luck love เมื่อรักถามหา

9.0

เขียนโดย ป่าสีดำ

วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.34 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,346 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 02.37 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) แม่สอนว่า เจอผู้ใหญ่ให้ยกมือไหว้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     หวัดดี ฉันชื่อจันทร์หอม เรียกง่ายๆว่าจันทร์ ส่วนเพื่อนคนสนิทบางคนก็เรียกฉันว่า จันไร บางเป็นครั้งคราว ส่วนเรื่องอายุก็ 19 ปีกว่าๆ แบบว่าก็ไม่อยากจะจำวันเกิดหรอกนะแต่มันเป็นวันขึ้นปีใหม่พอดีจึงจำได้เสมอ ฉันไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แต่ถูกผ่ากเลี้ยงกับผู้ชายที่ดูเหมือนไม่เอาใหนอย่าง อาสุน เขาเป้นหนุ่มร่างสันทัดด้วยกิจกรรมที่ทำแต่งละวันนั้นต้องใช้ร่างกายแถมเงินก็ไม่ค่อยมีจะกิน จึงเป็นคนข่อนข้างรูปร่างดีออกจะผอมด้วยซ้ำ  เขาเรื่องของฉันดีกว่า เอาเป็นว่า จันคนนรี้ ก็เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังเปิดบานเป็นสาวสวยหน้าตาดีเป็นที่หมายปองหนุ่มๆในเร็วๆนี้ ....

แต่มันไม่จริง ..
"พี่สุนครับๆ เรามีใบแจ้งหนี้มาครับ" ลูกน้องคนสนิท ชิน เขาอายุพึงจะ20 รุ่นเดียวกับฉันเลยแหละแต่เขาดูเหยาะแหยะจนอยากจะเอากระดาษเซ็ดตูดเซ็ดให้หายจากโลกแต่เรื่งอที่เขาทำได้ดีคือการเอาใจใช่คน แม้ว่าอาสุนจะเป็นคนเอาแต่นอนตอนว่างๆตกดึกเล่นพนัน และตอนกลางวันก็ทำงานให้กับนายจ้างแปลกหน้าที่บางครั้งก็ได้เงินเยอะหรือบางทีก็ไม่ได้เงินเลย
"ใหนๆ อุ้ยย ตายแน่ฉันไม่หน้าเลยตุ" อาสุนรีบวางช้อนกินข้าวลงไปคว้าเอาเอกสารแจ้งหนี้มาดูก่อนจะพรวนข้าวออกจากปากไปด้วยตอนพูด
"เคี้ยวให้หมดก่อนสิครับ คุณพี่" ชิน อุทานเป็นคำสอน แต่ลูกพี่ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจอาสุนตบโต๊ะหนึ่งครั้งก่อนจะวิ่งออกไปน้องประตู
"อารีบไปใหน" ฉันที่กำลังเอาแกงจืดร้อนๆที่สามารถหลบเม็ดข้าวจากปากโสโครกของคุณอาได้เข้าปาก
"ก็ไม่รู้สิครับ อันนี้ต้องเก็บสินะ" ชินชี้ไปที่จานข้าวปล่าที่เหลือนอยู่เกือบเต็มจาน ก่อนจะหยิบไปล้างและตามด้วยจานอื่นๆบนโต๊ะ

 

    ฉันแต่งชุดนักศึกษา เดินออกไปที่หน้าบ้าน เวลา 9 โมงกว่าฉันไม่ได้รีบเหมือนคนอื่นนักเพราะอาจารย์เข้าเรียนช้าอยู่แล้ว ฉันเป็นนักศึกษาปี 3 ที่อยู่เอกวิชาศิลปะป้องกันตัวสากล ฉันมีความสามรถด้านการใช้กำลังและป่าเถื่อนก็ว่าได้ จึงเอาดีด้านวิชานี้แถมยังเป็นที่รังเกรียดของคณะวิชาอีก ไม่ใช่เพราะฉันไม่เก่งหรอกนะแต่ทุกครั้งที่ได้ลงมือปฎิบัติจริงฉันมักจะทำคนอื่นบาดเจ็บและข้าวของเสียหายเกินความจำเป็นเพื่อนๆของฉันต่างเรียกว่า จันไรล้างโลก ซึ่งคนสนิทอย่างไอ้โชคหน้าโจรเขาเป็นพวกตัวใหญ่ใจจิ๋ว ทั้งที่หน้าตาเหมือนนักเลงรุ่นปู่ยิ่งหนวดติ๋มใต้จมูกเหมือนฮิตเลอร์ยังไม่สามารถให้เขาดูตลกในสายตาคนอื่นได้ยังไม่พบมันทำให้เขาดูเป็นพวกผเด็จการมากขึ้น ฉันไปสนิทกับเขาได้ตอยนที่เขาไปมีเรื่องกับนักเลงข้างถนนเพื่อช่วยยายแก่ตาบอดจากการไถ่กระตัง ซึ่งนั้นก็คือยายของเขาเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรมาแค่ใช้เท้าฟาดไปที่ศรีษะไม่รู้ทำอีท่าใหนเหมือนว่าสมองจะไหลออกทางจมูกด้วยทุกวันนี้เขาคงนอนเฝ้าอาม่าที่อยู่สวรรค์ช่วยกันตำน้ำพริกแล้วมั้ง
  "เฮ้" โชคร้องทักขึ้น ทำเอาพวกนักศึกษาคนอื่นๆหลีกเป็นทางเดินด้วยความกลัวบางคนถึงกับขาอ่อนที่โชคเดินเข้าไปไกล้ๆ
"นายทำนี้ตกไว้"โชคยื่นโทรศัพมือถือให้กับนักศึกษาชายคนหนึ่ง
"ขะๆๆ ขอบคุณ คร้าบบบ" เขารับแล้ววิ่งออกจากวงไปเลย
"วันนี้เรียนอะไรอะ" ฉันถามโชคที่เหมืทอนจะมีหน้าที่เป็นผู้จัดการชีวิตไปเรียบร้อยทั้งเรื่องลงทะเบียนการจัดตรางสอนหรือการทำกิจกรรมอื่นๆ เพียงแค่โชคเดินเข้าไปเหมือนกับมีสิตธิพิเศษอย่างมากไม่ว่าการเซ็กชื่อตอนที่เราไม่ได้เข้าเรียนและกรณีไปสาย เราเหมือนมาเฟียตัวน้อยๆที่หน้าสงสารในมหาลัย
"เช้านี้วิชามนุยษ์สัมพันธ์ เขาให้เราจับกลุ่ม6 คนเพื่อทำกิจกรรมนอกพิ้นที่" โชคพูดขึ้น ฉันถอนหายใจคิดหนัก
"ที่ผ่านมาเราก็ถูกยัดให้จับคู่กันสองคนคราวนี้คงจะใช่อีกแน่" โชคพยักหน้าเบาๆ แต่เชื่อฉันสิ ฉันแอบเห็นน้ำตาน้อยนั้นคลออยู่ที่ดวงตาเขา น่าาสงสาสรใช่ไม่ สงสารใช่ไมละ
"ฝุ่นเยอะจริง ทำไมต้องมาทำความสะอาดตรงนี้ด้วย" โชคพูดขึ้นหันไปมองพนักงานที่กวดบันนไดตึก ปัดฝุ่นลงมาใส่เราสองคนทำให้ฉันคันจมูกจาม ส่วน โชคน้ำตาซึม

    วิชามนุยษ์สัมพันธ์ที่ฉันลำบากใจที่จะเรียน นั้นกำลังจะเริ่มขึ้นแต่คนที่เข้ามานั้นกลับเป็นอาจารย์ประจำชาเอก ศิลปะป้องกันตัวสากลระดับสูง เขาเป็นคนที่ไว้ผมยาวสูงวัยผมขาวใว้หนวดแพะอีกต่างหากถ้าให้้เปลียบคงเหมือนผู้เฒ่าเต่า ซึ่งปกติเขาจะอยู่ในชุดวอมสีเทาแต่วันนี้มาแปลก ส่วมเสื้อเซิ้ตสีขาวกางเกงสีดำ ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าใครกันที่สามารถให้ผู้เฒ่าเตาผู้อยู่ในชุดวอมแม้กระทั้งตอนนอนอย่างอาจารยืติ๋มจะเปลี่ยนยูนิฟอมได้ฦ
"วันนี้ขอให้นักศึกษาทุกคนรวมตัวกันที่ห้องฝึกพิเศษ ตอนนี้ ด่วนครับ" จารย์ติ๋มพูดสีหน้าเครียดก่อนจะเดินออกไปนอกประตูพวกนักศึกษาต่างพูดซุบซิบกันต่างๆนาๆ ก่อนจะทยอยกันออกไป
"นายเห็นเสื้อที่จารย์ติ๋มใส่ไม แมร่งอย่างยับ น่าจะบอกให้เมียรีดหน่อย" ฉันพูดขึ้น
"เขาไม่มีเมีย " โชคชี้แนะ
"นายรู้ได้ไงอะ" ฉันถามก่อนจะลุกใช้มือล้วงกระเป๋ากระโปรงทรงเอยาวคุมเขา
"เมียเขาตายไปเมื่อตอนท้องเห็นพวกอาจรย์เขาพูดกัน"

"นายเนี้ยขี้เสื้อจริง" ฉันพูด เราสองคนเดินมาถึงห้องฝึกซึ่งนักศึกษาจะต้องมานั้งมราอัฉจรรย์6ชั้นก่อนที่จะมีอาจารย์ติ๋มเดินมาประกาศชี้แนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับการแต่งตัวของเขา
"วันนี้ผมได้รับข่าวดีสำหรับโอกาศดีๆของนักศึกษาอย่างคุณ พวกคุณคงรู้จัก..." จารย์ติ๋มปาเม็ดยาอมโบตันเล็กๆใส่ปากฉันทันทีที่เห็นว่าฉันหาว ฉันสำลักอยู่สักพักโดยมีโชคตบหลังเบาๆ
"ช่วยตั้งใจฟังผมหน่อยแล้วกัน"จารย์ติ๋มว่า
"อย่างที่บอก.. เรามีบริษัท SS ที่ต้องการเด็กที่มีความสามารถทุกๆปี แต่ปีนี้พิเศษมาก เขาเลือกเด็กที่มีพรสวคค์และมีความกระตื่อรือล้น เราจะทำการคัดเลือก ทุกคนในที่นี้ต่างต้องลงคัดเลือกดเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คุ้มกันนายใหญ่ SS คุณแดนเนียล"
ฉันเอาเม็ดยาอมออกจากทางจมูกได้อย่างยากลำบากก่อนที่จะเข้าใจว่าตาแก่จอมระเบียบนี้มันพูดอะไรคนแรกก็โดนขาลชื่อ
"เราจะสู้กันตามรายชื่อที่เรียกนี้ แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ100คน ต้องเหลือออกมากลุ่มละ1คนเท่านั้น"
พวกเราทั้งหมดมีอยู่ 320 ชีวิต มันแยกออกได้3กลุ่มอีก20 กูแบ่งตามกลุ่มให้เท่าๆกัน  การทดสอบที่ดูเหมือนจะสบายๆแต่มันแผงไปด้วยบางอย่าง ฉันแยกกลุ่มกับโชคซึ่งหวังว่าเราจะเจอกันในตอนหน้าแต่เหมือนว่าจะไม่ง่ายเท่าไรเมื่อ สิ่งที่อยู่ในห้องซ้อมพิเศษนั้นไม่ใช่แค่สนามกว้างแค่ สระว่ายน้ำ 90 เมตรมันมีอาวุธ ให้ตายเถอะมันคือของจริง เสียงประกาศตามสายดังขึ้นมาอีกครั้ง
/ใครอยากจะยอมแพ้ก็เดินออกมาได้นะเพราะปีนี้พิเศษจริงๆ เราสนับสนุนให่นักศึกษาเจอกับอาวุธจริงๆครับผม/ เสียงประกาศไม่ใช่เสียงของอาจารย์ติ๋มแต่เป็นเสียงทุ้มต่ำใจเย็นและน้ำเสียงแสดงออกถึงความสนุก มีคนจำนวนหนึ่งเดินออกจากสนาม และสัญญาณเสียงแตร่ดังขึ้นนั้นทำให้ฉันรู้ว่าสนามนี้มันเอาจริง
   คู่ต่อสู้ของฉันมีทั้งหมดหลายสิบคนละฉันก้เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆที่นักสนุกท้าทาย เค้าเริ่มที่จะสู้กันจริงๆมีบางคนจับคู่กันต่อสู้ พวกเขาหงัดทักษะที่ตัวเองได้เรียนมาจากรั่วมหลัยและบางคนจับอาวุธได้ก็พาดใส่กันซึ่งหากพลาดนั้นหมายถึงคุณได้ตายแน่นอน  ฉันยืนคิดได้เพียงชั่ววินาที เสียงลมจากข้างซ้ายมือข้างหลังทำให้ฉันรับกับหมัด หน้าที่มุงตรงมาทางท้ายทอย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะนิยายเรื่อนี้เน้นเว่านางเองเป็นพวกพลังช้างสาร ฉันหลับหมัดท่าโจมตีต่อไปของฝ่ายตรงข้ามใช้ฝ่ามือทิ่มไปที่คอหอยที่อยู่สูงเนื้อหัวของฉันหลายเซ็น เขาล้มลงกุมคอของตัวเองก็จะไอกระอักออกมาเป็นเลือก ฉันเหยีดยิ้มน้องยๆด้วยความสะใจก่อนจะหันหลังไปหาพวกที่ยืนอยุ่ ตอนนี้ พวกที่ล้มลงโดนหามไปส่งโรงบาลเป็นว่าเล่นเหลือเพียงแต่ผู้รอดมีอยู่ หลายสิบคน ฉันเดินไปที่ฝาแฝดนรกที่มีทักษาการโจมตีแบบประสานเป็นเริศแถมยังเป็นที่รักของอาจารย์ฉันแอบคิดนะว่าพวกมันสองตัวอาจดูหนังจีนเยอะไปก้ได้เพราะ คนพี่ที่เป็นพวกวองไวแต่เท้าใช้เท้าในการโจมตีส่วนคนน้องใช้มือในการโจมตี ทั้งสองมีท่วงท่าในการต่อสู้งที่แข็งแกร่งแต่เชื่อเถอะพวกมันไม่เคยคิดที่จะป้องกับรักษาส่วนสำคัญอย่างมือและเท้าให้กันเลย ทั้งสองมุงมาทางฉันก่อจะใส่มาไม่หยังฉันหลับไปตั้งหลักก่อนจะวิ่งไปที่คู่ต่อสู้คนอื่นและกระโดนตีลังกาตัวหัวผู้ชายร่างโตสูง180กว่าๆจนคอเครดซึ่งฉันก็ต้องยั่งมือไม่ให้มันหักจริงเปลี่ยนมาทุ่มหัวลงพื้นแทนและแย้งอาวุธไปบาใส่เท้าของคนที่น้องฝาแฝนเมื่อคนน้องเสียงสมดุลแล้วมีหรือคนพี่จะรอดได้ฉันวิ่งกระโดนไปที่ทั้งสองพร้องหักแขนและขาพวกเขาเสียงร้องโหยหวนไม่ได้ดังยาวนานเหมือนกับคนอื่นๆพวกเขาเจ็บเพียงแปปเดียวก่อนจะล้มไปนอนดิ้นกับพื้น ฉันจัดการคนที่เขามาเล่นงานฉันเรื่อยๆจนเหลือคนสุดท้ายที่เป็นผู้หญิงลูกครึ่งจีนอย่างเซียวหมิง สาวผมดำโหนกสูงดำจิกขึ้นผิวขาวแล้วยังชอบมัดจุกสองข้างเหมือนกับว่าเธอภูมิใจในชาติกำเหนดของบรรพบุหรุพมากจนต้องแสดงออก เธอตั้งท่าเหมือนฉบับหนังจีนกวักมือเรียกเชิงท้าทายเธอยิ้มเยอาะน้อยๆให้กับฉัน
"เอาจริงดิ" ฉันพูดก่อนจะเดินไปหยิบกระบอกไม้ไกล้ๆที่ไม่มีใครหยิบใช้ซึ่งมันยาวมากยาวเกินที่ใครอยากจะใช้มัน ฉันหยิบมันพุ้งไปที่เซียงหมิงก่อนจะตามมันไปซ่ำเธอ หลงกลแผนปัญญาอ่อนของฉันง่ายเหลือเกินเธอหลบไม้นั้นจบเปิดทางให้ฉันโจมตีแต่เธอก็สามารถป้องกันทรวกอกของเธอได้อย่างทันท่วงทีฉันดึงไม้กลับเหียงไปที่เท่าของเธอทันทีที่เซียงหมิงตั้งหลักได้เธอกระโดดหลบและจับไม้ฉันและออกแรงเหวียงจนฉันทำมันหลุดมือ
"ววยแล้ว" ฉันอุทานก่อนจะวิ่งไปที่มุมห้องเพื่อหลีกหนีการต่อสู้กับเธอ
"ตายซะยัยจันไร" เซียงหมิงพาดไม้มาทางหน้าของฉันก่อนที่ฉันจะหลบและไต่กำแพงตีลังกาข้ามหัวเธอและทักทายด้วยการดึงจุกโง่ๆของเธออกมา
"ขอโทษนะแต่ฉันไม่ชอบไอ้นี้จริงๆ" ฉันปาที่ครอบผมนั้นทิ้งและเหยียบแตกคาเท้า
"หน่อยแน่ จบงานนี้แก่ไม่ได้ตายดีแน่" เซียงหมิงพุ้งพาดไม้ซ้ายขวาแต่อย่างที่บอกว่ามันยาวเกินที่จะเป็นอาวุธได้ฉันจึงหักมัน ใช้มันหักง่ายจะได้ถ้าหากคุณขี้โกงเหมือยฉันนะ ถีบไม้นั้นไปข้างตัวก่อนจะใช้ไม้นัะ้นไต่ไปหาเจ้าตัวระยะประชิดกว่าเธอจะรู้ว่าฉันทำอะไรก็สายไปแล้ว ทันทีที่ฉันไปแตะที่ท้องน้อยเธอร่างของเธอก็ทรุดลง ฉันหยิบเอาเข็มจากยอดหัวของเธอมาใส่ลงเชื่อกที่แขนซึ่งหลายๆคนอาจเห็นว่ามันเป็นกำไลเชื่อหนักธรรมดาแต่มันคืออาวุธลับที่หลายๆคนเรียกมันว่า อาวุธของพวกขี้โกง ใช่มันเป็นเข็มที่สั่งการไฟฟ้าจากตัวสั่งจากกำไลไปที่เข็ม ของเล่นชินนี้ได้มาจากไอเดียในภาพยนต์ที่ยิงเครื่องซ็อดไปที่เป้าหมายแล้วกด นั้นแหละที่ลุงต๋องช่างนาฬิกาของถาณีรถไฟเขาทำขึ้น

     หลังจากที่ฉันมานั้งที่ห้องกระจกสีขาว ฉันแอบเอาเมจิกสีกำจากกระเป๋ามาเขียนโต๊ะในห้องวาดเป็นรูปที่คุ้นเคยดีในห้องน้ำรวทมอย่างพวกอวัยวะเพศทั้งชายหญิงลงโต๊ะแต่ฉันเป็นพวกมีศิลปะในตัวฉันจึงเลือกที่ตะวาด ดอกกลัวยไม้ของผู้หญิงลงบนโต๊ะอย่างใหญ่อลังการ ฉันวาดมันจนเสร็จและคนที่เดินเข้ามาคือ โช หนุ่มนักมายากลที่สามารถแอบพายกับการต่อสู้ได้อย่างลงตัวจริงๆแล้วฉันเป็นแฟนคลับเขาลึกๆนะ ลึกสุดขั่วหัวใจ เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั้งลงตรงเก้าอีกที่เว้นไว้หนึ่งที่ เขานั้งกอดอกนิ่งไม่พูดไม่ขยับแต่นั้นมันไม่ได้ทำให้ฉันอยากสนใจนัก ฉันลงสีดำบนโต๊ะตรงที่ฉันอยากให้มันดำ กล้วยไม้ของฉันนั้นเริ่มที่จะเสร็จสมบูรณ์
 "ทำอะไร โต๊ะนั้นเธอไม่ควนทำแบบนั้น" โชว่า
"หรอ" ฉันตอบก่อนจะยกปากกาออก "ทำไงดี ภาพนนี้มันสวยมากนะ" ฉันยกแขนขึ้นปิดปากกายัดลงกระเป๋า โชมองมาที่โตํะก่อนจะมีสีหน้าแดงก่ำขึ้นมา "ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้ ฉันรู้ว่านายก็ดูหนังเอ็กมาเยอะเหมือนกันฉันยังเคยดูเลย"
"นี้  พูดอะไรให้ดูซะบางว่าฉันเป็นไร" โชขึ้นเสียงแต่หน้าเขาก็ยังคงแดงอยู่
"นายเป็นผู้ชาย แล้วฉันเป็นเป็นผู้หญิง มันก็ถูกแล้วนิ" ฉันพูดแต่ก่อนรที่โชจะอ้าปากเถียงร่างของผู้ชนะจากกลุ่ม2 ที่เสียเวลารอนานที่สุดก็ออกมาขัด
    "คบแล้วสินะ" ตามด้วยหนุ่มผมสีน้ำตาลตาสีฟ้าเขาเป็นหนุ่มหล่อที่สาวๆที่ติดภาพของพระเอกการ์ตูนฝันถึง เขามาในชุดสูมสีเทามีโบว์หูกระต่ายสีแดงท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ แต่ก่อนจะพูดอะไรมากกว่านี้เขาก็ตบมือเรียกลูกน้องเอาแท็ปเลตมา เคสตราซูปเปอร์แมนสีแดงน้ำเงินบอกได้เลยว่าไอ้หมอนี้มันปัญญาอ่อนใช่เล่น
"การต่อสู้ของพวกคุณมันถือว่าชั้นเริศเลยแหละ" ชายคคนั้นเปิดคลิปของโชให้ดู "แต่ก่อนอื่น ผมขอแนะนะตัวก่อนผม นายลูแปง"
"จอมโจรหรอ" ฉันแทรกขึ้น
"ไม่ครับแต่ไกล้เคียง" ลูแปงพูดยิ้มๆ แต่แววตาไม่ใช่ ฉันทำหน้านิ่งสงสัยเหมือนรอคำตอบ "ฆาตกรครับ"

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา