รากฟันเทียม วิธีรักษาที่ทำให้คุณกลับมายิ้มสวยเป็นธรรมชาติอีกครั้ง

GUEST1649747579

ขีดเขียนดีเด่น (365)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:685
เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 06.27 น.

 รากฟันเทียม

หลายคนคงเคยสงสัยและอยากรู้ว่า อะไรคือรากฟันเทียม และทำไมต้องใส่ วันนี้เรามาทำความรู้จักกันก่อนที่จะทำรากฟันเทียม และอาจจะมีบางคนที่กำลังวางแผนจะลงทุนในการทำรากฟันเทียม เชื่อว่าคุณคงกำลังหาข้อมูล จากแหล่งต่าง ๆ จนอาจกลายเป็นความลังเลในใจโดยเฉพาะเรื่องการผ่าตัด จะเจ็บมั้ย ใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน มีข้อดีอย่างไร อย่าปล่อยให้ความลังเลเหล่านี้มาทำให้คุณต้องพับโครงการ  บทความนี้เรามีคำตอบให้กับคุณ



รากฟันเทียม

รากฟันเทียม (dental implant) คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันทำจากวัสดุไททาเนียม titanium ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อให้เข้ากับร่างกายของคนเราได้ดี จึงสามารถฝังลงเพื่อให้ยึดติดกับกระดูกขากรรไกรในตำแหน่งที่สูญเสียรากฟันธรรมชาติไป ช่วยรองรับในการทำฟันเทียมแบบติดแน่น และแบบถอดได้ ปัจจุบันการใส่รากฟันเทียมถือเป็นวิธีการใส่ฟันที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด


รากฟันเทียม vs สะพานฟัน ต่างกันอย่างไร 

รากฟันเทียมและสะพานฟัน แตกต่างกันด้วยวิธีการทำแตกต่างกันอย่างไร เรามาดูกันเลย

  • การทำรากฟันเทียม เป็นวิธีฝังรากเทียมลงในกระดูกบริเวณขากรรไกรที่เกิดการสูญเสียฟันแท้ แล้วทำการครอบฟันลงไปบนรากเทียมอีกที ซึ่งการทำรากฟันเทียม เป็นวิธีที่ไม่ทำให้เราสูญเสียเนื้อฟันที่ดีไป สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเหมือนฟันปกติ แต่การทำรากฟันเทียมจะต้องมีการผ่าตัด และรากฟันเทียมราคาที่ค่อนข้างสูง

  • การใส่สะพานฟัน เป็นการใส่ฟันเทียมเข้าไปทดแทนช่องว่างที่เกิดการสูญเสียฟันไป ด้วยการกรอฟันซี่ข้าง ๆ ช่องว่างให้มีขนาดเล็กลง แล้วนำสะพานฟันสามซี่มาครอบลงไป ซึ่งวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ ไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจทำให้การทำความสะอาดเข้าถึงยากกว่าปกติ แถมยังเสียเนื้อฟันที่ดีไปกับการกรอฟัน



ใครที่ควรทำรากฟันเทียม

 

ใครที่ควรทำรากฟันเทียม

แล้วใครบ้างที่ประสบปัญหาฟัน จนต้องทำรากฟันเทียม ซึ่งเราได้สรุปไว้ให้ดังนี้

  • บุคคลที่มีการสูญเสียฟัน และปฏิเสธการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
  • บุคคลที่ต้องการใส่ฟันเพียงซี่เดียว โดยที่ฟันข้างเคียงในสภาพดี
  • บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะกระดูกขากรรไกรมีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างเต็มที่แล้ว
  • บุคคลที่ไม่ต้องการกรอฟันในการทำสะพานฟันติดแน่น
  • บุคคลที่ใส่ฟันปลอมทั้งปาก และพบปัญหากระดูกขากรรไกรยุบตัวลงทำให้ฟันปลอมหลุดง่าย สามารถแก้ไขได้ด้วยการฝังรากเทียมไทเทเนียม จะช่วยยึดฟันปลอมให้แน่นขึ้น



ข้อดี-ข้อจำกัด ของการทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียม ก็มีทั้งดีและข้อจำกัด ซึ่งใครที่กำลังสนใจจะทำนั้น จะต้องทราบและเข้าใจเสียก่อน

ข้อดีของการทำรากฟันเทียม

  • เพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพที่ดี พูดและยิ้มได้อย่างเต็มที่
  • ทำให้สุขภาพอนามัยในช่องปากดีขึ้น และช่วยรักษาเนื้อเยื่อของเหงือก เนื่องจากโครงสร้าง ของฟันสมบูรณ์และแข็งแรง
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว ดังนั้นจึงทำให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น
  • ป้องกันการสูญเสียฟันและกระดูกข้างเคียง
  • ช่วยบูรณะโครงสร้างของใบหน้าเพื่อความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
  • สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติและการใช้งานที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด 
  • ช่วยการใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ความรู้สึกสบาย มีความแน่นกระชับมากยิ่งขึ้น
  • พูดออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำเป็นธรรมชาติ ไร้ปัญหาด้านการออกเสียง  
  • ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในช่องปากได้
  • มีความคงทนและอยู่ถาวร

ข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียม

  • ราคาสูงกว่าฟันปลอมประเภททั่วไป
  • การทำรากฟันเทียมไม่สามารถทำในเด็กที่อายุต่ำกว่า18ปี เนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
  • มีข้อจำกัดสำหรับผู้มีโรคประจำตัว
  • คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความเสี่ยงในการรักษาโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน บางกรณีอาจใช้เวลาถึง 1 ปี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องปลูกกระดูกสันเหงือกเพิ่มเติม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการได้ โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ โรคไขข้ออักเสบรุนแรง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคกระดูกพรุน ฯลฯ จำเป็นต้องมีการปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด



ขั้นตอนทำรากฟันเทียม

ขั้นตอนทำรากฟันเทียม

มารู้กันก่อนทำจริงเกี่ยวกับขั้นตอนการทำรากฟันเทียมแบบเจาะลึก แล้วคุณจะพบว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยทำให้การรักษาง่ายขึ้น ลดความเจ็บปวด และสามารถฟื้นตัวได้ไว ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 

  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากอย่างละเอียด, ตรวจ x-ray หรือถ้าจำเป็นจะทำ CT Scan เพื่อประเมินความหนาของกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อบนสันเหงือก อาจทำการพิมพ์ปาก เพื่อใช้วางแผนการรักษา ระยะเวลา หรือต้องทำหัตถการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ปลูกกระดูก ยกโพรงไซนัส
  • การฝังรากฟันไทเทเนียม ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ให้ก่อน จากนั้นจะทำการผ่าตัดฝังรากฟันไทเทเนียมลงไปในกระดูกขากรรไกร และเย็บปิดแผล จากนั้น 7-14 วัน จึงมาตัดไหมที่เย็บออก 
  • รอประมาณ 3-6 เดือน เพื่อรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกร
  • ทันตแพทย์จะใส่เครื่องมือที่ช่วยสร้างร่องเหงือก จากนั้น 1-2 สัปดาห์ จะทำการพิมพ์ปาก เพื่อส่งทำครอบฟัน
  • ทันตแพทย์จะใส่ครอบฟันบนรากฟันเทียมให้ ก็จะได้ฟันที่สวยงามและมีประสิทธิภาพการใช้งานใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ 



วิธีดูแลตนเองหลังทำรากฟันเทียม


จริง ๆ แล้วการดูแลตัวเองหลังการรักษารากฟันเทียม เพื่อให้มีอายุการใช้งานนาน ๆ สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ปฏิบัติตนดังนี้

  • ในช่วง 1-2 เดือนแรกที่เข้ารับการฝังรากฟันเทียมมา ให้หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีความแข็งหรือมีความเหนียว เพื่อเป็นการป้องกันการกระแทกจากการบดเคี้ยวที่รุนแรง
  • ดูแลรักษาช่องปากให้สม่ำเสมอ ทั้งการแปรงฟัน บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  • ลดการทานของร้อนของเผ็ดจัด หรือเย็นจัดเกินไป 
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และยาสูบประเภทอื่นๆ
  • รับประทานยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง หากมีความผิดปกติควรรีบพบทันตแพทย์

เพียงเท่านี้ก็สามารถจะทำให้รากฟันเทียมคงทนและอยู่กับเราได้นานตามอายุการใช้งานแล้ว



สรุป

สรุปรากฟันเทียม

การใส่รากฟันเทียมเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร และต้องการใส่ฟันทดแทนที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้เหมือนฟันปกติสวยตามตามธรรมชาติ แต่ที่สำคัญ ในการทำรากฟันเทียมจะต้องมีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง สามารถมาพบทันตแพทย์ได้ตลอดการรักษา ซึ่งเราควรจะรักษาฟันของตนเองไว้ให้ดีที่สุด ถ้าหากมีปัญหา ก็ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 06.27 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา