รัฐบาลกล่าวว่าพบ 11 ล้านอินสแตนซ์ของการฉ้อโกงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยอองซังซูจี

ศาลรัฐบาลทหารพม่าตัดสินจำคุก อองซานซูจี ผู้นำที่ถูกขับออกไป 3 ปี ฐานทุจริตการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่งพรรคของเธอชนะอย่างถล่มทลาย

ซูจีถูกตัดสินจำคุก 3 ปีจากการทำงานหนัก แหล่งข่าวที่มีความรู้เกี่ยวกับคดีนี้กล่าว และเสริมว่าผู้ได้รับรางวัลโนเบลวัย 77 ปี ​​ดูเหมือนจะมีสุขภาพแข็งแรง

ซูจี ซึ่งถูกคุมขังตั้งแต่การพ่ายในปีที่แล้ว ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทุจริตและถูกตั้งข้อหาอื่นๆ โดยศาลรัฐบาลเผด็จการแบบปิด และถูกตัดสินจำคุก 17 ปี

นักข่าวถูกห้ามไม่ให้ดำเนินคดีในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงที่สร้างโดยกองทัพ และทนายความของเธอถูกขัดขวางไม่ให้พูดกับสื่อมวลชน

กองทัพกล่าวหาว่าทุจริตผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในระหว่างการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งชนะอย่างล้นหลามจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของซูจี แม้ว่าผู้สังเกตการณ์จากนานาประเทศกล่าวว่าการสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นอิสระและยุติธรรม

กองทัพได้ยกเลิกผลการเลือกตั้งตั้งแต่นั้นมา และกล่าวว่าได้เปิดเผยกรณีการฉ้อโกงผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 11 ล้านครั้ง

เมื่อเดือนที่แล้ว หัวหน้ารัฐบาลทหาร มิน ออง หล่าย กล่าวว่า กองทัพกำลัง “ผ่อนปรน” ต่อซูจี และอาจดำเนินการ “ดำเนินการที่ร้ายแรงกว่านี้” กับเธอ

เมียนมาร์ตกอยู่ในภาวะวิกฤตภายหลังการยึดอำนาจของทหารเมื่อปีที่แล้ว โดยพื้นที่ของประเทศถูกทำลายล้างด้วยการต่อสู้และเศรษฐกิจตกต่ำ

มังกรอยู่ไหน นี่ไง Lucabet กดเลย

มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,200 คน และถูกจับมากกว่า 15,000 คนในการปราบปรามผู้เห็นต่างของกองทัพ นับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจ ตามรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น

'สงบและมั่นคง'

รัฐบาลเผด็จการทหารประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากขับไล่รัฐบาลของซูจี และเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเลือกตั้งและยกเลิกภาวะฉุกเฉินภายในเดือนสิงหาคม 2566

ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อเดือนที่แล้ว มิน ออง หล่าย ไม่ได้กล่าวถึงวันเลือกตั้งใหม่ แต่บอกว่าจะจัดได้ก็ต่อเมื่อประเทศ “สงบสุขและมั่นคง” เท่านั้น

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า จำเป็นต้องมี “การปฏิรูป” ต่อระบบการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงการรวมระบบแรกในอดีตไว้ด้วยกัน ซึ่งพรรค NLD ของซูจีชนะเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น โดยมีตัวแทนตามสัดส่วน

สหภาพรัฐบาลทหารกล่าวว่า พรรคการเมืองที่จดทะเบียนแล้ว 92 พรรคของประเทศจะต้องขออนุญาตหากต้องการพบปะกับองค์กรหรือบุคคลต่างประเทศ

“พรรคการเมืองจำเป็นต้องเคารพกฎหมาย” คณะกรรมาธิการกล่าว

“หากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้น การลงทะเบียนพรรคพวกของพวกเขาจะถูกยกเลิก”