เลือก แก้วกาแฟ ให้เหมาะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่ม

nemophilanie

ขีดเขียนดีเด่น (262)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:355
เมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566 02.01 น.

กาแฟเป็นเครื่องดื่มเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะนอกจากรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผ่อนคลายและตื่นตัวแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า มีพลังในการทำงานได้ตลอดทั้งวัน ยิ่งหากได้ แก้วใส่กาแฟ ดี ๆ มาใช้คู่กันด้วยแล้วก็จะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟให้สุนทรีย์มากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น แก้วที่วางขายอยู่ในท้องตลาดก็มีมากมายนับไม่ถ้วน คำถามคือเราควรจะเลือกใช้แก้วแบบไหนให้เหมาะดี ซึ่งวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

แก้วกาแฟแบบเย็นและร้อนต่างกันอย่างไร?

          ถ้วยกาแฟ ที่วางขายอยู่ทั่วไปมีให้เลือกทั้งแบบสำหรับเครื่องดื่มเย็นและร้อน ไม่ควรนำมาใช้ปนกัน เพราะถึงแม้จะเป็นแก้วเหมือนกันแต่ความทนทานต่ออุณหภูมิแตกต่างกัน หากนำแก้วสำหรับเครื่องดื่มเย็นมาใช้กับเครื่องดื่มร้อนก็อาจทำให้แก้วเสียหายเพราะความร้อนได้ หรือหากนำแก้วแบบร้อนไปใส่เครื่องดื่มเย็นก็อาจทำให้แก้วเสียคุณสมบัติเก็บความร้อนได้เช่นกัน  นอกจากนี้แก้วแบบเย็นและแบบร้อนยังมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยแก้วแบบเย็นมักจะเป็นแก้วทรงสูง ความจุมาก ไม่มีหูจับ ส่วนใหญ่จะใช้งานคู่กับหลอด ส่วนแก้วแบบร้อนมักจะเป็นแก้วทรงเตี้ย ความจุน้อย มีหูจับเพื่อถือได้โดยไม่ร้อนมือ

 

เทคนิคการเลือกแก้วกาแฟให้เหมาะสม

          การเลือก ถ้วยกาแฟ ของ Nespresso ให้เหมาะกับเครื่องดื่มต่าง ๆ อย่างแรกควรพิจารณาจากขนาดและรูปทรงของแก้วเป็นสำคัญ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของแก้วได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้

  1. แก้วลองดริ๊งก์ (Long Drink Glass) แก้วทรงสูง ไม่มีหูจับ ลักษณะดูคล้ายแก้วน้ำดื่มทั่วไป แต่จะใส่น้ำได้มากเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะมีความจุราว 13 ออนซ์ สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นอย่างกาแฟเย็นหรือน้ำอัดลม
  2. แก้วมัก (Mug Cup) แก้วทรงสูงแบบมีหู ความจุ 12 ออนซ์ ถูกออกแบบมาให้จับถือได้ง่ายไม่ร้อนมือ ไม่ว่าจับที่แก้วโดยตรงหรือจับที่หูแก้ว ช่วยให้ยกดื่มง่าย ไม่หกเลอะ ก้นแก้วจะมีลักษณะแคบคล้ายคอขวด ปากแก้วกว้าง นิยมใช้เสิร์ฟกาแฟร้อน อย่างกาแฟดำ อเมริกาโน่ร้อน และลาเต้ร้อน
  3. แก้วเอสเพรสโซ่ (Espresso Cup) แก้วทรงเตี้ย มีหูจับ เส้นผ่านศูนย์กลางแก้วอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิเมตร จุเครื่องดื่มได้ไม่เกิน 3 ออนซ์ เพราะกาแฟเอสเพรสโซ่จะไม่เติมน้ำหรือนมเพิ่ม จึงมีปริมาณน้ำน้อย ปากแก้วจะมีความหนาพอดีกับริมฝีปาก ตัวแก้วมีคุณสมบัติเก็บความร้อนได้ดี
  4. แก้ว คาปูชิโน่ (Cappuccino Cup) แก้วขนาดกลาง ๆ ความจุ 6 – 8 ออนซ์ มีหูจับ ก้นแก้วจะมีลักษณะโค้งมน ปากแก้วกว้างเป็นพิเศษสำหรับวาดลายฟองนม ส่วนใหญ่เนื้อแก้วจะมีความหนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นความหนาที่ช่วยให้จิบกาแฟพร้อมฟองนมได้สะดวก นิยมใช้เสิร์ฟลาเต้ร้อนและ คาปูชิโน่ ร้อน

 

ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือก ถ้วยกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่ม ใครกำลังคิดที่จะเปิดร้านกาแฟควรให้ความสำคัญกับความเหมาะสมของภาชนะที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มพอ ๆ กับรสชาติของเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟ เพราะการเลือกแก้วให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับร้านได้อีกด้วย

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา