x3QQTiCjIPWY11276GBR
ปัญหาผมบาง ผมร่วงหนักจนสูญเสียความมั่นใจในการออกไปใช้ชีวิตประวันจำอยู่หรือไม่? การปลูกผมจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ปลอดภัย แก้ปัญหาได้ตรงจุด และมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งการฉีด PRP ผมจะมาช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ตรงจุด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระยะยาว ฟื้นฟูความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีได้ทันทีหลังทำเสร็จ
เทคนิคการฉีด PRP ผม
การทำ PRP ผม (Platelet Rich Plasma) เป็นนวัตกรรมการปลูกผมที่ได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบางโดยเฉพาะ แบบที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว และไม่ใช้สารเคมี โดยการนำเกล็ดเลือดของตัวเองมาปั่นเพื่อแยกเกล็ดเลือด ซึ่งจะแยกเอาส่วนของเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดมาใช้เป็นส่วนพลาสม่าในเลือดที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น และสารต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Growth Factor สารเหล่านี้ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้บริเวณที่ฉีด PRP ผม เซลล์รากผมจะได้รับการฟื้นฟู มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเซลล์มากขึ้น ถูกกระตุ้นให้สร้างเส้นผมมากขึ้น โดยมีเทคนิคการทำดังนี้
เกล็ดเลือดเข้มข้น
เกล็ดเลือดเข้มข้น เป็นการนำเอาเลือดตัวเองมาปั่นโดยใช้เครื่องเหวี่ยงสาร (Centrifuge) แยกเฉพาะส่วนที่เป็นพลาสมาออกจากเลือดมาใช้ซึ่งพลาสมาในเลือดที่ได้มานั้นจะอุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้นและสารต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Growth Factor สารเหล่านี้ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ เมื่อทำการฉีด PRP บริเวณหนังศีรษะมีปัญหาเรื่องผม เซลล์รากผมจะได้รับการฟื้นฟู มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเซลล์มากขึ้น ถูกกระตุ้นให้สร้างเส้นผมและทำให้รากผมแข็งแรงมากขึ้น
ควรฉีด PRP ผม กี่ครั้งให้เห็นผล
โดยปกติแล้วการฉีด PRP จะฉีด 3-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและความรุนแรงของอาการของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง 2-3 เดือน โดยเดือนแรกของการรักษาจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และหากรักษาอย่างต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งผมร่วงน้อยลง ผมเกิดใหม่มากขึ้น สุขภาพเส้นผมดูแข็งแรง ยิ่งหากผู้รับการรักษาดูแลตัวเองได้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉีด PRP ผม อยู่ถาวรไหม
การฉีด PRP ผมจำเป็นที่จะต้องกลับมาทำซ้ำทุก ๆ 3-6 เดือน เพื่อให้เห็นผลในระยะยาว และควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจาก PRP ที่นำมาฉีด ทำจากเลือดของผู้เข้ารับการรักษาเองในวันที่ปลูกผม หากเตรียมตัวไม่ดี PRP จะไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร ส่งผลให้การปลูกผมเห็นผลน้อยลงได้ แต่หากว่าบริเวณที่ต้องการปลูกผม ผมไม่สามารถงอกได้แล้วหรือไม่มีผมงอกมาตั้งแต่ต้น แพทย์จะแนะนำให้รักษาอาการดังกล่าวด้วยการปลูกผมถาวร อย่างการปลูกผม FUE หรือปลูกผม FUT
ข้อดีของการรักษาด้วยการฉีด PRP ผม
- เป็นวิธีการปลูกผมที่ปลอดภัย และความเสี่ยงต่ำมาก เนื่องจากแผลจะมีแค่แผลจากการฉีด PRP เท่านั้น ซึ่งมีขนาดเล็กมาก เมื่อหายก็ไม่ทิ้งรอย อีกทั้งการฉีด PRP ผมที่นำมาฉีดยังเป็นสิ่งที่มาจากร่างการเราเอง ดังนั้นโอกาสที่จะแพ้หรือร่างกายปฏิเสธมีน้อยมาก
- ทำง่าย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่มีรอยแผลเป็นทิ้งไว้ ขั้นตอนการรักษาก็ไม่เจ็บสักนิด
- การทำ PRP เป็นวิธีการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ผลในระยะยาว สามารถเห็นผลได้จริง เกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
- ใช้การทำ PRP ผมร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้ เช่น การทำเลเซอร์ผมหรือยาใช้รักษาผมร่วง ผมบาง
ฉีด PRP ผมเหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้
การฉีด PRP ผมจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง มีภาวะผมร่วงเป็นหย่อมหรือผมเส้นเล็กที่ยังมีรากผมอยู่ โรคผมบางจากพันธุกรรมและอยากทำการรักษาให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นรวมถึงยังเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดด้วยการปลูกผม FUE หรือปลูกผม FUT โดยที่ต้องการทำ PRP ผมเพื่อแก้ไข้ปัญหาเหล่านั้นให้หมดไป
นอกจากนี้ PRP ยังช่วยกระตุ้นและสนับสนุนการเจริญเติบโตของผมหลังจากทำการปลูกผม โดยที่จะช่วยเพิ่มการสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงรากผมให้มีชีวิตทั้งก่อน ระหว่างและหลังจากปลูกผมเพิ่มการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการเจริญเติบโตหลังจากปลูกผม และกระตุ้นรูขุมขนที่หยุดทำงานแล้วให้มีการสร้างเส้นผมขึ้นใหม่มามากกว่าเดิมและจะเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในเวลา 3-6 เดือนหลังการฉีด
ฉีด PRP ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้
การฉีด PRP ผมเป็นเพียงการรักษาเสริมที่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะที่ไม่มีรากผมหรือผมบางรุนแรงจนไปถึงหัวล้าน เพราะแพทย์จะทำให้การรักษาเป็นไปได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นรูขุมขนเพื่อทำการปลูกผมได้ อีกทั้งยังไม่เหมาะกับผู้ที่ทานยาต้านเกล็ดเลือดหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคโลหิตจาง ความดัน เพราะเลือดอาจไม่สมบูรณ์มากพอที่จะนำมาใช้ในการทำ PRP ผมนั่นเอง
ขั้นตอนการทำ PRP ผม ทำอย่างไร
- ทำการเจาะดูดเลือดที่ข้อพับแขน ในปริมาณที่จะต้องใช้
- นำเลือดมาปั่นเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นของพลาสม่าและมี Growth Factor สูง โดยแพทย์นำออกมาเตรียมฉีด
- แพทย์จะทำการฉีด PRP ผมเข้าสู่บริเวณหนังศีรษะที่ต้องการรักษา
ผลลัพธ์หลังจากการรักษาด้วยเทคนิคฉีด PRP ผม
โดยทั่วไปแล้วการรักษาเกล็ดเลือดเข้มข้นนับเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แทบจะไม่มีอาการข้างเคียงใด ๆ ที่เป็นอันตรายเลย เนื่องจากไม่ใช่สารสังเคราะห์ แต่เป็นเกล็ดเลือดที่สกัดมาจากเลือดของผู้รับบริการ โดยในช่วงแรกที่ฉีด PRP ผมเข้าผิวหนังบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกอุ่น ๆ แต่อาการดังกล่าวจะหายไปภายใน 10-15 นาที ในบางรายอาจจะมีอาการบวมช้ำหรือฟกข้ำเล็กน้อย
โดยอาการบวมที่เกิดจากการฉีด PRP เพื่อช่วยแก้ปัญหาผมบาง จะหายภายในประมาณ 2-3 วัน และอาการฟกช้ำจะหายภายใน 2 สัปดาห์ โดยการรักษานี้เป็นเพียงเพื่อการบรรเทาอาการและฟื้นฟูเนื้อเยื่อสำหรับผู้ที่ต้องปลูกผมเท่านั้น ผลของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ความหนักเบาของอาการ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังการรักษา
PRP ผมราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
ในการฉีด PRP ผมจะมีราคาค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สเต็มเซลล์ซ่อมแซมเซลล์รากผมให้กลับมาสร้างเส้นผมใหม่อีกครั้ง โดยเส้นผมที่เกิดใหม่จะมีความแข็งแรงและเส้นหนา แลดูสุขภาพดี ช่วยบรรเทาปัญหาผมบาง ศีรษะได้โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำ PRP
สรุปการทำ PRP ผม
การฉีด PRP ผมเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีอย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เพราะการปลูกผมด้วยวิธี PRP เป็นวิธีการทำที่มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน และควรทำต่อเนื่องมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระยะยาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ในแต่ละบุคคล ด้วยเหตุนี้ทำให้การทำ PRP ผมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้