ใหม่แกะกล่อง iPhone 13 กับสเปกแรง พร้อมเป็นเจ้าของก่อนใคร

mintsaccount

ขีดเขียนฝึกหัด (79)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:115
เมื่อ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564 22.57 น.

ใหม่แกะกล่อง iPhone 13 กับสเปกแรง พร้อมเป็นเจ้าของก่อนใคร

ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple เตรียมวางจำหน่ายแล้วในกลุ่มประเทศแรกในวันที่ 24 กันยายนนี้ (ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ 2 ที่รอจำหน่ายในวันที่ 8 ตุลาคม) ล่าสุดมีคลิปจาก Youtuber ช่อง iJustine ได้เผยโฉม iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น 4 สี ออกมาให้ได้ชมกัน ได้แก่ iPhone 13 สีชมพูใหม่, iPhone 13 Mini สีมิดไนท์, iPhone 13 Pro สีทอง และ iPhone 13 Pro Max สีเซียร์ร่าบลู ต้องบอกเลยว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยทางช่องมีการเทียบรูปลักษณ์ภายนอกระหว่าง iPhone 13 กับ iPhone 12 จะเห็นความแตกต่างจากกล้องหลังที่มีการเรียงตัวใหม่ ไม่ให้เป็นแถวแนวตรง แต่ให้เยื้อง ๆ กับกล้องบนออกไปด้านข้าง ในขณะที่รุ่น Pro และ Pro Max แทบแยกไม่ออกเลยว่าตัวไหนเป็น iPhone 12 Pro และ iPhone 13 Pro ยกเว้นสีที่ต่างกัน

ตัวกล่องจะไม่มีพลาสติกห่อหุ้ม แต่เป็นแถบกาวด้านหลังแทน ภายในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง, สาย USB-C to Lightning cable, ซองใส่ คู่มือ, อุปกรณ์เปิดถาดซิมและสติกเกอร์สัญลักษณ์ Apple ซึ่งจะไม่มี charging brick หรืออะแดปเตอร์มาให้

ส่วนสเปกภายในเครื่องยังคงความแรงแบบต่อเนื่องด้วย CPU A15 Bionic 6 Core ใหม่ แบ่งออกเป็น 2 Core ทำงานด้านประสิทธิภาพและ 4 Core ทำงานด้านประหยัดพลังงานพร้อมอัปเกรดรับบปฏิบัติการ iOS 15 ใหม่ เพิ่มความฉลาดและความเป็นอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะระบบกล้องถ่ายรูปที่ให้ความสวย คมชัด สมจริงมากยิ่งขึ้น โดยมีการปรับเปลี่ยนเลนส์ใหม่ดังนี้

  • iPhone 13 และ iPhone 13 Mini มีความละเอียดกล้อง 12 MP เลนส์ Wide รูรับแสง f/1.6, เลนส์ Ultra Wide รูรับแสง f/2.4และมุมภาพ 120 องศา ซูมออปติคัล 2 เท่า ซูมดิจิตัล 5 เท่า ระบบการจัดแสงพร้อมเอฟเฟกต์ 6 แบบ ระบบกันสั้น Sensor-Shift ที่เดิมทีมีเฉพาะในรุ่น Pro Max, กล้องหน้าความละเอียด 12 MP รูรับแสง f/2.2 พร้อมฟังก์ชันแบบเดียวกันกับกล้องหลัง จึงทำให้การ Selfie ด้วยกล้องหน้าสวยงาม คมชัด มากขึ้นกว่าเดิม
  • iPhone 13 Pro และ Pro Max กล้องหลังมีความละเอียด 12 MP เลนส์ Telephoto รูรับแสง f/2.8, เลนส์ Wide รูรับแสง f/5 และเลนส์ Ultra Wide รูรับแสง f/1.8 มุมมองภาพ 120 องศา ซูมเข้าออปติคัล 3 เท่า, ซูมออกออปติคัล 2 เท่า ช่วงซูมออปติคัล 6 เท่าและซูมดิจิทัล สูงสุด 15 เท่า, ภาพถ่ายโหมดกลางคืนใช้ LiDAR Scanner ช่วย จึงให้ภาพสวยคมชัดแม้มีแสงน้อย กล้องหน้า 12MP รูรับแสง f/2.2 ให้ความสวยงามไม่แพ้กล้องหลังเลย

สร้างเสียงฮือฮากับชิป GPU ใหม่หมด เพื่อรองรับการใช้งานกราฟิกที่หนักหน่วง ทั้งเล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ ด้วยชิป GPU 4 Core ใหม่สำหรับ iPhone 13 และ 13 Mini ในขณะที่ iPhone 13 Pro และ Pro Max ใช้ชิป GPU 5 Core ใหม่เร็ว แรงยิ่งกว่า

เพิ่มขนาดความจุใหม่และราคาที่เย้ายวนใจ

iPhone 13 ใหม่หมดทุกรุ่นจะมีความจุเริ่มต้นที่ 128GB เพื่อรองรับการใช้งานด้านการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ โดยในรุ่น iPhone 13 Pro ราคา จะมีขยับเพิ่มขึ้น ด้วยความจุใหม่ที่มีเข้ามา และ Pro Max เพิ่มขนาดพื้นที่ใหม่มากถึง 1TB ซึ่ง iPhone 13 ราคา (เพิ่มเติมที่ : https://www.ais.th/apple/iphone-13/) จะเป็นเช่นไรไปดูกัน

  • iPhone 13 Mini ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท ที่ความจุ 128GB, 29,900 บาท ความจุ 256GBและสูงสุด 37,900 บาท ที่ความจุ 512GB
  • iPhone 13 ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท ที่ความจุ 128GB, 33,900 บาท ความจุ 256GBและสูงสุด 41,900 บาท ที่ความจุ 512GB
  • iPhone 13 Pro ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท ที่ความจุ 128GB, 42,900 บาท ความจุ 256GB, 50,900 บาท ที่ความจุ 512GB และสูงสุด 58,900 บาท ที่ความจุ 1TB
  • iPhone 13 Pro Max ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท ที่ความจุ 128GB, 46,900 บาท ความจุ 256GB, 54,900 บาท ที่ความจุ 512GB และสูงสุด 62,900 บาท ที่ความจุ 1TB

สำหรับประเทศไทยจะเปิดให้จองและสั่งซื้อ iPhone 13 ได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้และเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ตุลาคม เตรียมเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนตัวแรงแห่งยุคได้เลย

ที่มาของข้อมูล

 

 

 

 

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา