แนะนำ 5 วิธีที่เป็นทางออก สำหรับคนผ่อนบ้านไม่ไหว

ต้องยอมรับเลยว่าการระบาดของโควิด 19 นั้น ทำให้การดำเนินชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจากที่เคยเปิดหน้าพูดคุยกันได้อย่างสนิมสนมก็ต้องเปลี่ยนมาใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องคอยเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดได้มากที่สุดนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากจะต้องลดการแพร่ระบาดของไวรัสจนทำให้บางคนนั้นถูกลดเวลาทำงาน ถูกพักงาน หรือว่าถูกเลิกจ้าง รวมทั้งยังมีอีกหลาย ๆ กิจการที่จะต้องปิดตัวลงเนื่องจากทนแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เรียกได้ว่าเดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่หลายคนนั้นจะกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาด้านการเงินจนถึงขั้นผ่อนบ้านไม่ไหว จากในตอนแรกที่แค่ส่งค่างวดบ้านเลยกำหนดก็อาจจะถึงขั้นค้างชำระค่างวดเป็นเดือน ทำให้หลายคนนั้นรู้สึกเป็นกังวลกลัวว่าจะถูกยึดบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือว่าคอนโดพร้อมอยู่ ที่ใช้สำหรับการพักอาศัยไป ดังนั้นเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถสบายใจขึ้นได้ ในวันนี้เราก็มี 5 ทางออกเมื่อผ่อนค่าบ้านไม่ไหวมาฝากแต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

• ยื่นเรื่องพักชำระหนี้กับสถาบันการเงิน
ทางออกแรกที่เราอยากจะขอแนะนำ คือ การยื่นเรื่องขอพักชำระหนี้กับทางสถาบันการเงินที่ผ่อนชำระอยู่เพื่อเป็นการผ่อนผันหนี้บ้านกับทางสถาบันการเงิน แต่โดยปกติแล้วเวลาที่มีวิกฤตการณ์เกิดขึ้นในประเทศแบบนี้ ทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะออกมาตรการต่าง ๆ มาช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ อย่างเช่นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ธนาคารหลายๆ แห่งต่างก็ออกมาตรการมาช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้านของตัวเอง โดยมีทั้งการพักชำระหนี้ทั้งหมด การผ่อนผันหนี้บ้านให้ชำระบ้างส่วนและให้จ่ายเพียงแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น อย่างไรก็ตามลูกหนี้นั้นจะต้องติดตามข่าวสารจากทางสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้พลาดกับสิทธิประโยชน์ที่ตัวเองนั้นควรได้รับ

• รีไฟแนนซ์ (Refinance)
การรีไฟแนนซ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เหมาะสำหรับคนมีประวัติทางการเงินดีและไม่ค้างชำระค่าผ่อนบ้านกับสถาบันการเงินเดิม แต่ต้องการเปลี่ยนไปใช้บริการสถาบันการเงินใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า ซึ่งข้อดีของวิธีนี้จะทำให้จ่ายค่างวดต่อเดือนลดลง ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายเวลาการผ่อนชำระ และที่สำคัญได้เงินก้อนส่วนต่างหลังจากการปิดหนี้สัญญา แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือต้องเสียเวลาศึกษาเงื่อนไข เตรียมเอกสารและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

• รีเทนชั่น (Retention)
การรีเทนชั่นเป็นทางออกที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มลูกหนี้ที่มีประวัติดี เพราะไม่ถือว่าเป็นการประนอมหนี้บ้าน แต่เป็นสิทธิ์ของลูกหนี้โดยตรงที่สามารถปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งเดิมได้เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยข้อดีของวิธีนี้นอกจากจะสะดวกรวดเร็วและไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพราะทำสัญญากับสถาบันการเงินแห่งเดิมแล้วยังช่วยให้อัตราดอกเบี้ยน้อยลงส่งผลให้จ่ายค่างวดต่อเดือนลดลงจึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย

• ขอประนอมหนี้กับทางสถาบันการเงิน
สำหรับลูกหนี้ที่มีประวัติของการชำระเงินที่ล่าช้าแล้วแต่ไม่ต้องการเสียค่าติดตามทวงถาม ค่าปรับหรือว่าถูกฟ้องร้องดำเนินคดี การประนอมหนี้บ้านกับสถาบันทางการเงินนั้นถือว่าเป็นทางออกที่ดี ซึ่งทางสถาบันการเงินก็จะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับลูกหนี้เพื่อไม่ให้เรื่องเดินทางนั้นไปถึงขั้นของการฟ้องร้องยึดทรัพย์ โดยจะเสนอให้ลูกหนี้นั้นพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว ยกเว้นดอกเบี้ยที่ค้างไว้ เปลี่ยนสัญญาเงินกู้ให้เหมาะกับสถานะการเงินของผู้กู้หรือเปลี่ยนตัวผู้กู้เป็นญาติพี่น้องที่มีสภาพการเงินคล่องตัวกว่า

• การขอโอนบ้านให้เป็นทรัพย์สินของสถาบันการเงินชั่วคราว
มั่นใจว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าสามารถใช้การประนอมหนี้บ้านแบบนี้ได้ แต่วิธีนี้ก็จะเหมาะสำหรับลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะว่าจะต้องโอนบ้านให้เป็นของสถาบันการเงินชั่วคราว โดยผู้กู้นั้นจะต้องทำสัญญาเช่าบ้านเป็นรายปีกับทางสถาบันการเงินและมาไถ่ถอนคืนในราคาของยอดหนี้คงเหลือทั้งหมด

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 ทางออกเมื่อผ่อนบ้านไม่ไหวที่เรานำเอามาฝากกันในวันนี้ เพราะฉะนั้นหากกำลังวางแผนผ่อนผันหนี้บ้านอยู่ ก็แนะนำให้ลองศึกษาดูว่าวิธีไหนที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตัวเอง รับรองว่าคุณจะสามารถผ่านวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่อนผันหนี้บ้าน ได้ที่นี่ https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-หนี้บ้าน-ธนาคารช่วยได้-พร้อมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-ไวรัสรุมเร้า/th