12 น้ำตบ ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น หน้าขาวใส ลดสิว ปี 2023
ผิวหน้าของเราคือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากว่าผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น ก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย แต่สำหรับบางคนอาจใช้แค่ครีมบำรุงผิวหน้าเพียงอย่างเดียวอาจให้ความชุ่มชื้นได้ไม่เพียงพอ จึงควรใช้น้ำตบเพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่าน้ำตบกันมาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่ได้รู้จักมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับน้ำตบกันว่าคืออะไร มีคุณสมบัติและลักษณะเป็นแบบไหน รวมถึงแนะนำวิธีใช้น้ำตบและไขข้อสงสัยว่าน้ำตบใช้ตอนไหนดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้รวบรวมน้ำตบทั้ง 12 ยี่ห้อมาแนะนำ เพื่อผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้น้ำตบยี่ห้อไหนดีได้นำไปประกอบการตัดสินใจ
รู้จัก น้ำตบ (Essence Water)
Water Essence หรือ Facial Essence หรือที่เรามักเรียกกันว่าน้ำตบ คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายกับน้ำ ซึ่งจะมีทั้งแบบสีใสและสีขุ่น โดยน้ำตบจะมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้เป็นอย่างดี
และคุณสมบัติหลัก ๆ ของน้ำตบก็คือช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำและเนียนนุ่มขึ้น แต่นอกจากให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าแล้ว น้ำตบยังช่วยในการบำรุงผิวและผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย ทั้งนี้น้ำตบแต่ละยี่ห้อก็อาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ที่แตกต่างกันออกไปตามส่วนผสมที่มี
วิธีการเลือกน้ำตบ ให้เหมาะกับสภาพผิว
การใช้น้ำตบให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุดควรจะเลือกใช้น้ำตบที่มีคุณสมบัติเหมาะกับสภาพผิวหน้าของตนเอง เพราะหากใช้น้ำตบที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าตัวเองนอกจากจะทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควรเป็นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการแพ้หรือเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย
- ผิวบอบบาง แพ้ง่าย
สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกใช้น้ำตบที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ต่าง ๆ เช่น น้ำหอม พาราเบน หรือแอลกอฮอล์
- ผิวแห้ง ขาดน้ำ
สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งขาดน้ำ ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีมอยส์เจอไรเซอร์สูง ซึ่งจะเน้นไปที่การเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ผิวมัน รูขุมขนกว้าง
สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมันและรูขุมขนกว้าง ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีคุณสมบัติช่วยลดหรือควบคุมความมันบนใบหน้า เพื่อช่วยลดโอกาสการอุดตันของรูขุมขนจนกลายเป็นสิว
- ผิวหมองคล้ำ
สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวหมองคล้ำ ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมนอกจากการให้ความชุ่มชื้นคือคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและช่วยปรับสีผิวให้ดูขาวกระจ่างใส
- ผิวมีริ้วรอย
สำหรับผู้ที่สภาพผิวมีริ้วรอย ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีคุณสมบัติให้ทั้งความชุ่มชื้นและมีส่วนผสมที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำให้ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหน้าลดลงได้
- ผิวมีจุดด่างดำ
สำหรับผู้ที่สภาพผิวมีจุดด่างดำ ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีส่วนผสมที่สามารถยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน และช่วยปรับสีผิวให้ดูดสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้จุดด่างดำที่มีลดเลือนลง
12 น้ำตบ ยี่ห้อไหนดีที่สุด อัพเดตปี 2023
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับน้ำตบกันมาแล้ว บางคนอาจเริ่มสนใจและอยากลองซื้อมาใช้ดูบ้างสักขวด แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกน้ำตบยี่ห้อไหนดี ในหัวข้อนี้เราก็ได้รวบรวมน้ำตบที่น่าสนใจทั้ง 12 ยี่ห้อมาให้คุณได้รู้จักกัน ไม่แน่ว่า 1 ในบรรดาน้ำตบนี้อาจเป็นน้ำตบที่ตรงกับความต้องการของคุณก็ได้
1. น้ำตบ Bioderma Sebium Lotion 200 ML
น้ำตบ Bioderma Sebium Lotion เป็นน้ำตบที่อยู่ในแบรนด์ของเวชสำอางชื่อดังในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่มักแนะนำ โดยน้ำตบ Bioderma Sebium Lotion นั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลผิว ลดความมันบนใบหน้า ลดโอกาสการเกิดสิว และช่วยกระชับรูขุมขนอีกด้วย นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และพาราเบน ทำให้แม้แต่ผู้ที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถที่จะใช้ได้โดยไม่ต้องกังวล
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีสภาพผิวผสม และผู้ที่มีสภาพผิวมัน
ส่วนประกอบ : Zinc gluconate, Vitamin B6, Capryloyl glycine, Fluidactiv® patented, Agaric acid, Salicylic acid, Hydrating Power
ปริมาณ : 200 มิลลิลิตร
ราคา : 760-800 บาท
พิกัด : ร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ เช่น Watson หรือ Eveandboy เป็นต้น
2. ORIGINS Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Treatment Lotion
น้ำตบ ORIGINS Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Treatment Lotion เป็นน้ำตบสูตรใหม่ของน้ำตบเห็ดชื่อดังที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ซึ่งน้ำตบเห็ดสูตรใหม่นี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าแล้ว ยังช่วยลดปัญหารูขุมขนอุดตัน กระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมและปกป้องผิวอีกด้วย
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Molecular Mushroom Complex, Hyaluronic Acid, Adaptogenic Licorice Root, Plantmunity Technology
ปริมาณ : 100-200 มิลลิลิตร
ราคา : 1,150-1,800 บาท
พิกัด : Eveandboy, Sephora, Origins
3. น้ำตบ ZA True White Essence Lotion
น้ำตบ ZA True White Essence Lotion เป็นน้ำตบที่เน้นไปที่การช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยสิวต่าง ๆ บนใบหน้า แต่ก็ยังคงให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี นอกจากนี้ยังส่วนผสมที่จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะอีกด้วย
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Moisturizing ingredient, Effective Whitening agent, Water-soluble Vitamin C
ปริมาณ : 150 มิลลิลิตร
ราคา : 400-420 บาท
พิกัด : Watson
4. น้ำตบ Hada Labo Premium Lotion
น้ำตบ Hada Labo Premium Lotion เป็นหนึ่งในสูตรของน้ำตบชื่อดัง Hada Labo ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย หมดกังวลเรื่องปัญหาผิวโทรมและริ้วรอยบนใบหน้า
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีสภาพผิวแห้งขาดน้ำ
ส่วนประกอบ : Penetrating Hyaluronic Acid, Fermented Hyaluronic Acid, Hyaluronic Acid, Hydrolyzed Collagen, Active Peptides
ปริมาณ : 170 มิลลิลิตร
ราคา : 580 บาท
พิกัด : Watson, Eveandboy , Beautrium
5. น้ำตบ Hatomugi Skin Conditioner Lotion
น้ำตบ Hatomugi Skin Conditioner Lotion หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อว่าน้ำตบลูกเดือยนั่นเอง ซึ่งน้ำตบลูกเดือยนั้นเต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว รวมถึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ จึงทำให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมานุ่มน่าสัมผัส
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Water, Dipropylene Glycol, Butylene Glycol, Glycerin, Dipotassium, Glycyrrhizate, Coix Lacryma-Jobi(Job's tears)Seed Extract, Styrene/Acrylates Copolymer, Alcohol, Citric Acid, Sodium Citrate, Methylparaben, Propylparaben
ปริมาณ : 500 มิลลิลิตร
ราคา : 280-350 บาท
พิกัด : Watson, Hatomugi
6. น้ำตบ SK-II Facial Treatment Essence
น้ำตบ SK-II Facial Treatment Essence เป็นน้ำตบที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลและผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย จึงทำให้จุดด่างดำดูลดเลือนลง ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส กระชับ และเรียบเนียนขึ้น
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Galactomyces Ferment Filtrate, Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid
ปริมาณ : 230 มิลลิลิตร
ราคา : 7,900 บาท
พิกัด : Sephora, Central
7. น้ำตบ Lancome Clarifique Dual Essence
น้ำตบ Lancome Clarifique Dual Essence เป็นน้ำตบที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม สารแต่งสี ซิลิโคน และน้ำมันแร่ สามารถใช้ได้แม้จะมีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย อีกทั้งน้ำตบ Lancome สูตรนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอและกระจ่างใส
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Beech Bud Extract, Salicylic Acid, Vitamin C, Lipidic-enriched essence
ปริมาณ : 150 มิลลิลิตร
ราคา : 3,400 บาท
พิกัด : Sephora, Lancome
8. น้ำตบ LA MER The Treatment Lotion
น้ำตบ LA MER The Treatment Lotion เป็นน้ำตบที่มีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก และช่วยกระชับรูขุมขน อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้ากระชับและดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ช่วยให้รู้สึกเหมือนกลับไปเยาว์วัยอีกครั้ง
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Cell-recharging miracle broth, The revival ferment, Active liquid hydrogel
ปริมาณ : 100 มิลลิลิตร
ราคา : 4,700 บาท
พิกัด : Central, LA MER
9. น้ำตบ Biotherm Life Plankton Clear Essence
น้ำตบ Biotherm Life Plankton Clear Essence เป็นน้ำตบที่มีไลฟ์แพลงตอนเป็นส่วนผสม ซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาแต่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึก โดยน้ำตบ Biotherm สูตรนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าแล้ว ยังช่วยฟื้นบำรุงและผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีสภาพผิวมัน และผู้ที่มีสภาพผิวผสม
ส่วนประกอบ : Life Plankton 5%
ปริมาณ : 200 มิลลิลิตร
ราคา : 3,500 บาท
พิกัด : Central, Sephora, Eveandboy
10. น้ำตบ Kose Sekkisei Lotion
น้ำตบ Kose Sekkisei Lotion เป็นน้ำตบที่เต็มไปด้วยสมุนไพรญี่ปุ่นและสมุนไพรจีน โดยน้ำตบ Kose Sekkisei Lotion นั้นช่วยได้ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส ช่วยลดความหยาบกร้าน และช่วยลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยต่อต้านมลภาวะภายนอกอีกด้วย
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : สารสกัดจากโสมและพืชพันธุ์ตะวันออกต่าง ๆ เช่น Coix Seed, Angelica, Melothria
ปริมาณ : 200 มิลลิลิตร
ราคา : 1,450 บาท
พิกัด : Kose, Central
11. น้ำตบ Sewa Insam Essence
น้ำตบ Sewa Insam Essence เป็นน้ำตบที่เต็มไปด้วยโสมและสมุนไพรเกาหลีมากมาย ที่จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิว ยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำให้แลดูจางลง
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว
ส่วนประกอบ : Gingseng Root Extract, Pinus Palustrist Leaf Extract
ปริมาณ : 120 มิลลิลิตร
ราคา : 990 บาท
พิกัด : Watson, Sewa Thailand
12. น้ำตบ Kiehl's Ferulic Brew Rejuvenating Facial Essence
น้ำตบ Kiehl’s Ferulic Brew Rejuvenating Facial Essence เป็นน้ำตบที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ที่สกัดมาจากเมล็ดผักกาดด้วยวิธีการหมักแบบโบราณ ซึ่งก็คือการต้มกลั่นเป็นเวลานานกว่า 120 ชั่วโมง โดยน้ำตบ Kieh’s จะมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดี
เหมาะกับใคร : ทุกสภาพผิว ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่าย
ส่วนประกอบ : Ferulic Acid, Lactic Acid, Squalane
ปริมาณ : 100-200 มิลลิลิตร
ราคา : 1,900-3,000 บาท
พิกัด : Central, Kiehl’s
วิธีใช้น้ำตบอย่างถูกวิธี
การใช้น้ำตบควรใช้หลังจากที่ทำความสะอาดใบหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ซับหน้าให้แห้งก็สามารถลงน้ำตบบนใบหน้าได้เลย หรือถ้าหากใครมีโทนเนอร์ก็สามารถใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหน้าเพื่อเปิดรูขุมขนก่อนลงน้ำตบได้เช่นกัน
หลังจากที่ได้ทำการลงน้ำตบบนผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่น้ำตบบนผิวหน้ากำลังหมาด ๆ อยู่นั้นสามารถลงมอยส์เจอไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ต่อได้เลยทันที เพราะจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
น้ำตบ แตกต่างจากโทนเนอร์และเซรั่มอย่างไร
เห็นสีใส ๆ และเป็นน้ำเหลว ๆ เหมือนกัน บางคนอาจยังคงสับสนอยู่ระหว่างน้ำตบ โทนเนอร์ และเซรั่ม ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาอธิบายให้เห็นภาพและเข้าใจได้ง่าย ๆ กันว่าทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
น้ำตบ ต่างจากโทนเนอร์อย่างไร
น้ำตบคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหน้าก่อนที่จะลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่น ๆ ต่อไป แต่สำหรับโทนเนอร์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เตรียมผิวหน้าให้พร้อมต่อการบำรุง โดยจะใช้เช็ดผิวหน้าหลังจากที่ทำความสะอาดหรือล้างหน้ามาแล้ว ซึ่งโทนเนอร์จะช่วยปรับค่า ph ของผิวให้มีความสมดุล ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และช่วยเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุง
น้ำตบ ต่างจากเซรั่มอย่างไร
น้ำตบและเซรั่มนั้นมีโมเลกุลที่เล็กไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก แต่จะแตกต่างกันที่ความบางเบาของเนื้อสัมผัสและความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ สำหรับความบางเบาของเนื้อสัมผัสนั้นน้ำตบจะมีความบางเบามากกว่าเซรั่ม เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมากกว่า แต่ในส่วนของความเข้มข้นสารออกฤทธิ์ น้ำตบจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าเซรั่มในระดับหนึ่ง
น้ำตบจำเป็นไหม?
บางคนอาจสงสัยว่า “มีครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้น้ำตบเพิ่มอีก จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ?” จะบำรุงผิวหน้าทั้งที ไม่ว่าใครก็คงอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีและเต็มประสิทธิภาพที่สุดกันทั้งนั้น และน้ำตบก็ช่วยได้อย่างตรงจุดแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าพร้อมรับผลิตภัณฑ์บำรุงตัวต่อไปแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปที่จะลงอีกด้วย
นอกจากนี้ถ้าหากใครที่ใช้ครีมบำรุงแล้วผิวก็ยังไม่ชุ่มชื้น หรือชุ่มชื้นไม่เพียงพอ การใช้น้ำตบก่อนลงครีมบำรุงก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้น
ข้อสรุป
ความชุ่มชื้นของผิวหน้านั้นสำคัญอย่างมาก เพราะความชุ่มชื้นที่ไม่เพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย หรือผิวที่หยาบกร้าน ซึ่งน้ำตบนั้นเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกที่สุด เนื่องจากมีโมเลกุลเล็กทำให้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวไว้อีกด้วย
ดังนั้นถ้าหากใครที่รู้สึกว่าผิวยังได้รับความชุ่มชื้นจากครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำไม่เพียงพอ หรือต้องการให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวดียิ่งขึ้น การมีน้ำตบไว้ใช้เพิ่มสักขวดอาจตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้