การปลูกผม บอกลาปัญหาหัวล้าน สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง

GUEST1649747579

ขีดเขียนดีเด่น (372)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:696
เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.33 น.

ปลูกผม

ในปัจจุบันศัลยกรรมความงามกำลังเป็นที่นิยมกันมากทั้งชายและหญิง หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผมมาบ้างแล้ว สงสัยมั้ยว่าปัญหาแบบไหนที่จำเป็นต้องปลูกผม แล้วการปลูกผมคืออะไร มีกี่ประเภท ปลูกผมธรรมชาติแบบไหนดี บทความนี้มีคำตอบเกี่ยวกับการปลูกผม และศัลยกรรมปลูกผมให้กับคุณ



ปลูกผม คืออะไร

การปลูกผม (Hair Transplant) เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน  ผมบาง ผมน้อยที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์เท่านั้น แต่ยังช่วยแก้เคสศัลยกรรมกลุ่มผู้ป่วยที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนจนหัวล้าน ผมที่นำมาใช้ในการปลูกเป็นผมของตัวผู้เข้ารับรักษา โดยผมที่ขึ้นมาใหม่จะอยู่ในบริเวณที่ศัลยกรรมปลูกผมไว้ถาวร อีกทั้งยังสามารถหลุดร่วงหรือขึ้นใหม่ได้ตามปกติ



ข้อดีและข้อจำกัดของการปลูกผม

การปลูกผมนั้น เป็นการรักษาที่มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ซึ่งผู้ที่ต้องการปลูกผมต้องทราบและเข้าใจเสียก่อน


ข้อดีของการปลูกผม

เราได้สรุปข้อดีของการปลูกผม ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้

  1. เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน และคนที่ต้องการปลูกผม แต่ไม่อยากตัดผม
  2. หลังปลูกเสร็จจะรู้ทันทีว่าเส้นผมหนาขึ้นและเห็นแนวผมได้อย่างชัดเจน
  3. สามารถออกแบบทิศทางของเส้นผมได้ตามต้องการ 
  4. แผลมีขนาดเล็กมาก แห้งเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผล ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีเวลาพักฟื้นน้อย
  5. ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นผมจะกลับมาหลุดร่วงซ้ำ 
  6. ไม่ต้องตัดผม หรือโกนผมให้สั้นก่อนปลูกผม
  7. สามารถคงความยาวของเส้นผมเอาไว้ได้
  8. สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนอื่นดูไม่ออกว่าไปปลูกผมมา
  9. เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเส้นผมทุกรูปแบบ ทั้งผมร่วง ผมบาง หัวล้าน และคนที่ต้องการปลูกผมแบบไม่ต้องตัดผม ไม่ต้องผ่าตัด
  10. เส้นผมใหม่ที่ได้เป็นเส้นผมจริง ดูเป็นธรรมชาติ


ข้อจำกัดของการปลูกผม

การปลูกผมหรือศัลยกรรมปลูกผม มีข้อจำกัดต่าง ๆ ดังนี้ 

 

  1. คนไข้ที่มีความผิดปกติของฮอร์โมนหรือพันธุกรรมที่ทำให้ไม่มีเส้นผมตั้งแต่เกิดอย่างโรคสังข์ทองจะทำให้ไม่สามารถปลูกผมได้
  2. คนไข้ที่มีอาการแพ้ยาชาอย่างรุนแรง
  3. มีเส้นผมบริเวณ DONOR AREA อ่อนแอ มีไม่เพียงพอหรือมีปัญหาผมบางในส่วนท้ายทอย
  4. ไม่สามารถปลูกผมกับคนที่มีอาการผมร่วงได้ทุกแบบ เช่น ผมร่วงเป็นหย่อม โรคหนังศีรษะอักเสบ เป็นต้น
  5. ผู้ที่มีสาเหตุของศีรษะล้านอันเนื่องมาจากการรักษาทางการแพทย์ เช่น เคมีบำบัด
  6. โรคที่ไม่อำนวยให้ทำการปลูกผมได้แก่ โรค HIV โรคฮีโมฟีเลียหรือโรคเลือดออกง่าย โรคติดต่อทางเลือดต่าง ๆ และโรคผิวหนังบางชนิด ซึ่งคนไข้ต้องทำการรักษาโรคเหล่านี้ให้หายขาดหรืออยู่ในระยะคงที่ที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีก จึงจะสามารถทำการปลูกผมได้
  7. การปลูกผมบางแบบ อาจจะทิ้งรอย หรืออาจจะเป็นการปลูกผมแผลเป็นได้



การปลูกผมมีกี่ประเภท

 

ประเภทการปลูกผม

 

ในปัจจุบันเทคนิคที่นิยมใช้ปลูกผมหรือปลูกผมถาวร มีอยู่ 2 ประเภท คือ วิธี FUE และ FUT โดยทั้งสองแบบมีจุดประสงค์เพื่อย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยและเหนือกกหูข้างศีรษะ มาปลูกในบริเวณที่ผมบางแทนนั่นเอง


วิธีปลูกผม Strip FUT

การปลูกผม Strip FUT (Follicular Unit Hair Transplant) คือ วิธีการผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณที่เส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วง จากบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะ นำไปปลูกใหม่ในบริเวณที่ผมบางศีรษะล้าน ที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์

ขั้นตอนการปลูกผม FUT เป็นการปลูกผมไม่ต้องโกนผม จะใช้วิธีการตัดผิวหนังชั้นบนที่ศีรษะจากบริเวณท้ายทอยตามจำนวนกราฟที่ได้คำนวณไว้ออกมาพร้อมกับเซลล์รากขนแล้วเย็บหนังศีรษะเข้าหากัน หลังผ่าตัดจะมีแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวบริเวณท้ายทอย

หลังจากนั้นแพทย์นำหนังศีรษะที่ตัดออกมาเข้ากล้องจุลทรรศน์ และแบ่งเซลล์รากขนออก เป็นกอที่เรียกว่ากราฟ เมื่อแบ่งเรียบร้อยแล้วนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการ

จุดเด่นของการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT จะช่วยให้แพทย์สามารถนำรากผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะได้จำนวนมากภายในเวลาที่สั้นกว่า ทำให้เซลล์รากผมบอบช้ำน้อย โดยที่ผมบริเวณด้านหลังศีรษะนี้จะไม่บางลง ที่สำคัญคนไข้ไม่จำเป็นต้องโกนศีรษะก่อนผ่าตัด ทำให้มีผลข้างเคียงต่ำ เสี่ยงติดเชื้อน้อย เพราะเป็นแผลเย็บปิด ทำให้เนื้อเยื่อด้านในสัมผัสกับอากาศน้อยลง ทำให้เสี่ยงติดเชื้อลดลง การปลูกผมด้วยเทคนิคนี้เหมาะกับคนไข้ที่ต้องใช้จำนวนกราฟจำนวนมาก หรือมีแนวโน้มที่จะต้องปลูกซ้ำหลายรอบ


วิธีปลูกผม FUE

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดย้ายเซลล์ผม โดยวิธีใช้หัวเจาะขนาดเล็ก 0.8-1.2 มม. เจาะลงไปรอบ ๆ กอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นดึงแต่ละกอผมออกจากหนังศีรษะ ไปใส่ในบริเวณที่เตรียมไว้ ซึ่งเป็นการปลูกผมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคในเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 

จุดเด่นการปลูกผมถาวรด้วยวิธี FUE ดีอย่างไร ?

  • คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธี Strip เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมา
  • ปลูกผมถาวร FUE สามารถนำเส้นขนจากบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนบริเวณนั้น ๆ
  • การปลูกผมถาวรแบบ FUE เป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก  และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เห็น
  • ปลูกผม FUE สามารถไว้ผมทรง Skin head ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลบนศีรษะ



ปลูกผม ราคาเท่าไหร่

สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะคำนึงถึงต่อมา ก็คือ ปลูกผม ราคาเท่าไร ปลูกผมแพงไหม ปลูกผมราคาถูกที่ไหนบ้าง เราต้องใช้กี่กราฟและกราฟละเท่าไร แต่ละที่ราคาเท่ากันไหมนี่คือคำถาม ที่จะพบบ่อย ตอบได้เลยว่า แต่ละที่คิดเรทราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ส่วนมากราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ครึ่งแสน บางที่เริ่มต้นที่หลักแสนเลยก็มี

ปัจจัยที่ทำให้ราคาค่าปลูกผมแต่ละที่ต่างกัน คือ จำนวนกราฟผมที่ต้องการปลูก โดยปลูกผมกราฟละประมาณ 100-150 บาท เทคนิคที่เลือก น้ำยาแช่กราฟผม  เครื่องมือที่ใช้และการรักษาควบคู่กับวิธีอื่นเพื่อให้ผมงอกดีขึ้น และที่สำคัญสุดราคาปลูกผมขึ้นอยู่กับจำนวน ‘กราฟผม’ เรามาดูซิว่ากราฟผมที่กล่าวถึงคืออะไร


กราฟปลูกผม

กราฟปลูกผม คือกอผมหรือเนื้อเยื่อของผม ที่แพทย์เจาะจากบริเวณด้านหลังของศีรษะออกมา เพื่อนำไปปลูกในตำแหน่งใหม่ ปกติ 1 กราฟผมจะมีเส้นผมตั้งแต่ 1-4 เส้น ซึ่งแต่ละคนจะใช้กราฟผมไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต่างกัน เพื่อให้ได้กราฟผมที่แม่นยำและมีความพอดีกับการปลูกผม จำเป็นต้องมีการประเมินปัญหาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น



การเตรียมตัวก่อนปลูกผม 

 

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม

เมื่อเราตัดสินใจที่จะปลูกผมแล้ว สิ่งที่เราต้องทำถัดมา คือ การเตรียมตัวก่อนปลูกผม โดยเราได้สรุปสิ่งที่จะต้องเรียนรู้และเตรียมตัวไว้ ดังนี้

  • นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่
  • ถ้ามีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาเป็นประจำ หรือมีประวัติการแพ้ยา ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • งดการใช้ Rogaine หรือ Minoxidil ที่เป็นสารช่วยให้เส้นผมดกขึ้นอย่างน้อย 7 วัน
  • ผู้ป่วยโรคความดันสูงที่มีการใช้ยา Beta Blocker ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะต้องเปลี่ยนยา เพราะอาจมีผลกับยาที่ใช้ในการผ่าตัดได้อย่างน้อย 7 วัน
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดทานอาหารหมักดองก่อนเข้ารับการปลูกผม
  • ควรรับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย เนื่องจากขั้นตอนปลูกผมใช้เวลาค่อนข้างนาน
  • ควรรับประทานยาประจำตัวให้เรียบร้อย เช่น ยาเบาหวาน ยาลดความดัน 
  • งดทานยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), ยาแก้อักเสบอย่างน้อย 7 วัน
  • แนะนำให้ใส่เสื้อเชิ้ตที่มีกระดุมด้านหน้า หรือเสื้อยืดคอกว้าง เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนเสื้อก่อนเข้ารับการปลูกผม จะได้ไม่โดนแผลเวลาใส่ตอนกลับบ้าน
  • งดการทำผมทุกชนิด และสระผมมาให้เรียบร้อย
  • ควรมีผู้ติดตามมาด้วยในวันที่เข้ารับการปลูกผม เพราะมีการใช้ยาชาหรือให้ยานอนหลับในระหว่างการปลูกผม เมื่อทำเสร็จอาจยังคงมีอาการชาและมึนงงได้



วิธีปลูกผม

วิธีปลูกผมแบบ FUT นี้เป็นเทคนิคปลูกผมในยุคดั้งเดิม โดยเทคนิคการปลูกผมจะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยแพทย์จะผ่าเอาหนังศีรษะออกมาเป็นเส้นยาวทั้งด้านหลังศีรษะ จากนั้นเย็บแผลประกบกัน นำผมที่ได้มาแบ่งเป็นกราฟหรือกอผมใต้กล้องจุลทรรศน์ ชิ้นส่วนกอผมที่ได้มานำไปปลูกลงตรงบริเวณที่ต้องการ 

ซึ่งเทคนิค FUT นี้ต้องใช้เวลากว่า 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้แผลผ่าตัดด้านหลังปิดสนิทและหายดี เมื่อครบ 1 สัปดาห์ คนไข้ต้องไปตัดไหมที่แผลเย็บด้านหลัง เมื่อแผลหายดีแล้วด้านหลังศีรษะจะยังมีรอยแผลเป็นเส้นยาวประมาณ 20-30 ซม. ดังนั้นคนไข้ควรไว้ผมยาว เพื่อปกปิดรอยแผลเป็น

วิธีปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่ใหม่กว่า โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือที่เหมือนหลอดขนาดเล็กวางคร่อมกอผม และทำการเจาะกอผมออกมาทีละกอจากบริเวณด้านหลังศีรษะหรือด้านข้างศีรษะ  กอผมที่เจาะออกมาจะคัดแยกและจัดกลุ่มให้เหมาะสม เพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งเทคนิคแบบ FUE จะได้รับความนิยมมากกว่า FUT เพราะเจ็บน้อยกว่า และแผลด้านหลังหายเร็วกว่าแบบ FUT 

ข้อแตกต่างของการปลูกผม FUT และ FUE ทั้ง 2 วิธีที่เห็นได้ชัดเจน

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คือ จะไม่มีรอยแผลซึ่งจะพบได้ในการปลูกผมด้วยเทคนิค FUTเป็นแผลแนวยาว 15-30 ซม. 

  • วิธี FUE คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธี FUT เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมา
  • วิธีการนำกอผมออกมาปลูก วิธีปลูกผม FUE ใช้การเจาะออกมา ส่วนวิธีปลูกผม FUT ใช้วิธีผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว 
  • ส่วนคนที่ศีรษะล้านมาก ๆ และต้องการกราฟผมมากประมาณ 3000 - 4000 กราฟขึ้นไป ควรเลือก ใข้วิธี FUT เพราะวิธีนี้สามารถนำกราฟผมออกมาได้ครั้งละมาก ๆ และใช้เวลาน้อยทำให้รากผมแข็งแรงสมบูรณ์ กว่าวิธี FUE จะนำกราฟผมขึ้นมาได้ครั้งละน้อย
  • คนที่ต้องการไว้ผมสั้น ๆ เช่น Skin head หรือต้องการฟื้นตัวเร็ว ควรเลือก FUE

ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมของทั้ง 2 วิธีนี้ไม่แตกต่างกัน ผมที่ทำการปลูกใหม่จะงอกเต็มที่ในเดือนที่ 12-18 และสวยงามเป็นธรรมชาติ



การดูแลตัวเองหลังปลูกผม

 

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม

เมื่อทำการปลูกผมเสร็จแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังจากปลูกผม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้การปลูกผมได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน ควรปฏิบัติตัว ดังต่อไปนี้

  • ห้ามแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาดหรือทำให้แผลบริเวณที่ปลูกผมถูกกระทบกระเทือน หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง โดยสะเก็ดแผลจะหลุดเองภายใน 2 สัปดาห์
  • ขณะสระผมห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ปลูกผม ใช้น้ำอุณหภูมิปกติและไม่แรงจนเกินไป ทำให้ผมแห้งแค่ซับเบา ๆ ก็พอ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันเลือดออกและการบวมที่ศีรษะ
  • งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และงดกีฬาที่มีการกระทบกระแทก เช่น ฟุตบอลอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดว่ายน้ำและซาวน่า เป็นเวลา 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการตากแดด เพราะความร้อนมีผลต่อเซลล์รากผม สวมหมวกป้องกันได้ แต่อย่าสวมให้แน่นจนเกินไป
  • หลังปลูกผม 1 วัน สามารถสระผมได้ตามปกติ  แต่ต้องทำอย่างเบามือโดยสัปดาห์แรกใช้เป็นแชมพูอ่อนๆ ประมาณ 2 สัปดาห์และแนะนำเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง ห้ามใช้ลมร้อนจากเครื่องเป่าผมประมาณ 1 เดือน
  • สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ อาบน้ำและล้างหน้าได้ 
  • มาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลจากการปลูกผมจนเป็นที่พึงพอใจ

       



สรุปเรื่องปลูกผม

 

สรุปเรื่องปลูกผม

การทำศัลยกรรมปลูกผม (Hair Transplant) เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน  ผมบาง ผมน้อยที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ เราก็จะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี พร้อมเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพราะเรื่องผมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และที่สำคัญ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

 
แก้ไขครั้งที่ 2 โดย GUEST1649747579 เมื่อ21 มิถุนายน พ.ศ. 2566 11.19 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา