หน้าหมองคล้ำ ทำยังไงดี แจกเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส

wipadee_diary

เริ่มเข้าขีดเขียน (28)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:26
เมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 21.55 น.

โดนแดดทุกวันผิวคล้ำเสียขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา จะกลับมาดูแลผิวทีหลังก็แก้ความหมองคล้ำได้ไม่ทันการ ใครที่มีปัญหานี้อยู่แนะนำให้รู้จักกับวิธีลดความหมองคล้ำด้วยหัตถการผิวกระจ่างใส แต่ละวิธีจะเหมาะกับใคร รักษาปัญหาแบบใดได้บ้าง ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ผิวหน้าจะกลับมาหมองคล้ำอีกหรือไม่มาดูกัน


หน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร?

หน้าหมองคล้ำเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยมีปัจจัยหลัก 2 ประการได้แก่


การเสื่อมสภาพของผิว
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพ ความแข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวลดลง ส่งผลให้ผิวไวต่อมลภาวะทั้งแดด ฝุ่น และอากาศมากขึ้น ผิวแห้ง ตามมาด้วยความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ


พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำร้ายผิว
วิถีชีวิตที่เร่งรีบ ขาดการดูแลผิวก็สามารถกระทบต่อความหมองคล้ำได้ โดยเฉพาะการโดนแสงอาทิตย์บ่อยๆ โดยไม่มีการป้องกัน หรือการโดนแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงการพักผ่อนน้อย ขาดการดื่มน้ำ ความเครียด สูบบุหรี่ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น คอลลาเจนในผิวลดลง และไม่เกิดการฟื้นฟูซ่อมแซมตามธรรมชาติ


ผลเสียที่เกิดขึ้นจากหน้าหมองคล้ำ
ความหมองคล้ำไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่สร้างความกังวลให้กับผู้ที่เป็น รวมไปถึงส่งผลให้สภาพผิวอ่อนแอตามมาด้วยปัญหาผิวอื่นๆ ได้อีก ได้แก่

  • ทำให้ผิวขาดความแข็งแรง ผิวแห้งกร้าน และเป็นฝ้า กระ ได้ง่าย
  • ผิวบอบบางยิ่งขึ้น เกิดความคล้ำง่ายเมื่อโดนแดด
  • ผิวขาดความชุ่มชื้น เมื่อโดนมลภาวะแล้วผิวเสียง่ายขึ้น
  • เกิดอาการผิวลอก หรือแสบ คัน ได้ง่ายโดยเฉพาะตอนโดนแดด
  • ส่งผลให้ภาพรวมใบหน้าขาดออร่า ดูไม่มีราศี
  • ใบหน้าดูไม่สดใส ส่งผลให้ดูสูงวัยขึ้น
  • เหมือนคนอดนอน ทำให้ความประทับใจต่อผู้พบเห็นลดลง

 

อยากหน้าใส ลดความหมองคล้ำควรทำอย่างไร?

การดูแลใบหน้าให้กลับมากระจ่างใสสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยให้ความสำคัญกับการดูแลผิวมากขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ต้องการเร่งผลลัพธ์ความกระจ่างใสเลือกทำวิธีต่อไปนี้จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวได้เร็ว

1.ทานกลูต้า
กลูต้าที่อยู่ในรูปแบบเม็ด หรืออาหารเสริมประเภทวิตามินซีสามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนในผิว ปรับผิวให้กระจ่างใส รวมไปถึงสร้างสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มความกระจ่างใสเนื่องจากทำง่าย แต่ผลลัพธ์อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

2.ฉีดวิตามินผิว
นอกจากการกินวิตามินเพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสแล้วเลือกวิธีการฉีดวิตามินผิวก็จะช่วยให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นได้ไว วิตามินผิวจะมีเทคนิค 2 แบบ คือ การดริปผ่านสายน้ำเกลือหรือฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง หลังทำจะเห็นผลได้นาน 1 - 2 เดือน การทำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์จะช่วยให้ผลลัพธ์ความกระจ่างใสชัดเจนขึ้น

3.ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสเป็นตัวยาที่ได้จากสารบำรุงผิวคล้ายการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์แต่เปลี่ยนเป็นการฉีดเข้าสู่ผิวชั้นกลาง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์การบำรุงที่รวดเร็วขึ้น มีหลายสูตรให้เลือก เช่น สูตรหน้าขาวที่จะมีส่วนผสมของวิตามิน กลูต้าไธโอน และ Transmin ช่วยลดความหมองคล้ำ เห็นผลได้ไวภายใน 1 - 2 สัปดาห์หลังทำ

4.ฉีดมาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจนเป็นตัวยายี่ห้อหนึ่งของการฉีดเมโสหน้าใส ซึ่งเป็นสูตรที่เน้นขับสารพิษ กระตุ้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี ฟื้นฟูผิวให้กลับมากระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติ มีเทคนิคการฉีดแบบ 16 จุดตามตำแหน่งฝังเข็มเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองให้ขับสารพิษออกผ่านทางของเสีย

5.เลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์เป็นการใช้พลังงานจากลำแสงความเข้มข้นสูงมายับยั้งเม็ดสีเมลานินในผิวเพื่อปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น ปัจจุบันเลเซอร์ที่นิยมใช้เพื่อรักษาความหมองคล้ำคือ Dual Yellow Laser เพราะมีความอ่อนโยนสูง ผลข้างเคียงน้อย หลังทำสามารถแต่งหน้าได้เลย ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ปรับผิวให้สม่ำเสมอรวมทั้งลดรอยแดงรอยดำได้ดี

6.Hifu
Hifu เป็นการใช้เทคโนโลยี High Intensity Focus Ultrasound หรือคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อยกกระชับผิว เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิวโดยตรง ส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น มีการฟื้นฟูเซลล์ผิว ความหมองคล้ำจึงลดลง ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลหลังทำประมาณ 3 - 4 เดือน

7. Ulthera
Ulthera เป็นการยกกระชับผิวอีกแบบหนึ่ง ซึ่งใช้เทคโนโลยี High Intensity Focused Ultrasound กระตุ้นคอลลาเจนได้ถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกันกับการดึงหน้า ผิวจึงยกกระชับได้ดี เหมาะกับคนที่มีอายุ 30 ขึ้นไป เพิ่มความกระจ่างใสและเต่งตึงขึ้น คงผลลัพธ์ได้นาน 1 ปี

8.Thermarge
Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง หรือ Monopolar RF เพื่อยกกระชับผิว เกิดการสร้างคอลลาเจนและสลายไขมันส่วนเกินได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวหน้าเต่งตึง ดูกระจ่างใส และลดริ้วรอย ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานถึง 1 - 2 ปี

ดูแลหน้าให้ใสขึ้นด้วยหัตถการหลายแบบพร้อมกันได้ไหม?
สามารถทำหลายหัตถการพร้อมกันเพื่อช่วยลดความหมองคล้ำได้ ตามปกติคลินิกจะให้คำแนะนำวิธีแก้ที่ตรงกับปัญหาหรือสาเหตุความหมองคล้ำของคนไข้ หากความหมองคล้ำมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นเลือกทำวิธียกกระชับก็จะเห็นผลที่ดี หรือหากผิวคล้ำจากการพักผ่อนน้อย โดนแดด ก็จะเหมาะกับฉีดเมโสหน้าใส หรือเลเซอร์หน้าใส

 

ทำหัตถการหน้าใสแล้วจะกลับมาเกิดความคล้ำอีกไหม?
ความหมองคล้ำสามารถกลับมาได้เสมอเมื่อขาดการดูแลตัว หรือกลับไปทำพฤติกรรมทำร้ายผิวอย่างการโดนแสงอาทิตย์โดยไม่ได้ป้องกัน การดูแลผิวที่ดีจะช่วยคงสภาพความกระจ่างใสหลังทำหัตถการให้อยู่นานขึ้น

วิธีป้องกันหน้าหมองคล้ำ
เนื่องจากการทำหัตถการหน้าใสไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรแต่ผิวสามารถกลับไปคล้ำเสียได้ทุกเมื่อหากขาดการดูแลที่ดีพอ แนะนำให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้เพื่อป้องกันผิวหน้าหมองคล้ำ

  • รักษาความสะอาดของผิวหน้าให้ดี
  • ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำ
  • สครับผิว หรือผลัดเซลล์ผิว สัปดาห์ละครั้ง
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารบำรุงผิวอย่างผัก ผลไม้ คอลลาเจน และโปรตีน
  • ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงความเครียดที่กระทบต่อผิว
  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทำลายคอลลาเจนในผิวได้
  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำก่อนออกจากบ้าน


สรุป

ผิวหน้าหมองคล้ำมีที่มาจากหลายสาเหตุการเลือกวิธีรักษาก็ควรคำนึงถึงปัญหาของแต่ละบุคคล ข้อจำกัด และสาเหตุของความหมองคล้ำเพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้หัตถการความงามหรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ความกระจ่างใสเกิดขึ้นได้เร็วยิ่งขึ้น

ขอบคุณแหล่งที่มาและบทความจาก: 

https://www.gangnamconsult.com/dull-face-skin-tips/

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา