สาเหตุของเข่าบวม เกิดจากอะไร ข้อระวังต้องทำอย่างไร
ปัจจุบันเทรนการออกกำลังได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยทำให้เกิดการเข้าสังคม รวมทั้งส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้น แต่บางท่านที่เกิดการบาดเจ็บจากในบริเวณข้อเข่ามักจะคิดว่า คงไม่มีอะไรมากนัก จนกว่าจะเกิดอาการปวดเข่า เข่าบวมน้ำ มีอาการปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติได้ จนต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อให้ท่านได้สามารถสังเกตอาการที่ส่งผลให้เข่าบวมน้ำหรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น วันนี้เรามาศึกษาข้อมูลเพื่อป้องกันเข่าบวมกันเถอะ
ข้อเข่าบวมน้ำ
เข่าบวมน้ำ เป็นลักษณะอาการของความผิดปกติอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นกับโครงสร้างภายในของข้อเข่า จะสังเกตได้อย่างชัดเจนในบริเวณข้อเข่าด้านในใกล้ๆลูกสะบ้า โดยจะมีน้ำดันออกมาจนดูบวมใหญ่ขึ้นจนด้วยคล้ายเข่าบวมน้ำนั้นเอง
เข่าบวมเกิดจากสาเหตุใด
ข้อเข่าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของร่างกาย เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของข้อเข่า เมื่อเกิดอันตรายต่อบริเวณข้อเข่า หรือเกิดการอักเสบของโครงบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะทำให้เข่ากระตุ้นให้เยื่อหุ้มข้อสร้างสารน้ำขึ้นมาปกป้องตนเอง เพื่อช่วยลดแรงกระแทกจากภายนอกจนไปสู่อาการเข่าบวมน้ำนั้นเอง โดยสามารถอธิบายสาเหตุใหญ่ๆได้ดังนี้
- เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย อย่างเช่นข้อเข่าเสื่อมจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- เกิดจากเหตุระคายเคือง และการอักเสบจากโรค ซึ่งมีส่วนทำให้เข่าบวมน้ำได้ ดังเช่น โรคเกาท์ โรคซูโดเกาท์ โรครูมาตอยด์ และโรคพุ่มพวง (SLE) เป็นต้น
- กรณีเกิดอุบัติเหตุในบริเวณข้อเข่าจากเหตุขับขี่ รถล้ม หกล้ม อาจทำให้เข่าเกิดอาการบาดเจ็บ เนื้อเยื่อฉีกขาดที่กระทบต่อเนื้อเยื่อ / กล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าที่รุนแรงจนนำไปสู่อาการเข่าบวมได้นั้นเอง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเข่าบวมมีอะไรบ้าง
ปัจจัยเสี่ยงที่บ่งบอกถึงสาเหตุของเข่าบวม โดยท่านสามารถสำรวจอาการได้ด้วยตนเอง มีดังต่อไปนี้
- กรณีบาดเจ็บที่เข่า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหัวเข่าเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงโดยตรง รวมทั้งหัวเข่าเกิดผิดรูปจากอุบัติเหตุ ดังเช่นการลื่นล้ม อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา หรือกรณีเอ็นลูกสะบ้าอักเสบ เนื่องจากใช้งานบริเวณนั้นหนักเกินไปนั้นเอง
- กรณีถุงน้ำบริเวณเข่าบวม เช่น ถุงน้ำที่เอ็นประคองเข่า (Pes Anserinus bursitis) / ถุงน้ำหลังเข่าอักเสบ (Baker cyst) / ถุงน้ำบริเวณลูกสะบ้า (Prepatellar bursitis) เป็นต้น
- กรณีเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกเข่าเริ่มเสื่อมลง ส่งผลให้ให้ผลิตน้ำในเข่ามากขึ้น จนมีการเข่าบวมน้ำ
- กรณีเกิดติดเชื้อในหัวเข่า มีการติดเชื้อแบคทีเรียในหัวเข่า ทำให้มีหนองในบริเวณเข่าเป็นจำนวนมาก
- กรณีจากโรคที่เป็นอยู่เช่น โรคเกาต์(Gout) ซึ่งมักจะปวดเข่าในเวลากลางคืน
อาการต่างๆของข้อเข่าบวม
อาการเข่าบวมที่ท่านสามารถสังเกตได้นั้น จะมีด้วยดังเช่น มีอาการปวดเข่า ในขณะเดินขึ้น - ลง บันได พร้อมทั้งมีเสียงดังในบริเวณเข่า ทำให้งอเข่า หรือเหยียดเข่า ไม่ได้ หากปล่อยไว้จะบวมขึ้นเรื่อยๆ บางรายอาจจะต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถช่วยพยุงให้สามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง ในช่วงเวลากลางคืนมักจะนอนไม่หลับจากอาการปวดเข่า ถึงแม้จะรับประทานยาแก้ปวดแล้วแต่ไม่ดีขึ้นนั้นเอง
สาเหตุอาการของข้อเข่าบวมในผู้สูงอายุ
ข้อบ่งบอกข้อเข่าบวมในผู้สูงอายุ จะมักพบได้ด้วยอาการปวดเข่า มีลักษณะบวมแดง มักเข่าฝืด เวลาเดินจะมีเสียงในบริเวณเข่า ข้อเข่ามีข้อบ่งชี้ถึงความผิดรูปร่าง ขาโก่งออกได้ บางท่านมักมีปัญหาในการนั่ง ทั้งนั่งเก้าอี้ หรือแม้แต่การขึ้นลงบันไดได้อีกด้วย
โดยสาเหตุอาจจะมาจากกรณีอื่นได้เช่นกัน รวมทั้งสาเหตุจากการมีน้ำหนักตัวมากก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เข่ารับน้ำหนักเพิ่มในขณะก้าวเดิน จึงเกิดความเสื่อมสะสมในข้อเข่า รวมถึงสาเหตุที่เกิดจากรอยโรคที่เกี่ยวข้องกับข้อเข่า เช่นรูมาตอยด์ เป็นต้น
เข่าบวมเกิดจากโรคอะไรบ้าง
ข้อสังเกตที่ทำให้เกิดเข่าบวมได้นั้น บางรายอาจจะมาจากโรคที่เกิดขึ้นกับตนเอง จนทำให้เกิดอาการเข่าบวมดังกล่าวได้ ซึ่งบางท่านยังไม่ได้เคยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์หรือเข้ารับการตรวจสุขภาพ ท่านสามารถสังเกตจากโรคดังต่อไปนี้ เพื่อเข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อสามารถทำการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น
- โรคเข่าบวมน้ำ (Knee Effusion)
- โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)
- โรคหมอนรองข้อเข่าฉีกขาด (Meniscus Tear)
- โรคผิวสะบ้าอักเสบ (Chondromalacia Patellae)
- โรคเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด (Anterior Cruciate Ligament)
- โรคเก๊าท์ (Gout)
ข้อบ่งบอกอาการข้อเข่าบวมที่ควรพบแพทย์ทันที
ท่านสามารถสังเกตตนเอง หากมีอาการที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุ รวมทั้งช่วยบรรเทาความเจ็บปวดเข่าที่เกิดขึ้น ทั้งยังสามารถรู้ถึงต้นตอสาเหตุของอาการ และจะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกวิธีให้เร็วที่สุด ซึ่งมีสัญญาณเตือนดังต่อไปนี้
- เข่าบวม มีอาการปวดมาก ปวดเรื้อรัง จนไม่สามารถงอ - ยืดเข่าได้เลย จนส่งผลให้ไม่สามารถนั่งได้
- บริเวณเข่ามีรูปร่างผิดรูปไป จนไม่สามารถรับน้ำหนักของร่างกายได้
- เข่ามีรอยแดง จับแล้วรู้สึกอุ่นๆ ทั้งยังมีไข้ร่วมด้วย หรือหากรับประทานยาแก้ปวดแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น รวมถึงมีการปวดมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีรักษาข้อเข่าบวมทำอย่างไรบ้าง
1. การทำกายภาพบำบัด
: เป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้สามารถกลับมาใช้เข่าได้อย่างปกติ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเหมาะสมไม่ควรทำกายภาพด้วยตนเอง
2. การรักษาด้วยการใช้ยา
: เป็นวิธีรักษาด้วยยาทา หรือยารับประทาน จะช่วยบรรเทาอาการปวด บวมของเข่าลงได้ในผู้ที่มีอาการปวดไม่มาก แต่จะไม่สามารถรักษาที่ต้นเหตุของอาการที่เจ็บได้ ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ / เภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเอง
3. การรักษาด้วยการฉีดยา
: เป็นวิธีรักษาที่ใช้การฉีดยาเป็นประจำ เหมาะกับผู้ที่ปวดเข่าอย่างรุนแรงจนไม่สามารถขยับร่างกายได้ แต่ฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้ไม่นาน โดยแพทย์จะกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) และ คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เพื่อลดอาการปวดเข่านั้นเอง
4. การผ่าตัดข้อเข่า
: มักจะเป็นวิธีรักษาวิธีสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นๆได้ จะมีด้วยกัน 2 วิธีคือ
- วิธีผ่าตัดผ่านกล้อง (Arthroscopic Surgery) เป็นวิธีผ่าตัดด้วยอุปกรณ์ขนาดเล็ก สอดกล้องเข้าไป และทำการผ่าตัดบริเวณที่เป็นสาเหตุของความปวดนั้น
- วิธีผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Knee Replacement) เป็นการเปลี่ยนข้อเข่าที่เสื่อมสภาพให้เป็นข้อเข่าเทียมที่ทำจากวัสดุที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งมี 2 แบบ ดังนี้ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมทั้งหมด และผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมเฉพาะตำแหน่ง(ฝั่ง) โดยจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยรวมทั้งดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแลรักษานั้นเอง
แนวทางป้องกันเข่าบวมต้องทำอย่างไร
เพื่อให้แนวทางในการป้องกัน ลดความปวดของเข่า ที่จะส่งผลให้เข่ามีสุขภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน จนไม่เกิดอาการเข่าบวมเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งผลให้ข้อเข่าได้รับการปะทะที่รุนแรง หลีกเลี่ยงการยกของหนักเกินกว่าน้ำหนักของตนเอง ควรใช้เครื่องช่วยทุ่นแรงในการยก
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หากท่านใดที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ควรออกกำลังกายให้มีข้อเข่าไม่ได้รับภาระหนักมากเกินไป รวมถึงงดการยืนในระยะเวลานานๆ เพื่อช่วยให้เข่าได้พักเป็นระยะๆได้
- หากท่านใดมีที่โรคที่มีผลต่อการเกิดข้อเข่าบวม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
อาการเข่าบวม ควรประคบร้อนหรือประคบเย็นดีกว่า ?
การประคบร้อน
: ควรใช้ผ้าชุบน้ำร้อนไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส ไม่ต้องประคบนาน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง เพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดอาการปวดบวมแดง
การประคบเย็น
: จะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ลดความปวดบวมแดงในบริเวณหัวเข่าที่รู้สึกอุ่นๆ ควรประคบเย็นไม่เกิน 20 นาที แต่สามารถประคบเย็นห่างกันได้ทุก 1- 2 ชั่วโมงต่อครั้ง
สรุป
อาการเข่าบวม เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกท่าน โดยที่บางท่านอาจจะเกิดจากโรคที่เป็นอยู่ แต่บางท่านอาจจะเกิดจากสาเหตุที่ได้รับความรุนแรงจากเหตุกระแทกแรงๆ จนเกิดอักเสบขึ้นมา พร้อมทั้งทำให้เข่าบวมน้ำ หรือใช้งานไม่ได้อย่างปกติ หากท่านมีอาการเข่าบวมดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นในการเข้ารับการรักษาเฉพาะทางได้ที่ Samitivej Chinatown หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02 118 7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้