วย”
“ผมรู่ครับพี่เฟย์ ในเมื่อเราห้ามความคิดของคนอื่นไม่ได้แล้วพี่เฟย์จะมานั่งกลุ้มใจให้ปวดหัวทำไมละครับ”
“แต่พี่เป็นห่วงคุณเขื่อนแล้วที่สำคัญพี่อายพี่ไม่อยากให้ใครมาว่าพี่ได้”
“ไม่มีใครห้ามการนินทาใครได้หรอกครับพี่เฟย์ อย่ากังวลไปเลยนะครับ”
“แต่พี่ไม่สบายใจเลยแล้วก็ไม่เข้าใจด้วยทำไมจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับพี่”
“ทุกคนมีวิธีกรรมที่ต่างกันครับ อย่าคิดมากเลยนะครับ ^^ ใช่ว่าพี่เฟย์จะทุกข์อยู่คนเดียวซะเมื่อไหร่ละ” (พ่อคุณธรรมะธรรมโมจังนะค่ะป๊า/Bonus)
เช้าวันใหม่ที่เรือนใหญ่ คุณหญิงพิมนั่งร้อยมาลัยที่เรื่อนใหญ่สักพักหนูแก้วก็ถือดอกปีบดเดินมาเรียกคุณหญิงพิมทำให้คุณหญิงตกใจจนเข็มร้อยมาลัยแทงเข้าที่มือหนูแก้วจึงวิ่งมาดูผู้เป็นแม่แต่ด้วยความกลัวคุณหญิงจึงตกใจนึกว่าฟางมาจับมือเธอและเธอจึงไล่ให้หนูแก้วไปเปลี่ยนชุดแถมยังขว้างดอกปีบที่เธอทั้งรักทั้งห่วงอีกนั้นทำให้เธอโกรธมาก
“ไม่ค่ะ!! ถ้าคุณแม่ไม่บอกเหตุผลหนูแก้วจะไม่มีวันเปลี่ยนชุดเด็ดขาด!!” คุณหญิงพิมสะมผัสได้ถึงแรงอาฆาตของฟางและนั้นไม่ใช่สิ่งที่หนูแก้วพูดอย่างแน่นอน จึงลุกและเดินหนีไปเพราะความกลัวทันที
“คุณแม่!!” หนูแก้วหันมองตามคนที่เดินออกไป
จบตอนแล้ว!! เค้าฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยน๊ารีดเดอร์ที่รัก!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ