การลงทุนทุกประเภทมักต้องการผลตอบแทน

               การลงทุนทุกประเภทมักต้องการผลตอบแทน

               ปัจจุบันนี้มีรูปแบบการลงทุนมากมายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และนักลงทุนมืออาชีพ ให้ได้เลือกลงทุนได้ตามความถนัดของแต่ละบุคคล ตั้งแต่การลงทุนค้าขาย การลงทุนด้านการให้บริการ รวมถึงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ โดยการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นก็มีทั้งแบบซื้อมาขายไป และการปล่อยเช่า ทั้งบ้าน คอนโดฯ ที่ดิน อาคารพาณิชย์ ซึ่งสำหรับนักลงทุนมือใหม่นั้นจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งราคาซื้อขายตามท้องตลาด ราคาเช่าที่เหมาะสมและไม่เกินความเป็นจริง เพื่อให้ได้รับกำไรและผลตอบแทนที่ดีที่สุด

แน่นอนว่าการลงทุนทำอะไรแล้ว เรามักต้องการผลตอบแทน โดยเฉพาะการลงทุนในเชิงธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจทุกท่านมักให้ความสำคัญต่อผลตอบแทน หรือที่เราเรียกว่า Yield ซึ่งในแง่ของการลงทุนคอนโด Yield คือ ผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่าคอนโด ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทั้งหลายที่กำลังลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ ซึ่ง yield ยังเป็นตัวช่วยสำหรับนักลงทุนให้สามารถช่วยคำนวณค่าเช่าให้เหมาะสมกับราคาตลาด โดยราคาตลาดนั้นยังขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของคอนโดฯ ยิ่งอยู่ใจกลางเมือง ราคาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ yield ถือเป็นเครื่องมือที่เป็นขวัญใจของของนักลงทุนในการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

การคำนวณอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่านั้น มีทั้งอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าเบื้องต้น โดยจะคำนวณเพียงค่าเช่าที่ที่คาดว่าจะได้รับตลอดทั้งปี และจากราคาที่ซื้อมาเท่านั้น และยังมีอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าสุทธิ คือจะคิดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่นค่าส่วนกลาง รวมถึงอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าจากเงินสดในรอบปี อีกด้วย ดังนั้นก่อนจะลงทุนสำหรับการปล่อยเช่าคอนโดนั้น นักลงทุนมือใหม่ทั้งหลาย จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด เพราะการลงทุนสำหรับปล่อยเช่าคอนโดไม่ได้มีเพียงแค่รายรับที่จะได้รับเพียงอย่างเดียว แต่อาจมีรายจ่ายที่เราคาดไม่ถึงทำให้เราจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือช่วยคำนวณการปล่อยเช่า ซึ่งผลตอบแทนนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 5% โดยเพียงแค่เราเลือกประเภทที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนด้วยนั่นเอง

การลงทุนปล่อยเช่าคอนโดในปัจจุบันนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก ทำให้มีหลายท่านลงทุนในการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ากันมากขึ้น ซึ่งการซื้อคอนโดหรือบ้านสักหลังนั้น มักเป็นการซื้อโดยการผ่อนจ่าย มีทั้งแบบผ่อนดาวน์ตั้งแต่คอนโดฯเริ่มสร้าง ซึ่งการซื้อแบบนี้จะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสเลือกห้องและวิวได้มากกว่าผู้ที่ซื้อคอนโดพร้อมอยู่ และยังอาจได้รับคอนโดในราคาถูกกว่าอีกด้วย โดยการผ่อนจ่ายคอนโดกับทางธนาคารนั้นก็มักจะมีดอกเบี้ยบ้านที่ผู้ซื้อจำเป็นต้องจ่ายให้กับทางธนาคาร โดยธนาคารจะดูความเหมาะสมของฐานรายได้กับราคาคอนโดที่ผู้ซื้อต้องการซื้อ ซึ่งดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บนั้น แบ่งเป็น MRR MLR และ MOR โดย MRR จะเป็นดอกเบี้ยที่พบในการกู้ซื้อบ้านและคอนโด MRR คือ อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี และดอกเบี้ยประเภทนี้จะมากกว่าดอกเบี้ย MLR ประมาณ 0.5% อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโดยการกู้ซื้อนั้นผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วยนั่นเอง