จัดฟันแบบโลหะ สร้างความมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพได้เต็มร้อย

การจัดฟันแบบโลหะ ถือว่าการเป็นการจัดฟันที่คนนิยมทำกันเยอะที่สุด ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เพราะการจัดฟันแบบโลหะ ช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง การสบฟันไม่ดี และราคาไม่แพงเหมือนการจัดฟันแบบอื่น

จัดฟันแบบโลหะ ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบ ให้เรียงตัวสวยเป็นระเบียบตามที่ต้องการ และยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียว การจัดฟันแบบโลหะยังถือเป็นแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นคนทั่วไปนิยมทำกัน

อยากจัดฟัน ดัดฟัน แต่กำลังลังเล การจัดฟันแบบโลหะจะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องใส่เหล็กจัดฟันมั้ย และจัดฟันแบบไหนจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เรามาเจาะลึกการจัดฟันแบบโลหะไปด้วยกันเลย

จัดฟันแบบโลหะ 

การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket) คือรูปแบบการจัดฟัน (Orthodontics) ประเภทที่มีเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน ใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน ทำให้การจัดฟันติดแน่น และต้องมีการปรับเครื่องมือทุก ๆ เดือน

การจัดฟันโลหะถือเป็นทันตกรรมเพื่อความงาม ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากการเรียงตัวของฟันไม่เหมาะสม ทำให้เกิดภาวะเช่น ฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง การสบฟันที่ไม่ดี รวมถึงความสัมพันธ์ของขากรรไกรฟัน ส่งผลให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร ขาดความมั่นใจในบุคลิกภาพ

ใครที่เหมาะกับการจัดฟันแบบโลหะ 

การจัดฟันแบบโลหะหรือจัดฟันเหล็ก สามารถทำได้ตั้งแต่วัยรุ่นจนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ ที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันไม่เหมาะสมหรือมีปัญหาการสบฟัน แต่แนะนำว่าสำหรับเด็กวัยรุ่น ควรจัดฟันโลหะเมื่อมีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว หรือเมื่อมีอายุประมาณ 11 - 13 ปี รวมทั้งนักเรียน นักศึกษาที่มีงบประมาณจัดฟันจำกัด และผู้ที่มีเวลาสามารถมาพบทันตแพทย์ได้บ่อย ๆ

เทคนิคการเลือกคลินิกจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันกับคลินิกจัดฟันเป็นเรื่องใกล้ตัวกับหลาย ๆ คน และการจัดฟันแบบโลหะ เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย เพราะเป็นการแก้ปัญหาฟัน เมื่อทำแล้วต้องได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน และปัจจุบันก็มีคลินิกมากมายให้เลือก แบบนี้เราจะเลือกคลินิกที่จะจัดฟันอย่างไรดี

วันนี้เรานำเทคนิคดี ๆ ที่จะมาเป็นตัวช่วยในการเลือกคลินิกจัดฟันโลหะที่ตรงใจ พร้อมกับเปลี่ยนรอยยิ้มของคุณให้สวยงาม มีสุขภาพฟันที่ดี ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

1. เลือกคลินิกทำฟันต้องได้มาตรฐานเท่านั้น

การจัดฟันแบบโลหะ เป็นการจัดฟันภายในช่องปากที่ต้องมีความสะอาดและปลอดภัยสูง ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรพิจารณา คือ คลินิกจัดฟันที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ให้บริการครบวงจร ชี้แจงราคาอย่างโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ว่า คลินิกนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนกระทรวงอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก

นอกจากนี้ เราควรจะพิจารณาจากความสะอาดภายในคลินิก เครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย ระบบปลอดเชื้อสะอาดตามมาตรฐานสากล ระบบเอ็กซเรย์แบบดิจิตอล และอื่น ๆ ประกอบด้วยเช่นกัน

2. ทันตแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันโดยเฉพาะ

ในการจัดฟันแบบโลหะ ควรเลือกทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน และมีการรับรองจากสมาคมจัดฟันแห่งประเทศไทย โดยได้รับวุฒิบัตร หรืออนุมัติบัตรจากทันตแพทยสภา เพื่อให้ทันตแพทย์มีความเชี่ยวชาญ และสามารถตรวจสอบประวัติทันตแพทย์ได้

3. ราคาจัดฟันต้องสมเหตุสมผล

งบประมาณก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจจัดฟันแบบโลหะ ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่คิดราคาสมเหตุสมผลเหมาะกับในแต่ละวิธีการหรือเครื่องมือที่ใช้ โดยอาจจะมีโปรโมชั่น หรือการผ่อนชำระแบ่งจ่าย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ และทำให้เราสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้

4. มีการติดตามผลหลังจัดฟันอย่างต่อเนื่อง

การจัดฟันแบบโลหะ จำเป็นจะต้องนัดพบทันตแพทย์ เพื่อติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ให้บริการดี มีพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ประจำที่คลินิก และสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำคนไข้ในเบื้องต้นได้

5. การเดินทางสะดวกสบาย

สถานที่ตั้งของคลินิกจัดฟันแบบโลหะควรอยู่ในบริเวณที่สามารถเดินทางไปกลับได้อย่างสะดวก เช่น อยู่ใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน และมีการคมนาคมที่สะดวก เพราะการจัดฟันแบบโลหะ ทำให้คนไข้ต้องเดินทางมาพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2 - 4 ปี โดยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

6. มีระบบการบริการที่ดี ติดต่อง่าย

นอกจากทันตแพทย์ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านจัดฟันแบบโลหะแล้ว พนักงานต้อนรับภายในคลินิกก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุณต้องพิจารณา เพราะบางครั้ง ในการนัดหมายเพื่อจัดฟันแบบโลหะ อาจจะต้องเลื่อนนัด ดังนั้น การติดต่อคลินิกที่ง่ายและสะดวก รวดเร็ว จึงเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม

7. เลือกคลินิกที่หมอจัดฟันไม่ใช่หมอเวียน / หมอประจำอยู่ที่คลินิก

ในบางคลินิกไม่ได้มีทันตแพทย์จัดฟันแบบโลหะประจำทุกวัน โดยอาจจะเข้ามาเฉพาะวันที่มีคนไข้เท่านั้น ดังนั้น เราจึงควรเลือกคลินิกที่มีทันตแพทย์ที่จัดฟันประจำอยู่ที่คลินิก เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่ทำให้เรามีปัญหา แล้วต้องการพบทันตแพทย์โดยด่วน

8. เลือกคลินิกจัดฟันที่มีการจัดฟันให้เลือกหลายรูปแบบ

เพราะคนไข้แต่ละคนมีสาเหตุในการจัดฟันไม่เหมือนกัน บางเคสอาจจะเหมาะกับการจัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบเหล็กใส จัดฟันแบบดามอน เป็นต้น ดังนั้น เราจึงต้องเลือกคลินิกที่จัดฟันได้อย่างหลากหลาย เครื่องมือครบครัน เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม

9. มีรีวิวคนไข้จัดฟัน

เทคนิคสุดท้ายสำหรับการเลือกคลินิกจัดฟันแบบโลหะ คือ การศึกษาจากรีวิวของคนที่เคยมาจัดฟัน โดยอาจจะดูจากการเปรียบเทียบก่อนและหลังที่จัดฟันแต่ละแบบ เช่น Facebook, Youtube, Pantip เป็นต้น รวมถึงเว็บไซต์ของคลินิกโดยตรง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง

การเลือกคลินิกเพื่อจัดฟัน อาจดูเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่ต้องใช้การศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้คลินิกที่ถูกใจ ปลอดภัย และได้ผลการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลนี้คงจะช่วยทุกคนในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี

จัดฟันแบบโลหะ ราคาเท่าไหร่

การจัดฟันโลหะ ราคาไม่สูงเท่าการจัดฟันแบบอื่น แต่ราคาก็ยังสูงอยู่พอสมควร ซึ่งการจัดฟันโลหะราคาจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 50,000 บาท ซึ่งราคาจะมากหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาในช่องปากที่ต้องทำการรักษา ปัจจุบันทางคลินิกมีระบบผ่อนชำระสำหรับคนที่ไม่สะดวกจ่ายเงินสด ให้แบ่งชำระผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนหรือเป็นงวด ๆ

สรุป

การจัดฟันแบบโลหะ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบอื่น แถมมีลูกเล่นให้เปลี่ยนสไตล์สดใสได้ไม่เบื่อ เมื่อจัดแล้วต้องดูแลความสะอาดของฟันควบคู่กับการมาพบทันตแพทย์ตามนัดอยู่เสมอ แต่เพื่อให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควรเลือกการจัดฟันที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด เพราะการจัดฟันไม่ว่าแบบไหนก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี