ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากให้อิ่มสวย เซ็กซี่ รับกับใบหน้า ก่อนฉีดต้องรู้!

beautypost

หัดอ่านหัดเขียน (8)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:3
เมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565 10.09 น.

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปากอิ่มสวย เป็นธรรมชาติ

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ ตัวช่วยสำคัญที่แก้ปัญหาริมฝีปากบางเกินไป ไม่ได้รูป ร่องลึกและริ้วรอยบนริมฝีปาก ทาลิปสติกแล้วไม่เรียบเนียน อีกทั้งยังช่วยปรับรูปทรงปากให้ได้รูปอิ่มสวย เห็นผลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งการฉีด filler ปากเป็นการฉีดสารเติมเต็มชนิด HA (Hyaluronic Acid) หรือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปยังริมฝีปากเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ปากดูอ่อนเยาว์ อวบอิ่มและเต่งตึงค่ะ

 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กังวลใจกับปัญหาริมฝีปากบางเกินไป ปากแบนราบ ไม่ได้สัดส่วน มีริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ หัตถการชนิดหนึ่งที่เติมเต็มริมฝีปากให้ชุ่มชื้น เต่งตึง อิ่มเอิบ ปรับรูปทรงตามที่ต้องการ โดยเฉพาะการทำปากกระจับที่นิยมทำกันมากในยุคนี้ ด้วยการฉีดสารเติมเต็มจำพวก HA (Hyaluronic Acid) หรือไฮยาลูโรนิค แอซิด ซึ่งในทางการแพทย์นิยมเรียกกันว่า ฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร

ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหาปากบางเกินไปให้หนา อวบอิ่มขึ้น

ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำ เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จึงใช้ในการฉีดเสริมหรือเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิวหนัง ช่วยในเรื่องลดริ้วรอย ให้ผิวหน้าเต่งตึง เนียนเรียบ ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ได้รับความนิยมในการเสริมความงาม ครอบคลุมในด้านการแก้ปัญหาผิวพรรณได้ในหลาย ๆ ด้านค่ะ

 

ผ่าตัดแล้วปากบางเกินไป ฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ไขให้ดีขึ้นไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อช่วยแก้ไขริมฝีปากที่บางเกินไป อันเกิดจากการผ่าตัดปาก สามารถช่วยแก้ไขได้ในบางเคสค่ะ และต้องดูด้วยว่าหลังผ่าตัดปากแล้วเกิดพังผืดดึงรั้งมากหรือเปล่า เพราะถ้ามีพังผืดเยอะแพทย์จะเติมฟิลเลอร์แก้ปากบางได้ไม่มากนัก

 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เป็นอันตราย ถ้าเราเลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ เป็นไฮยาลูรินิก แอซิด สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติทั้งหมด

รวมถึงการเลือกฉีดเติมเต็มปากกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำ เลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่เคส

ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่เคยตกแต่งริมฝีปากด้วยการผ่าตัดมาก่อนหน้านี้ ทำให้เส้นเลือดบางส่วนโดนพังผืดที่เป็นรอยแผลปิดกั้นอยู่ การฉีดฟิลเลอร์ปากคุณหมอต้องฉีดอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดอุดตันขึ้น สำหรับเคสที่ฉีด filler แล้วเกิดปัญหา หากเป็นฟิลเลอร์แท้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี และต้องใช้กี่ CC ?

หลัก ๆ แล้วฟิลเลอร์ยี่ห้อที่แพทย์แนะนำให้ใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีด้วยกัน 3 ยี่ห้อ ได้แก่ Juvederm, Restylane และยี่ห้อ Belotero เนื่องจากริมฝีปากคือบริเวณที่มีการขยับเขยื้อนอยู่บ่อย ๆ แพทย์จึงแนะนำให้เลือกฉีดฟิลเลอร์ตัวที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง ไม่เสียทรง

ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี-1 ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี-2

  • ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น Volume
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก
    • เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่ใช้ฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเต็ม พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก
  • ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Kysse
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
    • เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้ฉีดริมฝีปาก
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว
    • สามารถสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน
    • ให้ความชุ่มชื้น เติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น
  • ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Vital Light
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
    • ใครที่อยากแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งสามารถเลือกฉีดรุ่นนี้ได้ค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเพิ่มความหนาของริมฝีปากให้มากไปกว่าเดิมเยอะ
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก
  • ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Volyme
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 18 เดือน
    • เหมาะสำหรับการฉีดมุมปาก ดูเป็นธรรมชาติ
    • ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี
  • ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Refyne
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
    • เหมาะสำหรับใช้ฉีดเพื่อช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และยืดหยุ่น
  • ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Ultra Plus
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 12 เดือน
    • เหมาะกับใครที่อยากฉีดเติมปากให้ดูอวบอิ่มแบบฝรั่ง ฉีดแล้วฟูมาก
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม
  • ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Voluma
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 18 เดือน
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แน่น ฟูปานกลาง
    • เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่อยู่ได้นานที่สุด
    • เหมาะกับคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดูอวบอิ่ม รวมถึงอยากให้ผลลัพธ์หลังฉีดปากคงอยู่ได้นาน ๆ
  • ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 12 เดือน
    • หลังฉีดแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดเป็นก้อน
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่นสูง และ มีความละเอียด
  • ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volite
    • ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
    • เหมาะกับผู้ที่อยากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก รวมถึงต้องการเติมปากให้ดูอวบอิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
    • เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยในเรื่องการเติมความชุ่มชื้น

 

การฉีดฟิลเลอร์ปลอม มีอันตรายมากน้อยเพียงไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปลอมมีอันตรายมาก แม้จะยังไม่แสดงอาการในช่วงแรกหลังฉีด ดูเหมือนจะสวยตามที่ต้องการ หากแต่พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง จะเกิดอาการแพ้เพราะร่างกายต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น

  • เกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ บวมแดง แพ้ฟิลเลอร์ปลอม
  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเกิดเป็นก้อน (คลำเจอ) ผิวไม่เรียบ กดแล้วรู้สึกเจ็บ
  • เกิดการจับตัวจนเป็นก้อนแข็งเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง
  • พบปัญหาริมฝีปากผิดรูป เสียรูปทรง จากฟิลเลอร์ที่ไหลย้อยจนผิดตำแหน่ง
  • เคสรุนแรงคือเกิดอุดตันขึ้นภายในเส้นเลือด ส่งผลให้เกิดเนื้อตาย ตาบอดได้

เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยา Hyaluronidase ได้ค่ะ กระบวนการแก้ไขจึงยุ่งยากพอสมควร ต้องขูดออกหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ปลอมออกเท่านั้น

ทางที่ดีแนะนำให้ตรวจสอบจนมั่นใจก่อนทุกครั้งเป็นเป็นฟิลเลอร์แท้ โดยศึกษาข้อมูลจุดสังเกตฟิลเลอร์แท้ และขอให้แพทย์แกะกล่องใหม่ให้เห็นต่อหน้าก่อนฉีดทุกครั้ง

 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

เพื่อผลลัพธ์ที่สวยสมใจ ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างปลอดภัย เราควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังต่อไปนี้

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อน โดยดูจากรีวิวของคนไข้ที่เคยฉีดจริงในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ
  • ศึกษาเกี่ยวกับวิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะไปเจอฟิลเลอร์ปลอม
  • ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเข้าไปฉีดปาก แนะนำให้งดการแว็กซ์ และหยุดใช้ยาทาชนิดที่ออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว
  • ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้งดการรับประทานยาแอสไพริน ยา NSAIDs อาทิ ibruprofen, diclofenac และ ponstan รวมทั้งควรหยุดรับประทานวิตามิน St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, Vitamin E , garlic และ ginseng
  • ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฉีดเติมปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีโรคประจำตัว รวมถึงมียาที่ต้องกินอยู่เป็นประจำ แนะนำให้เตรียมรวบรวมข้อมูลไว้ให้พร้อม เพื่อแจ้งให้คุณหมอทราบรายละเอียดก่อนฉีดค่ะ

 

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม 1 cc รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ 1 cc รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก 2 cc

 

พามาดูขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอย่างไรบ้าง ?

  • ควรติดต่อทำนัดกับทางคลินิกก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเตรียมพร้อมเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์
  • แพทย์วิเคราะห์ใบหน้า และประเมินรูปทรงปากที่เหมาะกับบุคลิกของเรา ให้คำแนะนำการเลือกใช้ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ/รุ่นที่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาริมฝีปาก รวมถึงเหมาะกับรูปทรงปากที่ต้องการปรับแต่งให้ออกมารับกับใบหน้า
  • เพื่อน ๆ คนไหนที่แต่งหน้าทาปากมาที่คลินิกในวันฉีด เจ้าหน้าที่ของทางคลินิกจะช่วยทำความสะอาดบริเวณจุดที่จะฉีดให้เรียบร้อยก่อน
  • ขั้นตอนการแปะยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยบรรเทาความเจ็บเมื่อเข็มเข้าไปในผิวได้ ทั้งนี้ ในเนื้อฟิลเลอร์บางรุ่นมียาชาผสมอยู่ด้วย จึงช่วยให้เจ็บน้อยลง
  • เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ได้มาตรฐาน และปลอดภัย ก่อนฉีดคุณหมอจะแกะกล่องใหม่ให้คนไข้เห็นต่อหน้า สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้
  • ขั้นตอนที่แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก และจะค่อย ๆ ปรับรูปทรงปากให้ได้สัดส่วนสวยงามดังที่ร่วมกันออกแบบไว้
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์ปากสามารถคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น รวมถึงเข้าที่ไวขึ้นด้วย
  • ทางคลินิกจะนัดติดตามผลในทุก ๆ เคส หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากครบระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ริมฝีปากเข้าที่แบบเต็มที่แล้ว

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอย่างไร

 

ขั้นตอนในการดูแลตัวเอง หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวัน จะช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ปากที่ฉีดไว้ได้ดียิ่งขึ้น น้ำจะช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์นั้นอิ่มฟูขึ้น และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย
  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ งดการดื่มเครื่องดื่มจำพวกเหล้า เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อป้องกันอาการบวม หรืออักเสบของริมฝีปากหลังฉีด
  • ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมรวมถึงการออกกำลังกายแบบหนัก ๆ เพื่อเป็นการป้องกันริมฝีปากมิให้เสียรูปทรง
  • เลิกนิสัยที่ชอบดึง หรือการลอกหนังบริเวณริมฝีปาก เพราะอาจส่งผลให้ผิวหนังเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้ลดน้อยลง เป็นการทำร้ายผิวบริเวณริมฝีปากให้สุขภาพผิวแย่ลงได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก งดการนวดหรือคลึง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปากในช่วง 12 ชั่วโมงแรก แนะนำให้งดการใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก รวมถึงงดสูบบุหรี่

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

สรุป

สุดท้ายนี้ การฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากปรับรูปทรงปากให้อวบอิ่ม ดูสวยขึ้น อยากทำปากกระจับรูปทรงต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมในยุคนี้ แต่ไม่ต้องการผ่าตัดตกแต่งริมฝีปาก อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาปากแห้งแตก จากการขาดความชุ่มชื้น ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม สดใส ดูอ่อนกว่าวัยได้อีกครั้ง แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองดูรีวิว เปรียบเทียบจากหลาย ๆ คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเติมฟิลเลอร์ปากได้อย่างปลอดภัย คุ้มค่า และเป็นธรรมชาติค่ะ

แก้ไขครั้งที่ 2 โดย beautypost เมื่อ6 ธันวาคม พ.ศ. 2565 10.23 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา