เสริมจมูกแบบสุดปัง ให้ทุก ๆ วันมีแต่ความมั่นใจ
ไม่ว่าใครก็ล้วนแต่อยากมีใบหน้าที่ตรงตามรสนิยมของตัวเองกันทั้งนั้น หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำศัลยกรรมเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมตา, ศัลยกรรมคาง, ศัลยกรรมจมูก, ศัลยกรรมหน้าผาก, ศัลยกรรมโหนกแก้ม รวมไปถึงการศัลยกรรมโครงหน้าหรือกราม
ในปัจจุบันนี้การทำศัลยกรรมมีความปลอดภัยและมีการยอมรับกันมากขึ้น ซึ่งการทำศัลยกรรมบนใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันก็คือการศัลยกรรมจมูก หรือที่มักเรียกกันว่าการเสริมจมูกนั่นเอง เพราะจมูกนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดที่ส่งผลต่อความสมดุลของใบหน้าทั้งแนวตรงและหันข้างเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เองผู้ที่ไม่มั่นใจในจมูกของตัวเอง หรือผู้ที่จมูกเสียทรงจากการเกิดอุบัติเหตุจึงเลือกแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูกโดยการเสริมจมูก และถ้าหากว่าคุณกำลังสนใจเกี่ยวกับการเสริมจมูกอยู่ล่ะก็ ที่นี่ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญไว้แล้ว ซึ่งจะสามารถช่วยให้คุณเลือกเสริมจมูกได้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
เสริมจมูก คือ
การศัลยกรรมจมูก หรือที่นิยมเรียกกันว่าการเสริมจมูก คือวิธีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกด้วยการผ่าตัดและเสริมวัสดุที่ใช้สำหรับการศัลยกรรมโดยเฉพาะเข้าไปตามแนวสันจมูก เพื่อทำให้จมูกโด่งมากขึ้นหรือเพื่อปรับรูปทรงของจมูกให้สมดุลกับรูปหน้า
เทคนิคที่ใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกนั้นมีเทคนิคที่ใช้มากถึง 3 เทคนิคด้วยกัน คือ เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด, เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น และเทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิ-โอเพ่น ซึ่งการเลือกเทคนิคที่ใช้ในการทำจมูกจะต้องพิจารณาถึงลักษณะของจมูก, รูปทรงที่ต้องการแก้ไข, ระยะเวลาการพักฟื้น และงบประมาณค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถเลือกเทคนิคเสริมจมูกได้อย่างเหมาะสมหรือตรงกับความต้องการมากที่สุด
1. เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคเสริมจมูกแบบปิดเป็นการแก้ไขสันจมูกให้โด่งมากขึ้นแบบที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกระดูกอ่อนจมูก โดยการผ่าตัดเปิดแผลภายในโพรงจมูกแล้วจึงใส่ซิลิโคนหรือวัสดุสำหรับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ เข้าไป
ด้วยเหตุนี้รอยแผลผ่าตัดจากการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบปิดจึงไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยและไม่ต้องใช้ยาสลบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเสริมจมูกที่มีแผลขนาดเล็กและใช้เวลาผ่าตัดเพียงไม่นาน นอกจากนี้การทำจมูกด้วยเทคนิคแบบปิดยังมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย
ซึ่งเทคนิคเสริมจมูกแบบปิดนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปลายจมูกไม่สั้นเกินไปและมีเนื้อหุ้มปลายจมูกค่อนข้างหนา หรือผู้ที่สามารถเสริมจมูกได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเดิมของจมูก โดยต้องการเพิ่มความโด่งของจมูก หรือยืดส่วนปลายจมูกให้ยาวขึ้น
2. เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือเทคนิคแบบเปิดนั้นเป็นการแก้ไขโครงสร้างของจมูก โดยการผ่าตัดเปิดแผลตั้งแต่ตำแหน่งกลางจมูกด้านล่างไปจนถึงภายในโพรงจมูกทั้ง 2 ด้าน และทำการเปิดจมูกเพื่อแก้ไขโครงสร้างหรือเสริมจมูกได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้รอยแผลจากการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบโอเพ่นจึงมีส่วนที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก แต่ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะในเวลาเพียงไม่นานรอยแผลผ่าตัดนี้จะค่อย ๆ จางลงจนหายไปเอง ซึ่งการเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้จะใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนานและจำเป็นต้องใช้ยาสลบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเสริมจมูกที่มีแผลขนาดใหญ่และใช้เวลาผ่าตัดนาน นอกจากนี้ยังมีราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีสันจมูกโค้งงอ, จมูกงุ้ม, จมูกสั้น, สันจมูกนูน, ฮัมพ์สูง, จมูกกว้าง, ฐานจมูกใหญ่ หรือผู้ที่มีจมูกไม่ได้สัดส่วน โดยต้องการแก้ไขหรือเสริมจมูกให้กลายเป็นทรงหยดน้ำ
3. เทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิ - โอเพ่น
การเสริมจมูกด้วยเทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิ-โอเพ่นเป็นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกที่รวมทั้งข้อดีจากเทคนิคแบบปิดและเทคนิคแบบโอเพ่น โดยการผ่าตัดเปิดแผลภายในโพรงจมูกทั้ง 2 ด้าน แล้วจึงใส่ซิลิโคนหรือวัสดุสำหรับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ เข้าไป
ด้วยเหตุนี้รอยแผลจากการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเซมิ-โอเพ่นจึงไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยและไม่ต้องใช้ยาสลบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเสริมจมูกที่มีแผลขนาดเล็กและใช้เวลาผ่าตัดเพียงไม่นาน นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขโครงสร้างของจมูกได้สะดวกและทั่วถึง
ซึ่งการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเซมิ-โอเพ่นนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขโครงสร้างของจมูกบางส่วนได้โดยที่ไม่มีรอยแผลอยู่ภายนอก หรือผู้ที่ต้องการเสริมจมูกให้โด่งมากขึ้นแบบที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเบี้ยวหรือทะลุ
วัสดุที่นิยมใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกไม่เพียงแค่มีเทคนิคให้เลือกทำได้หลากหลายเท่านั้น แต่ยังมีวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกให้เลือกใช้มากมายด้วยเช่นกัน ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดที่ใช้ในการเสริมจมูกก็จะมีคุณสมบัติ หรือ ตำแหน่งที่สามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมแตกต่างกันออกไป
1. ซิลิโคน
วัสดุที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการเสริมจมูกนั้นก็คือซิลิโคนนั่นเอง ซึ่งจะใช้เพื่อทำจมูกให้ดูโด่งมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเหลาให้เป็นทรงได้ตามที่ต้องการ
2. กระดูกหลังหู
การเสริมจมูกนอกจากใช้วัสดุประเภทซิลิโคนแล้ว ยังสามารถใช้วัสดุจากร่างกายของตัวเองได้เช่นกัน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการแพ้ ซึ่งวัสดุจากร่างกายที่นิยมใช้เสริมจมูกกันมากที่สุดก็คือกระดูกหลังหูนั่นเอง โดยสามารถใช้ได้ทั้งการเสริมจมูกและการนำมารองซิลิโคนที่ฐานบริเวณปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุ
3. เนื้อเยื่อก้นกบ
เนื้อเยื่อก้นกบเป็นวัสดุจากร่างกายตัวเองที่นิยมใช้เสริมจมูกในส่วนปลาย เพื่อให้ผู้ที่มีเนื้อปลายจมูกบางจนเป็นอุปสรรคในการเสริมจมูก ได้มีเนื้อปลายจมูกหนามากขึ้น และสามารถเสริมจมูกได้โด่งพุ่งตามความต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทะลุ
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
- ปรึกษาและแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวที่เป็น, อาหารหรือยาที่แพ้ รวมไปถึงยาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ
- งดการสูบบุหรี่ก่อนทำการผ่าตัดเสริมจมูกอย่างน้อย 4 สัปดาห์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำการผ่าตัดเสริมจมูกอย่างน้อย 7 วัน
- ช่วง 7 วันก่อนทำการผ่าตัดเสริมจมูกควรงดรับประทานวิตามินหรือยาสมุนไพรต่าง ๆ เช่น วิตามินซี, น้ำมันปลา, แอสไพริน หรือยาแก้ปวด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทหมักดองและอาหารทะเล
- งดการทำสีหรือตกแต่งเล็บมือและเล็บเท้า
- สระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก
- งดการแต่งหน้าและงดใส่เครื่องประดับบนร่างกายทุกชนิด
- ในกรณีที่ใช้ยาสลบในการผ่าตัดเสริมจมูก จำเป็นต้องงดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก
ขั้นตอนดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
- ในช่วง 3 วันแรกหลังการผ่าตัดเสริมจมูกควรประคบเย็นบริเวณสันจมูกด้านซ้ายและด้านขวา, สันจมูกตรงกลางด้านบน และระหว่างคิ้ว เพื่อให้อาการบวมหายเร็วขึ้น รวมถึงช่วยหยุดการไหลของเลือด
- หลังการผ่าตัดเสริมจมูกเสร็จสิ้นควรงดการล้างหน้าเป็นเวลา 3 วัน
- หลังจากพ้น 3 วันแรกไปแล้วให้เปลี่ยนมาเป็นการประคบอุ่นแทน เพื่อลดร่องรอยฟกช้ำ
- ไม่แคะ, เกา หรือขยี้แรง ๆ ในบริเวณจมูก
- นอนหมอนสูงเพื่อไม่ให้เกิดเลือดคั่งในโพรงจมูก
- ในช่วง 7 วันแรกหลังผ่าตัดเสริมจมูกควรหลีกเลี่ยงการไปในบริเวณที่มีฝุ่นมากหรือบริเวณที่อาจทำให้เกิดอาการไอหรือจามได้
- เลือกรับประทานแต่อาหารอ่อน
- งดการรับประทานอาหารประเภทหมักดอง, อาหารทะเล, อาหารดิบ หรืออาหารรสชาติเผ็ดจัด
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือนหลังเสริมจมูก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไปยังใบหน้า
- เมื่อมีอาการคันบริเวณจมูกหรือแผล ควรหลีกเลี่ยงการเกาและเลือกใช้เป็นการเช็ดด้วยสำลีชุบน้ำเกลือแทน
เสริมจมูกราคาเท่าไหร่
สำหรับค่าใช้จ่ายหรือราคาในการเสริมจมูกนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-70,000 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เข้าใช้บริการ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุหรือเทคนิคในการเสริมจมูก
หลังเสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง
อาหารการกินหลังจากที่ผ่าตัดเสริมจมูกนั้น นอกจากอาหารแสลงและอาหารที่แนะนำให้งดในหัวข้อ “ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก” แล้ว ล้วนสามารถรับประทานได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าหากต้องการให้แผลผ่าตัดเสริมจมูกหายเร็วขึ้นและลดอาการบวมช้ำ ก็อาจเน้นไปที่การรับประทานไข่, เนื้อ, ไก่, หมู, ปลาน้ำจืด, น้ำมะพร้าว, สาหร่าย และผลไม้สีเข้มต่าง ๆ
สรุป
การเสริมจมูกเป็นศัลยกรรมเสริมความงามบนใบหน้าที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ใครหลายคนมาไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติบนใบหน้าได้อีกด้วย
โดยการเสริมจมูกนั้นสามารถทำได้หลากหลายเทคนิค เพื่อให้เหมาะสมกับรูปทรงหรือลักษณะปัญหาของจมูกของแต่ละคนมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถเลือกวัสดุที่ใช้เสริมจมูกได้ทั้งซิลิโคนและวัสดุที่มาจากร่างกายส่วนอื่น ๆ ของตัวเอง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการแพ้ได้มากกว่า
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้