ความทรงจำที่มอดไหม้....

yuiharuka

หัดอ่านหัดเขียน (8)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:16
เมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561 16.12 น.

ผมลืมตาในความมืดด้วยท่านอนตะแคงข้างๆหลุมลึกสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายหลุมศพ นี่ผมละเมอเดินมานอนตรงนี้อีกแล้วเหรอ? มันเป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้วกับความรักครั้งล่าสุดที่ล่มไม่เป็นท่า ทำให้ผมนอนไม่เป็นเวลาและไม่เป็นที่เป็นทาง ผมลุกขึ้นและปัดเสื้อผ้าที่มีน้ำค้างชื้นแฉะ ไอหนาวทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ก้มมองก้นหลุมท่ามกลางความมืดมิด พยายามเพ่งแต่ก็ไม่เป็นผล  ผมรู้ว่าในหลุมนี้มีอะไรเหลือหลังจากที่ได้โยนทุกอย่างที่เป็นความทรงจำของแฟนทิ้งในนี้และจุดไฟเผา กลิ่นควันน้ำมันก๊าดยังลอยฉุนกึก​ติดปลายจมูก คงเป็นเพราะมโนภาพที่ทำให้ผมได้กลิ่นไปเองทั้งๆที่คราบน้ำตาที่เคยเกาะกรังมันแห้งเหือดไปหมดแล้ว อยู่ๆผมก็หวีดร้องด้วยความอัดอั้น ความหุดหงิดงุ่นง่านใจทำให้ไม่รู้ว่าควรจะระบายได้ด้วยวิธีไหน เสียงร้องดังก้องไปทั่ว พอได้สติผมก็เอามืดอุดปาก เพื่อนบ้านยังคงปิดไฟเงียบ ผมคิดว่าพรุ่งนี้เช้าคงต้องออกไปขอโทษเสียหน่อย เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านก็เคยมาต่อว่าเรื่องที่ผมทำเสียงดังกลางดึกแบบนี้แล้วหลายครั้ง

คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด แต่แสงดาวของชนบทแห่งนี้ส่องสว่างจ้าราวกับเพชรส่องประกาย ไฟในบ้านมืดมิด เงาทะมึนของบ้านพาดมาทางตรงกันข้ามกับไฟลิบๆหลบฉากมาทางนี้ แม้จะมีแค่แสงลางๆแต่ผมอาศัยความชินของสายตาที่ปรับระยะได้บ้างแล้วในความทะมึนดำ ที่นี่เงียบสงัดจนรู้สึกว่าสงบเกินไปเสียด้วยซ้ำ ความมืดมันกัดกินจิตใจจากความขมขื่นและความหลอกหลอนของรัตติกาลที่เหมือนไม่เคยสิ้นสุด ชนบทแห่งนี้ไม่ต้องมีอะไรให้ต้องแก่งแย่งแข่งขัน รั้วเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันก็นิ่ง ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว เวลาดึกมากแล้ว เมื่อเสียงกรีดร้องของผมไม่ทำให้เพื่อนบ้านตื่น ผมเริ่มสบายใจและบิดขี้เกียจไปพลาง ความรู้สึกเหมือนหลับมาแสนนาน

การอกหักทำให้ผมกลายเป็นคนติดบ้าน นอนกลางวันและนั่งทำงานในตอนกลางคืน อ้อ! เกือบลืมแนะนำตัว ผมชื่อต้นครับ อาชีพเป็นนักเขียนอิสระ ยังไม่มีผลงานรวมเล่มเป็นของตัวเอง ผลงานที่ปรากฎออกไปส่วนใหญ่จะเป็นงานแปลเสียมาก มีวรรณกรรมเยาวชนประปราย แต่ผมถนัดในส่วนของงานเขียนแนวฆาตรกรรมมากกว่า (นักเขียนคนโปรดของผมก็ ฮาลาน โคเบน ถ้าคุณจะรู้จักนะครับ) แต่ด้วยความที่ผมไม่ได้คลุกคลีในวงการตำรวจและความเจ็บช้ำจากความรักครั้งล่าสุด ทำให้ผมยิ่งเขียนไม่ออก สมองตื้อ มือไม้ไม่ไหวติงหน้าจอคอมมาตั้งแต่วันที่ถูกบอกเลิก จากที่เคยนั่งเขียนกลางวัน ก็เปลี่ยนมาเป็นกลางคืน ทำอย่างไรมันก็ไม่ได้ผล ทุกคำที่เขียนลงไปจะมีแค่ชื่อของเขาคนนั้นเพียงอย่างเดียว

พอคิดถึงชื่อนั้น ปั๊ม ผู้ชายที่ทำให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจอย่างสาหัส ความรักที่เขาเคยทุ่มเทให้มันคือคำลวงหลอก ความรักที่ฉาบฉวยของผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ หลอกปั่นหัวผม ผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อนจนสภาพจิตใจพังยับ ชีวิตเป๋ไปสักพักใหญ่ๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะอยู่อริยาบทไหนก็มีแต่น้ำตา ภาพความทรงจำของเขา ไม่ว่าจะตอนนั่งซบกัน นอนกอดกัน และนั่งจับมือดูดาวที่พื้นหญ้าหลังบ้าน ตรงที่เขาบอกว่าเป็นจุดที่ชอบที่สุด เพราะมันเห็นท้องฟ้ากว้าง เห็นดาวที่เขาบอกว่ามันเป็นดาวของเราทั้งสองคน พื้นหญ้าตรงนั้น ที่ผมขุดหลุมและทิ้งทุกอย่างลงไปพร้อมจุดไฟเผา

เสียงลมหวีดหวิวกระชากจนน่ากลัว ค่ำคืนไร้แสงของหน้าหนาวและเมฆครึ้มบิดบังแสงจันทร์มิด ผมขนลุกวาบ รอบกายว่างเปล่าจนชวนขนลุก แม้จะอยู่ในอาณาเขตบ้านตัวเองก็ยังน่ากลัวอยู่ดี เสียงจิ้งหรีดเรไรระงมร้อง น้ำค้างเริ่มลงหนัก ไอหมอกหนาพวยพุ่งมาราวกับละอองฝน

*นี่ดึกแค่ไหนกันเชียวนะ หมอกถึงได้ลงจัดขนาดนี้!* ผมคิด พลางดันตัวเองออกมาจากหลุม ความเมื่อยขบเล่นงานจนล้า

ผมชะงักเมื่อเห็นเงาใครหรืออะไรสักอย่างที่หน้าบ้าน

ขโมยเหรอ?!

ผมพยายามเพ่งไปทางนั้นแต่ไม่พบอะไรเลยหันหลังกลับ สายตาที่เริ่มชินกับความมืดพอจะมองเห็นหลุมนั้นรางๆ หลุมที่ผมออกแรงขุดด้วยตัวเอง วัดความกว้างและความลึกให้พอดีกับความสูงของผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่ง ผมขุดมันอย่างบ้าคลั่ง ขุดทั้งน้ำตา ขุดเพียงเพราะเจ็บช้ำน้ำใจ อยากจะให้มันเป็นหลุมที่เอาไว้ฝังปั๊ม แต่สุดท้ายมันก็แค่เป็นหลุมที่เอาไว้เผาข้าวของเครื่องใช้เก่าๆเท่านั้น ผมก้มดูที่หลุมนั้นอีกครั้ง พยายามล้วงหามือถือเพื่อส่องแสงไปดูข้างใต้ จิตใต้สำนึกผมบอกว่าในหลุมนี้มีอะไรมากกว่าแค่เถ้าถ่าน แต่ความทรงจำของผมหลังจากที่เผาทุกอย่างไปแล้วมันเลือนลางเหลือเกิน ราวกับว่าทุกอย่างถูกเผาจนมอดไหม้ไปหมด แต่ไม่ว่าผมจะทำอะไร ปั๊มก็ไม่เคยจะกลับเข้ามาในชีวิตผมอีกเลย ผมได้แต่นั่งครวญครางด้วยความเสียดายที่ปากหลุม เพราะทุกอย่างที่เคยมีร่วมกับเขาถูกทำลายไปหมดเสียแล้ว ด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบของผมคนเดียว

กลิ่นฉุนคล้ายกำมะถันจากก้นหลุมลอยมาเตะจมูกอีกระลอก ผมเอี้ยวตัวกลับในจังหวะเดียวกับเงาตะคุ่มสองสามเงาตรงรั้วบ้าน ผมหยุดหายใจ พยายามหาที่ซ่อนใต้พงหญ้า คงไม่ใช่แค่ตาฝาดอีกแล้ว มี “ใครสักคน” ไม่สิ มีมากกว่า 1 คนกำลังเข้ามาในพื้นที่ของผม ในความมืดนี้ผมมีความได้เปรียบ เพราะรู้จักทุกตารางนิ้วในนี้ แต่ยังไม่มากพอที่จะโจมตีหรือทำอะไรได้

“บ้าชิบ!” ผมอุทานอย่างหัวเสียเพราะควานหาไม้หรืออะไรสักอย่างเพื่อใช้ป้องกันตัวไม่เจอ หนำซ้ำมือถือยังอยู่ในบ้านอีกต่างหาก

พวกมันจะเข้ามาทำไม มีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า?

เสียงแกร็กดังขึ้นเป็นสัญญาณให้รู้ว่าพวกมันเข้าไปข้างในบ้านแล้ว แสงสว่างริ้วๆเหมือนแสงไฟฉายสอดส่องไปมา ผมนับได้ประมาณ 3 ดวง นั่นหมายความว่ามี 3 คนในคืนนี้ *ผมจะทำยังไงดีล่ะ?* จะตะโกนให้เพื่อนบ้านมาช่วยได้ไหม เมื่อกี้ผมเพิ่งกรีดร้องไปยังไม่มีใครสนใจเลยสักนิด ในตอนนี้คงต้องช่วยตัวเองไปก่อน ผมก้มต่ำและค่อยๆตะกายไปให้ใกล้กับตัวบ้านมากที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงแสงที่ส่องทะลุกระจกออกมาด้านนอก ผ้าม่านที่เคยกั้นกระจกไว้ก็ถูกผมบรรจุใส่หลุมแล้วเผาไปหมดแล้ว หน้าต่างเลยโล่ง แต่ในคืนเดือนมืดแบบนี้ ถ้าไม่เปิดไฟจากด้านใน ก็ยากที่จะระบุพิกัดของผู้บุกรุกได้

ผมคิดว่าผมจะต้องสู้ทั้งๆที่รั้วบ้านอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร แต่นี่คือบ้านของผม พื้นที่ของผม ออกจากรั้วบ้านไปอีกมากกว่ายี่สิบกิโลเมตรถึงจะหาตู้โทรศัพท์ได้ เลิกหวังที่จะพึ่งเพื่อนบ้าน ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยู่ หรือไม่ก็หลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้วแน่ๆ หากจะออกไปข้างนอกยี่สิบกิโลเมตร กับกุญแจรถที่อยู่ข้างใน ผมคิดว่าการย่องเข้าไปคว้าโทรศัพท์มือถือเพื่อขอความช่วยเหลือจะง่ายกว่า ผมกลั้นหายใจและเดินช้าๆ ปล่อยให้พวกมันสำรวจชั้นล่างให้หนำใจก่อนจะรอจังหวะที่ขึ้นไปสำรวจชั้นสอง ผมแง้มประตูอย่างเบามือและแทรกตัวผ่าน พยายามไม่ปิดประตูให้สนิท เพราะเสียงแกร็กในความมืดมิดคงทำให้พวกนั้นรู้ตัว

“เห้ย ไม่มีใครอยู่จริงๆด้วย!” เสียงหนึ่งตะโกนบอก ผมหลบหลังเสา พยายามควานหาไม้เบสบอล แต่ก็ยังไม่เป็นผล ฝั่งตรงข้ามที่ผมอยู่คือห้องครัว แต่เหมือนว่าจะมีใครอีกคนอยู่ในนั้น ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ ของแบบนี้มันต้องอาศัยจังหวะ ผมจับจ้องไปรอบๆ ห้องทำงานผมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัว มือถือผมอยู่ในนั้น!

ผมกลั้นหายใจ ความหวาดกลัวเกาะกินจนแข้งขาอ่อนล้า ดวงตาตื่นตระหนก แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตัก คงเป็นเพราะผมอยู่ในสภาวะหวาดกลัวจนถึงขีดสุด มือไม้สั่นจนแทบคุมไม่ไหว มีทางเดียวคือ...ผมต้องเงียบที่สุด

“เห้ย เบาๆหน่อยสิวะ ตะโกนให้ป๊ามารับรึไง” เสียงที่ตอบกลับนั้นยังวัยรุ่นอยู่ ผมพยายามนึกถึงต้นตอเสียง น่าจะเป็นวัยรุ่นละแวกนี้ หรือไม่ก็พวกขี้ยาที่กำลังหารายได้พิเศษเอาไปต่อยา

“เห้ย ขึ้นมาตรงนี้ กูเจอของดีละ” สิ้นเสียงเพื่อนจากชั้นสอง คนที่อยู่ในครัวรีบวิ่งขึ้นไป ผมตะกายตัวเองพุ่งไปที่ห้องทำงาน

ยิ้ม ประตูล็อค!” ผมเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าจากชั้นสอง ผมลนลาน เสี้ยววินาทีนั้นก็นึกออกว่าเก็บกุญแจสำรองไว้ที่ลิ้นชักห้องครัว เสียงคนกำลังเดินลงบันไดมาทำให้ผมต้องรีบพุ่ง อารามตกใจทำให้สะโพกผมชนกับโต๊ะกินข้าวโครมใหญ่

“เห้ยเสียงอะไรวะ!!!” สามเสียงประสานพร้อมกันพร้อมกับการกรูวิ่ง

ผมต้องหลบ ต้องหลบ!

“เห้ย ใครวะ!!” เสียงไม้กระทบกำแพงจากจังหวะแกว่งตอนวิ่งกรูทำให้ผมยิ่งตระหนก พวกมันมีอาวุธ ในขณะที่ผมมือเปล่า ผมหันหลังกลับ พุ่งผ่านหน้าพวกมันไปทางประตู

“นั่นใครวะ” เสียงหนึ่งถาม ผมวิ่งไม่คิดชีวิตออกไปด้านนอก หันรีหันขวางไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหน ซ้ายหรือขวา ก่อนที่ผมจะตัดสินใจพุ่งไปที่หลุมนั้น!!!

เสียงฝีเท้าตึกๆทำให้ผมรู้ว่าพวกมันกำลังตามมา ผมจ้ำอ้าว ภาวนาให้พวกนั้นคลาดสายตาจากผมก่อนจะไถลตัวเองลงกุ้นหลุม ก้นผมกระแทกวัตถุใต้หลุมดังกรอบ! เสียงฝีเท้าที่ตามมาหยุดที่ปากหลุม พร้อมแสงไฟจากไฟฉายที่สาดมา

ผมหมดทางหนีแน่ๆแล้ว....

ผมก้มหน้า ภาวนาให้พวกนั้นไม่สาดแสงมาทางผม สายตาหรี่มองไปตามแสงที่พวกมันสาดไปมาในเสี้ยวของเสี้ยววินาที ล้วผมต้องหวีดร้องอีกครั้ง

โครงกระดูกมนุษย์!!!

ผมไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ นี่โครงกระดูกใคร ทำไมถึงมาอยู่ก้นหลุมนี้ได้ ผมหวีดร้องอีกครั้งเมื่อโดนแสงไฟฉายสาดมา ผมจำเป็นต้องสู้ แต่มองไม่เห็นว่าใครเป็นใครเลยจากตรงนี้ แสงมันจ้าเกินไป

“ช่วยด้วยยยยยยยย!!!” ผมกรีดร้องอีกครั้ง นี่คงเป็นหนทางเดียวแล้วที่จะทำให้ได้รับความช่วยเหลือ ผมหวังว่าจะมีใครสักคนได้ยินเสียงนี้

“ต้น เราเลิกกันเถอะ” เสียงของปั๊มยังดังก้องในโสตประสาท

“ไม่เลิก ยังไงก็ไม่เลิก”

“แต่เราไม่ได้รักต้นแล้ว” น้ำเสียงที่เย็นชาของเขาทำให้ผมฟิวส์ขาด ผมฟาดแจกันดอกไม้ใส่เขาไม่ยั้ง ก่อนที่เขาจะแน่นิ่งไป ผมกรีดร้องราวกับเป็นบ้าในห้องครัว เลือดมากมายไหลนองเต็มพื้น ... ปั๊มนอนนิ่งไม่ไหวติง


ผมคว้ากระดูกท่อนที่ยาวที่สุด แต่มันก็ผุพังด้วยความร้อนไปจนหมด เค้าโครงที่ยังเหลือพอให้รู้ว่ามันคือกระดูกคนแน่ๆ ผมหมดทางสู้ พวกมันสามคนสาดไฟมาทางนี้ พวกมันเห็นผมแล้ว

“เห้ย พวกเอ็ง ได้ยินเสียงอะไรมั้ยวะ?” เสียงคนหนึ่งตะโกนถาม

“เสียงอะไรวะ อย่าพูดไปเรื่อยสิ กูยิ่งกลัวๆอยู่” อีกเสียงหนึ่งร้องห้าม

“ไปทำอะไรตรงนั้น มานี่เฮ้ย มาช่วยกูรื้อตรงนี้หน่อย” เสียงทั้งสามคนดังพอที่จะปลุกคนข้างบ้าน แต่แปลกที่ไม่มีใครโผล่ออกมาช่วยเลยสักคน

ทั้งๆที่ผมตะโกนลั่นขนาดนี้....ความกลัวกลายเป็นความโกรธ ผมขึ้นมาจากหลุมพร้อมกระดูกขาวโพลนนั้น มันเบาโหวง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

“หยุดนะ พวกไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนี้ นี่มันบ้านกู” ผมตะโกน แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ?

พวกมันไปไหน?

ในคืนเดืนมืดเช่นนี้ ในบ้านของตัวเองที่ผมเพิ่งได้ยินเสียงคนบุกรุก

พอผมกลับเข้ามา แค่ชั่ววินาที เสียงนั้นหายไปหมดแล้ว

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หรือว่า....

ผมกลั้นหายใจอีกครั้ง ความหวาดกลัวแล่นพล่านเข้าสู่สมอง

หรือว่า....

พวกมันไม่ใช่คน?

ปั๊มนอนแน่นิ่ง ผมต้องทำอะไรสักอย่าง!!

ผมวิ่งไปหลังบ้าน ตอนโพล้เพล้เช่นนี้เหมาะมากที่จะขุดเพื่ออำพรางร่างนั้น ผมตั้งต้นขุด ขุด และขุด ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ ก่อนที่ใกล้หมดแรง ผมวิ่งไปรื้อข้าวของที่ติดไฟง่ายมาเทลงตรงนี้ เสื้อผ้าของเอ็ม รูปวาดฝีมือเขา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขา ถึงเวลาที่ต้องทำลายมันให้หมดแล้ว

“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร?” ผมกล้าๆกลัวๆตะโกนถามซ้ำเข้าไปในบ้าน ไร้เสียงคนตอบรับ ...

ผมเทน้ำมันก๊าดที่มีอยู่ทั้งหมดในหลุม มันกระฉอกโดนผมบ้างเพราะความรีบลน ผมไม่สนใจกลิ่นฉุนนั้นเท่าไรนัก พอเทจนหมดก็วิ่งเข้าไปในบ้าน

ร่างของปั๊มหายไปแล้ว

ผมวิ่งออกมาข้างนอก แฟนเก่าผมกำลังรื้อข้าวของบางส่วนออกมาจากหลุม

“หยุดนะ ปั๊มไม่มีสทธิ์”

“ต้นต่างหากไม่มีสิทธิ์ นี่รูปภาพของเรานะ ผลงานเราทั้งนั้น”  พวกเรายื้อยุด แต่เหมือนผมจะสู้แรงเขาไม่ไหว ปั๊มพยายามรื้อเอาผลงานตัวเองออกมา ผมจุดไฟแช็กขึ้น มองดูหลังที่เปื้อนไปด้วยเลือดของเขา น้ำมันก๊าดในนั้นคงจะพอทำให้ทุกอย่างมอดไหม้ไปได้...

ผมพยายามมองหา 3 คนนี้อีกครั้ง ใต้รอยแตกของพื้นเห็นแสงไฟวิบไหวอยู่กลางบ้านชั้นล่าง ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองวิ่งขึ้นมาถึงชั้นสองตั้งแต่ตอนไหน ผมมั่นใจว่าทั้งสามคนได้ยินเสียงของผม แต่แปลกที่พวกนั้นสงบนิ่งราวกับว่าเป็นแค่เสียงลม

ปั๊มหันมาเห็นจังหวะที่ผมจุดไฟ เขาตะโกนห้ามและพุ่งออกมาจากหลุม เราทั้งคู่ตะลุมบอนกันยกใหญ่ ไฟหลุดมือตกลงไปลุกพรึ่บ ความร้อนของมันเริ่มโหมไหม้ ผมต่อยเขาสุดแรง แต่เหมือนแม่ไม้มวยไทยของเขาเด็ดขาดกว่า ผมลุกขึ้นเงื้อหมัด แต่ถูกเขาถีบจนตัวเซตกลงไป หัวของผมกระแทกขอบหลุม เศษไฟไหม้ลามขอบเสื้อ กลิ่นเนื้อเหม็นไหม้โชยพุ่ง ผมกรีดร้องดังลั่นก่อนที่จะหมดสติไป

“กูบอกแล้วว่าอย่ามาๆ เชื่อกูยัง ที่นี่ของมันแรง” เสียงหนึ่งดัง พวกเขายืนตัวสั่นกลางบ้าน

“อย่าทำพวกเราเลยนะครับ พวกเราไม่ได้มีเจตนาลบหลู่เลย พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย”

ผมเดินลงมาจากชั้นสองอย่างไร้ความรู้สึก ความทรงจำผุดเข้ามาในสมอง โยนซากกระดูกไปที่ทั้งสามก่อนที่พวกนั้นจะแตกฮือหนีไป....

ก่อนที่ผมจะหมดความรู้สึกใดๆ ภาพปั๊มที่กำลังร้องไห้แต่ไม่ช่วยอะไรยังติดค้างในความทรงจำ

ปั๊มคงเดินไปบ้านของเขาที่อยู่ข้างๆ ปล่อยให้ผมกลายเป็นเถ้าถ่านอยู่ตรงนี้คนเดียว....

มันคงย้ายออกไปนานแล้วสินะ...ถึงไม่ได้ยินเสียงผมร้องตะโกนเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

จบ!

메이저놀이터 - 메이저놀이터

토토사이트 - 토토사이트

검증된 토토사이트 추천 - 검증된 토토사이트 추천

검증된 토토사이트추천 - 검증된 토토사이트추천

검증 토토사이트 - 검증 토토사이트

검증된놀이터 - 검증된놀이터

검증된놀이터 추천 - 검증된놀이터 추천

사설토토검증 - 사설토토검증

토토검증업체 - 토토검증업체

검증된 안전놀이터 - 검증된 안전놀이터

안전한놀이터찾는법 - 안전한놀이터찾는법

안전놀이터추천 - 안전놀이터추천

메이저놀이터 - 메이저놀이터

메이저놀이터 추천 - 메이저놀이터 추천

무사고 안전놀이터 - 무사고 안전놀이터

메이저놀이터 - 메이저놀이터

검증안전놀이터 - 검증안전놀이터

메이저놀이터 - 메이저놀이터

먹튀없는 안전놀이터 - 먹튀없는 안전놀이터

검증된메이저놀이터 - 검증된메이저놀이터

사설놀이터 - 사설놀이터

안전놀이터 - 안전놀이터

안전놀이터 추천 - 안전놀이터 추천

메이저놀이터 - 메이저놀이터

검증놀이터 - 검증놀이터

스포츠토토 - 스포츠토토

스포츠토토추천 - 스포츠토토추천

치앙마이맛집 - 치앙마이맛집

개츠비카지노 - 개츠비카지노

와와게임 - 와와게임

ho게임 - ho게임

실시간바카라사이트 - 실시간바카라사이트

먹튀없는 카지노 - 먹튀없는 카지노

안전한 온라인카지노 - 안전한 온라인카지노

namtan26

เด็กใหม่ (2)
เด็กใหม่ (1)
เด็กใหม่ (1)
POST: 89
1 เมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 17.36 น.

หน้า จาก 1 ( 1 ข้อมูล )
แสดงจำนวน ข้อมูลต่อแถว
1

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา